ล้มได้แต่อย่าเลิก

ใกล้จะปีใหม่กันแล้ว  เพื่อนที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ต้นปีใครบรรลุเป้าหมายกันแล้วบ้างครับผม  การอยู่อย่างมีเป้าหมายชีวิตมันดีอย่างนี้นี่เอง  

ถึงแม้จะยังไม่ได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เราได้ตั้งไว้ทุกอย่างแต่เรามั่นใจได้เลยว่า  ในสักวันมันต้องสำเร็จอย่างแน่นอน

คนที่เขาสำเร็จในวันนี้ก็เพราะการเตรียมตัวเองมาอย่างดี  โดยวางแผนการไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ปีที่แล้ว  เราก็เช่นกัน  อยากจะทำอะไรในปีหน้าให้คุณทำแผนการชีวิตไว้เลยนะครับจะได้ไม่หลงทาง

ชีวิตเรากำหนดทางของเราเองได้  อย่ามั่วแต่ไปเชื่อดวงหรือโชคชะตาอะไรมากมาย  ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรากำหนด  เราสร้างชีวิตเราเองได้  และทำประโยชน์ได้อย่างมากมายมหาศาล

เป้าหมายในปีหน้าของผม  ผมยังต้องการที่จะแบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้กับสังคม  อยากเห็นสังคมแห่งความสร้างสรรค์  และก้าวไปข้างหน้า  ใครจะเป็นอย่างไรก็อย่าไปสนใจ  ทำตัวเราให้ดีที่สุด  แล้วสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาเราเอง  ตัวผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆนะ  

รีบสะสางปัญหาต่างให้เรียบร้อย  พร้อมรับกับสิ่งใหม่ๆ  ส่ิงไม่ดีก็ทิ้งมันไปเลยนะครับ  เพราะชีวิตของเรายังไงก็ต้องเดินต่อไป  ไม่ว่าจะเจอเหตุการณ์อะไรเขามากระทบก็แล้วแต่  วันนี้ผมอยากให้คุณเข้มแข็ง และไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค์ ล้มแล้วต้องลุกขึ้นมาใหม่  คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่เขาล้มแล้วไม่เลิกครับ

แววตาของคนมุ่งมั่น

เพื่อนๆเคยเจอไหมครับ  เวลาที่เราไปเจอกับใครสักคนหนึ่งที่มีความปรารถนากับบางสิ่งบางอย่างด้วยความศรัทธาเต็มเปี่ยม  เมื่อเราเข้าใกล้พวกเขาเราจะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เราเกิดความหึกเหิมไปด้วย   สีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความกระหายใคร่รู้  และต้องการประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

คนที่มีความฝัน  ความมุ่งมั่นด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยว  ยอมรับฟังผู้อื่น  ยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง ทำอะไรด้วยความมุ่งมั่น สัตย์จริงทุกอย่าง  จริงใจต่อคำพูดและการกระทำ  สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของมนุษย์ที่พึงมีต่อเพื่อนมนุษย์

ทุกอย่างบนโลกใบนี้เกิดจากสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาทั้งนั้น

หากต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต  จงเรียนรู้และเข้าใจมนุษย์ด้วยกันอย่างถ่องแท้  ผมเคยคิดว่าตัวเองพยายามมากเเล้ว แต่ก็ยังมีคนที่เขาดิ้นรน พยายามมากกว่าเราอีกเยอะ สิ่งเดียวที่มีเหมือนกัน คือ สติปัญญา และความอุตสาหะ พากเพียรทำไปให้ถึงที่สุดของที่สุด  แล้วความสำเร็จก็เป็นเรื่องง่ายๆที่เกิดได้กับทุกคนเอง

อย่ายอมเป็นเงาของผู้อื่น

ความรู้ประทับใจอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เรา  ล้วนส่งผลต่อสิ่งที่กำหนดสิ่งที่เราต้องการที่จะเป็นในอนาคตทั้งนั้น

มันไม่มีผิด ถูกเลยครับเพราะคนเราแต่ละคนล้วนผ่านเหตุการณ์น่าประทับใจในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
การที่เอาความคิดของเราไปตัดสินผู้อื่นย่อมไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องอย่างแน่นอนครับ

เป็นธรรมดาของคนเราเมื่อมีอะไรเข้ามากระทบจิตใจล้วนส่งผลทางด้านอารมณ์ด้วยกันทั้งสิ้น  ไม่ว่าจะในทางไหน  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ  เลือกมองจากมุมที่ดีสุดของเราออกมา  การที่มนุษย์เราสะสมความคิดและเรื่องดีๆเข้าไปในจิตใจมากๆ  จิตใจก็เหมือนธนาคารที่คอยสะสมเเต่สิ่งดีๆเข้าไป  ไม่ว่าเหตุการณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน  จิตใจเราย่อมมั่นคงไม่หวั่นไหวต่อสิ่งภายนอกอย่างแน่นอน

ในที่นี้ก็คือ สตินั่นเอง  นั่นคือสิ่งที่มนุษย์แตกต่างจากสัตว์  บุคคลที่มีสติปัญญาย่อมผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ  ไปได้

ความคิด กำหนดการกระทำและคำพูด ฉะนั้นเมื่อคุณรู้จักควบคุมความคิดไปในทางบวก พลังงานด้านบวกก็จะส่งผลดีให้กับตัวเราเอง และคนรอบข้าง  หลายคนอาจจะสงสัยว่าจำเป็นด้วยเหรอ  จำเป็นมากเลยครับ  ถ้าหากคุณไปเจอบุคคลที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น  ทุกคนล้วนมีคุณสมบัตินี้เป็นต้นแบบกันทั้่งนั้น  อยากประสบความสำเร็จก็เริ่มฝึกฝนตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย 

อย่าเพิ่งกังวลไป

มีหลายครั้งนะครับ  ที่ชีวิตมักจะเจอกับบางเรื่องที่ให้เราต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง

พูดโดยหลักการทางเศรษฐศาสตร์ เรียก ต้นทุนเสียโอกาส กล่าวคือ เมื่อเราเลือกบางสิ่งบางอย่างเราก็ต้องเสียบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน

นี่คือความเป็นจริงของมนุษยฺ์เราไม่สามารถเลือกอะไรให้เป็นไปตามที่เราคิดไปได้ทุกเรื่องหรอก แค่เลือกสิ่งที่เป็นสัญชาตญานของเรา  และทำมันให้ดีที่สุดเท่านั้น  การได้ทำในสิ่งที่เรารัก ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จ  อย่างน้อยเราก็ไม่มานั่งเสียเวลากับสิ่งที่ผ่านมาได้

หลายครั้งในชีวิตตัวผมเองก็มีท้อแท้  อยากจะร้องไห้วันละหลายๆ  แต่คนเราถ้ามัวแต่มานั่งนึกถึงตัวเอง  ผมว่าโครตเห็นแก่ตัวนะ  อย่าลืมว่า เรายังมีคนที่เรารัก  พ่อแม่ คนที่เรารัก และรักเราอีกมากมาย นึกถึงคนอื่นๆ ให้มากแล้วเราจะภูมิใจกับทุกสิ่งที่เราได้ทำให้กับพวกเขา

น้ำตาเป็นแค่บททดสอบของชีวิตเองครับ  เมื่อคุณสอบผ่านก็จะเจอบทเรียนที่ยากขึ้น  ก็เพื่อพิสูจน์ไงครับว่า คุณแข็งแกร่งมากขนาดไหน  ทุกคนสำเร็จได้เชื่อผม   อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่คุณไม่ได้ตัดสินใจทำอะไรเลย  หากต้องเลือกอะไรสักเรื่อง จงเลือกแม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงมีค่าเท่ากันครับ

สิ่งที่น่ากลัวกว่าการไม่ตัดสินใจทำอะไรเลย ก็คือ การไม่ตัดสินใจไงครับ  ฉะนั้นชีวิตเป็นของเราใช้มันให้ดีที่สุดครับ

เปลี่ยนได้แล้ว

หลายคนเอาแต่คิดว่า

++ทำไมสิ่งดีๆไม่วิ่งหาฉันบ้างละ  

++ทำไมฉันไม่ได้รับโอกาสดีๆแบบเขาบ้างละ

++ทำไมเขาโชคดีจัง

คุณหรือไม่ครับคำถามที่คุณตั้งให้กับตัวเองนั่นแหละที่เป็นอุปสรรคในการประสบความสำเร็จของคุณทั้งสิน  ทุกอย่างมันมีกฎของมันอยู่แล้วครับ

ลองกลับกันซิครับ  ว่าเหตุใดเขาจึงได้สิ่งนั่้น  นั่นก็เพราะเขาคู่ควรที่จะได้ยังไงละครับ  เบื้องหลังแห่งความสำเร็จหลายท่านล้วนแล้วแต่มาจากความพยายามด้วยกันทั้งสิ้น  ไม่มีอะไรตกมาจากฟ้าหรอกครับ

อย่าได้คิดไปเลย

ลองนึกทบทวนตัวเอง  ในแต่ละช่วงเวลาของเราแล้วเริ่มต้นตั้งคำถามกับชีวิตของเราใหม่ดีกว่าครับ  อย่าไปโทษสิ่งต่างๆรอบตัวเลย  

เหตุการณ์บางสิ่ง บางอย่างเราเปลี่ยนไม่ได้แต่เราเลือกมองในมุมที่ดีได้นะครับ

อย่าจมอยู่กับอดีต และวาดฝันอนาตคมากเกินไป  ความสำเร็จ  คือ ความเรียบง่ายในการใช้ชีวิต มันมีรูปแบบของมันอยู่แล้ว  ทำทุกวันให้ดีที่สุด  เป้าหมายมีไว้ให้ไปให้ถึง แต่ระหว่างทางแห่งความสำเร็จก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน  จงเลือกเก็บช่วงที่ดีที่สุดของคุณไว้

เมื่อเวลาผ่านไป  ทุกอย่างที่คุณได้ลงมือทำในวันนี้  คุณจะได้ไม่เสียใจกับมันและยังนำสิ่งเหล่านี้ไปสอนผู้คนให้เกิดประโยชน์ได้มากมาย  อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง  เราเกิดมาบนโลกเพื่อที่จะแบ่งปันให้กับเพื่อนมนุษย์  แล้วโลกก็จะตอบแทนสิ่งทีดีงามให้กับคุณ

ให้ และ ให้

วันนี้ก็ผ่านไปอีกวันครับ ทุกอย่างดูเรียบง่ายบางทีการที่เราไม่คิดอะไรมากความสุขมันก็อยู่รอบตัวเราจริงๆ. เคยมีคนบอกผมว่าก่อนจะเป็นผู้นำใครเราต้องนำตัวเองให้ได้ก่อน จิตใจเราต้องหนักแน่นและมั่นคงให้ได้ก่อน. รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา. แบ่งปันซึ่งกันและกัน

มีโฆษณาของไทยประกันชีวิต เขาถามว่า โอกาสคืออะไรและมาจากไหน?  ผมว่าเป็นคำถามที่ดีนะครับ หลายคนพูดว่าเพราะตัวเองได้รับโอกาสดีๆ จากสิ่งนี้บ้าง สิ่งนั้นบ้าง แท้จริงไม่มีใครให้โอกาสใครก่อนหรอก นอกเสียจากว่า คนๆนั้นต้องเป็นผู้ให้กับคนอื่นเสียก่อน

ให้โดยที่ไม่คาดหวังอะไร
ให้ด้วยความเต็มและไม่มีเงื่อนไข
ให้เพราะต้องการช่วยเหลือผู้อื่นจริงๆ

ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร "การให้" ก็คือสิ่งที่มีค่าเสมอ. มนุษย์เกิดมาอยู่บนโลกใบนี้  ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการเป็นผู้ให้และส่งต่อกันไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็ทำให้โลกใบนี้สมดุลมากเลยครับ ลองฝึกเป็นผู้ให้ เริ่มจากสิ่งเล็กน้อยที่คุณมีก่อนแล้วคุณจะพบว่า "ความสุขที่มาจากการให้มีคุณค่ายิ่งใหญ่เพียงไหน"

คุณสุดยอดอยู่แล้ว

คุณเคยหยุดถามตัวคุณเองไหมครับว่าอะไรคือความหมายของชีวิตคุณ. อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการที่แท้จริง และคุณเกิดมาทำไม

ผมเชื่อว่าหลายคนต้องมีคำถามอะไรบางอย่างกับตัวเองทั้งนั้นแหละครับและคำตอบที่เราได้รับก็แตกต่างกันในแต่ละวัย. เมื่อก่อนผมเคยคิดเสมอว่าผมต้องเป็นคนรวย เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง. คำตอบเหล่านี้แท้จริงหากมองให้ดีๆ. มนุษย์ทุกคนก็ต้องการมีตัวตนบนโลกใบนี้เหมือนกันครับบ

แล้วอะไรละครับที่จะสามารถให้คำตอบกับชีวิตของคุณ. ผมว่าคำตอบที่ดีที่สุดมันอยู่ในใจของพวกคุณทุกคนอยู่แล้วครับ

ผมเกิดมาเพื่อสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นและตัวผมเองก็มีความสุข
ผมเกิดมาเพื่อทำเพื่อครอบครัวและคนที่ผมรักและมีเป้าหมายชีวิตทุกวัน

เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าคนเราจะสำเร็จได้ด้วยตัวของเราเองเท่านั้น. ความจริงเป็นบางส่วนครับแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตราบใดที่มนุษย์ยังเป็นสัตว์สังคม และดำเนินชีวิตกับสังคมทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราคือองค์ประกอบแห่งความสำเร็จ

อยากเป็นคนแบบไหน. มีชีวิตแบบไหน. ใช้ชีวิตอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราเลือกได้ เชื่อผมเถอะว่าจงเลือกอยู่กับคนที่จะทำให้เรามีความสุขกับทุกวันเวลาบนโลกใบนี้มันสั้นนักอย่าเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น อะไรทำได้เริ่มได้ ลงมือทำได้เลยครับคุณสุดยอดอยู่แล้ว

แรงพลักดัน

คุณเชื่อไหมชีวิตจริงมันยิ่งกว่าละครน้ำเน่า ผมเคยหลงทาง ผมเคยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา เคยมีคนพูดไว้ว่ามนุษย์พอเดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆสุดท้ายเราจะวนกับมาที่เดิม  มันยิ่งกว่าจริงซะอีกครับ  ชีวิตผมเป็นแบบนั้นเลย  แต่ถึงมันไม่ได้เลวร้ายอะไรมากแต่ก็ทำให้ผมคิดอะไรได้หลายๆอย่างมากเลยครับ

1.เมื่อก่อนผมชื่นชมคนเก่ง  แต่ตอนนี้ผมชอบคนดีมากกว่าครับ
2.ความโกธรเป็นเหมือนไฟจงมีสติและระงับความโกธรให้ได้
3.อยู่กับปัจจุบันของชีวิตและยึดมั่นในเป้าหมาย
4.เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบเพราะเวลาเมื่อมันผ่านไปเเล้วเราเรียกมันกลับคืนไม่ได้
5.ค้นหาตัวเองให้เจอเอาชนะตัวเองใจตัวเองให้ได้

พอกลับมาอยู่ตรงจุดเริ่มต้นใหม่อาจไม่ใช่จุดเริ่มต้นเสียทีเดียวหรอกครับ  ชีวิตยังไงก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอๆ  ขอแค่อย่าได้ท้อแท้ใจ หรือล้มเลิกไปซะก่อนอย่าทิ้งความฝันของตัวเอง  เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ทำให้เรามีแรงผลักดันที่จะทำมันและตื่นขึ้นมาทุกวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย  ตอนนี้ผมโตขึ้นเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างมากขึ้น  ไม่มีอะไรทำให้ผมกลัวและมาล้มเลิกความตั้งใจของผมได้  ผมเชื่อว่าผมไปต่อได้ ทุกชีวิต ทุกปัญหาล้วนมีทางออกของมันเสมอ แค่มีสติครับวันนี้ฝันดีครับ

ยอมรับตัวเอง

ผมอ่านบทความนี้แล้วเข้าใจอะไรมากขึ้นทีเดียวครับ สำหรับผมมันคือเรื่องจริงของชีวิตเลยนะครับ  สำหรับนักเขียนท่านนี้ผมไม่ได้รู้จักเป็นการพิเศษแต่ติดตามผลงานเขานานละครับ เขามีแนวคิดที่นอกกรอบและที่สำคัญ มันเหมาะกับเหตุการณ์ปัจจุบันมาก  ทุกคนต้องการความสมบูรณ์แบบ แต่ไม่ใช่แบบที่ตัวเองต้องการมันจริงๆเป็นเพียงแค่ความต้องการยอมรับจากสังคมภายนอกเท่านั้น  ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ ลองอ่านดู..

