วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พลังใจ


เมื่อก่อนผมคิดว่าการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ  โดยไม่มีแบบแผนทำอะไรก็ได้ตามที่ใจตัวเองต้องการ  เอาเข้าจริงชีวิตเราแท้ที่จริงมันยังมีเรื่องราวมากมายก็จริง  แต่หากขาดการวางแผนในอนาคตซึ่งเราก็ไม่รู้ได้  และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกลับทำให้ใจผมมีความกลัวลึกๆ  สิ่งเหล่านี้เลยต้องทำให้ผมต้องวางแผนทำอะไรให้รอบคอบ  ในการใช้ชีวิตมากกว่านี้  ตอนนี้อายุขึ้นเลขแล้วเริ่มเห็นความสำคัญกับการวางแผนชีวิต  และเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจนขึ้น

ผมต้องการทำในสิ่งที่ผมรักและมีความสุขในสิ่งที่ผมทำ  บางทีพื้นฐานก็คือสิ่งที่จำเป็นมาก  การประหยัดอดออมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  บางคนบอกว่าแค่ใช้ชีวิตไปวันๆ  บางคนยอมเป็นหนี้แต่ไม่สร้างทรัพย์สินอะไรไว้  ผมว่าแท้ที่จริงทรัพย์สินจำเป็นมากกว่าการสร้างหนี้สิน  ยังไงอยากได้อะไรก็ต้องใจเย็นอย่าใจร้อนเกินไป  วางแผนจากนี้คุณเลยครับอีก 5 ปี  10 ปี  คุณมีความต้องการให้ชีวิตมันเป็นอย่างไร  ต้องชัดเจนและวางแผนไว้ล่วงหน้าเลยครับ  ให้เห็นภาพให้ชัดเจนอย่าทำอะไรได้แต่คิดแต่ไม่มีแผนการและภาพที่ชัดเจน  เพราะมันจะทำให้คุณลำบากในการใช้ชีวิตในอนาคต

อย่ามองชีวิตเป็นเรื่องตลกและล้อเล่น  คุณต้องจริงจังกับมัน  เพราะการที่ไม่จริงจังกับชีวิต  ชีวิตคุณก็จะไม่มีจุดยืนและทำอะไรก็ไม่ชัดเจน  สุดท้ายคุณก็จะหลงทางและหาทางออกให้กับปัญหาชีวิตคุณไม่เจอ  การดำรงชีวิตคนเราต้องอดทนและมุ่งมั่น  ต่อเป้าหมายในชีวิตให้ถึงที่สุด  ความกลัวอยู่ที่ไหนมันมีเหมือนกันหมดแหระครับ  ต้องยอมรับความจริงและสู้มันให้ได้ครับ  อะไรที่มันไม่แน่นอนก็อย่าไปหวังไปยึดติดกับมันนะครับ  ทุกสิงทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้นแหระครับ  อนาคตอยู่บนมือคุณนั่นแหละ  คุณเลือกกำหนดเส้นทางให้มันได้  ไม่มีอะไรมาขัดขวางคุณได้  มีแต่ใจคุณเท่านั้นแหละครับ  ความไม่รู้ทำให้มนุษย์แต่ถ้าเราก้าวข้ามความไม่รู้แล้วมุ่งหน้าไปหามัน  มันก็ไม่มีอะไรแล้วละครับ  เพราะฉะนั้นต้องหมั่นฝึกฝนพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

ผมก็ไม่มีอะไรมากหรอกที่เขียนก็เพื่ออยากจะเตือนตัวเอง  และเป็นบทเรียนในการเรียนรู้ชีวิตสำหรับคนรุ่นหลัง  ที่กำลังหาทางออกกับปัญหาต่างๆในชีวิตของคุณไม่เจอ  และต้องการที่พึ่งทางใจอะไรบางอย่าง  เพื่อค้นหาจุดหมายของชีวิต  เราหวังว่าจะก้าวไปด้วยกันด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่  ทั้งกายและใจที่มุ่งมั่นเต็มเปี่ยม  คุณทำได้ ถ้าคุณเชื่อว่าคุณทำมันได้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สร้างแรงผลักดันเพื่อไปสู่จุดหมาย



แท้ที่จริงการทำอะไรยากๆนั่นแหละครับ มันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ตอนเป็นเด็กคนเรามีความฝันมากมายในชีวิต และมีเรื่องต่างๆที่ค่อยๆลบเลือนไป ผมเคยฝันว่าอยากเป็นนักการฑูต เพื่อที่จะเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ และได้มีโอกาสได้เดินทางไปรอบโลก เพื่อไปเห็นและศึกษาวัฒนธรรมต่างๆ ถึงตอนนี้พอโตขึ้นทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด. ความล้มเหลวตอนเด็ก หรือแม้กระทั่งตอนทำงาน มันได้สอนอะไรผมมากกว่าสิ่งที่เราเคยทำสำเร็จมาแล้วด้วยซ้ำ

คนเราบางทีมันก็ต้องรู้จักแพ้บ้าง  คุณต้องฝึกเรียนรู้และยอมรับความผิดหวัง ผิดพลาดที่มันเข้ามาในชีวิต แต่ต้องไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา  คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ตามแต่ที่ใจคุณคิด และลงมือวิ่งตามนั้น ไม่มีอะไรจะมารั้งความสำเร็จของเราได้หรอกครับ  บางทีจุดที่คุณยืนตอนนี้อาจยังเป็นจุดเล็กๆสำหรับคุณในวันนี้  คนเราถ้ามีพลังแห่งความมุ่งมั่นและเชื่อแบบลึกสุดใจว่า  ตัวเองยังไปได้ไกลกว่านี้ก็จงทำมันเถอะครับ  เพราะเราเกิดมาบนความยอดเยี่ยมอยู่แล้ว มีบางคนบอกว่าคุณทำมันไม่ได้หรอก เพราะนั้นมันคือความคิดของเขา  ไม่ใช่เราโลกอนุญาตให้เราสำเร็จได้ตามแต่เราต้องการ

เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ ดึงเอาพลังงานบางอย่างออกมาใช้อย่างสุดพลังความสามารถ ตัวผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นตัวเเค่นี้ คำนิยามในการใช้ชีวิตของผมก็คือ ทุกที่ที่ผมไปอยู่มันต้องดีกว่าเดิม ผมจะเป็นทั้งนักพัฒนา นักสร้างการเปลี่ยนแปลง  นักแก้ปัญหา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่กับกับโลกใบนี้ คนเราจะมีคุณค่านั่นก็คือได้ทำสิ่งที่มีคุณค่านั่นเอง  ผมยังสนุกและมีความสุขกับชีวิต จะไม่ยอมให้อะไรมาสร้างข้อจำกัดในการทำชีวิตของตัวเอง เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ให้กับโลก เพราะในท้ายที่สุดผมก็ต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดี ซึ่งนั่นก็คือคุณมีอยู่สองทางเลือก หนึ่งคือการเป็นผู้สร้าง สองคือการเป็นผู้ทำลาย

เพราะยังไงซะถ้าเราไม่ทำอะไร  ก็ต้องมีคนลุกขึ้นมาเพื่อจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอยู่ดี อย่าทำตัวหยุดนิ่ง มีประโยคหนึ่งที่นักการฑูตทหารกล่าวไว้ “ถ้าคุณไม่พัฒนาศักยภาพตนเองคุณก็จะเป็นฐานให้คนอื่นเหยียบขึ้นไป” นี่คือโลกความจริง เราอาจมองมันไม่ยุติธรรม แท้ที่จริงมันอยู่ที่ตัวเราด้วยครับว่าเราได้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเองไหม. ยังก็ฝากเป็นข้อคิดและแรงผลักดันในการใช้ชีวิตต่อไปนะครับ

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทำมันซะ


เรื่องการวางแผนชีวิตในเรื่องต่างในยุคปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากในตอนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ขาดการวางแผนทางการเงินที่ดีทำให้เป็นหนี้ และไม่สามารถมีเงินใช้หลังเกษียณ หากมองจากภาพใหญ่ๆจริงๆของชีวิต มนุษย์เราโดยเฉพาะประเทศโครงสร้างทางการเงินจริงๆ มันไปตกอยู่ที่คนรวยไม่กี่คนเท่านั้น ความเหลี่ยมล้ำในสังคมยังมีอยู่มาก เพราะฉะนั้นการวางแผนทางการเงินจึงเป็นลายแทงที่มีค่ายิ่ง

