เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนที่มีวิสัยทัศน์มากกว่ากัน มองได้ไม่ยากครับ ดูจากวิธีคิดของเขาและทัศนคติในการมองงานของเขานั่นแหละครับ ที่จะเป็นตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง คนเราจะไปได้ไกลแค่นั้นมันอยู่ที่ตัวคุณนั่นแหละครับที่กำหนดไว้ คนที่มีวิสัยทัศน์มีทิศทางที่ชัดเจน เลยทำให้เขามองสิ่งเหล่านี้โดยไม่ติดขัดอะไร
ส่วนตัวผมว่าความกลัว กับความกล้ามันก็คือเส้นบางๆ ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจอะไรบางเรื่องในชีวิต คนที่มีประสบการณ์มากกว่า ล้มเหลวมามากกว่า สังเกตุได้ว่าคนเหล่านี้มักจะมีแรงผลักดันในใจมาก
กว่า คนที่ไม่คิดจะก้าวไปข้างหน้าอย่างแน่นอน บางทีบาดแผลแห่งความเจ็บปวดที่มันทิ้งรอยแผลเอาไว้ ได้สร้างแรงผลักดันให้เขาต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง ภายใต้ความกลัวที่เกิดขึ้น การเสี่ยงกับไม่เสี่ยงจึงมีค่าเท่ากัน อย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยวิธีการเดิมๆ สิ่งที่ต้องทำก็คือหาวิธีการใหม่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพใหม่ๆ ให้กับตัวเราและการพัฒนาศักยภาพพร้อมๆกันไปด้วย คุณไม่อาจปฎิเสธถึง การไม่ได้รับการยอมรับ เพราะมนุษย์ในช่วงแรกก็คือ พวกเขามักจะต่อต้านกับเรื่องใหม่ๆ ที่ต้องเกิดขึ้นกับพวกเขา
สิ่งสำคัญและนอกเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ การหมั่นศึกษาความรู้มากขึ้น ในสาขาวิชาที่เรากำลังทำอยู่ ทำให้มันจนถึงแก่นแท้ แล้วเมื่อคุณศึกษาได้ถึงแก่นแท้ เราก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างลุล่วงอย่างไม่กังวล ความกลัวจะค่อยๆลดลงไปเมื่อคุณกล้าที่จะตัดสินใจกับเรื่องอะไรใหม่ๆ ในชีวิต ถึงแม้ว่าบางทีสถานการณ์อาจไม่ได้เป็นดังที่คุณคิดไว้ทุกอย่าง แต่โลกจะดึงดูดอะไรบางอย่าง เข้าหาคุณอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับคุณ ในพื้นที่ที่เหมาะกับคุณ และงานนั้นเหมาะกับคุณจริงๆ เราต้องตอบตัวเองและถามตัวเราเองให้ได้ก่อน สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการเข้าใจตัวเราเองนั่นแหละครับ เลือกสิ่งที่ใช่เลยแล้วชีวิตคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไป ผมเอาใจสู้ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น