ก็เคยคิดอยากเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ Perfect ...แต่เดี๋ยวนี้อยากเป็นคนที่พัฒนาไปเรื่อยๆ ...ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งรู้เลยว่า เราเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ'

ทุกครั้งที่ผมตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อ แล้วหาคำตอบ ..ก็มักจะพบว่า ความเชื่อของเรามันขึ้นอยู่กับมุมที่เราเลือกมองโลก

เด็กๆ เราคิดว่า ทุกอย่างหมุนรอบตัวเราพอโตขึ้น เราเข้าใจว่า จริงๆ แล้วเราเป็นเพียงกลไกเล็กๆ ของโลก

ทุกวันนี้ก็เข้าใจมากขึ้นว่า โลกของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน และสิ่งที่กำหนดโลกของแต่ละคนก็คือ 'มุมมองและความรู้ ที่แต่ละคนมี' มุมมอง เกิดจากประสบการณ์ ..ส่วนความรู้ เกิดจาก แสวงหาและตั้งคำถามกับสิ่งที่พบเจอ

ผมจะเล่าให้ฟังว่า โลกของบางคนน่าอยู่มากครับ

- โลกของเขานั้น ทุกวิกฤตมีโอกาสแฝงอยู่

- เขามองเห็นโอกาส และหยิบฉวยสิ่งดีๆ ได้เสมอ ในขณะที่คนอื่นเห็นแต่ความวุ่นวายและวิกฤต

- เขาไม่ค่อยโกรธใคร หรือโกรธง่ายก็หายเร็ว เพราะเขามักเห็นข้อดีของแต่ละคน จึงเข้าใจว่าเหตุใดคนนั้นจึงคิดเช่นนั้น

- ในโลกของเขาไม่มีคนเลว แค่เขาอาจอยู่ในสถานการณ์และการตัดสินใจที่ไม่เหมือนกับเรา

- สิ่งที่เราได้ ที่เรามี โอกาสที่เราได้รับ มันก็เกิดจากสิ่งที่เราเองเป็นคนกระทำ

 ...ไม่โทษพ่อแม่ ไม่โทษชีวิต ไม่โทษชะตา ก็เพราะโลกของเขา เปลี่ยนและปรับปรุงได้ทุกวัน ด้วยมือของเขาเอง

ทุกคสามสำเร็จเราสร้างได้ตามแบบของเรา  อย่าเดินตามผู้อื่นเพียงหวังแค่ให้ผู้อื่นยอมรับในตัวคุณเท่านั้น  

ชัดเจนกับชีวิต

คุณรู้ไหมชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ  บางสิ่งบางอย่างเราคาดหวังกับมันมากเกินไป  จนในที่สุด  พอผิดหวังเรากับมันก็ทุรนทุรายแทบเป็นแทบตาย

โลกสมมุติใบนี้ไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอนหรอกครับ   จงอยู่กับมันอย่างมีความสุข  ท้ายที่สุดมนุษย์เราทุกคนก็ต้องจากโลกใบนี้ใบ

ลองถามใจคุณให้ดีครับว่า สิ่งที่คุณได้ทำในทุกวันนี้ คือ สิ่งที่จะพาคุณไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางในชีวิตของคุณหรือไม่  จงเลือกเป็นตัวของตัวเอง เลือกในทางเดินที่เราอยากจะเป็น มันไม่ผิดหรอกครับ สำคัญอยู่ที่ว่าคุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณทำหรือไม่

ในทุกขณะของชีวิต ลองมองชีวิตเป็นเหมือนละครเรื่องหนึ่งที่เราเป็นผู้กำกับเอง  เราอยากจะเป็นอะไรก็ได้  เพราะเรากำหนดเองบนเส้นทางชีวิตไม่มีถูกผิด  อยู่ที่คุณเลือกและเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุด  ล้มบ้างแต่ก็รีบลุกขึ้นมากใหม่  รอคอยจังหวะดีๆ  เมื่อมีโอกาสเข้ามาและเรามั่นใจว่าสิ่งนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาลจงเลือกทางนั้น และเดินไปให้สุดทางครับ

สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่าจงเป็นคนดีที่มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษยฺอย่าได้ใจแคบกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ  ปล่อยวางกับบางเรื่องและทำตามเป้าหมาย ทำความฝันของคุณให้เป็นจริงให้ได้ครับ

คุณทำได้ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้

หลังจากที่หายไปนานพอสมควรผมกลับมาแล้วครับ ช่วงที่หายไปผมกลับไปทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาทำให้ผมมองเห็นว่า  ชีวิตคนเรามันสั้นนัก สิ่งที่คุณควรทำก็คือ  หาทางลัดสู่ความสำเร็จให้เร็วครับ

บอกเลยครับว่าอะไรที่ไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตคุณได้  ให้คุณหาทางใหม่ๆให้กับตัวเองได้แล้ว อย่ามัวแต่มานั่งหลอกตัวเองไปวันๆครับ  

ความฝันเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ  เราอย่าทิ้งความฝัน เราต้องมีความฝันและความหวัง ต้องมีพลังขับเคลื่อนตัวเอง เราต้องรักและให้กำลังใจตัวเองมากๆ  เส้นทางที่ยากแค่ต่อให้เจอกับปัญหาอุปสรรค์ใดๆ

ทุกหนทางมีทางออกรออยู่เสมอ

ความฝันคุณจะฝันให้ใหญ่เท่าไหร่ได้  ไม่มีใครมาจำกัดความฝันของคุณได้มีสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมาก  และผมก็เชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริง  เขาบอกว่า  "คนที่มีความฝันจะไม่มีวันจน เพราะคุณรวยเท่ากับความฝัน"  ความคิดและการกระทำจะกำหนดชะตาชีวิตของเราเอง ไม่มีใครเป็นที่พึ่งของใครได้เราต้องพึ่งตัวเอง

ลงมือทำความฝันและก้าวไปกััับมันอย่ายอมแพ้  ใครจะว่าอะไรก็ช่างอย่าไปสนใจครับ  เดินหน้าทำความฝันต่อไป

ความกลัว

ความกลัวเป็นพื้นฐานที่ทรงพลังไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  เป็นโรคติดเชื้อของจิตใจ  สามารถรักษาได้โดยการสร้างความมั่นใจในตัวเอง  หลายครั้งเรามักจะกังวลกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาอยู่ในจิตใจ  ผมอยากจะบอกว่าแค่คุณลงมือทำก็ขจัดความกลัวได้เลยครับ  ทำแล้วล้มเหลวดีกว่าไม่ลงมือทำ  ไม่อย่างนั้นก็จะหลอกหลอนจิตใจตัวเองไปเรื่อยๆๆ

อย่าได้แต่หวัง  เอาแต่คิดคิดหาวิธีและมองตากับความกลัวที่อยู่ในจิตใจคุณ  ปัญหาทุกอย่างมีทางออกของมันอยู่แล้วแค่คุณค่อยๆนึก  วางแผนและทำตามแผน  พยายามมองหาโอกาสใหม่ๆ และสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับตัวเอง  เราเกิดมาเพื่อสร้างความยิ่งใหญ่และเกิดมาเพื่อประสบความสำเร็จเท่านั้นครับ

ความหวังเป็นจุดเริ่มต้น แล้วหาวิธีคิดแบบใจเย็นๆ ดึงความกลัวออกและใช้การลงมือทำดังนี้

1.จัดการความกลัว
2.ลงมือทำตัดสินใจทันที

สร้างความทรงจำดีๆให้กับตัวคุณเองในแต่ละวัน  แล้วสิ่งดีๆจะวิ่งเข้าหาคุณ โอกาสผู้คนเพราะมนุษย์เรามักจะดึงสิ่งดีดีเข้าหาตัวเองเสมอ  ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตเขาจะฝังความคิดและความทรงจำดีๆของคุณเท่านั้น  ทำลายความคิดลบก่อนที่มันจะทำร้ายจิตใจของเรา  ความคิดบงบอกถึงการกระทำและนิสัย จงคิดบวกในทุกสถานการณ์ฝากไว้ด้วยครับ

ข้อจำกัดของคุณคืออะไร

คุณว่ามันเเปลกไหม ยิ่งเราโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่  ตัวเรากับกลับมีข้อจำกัดให้กับตัวเองมากขึ้น
มากขึ้นทุกวันจนเราห่างไกลจากเป้าหมายเราไปทุกที  ที่ผมพูดก็อยากเตือนสติพวกคุณจริงๆ ก็เพราะโลกปัจจุบันนี้เริ่มเข้าสู่ยุคของสังคมคนโสดและสังคมผู้สูงอายุมากขึ้น  ยิ่งโครงสร้างสังคมใหญ่ขึ้น ปัจจัยภายนอกเจริญมากขึ้นเท่าไหร่  สุดท้ายมนุษย์จะหันเข้าสู่ธรรมชาติ

ข้อจำกัดเป็นแค่สิ่งที่มนุษย์เราคิดขึ้นมาเอง  หากจะมองจากความเป็นจริงของธรรมมนุษย์เราอายุสูงสุดก็ไม่เกินร้อยปีหรอกครับ  อย่างมากค่าเฉลี่ยคนไทยผมว่าอยู่ที่ประมาณ 70-75 ปี  ที่เหลือก็คงเป็นกำไรแล้วละครับ

โลกยุคนี้เปลี่ยนไปมากมายจริงๆ อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทกับผู้คนบนโลกใบนี้แทบจะแยกกันไม่ออก ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้พฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปแทบทุกด้าน  อีกไม่กี่สิบปีต่อจากนี้คงได้เห็นธุรกิจเกิดใหม่กันมากมายทีเดียว  เห็นไหมครับว่าอย่าไปกลัวอะไรที่มันยังไม่เกิดเลย  อย่าเอาแต่สร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง

อยากจะทำอะไรจงเริ่มทำเลยนะครับ  อย่ามัวแต่รีรอการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆก่อน ย่อมจะสร้างประโยชน์ให้กับเราเป็นอย่างมาก  เส้นทางทุกอย่างเราคือผู้กำหนด  อย่าให้ปัจจัยภายนอกมาเป็นตัวกำหนดคุณเลยคุณต้องบอกกับตัวเองเสมอว่าคุณเกิดมาเพือประสบความสำเร็จ  คุณทำได้ทุกอย่างถ้าคุณคิดจะทำ  จงเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่  ตอบแทนคุณให้กับสรรพสิ่งแล้วพลังอำนาจบางอย่างจะทวีคุณค่าให้ตัวคุณอย่างแน่นอน

ทำไปเถอะยังไงต้นทุนเราก็เท่ากัน

อาจจะแปลกใจกันนะครับผมหมายถึงต้นทุนอะไร  ต้นทุนในที่นี้ผมหมายถึง  เวลาและอากาศไงครับที่ท่านไม่ต้องซื้อหา  แต่ไม่แน่ในอนาคตอากาศอาจต้องมีการซื้อขายกันได้ครับ  ที่ผมพูดเช่นนี้ก็เพราะหลายคนรู้สึกสับสนกับตัวเอง  ยังหาตัวเองไม่เจอสักที  รู้สึกท้อแท้ใจ  ผมจะไม่พูดแบบนักสำเร็จอะไรมากมายหรอก  บางครั้งความรวยอาจไม่ได้สร้างความสุขอย่างที่คุณต้องการมันจริงๆก็ได้

ลองหันกลับมามองที่ตัวเราเองดู  เวลาที่เราเหนื่อยใจ ท้อแท้ หมดกำลังใจสิ่งแรกเรานึกถึงอะไร  บางอย่างเราไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าเราทำมันไปทำไม  ให้กลับมาถามตัวเองว่าคุณทำเพื่อใครต่างหาก  มองชีวิตในอีกมุมหนึ่งมุมที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ มีอิสระที่จะคิด จะใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากจะเป็น  การเป็นคนที่สุดยอดไม่ได้หมายถึงทำงานที่สุดยอดก็เป็นได้  มันอาจเป็นแค่สิ่งเล็กแต่มันล่อเลี้ยงหัวใจเราให้เติบโตขึ้น และพร้อมที่จะมอบสิ่งดีๆให้กับผู้อื่นต่อๆไป

หลายคนเอาแต่นั่งนึ่งถึงสิ่งที่ตัวเองขาด แทนที่จะนึกถึงสิ่งที่เรามี แต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ครับ  จนกว่าคุณจะได้รับบทเรียนอะไรบางอย่างที่เจ็บปวดกับคุณนั่นแหละ  คุณจะเริ่มเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง

คิดและลงมือทำความฝันของเรากันเถอะครับ เราอยู่บนโลกใบนี้อีกไม่นานเดี๋ยวเราก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ทำประโยชน์ทำสิ่งที่ดีงาม  แล้วผลลัพธ์แบบมั่งคั่งก็อยู่แค่ปลายนิ้ว

รู้จักตัวเอง

เคยไหมครับที่บางช่วงจังหวะชีวิตของคุณ  ช่วงของการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง จากวัยเด็กเป็นวัยรุ่น จากวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่  ช่วงชีวิตเงงหล่านี้ล้วนส่งผลต่ออนาคตของคุณอย่างมาก  ถ้าคุณรู้จักตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยจะดีมากครับ  เพราะคุณจะได้ชัดเจนกับตัวเองและเริ่มต้นทำตามความฝันของตัวเองได้เลย

สาเหตุที่คนยุคใหม่ไม่รู้จักตัวเองก็เพราะเราชอบความสำเร็จแบบสำเร็จรูปไงครับ  ทุกอย่างอย่างต้องเร็ว ต้องดี เราวิ่งวุ่นไปหมด  เราเอาแต่ชื่นชมความสำเร็จของคนอื่น  จนลืมสร้างความสำเร็จให้ตัวเอง  ลืมกลับมาทบทวนตัวเอง  จนมาถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าคุณไปต่อไม่ได้แล้วนั่นแหละ  ทำให้คุณเริ่มกลับมาคิดทบทวนตัวเอง  บางทีอาจจะสายเกินไปก็ได้

