วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564

เลิกนิสัยผูกโกรธกันเถอะ


อันธรรมดาว่ามนุษย์เรานั้น  ย่อมพบเจอกับเรื่องที่ถูกใจเรา  และไม่ถูกใจเราด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าบัณฑิตนั้นย่อมรู้ข้อนี้เป็นอย่างดี  เพราะฉะนั้นจงอย่าเอานิสัยผูกโกรธมาเป็นอารมณ์เลยครับ  

ความโกรธก็เหมือนกับไฟ  มันร้อนและพร้อมที่จะเผาทำลายทุกอย่างให้สูญสิ้น

การรู้จักอดทน อดกลั้น ระงับความโกรธก็คือหลักที่มนุษย์พึงกระทำ  (เหตุเพราะมันยากนั้นเอง ปัญหาเลยเกิดขึ้นตลอดเวลาจากความโกรธ)

เราจะทำอย่างไรที่เมื่อจิตใจเราอยู่ในความโกรธ  สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ  การอยู่กับปัจจุบัน  มีสติรู้ตัวตลอดเวลาว่าขณะนี้นะเรากำลังโกรธ  จงอย่ารีบพูดหรือตัดสินอะไรไป หากเราเรียนรู้และเข้าใจความเป็นไปของมนุษย์แล้วนั้น  เราย่อมทราบดีว่ามนุษย์นั้นมีความแตกต่างกัน  ทั้งในเรื่องความคิดและจิตใจ  เราจึงไม่สามารถที่จะไปบังคับใจใครได้ทั้งหมด  เหตุเพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์

ทุกสิ่งบนโลกใบนี้  ไม่ว่าเราจะพอใจ  ไม่พอใจเขานั้น  ล้วนแล้วแต่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวเราทั้งนั้น  หากเรานำอคติออกจากใจของเราได้  ชีวิตเราย่อมเป็นสุข  และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างผาสุกเช่นกัน  หลายท่านอาจจะมีแอบคิดไปว่าก็ทำเป็นคนทำกับเราก่อน  เพราะฉะนั้นเราก็ต้องแก้แค้นให้สาสม  นั้นหาใช่บัณฑิต  คนโง่เขลาเบาปัญญา  เราควรหลีกห่าง และทำตัวเราให้ก้าวหน้าไปอีกระดับ  ให้เขารู้เลยว่าเรานะมันเหนือกว่าเขามาก  ไม่ต้องเอาเวลาไปผูกใจเจ็บเลย  มันเสียเวลาและเสียสุขภาพจิตของเรามาก  

วิธีฝึกฝนตนเองที่ดีที่สุดก็คือ  หางานอดิเรกทำเพื่อให้จิตใจไม่ต้องไปหมกหมุ่นหรือหลงติดอยู่ในความผูกโกรธ  อาจจะเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้  อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ตามแต่ความสนใจของเรา  และที่อันตรายอีกอย่างหนึ่งก็คือ บุคคลที่มีนิสัยผูกโกรธเป็นประจำนั้น จะมีโรคภัยรุ้มเร้า  ที่เห็นได้เลยก็คือ "โรคซึมเศร้า"  อาการย้ำคิด ย้ำทำ จนเป็นนิสัย  จนในที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้  อยากจะฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ  มีความสุขวันละนิด กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆที่เราทำ  ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง เพียงแค่นี้ก็เป็นยาชูกำลังใจเราได้อย่างดีแล้ว  เพราะในท้ายที่สุดแล้ว  มนุษย์นั้นย่อมละจากโลกนี้ไป  อย่าเอาอะไรติดตัวเราไปเลยครับ  ทำความดีๆ ให้มาก ๆ คิดดี พูดดี ทำดี  แล้วความดีจะส่งผลให้เราในภพภูมิที่ดีต่อไป....