ผมโตขึ้น ได้เห็นโลกมากขึ้นได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น มองเห็นแผนการและเป้าหมายความต้องการของตัวเองไว้อย่างชัดเจน อาจไม่ใช่เส้นทางที่หลายคนเลือกเดิน แต่ผมมั่นใจอยู่ลึกๆว่ามันจะนำผมไปสู่สิ่งที่แตกต่างกว่า ภายใต้ความเสี่ยงและปัญหานานับประการ เราไม่อาจคาดเดากับเหตุการณ์ความไม่แน่นอนในอนาคตได้. แต่ถ้าหาขาดการวางแผนและควบคุมความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ของชีวิตเมื่ออายุมากขึ้นย่อมลำบากเป็นแนแท้

อีกไม่นานสังคมไทยจะเป็นสังคมแบบผู้สูงอายุแบบเต็มตัว คนโสดที่ไม่แต่งงานก็มากขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปและอะไรต่างๆ อีกมากมาย  การเตรียมความพร้อมรับมือจึงเป็นสิ่งจำเป็น คิดก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรให้ชัดเจนไว้ก่อน มีแผนที่ชีวิต คุณจะได้ไม่เหนื่อยและสับสนในตัวเอง การวิ่งวุ่นไปหมดทำให้เราขาดความชัดเจน และมีโอกาสปนะสบความสำเร็จได้ยาก

มองหาโอกาสในทุกที่ เก็บออมเงินให้เป็นมีเป้าหมายในการทำงาน ชีวิต และครอบครัว อย่างลงตัว บางทีอาจมีความกลัวเกิดขึ้นในใจ นั่นเป็นเรื่องปกติและมันกระตุ้นความท้าทายอะไรใหม่ๆ ในชีวิตของคุณให้ได้ลอง ต้องขอบคุณมันไม่ใช่ไปกล่าวโทษ ทุกการกระทำก็เพื่อกระตุ้นให้เราทำอะไรบางอย่าง ในสิ่งที่เหมาะสม และดีที่สุดในชีวิตของเรา ไม่มีใครมาบอกว่าคุณกลัว คุณทำไม่ได้ นั่นเป็นเสียงในใจของเขาครับ มันตัดสินตัวเขา ไม่ได้ตัดสินตัวเรา โลกจะดึงคนที่คู่ควรกับเรา สถานการณ์ที่เหมาะสมกับเราส่งให้เราได้ในสิ่งที่คู่ควรที่สุด  เปิดโอกาสให้ตัวเองได้รับแต่สิ่งดีๆทำ ทำไปก่อน ทุกอย่างเริ่มต้นจากการลงมือทำ เราลดความกลัวได้ด้วยการทำมันซะง่ายมากใช่ไหมครับชีวิต

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วิธีหยั่งใจ



หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้  เกิดขึ้นมาก็เพราะต้องการทดสอบจิตใจของมนุษย์นั่นเอง  มนุษย์เราจึงต้องก้าวข้ามผ่านความกลัวต่างๆ ที่เกิดขึ้น  การหยั่งใจจึงเป็นเรื่องทีสำคัญมาก  เอาเข้าจริงในชีวิตไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำอะไรมันก็ตั้งอยู่บนความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ

ลองถามใจคุณให้ดีว่า  ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่ในชีวิตของคุณ  บนโลกแห่งความวุ่นวาย ถ้าเราปล่อยผ่านชีวิตให้นิ่งๆ โดยไม่ทำอะไรมันไม่ได้แล้ว  บางทีคุณก็ต้องกล้าที่จะก้าวข้ามความกลัวไปบ้าง  ถ้าคุณลองเดินไปหน้าผาสักหนึ่ง  แล้วเขามีป้ายเขียนไว้ว่า  พื้นที่นี้สุดเขตปลอดภัยแล้วถ้าเลยจากนี้ไปอาจเป็นอันตรายได้   คุณมีอยู่ 2ทางเลือกแล้วทีนี้ ก็คือ

ทางเลือกที่ 1 ก็คือ หยุดอยู่ในที่ๆปลอดภัยนั้น

ทางเลือกที่ 2 ก็คือ  กล้าที่จะก้าวข้ามเขตพื้นที่นั้นเพื่อไปมองหาว่ามันมีอะไรเลยไปจากจุดที่ปลอดภัย

บางทีมันอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดไว้  ทางที่คุณตัดสินใจอาจมีความเสี่ยงและความกลัวภายในใจเกิดขึ้น  แต่เราก็ยังมีโอกาสเห็นลู่ทางใหม่ๆให้กับตัวเราเองได้  ข้อสำคัญคือบนทางแห่งความเสี่ยง หรือจุดที่เราเสี่ยงนั้น  เราก็ต้องรู้จักวางตัวภายใต้ความเสี่ยงด้วย  เมื่อเรารู้จุดที่ปลอดภัยชีวิตเราก็จะไม่ตกอยู่บนความเสี่ยงเพราะเรามีข้อจำกัด

บางทีการไม่เสี่ยงและอยู่เฉยๆก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น  หนำซ้ำกลับแย่ลงไปอีก  ทางที่ดีก่อนที่จะคิดทำอะไรเราต้องรู้จักการวางแผน  และหาลู่ทางไว้ก่อน  ถ้าเจอทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า  เราก็คว้าโอกาสนั้นไว้ครับ  แล้วชีวิตคุณจะได้รับแต่โอกาส  ภายใต้วิธีการจำกัดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ผมเป็นกำลังใจให้ครับ  ข้อสำคัญคือต้องรู้จักตัวเองก่อนครับ  สู้ต่อไป


พลังชีวิต


บางทีมันอาจต้องถึงเวลาที่ผมต้องฝึกฝนตัวเองอย่างจริงจัง  และทุ่มเทกับงานที่เราทำให้มากขึ้นละครับ  ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ให้มากขึ้น  เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้  แต่ก็อย่างว่าแหระชีวิตยังไงก็ต้องเดินไปข้างหน้าต่อ  ไม่ว่าจะพบปัญหาหรืออุปสรรค  ถามความรู้สึกตอนนี้ผมรู้สึกกลัวไหม  ไม่กลัวนะครับแต่มีความรู้สึกตื่นเต้นและสนุกมากกว่าที่ชีวิตได้ทำอะไรในแบบที่ตัวเราเองได้ทำ  เรามองชีวิตในแบบที่ง่ายขึ้น ความกลัวมีไหมมีครับแต่มันก็ได้หายไปหมดแล้ว

โลกเราใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน  อะไรที่ทำได้เรามีผลประโยชน์และสร้างประโยชน์ให้เขา  เขาก็ว่าดีหมดแหระครับ  โลกนี้ต้องการนักแก้ปัญหาจริงๆ  ไม่ใช่ให้ใครมาสร้างปัญหา  แล้วทิ้งภาระไว้ข้างหลัง  ผมเคยท้อหมดหวังในชีวิต  แต่ยังไงซะเราก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่  และเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็ต้องเกิดอยู่ดีแหระครับ  จมอยู่กับความทุกข์ ความกลัวก็หาประโยชน์ไม่

เราต้องรู้ว่าตัวเราเองยังไม่เก่ง  เราก็ต้องยอมรับในจุดนี้และพัฒนาตัวเองขึ้นไป  เพื่อยกระดับตัวเองไปอีกระดับหนึ่ง  การยกระดับตัวเองเราไม่สามารถทำในวันเดียวได้  มันก็ต้องค่อยๆฝึกฝนเรียนรู้  ศึกษาจากตำรา  ไม่อายที่จะสอบถามจากคนนั้น คนนี่บ้าง  เป็นธรรมดาที่เราต้องจัดการปัญหาได้  และพึ่งพาตัวเองให้ได้  อย่าเอาแต่หวังและไปคาดหวังกับคนอื่น  ชีวิตเราก็ต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเอง  มีความคิดและกล้าคิด  กล้าที่จะตัดสินใจลงมือทำในเรื่องต่างๆ  หนักแน่นและมั่นคง  คนที่หนักแน่นและมั่นคง  การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ก็จะเด็ดขาดและชัดเจน