ผมอยากจะบอกทุกท่านว่าอย่าได้ท้อใจไปนะครับ  ขอให้เดินหน้าไปต่อ เวลาเป็นสิ่งสำคัญ  จะเรื่มช้าดีกว่าไม่เริ่มทำอะไรเลยครับ  เวลาที่เรามาถึงทางตันไม่รู้จะไปทางไหนต่อ  จะเอายังไงกับชีวิตของเราดี

  1. ให้คุณทบทวนตัวเองกับสิ่งที่ผ่านมามีอะไรที่เราดำเนินชีวิตผิดพลาดไปหรือเปล่า
  2. ทบทวนเป้าหมายของตัวเองตลอดเวลา
  3.ลงมือทำสิ่งใหม่ๆ  เริ่มจากเล็กๆไปก่อน
  4.ทบทวน วางแผน แก้ไขปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้นและสอดคล้องกับเป้าหมายของเรา

ชีวิตเราไม่แน่นอนนะครับ  คุณกำหนดมันได้อยู่ที่ตัวคุณจะเลือกทางเดินให้ชีวิตยังไง  อย่าพยายามหาข้ออ้างให้ตัวเอง  ไม่มีประโยชน์หรอกครับ อะไรที่ผิดพลาดก็ปล่อยมันไป  เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ครับ  ทำชีวิตของเราให้มันดีที่สุดไปเลย   เวลาหันกลับมามองมันคุณจะได้ไม่ผิดหวังกับตัวเอง

เรื่องของจิตใจ

จิตใจมีส่วนสำคัญมากกับทุกเรื่อง  ชีวิตคุณจะพุ่งขึ้นหรือลง  จิตใจล้วนเป็นตัวส่งผลทั้งนั้นแหละครับ  คุณสังเกตุได้เลยถ้าวันไหนคุณอารมณ์เสีย มันก็จะส่งผลทางจิตใจ และตอบสนองออกทางร่างกายด้วยสีหน้า ท่าทางของเราอย่างชัดเจน

ใช่ครับบางท่านอาจจะบอกว่าเราก็สร้างภาพลักษณ์ได้นิ ได้แน่นอนครับแต่สิ่งที่คุณหลอกไม่ได้ คือตัวคุณเอง  การจะทำอะไรๆสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งในชีวิตของเรา  อารมณ์หรือพื้นฐานทางจิตใจสำคัญมาก  ทำให้เราทำอะไรได้อย่างถูกต้องและไม่เสียใจกับการตัดสินใจนั้น เพราะเราทบทวนมันอย่างรอบคิบแล้ว

หลายท่านอาจคิดว่าแล้วมันส่งผลต่อความสำเร็จยังไงกับชีวิตเราละ  มีแน่นอนครับคุณเห็นไหมครับว่าทุกคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต  เขาต่างคิดบวก และมองไปข้างหน้า ไม่หนีปัญหา อยู่กับมัน ค่อยๆแก้ไขมันให้ดีขึ้นเรื่อง  วางแผนทุกอย่างให้เป็นไปตามเป้าหมายในระยะยาว  คนเหล่านี้รู้ถึงปัญหาและอุปสรรคทุกอย่าง แต่เขากลับมองเห็นเป็นโอกาส นั่นเพราะการปลูกฝั่งจิตใจของเขาให้เป็นนักสู้  นักธุรกิจ และบุคคลที่ประสบความสำเร็จไงครับ  คุณก็ทำได้เหมือนกัน ลองมองตัวเองๆดีๆครับ ทำตัวทำใจให้พร้อมรับปัญหาต่างๆและสร้างโอกาสในปัญหานั้น  คุณทำได้ดีและประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอนครับ

ข้ออ้างให้ตัวเอง

มีบ่อยครั้งเลยครับที่คนเราเมื่อไม่อยากทำอะไรสักอย่าง  เรามักจะหาข้ออ้างสารพัดเพื่อหาเหตุผลดีๆมาสนับสนุนความคิดของตัวเราเอง  ผมขอเรียกมันว่า มาร นะครับ  ในตัวคนเรานี้จะมีทั้งเทพและมาร  จะสังเกตุได้ว่าช่วงไหนที่คุณสับสน ว้าวุ่น เบื่อโลก  มารกำลังบั่นทอนจิตใจคุณครับ

วิธีที่ดีที่สุดถ้ารู้ตัวว่ามารกำลังบ่งการชีวิตคุณอยู่ก็คือ  ลุกขึ้นมาทำทันทีเลยครับ อย่ามัวแต่มาหาข้ออ้างให้ตัวเอง  หลายคนบ่นท้อใจกับชีวิตทำไมยังไม่ประสบความสำเร็จสักทีก็เพราะคุณเอาแต่นึกไงครับ  ไม่ลงมือทำอะไรให้เป็นรูปเป็นร่างสักที

บางทีการนั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ  เราก็ได้คำตอบให้กับชีวิตเราได้มากมายเลยนะครับ  วันนี้ยังมองไม่เห็นทาง แต่เชื่อเถอะครับว่ามันต้องเป็นไปตามตั้งเป้าหมายอย่างแน่นอน  เลิกนิสัยอิจฉาคนอื่น เอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ใครจะทำอะไรดีหรือไม่ดีมันก็เป็นเรื่องของเขา  แค่เราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด  สิ่งเล็กๆ น้อยๆ มันจะกลายเป็นความสำเร็จในวันข้างหน้า  แม้แต่สิ่งที่เราไม่ชอบถ้าเราทำมันให้ดีที่สุดสักวันมันต้องให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับชีวิตคุณอย่างแน่นอนครับ

ความทรงจำดีดี

การที่เราจดจำแต่เรื่องดีๆในชีวิตคุณรู้ไหมครับระยะยาวมันส่งผลกับชีวิตของเราเป็นอย่างมาก  ทุกครั้งที่เราท้อแท้ สิ้นหวัง ความทรงจำเหล่านี้ช่วยคุณได้จริงๆครับ  จิตใจของคนเรามีทั้งความกล้าหาญ และอีกมุมที่ซ่อนเราอยู่ก็คือความกลัว  สองสิ่งนี้เป็นของคู่กัน

เสมือนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ เอาจริงๆนะคนเราไม่สามารถโกหกกับความรู้สึกของตัวเองได้ เราอาจหลอกคนอื่นได้ แต่เราหลอกความรู้สึกตัวเองไม่ได้จริงๆหรอกครับ ฉะนั้น จงซื่อสัตย์กับตัวเอง เคารพตัวเองและรักตัวเองให้มากๆ  หลายครั้งที่คุณเจอนักดับฝัน  หลายคนที่คอยพูดจาบั่นทอนจิตใจของคุณ  ของให้ปิดหูซะแล้วเดินหน้าไปต่อ  ทำความฝันของคุณให้เป็นจริงขึ้นมาให้ได้  ผมเชื่อว่าคุณทำได้

ความทรงจำดีๆจึงเป็นเรื่องที่เราควรฝึกทำจนเป็นนิสัย  ถ้าเราเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี สิ่งดีๆคนดีๆจะวิ่งเข้ามาหาคุณและคอยสนับสนุนคุณอย่างแน่นอน  พื้นฐานของมนุษย์ทุกคนเป็นคนดีอยู่แล้วครับ  โดยเฉพาะคนไทย  เราเกิดมาโชคดีได้อยู่ใต้ร่มเงาบารมีของพระราชาที่ทรงธรรม และรักประชาชนของท่านยิ่งชีพ เป็นแบบอย่างที่ดีงามที่เราควรยึดถือและนำหลักคำสอนของท่านมาปฎิบัติใช้ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต  เชื่อได้เลยครับว่าทุกท่านต้องเจริญก้าวหน้า  ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างยั่งยืน

ผมรักตัวเองมาก และท่านละครับรักตัวเองไหม?

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ไม่ได้แบ่งแยกชนชั้น เพศ ศาสนา ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรักและมอบความรักให้กันและกัน  หัวข้อนี้ที่ผมอยากจะยกขึ้นมาพูดก็เพราะว่า ในสังคมยุคนี้ทุกคนต่างก็มีความต้องการกันมากขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งความรัก  ปัญหาสังคมในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าครอบครัวในยุคนี้แตกแยกกันมากขึ้น การทะเลาะตบตี ทำร้ายร่างกาย คดีข่มขื่นกระทำชำเร้า เหตุการณ์เหล่านี้ได้ฟังแล้วก็สะเทือนใจกันไม่น้อยเลยครับ

มาพูดถึงสาเหตุกันจริงๆผมมองว่า นั่นเพราะมนุษย์เราขาดความรักในตัวเองไงครับ ทุกวันนี้เราวิ่งตามสังคม เราคาดหวังความรัก การยอมรับจากคนอื่น จนลืมรักตัวเราเอง พอเกิดปัญหาเราก็มักจะโทษสิ่งต่างๆรอบตัว จนลืมนึกไปว่าตัวเราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเลย  สังคมปัจจุบันกระตุ้นให้เรารู้สึกว่าเราขาดอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่เรามีมันยังไม่ดีพอ ยังไม่สวยพอ จนลืมอยู่กับตัวตนที่แท้จริงของเรา

บางครั้งเราเอาแต่วิ่งตามคนอื่นไม่หยุด เราเหนื่อยกับบางเรื่องที่ไม่จำเป็นกับชีวิตของเรามากเกินไป เรารัก เราศรัทธาตัวเองน้อยลง จนต้องหันไปพึ่งพาสิ่งภายนอกไม่ว่าจะเป็นบุคคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางของขลัง

เงินจำเป็นกับชีวิตแต่มนุษย์เรากับไปให้คุณค่ามันมากกว่าการดำรงชีวิต เรียกว่าเกินพอดี  เราบูชาเงินปล่อยให้เงินมามีอำนาจเหนือทุกสิ่ง  หยุดเถอะครับอย่าวิ่งตามสังคมมากไป กลับมามองตัวเอง ว่าเราต้องการอะไรให้กับชีวิตของเราและโลกใบนี้กันแน่

บางอย่างเราวิ่งหามันมักจะวิ่งหนี  บางอย่างเรายิ่งหนีกลับยิ่งเจอ จงเป็นนายของทุกสิ่งครับ ใช้ชีวิตแบบมีสติ แบบที่เราต้องการ ดีงาม เป็นประโยชน์ เพื่อตัวเราเองและสังคม วันนี้สวัสดีครับ

อย่าจมอยู่กับอดีต

หลายครั้งที่เราปล่อยให้เราจมอยู่กับอดีต จนบางครั้งก็รู้สึกว่าชีวิตของเราไม่ก้าวไปข้างหน้าสักที เราเอาแต่โทษสิ่งต่างๆ นึกถึงเรื่องบางเรื่องเหตุการณ์บางเหตุการณ์  จนไม่ยอมอยู่กับปัจจุบัน  เราเอาชีวิตทั้งชีวิตของเราจมอยู่กับบางสิ่งที่เราไม่สามารถเรียกมันกลับมาได้

ในหลายครั้งอดีตกลับมาส่งผลร้ายกับปัจจุบันและคนรอบข้างของเรา จนในที่สุดเราอาจจะเสียคนดีๆไป ความเจ็บปวดในอดีต เรื่องต่างๆที่มันผ่านไปแล้ว ขอให้ลืมมันให้หมดเลยนะครับ เริ่มตั้งแต่วันนี้สร้างสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิตในแบบที่เราต้องการ

ทุกท่านเป็นอะไรก็ได้อย่างที่ใจท่านปรารถนา เช่นหากต้องการเป็นนักลงทุน ก็พยายามศึกษาหาความรู้ด้านการลงทุนให้มากๆ  พยายามเอาตัวเองไปสู่สิ่งที่เราต้องการ ทำตัวเองให้พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้และสนุกกับมัน ไม่นานท่านจะเจอคนแบบที่ท่านเชื่ออย่างแน่นอน

ความสำเร็จไม่มีขา อย่าเอาแต่นั่งนึกเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวพัฒนาต่อยอดมันให้ดีที่สุด เชื่อมั่นในตัวเอง และทำตามเสียงหัวใจของท่าน เวลาไม่เคยรอใคร จงเลือกทำในสิ่งที่สำคัญและสิ่งที่เรารัก สุดท้ายความสำเร็จรอทุกท่านไปเอามาให้ได้ครับ ผมเอาใจช่วย

อย่าอยู่กับปัญหาจนลืมเป้าหมายในชีวิต

         

         คนสำเร็จทุกคนรู้กฏข้อนี้เป็นอย่างดี  หลายคนถามว่าตัวเองเก่งแต่ทำไมยังไม่รวยสัก ที  จะรวยได้ไงละครับ ก็คุณเอาแต่จมอยู่กับปัญหา
           ทุกสายงาน ทุกอาชีพ ล้วนมีปัญหาให้เราแก้เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ  ปัญหาเป็นเรื่องที่ดีนะครับเมื่อท่านก้าวผ่านมันไปแล้วท่านจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอน  ข้อสำคัญของคนสำเร็จในยุคนี้คือ  อยู่กับปัญหาให้ได้แต่อย่าเอาตัวเองไปยึดติดกับปัญหามากไปจนลืมเป้าหมายของชีวิต
      เวลาที่ท่านเครียดกับปัญหาลองหาอะไรสนุกๆทำดูครับ ถอยออกมาสักพักมองภาพใหญ่แล้วเดินหน้าต่อไป  ปัญหาบางอย่างแก้ได้ให้รีบแก้ บางอย่างยังแก้ตอนนี้ไม่ได้ก็ต้องพักไว้ก่อน
        ข้อสำคัญคือไม่ว่าท่านจะทำอะไรอยู่ก็ตาม ขอให้เชื่อก่อนว่ามันจะสำเร็จ เพราะเมื่อจิตใต้สำนึกเราสร้างความสำเร็จไว้ เราจะหาวิธีการที่จะนำเราไปสู่สร้างความสำเร็จอย่างแน่นอน  ความคิดไม่มีถูกผิดหรอกครับ  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผลลัพธ์จากการลงมือทำนั่นเอง

พักผ่อน

      ชีวิตเราแท้จริงก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าปัจจัย 4 เพื่อดำรงชีวิต  บางครั้งที่เรารู้สึกเหนื่อย ถามตัวเองจริงๆเถอะครับว่าคุณเหนื่อยอะไรกันแน่

     ฝึกตัวเองให้อยู่ปัจจุบัน มีความสุขกับการใช้ชีวิตทำให้เต็มที่และทำให้ดีที่สุด  เวลาที่เครียดให้เราฝึกหัวเราะให้มากๆ  ไม่งั้นก็ลองหลับตาลง นับ 1-10  หายใจเข้าออกยาวๆๆ ความสุขมันอยู่รอบตัวจริงๆครับ

    หลายคนบ่น กับปัญหาต่างๆในชีวิตแท้จริงทุกอย่างล้วนมีเหตุผลในตัวมัน  บางอย่างคือบททดสอบให้เราได้เรียนรู้ฝึกฝน  เพื่อให้เราเป็นคนที่แกร่งขึ้น มีภูมิคุ้มกันตัวเองมากขึ้น  

