คนสร้างฝัน

การสร้างจิตนการถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์เรา  ความรู้ที่เรามีก็เกิดจากการสร้างของมนุษย์ด้วยกัน  แล้วความรู้เหล่านี้เกิดขึ้นได้ยังไงละ

มันก็เกิดจากจิตใต้สำนึก  นั่นก็คือ  การสร้างจิตนาการขึ้นมาก่อนแล้วค่อยลงมือทำสร้างเป็นภาพขึ้นมานั่นเองไงละครับ  เพราะความคิดคือ  สิ่งที่กำหนดความเป็นไปในชีวิต ไม่เชื่อคุณลองสังเกตุดูได้ครับ  เวลาที่คุณรู้แย่  แล้วยิ่งคุณบ่นมันก็จะยิ่งแย่ลงไปอีก  แต่พอเวลาที่คุณอารมณ์ดีหรือเจอเรื่องแย่ๆ  แต่คุณสามารถปรับอารมณ์  ความคิดของคุณไปในทิศทางบวกได้ 


มันก็จะมีแรงส่ง  เป็นพลังงานบางอย่างให้กับคุณ   มีคนเคยกล่าวว่าเราจะเป็นอย่างที่เราคิด  ซึ่งนั่นมันก็เป็นเรื่องจริงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ  ฉะนั้นอยากเป็นคนเช่นไร  อยากให้ชีวิตเราไปในทิศทางไหน  มีเพื่อน  คบค้าสมาคมกับใคร  นั่นก็อยู่ที่ความคิดและตัวเราทั้งหมดนั่นเอง

ความคิดก็เหมือนฟองน้ำที่มันจะดูดซับพลังงานต่างๆ รอบตัวเรา  คุณอยากที่จะเป็นคนคิดใหญ่ ทำใหญ่ประสบความสำเร็จก็จงซึมซับแต่เรื่องที่เป็นบวกเข้าไป  อย่าเอาเวลาไปอิจฉาคนนั่น คนนี่  ว่าเขาโชคดีบางละ   เขาเก่งบางละ  แท้ที่จริงเขาเหล่านั้นต่างก็ผ่านเรื่องราวอะไรมามากมายเช่นกัน  แต่สิ่งที่เขามีคือ  หัวใจแห่งการไม่ยอมแพ้  ล้มแล้วก็ต้องลุกขึ้นมาสู้กับชีวิตใหม่

ปีใหม่นี้อะไรที่มันไม่ดี  ที่เคยเข้ามาชีวิตของคุณก็ให้ทิ้งๆมันไป  ขอให้คุณเจอแต่เรื่องราวดีๆ คนดีๆเข้ามาในชีิิวิต

อย่า   ปิดกั้นโอกาสเพียงเพราะคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ  ไม่มีความสามารถพอ
อย่า  ปิดกั้นตัวเองเพียงเพราะเห็นแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น
อย่า  ปิดกั้นตัวเองเพียงแค่กลัวจะสุญเสียอะไรบางอย่าง ทั้งที่การเสียสิ่งนี้อาจทำให้เราได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า


เลิกทำตัวเเย่ๆ  กับตัวเองไม่รักตัวเอง  ไม่เห็นคุณค่าในตัวเราเองใครจะไม่รักเราก็ช่าง  เราต้องรักตัวเองและเห็นคุณค่าของเรา  การที่เขาไม่เห็นคุณค่าของเรานั่นเพราะโลกกำลังจะส่งคนที่คู่ควรกับคุณ  คนที่ดีพร้อมกับเรามากกว่าเขา  เพื่อเข้ามาเติมเต็มในชีวิตของเราต่างหาก  ทุกครั้งที่ผมท้อแท้  หมดสิ้น กำลังใจ  ผมจะนึกถึงคำพูดของแม่ผมเสมอว่า   ลูกจะโชคดี  เพราะลูกเกิดมาพร้อมกับความโชคดี  และมันก็เป็นแบบนี้เสมอ 

