วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ไม่ประมาทกับความตาย


มื่อตอนเรายังเป็นเด็ก  สิ่งที่เราคาดหวังในแต่ละวันคือการได้เล่นสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ

เมื่อตอนเราโตขึ้นเป็นวัยรุ่น  เราเริ่มสนใจและดูแลตัวเองมากขึ้น  เราเริ่มมีความรัก และชอบเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน


เมื่อเข้าวัยทำงาน  เราเริ่มเรียนรู้และการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่  ระหว่างนี้ก็มีการติดต่อพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียนบ้างเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน  รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนของเราก็เริ่มแต่งงานมีครอบครัว  และมีลูก ๆ  ชีวิตในวัยนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไปมาก จากที่มีเวลามาก  เราก็มีเวลาน้อยลงเพราะเวลาส่วนใหญ่เราจะไปทุ่มเทให้กับลูก ๆ และครอบครัวของเรา

เมื่อเข้าอายุสูงวัย  เราเริ่มมีโรคภัยไข้เจ็บ  เริ่มพูดคุยเรื่องเพื่อนเก่า  เรื่องเก่า ๆ  และความเป็นความตายเกี่ยวกับเพื่อนฝูงคนนั่น คนนี่ที่ได้เสียชีวิตลง  ด้วยโรคนั้น โรคนี่  และสิ่งหนึ่งที่คุณจะดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษก็คือ "สุขภาพ" และเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โรคกลัวความตาย

นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมาก  เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว  การเกิด-ดับ เป็นธรรมดาและเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ  การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท  จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ  หลายคนประมาทและไม่รู้จักยอมรับความเป็นจริง  ไม่ยอมรับว่าชีวิตนี้เราเกิดมาแล้วต้องตาย  เมื่อถึงเวลาตายก็เลยหลงตาย   

ชีวิตเราจึงจำเป็นมากที่ต้องอยู่กับปัจจุบัน  ไม่หลงไปยึดติดกับสิ่งภายนอกจนทำให้เราเกิดความทุกข์ใจได้  เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ไปตลอดชีวิต  ผู้คนยุคใหม่ต่างขาดสติ ขาดการยับยั้งชั่งใจ  เห็นเรื่องการทำความผิดเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว  พอมารู้ตัวอีกทีอยากสำนึกมันก็สายเกินไป  เวลาผมดูข่าวรู้สึกว่าโลกเรามีอะไรที่แปลกมากขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องของคนฆ่าตัวตาย

คดีฆ่าข่มขื่นเด็กผู้หญิง 

คดีทะเลาะวิวาทกับเรื่องที่หาสาระอะไรไม่ได้

คดีหึงหวงและถึงขั้นทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายให้ถึงแก่ชีวิต

สิ่งเหล่านี้ล้วนเกินจากผู้คนไม่ประพฤติตนอยู่ในศีล 5  ทั้งที่เป็นเรื่องที่ชาวพุทธเราเข้าใจเป็นอย่างดี  แต่เพราะโลกเต็มไปด้วยมนุษย์ที่มีความต้องการมากขึ้น  ไม่รู้จักความพอดีในชีวิต  ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ  โดยไม่สนใจว่าอะไรถูกผิด  บุคคลเหล่านี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก  คุณเกิดมาบนโลกใบนี้  แต่คุณกลับไม่ยอมทำความดี  เอาเวลาไปทำความชั่ว  พอชีวิตนี้คุณจากโลกนี้ไป ก็ไม่พ้นนรกและก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปไม่รู้จบสิ้น 

ผมอยากจะฝากข้อคิดอะไรให้สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  ตัวเองมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำ  หรือคิดว่าสิ่งที่ทำนั่นมันถูกต้องดีแล้ว  ทั้งที่รู้อยู่ว่ามันผิด อย่าได้คิดนะครับว่าเวรกรรมมันตามไม่ทัน  ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ เราหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้หรอกครับ  ใครทำกรรมอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น  มันยุติธรรมเสมอ  ใครจะทำชั่วอย่างไร ถ้าเรามั่นใจในความดีของเรา ก็อย่าไปเอาเขาเป็นแบบอย่าง  วันนี้เขาอาจโชคดีเพราะกรรมเก่ายังไม่ให้ผล  แต่ในไม่ช้ากรรมที่เขาได้ก่อเอาไว้  จะกลับมาให้ผลกับเขาเอง  เพราะฉะนั้นจงตั้งตัวอยู่ในความไม่ประมาท พยายามรักษาศีล 5 ให้ครบ  มีมงคล 38 เป็นเครื่องมือในการนำทางชีวิต  เพียงเท่านี้ชีวิตคุณก็มีความสุขได้แล้วครับ...