เวลาที่คิดไรไม่ออกผมแนะนำให้หยุดคิดก่อน หาไรสนุกๆทำ  เราเกิดมาใช้ชีวิตมีความสุขกับมันและเต็มที่กับทุกวินาทีของชีวิต ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ให้ใช้เวลานี้ลองทบทวนตัวเองให้มากๆ อยู่กับตัวเอง ถามคำถามที่ถูกต้องกับตัวเอง แล้วคำตอบที่ท่านต้องการมันทั้งชีวิตจะมาจากตัวคุณเอง

      ขอให้ทุกท่านอย่าหยุดคิด อย่าหยุดฝัน ก้าวต่อไป จะช้าหรือเร็วไม่สำคัญเท่ากับท่านเริ่มทำตามฝันของท่านหรือยัง เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีฝันครับ

ชีวิตเด็กๆ

คนเรามีความฝันในวัยเด็ก เชื่อว่าหลายๆท่านเมื่อเจอกับความวุ่นวายตอนที่เราโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เรามักจะหวนถึงอดีตอันหอมหวานตอนเป็นเด็กอีกครั้ง  ชีวิตในวัยเด็กบอกเล่าเรื่องราวต่างๆมากมายที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราในวันนี้

ในช่วงเวลาที่ท่านอยากพักผ่อนหรือรู้สึกเหนื่อยกับงาน  ชีวิต ครอบครัว ลองหาที่สงบๆอยู่เงียบๆคนเดียวสักครั้ง  บางทีในความเงียบท่านอาจจะพบคำตอบของหัวใจที่ท่านเรียกร้องมาทั้งชีวิตก็ได้ครับ

ชีวิตตอนเด็กทุกอย่างดูเป็นเรื่องง่ายไปหมด ทุกอย่างคือการเรียนรู้  เราสามารถสนุกกับมันได้ทั้งวันแบบไม่น่าเบื่อ  ผมอยากให้ท่านนึกถึงบรรยากาศตอนนั้นแล้วลองนำมาปรับใช้ในชีวิตเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่  สนุกกับการใช้ชีวิต  สนุกกับการท่องเที่ยว ผจญภัยไปในที่ใหม่ๆ บางทีท่านอาจจะเจอตัวเองจริงๆก็ได้นะครับ

ลองใช้ชีวิตในแบบที่ท่านไม่เคยได้ใช้มาก่อน อยู่กับธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ต้องใช้เงิน ท่านจะรู้สึกว่าชีวิตมันเบามาก  เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าตัวเองอยู่ไม่ได้กับสถานที่ลำบากไม่มีไฟฟ้าใช้ อาหารการกินที่แสนลำบาก   แท้จริงการที่เรามาอยู่กับธรรมชาติชีวิตเรามันง่ายมากๆครับ เรามีเวลามากขึ้น เรารู้จักตัวเองมากขึ้น ถามว่าเหงาไหมมีบ้างแต่ถ้าไม่ยึดติดกับชีวิตใจเราก็เป็นสุขมากจริงๆครับ  การรู้จักการรอคอยอะไรบางอย่างมันมีค่ากับชีวิตเรามาก ในจังหวะเวลาที่ไม่รีบเร่งจนเกินไปทำให้เรามองเห็นเหตุการณ์ ทุกสิ่งทุกอย่างแบบเข้าใจมันจริงๆและชัดเจนมากขึ้น  ทุกอย่างมีกฏเกณฑ์ของมันอยู่แล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกรักตัวเองมากขึ้นครับ ได้เห็นตัวเองและเข้าใจตัวเองอย่างสุดๆไปเลย จากนี้ไปผมพบคำตอบของหัวใจผมละครับ แล้วท่านละพบหรือยัง

ทบทวนสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน

นิสัยบางอย่างของคนไทยที่เรามักละเลยกันมาตลอดนั่นคือ  ความมีวินัยโดยเฉพาะเรื่องการปลูกฝั่งตั้งแต่เด็ก ให้เด็กต้องคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ในแต่ละว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรและจะปรับปรุงตัวเองให้เป็นไปตามแผนการหรือเป้าหมายให้ดีขึ้นได้หรือไม่

ผมไม่ขอโทษระบบการศึกษานะครับทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและอิทธิพลทางสังคมของประเทศนั้นๆเป็นแรงผลักดัน  แต่ที่จะยกถึงก็คือพื้นฐานหรือการปูรากฐานตั้งแต่เด็กผมว่ามีส่วนอย่างมากให้เด็กโตขึ้นเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพและประสบความสำเร็จในชีวิตได้

แต่เอ๊ะแล้วถ้าอย่างเราเป็นผู้ใหญ่แล้วละจะต้องทำอย่างไร  ไม่ยากหรอกครับถ้าคุณมองตัวเองดีๆ ในความเป็นผู้ใหญ่ก็ยังแฝงบางมุมของความเป็นเด็กที่เราได้ปลูกฝังเอาไว้  ดังนั้นต้องแก้พื้นฐานความเชื่อ ความคิด ทัศนคติที่ปลูกฝั่งเราในวัยเด็กที่เราคิดว่าจะต้องเปลี่ยนความเชื่อนี้ให้ได้ก่อน  จากนั้นคุณจะค่อยๆเห็นผลลัพธ์ของชีวิตที่มันเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

การพัฒนาตัวเองถือเป็นเรื่องสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะสิ่งนี้ล้วนส่งผลต่อความก้าวหน้าและความสำเร็จในชีวิตได้  ข้อแนะนำให้ท่านผู้อ่านทำทุกวันก็คือ  ต้องฝึกทบทวนตัวเองในแต่ละวัน พิจารณาให้ถี่ถ้วนสิ่งไหนจำเป็นกับชีวิตเราจงทำและเก็บไว้  สมองเราไม่สามารถเก็บเรื่องราวทั้งหมดได้ ฉะนั้นจงจำแต่เรื่องที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์เพื่อต่อยอดในอนาคตได้

เมื่อคลังข้อมูล ความเชื่อ ทัศคติคุณอยู่ในด้านที่ถูกต้องตรงกับสิ่งที่คุณคิดภายใน  กระแสจิตหรือพลังอำนาจแฝงบางอย่างจะเป็นตัวผลักดันให้เราไปเจอผู้คน เหตุการณ์ต่างๆ ตามสิ่งที่เราคิด หรือเรียกว่า "กฏแห่งแรงดึงดูด" นั่นเอง

รู้จักตัวเองดีหรือยัง

ใช่ครับหลายคนบนโลกใบนี้ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต  เราเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง
บนโลกใบนี้  เราเรียนรู้ผู้คน ศึกษาความสำเร็จจากคนต่างๆ เรารู้จักผู้คนมากมาย ประสบการณ์มากมาย และที่สำคัญเราเก่งขึ้น แต่ทำไมเรายังไม่ประสบความสำเร็จละครับ

ผมเชื่อว่านี่เป็นคำถามที่คาใจใครหลายๆคน คุณไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดวิธีเลย บางคนก็มีแม้กระทั้งเป้าหมายของตัวเองชัดเจนด้วยซ้ำ  ฉะนั้นสิ่งที่คุณควรตอบตัวเองให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกก็คือ "คุณรู้จักตัวเองดีพอหรือยัง"  รู้จริงๆไหมครับว่าอะไรคือความต้องการที่แท้จริงของคุณ

มีจุดดี จุดด้อยอะไรบ้างและมีความสามารถอะไรที่จะนำตัวท่านให้สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ได้  ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับค่อยๆคิดไป ข้อดีของการรู้จักตัวเองจะทำให้เราประสบความสำเร็จง่ายขึ้นเนื่องจากเรามีความชัดเจนนั่นเอง

ข้อสำคัญอีกอย่างหหนึ่งก็คือ เมื่อรู้จักตัวเองดีพอแล้วจากนั้นก็เริ่มวางแผนการชีวิตเลยครับ นำพาตัวเองไปสู่โลกที่ตัวท่านต้องการจะเป็น ต้องการความสำเร็จจากมัน (ความสำเร็จไม่มีขาครับ อยากได้ต้องไปตามหามันเอง) เอาตัวเราไปอยู่ในแวดวงนั้น ตั้งใจมุ่งมั่น กัดไม่ปล่อย ไม่ยอมล้มเลิกใดๆทั้งสิ้น  ประกาศจุดยืนและเวลาให้ชัดเจน เดินตามแผนการที่วางไว้ ง่ายๆแค่นี้เองครับ ขอให้ทุกท่านจงเจริญ

นับจากนี้อีก 2 ปี

นี่คือสิ่งที่ผมตั้งปฎิญานกับตัวเองครับว่าจะเลิกเป็นมนุษย์เงินเดือน และเดินตามเส้นทางที่ตัวเองต้องการอย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที  หลายคนคงคิดเหมือนผมและต่างมีเหตุผลของตัวเองครับไม่ผิด

ส่วนตัวผมงานประจำไม่ตอบโจทย์ผมในหลายๆเรื่อง เช่น
1.ผมไม่เหมาะกับการเข้าออกงานเป็นเวลา
2.ผมชอบทำงานตอนกลางคืนเพราะในตอนกลางคืนสงบและทำให้จิตเรานิ่งได้
3.ผมเป็นคนนอนดึกและชอบตื่นสาย
4.ผมชอบการท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆมากกว่ามานั่งที่ออฟฟิตนานๆ
5.ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 10 ปีเทรดของโลกจะเปลี่ยนการที่คุณมานั่งอยู่ที่ย่อมทำให้สุดท้ายคุณต้องถอยหลังลงคลองอย่างแน่นอน

ผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งครับว่า คนจะรวยไม่ได้รวยจากงานพื้นหรืองานปกติธรรมดาทั่วไปหรอกครับ ยกเว้นแต่คุณเป็นผู้บริหารมืออาชีพนะ ถ้านอกเหนือจากนั่นก็คือ นักธุรกิจ นักลงทุน นักพัฒนา เหล่านี้แน่นอนครับ แต่การจะไปถึงจุดนั้น ไม่ง่ายแต่ก็ไม่เกินความสามารถของมนุษย์เราหรอกครับ

หลายคนมีความฝันและหยุดฝัน บางคนก็มุ่งหน้าทำไปเรื่อยๆยังไม่เห็นหนทางแห่งฝัน  บางคนสำเร็จ  บางคนล้มเหลว ทุกคนมีสิทธิ์เลือก  ข้อสำคัญคือขจัดความกลัวออกไปจากใจคุณให้หมด ล้มเหลว ท้อแท้ ผิดหวัง ดีใจ ร้องไห้ทุกอย่างกำลังพาเราไปหาจุดที่ดีที่สุดครับขอให้เชื่อมั่นในตัวเราเอง รัก ศรัทธาในความสามารถของเรา และแบ่งปันประโยชน์ให้กับโลกใบนี้  เอาเลยครับคุณพร้อมรวยไปด้วยกันหรือยัง

การเข้าใจสไตส์ของตัวเอง

สไตส์หรือไลฟ์สไตส์ก็คือ สิ่งที่บ่งบอกตัวเองไว้อย่างชัดเจน ธุรกิจ การเงิน การลงทุนล้วนแฝงไปด้วยแง่คิดและไลฟ์สไตส์ของคนๆนั้น

ทำไมบางคนร่ำรวย  ไม่ใช่เพราะไลฟ์สไตส์นะครับที่ทำให้รวยแต่มันคือ ความคิดของเขาต่างหาก  คนรวยก็คือคนที่เขาพร้อมที่จะรวยด้วยการวางแผนการลงทุนและมีวิธีการบริหารจัดการในทุกๆเรื่องไว้อย่างชัดเจน  คอยปรับปรุงแก้ไขพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ

สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือความเชื่อมั่นในตัวเราว่าต้องประสบความสำเร็จ และมีระยะเวลาที่บอกตัวเองไว้อย่างชัดเจน  บางทีสิ่งที่คุณค้นหาอาจอยู่แค่ใต้จมูกของตัวเองก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่องหรอกครับ ขอให้เก่งเรื่องเดียวและเป็นเรื่องที่ตัวเองถนัดที่สุด

ทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกครับแต่ขึ้นอยู่ที่การฝึกฝนเอาใจใส่เรียนรู้ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นคนเก่งและประสบความสำเร็จได้  บนเส้นทางที่เรารู้สึกหมดหนทางแท้จริงเพราะเรายังไม่พร้อมต่างหาก ยังแข็งแกร่งไม่พอ ยังฝึกฝนไม่มากพอ ฉะนั้นเริ่มเลยครับลงมือฝึกฝนให้หนัก เพราะผลงานและความมุ่งมั่นของเราจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราร่ำรวยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน

ความสำเร็จมีโครงสร้าง

ใช่ครับทุกอย่างมีโครงสร้างของมันอยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญสุดก็คือโครงสร้างทางความคิด หรือพิมพ์เขียวของคุณนั่นเอง

ถ้าคุณคิดว่าคุณจะรวยคุณก็พร้อมที่จะรวย มันง่ายแค่นี้เองครับ

ทุกอาชีพบนโลกใบนี้ทุกคนมีสิทธิ์รวยและประสบความสำเร็จขอแค่คุณไม่ล้มเลิกเองครับ  ในยุคสมัยนี้มีคนสำเร็จมากมาย สิ่งที่คุณทำได้คือศึกษาบนเส้นทางของเขา และทำตามแบบอย่างของเขาง่ายๆแค่นี้เอง

จงทำตัวคุณให้ง่ายๆและชัดเจนเข้าไว้ครับ  เวลาเจอเรื่องแย่ๆหรือปัญหาเทคนิคนี้ใช้ได้ครับให้พูดคำว่า "ดีจัง" แล้วมันจะดีขึ้นอย่างอัตโนมัติเลยครับ เช่น

ดีจังที่เราเกิดมาลำบากและจน เพราะทำให้เราเป็นคนอดทนขยันทำมาหากินและคุณจะร่ำรวยในไม่ช้า

จะเห็นได้ว่าความสำเร็จล้วนมีโครงสร้างที่ชัดเจน ทั้งนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนและมีวินัย     ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอเรียกว่าเตรียมพร้อมที่จะรวยแล้วความรวยจะเข้ามาหาคุณเอง

มีแผนการที่ชัดเจน

ผมชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างหนึ่งครับ  นั่นคือ ความมีวินัย สิ่งนี่เป็นพื้นฐานของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตเลยครับ
วัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่เด่นชัดมากและเราควรเิามาเป็นแบบอย่าง คือ เวลาเขาจะทำอะไร เขาจะวางแผนงานและมีโปรเจคที่ชัดเจนสามารถวัดผลได้ ผมได้มีโอกาสชมรายการของ ไทยพีบีเอส (รายการดูให้รู้) ขอเล่าคราวๆนะครับ

เวลาที่คนญี่ปุ่นจะมาทำการเกษตร ปัจจุบันประเทศนี้ก็ให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและมีแบบแผนชัดเจน โดยเริ่มจากหาผู้ที่สนใจเป็นเกษตรเข้ามาสัมภาษณ์กับโครงการของภาครัฐ กระบวนการแรกก็เป็นการสอบถามข้อมูลทั่วไป จากนั้นก็ให้เขียนโครงการขึ้นมาว่าจะทำอะไร โดยภาครัฐจะสนับสนุนในเรื่องพื้นที่และทุนให้