ถึงแม้วันนี้ท่านจะไม่อยู่กับผมแล้ว  แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นว่าท่านยังมองมาที่ผมอยู่  และมั่นใจพร้อมทั้งภูมิใจในตัวลูกชายคน  ผมขอสัญญาครับแม่ว่าผมจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังกับลูกคนนี้เลย  ขอบคุณที่ให้กำลังใจและดูแลลูกคนนี้เสมอ  ทำให้ลูกเติบโตมาอย่างดีพร้อม  ขอบคุณคุณยายที่คอยเป็นแสงสว่างนำทางในใจของผม  ท่านทั้งสองคือดวงตา  และดวงใจของผม  ที่ทำให้ผมมั่นใจว่าผมทำได้ และผมจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ผมหวังว่าผมจะได้ไปใช้ชีวิตในต่างแดน  เรียนรู้วัฒนธรรมและการปรับใช้  ภาษา และอื่นๆอีกมากมาย  เพื่อในวันหน้าผมจะนำกลับมาพัฒนาประเทศชาติของเรา  และสร้างคนในรุ่นต่อๆไปได้  เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเขาได้  อาหารไทย สมุนไพรไทยจะต้องได้รับการยอมรับจากนานาชาติ  อย่างแน่นอน  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ   แต่ผมก็มั่นใจมากว่าผมจะได้ทำมันเร็วๆนี้  ผมแค่เชื่อในสัญชาตญานและเมื่อเวลานั้นมาถึง  ผมก็กระโดดไปทำมันเท่านั้นเองครับ

ชีวิตผมเตรียมพร้อมเสมอ  และอยากให้พวกได้ลองเอาไปปรับใช้ดูครับ  จงเลือกเป็นที่รักและใช้ชีวิตให้สนุกกับทุกวัน  ถึงแม้ว่าตอนนี้  เวลานี้  คุณจะอยู่ในสถานที่สถานการณ์แบบไหนก็ตาม  เราเลือกที่จะมีความสุข และสร้างโอกาสได้ทุกที่  จงเชื่อมั่นและเคารพในตัวตนของคุณ  มาทำความฝันของคุณให้มันเป็นจริงกันดีกว่าครับ  ชีวิตนี้มันคงสนุกน่าดู

คุณพร้อมหรือยัง

สวัสดีครับท่านผู้อ่านผมมานั่งเขียนบทความนี่ก็ตอนสิ้นปี 2016 พอดีครับ  ตลอดระยะเวลา  1 ปีที่ผ่านต่างก็มีเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆที่ได้เกิดขึ้นกับผมมากมาย  บางสิ่งให้บทเรียนที่ดี  บางสิ่งก็ให้บทเรียนที่เจ็บปวดกับตัวผม  เอาละครับไม่ว่าพรุ่งนี้ชีวิตจะเป็นยังไงเราก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้


ในทุกๆ ปีผมจะมานั่งทบทวนแผน  เป้าหมายของชีวิตผมทุกครั้งว่ามีดีขึ้น อยู่ที่เดิม หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากไหม  การทบทวนแผนก็เพื่อให้เราได้รู้ว่าชีวิตเราตอนนี้ได้เดินไปตามเส้นทางที่เราได้กำหนดไว้หรือไม่  หรือเรายังออกนอกเส้นทางอยู่

ใช่ครับว่า  บางอย่างมันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่เราตั้งไว้ทุกอย่างแต่อย่างน้อยมันก็ชัดเจนและเห็นเป็นภาพได้มากยิ่งขึ้น  มนุษย์เรานะครับทุกวันนี้เราวุ่นวายกับโลกมากเกินไป  จนบางทีเราก็หลงทางไม่รู้ว่า  สิ่งที่เรากำลังทำอยู่  มันคือ  สิ่งที่หัวใจเราเรียกร้องมันอยู่ไม่   หรือแค่เป็นความต้องการที่จะได้รับการยอมรับจากสังคมเท่านั้น 