วันนี้คือวันดี  วันที่คุณมีความสุขและจะสร้างรอยยิ้มให้กับโลกใบนี้  ยิ้มไว้ก่อนแล้วปัญหามันจะคลี่ไปเองครับ  อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง  เมื่อใจเราสงบใจเราสบาย  จะมีแสงสว่างนำทางเราเองให้หาหนทางที่จะเเก้ปัญหา  ทุกๆปัญหามีทางออกของมันเสมอครับ  หามันให้เจอแล้วคุณจะพบคำตอบเอง  วันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ค้นพบตัวเอง


เมื่อก่อนผมเคยคิดนะครับว่าตัวเองรู้สึกเบื่อกับสภาพแวดล้อมและความวุ่นวายในเมืองหลวง  แต่พอเอาเข้าจริงผมกลับพบตัวเองว่า  ลึกๆแล้วเรามีความชอบเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้  เมื่อผมโตขึ้นลองออกไปใช้ชีวิตในที่ๆสงบ  จิตใจผมมีความสงบจริงๆครับ ยอมรับนะครับว่าผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น  แต่พอมองลึกเข้าใจในหัวใจ ก็ยังมีความรู้สึกถึงไฟอะไรบางอย่าง  ที่มันซ่อนอยู่ภายใต้จิตใจของผม  ให้ผมต้องเดินทางเข้ามาหามันอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อผมโตขึ้นผมกับพบว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ผมเป็นทุกข์มากที่สุด  ไม่ใช่สถานที่แต่อย่างใด  แต่เป็นใจผมต่างหากละครับที่สับสน. และไม่รู้จักความพอดีในชีวิตที่แท้จริง  ผมเฝ้าเอาแต่วิ่งตามคนอื่น มีเหนื่อย ท้อ และที่สำคัญผมหลงทางและเสียเวลาไปมากมายทีเดียว อะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่ในท้ายที่สุดมันก็พังคลื่นลงมา  ไม่เป็นท่า มันทำให้ผมทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมด หาตัวเองไม่เจอสักที เพราะผมเอาแต่วิ่งหามัน เป็นความหวังลมๆ แล้ง ๆ ที่อยู่ในตัวเอง

พอเราหยุดกับบางเรื่อง ใช้ชีวิตให้มันช้าลง เข้าใจโลกเข้าใจตัวเองในแบบที่ควรจะเข้าใจ. ลืมความทุกข์ความผิดพลาดในอดีต  ใช้มันเป็นบทเรียนเพื่อสอนตัวเองให้ก้าวไปข้างหน้า  ผมกลับพบความสุขอะไรบ้างอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน สถานที่ คน สภาพแวดล้อม มันก็เป็นของมันแบบนั้น เราไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนอะไรมันได้หรอกครับ ที่เราทุกข์เพราะเราพยายามจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้น

ต้องขอบคุณประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ทำให้ผมได้พบตัวเอง  ได้เข้าใจตัวเองและทราบถึงความต้องการที่แท้จริงในชีวิต  คนเราเมื่อก้าวข้ามอะไรบ้างอย่างได้ มันก็จะมีสะพานที่เชื่อมต่อเราไปยังจุดใหม่ๆ เป้าหมายใหม่ในชีวิตของเรา  ถึงแม้อาจจะช้าไปหน่อยแต่ก็ยังดีที่ทราบถึงความต้องการที่แท้จริง

ต่อไปนี้ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด  ผมจะไม่ยอมให้โลกมันผลักผมอีกต่อไปแล้วครับ ผมขอทำตามคำเรียกร้องของหัวใจ และจะทำหน้าที่ที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด จะเลือกเป็นตัวของตัวเอง และดีที่สุดในแบบที่เราเป็น  คุณละพบตัวเองหรือยังครับ

วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

สิ่งที่ยากในชีวิต


ผมว่ายิ่งเราโตขึ้น  ผมมีความรู้สึกว่าเราก็ยิ่งต้องเรียนรู้อะไรให้มากขึ้น  แต่สิ่งที่สำคัญข้อหนึ่งสำหรับผมก็คือ  อะไรที่ผมอยู่แล้วไม่มีความสุข  ผมจะไม่ขออยู่ตรงนั่น  หรือที่ๆเขามองไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา  ผมขอหลีกไปให้ไกลที่สุดครับ  นี่คือหลักพื้นฐานในการดำเนินชีวิตส่วนตัวผม  หลายคนมองว่าตัวผมมี  โอกาสเข้าเยอะเป็นคนกล้าเสี่ยง  ในทางกลับนะครับทุกคนมีความกลัวอยู่ในใจเหมือนกันหมดแหระครับ

แต่ผมก็มีความเชื่อมั่นลึกๆ ในใจเสมอว่าแรกๆมันอาจรู้สึกกลัว  แต่ถ้าเราลงมือทำมันซะ  ความกลัวก็จะหายไปจนไม่รู้จักคำนี้อีก  ในเมื่อโลกมันอนุญาตคุณให้ทำสิ่งนี้แล้วหน้าที่ของคุณก็คือ การทำมันให้ดีที่สุดครับ  คนบางคนมีความทุกข์เสียใจกับเรื่องบางเรื่องมองหาโอกาสในชีวิตไม่มี  แต่แท้ที่จริงโอกาสมันซ้อนอยู่ทุกที่  ขอให้คุณเชื่อมั่น

ผมไม่ได้หมายความว่าตัวเองเป็นคนเก่งนะครับ  กลับกันผมกลับว่าผมยังไม่เก่งและยังอยากพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ  โลกใบนี้เสมือนห้องเรียนใบใหญ่ให้ผมได้เรียนอย่างไม่สิ้นสุด  ไม่ว่าจะในทางโลกและทางธรรม  ธรรมมะคือสิ่งหนึ่งที่หล่อหลอมตัวผมให้เป็นผมทุกวันนี้  ยามใดที่ผมมีความรู้สึกไม่มั่นใจ  หนักใจกับบางเรื่อง  ผมจะใช้หลักธรรมมะเข้าช่วยในการจรรโลงใจของผม  และมันก็ได้ผลเป็นอย่างดีเลยครับ

ม้ันทำให้ผมรู้จักตัวเองได้ดีขึ้น  ไม่วิ่งตามใครแต่ขอวิ่งตามความฝันและความต้องการของตัวเอง  ผมอยากให้ทุกคนได้รับแต่สิ่งที่ดี  ด้วยการเริ่มต้นมองแต่มุมที่ดีๆของคนอื่น  โลกจะอนุญาตในสิ่งที่เราสมควรได้รับ  เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องอนุญาตให้ตัวคุณได้รับแต่สิ่งดีๆด้วยครับ  เมื่อพร้อมรับแต่ดีๆ  โอกาสดีๆ มันก็วิ่งเข้ามาหาคุณเอง  ไม่มีอะไรจะดีไปหมดทุกอย่าง  นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณด้วยแหระว่าจะพร้อมเผชิญหน้ากับมันมากน้อยแค่ไหน  บางคนเอาแต่กลัวจนไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ  ตัวผมยิ่งเสี่ยง  ยิ่งกลัวนั่นแหละครับ  มันคือทางเลือกและโอกาสดีๆให้เรา  สำเร็จไม่สำเร็จนั่นคือปลายทาง  แต่ถ้าได้มันแล้วนั่นคือผู้กล้าแล้วละครับคุณจะนำหน้าคนอื่นไปก้าวหนึ่งแล้ว

ชีวิตคุณเลือกได้ว่าจะเป็นผู้นำหรือผู้ตาม  ถ้าคุณเป็นผู้ตามก็อย่าหวังมาเรียกร้องอะไรมากมาย  หมั่นฝึกฝนทบทวนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ  วันนี้อาจยังไม่ใช่  แต่มันต้องมีวันที่ใช่ครับ  โลกใบนี้มันกว้างพอที่จะมีที่ยืนสำหรับเราทุกคน  มาขึ้นขั้นนี้ผมก็ต้องขอบคุณโอกาสดีๆ  ขอบคุณสิ่งแวดล้อม ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้้ผมเป็นตัวผมในวันนี้