ในรายละเอียดโครงการก็ต้องประกอบไปด้วยแผนงาน สิ่งที่จะทำ ตลาด และกระบวนการจัดจำหน่าย  โดยมีโรงเรียนสอนให้ นักเรียนที่เข้ามาศึกษาก็จะได้เรียนรู้ทุกขั้นตอนในการทำเกษตรจนถึงการหาตลาด การทำแพ็คเก็จต่างๆ เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ

สิ่งที่ทำให้ผมเห็นลู่ทางในอนาคตไม่ว่าประเทศของเราจะพัฒนาไปในทิศทางไหน ปัจจัย 4 ก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นมากโดยเฉพาะ อาหารและยา  ในอนาคตธุรกิจอาหารและยาสมุนไพรต่างจะได้รับความนิยมและไม่เอาท์ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามามากมาย

ดูได้จากหลายๆประเทศที่พัฒนาแล้วต่างก็เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ อาหารการกินกันมากขึ้น โลกในศตวรรษที่ 21 ผู้คนจะมีอายุยืนขึ้น ประชากรโลกจะมากขึ้นตามไปด้วยและอาหารจะขาดตลาด ใครที่ทำธุรกิจนี้รับรองว่ากำไรเห็นๆครับ

มองชีวิตของคุณให้ลึกๆ  อะไรที่สำคัญและจำเป็นกับชีวิตคุณจริงๆ เมื่อชัดเจนกับเป้าหมายแล้วก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่ลังเล คิดเล็กคิดใหญ่ใช้เวลาเหมือนกันฉะนั้นคิดใหญ่ไปเลย
เมื่อคุณเข้าใจกฎแห่งความสำเร็จแล้วคุณจะเข้าใจความสำคัญของเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามามายกว่าเงินทองที่หามาได้อีก จำไว้ว่าจงทำประโยชน์ให้แก่โลกแล้วโลกจะตอบแทนคุณเอง

ทางสายกลาง

เมื่อวานผมดูข่าวเกี่ยวกับงานเปิดตัวอะไรสักอย่างของ กสทช มีการพูดถึงประเด็นถึงสื่ออินเตอร์เน็ตที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าโลกใบนี้ไป หลายๆธุรกิจก็จะล้มหายตายจาก เกิดระบบใหม่ๆขึ้น

ใช่ครับผมยอมรับว่าปัจจุบันอินเตอร์เข้ามามีบทบาทในสังคมโลกอย่างที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ  ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ การค้าขาย หุ้น การลงทุนต่างทุกอย่างล้วนเป็นรูปแบบใหม่ทั้งสิ้นถ้าให้มองกันจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ  มันเปลี่ยนแปลงตามรูปแบบสมัยและจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

มาเข้าสู่สิ่งที่ผม ท่านกำลังสงสัยกันมากเลยว่า  แล้วการเปลี่ยนแปลงจะส่งผลกระทบอะไรกับเราบ้างในอนาคต เปลี่ยนแน่นอนครับวันนี้ผมมีข้อแนะนำ

1.ทางสายกลางครับอย่าทำอะไรสุดโต่งไป เชื่อว่าในทุกๆการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดสิ่งใหม่ๆทดแทนอย่างแน่นอนอย่าได้กังวลไปขึ้นอยู่ว่าใครจะเห็นโอกาสมากกว่ากัน
2.นึกถึงสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การงาน การเงิน แล้วพยายามเชื่อมโยงให้เข้ากับโลกออนไลน์ให้มากขึ้น
3.มีสติ ข่าวสารที่หลั่งไหลมาในโลกออนไลน์มีทั้งจริงและเท็จควรมีสติ รอบคอบพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะเชื่อข่าวสารนั้น
4.นวัฒกรรมใหม่ จุดเด่น ความชัดเจน มีตัวตน มนุษย์เป็นสัตว์สังคมยังไงก็ต้องมีการติดต่อสื่สารไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปอย่างไรพื้นฐานก็ยังคงเดิมคือ ยังต้องมีการติดต่อสื่อสารตราบใดที่ยังดำรงชีวิตอยู่
5 การกระตุ้นอารมณ์ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กามอารมณ์ เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงครับ หากคุณมองพื้นฐานของธุรกิจล้วนเกี่ยวเนื่องกับสิ่งเหล่านี้ และปัจจัยหรือตัวขับก็คือ กิเลส ในทางพุทธศาสนานั่นเองครับ เมื่อคุณมองทะลุสิางเหล่านี้คุณก็มองอะไรออกทุกอย่าง
6 ยอมรับเข้าใจการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องธรรมดาจริงๆครับ ยุดสมัยเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ สิ่งใหม่ๆย่อมมาแทนที่สิ่งเดิม หน้าที่ของเราคือยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพราะการเปลี่ยนแปลงทำให้เราเติบโต

การใส่ใจในรายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกนิด

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะธุรกิจใดๆก็แล้วแต่ทุกคนล้วนแล้วแต่ใส่ใจในรายละเอียดที่มากขึ้น เช่น

- คนทำอาหารมีความใส่ใจในรายละเอียดวิธีการทำอาหารแล้ว ยังรู้จักสังเกตุพฤติกรรมผูบริโภค การจำชื่อและรายละเอียดปลีกย่อย
- นักลงทุนที่สอนการลงทุนนอกจากมีความรู้ในศาสตร์แห่งการลงทุนแล้ว ยังเข้าใจพฤติกรรมของลูกศิษย์หรือแนวความคิดในการลงทุนและกิจกรรมอื่นๆที่เขาสนใจ รอบรูเทรนต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- นักธุรกิจนอกจากเข้าใจและรักในธุรกิจนั้นๆแล้ว ยังต้องเข้าใจเรื่องการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละท้องที่ และภาพรวมธุรกิจนั้นๆในแต่ละมุมโลก เข้าใจรายละเอียดอย่างชัดเจน สัมผัสได้ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง

โดยรวมแล้วผมสรุปสั้นๆ คือ การเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคนั่นเองครับ  เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เมื่อคุณเข้าใจธุรกิจ มุมมองของธุรกิจของคุณ ผู้บริโภค และรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มขึ้นอีกสักนิด ผมเชื่อว่าคุณประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน  จำไว้ครับว่า ผู้คนจะกล่าวถึงคุณจากสิ่งที่คุณได้ทำให้มันเป็นสิ่งวิเศษสำหรับเขาจริงๆๆ ราตรีสวัสดิ์ครับ

อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียว

เราคาดหวังจากฮีโร่ของเรา  อยากเป็นเหมือนเขาอยากทำได้แบบเขา  จนลืมไปว่าเบื้องหลังความสำเร็จกว่าเขาจะมาถึงจุดนี้เขาผ่านความล้มเหลวอะไรมาบ้าง

ไม่มีชีวิตใครเกิดมาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกครับ ทุกชีวิตล้วนเจอปัญหาอุปสรรคมากมาย  สิ่งที่สำคัญคือ คุณต้องเข้มแข็ง

การมองโลกในแง่บวกก็จำเป็นนะครับเมื่อชีวิตเจอสิ่งที่ไม่ได้ดังหวัง  วินัยคือ ตัวสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จ  บางครั้งเราฟังเรื่องราวชีวิตของผู้คนก็ทำให้เรารู้ว่า ทุกคนล้วนมีเรื่องราวและเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่ก็ต้องการไปถึงเส้นชัยเหมือนกันหมด

ผมว่าชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จหรอก ถ้ามีคงไม่มีคนจนคงมีแต่คนรวยเต็มเมืองไปละครับ หากมองให้ลึกและกว้างขึ้น ยุคสมัยและระบบการปกครองของสังคมนั้นๆล้วนส่งผลต่อฐานะความเป็นอยู่ ทัศนคติต่อการใช้ชีวิตของเราทั้งนั้น

ในหัวผมตอนนี้เป้าหมายก็ยังคงยืนยันเป็นเรื่องเดิม และการต่อยอดให้ดีขึ้น  ผมมั่นใจว่ามันเป็นจริงได้อย่างแน่นอน อีกไม่นานนี้แหละครับ ค่อยๆแกะรอยมันแล้วสักวันต้องเจออย่างแน่นอน  การลงทุนทุกอย่างต้องเริ่มจากความคิดก่อนครับ เมื่อความคิดเปลี่ยนการกระทำและผลลัพธ์ย่อมเปลี่ยนไปเป็นเรื่องธรรมดา

ขอให้ทุกท่านที่เดินทางตามหาอะไรบางอย่างในชีวิตและมั่นใจตัวเองว่าเรามาถูกทางแล้ว อย่าได้ท้อไปนะครับขอให้มุ่งมั่นและเดินหน้าต่อไป ทุกอย่างต้องสำเร็จอย่างที่ทุกท่านตั้งความหวังไว้อย่างแน่นอน

มุ่งมั่น ทุ่มเท และทำให้ดีที่สุด

อะไรที่ดีจงทำให้ดีต่อไป อะไรที่แย่เรียนรู้ปรับปรุงแก้ไขกันได้  ทุกการเดินทางทุกชีวิตล้วนมีจุดหมายที่แตกต่างกันไป  ทุกคนมีสิทธิที่จะฝันและเลือกทางเดินในชีวิตของเราเอง  ลองใช้ชีวิตอยู่แบบไม่ใช้เงินดูซิ  บางทีคุณอาจมองเห็นความสุขซ่อนอยู่ก็ได้

ผมเคยเครียดคิดมาก กังวลจนนอนไม่หลับกับเรื่องบางเรื่อง กับคนบางคนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่พอเวลามันผ่านไปมันก็แค่จะสอนให้เราต้องรู้จักถอยออกมาบ้างอย่าไปดันทุรังจนหาความสุขให้ตัวเองไม่ได้

คุณไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้อะไรมากมายหรอกครับ  สิ่งที่ควรรู้มากที่สุดก็คือใจของเราเอง  ใจมีที่ตั้งคอยฟังเสียงภายในใจ  ลองอยู่เงียบๆๆคนเดียว  แล้วฟังเสียงความต้องการนั้น ไม่มีคำว่าท้อแท้ผิดหวังหรือสิ้นหวังจริงๆหรอก  ชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นเรื่องธรรมดาสามัญในท้ายที่สุดเราก็เอาอะไรไปไม่ได้

ชีวิตที่เป็นอยู่จะทำอะไรให้ตัวเรามีจิตใจที่สูงขึ้น  มีความสุข มีชีวิตที่สงบ  ความร่ำรวยต้องเกิดจากภายในใจเราก่อนแล้วมันจะสะท้อนมาให้เราได้รับจากสิ่งภายนอกตามจิตใจของเรา  เราจะได้ทุกอย่างต่อเมื่อเราคู่ควรที่จะได้รับมัน  ใครที่เริ่มท้อ หมดหวังขอให้เดินไปต่ออีกนิดนะครับแสงสว่างรออยู่ ทดอีกนิดนะครับเราจะสำเร็จไปด้วยกัน

เพราะชีวิตคือการเปลี่ยนแปลง

หากคุณไม่เคยเดินทางไปไหนเลย หรือมีโอกาสไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างจากที่เป็นอยู่คุณย่อมไม่รู้ไม่เห็นการเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ  บางครั้งสิ่งที่คุณมองว่าเป็นปัญหา มันมีโอกาสซ่อนอยู่เสมอ ลองมองมันดีๆอย่ามองโลกแบบคนมีอคติ แล้วชีวิตใหม่จะเปิดทางให้คุณเอง  มีประโยคหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ของชาลี มังเกอร์ คำพูดนั้นกล่าวไว้ว่า  สำหรับคนที่มีค้อนอยู่ในมือ ทุกๆปัญหาก็เหมือนกับตะปู

ใช่ครับเราอาจไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรแต่สิ่งที่เราทำได้ทันทีก็คือ มีความสุขกับปัจจุบัน สิ่งที่ทำในวันนี้เราอาจมองไม่เห็นค่า เราอาจคิดว่าเป็นแค่มนุษย์ตัวเล็กๆที่ไม่ได้มีอะไร  ใช่ครับผมกำลังจะบอกว่า การที่เราเป็นคนธรรมดาแต่ใช้ชีวิตแบบไม่ธรรมดานะดีที่สุดแล้ว

ตอนเป็นเด็กเราก็คิดอีกแบบ พอโตขึ้นมีหลายเรื่องให้คิดความคิดแบบเด็กๆก็ค่อยๆหายไป  ช่วงชีวิตมีขึ้นๆ ลงๆ จนผมมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว  ผมไม่บอกหรอกนะครับว่าผมปฎิเสธเงินทอง  เงินก็คือสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอยู่ครับ  เพียงแค่อยากจะให้ลองมองอีกมุมหนึ่งของเรา แล้วมาสร้างวิธีทำเงินจากสิ่งรอบตัว  อาจฟังดูตลกแต่มันคือเรื่องจริงครับ

ในทุกเช้าและก่อนนอนลองนึกถึงสิ่งที่คุณต้องการจะเป็น และต้องการจะทำนึกถึงมันเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณแล้ววันหนึ่งสิ่งนั้นจะปรากฎต่อคุณเองครับ

ไม่ยากหรอกครับ

บทความก่อนหน้าที่ผมเอามาจากของพี่แพท มีอะไรให้ผมฉุกคิดไว้มากมายหลายเรื่องทีเดียวครับ

ในยุคนี้หาโอกาสง่ายมากแทบไม่ต้องไปดิ้นร้นอะไรมากมายเริ่มจากใกล้ตัวคุณก่อน  มีอะไรที่คุณพอจะทำเงินจากมันได้ ย้ำนะครับทำเงินมิใช่ทำงาน

เชื่อว่าหลายคนยังนึกไม่ออกเพราะคุ้นชินกับการทำงานประจำ  ไม่ใช่เรื่องแปลกไรครับ ชีวิตไม่ได้บัดซบซะหน่อย ทีนี้ลองมานึกก่อนว่ากิจกรรมอะไรที่คุณชอบทำและรักที่จะทำไม จากนั้น

1. ตั้งคำถามว่าสามารถสร้างรายได้ให้เราไหมถ้าได้ลุยครับ ถ้าไม่ก็หาสิ่งอื่นที่ชอบและสามารถทำเงินได้แทน
2. เรามีความสุขกับสิ่งนั้นและทุ่มเทให้มันอย่างจริงจังไหม
3. หาช่องทางตลาด และลูกค้า
4.วางแผนและทำตามแผนที่ตั้งไว้

สเต็ปมันง่ายแค่นี้เองครับ อย่ามโนเอาแต่นั่งคิดสิ่งวิเศษจนไม่ลงมือทำอะไรเลย  วันนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่วันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปต้องมีอย่างแน่นอน อย่ารอให้โอกาสวิ่งเข้าหาจงสร้างโอกาสนั้นเอง

คำสอนจากพี่แพทครับ

'อย่ารอโอกาส แต่ให้หาโอกาส และใช้ชีวิตแบบนักผจญภัย'