บางคนบอกว่าไม่มีโอกาส  ชีวิตเจอแต่ปัญหาและอุปสรรคมากมาย โทษเศรษฐกิจ บ้านเมือง การปกครองของผู้นำ  แต่สิ่งที่เราไม่เคยโทษนั่นคือ  "ตัวเราเอง"  เรามองข้ามสิ่งนี่แต่มองเห็นสิ่งไม่ดีของคนอื่นไปทั่ว  ปัญหานี้เลยทำให้ชีวิตคุณไม่ไปข้างหน้าสักทียังจมอยู่กับที่  บางทีโอกาส ปัญหา อุปสรรค์สิ่งเหล่านี้มันมีอยู่ทุกที่อยู่แล้วครับ   ต่างกันตรงที่คนสำเร็จมักจะมองเห็นว่ามันคือ โอกาสเท่านั้นเอง

ท่ามกลางความวุ่นวาย  มนุษย์เราต่างเอาเงินเป็นเครื่องมือชี้วัดความสำเร็จ  เราหาเงินกันแบบบ้าคลั่งจนลืมไปว่าเราไม่ได้อยู่ไปตลอด  สุดท้ายเราเอาอะไรไปไม่ได้เลย  พอทีครับหยุดแล้วตั้งคำถามกับตัวเอง

1 เราจะไม่เป็นอย่างคนอื่นเขา  สิ่งที่เราทำต้องดีและสร้างประโยชน์ให้กับโลกใบนี้
2 เรามีความสุขกับสิ่งที่ทำ  และสิ่งที่ทำสามารถต่อยอดพัฒนาจิตใจ  และสถานะความเป็นอยุ่ของเราให้มันดีขึ้นได้
3 เรามีเวลามากขึ้น  ทั้งการใช้ชีวิตและการท่องเที่ยว เดินทางไปต่างประเทศ  ไม่ใช่ไปเพื่อเทห์แบบคนอื่นไปกัน  แต่ไปเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง และกลับมาพัฒนาประเทศชาติของเรา
4 รู้จักสร้างโอกาสและมองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้  เพื่อต่อยอดในอนาคตได้ตลอดเวลา  ในทุกๆที่  ทุกๆสถานการณ์ที่ตัวเราเจอ

ผมไม่ได้อยากบอกว่านี่มันเป็นกฎนะครับ  แต่มันคือวินัยที่ตัวผมตั้งใจจะทำ  ในแผน 1 ปี  5 ปี  และ 10 ปี ของผม  เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆครับว่า  โลกตอนนี้มันแคบลงตั้งแต่มีเทคโนโลยีไร้สายเข้ามา  ในอนาคตเราต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้  การยึดติดกับสิ่งเดิมอาจทำให้คุณล้าหลังได้   ธุรกิจใหม่ๆก็จะเกิดขึ้นแบบที่คุณไม่คิด  และไม่ทันได้ตั้งตัว  จงเตรียมพร้อมกับโอกาสเหล่านั้นครับ

ดีที่สุดในแบบที่เราเป็น

บางทีผมก็รู้สึกว่าชีวิตมันพาเรามาไกลจากจุดเริ่มต้นมาเหลือเกิน  ไกลจนเราไม่กล้าที่จะถอยหลังกลับไปเริ่มต้นทำอะไรใหม่  มีคนเคยกล่าวไว้กับผมนะครับว่า  ชีวิตคนเราเวลาที่เราล้มเหลวกับอะไรบางเรื่องในชีวิต  เราไม่จำเป็นต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้น  เพราะชีวิตไม่ใช่เกมส์ที่จะต้องไปเริ่มจุดเริ่มต้นตลอด 

เมื่อล้ม  เมื่อรู้ว่าผิดพลาดตรงไหน  ก็แก้ตรงนั้นแหละครับ  ค่อยๆแก้ไปทีละนิดสุดท้ายมันก็จะออกมาดีเอง  บางทีการทำตัวเป็นเต่าบ้างก็ได้ครับ  ค่อยๆเดินไปทีละนิดแต่ในสุดก็ถึงเส้นชัยก่อนกระต่ายได้  ทุกอย่างมันสามารถเป็นไปได้ดังใจเราปรารถนาอยู่แล้วครับ  แค่เราคิดว่าเราทำได้  เราก็ประสบความสำเร็จแล้วครับ  โลกนี้เกิดมาจากความเป็นไปไม่ได้นั่นแหละครับ