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564

ขึ้นชื่อว่าความลับแล้วก็ไม่ควรเปิดเผยนะครับ



ความลับ  ผมมั่นใจเลยครับว่าทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่มีบางเรื่องที่เราไม่ต้องการให้ใครทราบเกี่ยวกับความลับบางอย่าง  สิ่งใดก็ตามแต่ครับ  หากขึ้นชื่อว่าเป็นความลับแล้วก็ไม่ควรเปิดเผยแก่ผู้ใดนะครับ  เพราะเรื่องที่เราเปิดเผยออกไปนั้น  ก็อาจเป็นเหมือนเชื้อไฟที่กลับมาเผาตัวเราได้ในภายหลัง 

เพราะฉะนั้นการจะคิด จะพูด จะทำอะไรลงไปนั้น  ต้องมีสติให้มาก ๆ  คนเราทำอะไรโดยขาดสติไม่ยั้งคิดหรือไม่ไตร่ตรองให้ดีแล้วนั้น  ผลร้ายย่อมตามมาภายหลังได้ วันนี้ผมมีเคล็ดลับแนะนำสำหรับการที่เราจำเป็นจะต้องเปิดเผยความลับให้ใครบางคน  โดยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้นะครับ  ได้แก่

1.ตรวจสอบคุณธรรมในตัวบุคคลนั้นให้ดีก่อน  ยั้งใจความรู้สึกดีชั่วของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง

2.บุคคลนั้นมีใจคอหนักแน่นหรือเปล่า  หรือมีนิสัยโลเล บุคคลประเภทนี้ยิ่งไม่ควรเปิดเผย

3.คุณสมบัติอีกประการที่สำคัญก็คือ เขาเป็นคนที่มีความโลภหรือไม่  บุคคลที่มีความโลภและซื้อได้ด้วยเงิน พึงระวังหากจะเปิดเผยความลับแก่เขา

4.ต้องมั่นใจจริง ๆ ว่าเขาไว้ใจได้ และจะไม่นำภัยมาหาเราในภายหลัง

เคล็ดลับนี้ดูง่าย แต่ก็ไม่ได้ง่ายไปซะทีเดียวนะครับ  บุคคลอันพึ่งใกล้ชิดสนิทสนมกัน ก็อาจมีหลุดพลั้งปากไปปาก  เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราควรพึ่งระวังให้มากที่สุดไม่ใช่ใครอื่นเลย  นั่นก็คือ ตัวเราเองนั้น  หากเราฝึกฝนตัวเองให้เป็นคนดี มีศีล มีคุณธรรม และประพฤติตนเองอยู่ในทางที่ดีงาม ไม่ลุ่มหลงมั่วเมาในอบายและทางที่เสื่อม  หรือแม้กระทั่งการคบคนพาลแล้วนั้น  ย่อมจะไม่สร้างปัญหาให้เราและผู้อื่นได้อย่างแน่นอน  หากเราทำและปฎิบัติตามแนวทางนี้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่มีความลับกับใคร  และความลับของเราก็ไม่จำเป็นต้องปกปิด  เพราะเรายึดมั่นในความถูกต้อง และความดีงามนั่นเอง  

ฝากไว้สำหรับผู้อ่านทุกท่านนะครับ  หากคุณมีความลับที่เปิดเผยให้ใครไม่ได้ก็จงเก็บไว้จะดีที่สุดนะครับ อย่าได้ไปเที่ยวเล่าหรือประกาศให้ใครเลย  ความเดือนร้อยจะมาเยือนท่านได้  ให้มันตายไปกับเราจะดีที่สุดครับ

ปัญญาบารมี




สำหรับท่านผู้อ่านบางท่านอาจไม่เข้าใจ  แต่สำหรับบุคคลซึ่งนับถือพุทธศาสนานั้นย่อมเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี  การสร้างบารมีนั้นเราต้องสร้างกับข้ามภพข้ามชาติกันมาเลยทีเดียว  และนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนเกิดมารวย  บางคนเกิดมายากจน  หรือแม้บางคนเกิดมามีบารมีมาก  ทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่กรรมในอดีตที่พาท่านมายังจุดนี้

ส่่วนตัวผมเเล้วผมเป็นคนที่เชื่อในปัญญาเป็นอย่างมาก  การที่บุคคลหนึ่งจะมีปัญญาได้นั้น  เราก็ต้องหมั่นฝึกฝนปฎิบัติอย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด  ปัญญาในทางโลกก็คือ  การศึกษาตำราวิชาการต่าง ๆ  ตามแต่ความสนใจและความถนัดของท่านทั้งหลาย  ปัญญาให้ทางธรรมนั้นก็ได้การสะสมบุญบารมีกันแบบข้ามภพ ข้ามชาติ  อย่ามองเพียงแต่ว่า  การทำความดีนั้นเห็นผลช้า ใช่ครับนั่นเรื่องจริง  แต่หากมนุษย์หมั่นสะสมปัญญาบารมีไปเรื่อย ๆ  ในท้ายที่ปัญญาบารมีก็จะสร้างสิ่งใหม่ให้เราอย่างมากมาย