มีแนวทางหาโอกาสจากจุดที่เราอยู่ 5 ข้อมาฝากกัน ดังนี้

1. ห้ามนั่งเฉยๆ ..คนส่วนใหญ่นั่งทำงานอยู่เฉยๆ รอว่า เมื่อไหร่จะมีบริษัทไหนมาเชิญไปเป็น CEO จะได้รวยกับเขาสักที ..ไอ้นี่สงสัยอ่านสามก๊กมากไปหน่อย ...เฮ้ย!! ตื่น ..ยุคนี้ไม่มีใครไปเชิญขงเบ้งอย่างคุณไปเป็นนายเขาหรอก ..ยุคนี้ขงเบ้งต้องลงจากเขาไปหางานทำ -- ดังนั้น ยุคนี้ห้ามนั่งเฉยๆ ..โชคมันไม่ได้อยู่ในงานประจำที่เราทำ แต่โชคมันอยู่ที่งานเสริมที่คุณทำระหว่างงานประจำ (บทความนี้อย่าให้หัวหน้าอ่าน เพราะ เขาคงไม่พอใจ แต่ผมบอกคุณเลยว่า ยุคนี้ไม่มีใครอยู่ได้จากงานประจำงานเดียวอีกแล้ว ..ยุคนี้คนรุ่นใหม่มีมากกว่าหนึ่งงาน ..ขายของออนไลน์ , เปิดท้ายขายของ , เปิดร้าน , ขายของ , ขายตรง , เทรดหุ้น , เล่นหุ้น , ลงทุน , ซื้อขายเช่าอสังหา , เปิดตลาด หรือ จะขายอะไรก็ว่าไป)

2. เรียนรู้ชีวิตจากงานไม่ประจำ ..งานที่สอง สาม สี่ ที่เราแอบทำ นั่นแหละ สอนชีวิต เพราะ คุณจะรู้จักชีวิตจริงจากงานเสริมนี่แหละ ว่าโลกจริงๆ การขายของ การซื้อของ การทำมา หาเงิน เขาทำกันอย่างไร คนซื้ออะไร ขายอะไร ..ตรงนี้เขาเรียกโรงเรียนชีวิตและความโชคดี

3. ทักษะจากงานเสริม จะนำโชคมาสู่ชีวิต ..ตรงนี้เป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่รู้ ..เพราะ จริงๆ แล้วสิ่งที่นำโชคมาให้ตัวเราคือ ทักษะการหาเงินในชีวิตจริง ที่คุณค่อยๆ พัฒนาขึ้น

4. เพื่อนใหม่ในงานไม่ประจำ จะนำโอกาสเข้ามาในชีวิต ..อันนี้รวมถึงลูกค้า และ คนที่ทำธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งการลงทุนของคุณ จะพาให้คุณเจอแหน่งน้ำ ..เจอโอกาสนั่นแหละ ..แล้วอย่าหวังว่าโอกาสจะมาอย่างรวดเร็ว เพราะ โอกาสและความโชคดี มันขึ้นอยู่กับความเก๋าที่เพิ่มขึ้น

5. เงินที่เสียไประหว่างทำงานไม่ประจำ ไม่ใช่ความเสียหาย แต่ให้มองว่ามันคือ ค่าเรียน ..ก็บางคนไปเรียนปริญญาเพิ่มอีกใบ ก็ต้องจ่ายค่าเรียน ซึ่งทางบริษัทก็ไม่ได้การันตีว่า ถ้าคุณได้ปริญญาอีกใบแล้วเงินเดือนคุณจะเพิ่ม ...ดังนั้น ค่าเสียหาย ระหว่างที่เราทำธุรกิจเสริม และ การลงทุน ก็คือ การจ่ายค่าเรียน ซึ่งทุกคนเขาก็เคยจ่ายทั้งนั้น ...อย่ามานั่งเสียใจว่า ทำไมฉันโชคร้าย ..จริงๆ มันคือ ค่าเรียนครับ

ผมว่า 5 ข้อนี้ เราต้องเจอ เวลาเราไปแสวงโชค

ก็ลองจดๆ ไว้ดู พอเจอจริง จะได้ร้อง "อ๋อ" นี่ไงล่ะ

สรุปเลยว่า โชคดี มันมี ..สำเร็จเร็วๆ มันก็มี ...แต่มันจะเข้ามาหาคนที่ผ่านห้าข้อที่กล่าวมาแล้วทั้งนั้น

ไม่มีนั่งเฉยๆ แล้วโชคดี

จัดไป

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ความแตกต่าง

หลายคนยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต ขนาดปาเข้าไปจะ40 แล้วก็มียังมีชีวิตไปวันๆ  ไม้รู้จักความหมายของการดำรงชีวิตอยู่

บางคนก็พูดว่าเดี๋ยวพอแก่มาก็เข้าวัดหาทางหลุดพ้น  เป็นไปได้หรือ การเรียนรู้ทุกอย่างอาศัยการเตรียมความพร้อม และการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ

คุณเชื่อว่ามันเป็นไปได้มันก็ต้องเป็นแบบนั้นแน่นอนซิครับ  อย่าไปกลัวอะไรเล็กๆน้อยๆ จงเป็นยักษ์ใหญ่ มองให้กว้างๆ ลึกๆ

ปัญหาก็คือยาดีที่ทำให้เราเข็มแข็งและมีภูมิต้านทานมากขึ้นๆ  การลงทุนกับอนาคตยังไงก็เป็นที่จำเป็น เมื่อคุณให้ความสำคัญกับสิ่งไหนสิ่งนั้นย่อมเป็นจริง

คุณให้ความสำคัญกับการเงินการลงทุน คุณก็ย่อมได้สิ่งนั่นตอบแทน
คุณให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน พัฒนาตัว คุณก็ได้รับสิ่งนั่นตอบแทน
คุณให้ความสำคัญกับสุขภาพ คุณก็ได้แบบนั้นตอบแทน

การตอบแทนเป็นกฎที่เสมอตัวอยู่แล้วครับ  เวลาไปอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยหรือยากลำยากให้บอกกับตัวเองว่า ดีจังชีวิตส่งบททดสอบดีๆมาให้เราได้เรียนรู้และเขาใจตัวเองมากขึ้น อย่าไปโทษห่าเหวไรเลยครับ

สิ่งดีๆรอคุณอยู่แค่คุณเปิดรับ การลงทุนที่เน้นคุณค่าและมองอะไรให้ยาวๆ อย่ามองอะไรสั้นๆ ในทุกๆปัญหายังมีทางออกของมันเวลาเห็นคนวิ่งไปทางนี่ อาจเป็นทางที่ไม่เหมาะกับคุณก็ได้ ลองมองตัวเอง ทบทวนตัวเองให้มากๆ อะไรและทำไมเราถึงต้องทำสิ่งนี้แบบนี้ อย่ายึดติดค่านิยมของสังคมมากไป แตกต่างได้ครับ เป็นตัวของคุณในแบบที่ดีที่สุด

สบายๆ

เวลาคิดไรไม่ออกก็แค่ให้หยุดคิดและอยู่เฉยๆเท่านั้นเองครับ

คนเราเวลามีเป้าหมายแต่เรายังนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง

ข้อแนะนำที่ดีที่สุดคือ จงนึกมันต่อไปนึกให้เห็นภาพให้ชัดเจนถึงความเป็นไปได้อย่ามองว่าจะหาเงินมาจากที่ใด

จงโฟกัสไปถึงสิ่งที่จะทำเลือกทำเลสถานที่ในฝันนั้น สร้างมันขึ้นมาจากจินตนาการของเรานึกถึงภาพนั้นจนมันชัดเจน แล้วสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ใส่หัวใจ ใส่ความรู้สึกนึกคิดทุกอณูลงไป ผมมั่นใจว่าอีกไม่นานเราต้องเจอผู้คน สิ่งที่เราต้องการและปัจจัยต่างๆจะวิ่งเข้ามาเองเมื่อคุณพร้อมรับกับมันแล้ว

หลายคนมองว่าไอ้นี้ถ้าจะบ้า  บ้าก็บ้าซิครับมันคือความต้องการของเรานิ ความเป็นจริงในชีวิตของเราเราเลือกทางเดินของเราเองได้ ทำไมต้องคอยให้ใครมาบงการชีวิตเราละครับ


ผมมองเห็นภาพตัวเองว่าวันหนึ่งผมขึ้นไปยืนต่อหน้าคนเป็นพันเป็นหมื่นเพื่อพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเขา และเปลี่ยนแปลงชีวิตผมด้วยเมื่อถึงเวลานั้นผมไม่ตื่นเต้นเพราะผมเห็นมันชัดเจนในภาพอยู่แล้ว

ก่อนจะทำอะไรจงนึกถึงคนอื่นก่อน พร้อมที่จะแก้ปัญหาให้กับโลกใบนี้ ให้กับผู้คนเมื่อเราเป็นผู้ให้เราย่อมได้รับกลับคืนมาเป็นธรรมดา โลกในอนาคตผู้คนต้องแบ่งปันและมีเวทีให้กับทุกคนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งให้กับโลก จักรวาลก็พร้อมจะตอบแทนท่านเสมอ ทำทุกอย่างให้ง่ายเข้าไว้ ชีวิตไม่ใช่เชือกที่ต้องคอยมานั่งผูกปมอยู่ตลอดเวลาจนคุณหาทางออกให้กับตัวเองไม่เจอครับ

ผมไม่ได้บ้า

เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณคืออะไร?

เคยไหมครับที่หลายคนพยายามปีนไปสู่ยอดเขาแต่เมื่อไปถึงบนยอดเขานั้นแล้วกลับพบว่า คุณได้ปีนเขาผิดลูกจะกลับก็ไม่ทันซะแล้ว  เพราะเวลาไม่ได้เดินเป็นเส้นตรง คุณควบคุมเวลาไม่ได้ คุณควบคุมจักรวาลนี้ไม่ได้

ลองถามตัวเองให้แน่ใจซิครับว่าเป้าหมายที่แท้จริงของคุณคืออะไร?

ใช่ครับบางครั้งคำตอบในใจของคุณอาจไม่ตรงกับสิ่งที่เสียงคนส่วนใหญ่คิด ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง เงินทอง หรือความยิ่งใหญ่ทางโลก

จงทำตามเสียงข้างในที่บอกคุณครับถึงแม้คนส่วนใหญ่จะว่าคุณบ้าก็ตาม จงทำตามเสียงนั่น แล้วคุณจะพบความหมายของชีวิตที่แท้จริงไม่ใช่เพราะเสียงของคนส่วนใหญ่

เป้าหมายบางคนคือการเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง
เป้าหมายบางคนต้องการเป็นคนร่ำรวย
เป้าหมายบางคนต้องการช่วยเหลือผู้อื่น
เป้าหมายบางคนต้องการเป็นนักแก้ปัญหา นักสร้างสรรค์จินตนาการใหม่ๆ

ทุกเป้าหมายไม่ผิดครับ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ท่านต้องการมันจริงๆ มีหลายคนบอกท่านว่าทำเเบบนี้สิ ทำแบบนั่นสิ อย่าวิ่งไปตามคำชี้นำของใครเลยจงเป็นตัวของท่านเอง เพราะในตัวของท่านก็คือสิ่งที่มีค่ายิ่งใหญ่ที่สุด

บทเรียนความผิดพลาดที่ได้เกิดขึ้นในชีวิต จงลืมและทิ้งมันให้ไวที่สุดแล้วเดินไปข้างหน้าอย่างนักรบที่พร้อมจะออกรบอยู่เสมอ พรุ่งนี้ยังมีหวังครับ

แล้วพรุ่งนี้ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป

มองชีวิตคุณให้ลึกๆครับแล้วพรุ่งนี้ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป  หลายครั้งเราไม่รู้ตัวเองว่าอะไรกำลังบงการชีวิตเราอยู่  แท้จริงลึกๆในใจดวงนี้ของคุณต้องการอะไรกันแน่ บ่อยครั้งเราให้ตัวเราเองวิ่งไปตามอารมณ์นั้น ปล่อยให้อารมณ์และสิ่งภายนอกคอยบ่งการชีวิตเราอย่างไม่รู้สึกตัว มารู้อีกทีก็สายไปซะแล้ว

ผมเป็นคนใจร้อนมากเมื่อก่อน  ทำอะไรจะใช้อารมณ์คิดตลอด คอยแต่วิ่งตามหาบางอย่างทั้งที่ยังไม่มีทางรู้ได้เลย เคยขาดเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิตมาก่อน ถ้าเคยเป็นแบบนี้ให้คุณลองกลับไปทบทวนตัวเองใหม่นะครับว่า

อะไรคือเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของเรา และจะทำมันให้สำเร็จได้อย่างไร ชีวิตเราชีวิตเดียวครับเราเลือกและออกแบบชีวิตให้ตัวเองได้ อย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆหรือความรู้เดิม กล้าออกมายืนในจุดที่แตกต่างและเป็นเราในแบบที่สุด  นึกถึงสิ่งดีๆเป้าหมายให้เห็นในมโนภาพอย่างชัดเจน มองชีวิตให้ลึกๆแล้วพรุ่งนี้ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป

ทำตัวให้เหมือนน้ำที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ได้ยินประโยคนี้แล้วมันโดนใจผมเสมอ น้ำเป็นของเหลวที่พร้อมจะเปลี่ยนไปตามสถานะได้ทุกเมื่อ เช่น

เมื่อเจออากาศเย็นก็กลายเป็นน้ำเเข็ง เมื่อเจออากาศร้อน  เมื่อเดือดความร้อนก็กลายเป็นไอ หากเรามองเปรียบเทียบกับชีวิตของเราเชื่อได้เลยว่า

- มีหลายคนเคยผิดพลาด ท้อแท้ ล้มเหลว ชีวิตไม่เป็นดังที่หวังเอาไว้
- พยามทำให้ตัวเองมีความสุขโดนซื้อความสุขปลอมๆ
- ทำบางสิ่งเพื่อให้ผู้คนรู้ว่าเรามีตัวตน

เป็นเรื่องธรรมดามากๆครับ หากจะให้แนะนำผมคงไม่ต้องพูดแล้วมีเยอะมากในบทความหนังสือน่าอ่านทั่วไป คำถามคือ ทำอย่างไรจะอยู่กับมันให้ได้โดยที่เราก็ไม่ทุกข์และก็เพิ่มความสุขมากขึ้น

ชีวิตถ้าหากคุณมองให้ทะลุจริงๆ  ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย  จงทำตัวเองให้เป็นคนง่ายๆเข้าไว้ ทุกอย่างมันเป็นกฏของธรรมชาติของมันอยู่แล้ว อย่าได้หวังว่าใครจะมารักมาเกลียดเราทำตัวเราให้ง่ายๆเหมือนน้ำที่พร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ  เท่านี้คุณก็พบความสุขที่แท้จริงละครับ

เตรียมความพร้อม

ทุกอย่างตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน  อะไรที่คุณวางแผนการใช้ชีวิตไว้ผมว่าเป็นดีที่สุดครับ  ผมขอเล่าเรื่องของความแตกต่างของการลงทุนในอาเซียนมาพูดกันนะครับ

การรวมตัวอาเซียนที่เคยเป็นหัวข้อโด่งดังก่อนหน้านี้ตอนนี้เงียบกริบเหมือนไม่มีอะไรคืบหน้า หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเป็นเพราะสาเหตุใดวันนี้ผมให้คำตอบคราวๆเท่าที่ผมทราบนะครับ