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ความดีคือสิ่งที่คุณยึดมั่น


ชีวิตที่ถูกกำหนดมาก็ตาม  ผมยังมีความเชื่อลึก ๆ ว่า สิ่งที่จะทำให้คุณปลอดภัยได้ก็คือ ความถูกต้อง และการยึดมั่นในสิ่งที่ดี  เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่าชีวิตเราจะ
จะพบเจออะไรบ้าง  แต่เราสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ถ้าเรามีสติ  และยึดมั่นในคุณธรรมของตัวเราเอง  หลายคนจบชีวิตไปเพียงเพราะท้อแท้กับชีวิต  ปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งเรื่องปากท้อง  มันเป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ลำบากนะครับ  แต่เหนือสิ่งใดถ้ามนุษย์เรามีการวางแผนที่ดี  รู้จักประหยัด อดออม  ไม่สร้างภาระหนี้สิ้นจนเกินไป  ย่อมทำให้ชีวิตคุณดำเนินชีวิตไปอย่างผาสุขได้

หลายคนไปจำกัดเอาความมั่งมี ร่ำรวย  เป็นตัวกำหนดความสำเร็จในชีวิต  ทั้งที่ในความเป็นจริง  ชีวิตยังมีอีกหลายด้านที่คุณยังต้องเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนปฎิบัติ  ไม่ว่าจะเป็นทางโลก  หรือทางจิตใจ(ธรรมมะ) นั่นเอง  ความสำเร็จทางโลกเพียงแค่หล่อเลี้ยงกายได้  แต่มิอาจเลี้ยงใจให้เติมเต็มได้  มนุษย์เราถ้ายังปล่อยให้ความโลภเข้ามา ครอบงำมากจนเกินพอดี  เราก็จะไม่สามารถแยกระหว่างความดี กับ ความชั่วออกจากกัน  อาจเห็นสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ควรทำและถูกต้อง  โดยให้หรือหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มายืนยันว่า  สิ่งที่ตัวเองได้ทำนั่นมันคือถูกต้องแล้ว  จะว่าไปแล้วอันที่จริงมนุษย์นั่นเต็มไปด้วยความต้องการ  หรือที่เราเรียกว่ากิเลสอยู่ตลอดเวลา  การที่เรารู้จักฝึกฝนจิตใจของเราให้สูงขึ้น  ก็เพื่อพัฒนาระดับจิตใจของเรา  ไม่ให้หลงติดกับวัตถุทางโลกมากจนเกินไป 

การมีสมบัติมากมายถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีในทางโลก  แต่เมื่อชีวิตมาถึงจุดสิ้นสุด  วาระสุดท้ายสิ่งเหล่านี้คุณก็ต้องคืนให้โลกใบนี้ไป  ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้  จะมีก็แต่  ความดี ความชั่ว ในสิ่งที่เคยทำไว้ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่  ผมอยากเตือนสติทุกคนก็เพราะว่า  ในช่วงที่ทุกท่านมีปัญหาชีวิต การคิดสั้นด้วยการจบชีวิตนั่นไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย  มันกลับทิ้งปัญหาให้คนข้างหลัง  หรือแม้กระทั่งการที่มนุษย์ยอมทำผิด  เพียงเพราะเห็นแก่เงินทอง  นั่นก็คือคุณได้ทำลายจิตวิญญานอันสูงส่งของคุณไปแล้ว  คนเรานะเมื่อมีมากขึ้น  ก็ย่อมต้องการมากขึ้น  การได้อะไรมากด้วยความถูกต้องและดีงาม  มันก็จะส่งผลต่อยอดไปในทิศทางที่ดี  กลับกันถ้าคุณได้ในสิ่งที่ต้องการมาแบบไม่สุจริต  ของร้อนย่อมจากไปเหมือนสมบัติพลัดกันชม  ไม่มีอะไรเป็นของแท้แน่นอนได้ 

ความรู้และสติปัญญาหมั่นฝึกฝน  พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ  จะทำให้คุณกลายเป็นคนมีคุณค่า  ไม่ว่าอยู่จะไปอยู่ที่ไหนในโลก  ขึ้นชื่อว่าคนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ครับ  คนอื่นมองไม่เห็นไม่เป็นไร  ขอให้ตัวเรารู้ตัวเองก็พอ  สักวันหนึ่งสิ่งที่คุณได้ทำย่อมให้ผลกับคุณในท้ายที่สุด  ไม่ช้าก็เร็วหว่านพืชแบบไหนก็ต้องได้ผลแบบนั่นครับพี่น้อง......

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...