ผมสัญญาว่าจะนำเสนอเรื่องราวดีๆ  หลักคิดในการมองโลกและการดำเนินชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ผมมั่นใจว่าในอนาคต  คนจะเป็นโรคซึมเศร้า  ท้อแท้ใจในชีวิต  และผิดหวังอย่างมาก  อย่างน้อยข้อความที่ผมเขียนเป็นกำลังใจและแบ่งปันไปให้จะเป็นบันได  เป็นแรงผลักดันให้คุณก้าวไปหาสิ่งที่คุูณต้องก่ารอย่างมั่นใจ  และไม่ลังแล  ผมขอให้คุณโชคดีครับ

โลกอนุญาตคุณแค่ไหน


มนุษย์หลายคนก็ทราบอยู่แล้วครับว่าการไม่อยู่กับปัจจุบันนั่นแหละครับ  ที่จะทำให้คุณมีความทุกข์ใจมากที่สุด  บางทีเราเอาแต่คว้าโอกาสข้างทั้งที่ก็ไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่  เราเฝ้าแต่ตามหาสิ่งที่ใช่  จนลืมสิ่งที่มีก่อนอื่นผมอยากให้คุณ  นึกทบทวนตัวเองดีๆครับ  "มีคนเคยพูดไว้ว่า  บางทีความฉลาดมันก็ฆ่าเราได้พอๆกับความโง่นั่นแหละครับ"  มานึกถึงประโยคนี้ผมว่ามันก็มีส่วนจริงอยู่มาก

คนบางคนเป็นคนที่ฉลาดแต่ไม่รู้จักตัวเอง  ไม่เข้าใจว่าอะไรกันแน่ที่เราต้องการอยู่ลึกในใจของเรา  บางทีเราต้องลดฐิฑิบางอย่างลง  แล้วหันกับมามองตัวตนของเราจริง ๆ  คุณจะเห็นว่าโลกมีสามสิ่งที่ให้เราต้องเลือก

1. สิ่งที่เราต้องการ  หมายความว่าสิ่งที่เราปรารถนานั่นแหละครับ  ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน ชื่อเสียง เกียรติยศ  หรืออะไรก็ตามแต่

2.สิ่งที่โลกอนุญาติให้เราได้เป็น  ก็คือความเป็นจริงของเรา  สภาพความเป็นอยู่และสิ่งที่เรามีในปัจจุบัน  ว่าเราสามารถต่อยอดหรือทำอะไรจากจุดนี้ได้บ้าง

3 ความรักหรือความชอบในสิ่งที่ทำ  บางทีสิ่งที่เราคิดว่าเราต้องการมันอาจเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ก็ได้  อาจไม่ได้ความต้องการของเราโดยแท้  เพราะฉะนั้นเราต้องมานั่งทบทวนตัวเองให้ดี

หลักสามข้อนี่แหละครับที่จะทำให้คุณได้เจอจุดที่มันพอดีกับชีวิตของ  นั่นก็คือ "ความสุขที่แท้จริง"  มนุษย์เราทุกคน  ไม่ว่าจะยากดีมีจนต่างก็ต้องการสิ่งนี้ด้วยกันทั้ง  ไม่มีใครต้องการเป็นทุกข์หรอกครับ  ว่ากันตามสิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์  นั่นก็คือ  การที่เราไม่อยู่กับปัจจุบัน  และคาดหวังกับบางสิ่งมากจนเกินไป  อะไรที่แบกมันไว้จนปล่อยไม่ได้  นั่นแหละครับคือต้นเหตุของความสุข  ผมอยากให้คุณลองหยุดอยู่นิ่งๆ  แล้วใช้ชีวิตในแบบที่มันควรจะเป็น  ไม่ใช่ตามกระแสสังคมดูนะครับ  บางคนอาจมองว่าเราดูขวางโลก  แต่โลกต้องการให้คุณเป็นตัวของคุณในแบบที่ไม่เหมือนใครครับ  เราดีได้  เราแตกต่างในทางสร้างสรรค์ในแบบฉบับของเรา  ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นบอกเราว่ามันดี  มันคือหนทางสู่ความสำเร็จ  ที่บางทีอาจไม่ใช่ความสำเร็จที่เราต้องการนะครับ

เข้าใจชีวิตเลือกใช้ชีวิตแบบมีพลัง  อย่าคิดที่จะไปพึ่งพาคนอื่นให้มาก  เราต้องฝึกพึ่งพาตนเอง  เวลาจะช่วยเหลือใครก็อย่าคิดเอาแต่ได้  โลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่คุณยังต้องเรียนรู้  ขอเพียงแค่ตัวคุณไม่ท้อใจไปซะก่อน  ความสำเร็จย่อมมาหาคุณ  มนุษย์เราจะเป็นไปอย่างที่ใจเรา  เราอยากเป็นแบบไหนเราก็ย่อมได้สิ่งนั่นอย่างแน่นอนครับ

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ความต้องการ ความคาดหวัง ความสุข


สามสิ่งนี้ทุกคนล้วนมีด้วยกันทั้งนั้นครับ  ขึ้นอยู่ว่าจะมีมากหรือน้อย  แต่ทั้งนี้ทั้งเราไม่สามารถกำหนดให้มันเป็นไปอย่างที่เราต้องการได้หมดหรอกครับ  ทางที่ดีควรหาจุดตรงกลางที่มันพอดีกับชีวิตของเรา  ผมว่ายิ่งเราโตขึ้น  ประสบการณ์เรามากขึ้น เรามีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  สิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมให้เราเป็นเราได้ในทุกวันนี้

เราอาจจะไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ  แต่เราก็สามารถที่จะเลือกใช้ชีวิตในแบบที่โลกได้ให้กับเราได้  ด้วยความสุขที่สุด  การมองหาความสุขจากสิ่งที่มันใกล้ตัวก่อน  อย่าไปคาดหวังกับสิ่งที่โลกไปกำหนดค่ามันว่านี่แหละคือความสุข  เมื่อคุณได้เป็น ได้มีสิ่งนั่น สิ่งนี่ตามแต่สังคมได้ระบุไว้  เมื่อก่อนอายุสามสิบ  ผมคิดว่าเราควรใช้ชีวิตให้สนุกกับมัน  พร้อมที่จะเรียนรู้และกล้าที่จะเสี่ยงกับเรื่องต่างๆ  เพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิต  แต่พออายุหลังสามสิบขึ้น  ควรฝึกให้ชีวิตได้หยุดบ้าง  หยุดในที่นี้ไม่ได้หมายความไม่ทำอะไรนะครับ  ผมหมายถึงการทบทวนกับเรื่องราวต่างๆ  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ  แล้วกำหนดให้แน่นอนว่า  คุณต้องการทำอะไรกับชีวิตกันแน่  แล้วโฟกัสมันอย่าไปกลัว นั่งคิดว่าทุกอย่างมันจะต้องสมบูรณ์แบบ  โลกใบนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบหรอกครับ

ทุกอย่างมันต้องอาศัยเวลา  ค่อยๆปรับ  ค่อยๆแก้ไขกันไป  ในที่สุดมันก็จะดีเอง  บางทีพอนึกย้อนไปในอดีตก็อดขำตัวเองไม่ได้นะครับ  รู้สึกตัวเองเป็นทุกข์ใจไปทุกเรื่องเลย  ทั้งที่มันแค่เล็กน้อยไม่ควรเอามาคิดกับต้องเอามาคิดจนนอนไม่หลับ  พอโตขึ้นถึงรู้ว่า เออนะมันก็แค่นั้นเอง  การยกระดับจิตใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าความรู้ทางโลกอีกครับ  ความรู้ทางโลกเราใช้ในการประกอบอาชีพ แต่ความรู้ทางจิตวิญญาน  มันจะอยู่กับเราไปเรื่อยและต้องพัฒนาขึ้นไป เพื่อยกระดับมันไปอีก