1.ความแตกต่างในเรื่องระบบการปกครอง  หลายประเทศในอาเซียนปกครองแบบคอมมิวนิส์ และบางส่วนปกครองแบบประชาธิปไตยทำให้ยังมีระบบเก่าฝังรากอยู่การจะเข้าไปลงทุนในประเทศนั้นๆ สายป่านคุณต้องยาวต้องบอกว่าบางประเทศกฏหมายใช้ไม่ได้ทุกอย่างครับ
2. ความแตกต่างของกฏหมายธุรกิจ จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิ้ง ในบ้านเราอาจถูกแต่สิ่งที่ถูกต้องบ้านเราอาจเป็นสิ่งที่ผิดบ้านเขาก็ได้ เช่น กฎระเบียบการนำเข้ารถบางประเภท
3.ทัศนคติที่แตกต่างกัน  การจะทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อหรือทัศนคติเดียวกันถึงจะพาเราสองไปถึงจุดหมายได้
4.ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจภายในประเทศนั้นๆ  มองเผินๆดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณต้องศึกษา เช่น สภาพภูมิอากาศ สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม วิถีการดำเนินชีวิต ธุรกิจท้องถิ่น อำนาจหรือผู้มีอิทธิพลต่างๆ เอกสารสัญญาต่างๆ

นี่เป็นสิ่งที่ผมกล่าวแค่บางส่วนนะครับ ยังมีอีกหลายประการที่ท่านต้องศึกษาและทำความเข้าใจในแต่ละประเทศที่จะไปลงทุนด้วย รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งครับ

ขอให้ถึงเส้นชัย

ผ่านไปแล้ว 1 อาทิตย์กับการใช้ชีวิตในต่างแดน มนุษย์เป็นสิ่งที่เก่งกว่าสัตว์โลกใดๆอยู่ละครับเรื่องการปรับตัว  ตอนนี้ผมเริ่มมองเห็นและเข้าใจในความเป็นไปของชีวิตอย่างชัดเจนมากขึ้น  พอความต้องการของเราน้อยลงเราก็มีความชัดเจนในชีวิตมากขึ้น  ชีวิตยังต้องดำเนินการต่อครับ  ทำวันนี้ให้ดีที่สุดใช้ชีวิตของคุณให้ง่ายๆเข้าไว้ ไม่ต้องซับซ้อน ยิ่งซับซ้อนคุณยิ่งทำใหีวิตคุณเจอปมต่างๆมากขึ้น  พร้อมกับแก้ปัญหาได้ยากมาก 

คิดบวก มองบวก เข้าใจผู้อื่นตามแบบที่เขาเป็น อย่าได้แม้แต่ดูถูกคนอื่น ทุกคนมีความแจกต่างกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ฝ

ขอบคุณวันดีๆ  ขอบคุณเหตุการณ์ร้ายๆที่ส่งผลให้วันนี้เราเก่งขึ้นและเข้มแข็งขึ้นทุกวัน  หันเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนบ้าง  ชีวิตจึงพบแต่ความสำเร็จ

ค่อยๆเดินครับ ไม่ต้องเร่งรีบแล้วชีวิตคุณจะดีมากมายกว่าทุกๆวัน ไม่ต้องที่หนึ่งแต่ขอให้ถึงเส้นชัย

คุณคิดอะไรอยู่

ไม่มีสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ทุกอย่างเป็นไปได้และเป็นไปตามที่คุณคิดเสมอ เราอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อกันอยู่แล้ว ชีวิตเราออกแบบเองได้ไม่มีถูกผิด

ถ้ามองโลกในมุมกว้างคุณจะมองเห็นปัญหาทุกอย่างได้ชัดเจน แต่คุณต้องฝึกเรียนรู้ตามความเป็นจริงตามแบบฉบับที่เราถนัด อะไรที่เราถนัดและรักทุ่มเทให้กับมันผลลัพธ์ย่อมออกมาดีเสมอ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายขอแค่คุณกล้าก้าวข้ามมันไปเท่านั้น

การลงทุนกับอนาคตถือเป็นเรื่องที่สำคัญ พยายามตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิตของคุณออกให้มากและไวที่สุด เพื่อที่จะง่ายต่อการใช้ชีวิตของคุณ และความสำเร็จก้าวหน้าของคุณก็จะพบเร็วขึ้น เนื่ิงจากเราได้โฟกัสไว้อย่างชัดเจนแล้วครับ

ขอให้ทุกวันจงเป็นวันที่คุณพบแต่ความสุข ประสบความสำเร็จและสมหวังในทุกๆประการ

ความเหงา

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมครับ  เราต้องอาศัยเป็นกลุ่มเป็นก้อน หากเราสามารถแยกตัวออกจากสังคมได้ และอยู่กับตัวเองได้ แบบนั้นผมว่าคุณไปบวชจะดีมากครับ

ประสบการณ์ครั้งแรกตอนมาอยู่ต่างแดน กับบ้านพักที่แสนเงียบมาก จนผมรู้สึกว่าผมมาทำอะไรนิ  คุณรู้ไหมสิ่งแรกที่เข้ามาในใจผมก็คือ ความกลัวความเหงา ธรรมชาติให้มนุษย์เกิดมาเพื่อเป็นสัตว์สังคม อย่าว่าแต่มนุษย์เลยครับสัตว์ก็เช่นเดียว

ทุกคนต่างต้องการยอมรับในสังคม ต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตและอื่นๆ พอลองมาอยู่จุดนี้ผมรู้ได้จริงๆเลยว่า ตัวเองเหมาะกับอะไร

ต้องขอบคุณมันนะที่ทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น บางครั้งการที่เราถอยออกมาจากบางสิ่งบางอย่างสักพัก ก็เพื่อให้เราได้มองเห็นอะไรได้ชัดเจนยิ่งขึ้นนั่นเอง

นึกถึงคนอื่นให้มากขึ้น หัดเป็นคนใจกว้างมองภาพรวมของปัญหาแล้วค่อยๆแก้ไปทีละจุดทุกอย่างแก้ไขได้ครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคน

ทำอย่างไรถ้าต้องอยู่ในที่เราหาโอกาสได้ยาก

ผมเชื่อว่าหลายท่านคงเคยมีอาการรู้สึกท้อแท้  หมดหวัง หรือสิ้นหวังบ้างในบางเวลา  อ่านหนังสือพัฒนาตัวเองก็แล้ว  เข้าคอร์สสัมมนาก็แล้ว  ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงกับตัวเองสักทีไหนยังย่ำอยู่กับที่ มานั่งนึกน้อยใจตัวเองว่าทำไมไม่มีโอกาสวิ่งเข้าหน้าแบบคนอื่นเขาสักที

โอกาส ไม่ได้วิ่งเข้ามาทันทีหรอกครับขอให้คุณจงจำไว้  คุณต้องสร้างโอกาสหรือเตรียมความพร้อมเพื่อรับกับโอกาสที่จะเข้ามาก่อนครับ  ตราบใดที่เรายังไม่เห็นข้อดีของสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เราไม่ฝึกฝนพัฒนาตัวเองเราย่อมไม่ได้รับในสิ่งที่คู่ควรหรอก

หลายท่านอาจจะแย้งว่าก็ฉันก็พัฒนาตัวเองนะ  ใช่ครับแต่ยังน้อยไปหรือเปล่า  คุณต้องถามตัวเองให้แน่ใจโอกาสในยุคนี้มีไว้สำหรับคนที่พร้อมเท่านั้นครับ  วันนี้ผมเลยอยากให้คุณลองหาวิธีมองดูโอกาสที่อยู่รอบตัวของคุณให้ได้ก่อน จากจุดเล็กๆย่อมสร้างจุดที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้อย่างแน่นอ

1.วิเคราะห์ดูสถานการณ์รอบตัว  และมองหาความเป็นไปได้ในช่องทางต่างๆที่จะนำท่านไปสู่เป้าหมายที่ท่านต้องการ

2.เมื่อพบปัญหาหรืออุปสรรค์อย่าท้อใจ  ค่อยๆคิดค่อยๆแก้  แล้วฝึกทบทวนตัวเองกับปัญหาอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ไม่ผิดพลาดอีก

3.อ่านหนังสือครับ  หนังสือกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์จงเป็นนักอ่านแล้วนักอ่านจะตอบแทนท่าน

4.เชื่อมั่นว่าในที่ๆคุณมองหาโอกาสไม่เจอ  เราก็ต้องหาทางสร้างโอกาสขึ้นมาครับจากสิ่งรอบตัวของเรา

5.เมื่อเวลาพร้อมทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่เราได้ตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน

เวลานึกอะไรไม่ออก

เคยเป็นไหมครับเวลาที่ท่านนึกอะไรไม่ออก  ยิ่งพยายามนึกยิ่งปวดหัว  นั่นเพราะความคิดบางอย่างไม่ได้ถูกตกผลึกไปในจิตใต้สำนึกเราไงครับ

ข้อเเนะนำผมอยากให้คุณลองฝึกจำอะไรเป็นภาพ หรือสถานที่ดูบ้างและนำมาบวกกับเรื่องราวที่เราต้องการที่จะจำนี่ก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผลไม่น้อยเลย

เวลาผมมองออกไปนอกหน้าต่าง หรือคิดไปถึงอนาคต เล่นเฟสบุ๊คดูความเป็นไปของชีวิตมนุษย์ว่าเขาเป็นอะไรบ้าง  สิ่งที่ตามมาหรือความไม่สบายใจ  นั่นเพราะในใจคุณกำลังคาดหวังกับอะไรบางอย่างและไม่ฝึกตัวเองให้อยู่กับปัจจุบัน

ปัจจุบันยังไงก็สำคัญกว่าอดีตที่ผ่านมาและอนาคตที่ยังไม่เกิดอยู่แล้วครับ  แค่คุณวางแผนและเดินตามแผนที่คุณได้ว่าไว้  แผนการอาจไม่ได้มีแบบเดียวอาจมีแผนสำรองอื่นๆไว้บางเผื่อเลือก แต่เป้าหมายก็ยังจดจ่ออยู่กับสิ่งเดิม

ภาวะจิตใจที่ว้าวุ้นให้คุณลองหาที่สงบๆ  อยู่คนเดียวสักพัก  มองดูธรรมชาติ ต้นไม้ เสียงนกและสิ่งรอบตัวบางครั้งเราอาจได้ยินเสียงภายในที่เรียกร้องเราจริงๆก็ได้  เป็นธรรมดาที่มนุษย์เกิดมาแล้วต้องเจอกับเรื่องสุขเรื่องสุข  สิ่งที่เราต้องทำคือเมื่อทุกข์ทำอย่างไรถึงจะยอมรับและอยู่กับมันให้ได้  เมื่อสุขทำอย่างไรเพื่อเตรียมตัวเมื่อต้องเจอกับความทุกข์

ชีวิตออกแบบให้กับตัวเองได้  ทุกอย่างอยู่ที่ใจ อยู่ที่ความคิดของเราเป็นคนกำหนด  ฝึกคิด ฝึกพูด ฝึกทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับโลก  แล้วคุณจะพบกฎบางอย่างที่ธรรมชาติมอบให้ หรือเรียกว่า "กฏแห่งการตอบแทน"  นั่นเองครับ

ีความใจกว้าง

มนุษย์เป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก  จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่และทัศนคติที่ปลูกฝังไว้ตั้งแต่เด็กนั้นล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อในอนาคตเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่

ไม่ว่าจะเรื่องศาสนา  การศึกษา  วัฒนธรรม และภาษาท้องถิ่น  ที่ผมกล่าวถึงสิ่งเหล่านั้น นั่นเพราะมันแสดงถึงบุคคลคนนั้นได้เป็นอย่างดีในลักษณะนิสัยในแบบต่างๆ  ในที่นี้เรากล่าวถึงความใจกว้าง  คุณสังเกตได้ไม่ยากจากพื้นฐานทางครอบครัวและสังคมของคนผู้นั้นเราก็พอจะทราบแล้วว่าเขาเป็นคนใจกว้างขนาด

สังเกตุได้ว่าในหลายประเทศพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และอีกในหลายๆประเทศก็เริ่มถดถอยลง นั่นเพราะ การปลูกฝังในวัยเด็ก ที่ได้รับอิทธิพลสูงสุดมาจาก

1.ผู้นำของประเทศ  เป็นตัวผลักดันที่สำคัญหากผู้นำประกอบด้วยคุณธรรม และคุณงามความดีต่างๆไว้มากมาย  คนในประเทศก็จะยึดถือเอาเป็นแบบอย่างที่ดี  ในทางตรงกันข้ามหากผู้นำทุจริต คดโกง โกงกินบ้านเมือง อย่าได้หวังว่าความสงบสุขจะมาสู่แผ่นดินได้
2.สื่อ  ภาพที่สะท้อนความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตในสังคมของประเทศนั้นๆ  สื่อเป็นอิทธิพลที่รุนแรงมาก เราต้องรู้จักใช้สื่อให้เป็น แยกแยะข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะออกจากกันให้ได้และวิเคราะห์ด้วยเหตุผลตามความเป็นจริง
3.ระบบการศึกษา  พื้นฐานการศึกษาที่ดีย่อมนำพาคนในประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้ ทั้งทางวัตถุและทางธรรม  สิ่งที่รัฐบาลส่งเสริมหรือสนับสนุนล้วนส่งผลต่อเด็กที่จะเป็นอนาคตของชาติ
4.ศาสนา  ช่วยขัดเกลาจิตใจให้คนเป็นคนดี  มีความรัก ความสามัคคีและมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ยอมรับซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง  รัฐบาลควรปลูกฝังในเรื่องนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระบบการศึกษาหาไม่แล้วประเทศชาติในภายภาคหน้าย่อมมีแต่คนโกง คนเก่ง แต่หาความดีมีคุณธรรมไม่ได้เลย

ความแตกต่างย่อมเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดาครับ  สิ่งที่สำคัญคุณต้องไม่สร้างความแตกแยก  หัดเข้าใจผู้คนในแบบต่างๆ ในแบบที่เขาเป็นมองโลกตามที่มันเป็น  และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านี้ความสำเร็จที่คุณหวังทกอย่างย่อมมาถึงตัวคุณเอง

จำไว้นะครับว่า  "ตราบใดที่คุณยังไม่ใจกว้างพอจักรวาลย่อมไม่ส่งสิ่งดีๆให้คุณอย่างแน่นอน หว่านพืชอย่างไรก็จะได้ผลอย่างนั้นครับ"

ความล้มเหลว

หลายคนพร่ำบนในโชคชะตาเอาแต่ร้องขอจากสิ่งรอบตัว  โทษไปหมดทุกอย่างยกเว้นคือ โทษตัวเอง
หากคุณมองลึกลงไปแล้วแท้ที่จริง โชคร้ายที่เกิดขึ้นกับเรามันก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายไปหมด

โชคร้ายเป็นบางครั้งครางหากมองจริงๆเป็นผลดีต่างหาก เพราะมันเป็นสิ่งที่คอยเตือนเราว่าไม่มีใครจะมีเสรีภาพโดยสิ้นเชิง  เป็นเรื่องธรรมดาของโลก

ความล้มเหลวทุกครั้ง จะสอนบทเรียนให้กับเราในสิ่งที่จำเป็นต้องเรียนรู้ถ้าหากเราเปิดตา เปิดใจและเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ในความล้มเหลวนั้นเพื่อเป็นสิ่งที่ชดเชย  ถ้าคนเราปราศจากซึ่งความพ่ายแพ้ ความล้มเหลวในบางครั้ง ท่านจะไม่มีวันรู้จักสิ่งที่เป็นธาตุแท้ที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณเลย

ความสำเร็จของท่านมิได้เป็นอะไรไปนอกเหนือจากได้รับโอกาสที่ดีที่ท่านได้ตัดสินใจลงมือทำมันลงไป  ตามความสามารถและความปรารถนาในจิตใจของท่าน  ท่านจะได้มันเท่าที่ท่านได้ให้ไปเท่านั้น ไม่มากหรือน้อยกว่าแต่อย่างใด ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  ก็เกิดจากสิ่งเล็กน้อยรวมกันจนเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง

จำไว้นะครับว่า   คนเราย่อมเป็นไปตามสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ

นักดับฝัน

เป็นธรรมดาของโลกที่มนุษย์ต้องมีความคิดที่แตกต่างกันเป็นธรรมดา  การเลือกคบคนถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก  เพราะเป็นส่วนให้เราเดินหน้าไปหาจุดหมายด้วยแนวร่วมเดียวกัน

บุคคลที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่  ล้วนมีบุคคลที่อยู่เบื้องหลังคอยผลักดันให้พวกเขาประสบความสำเร็จทั้งนั้น  ข้อสำคัญคือ  เลือกอยู่ให้ถูกที่และถูกคน

อาจมีบ้างที่ท่านเจอกับบางคนที่คอยเอาแต่โทษคนอื่น  ตำหนิคนอื่นไปทั่ว  เป็นนักดับฝัน  คนประเภทนี้อยู่ให้ห่างๆไว้จะดีครับ  กฎแห่งแรงดึงดูดมีอานุภาพมาก อยู่กับคนแบบไหนเราก็จะซึมซับนิสัยของคนแบบนั้น

เป็นธรรมดาที่มีบ้างที่เราอาจท้อแท้  หมดกำลังใจ  ทำไปเท่าไหร่เป้าหมายดูเหมือนยิ่งไกลออกไปทุกที  กลับมาทบทวนตัวเองครับ  มีอะไรที่เรายังขาดคุณสมบัติไปหรือ  หรือแผนที่เราวางไว้ไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตให้ไปสู่เป้าหมายของเรา อย่าเอาแต่ไปโทษนั่นโน้นนี่ ไม่มีประโยชน์เลยครับ

ความสำเร็จจะมาเมื่อมันถึงเวลาที่เหมาะสมที่สุด  นั่นคือ ตัวคุณต้องพร้อมและคู่ควรกับสิ่งนั่น เป็นกฎแห่งจักรวาลที่มีมาตั้งนานแล้ว  หมั่นฝึกฝนทบทวนตัวเองตลอดเวลา  มองเป้าหมายให้ชัดเจนและนึกถึงมันตลอดเวลาทุกลมหายใจ  ค่อยปรับพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องไม่นานคุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัยอีกต่อไป

จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์

ปัจจุบันมีศาสตร์มากมายที่ต่างพาให้เราหลงทางหรือหลงเชื่อไปในศาสตร์นั้นๆ  การสะกดจิตถือเป็นศาสตร์หนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ผมจะขอยกตัวอย่างข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบกันให้ดูนะครับ

ข้อดี  การสะกดจิตเป็นการกระตุ้นจิตใต้สำนึกเพื่อที่จะทำให้จิตใจอยู่ในภาวะที่ง่ายต่อการทำตามข้อเสนอแนะหรือคำแนะนำ เท่าๆกับเป็นการถูกกระตุ้นให้กระทำอะไรลงไปสักอย่าง ทำให้เราไปทำในบางสิ่งบางอย่างให้เป็นไปตามที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้

ข้อเสีย  การสะกดจิตจะต้องทำบ่อยๆและต่อเนื่อง และเด่นชัดขึ้นเพราะสิ่งที่สนับสนุนความหวาดกลัวมันได้สูญหายไปแล้ว  ซึ่งโดยปกติอำนาจเช่นนี้ไม่ใช่อำนาจทาง "จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์" เป็นการกระทำที่ไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดถึงผลลัพธ์ที่ได้ในระยะยาว จนในที่สุดเราอาจจะสูญเสียความเป็นตัวตนที่เเท้จริงของเราไป

ประสบการณ์ถือเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่งที่เราเริ่ม่จากไม่รู้อะไรเลย ไปสู่ความมีเหตุผลและใช้สติปัญญา ขอให้เชื่อเถอะครับว่า วุฒิภาวะทางจิตวิญญาณไม่ใช่ความอวดดี  การขาดความเหนี่ยวรั้ง แต่เป็นการมีเหตุผลที่จะรักสนุกสนาน  ความสงบ ความอดทน ความมีน้ำใจดี ศรัทธา ความว่าง่ายและการบังคับตนเอง

คนบางคนประสบความสำเร็จตราบเท่าที่มีคนอื่นหนุนหลังและให้กำลังใจ  แต่บางคนประสบความสำเร็จแม้จะสิ้นหวัง จงเลือกทางของท่านเอง  มีบทความหนึ่งที่ผมชอบมากและอยากให้ท่านได้นำไปใช้เหมือนกัน ดังนี้

จนกว่าท่านจะได้เรียนรู้เพื่่อที่จะใจกว้าง

ต่อคนที่มิได้เห็นพ้องต้องกันกับท่านอยู่เสมอๆ

จนกว่าท่านจะสร้างนิสัยพูดด้วยความกรุณา

ต่อคนที่ท่านไม่ชอบ  จนกว่าท่านจะได้มีนิสัยมองหา

สิ่งดีๆ  แทนมองหานิสัยที่เลวของคนอื่นๆ

ท่านยังจะไม่ประสบความสำเร็จหรือมีความสุขได้

กฏแห่งแรงดึงดูด

คุณทราบไหมว่าเป้าหมายที่สำคัญในชีวิต มีอีกชื่อก็คือ ความปรารถนานั่นเอง

ความต้องการบางครั้งก็ไม่ได้มีน้ำหนักเท่า "ความปรารถนา"  เว้นแต่มันต้องต้องผลึกให้มันเป็นความปรารถนา นั่นเอง

กฎแห่งแรงดึงดูด  มันก็เริ่มจากความปรารถนาอันมีจิตใจที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยอาศัยจิตใต้สำนึกในการสร้างภาพนั้นขึ้นในความคิด  จากนั้นก็จับภาพความคิดนั้นเสมือนมันเป็นของเราจริง  กระตุ้นมันตลอดเวลาทุกลมหายใจ เคล็ดลับมีแค่นี้เองครับ

ผมมีกลอนบทหนึ่งมาฝากท่าน (มาจากหนังสือที่ผมได้อ่านครับ)

"ท่านไม่อาจบอกได้เลยว่าความคิดจะทำอะไร

ในการนำความเกลียดหรือความรักมาให้ท่าน

เพราะความคิดมีตัวตน  และมันมีปีกบิน

ที่เร็วไปเสียยิ่งกว่านกพิราบสื่อข่าว

พวกมันเป็นไปตามกฎของจักรวาล

ความคิดแต่ละอย่างสร้่างแบบอย่างของมัน

และมันบินย้อนกลับเส้นทางเพื่อเอามาให้ท่าน

สิ่งใดก็ตามที่บิดออกไปจากจิตใจของท่าน"

ท่านคือ "นายแห่งโชคชะตา"  และท่านย่อมเป็น "กัปตันแห่งดวงวิญญาณของท่าน ด้วยเหตุข้อเท็จจริงที่ว่า ท่านควบคุมความคิดของท่านเอง และด้วยความช่วยเหลือของ "ความคิด" ของท่าน ท่านสามารถที่จะสร้างสิ่งใดก็ตามที่ท่านต้องการขึ้นมาได้

เป้าหมายที่สำคัญของชีวิต

องค์ประกอบของเป้าหมายที่สำคัญของชีวิต  ประกอบด้วย

1.ความเห็นชอบด้วยตนเอง  มิใช่การเสนอแนะจากคนอื่น
2.จิตใต้สำนึก  ถ้าจะให้เปรียบเทียบ จิตใต้สำนึกก็เปรียบเหมือนทุ่งนา หรือดินที่ใช้ในการเพาะปลูกเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตท่าน
3.ความคิดสร้างสรรค์   เปรียบได้เหมือนเครื่องมือที่ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์  มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเจริญเติบโต ในที่นี้ผมหมายถึงความคิดในทางบวกนะครับ  เพราะเมื่อท่านคิดบวก พลังอำนาจแฝงก็จะเป็นบวกและดึงคนเหล่านั้นเข้าหาท่าน
4.อนันต์ปัญญา  เปรียบเหมือน ญาณหยั่งรู้หรือสตินั่นเอง

จิตใต้สำนึก และ อนันต์ปัญญาจะไม่สามารถเพาะพันธ์ู  "เป้าหมายที่สำคัญของชีวิต"  ของท่านให้เป็นเป้าหมายได้ หาท่านมีจิตใจที่เต็มไปด้วย ความอิจฉาริษยา  ความเห็นแก่ตัว โลภ (ความคิดในทางลบหรือทางทำลาย)  เพราะสิ่งเหล่านี้คือ วัชพืชที่กัดกินเมล็ดพันธ์ุของ "เป้าหมายสำคัญของชีวิต" ท่าน

ความคิดสร้างสรรค์  +  รักษาจิตใจในทางบวก  +  เป้าหมายสำคัญของชีวิต + ศรัทธาอย่างต่อเนื่อง

พลังจิตใต้สำนึก

วันนี้ผมขอพูดเรื่องจิตใต้สำนึกนะครับ  พอพูดศัพท์นี้ทุกคนเข้าใจและไม่สามารถที่จะแปลความหมายของคำนี้ออกได้อย่างชัดเจนได้  ผมจะยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ

จิตใต้สำนึกถ้าเปรียบได้กับไฟล์รูปภาพของกล้องที่เราใช้ในการถ่ายภาพออกมา

กล้องถ่ายรูปใช้ในการบันทึกรูปภาพสิ่งที่บันทึกไว้ เปรียบเหมือน เป้าหมายในชีวิต

เลนส์ที่ใช้ในการถ่ายรูป   เปรียบเหมือน  ความเห็นชอบของตัวเราเอง
การถ่ายภาพ    เปรียบเหมือน  จิตใต้สำนึก หรือเรียนว่า อนันตปัญญา  หน้าที่ของมันคือการเก็บรายละเอียด/โครงเรื่องของเป้าหมายนั้นๆ อย่างชัดเจน

รูปภาพที่ได้  เปรียบเหมือน  เป้าหมายของชีวิตที่ตรงกับความเป็นจริง

กระบวนการเหล่านี้รวมเรียกว่า ความคิดสร้างสรรค์  กล่าวคือเมื่อเราเลือกเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตแล้ว เป้าหมายจะติดต่อกับระบบจิตใต้สำนึกของเรา เพื่อส่งเป็นภาพนั้นๆ จากนั้นเราก็รอคอยดูความเป็นรูปร่างมันขึ้นมา โดยผสมกับความมุ่งมั่นกระตื้อรื้อร้นในการทำเป้าหมายอย่างไม่ลดละ

ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่นนี้ ธรรมชาติจะนำท่านไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายชีวิตของท่าน มันจะเปิดเผยแก่ท่านในเวลาที่เหมาะสมและในสภาพการณ์ที่สมควร

พลังจิต

วันนี้ผมขอเล่าในเรื่องของพลังจิตนะครับ  พลังจิตหรือจิตใต้สำนึกเป็นพื้นฐานแรกของการสร้างความปรารถนาดลบันดาลให้เป็นจริงตามที่ท่านได้ขอไว้  กระบวนการของพลังจิตไม่ได้ซับซ้อนเลยครับ  เริ่มจาก

 จิตใต้สำนึกที่จะนำพาท่านไปสู่ความสำเร็จจะต้องเป็นจิตใต้สำนึกที่  ผ่านความเห็นชอบด้วยตัวเองก่อนภายใต้การช่วยเหลือของปัญญาญาณหรือที่ทางศาสนาพุทธเรียกว่า  สติ

สติ จะเป็นตัวชี้ท่างและควบคุมเพื่อให้เราไปสู่จุดหมายได้ตามที่เราปรารถนา  พลังอำนาจแฝงบางอย่างคือ ตัวที่จะนำพาให้สิ่งที่เราปรารถนาเป็นจริงขึ้นได้  ทั้งนี้เราต้องมั่นใจว่าเราได้ใส่พลังงานลงไปอย่างถูกต้องเที่ยงตรง  ดังคำพูดที่ว่า สติมาปัญญาเกิด  เมื่อเกิดปัญญาก็สามารถแก้ไขปัญญาหาได้

มันเป็นกฎธรรมชาติที่สอดคล้องกันกล่าวคือ พลังจิตถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกใช้สติอย่างถูกต้อง รู้เหตุ รู้ผลของการกระทำอย่างชัดเเจ้ง  เมื่อเข้าใจกฎเหล่านี้ทุกอย่างก็สามารถสัมฤทธิ์ผลดังใจอย่างแน่นอน

หลักการควบคุมความคิด

มีหลักอยู่ข้อหนึ่งครับที่อยากแนะนำสำหรับคุณผู้อ่านในเรื่องการควบคุมตัวเอง ซึ่งสัมพันธ์กับการควบคุมความคิด เป็นอย่างยิ่งเรามาดูวิธีการกันนะครับ

ความเห็นชอบด้วยตัวเอง ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่เป็นสิ่งที่ประกาศจุดยืนของเราอย่างชัดเจน รู้แน่ชัดว่าสิ่งที่เราทำอยู่คืออะไร  จากนั้นจึงนำความเห็นชอบนี้เข้าสู่กระบวนการกำหนดความคิดเเบบสร้างสรรค์  ก็คือการปลูกฝังทัศนคติที่ดีในเรื่องต่างๆที่มีส่วนในการกำหนดเป้าหมายชีวิตของเราที่ได้ตั้งไว้

จากนั้นเปลี่ยนเป้าหมายเป็นสิ่งที่มีรูปร่าง นั่นก็คือผลลัพธ์ของความสำเร็จนั่นเองครับ  จะเห็นได้ว่าทุกอย่างต้องมีการวางแผนและควบคุมตลอดเวลา เสมือนเด็กที่เริ่มจากคลานก่อน แล้วค่อยๆหัดเดิน จากเดินก็กลายเป็นวิ่ง  ทุกอย่างคือกระบวนการเดียวกันครับ

คนที่จะประสบความสำเร็จได้คุณต้องรู้จักควบคุมสถานการณ์ และควบคุมตัวเองให้ได้  ประเมินสถานการณ์อย่างถูกต้องเที่ยงตรงด้วยจิตใจที่สงบ มีเคล็ดลับที่ควรจำไว้ครับ คือ

1.เมื่อเราให้เราก็จะได้รับตอบ
2.กฎแห่งเสน่ห์ที่สอดคล้องกัน
3.สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน

ถ้าคุณประสบความสำเร็จ  ขอให้คุณระลึกไว้เสมอว่ามีบางคน เหตุการณ์บางสิ่ง บางอย่างโอกาสบางโอกาสที่ให้ความช่วยเหลือแก่คุณ  ก่อนที่คุณจะถูกแรงผลักดันบางสิ่งไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง  และขอให้คุณจำไว้ว่า คุณเป็นหนี้ชีวิตเขา จนกว่าคุณจะได้ช่วยเหลือแก่คนอื่นๆ บางคนที่คุณอาจจะมีโชคดีน้อยกว่าคุณ