ฝึกคิดต่าง  ทำในสิ่งที่แตกต่าง  ปัญหาอุปสรรค์ที่เข้ามาในแต่ละวันล้วนสอนให้เราเข้มแข็งขึ้น  และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น  ต่อไปไม่ว่าจะเจออะไรคุณก็ผ่านมันไปได้เสมอ  ขอให้อดทนอีกสักนิด  อดทนรอคอยวันที่เป็นของ  ความหวัง  ความฝันของเราเพื่อให้มันเป็นจริงสักวัน  เราไม่จำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งที่เราทำ ณ จุดนี้มันจะเล็กหรือใหญ่  แค่รู้ว่าทำเพื่อใครก็พอครับ   กาลเวลาเปลี่ยนอาจทำให้ใจคนเปลี่ยนได้  เป้าหมายเราอาจเปลี่ยนแปลงได้  แต่การไม่มีเป้าหมายเลยนั่นแหละทำให้เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่   

วิธีที่จะทำให้คุณไปถึงเป้าหมายแล้วที่สุดคือ  การมีวินัย  การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ  และนึกถึงเป้าหมายที่คุณอยากได้  อยากที่จะทำมันทุกวันทั้งเช้า กลางวัน และเย็นจะเป็นนิสัย

ไม่ต้องทำอะไรให้มันเก่งเกินเขา

ขอแค่รู้ว่าเรา ก็ทำได้

ชีวิต ไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบใคร

จงทำไป ในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง

(ครูบาชัยยา)

ใช่ครับบางทีเราไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด  ดีที่สุด  แค่เป็นในแบบที่คุณเป็น  เป็นตัวของตัวเองเพราะการที่ใครจะรักเรา  ก็เพราะเราเป็นตัวของตัวเอง  นั่นคือความสุขที่สุดแล้วครับ  สำเร็จในแบบฉบับของเรา  ดีที่สุดในจุดที่เราเป็น  เพราะบนโลกนี้มีที่ว่างให้เราเสมอสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จและไปให้ถึงจุดหมาย

Vision Mission

ผมพยายามอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่อง Vision Mission มาหลายเล่มนะครับ  บางทีก็บอกตามตรงว่าเข้าใจยากมากครับ  เพราะเนื้อหาบางอย่างก็อธิบายเป็นวิชาการมากเกินความเข้าใจได้  ผมมาอ่านเจอบทความหนึ่ง  ซึ่งพูดเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจและเข้าใจแบบสรุปได้ง่ายมาก ดังนี้


Vision
วิสัยทัศน์  สิ่งที่องค์กร ต้องการจะเป็น ต้องการจะทำ นั่นคือ ความอยากเป็นอยากทำ กำหนดโดยหัวใจของผู้บริหาร หรือพนักงานขององค์กกร  เป็นดั่งเข็มทิศ เป็นดั่งดาวเหนือ ที่คอยนำทงให้ ทุกคนในองค์กรเดินตามไปในทิศทางเดียวกัน
สมองซีกขวา บอกว่า Vision คือ ความฝัน ของผู้บริหาร หรือผู้กำหนดวิสัยทัศน์ซึ่งอาจเป็นองค์กร หรือผู้ถือหุ้นก็ได้


เราสามารถกำหนด Vision ว่าจะทำให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจจะเป็น 3 5 10 หรือ 20 ปี ก็ได้

Mission
พันธกิจ วิธีการต่างๆ ที่จะทำให้บรรลุไปสู่ วิสัยทัศน์ Vision
สมองซึกขวา บอกว่า Mission คือ ทางสู่ ความฝันของผู้บริหารที่สำคัญ คือ ต้องมี วิธีการใดๆ ก็ตามที่สามารถทำให้เป็นจริงได้ตามความฝันนั้น ถ้ากำหนด vision ได้แต่ไม่เขียน mission ได้ก็แปลว่า
vision ที่คุณทำนั้น เกินความสามารถที่จะทำได้  ทำให้ vision จะกลายเป็นเรื่องไร้สาระทันที

ดั้งนั้น Vision และ Mission ที่ดีจะต้องสัมพันธ์กัน  ถ้าวิสัยทัศน์ เปรียบเหมือนเป้าหมาย พันธกิจ ก็เปรียบเสมือน Milestone ที่จะทำให้ไปสู่เป้าหมาย วิสัยทัศน์และจินตนาการ เป็นเรื่องเดียวกัน