เราจะเป็นอย่างที่เราคิดนั่นแหละ  เพราะฉะนั้นจงระวังความคิดของเราให้ดี  ต้องเชื่อมันในพลังแห่งความคิดในทางบวก  แล้วมันจะชักนำพลังงานบางอย่างเข้าหาตัวเราเอง  ตอนนี้เราอาจนึกไม่ออก  แต่เมื่อถึงเวลาทุกอย่างจะเฉลยออกมาเองครับ  ขอบคุณสิ่งๆดีๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตผม  ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้เดินมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกับไปได้  อยู่ในที่ๆเหมาะสมกับเรา  มีเวทีให้เราได้ใช้แสดงความสามารถอย่างเต็ม  เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนแน่นก็พร้อมที่จะออกมาลุยตามความฝันของคุณได้แล้วครับ  ผมเอาใจช่วยสำหรับคนที่มีฝันทุกคน  อย่าหยุดฝัน และอย่าให้ใครมาดับฝันคุณไปได้

วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ขอบคุณชีวิตที่พาให้มาถึงตรงนี้


วันนี้ก็ครบสองปีละครับ  ที่ชีวิตผมต้องเวียนเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในวงจรของเมืองใหญ่  เมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย  แต่ก็อย่างที่รู้นะครับสองปีที่ผ่านมา จิตใจผมสงบลงมาก  รู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเองมากขึ้น  ตั้งแต่แม่ได้เสียไปผมมีความรู้สึกว่า  ตัวเองต้องเป็นผู้นำครอบครัว  ต้องรับผิดชอบอะไรมากขึ้น เหตุการณ์บังคับให้เราต้องโต  แต่ผมก็เชื่อคำที่แม่พูดไว้เสมอครับว่า  ทุกนาทีชีวิตผมจะต้องโชคดี  และจำทำความดีให้โลกใบนี้  ผมสัญญาไว้กับท่านและจะปฎิบัติไปจนตายครับ

บางทีมันก็เหนื่อยกับชีวิตนะครับ  ช่วงที่ท่านเสียไปแรกๆ ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ มันสับสนไปหมด  กังวลกับอนาคต กลัวกับทุกสิ่งทุกอย่าง  แต่ตอนนี้ถึงแม้ความกลัวจะไม่ลดลง  แต่ผมก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมก็ตาม  เมื่อก่อนไม่เคยเชื่อนะครับว่าชีวิตต้องมีการวางแผนอะไร เป็นจริงเป็นจัง  อยากใช้ชีวิตยังไงก็ใช้  เพราะมันเป็นของเรา  แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไม่ถูกทั้งหมด  โลกแห่งความจริงทุกอย่างมันต้องเต็มที่ แล้ววางแผนทุกขั้นตอนในการดำเนินชีวิต  หาไม่เราอาจต้องหลงทางและหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้  พอมารู้ตัวอีกทีหลงทางไปแล้วซะงั้น  นี่แหละครับชีวิตตอนนี้ผมก็เลยต้องชัดเจนกับตัวเองให้ได้แล้ว  ฝึกตัวเองให้มีการวางแผนชีวิต  ฝึกที่จะอยู่คนเดียวให้ได้

บางทีเราเอาแต่เรียกร้อง นั่น โน่น นี่ให้ตัวเอง จนลืมไปว่าตัวเรานั่นแหละที่สำคัญตัวเองผิดไป  การไม่รู้จักประมาณตนเอง และปล่อยวาง จึงทำให้จิตใจเราเป็นทุกข์และไม่รู้จักความพอดีในชีวิต  จึงวุ่ยวายไปหมด  ที่มันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปครับ  เราเริ่มต้นใหม่ได้ทำสิ่งใหม่  เปลี่ยนแปลงตัวเอง มีวินัยและอยู่กับเป้าหมายของตัวเองให้ได้  อดทนแล้วคุณจะผ่านทุกอย่างไปได้ดี  ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความสามารถของคนเราไปได้หรอกครับ  ผมเชื่ออย่างนั้นและทุกครั้งมันก็จะผ่านไปได้ดีเสมอ

ขอบคุณความผิดพลาด  ความล้มเหลวและการดูถูกจากหลายคน ที่ทำให้ผมมีแรงผลักดัน ที่จะก้าวเดินต่อไปในชีวิต  บางคนมองว่าผมไม่เอาไหน  ไม่มีความอดทนบ้างละ  แต่ผมรู้ครับว่าผมกำลังทำอะไรอยู่  วันนี้คุณไม่เห็นไม่เป็นไร  พอถึงวันนั้นคุณจะเข้าใจมันเองครับ

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

วันนี้คือวันของคุณ


ผมเคยตั้งข้อสงสัยกับชีวิตไว้เสมอว่า  ทำไมคนเราถึงมีชีวิตที่แตกต่างกัน  บางคนเกิดมารวย  บางคนเกิดมาจน  แล้วสิ่งใดกันเล่าที่เป็นตัวกำหนด  เออมันก็น่าคิดจริงๆ นะครับ  พอเราโตขึ้นได้เห็นโลกมาขึ้น  ก็ทำให้ได้เข้าใจอะไรมากขึ้น  คนที่เรารวยขึ้นก็มาจากการไม่ใช่มานั่งฝัน  เฝ้ารอโอกาสให้วิ่งเข้ามาหา  แต่เขาขยันสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเขาเองนั่นต่างหากละครับ

โอกาสแท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ  แต่มันเกิดจากการที่เราสร้างเหตุและปัจจัยให้สิ่งเหล่านั้นวิ่งเข้าหาเรา  เราอยากเป็นอย่างไร  ก็จะมีพลังดึงดูดเข้าหาสิ่งนั้นเสมอ

บางคนชอบความสงบ
บางคนชอบแสงสี สังคม
บางคนอยากร่ำรวยล้นฟ้า
บางคนอยากอยู่กับธรรมชาติ และใช้ชีวิตพอเพียง

ความคิดภายในใจเหล่านี้แหละครับที่กำหนดคนเราแต่ละครับ  ให้เดินไปในทิศทางของตัวเอง  และมีความแตกต่างกันไป  บางคนมองว่าเอ๊ะฉันก็ทำแบบเขาทุกอย่าง ขยัน ประหยัด มีวินัย  แล้วทำไมยังไม่ประสบความสำเร็จอย่างเขาสักที  นั่นเพราะคุณไปเอาสิ่งภายนอกที่เรียกว่า เงินเป็นที่ตั้งไงละครับ  คุณเลยไม่สำเร็จ  ความสำเร็จเริ่มจากไหน ก็เริ่มอยากเสียงที่มาจากภายในใจของเรา  เรารัก ชอบ และอยากจะทำสิ่งนั้นจริงๆ  มีความสุขกับมัน  เงินเป็นแค่ผลพลอยได้ของความสำเร็จครับ

หลายคนไปตั้งเป้าหมายโดยเอาเงินเป็นที่ตั้ง  โดยเฉพาะวัยรุ่นยุคนี้  ชอบความรวดเร็วมองเงินเป็นที่ตั้ง  จนในที่สุดก็ไม่รู้ว่า  เป้าหมายตัวเองคืออะไรกันแน่  หวังกับเงินลมๆ แล้งๆ บางทีก็ประกาศว่าตัวเองมีเป้าหมายชัดเจน  จะมีเป้าหมายได้ยังไงในเมื่อยังไม่ได้เริ่มเลยสักที  บางทีคุณก็เอาแต่หลงทางแต่ไม่ยอมรับตัวเอง  คิดว่าชีวิตมันง่าย  ไม่เคยเป็นลูกจ้าง  ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยล้มเหลว  แล้วจะรู้จักความอดทน  จะเข้าถึงรสชาติความสำเร็จได้ยังไงละครับ  ใช่อยู่ครับว่าเด็กสมัยนี้หาเงินเก่ง  ผมไม่ปฎิเสธแต่นั้นมันก็แค่การวิ่งตามกระแสเป็นส่วนใหญ่  น้อยคนมากที่จะเข้าใจตัวเองแท้จริง

ทุกอย่างบนโลกใบนี้มีกฎของมันครับ  ทางลัดไปสู่ความสำเร็จจริงๆ  หามีไม่  มีแต่ความขยัน ตั้งใจมุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า  ลงมือทำทั้งๆที่กลัว  ทำอย่างไม่ลดละนี่แหละคือความสำเร็จที่ยั้งยืน  อะไรที่ได้มาง่ายๆ ย่อมเสียไปอย่างง่ายดายครับ  นั่นคือกฏธรรมชาติครับ  วันนี้ก็พูดคุยกันพอสมควรแล้วครับ  ไปทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเลยครับ  วันนี้คือวันของคุณแล้ว