เมื่อใดที่เรามีความทุกข์ใจ  มีปัญหาต่าง ๆ ที่รุ่มเร้าของมาในชีวิต  ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสุขภาพ  ปัญหาการเงิน ปัญหาครอบครัว หรือแม้กระทั่งปัญหาธุรกิจ  บุคคลผู้มีปัญญาก็จะสามารถนำปัญญาของเขาไปแก้ไขปัญหาในเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี  มนุษย์ผู้มีปัญญามากจึงได้รับความนิยมชมชอบของทั้งผู้ด้อยปัญญา  และของพวกเศรษฐีเป็นอย่างมาก  นั้นเพราะถ้าหากมีพวกเขาไว้เป็นที่ปรึกษา  ก็จะสามารถจัดการและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตได้  และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับตนได้  เปรียบดุจมีแก้วมณีอันมีค่าหาประมาณไม่ได้เลยครับท่าน

ท่านผู้อ่านทั้งหลายครับ  ผมจึงอยากจะเตือนท่านทั้งหลายว่าอย่าได้ประมาณกับชีวิต  อย่าได้หลงเหลือใครโดยง่าย โดยปราศจากการไตร่ตรองให้รอบคอบ  หาไม่แล้วคุณอาจถูกหลอกได้  รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน  เป็นคนที่คิดบวก  เมื่อรู้ตัวเองยังด้อยปัญญาก็มั่นพยายามสะสมความรู้  และฝึกฝนตัวเองให้มาก ๆ  แม้นเมื่อเจอคนมีปัญญาก็จงคบค้าสมาคมและเรียนรู้จากเขาให้มาก  แล้วชีวิตของคุณจะไม่มีทางเสื่อม  จงเชื่อมั่นในตัวเอง บุคคลที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว  ย่อมประสบความสำเร็จได้ยาก นั่นเพราะเขาจะเป็นคนไม่หนักแน่น  ทำการสิ่งใดก็ยากจะสำเร็จเพราะเป็นคนใจคอโลเล  ไม่แน่ใจอะไรสักอย่าง  ขาดความคิดรอบคอบ หรือแม้กระทั่งปล่อยให้ความโลภเข้ามาครอบงำจิตใจของตนเองได้  อยากฝากเตือนทุกท่านนะครับทำอะไรต้องรู้จักคิดให้มาก ไตร่ตรองให้มาก โลกทุกวันนี้มีคนดี และคนไม่ดีก็มาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย  ด้วยกันทั้งนั้น  ยังไงซะขอให้ทุกท่านจงโชคดีนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2564

ศาสตร์เรื่องการพยากรณ์


พักนี้มีคนมาชวนผมไปในทางศาสตร์นี้เยอะมาก  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ  อันที่จริงการพยากรณ์ส่วนตัวผมไม่ได้ไม่เชื่อนะครับ  แต่ก็ไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยวดีกว่า  นักพยากรณ์ที่ดีที่สุดก็คือตัวเราเองนั่นแหละ  คำว่าพยากรณ์ในความหมายของผมก็คือ  การที่เราจะทำอะไรสักอย่างนั่นเท่ากับ  เราต้องศึกษาหาข้อมูลให้เที่ยงแท้  และแน่ใจจริง ๆ ซะก่อน  ไม่ใช่การไปคาดเดาเอาเองโดยไม่มีหลักฐาน  หรือข้อมูลประกอบ  มันอาจจริงอยู่ครับว่าความไม่แน่นอนมันเกิดขึ้นได้เสมอ  เป็นต้นว่า  ในตอนเราสิ่งที่เราคิดว่ามันจริงแท้  แต่ในอนาคตเมื่อมีสิ่งใหม่ หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้น สิ่งนี้อาจไม่จริงในยุคนั้นก็เป็นไปได้  

มีคำกล่าวหนึ่งที่ตัวผมเองนั้นชอบมากครับ  เป็นปรัชญจีน ในยุคขงจือ เล่าจือ อยากจะมาฝากท่านผู้อ่าน

