เมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก สิ่งที่เราคาดหวังในแต่ละวันคือการได้เล่นสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ
เมื่อตอนเราโตขึ้นเป็นวัยรุ่น เราเริ่มสนใจและดูแลตัวเองมากขึ้น เราเริ่มมีความรัก และชอบเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน
เมื่อเข้าวัยทำงาน เราเริ่มเรียนรู้และการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ ระหว่างนี้ก็มีการติดต่อพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียนบ้างเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนของเราก็เริ่มแต่งงานมีครอบครัว และมีลูก ๆ ชีวิตในวัยนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไปมาก จากที่มีเวลามาก เราก็มีเวลาน้อยลงเพราะเวลาส่วนใหญ่เราจะไปทุ่มเทให้กับลูก ๆ และครอบครัวของเรา
เมื่อเข้าอายุสูงวัย เราเริ่มมีโรคภัยไข้เจ็บ เริ่มพูดคุยเรื่องเพื่อนเก่า เรื่องเก่า ๆ และความเป็นความตายเกี่ยวกับเพื่อนฝูงคนนั่น คนนี่ที่ได้เสียชีวิตลง ด้วยโรคนั้น โรคนี่ และสิ่งหนึ่งที่คุณจะดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษก็คือ "สุขภาพ" และเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โรคกลัวความตาย
นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมาก เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว การเกิด-ดับ เป็นธรรมดาและเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ หลายคนประมาทและไม่รู้จักยอมรับความเป็นจริง ไม่ยอมรับว่าชีวิตนี้เราเกิดมาแล้วต้องตาย เมื่อถึงเวลาตายก็เลยหลงตาย
ชีวิตเราจึงจำเป็นมากที่ต้องอยู่กับปัจจุบัน ไม่หลงไปยึดติดกับสิ่งภายนอกจนทำให้เราเกิดความทุกข์ใจได้ เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ไปตลอดชีวิต ผู้คนยุคใหม่ต่างขาดสติ ขาดการยับยั้งชั่งใจ เห็นเรื่องการทำความผิดเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว พอมารู้ตัวอีกทีอยากสำนึกมันก็สายเกินไป เวลาผมดูข่าวรู้สึกว่าโลกเรามีอะไรที่แปลกมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องของคนฆ่าตัวตาย
คดีฆ่าข่มขื่นเด็กผู้หญิง
คดีทะเลาะวิวาทกับเรื่องที่หาสาระอะไรไม่ได้
คดีหึงหวงและถึงขั้นทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายให้ถึงแก่ชีวิต
สิ่งเหล่านี้ล้วนเกินจากผู้คนไม่ประพฤติตนอยู่ในศีล 5 ทั้งที่เป็นเรื่องที่ชาวพุทธเราเข้าใจเป็นอย่างดี แต่เพราะโลกเต็มไปด้วยมนุษย์ที่มีความต้องการมากขึ้น ไม่รู้จักความพอดีในชีวิต ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ โดยไม่สนใจว่าอะไรถูกผิด บุคคลเหล่านี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก คุณเกิดมาบนโลกใบนี้ แต่คุณกลับไม่ยอมทำความดี เอาเวลาไปทำความชั่ว พอชีวิตนี้คุณจากโลกนี้ไป ก็ไม่พ้นนรกและก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปไม่รู้จบสิ้น
ผมอยากจะฝากข้อคิดอะไรให้สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก ตัวเองมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำ หรือคิดว่าสิ่งที่ทำนั่นมันถูกต้องดีแล้ว ทั้งที่รู้อยู่ว่ามันผิด อย่าได้คิดนะครับว่าเวรกรรมมันตามไม่ทัน ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ เราหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้หรอกครับ ใครทำกรรมอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น มันยุติธรรมเสมอ ใครจะทำชั่วอย่างไร ถ้าเรามั่นใจในความดีของเรา ก็อย่าไปเอาเขาเป็นแบบอย่าง วันนี้เขาอาจโชคดีเพราะกรรมเก่ายังไม่ให้ผล แต่ในไม่ช้ากรรมที่เขาได้ก่อเอาไว้ จะกลับมาให้ผลกับเขาเอง เพราะฉะนั้นจงตั้งตัวอยู่ในความไม่ประมาท พยายามรักษาศีล 5 ให้ครบ มีมงคล 38 เป็นเครื่องมือในการนำทางชีวิต เพียงเท่านี้ชีวิตคุณก็มีความสุขได้แล้วครับ...