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ก้าวใหม่ของโลกในอนาคต


สิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์นั่นก็คือ  การต้องทนทำอะไรบางอย่างในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้มีความชอบ  และความรักในสิ่งนั้น  ยิ่งเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่มันหนัก  ยิ่งทำให้อยากจะถอดใจไปกับชีวิตกันเลยทีเดียว  รู้สึกไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง  ไม่เห็นคุณค่าในงาน  นับวันก็ยิ่งจมอยู่กับความทุกข์มากยิ่งขึ้น  ผมเชื่อว่าโดยเฉพาะในสังคมใหญ่เป็นกันมากทีเดียว  อยากทำงานในสิ่งที่รัก  แต่งานที่รักก็ไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของค่าตอบแทน  หรือแม้กระทั่งบางคนไม่มีประสบการณ์หรือไม่ได้จบในสายที่เรียนมา

ช่างน่าเสียดายมากครับ  ที่สังคมไทยวัดกันแค่กระดาษใบเดียว  แท้ที่จริงโลกใบนี้ยังมีอีกหลากหลายอาชีพ  ทุกคนมีความสามารถอีกมากมาย  แต่ก็ถูกตราหน้าด้วยเพราะการศึกษา หรือหลักสูตรที่จบมาแล้วไม่ได้ตรงกับที่ทำงาน  ผมว่าอยากให้เราได้ลองเปิดใจมองอะไรกันใหม่ครับ  อย่าไปจำกัดความสามารถของคนแค่ใบปริญญา  หรือแค่การศึกษาแต่ให้มองถึงความมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ  และความรักที่จะทำ  องค์กรในอนาคตจะเป็นแบบนี้  ซึ่งก็ไม่แปลกที่ในปัจจุบันคนเปลี่ยนงานกันบ่อยขึ้น  ไม่ใช่ไม่รักองค์กร  แต่เพราะงานมันไม่ท้าทายไงละครับ 

ลองเปลี่ยนกฎความคิดใหม่เป็นต้นว่า

-ไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลา  วัดผลงานที่ตัวผลงานจริง
- ปล่อยโอกาสให้ทำงานโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์
-ลบเส้นความว่านายจ้าง ลูกจ้าง หัวหน้า ลูกน้อง  แล้วใช้คำว่า "ทีมงาน" ดีกว่าครับ
-เปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาตัวเองในสิ่งที่เขาชอบและอยากทำสนับสนุนเขาให้เต็มที่
-คำว่าออฟฟิต ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่เฉพาะเราทำงานที่ไหนก็ได้ 

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะตอบโจทย์ของคนทำงานในยุคนี้มาก  ซึ่งก็ฟังดูแล้วเป็นไปได้ยากนะครับ  แต่ถ้าหากบริษัทหรือผู้ประกอบการไม่ปรับตัวในเรื่องนี้  คุณก็ต้องเจอแต่ฝีมือธรรมดาๆ เพราะคนไม่ธรรมดาเขาไม่ทำงานสไตส์แบบยุคเก่ากันแล้วที่ต้องมาทำงาน เช้า-เย็น  โดยไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง  ใครที่เข้าใจและปรับตัวได้ทัน  ต่อไปในอนาคตคุณจะก้าวกระโดดนำหน้าผู้อื่นหลายเท่าอย่างแน่นอน  เพราะโอกาสที่คุณจะเจอคนเก่ง  มืออาชีพนั้นมีเยอะมาก และมีโอกาสได้เรียนรู้จากเขา  ก็จะทำให้คุณเก่งขึ้นและพัฒนาองค์กรของคุณไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วย

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เจอตัวเองหรือยังครับ


การค้นหาตัวเองเป็นเรื่องที่ยาก  แต่สิ่งที่ยากกว่าการค้นหาตัวเองให้เจอนั่นก็คือ  การไม่ลงมือทำอะไรเลย  การทรยศต่อความฝันของตัวเอง  บางคนคิดแต่ว่าเดี๋ยวมีเวลาค่อยทำ  รอให้ตัวเองพร้อมก่อน  รอให้อายุมากกว่านี้  สิ่งเหล่านี้คือข้ออ้างในการปฎิเสธความสำเร็จ  เชื่อได้เลยครับว่าคุณไม่มีทางจะได้ลงมือทำมันจริงๆหรอกครับ

สิ่งแรกที่ให้เราไม่ลดความฝันตัวเอง  และยังมีไฟมุ่งหน้าเพื่อที่จะตามหาความฝันของตัวเองอยู่  นั่นก็คือ พลังความคิดในทางบวก  การใช้ชีวิตไปในทางลบ  คือจุดบอดของตัวชีวิตที่จะทำให้คุณรู้สึกกลัวและไม่กล้าที่จลงมือทำอะไรเลย  ถ้าอยากรู้ว่าการเริ่มทำสิ่งเล็กๆ  มันดีแค่ไหนคุณลองออกไปดูโลกภายนอกดูครับ  เช่น  ไปเป็นอาสาสมัคร จิตอาสา หรือไปดูแลผู้ป่วย คนชรา  แล้วถามความต้องการ หรือความฝันของเขา  คำตอบที่คุณได้นั่นแหละครับ จะทำให้คุณหาตัวคุณเองได้เร็วขึ้น  

บางคนไม่ใช่คนเก่ง  อย่าตัวผมก็ไม่ได้จบด้านอักษรศาสตร์  แต่มีความมุ่งมั่น เป็นคนชอบอ่านหนังสือ เขียนหนังสือ  และรักษาการเดิน  สิ่งเหล่านี้เลยทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการจะเป็นนักเขียน  เพื่อที่จะแชร์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆกับผู้คน  การเขียนก็เหมือนการทบทวน  และทำให้เราคิดได้มากขึ้น  และพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ ของเราได้ดีขึ้น  มีบางคนถามผมว่าการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนมันดียังไง?  ซึ่งผมก็ตอบได้ไม่ลังเลใจเลยครับ  มันยังทำให้ผมยังมีความหวัง  มีพลังในการใช้ชีวิต  ผมมี"ความสุข"ทุกครั้งที่ผมได้ช่วยผู้อื่น  และให้คำแนะนำกับผู้คน

การรู้จักตัวตนของตัวเองดี  จะทำให้เราไม่ต้องไปเสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็นมาก  คนบางคนตามหาตัวเองมาทั้งชีวิต  ทำงานอย่างหนักมารู้ตัวเองอีกทีก็แก่  สุขภาพย่ำแย่และก็ถึงวัยที่หมดไฟไปละ  ไม่สามารถทำตามความฝันของตัวเองได้  ช่างน่าเสียดายยิ่งนักครับ  โลกก็แบบนี้แหละครับถ้าคุณไม่ลุกมาทำอะไร  ตามความฝัน ตามความต้องการของตัวเอง สุดท้ายคุณก็จะถูกโลกผลักไปมาเอง  จนหาที่อื่นไม่ได้   ซึ่งนั้นไม่ใช่ความผิดของโลกครับ  แต่มันคือความผิดของคุณเอง  เอาละครับทุกอย่างเริ่มใหม่ได้  คิดใหม่ทำใหม่  แล้วชีวิตคุณจะได้รับแต่สิ่งใหม่ๆครับ

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พื้นฐานง่ายๆ ในการบริหารงาน




การจัดประสิทธิภาพให้กับองค์กร  การจัดสรรปันส่วนในเรื่องของรายได้  และค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม  รวมถึงบริหารประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ  ในเรื่องต่างๆ  ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  เราสามารถแบ่งการบริหารจัดการออกตามแต่ละแผนกและประเภทงานนั้นๆ  ในรูปแบบองค์รวมเพื่อเข้าหาศูนย์กลาง

ด้านประสิทธิภาพในการบริหารงาน

การปฏิบัติให้ถูกต้องและแล้วเสร็จตามกำหนด  เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย  และเหนือสิ่งอื่นใดนั้น  คำถามที่ตามมาก็คือ  แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละครับว่างานที่พนักงานปฏิบัตินั้นมีประสิทธิภาพ  และสามารถวัดประสิทธิผลในการปฏิบัติงานได้หรือไม่  จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญ  เพราะถ้าหากงานแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาก็จริง  แต่ถ้างานไม่มีประสิทธิย่อมส่งผลเสียเกิดขึ้นจากการปฎิบัติงานนั้นตามมา