1. ชนะในระดับล่างอาศัยกำลัง ชนะในระดับกลางอาศัยสติปัญญา ชนะในระดับสูงอาศัยคุณธรรม  ชนะทั้งหมดทั้งปวงอาศัยธรรมะ
เพราะธรรมะสมานทั้งคุณธรรม สติปัญญาและกำลัง
2. คนที่วิ่งนำเป็นคนแรกของการแข่งขันมัก ไม่ได้ถ้วยรางวัล ความผิดพลาดมักเกิดจาก ความรีบเร่งและร้อนรน
3. เอาชนะผู้อื่นได้คือวีรชน เอาชนะตนเองได้คืออริยชน วีรชนเอาชนะศัตรู แต่อริยชนปราศจากศัตรู
4. ทำงานเก่งก็ใช่ว่ามีฝีมือ ทำงานแล้วไม่พลาดก็ใช่ว่าจะมีฝีมือ
5. ผู้มีปัญญาระดับสูงบรรลุกิจการงาน โดยไม่ต้องใช้สีหน้าและน้ำเสียง ผู้มีปัญญาระดับกลาง บรรลุกิจการงานความความเหน็ดเหนื่อย ผู้มีปัญญาระดับล่างเอะอะมะเทิ่งจากที่ไม่มีเรื่องกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
6.ผู้มีปัญญาระดับสูงกระจ่างเข้าใจเมื่ออยู่ในหน้าที่ ผู้มีปัญญาระดับกลางกระจ่างเข้าใจเมื่อปลดเกษียณ ผู้มีปัญญาระดับล่างต่อให้ตายไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
7. ผู้มีปัญญาระดับสูงมีฝีมือโดยปราศจากโทสะ    ผู้มีปัญญาระดับกลางมีทั้งฝีมือมีทั้งโทสะ   ผู้มีปัญญาระดับล่างมีแต่โทสะโดยปราศจากฝีมือ
8. หากต้องการมีจุดยืนก็ต้องให้ที่ยืนแก่คนอื่นด้วย ต้นไม้ที่ถูกตัดจนหมดป่า มีขวานมีเลื่อยอยู่จะเกิดประโยชน์อันใด
9. บนโลกในนี้ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร ที่ถาวรคือผลประโยชน์!
เมื่อศัตรูกลายมาเป็นมิตร คุณสามารถพึ่งพาเขาได้มากกว่าเพื่อนทั่วไป เมื่อมิตรกลายไปเป็นศัตรู เขาจะน่ากลัวกว่าศัตรูปกติเป็นร้อยเท่าพันเท่า
10. อย่าหลอกลวงคนที่เชื่อมั่นในตัวคุณ แม้แต่ครั้งเดียว อย่าเชื่อมั่นต่อคนที่หลอกลวงคุณ เป็นอันขาด คนเรา ติดค้างเงินทองกันได้ แต่อย่าติดค้างน้ำใจ
 
ขอบคุณสำหรับที่มาของบทความนี้นะครับ  จะเห็นว่า คุณธรรมนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่มนุษย์พึ่งมี  เมื่อมนุษย์เรามีคุณธรรมก็จะทำให้เรามีสติปัญญาที่ดี  สติปัญญาที่ดีก็จะช่วยให้เราจัดการกับปัญหาได้ดี  ไม่ว่าจะชีวิต การเงิน การงาน หรือแม้กระทั่งครอบครัว ชีวิตหรือใจที่เป็นอิสระนั้น  ย่อมนำพาซึ่งความสุขสงบที่แท้จริง  เห็นหรือยังครับว่า  นักพยากรณ์ที่ดีที่สุดก็คือตัวคุณเอง  เพราะฉะนั้นจะทำอะไรจงตั้งสติก่อนให้ดี  อย่าใช้ความโลภ โกรธ หลง  ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เข้ามาครอบงำคุณ  จนคุณสูญเสียความเป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณเอง  ในท้ายที่สุดมนุษย์เราก็แค่มาอาศัยโลกใบนี้  และก็จากไปแบบสงบเท่านั้นเอง  ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับคุณนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2564

คิดก่อนพูดนั่นแหละดีเสมอ


ธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะชอบพูดมากกว่าชอบฟัง ทั้งที่ในความเป็นจริงเรามีหู 2 ข้าง และปาก 1 เพราะอะไรนะหรือครับก็เพราะมนุษย์เรานั้น  ต่างต้องการมีตัวตนในสังคม  ยิ่งในยุคปัจจุบันการสร้างตัวตนนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรเลย  เมื่อคุณมีตัวตนคุณก็จะได้รับการยอมรับ และนั่นคือความภาคภูมิใจของมนุษย์

แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น  ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านว่า ความเป็นแล้วการพูดทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวเองนั้นก็หาใช่เรื่องที่ดีทั้งหมดไม่  เราไม่อาจรู้เลยว่าคนไหนบ้างที่หวังดีกับเรา  หรือคนไหนบ้างที่จะคาดหวังผลประโยชน์จากเรา  ในความเป็นจริงผมก็ยอมรับเลยครับว่า  การที่เราไม่พูดเอาซะเลยนั้นย่อมทำให้ผู้คนอาจไม่รู้ถึงขีดความสามารถคุณก็เป็นไปได้   เพราะฉะนั้นวันนี้เราลองมาเจาะประเด็นเรื่องการพูดนะครับ

1.ก่อนจะพูดอะไรออกไปต้องคำนึกถึงผลดี ผลเสียที่จะตามมาซะก่อน  เรื่องไหนควรพูด ไม่ควรพูดหาไม่แล้วเรื่องที่พุดอาจส่งผลร้ายกับเราได้

2.ต้องพูดแต่ความจริงเท่านั้น อย่าใส่อารมณ์หรือความเห็นลงไป  การใส่อารมณ์หรือความเห็นลงไปนั่นย่อมเท่ากับว่ามันคืออคติส่วนตัว  โดยธรรมชาติของมนุษย์คุณต้องเข้าใจนะครับ  การพูดของเราย่อมมีคนอื่นเอาไปพูดต่ออย่างแน่นอน ขอให้ทำใจไว้

3.เรื่องไหนเป็นความลับ  ก็ปล่อยให้มันเป็นความลับไปนะครับ  อย่าไปพูดเลย  โดยเฉพาะเรื่องของคนอื่นไม่มีใครต้องการเป็นคนร้ายในสายตาผู้อื่น

4.พูดดีย่อมนำโชคลาภ เงินทองมาหาคุณ  เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นอย่าไปพูดในทางลบ

5.ลำดับความสำคัญ และฝึกพูดให้กระชับอยู่เสมอ นั่นคือหัวใจ ผู้คนไม่สนใจหรอกว่าคุณเก่งกาจขนาด  เขาอยากรู้ในสิ่งคุณต้องการจะบอกเท่านั้น


อันที่จริงมีอีกมากมายครับ  เหรียญมีสองด้าน  การฟังก็เช่นเดียวกันฟังอะไรก็ต้องฟังอย่างมีสติ  ใช้เหตุผลมาประกอบการตัดสินใจด้วยทุกครั้ง  ปัญหาบนโลกใบนี้ส่วนใหญ่ก็เกิดจากมนุษย์เราสร้างขึ้นมาทั้งนั้น  ไม่ว่าจะการคดโกง  อิจฉา ชิงดี ชิงเด่น  หากเรามีสติ  มีจุดยื่นของตัวเองที่ใช้  เราก็ต้องประกาศให้ชัดในจุด  แต่ไม่ได้หมายถึงเราหัวรั้น  หรือไม่ยอมฟังความเห็นของใครนะครับ  ทั้งนี้ต้องพิจารณากันอีกที  

และในท้ายที่ทีสุดผมอยากจะฝากคุณไว้นะครับ  สิ่งที่ดีที่สุดนั่นก็คือ การเชื่อมั่นในตัวของคุณเอง  อย่าปล่อยให้คนอื่นเข้ามามีอิทธิพลต่อคุณจนคุณหลงทาง หรือสูญเสียความมั่นใจ หรือจุดยื่นของคุณไป  และอะไรก็ตามแต่ที่มันดูดีเกินไปสิ่งนั้น คุณยิ่งต้องตรวจสอบให้มากขึ้นครับ  มนุษย์เราจะเข้าหาใครนั้นก็แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น มากกว่านั้นคือเรื่องผลประโยชน์แล้วครับ  ฝากได้เป็นข้อคิดเตือนใจทุกท่านนะครับ

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2564

รู้จักคิดแล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยน


ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่สนใจและติดตามผลงานของผมมาตลอดนะครับ  ปีใหม่นี้ก็ขอให้ทุกท่านสุขสมหวังทุกประการอย่างที่ท่านได้ตั้งความหวังเอาไว้นะครับ  คิดทำประการใดก็ขอให้สมหวังทุกประการหลายวันมานี้มีเรื่องที่ให้ผมต้องทบทวนตัวเราเองเป็นอย่างมาก  ทำให้ผมได้คิดอะไรมากมาย  และมองโลกในแง่มุมที่แตกต่างออกไป  เราได้เห็นผู้คน  ความแตกต่างของผู้คน  ไม่ว่าจะทั้งความคิด  การกระทำและนิสัยที่แตกต่างกันออกไป  ตามแต่ความต้องการของมนุษย์  มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามีความต้องการมากน้อยเพียงใด  แล้วอะไรคือสิ่งที่วัดในชีวิตของเรา  ในแต่ละคนก็มีมาตรฐานชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