จึงได้มีการตั้งหลักเกณฑ์ในการวัดผลประเมินผลเพื่อให้ทราบถึง  ความคืบหน้าของการปฎิบัติงาน  และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนมีหลักปฏิบัติที่ไปในทิศทางเดียวกัน 

ด้านประสิทธิภาพในการบริหารทรัพย์กรบุคคล

มนุษย์เป็นสิ่งสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร  ที่สำคัญอย่างหนึ่ง  บริษัทจะประสบความสำเร็จหรือไม่  ส่วนหนึ่งก็มาจากการมีทีมงานที่มีคุณภาพ  มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี  ปัญหาที่องค์กรในปัจจุบันก็คือ  การขาดแรงงานฝีมือที่มีความรู้ความสามารถเป็นอย่างยิ่ง  การจะหาคนเก่งเข้ามาอยู่ในองค์นั้นเป็นเรื่องที่ยาก  ปัญหาหลักๆ  อาจเนื่องมาจาก

1.ความไม่เข้าใจกับฝ่ายบริหารและการบริหารงาน   บุคคลที่มีคุณภาพดีก็จริง  แต่ถ้าหากเขาไปอยู่ในองค์กรนั้น  ไม่มีพื้นที่เวทีให้กับเขา  ก็ไม่สามารถรั้งคนเหล่านี้ให้อยู่กับองค์กรได้  เหตุก็เพราะทัศนคติที่อาจไม่ตรงกัน และมุมมองต่างๆในเรื่องการบริหารจัด  และยุคสมัยของวัยแต่ละช่วง

2.รักอิสระ  คนเก่งยุคนี้ต่างต้องการเป็นนายของตัวเอง  ต้องการความเป็นอิสระและมีความคิดที่เป็นคนรุ่นใหม่  ที่มองเรื่องความไม่มั่นคงในองค์กร  เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถคาดหวังได้เหมือนสมัยก่อน  จึงทำให้คนรุ่นใหม่เลือกที่จะมาเป็นฟรีเลนซ์  หรือเอาท์ซอท์ดีกว่า  เพราะทำให้อิสระและมีอำนาจในการตัดสินใจได้เต็มที่ 

3.ยุคที่จะนำหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่  อีกไม่เกิน 10 ปีหรอกครับ  จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก  หุ่นยนต์จะสามารถทำงานแทนแรงงานคนได้  และคนก็จะต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับยุคสมัยให้มากขึ้น  เหตุเพราะการปรับตัวใหม่ คำว่า “ปัญญาประดิษฐ์” จะได้รับความนิยมในอนาคต 

ด้านประสิทธิภาพการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง

องค์กรที่ดีและต้องการความยั่งยืน  ควรมีระบบควบคุมภายในที่รัดกุม  มีการวางแผนงานอย่างถูกต้อง  และมีทิศทางที่ชัดเจน  และมีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน สามารถตรวจสอบได้ง่าย สิ่งที่สำคัญก็คือ  มีวิธีป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการบริหารงานองค์กร  เอกสารต่างๆ บัญชีและการเงิน อย่างสมเหตุสมผล มีหลักการดำเนินงานต่อเนื่อง  มีแผนระยะสั้น กลาง และยาว ที่สอดคล้องกัน และความสม่ำเสมอในการปฎิบัติงาน

นี่ก็คือ หลักการพื้นฐานเบื้องต้นที่องค์กรควรจะต้องมี  นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นเรื่องวิสัยทัศน์ พันธกิจ และการวางกลยุทธ์และนโยบายต่างๆ สิ่งเหล่านี้ที่จะเป็นแรงขับให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้  ถ้าเรามีเป้าหมายและเข้าใจทิศทางไปในทางเดียวกัน  ผู้บริหารคือบุคคลที่มีส่วนที่ขาดไม่ได้  เพราะเป็นองค์ประกอบหลัก  ในการดำเนินธุรกิจและมีผลและอำนาจในการตัดสินใจเบ็ดเสร็จ ในท้ายที่สุดทุกอย่างย่อมมีเกิดขึ้น  ตั้งอยู่ และดับไปเป็นเรื่อง  สิ่งที่จะทำให้เราอยู่ได้ยืนยาวที่สุดก็คือ  การปรับตัวอยู่ตลอดเวลา  และพร้อมที่จะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่  นี่แหละครับคือเคล็ดความสำเร็จในการทำธุรกิจ

เคล็ดลับการอยู่กับตัวเอง


มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กับตัวเองได้ยากที่สุด  จิตใจเรามักจะวุ่นวายไปกับทุกเรื่อง  และนี่ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตสักที  เพราะการไม่สามารถฝึกจิตของตัวเองได้  ผมนี้ผมมีเทคนิคในการอยู่กับตัวเองให้ได้

ก่อนอื่นเราต้องหาตัวเราให้เจอซะก่อนว่าตัวเราชอบอะไรจริง  แล้วเอาเวลาอยู่กับมันให้ได้  เพราะถ้าเป็นสิ่งที่เราชอบเราจะอยู่กับมันได้นาน  ไม่เบื่อง่าย  วิธีการไม่ให้จิตเราวุ่นให้คุณลองวิธีง่ายคือ  ฝึกหายใจเข้า-ออก ลึกๆ สูดให้เต็มปอดแล้วออกให้เต็มปอด  ทำไปเรื่อยๆ  แล้วคุณจะมีสมาธิในการใช้ชีวิต  ช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้  ให้คุณลองหาไรทำก็ได้  เริ่มต้นจากตั้งคำถามกับตัวเองว่า  "สิ่งที่ฉันทำจะนำฉันไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่"  ถ้าคำตอบมันไม่ใช่  ก็อย่าไปเสียเวลาเลยครับ

คุณพอจะรู้จักต้นไผ่จีนไหมครับ  ไผ่จีนเป็นไผ่ที่คนจีนนิยมปลูกกันมาก  เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งผาสุก และรากฐานที่มั่นคง  เหตุก็เพราะว่าต้นไผ่จีน  ตอนที่ปลูกใหม่ต้องใช้เวลาถึง 5ปีกว่าต้นจะโตไปสักวาหนึ่ง  ซึ่งกินเวลานานมาก  แต่หลังจาก 5 ปี มันจะโตเร็วมากเรียกว่า โตไปวันละ 1 ข้อไผ่เลยทีเดียว  ยิ่งถ้าคุณไม่ตัดมัน  มันก็จะโตเท่ากับตึกสูงเป็น 10 ชั้นได้ เหตุเพราะอะไรคุณรู้ไหมครับ  ก็เพราะในช่วง 5 ปีแรก  มันไม่ได้โตจากข้างบนก็จริง  แต่มันโตจากข้างล่าง  ต้นไผ่จะแผ่รากและขยายอาณาเขตของตัวเอง  บางทีอาจแผ่ยาวไปถึงรัศมี 1 กิโลเมตร เพื่อหาอาหารที่สมบูรณ์มากที่สุด  นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลังจาก 5ปีมันถึงได้โตไวเพราะมันได้สร้างรากฐานที่สมบูรณ์ไว้แล้วนั่นเอง

คนเราทำอะไรก็ตาม  พื้นฐานในเรื่องที่เราอยากรู้  พื้นฐานครอบครัว และพื้นฐานทางใจคุณจะต้องดีก่อน  การจะได้รับสิ่งดีๆ  ส่งผลดีกับตัวเรา  ฐานเราก็ต้องปูมาอย่างดีเสมือนต้นไผ่จีน ช่วงเวลาที่คุณทุกข์ สับสน หรืออะไรก็ตาม  นี่จึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการทบทวนตัวเอง  อยู่กับตัวเองให้ได้  คอยฟังเสียงของหัวใจของตัวเอง  ตรงไหนที่เรารู้ว่ามันไม่ใช่  มีอะไรผิดพลาดเราก็ต้องรีบแก้ไข อย่ายึดติด  อย่าทำตัวเองให้มีอัตราให้มาก  ชีวิตที่ว่างนั่นแหละจะทำให้คุณปล่อยวาง  และคิดหาทางแก้ปัญหาต่างๆให้กับชีวิตคุณได้ดีที่สุด

สิ่งหนึ่งในใจของมนุษย์ที่เรากลัวกันจริงมีไม่กี่เรื่องหรอกครับ  ถ้าเรานึกได้จริง  ปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ทั้งนั้น  ถ้าเรามองกันจริงอะไรๆในชีวิตมันก็ไม่แน่นอนหรอกครับ พรุ่งนี้กับชาติหน้าไม่รู้อะไรจะมาก่อนกันด้วยซ้ำ  สิ่งที่เราพึ่งระลึกถึงเสมอก็คือ  การใช้ชีวิตอย่างมีสติและไม่ประมาทในชีวิต  มีธรรมมะเป็นเส้นทางในการดำเนินชีวิต  มีเป้าหมายเป็นแรงผลักดัน  และมีชีวิตเพื่อทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น  และทำกิจประโยชน์ของตนให้เสร็จลุล่วง  เหล่านี้แหละครับคือคูณค่าของความเป็นคนที่แท้จริงครับ

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

เดินเข้าหาโอกาส

ผมได้ฟังคลิปของท่าน ว เกี่ยวกับเรื่องของโอกาสในชีวิตซึ่งท่านกล่าวไว้ได้น่าสนใจมาก  

หลายคนบอกว่าตัวเองไม่มีโอกาสดีๆ  เอาแต่นั่งเฝ้ารอโอกาสเข้ามาหา  มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับชีวิตจริง สิ่งสำคัญที่เป็นแก่นแท้จริงๆของเรื่องท่านกล่าวไว้ก็คือ  " ในที่ๆคนไม่เห็นคุณค่าอยู่นาทีเดียวก็ไม่คุ้ม"


เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจจริงๆครับ ท่านเลยกล่าวพอสรุปไว้ 4 หัวข้อหลักๆ ดังต่อไปนี้

1.ทำดีถูกที่  สิ่งนี้ก็คือการรู้จักการประเมินตัวเองให้ถูกก่อน  ยกตัวอย่างเช่น  ตอนนี้เราเป็นลูกจ้าง ถึงแม้เราจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีความสามารถมากมายเช่นไร  เราก็ต้องพึ่งประมาณตนเอง จะไปโต้เถียงกับเจ้าของกิจการย่อมไม่ก่อให้เกิดประโยชน์  และสุดท้ายคุณก็ไม่มีทางเติบโตในที่นี้ได้

2.ทำดีถูกคน  การให้ความสำคัญกับคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวของเราก่อน  เชื่อได้เลยว่าคนที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวของเรา  ต่อให้เราทำดีกับเขาไปจนตายเขาก็ไม่เห็นความสำคัญในตัวของเราอยู่ดี  สิ่งนี้ย่อมเสียเวลาเปล่า

3.ทำดีถูกความสามารถของเรา  เราต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อน  ก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรก็ตาม  การพึงประมาณตนเอง  และรู้ขีดความสามารถของตัวเอง  และมีคนมองเห็นในความสามารถของคุณ  สิ่งนี้ที่จะทำให้คุณก้าวไปได้ไกลกว่าคนอื่น  และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง  เมื่อเราอยู่ถูกที่และรู้ว่าตัวเองเก่งอะไร  ก็ทำให้มีคนเห็นความสามารถในตัวเรา  และเราก็จะได้รับโอกาสดีๆเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

4.ทำดีถูกจังหวะ ถูกเวลา  บางอย่างมันไม่ถึงเวลาของเรา สิ่งที่เราทำได้คือต้องรอจังหวะ  เวลาที่เหมาะสมซะก่อน  เพื่อที่จะสร้างโอกาสให้ตัวเอง  การไม่รู้จักจังหวะ และเวลาที่เหมาะสม อาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณได้  โดยเฉพาะสังคมไทย  อยากให้คุณเด่น  แต่ก็อย่าไปเด่นเกินหน้าเกินตา เพราะเขาจะหมั่นไส้เราได้  ไม่อยากมีใครเขาเห็นเราเด่นเกินหรอกครับ  

นี่ก็เป็นหลักการพื้นฐานง่ายๆ  ที่ทำไมคนหนึ่งถึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก  บางคนขยันแทบตาย  ทำงานแทบตาย  ไม่เคยขี้เกียจแต่กลับไม่เจริญก้าวหน้าสักที  ลองเอาบทเรียนมาทบทวนตัวคุณให้ดีนะครับ  อยากสำเร็จก็ต้องเริ่ม คิด ทำ และพูดอย่างถูกต้อง  แล้วสิ่งที่คุณได้รับก็จะถูกต้อง  และเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืนครับ

ความคิดที่ถูกต้อง


วิธีการและมุมมองนั่นแหละครับ  คือหลักการในการกำหนดความเป็นไป ในการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ  คนที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างย่อมที่จะมองเห็นเรื่องต่างๆ  ได้อย่างง่ายดาย  และมองทุกอย่างแบบมีระบบแบบแผน  มีการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้ากับเรื่องต่างๆได้เป็นอย่างดี

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนที่มีวิสัยทัศน์มากกว่ากัน  มองได้ไม่ยากครับ  ดูจากวิธีคิดของเขาและทัศนคติในการมองงานของเขานั่นแหละครับ  ที่จะเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง  คนเราจะไปได้ไกลแค่นั้นมันอยู่ที่ตัวคุณนั่นแหละครับที่กำหนดไว้  คนที่มีวิสัยทัศน์มีทิศทางที่ชัดเจน  เลยทำให้เขามองสิ่งเหล่านี้โดยไม่ติดขัดอะไร  

ส่วนตัวผมว่าความกลัว  กับความกล้ามันก็คือเส้นบางๆ  ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจอะไรบางเรื่องในชีวิต  คนที่มีประสบการณ์มากกว่า  ล้มเหลวมามากกว่า  สังเกตุได้ว่าคนเหล่านี้มักจะมีแรงผลักดันในใจมาก
กว่า  คนที่ไม่คิดจะก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่นอน  บางทีบาดแผลแห่งความเจ็บปวดที่มันทิ้งรอยแผลเอาไว้  ได้สร้างแรงผลักดันให้เขาต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง  ภายใต้ความกลัวที่เกิดขึ้น  การเสี่ยงกับไม่เสี่ยงจึงมีค่าเท่ากัน  อย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า  เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีการเดิมๆ  สิ่งที่ต้องทำก็คือหาวิธีการใหม่  เพื่อเสริมสร้างศักยภาพใหม่ๆ  ให้กับตัวเราและการพัฒนาศักยภาพพร้อมๆกันไปด้วย  คุณไม่อาจปฎิเสธถึง  การไม่ได้รับการยอมรับ  เพราะมนุษย์ในช่วงแรกก็คือ  พวกเขามักจะต่อต้านกับเรื่องใหม่ๆ  ที่ต้องเกิดขึ้นกับพวกเขา  

สิ่งสำคัญและนอกเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ  การหมั่นศึกษาความรู้มากขึ้น  ในสาขาวิชาที่เรากำลังทำอยู่  ทำให้มันจนถึงแก่นแท้  แล้วเมื่อคุณศึกษาได้ถึงแก่นแท้  เราก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วงอย่างไม่กังวล  ความกลัวจะค่อยๆลดลงไปเมื่อคุณกล้าที่จะตัดสินใจกับเรื่องอะไรใหม่ๆ ในชีวิต  ถึงแม้ว่าบางทีสถานการณ์อาจไม่ได้เป็นดังที่คุณคิดไว้ทุกอย่าง  แต่โลกจะดึงดูดอะไรบางอย่าง  เข้าหาคุณอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับคุณ  ในพื้นที่ที่เหมาะกับคุณ และงานนั้นเหมาะกับคุณจริงๆ  เราต้องตอบตัวเองและถามตัวเราเองให้ได้ก่อน  สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการเข้าใจตัวเราเองนั่นแหละครับ  เลือกสิ่งที่ใช่เลยแล้วชีวิตคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป ผมเอาใจสู้ครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...