ยิ่งเราได้พบเจอผู้คน  มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาผมพบว่า มนุษย์เรานั้นในแง่ของการชีวิตก่อนนะครับ


ในแง่ชีวิต

- เราต่างต้องการยอมรับจากผู้คน

- เรามีความต้องการพื้นฐานที่ใกล้เคึยงกันมาก

- เราต่างมีกิเลสในใจ ได้แก่ ความรัก โลภ โกรธ หลง  (มากน้อยแตกต่างกันไปตามกรรม)

- เราต่างต้องการให้ชีวิตครอบเรามีความสุข และมีชัวิตที่สุขสบาย สมาชิกในครัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน

ในแง่ของการทำงาน

- อยากได้รับการยอมรับเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน

- ต้องการความมั่นคงคงในชีวิต ในการงาน การเงิน และธุรกิจ

- อยากให้ตัวเองเป็นที่รักและได้รับการยอมรับจากสังคมในที่ทำงาน ลูกน้อง หรือความไว้ใจจากลูกค้า

หากจะมองแล้วสิ่งเหล่านี้คือความต้องการเบื้องต้นของมนุษย์  นอกเหนือไปจากความมั่งคั่งร่ำรวย  และการต้องการสะสมมูลค่าของสิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้ ผมมีสิ่งหนึ่งนะครับที่อยากจะแนะนำให้ท่านทั้งหลายได้รับรู้ รับฟังกัน  สิ่งแรกก็คือ เราต้องตั้งตัวเองอยู่ในความเป็นกลางที่สุดหากเราจะต้องแนะนำอะไรให้ใคร  อย่าไปใส่อารมณ์หรือความรู้สึกร่วมลงไป  หากไม่เช่นนั้นแล้ว  อาจเป็นการให้คำแนะนำที่ผิดได้  และส่งผลเสียต่อทั้งตัวเราและผู้อื่น

การที่บุคคลคนหนึ่งเป็นคนที่คิดดี  พูดดี ทำดีนั้น  ย่อมสร้างแต่สิ่งที่ดีงามได้  แต่เราก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง  เข้าใจถึงวิถีของความเป็นมนุษย์ด้วยใจที่เป็นกลาง  เมื่อจิตใจคุณตั้งมั่นและอยู่ในศีลแล้วคุณจะมองอะไรและตัดสินอะไรด้วยความบริสุทธยุติธรรม  โดยปราศจากความลำเอียง หรือความชอบในบุคคลนั้น ๆ เป็นการส่วนตัว  หาไม่เช่นนั้นแล้ว  หากเราไปศึกษาตำราหรือนักรบในอดีต  แม่ทัพหรือกษัตริย์ที่หูเบา  ฟังความข้างเดียวหรือไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ  ความหายนะก็ย่อมส่งผลตามมาเมื่อนั้น  

การใช้ชีวิตอยุ่บนโลกใบนี้มันยาก มีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาหาคุณ ทั้งที่ดีต่อคุณด้วยความจริงใจและหวังผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตามแต่  หากคุณไร้ซึ่งสติในการพิเคราะห์พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว  ย่อมนำความเสียหายมาสู่ตัวเราได้ยังไงผมก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ ใดๆในโลกใบนี้ไม่มีใครที่จะหวังดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกครับ  เพราะฉะนั้นจงเคารพและเชื่อมั่นในตัวคุณเองก่อน  เลือกทำแต่สิ่งที่ดีและถูกต้องเท่านั้น  เพราะความถูกต้องจะเป็นเกาะคุ้มกันคุณเอง  ชีวิตเราอยากจะเป็นอะไร สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือสิ่งไม่แน่นอน  เพราะฉะนั้นทำปัจจุบันของคุณให้มันดี  โดยมีเป้าหมายที่แน่นอนชัดเจนที่สุด  คนเราเมื่อมีความชัดเจนแล้วทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ  ไม่หลงทิศ หลงทาง  เพราะรู้ตัวเองอยู่เสมอ  เลือกที่จะเงียบบ้าง รับฟังผู้อื่นให้มาก ๆ  แล้วสติปัญญาที่แท้จริงของคุณจะเกิดขึ้นวันนี้สวัสดีครับ..


กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...