 Milestone คือหลักกิโลเมตรที่ตั้้งอยู่ริมถนนสายหลัก  มีไว้เพื่อบอกระยะทางจากจังหวัดหนึ่งถึงจังหวัดหนึ่ง

อ่านแค่นี้ผมว่าผู้อ่านเข้าใจได้เลยนะครับ  บางทีการที่เราปล่อยให้ตัวเราเองคิดอะไรที่มันลึกลับซับซ้อนยากเกินไป  จนเราหาจุดจบของเรื่องนี้ไม่เจอมันพันก็ไปหมดนั่นก็เพราะ  มุมมองในการมองปัญหาต่างๆ  และมุมมองของชีวิตคุณนั่นเอง  ลองฝึกคิด ทำ อะไรง่ายๆดูครับ  ความสำเร็จมันเริ่มจากการเข้าใจพื้นฐานต่างๆนั่นเองครับ  ไม่ใช่การไปตีความอะไรที่มันยุ่งยากซับซ้อน

มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องง่าย  อย่าไปคิดว่าเจอปัญหาติดนั่น โน่น นี่ แล้วชีวิตคุณก็ไปต่อไม่ได้แล้ว ความกลัวกับความกล้า  คือสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน  ชีวิตคุณเลือกได้ครับว่าจะทำแบบไหน  การไม่เลือกต่างหากที่จะทำให้ชีวิตคุณไม่ก้าวไปข้างหน้าต่อ  ในที่นี้ผมไม่ได้ต้องการให้คุณใจร้อนตัดสินใจรีบไปซะทุกอย่าง  บางทีเราก็ต้องรู้จังหวะในชีวิตด้วยครับ  ว่าเวลาไหนเหมาะสมที่สุด 

เพราะในที่สุดคุณก็ต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่างอยู่ดี  ไม่ช้าก็เร็วแต่กลับเรื่องที่มันไม่สามารถจัดการได้จริง ๆ  สิ่งที่ทำได้ก็คือปล่อยวาง  แต่ไม่ได้หมายถึงดูดายไปนะครับ  เรายังต้องแก้ปัญหาอยู่แค่ถอยออกจากมันไปทำอย่างอื่นก่อน  แก้ปัญหาอย่างอื่นก่อน  พอแก้ปัญหาไปทีละจุดแล้วคุณก็จะเข้าใจถึงความเรียบง่ายในชีวิตเองแหละครับ  จงเชื่อมั่นในตัวเองครับ  อย่าไปฟังเสียงคนอื่น

เรื่องความรัก

วันนี้ผมขอพูดเรื่องความรักกันบ้าง  บางคนเกิดมามีคนที่รัก บางคนเกิดมาก็ไม่มีเนื้อคู่ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรครับ  คนทุกคนล้วนก็มีเหตุผลบางอย่างที่บอกให้กับใครไม่ได้

การที่เขาไม่มีคู่อาจเพราะเขาสบายใจที่จะอยู่คนเดียวก็เป็นไปได้

การที่เขาไม่มีคู่ก็เพราะเขาเลือกแบบนั้นก็ได้

ความรักเป็นสิ่งสวยงามครับ  แต่ความรักในทางที่ผิดไม่ถูกไม่ควรก็ทำให้มนุษย์ทุกข์ได้เช่นการ  อย่างเช่น

-การไปรักคนมีเจ้าของ

-การไปรักคนที่เขาไม่ได้รักเขา

-การคาดหวังกับคนรักมากเกินไป

อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน  สิ่งนี้พระพุทธองค์จึงได้กล่าวไว้ว่า รักมากก็ทุกข์มาก  ไม่รักก็ไม่ทุกข์อะไรที่เรายึดติดเราก็เป็นทุกข์  ชีวิตนี้มันสั้นนักอย่าไปเสียเวลาให้กับคนที่ไม่ใช่  หรือไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา  หัดเอาเวลามาดูแลตัวเองรักตัวเองให้  ทำคุณค่าทำประโยชน์ให้กับผู้คนดีกว่าครับ  ใครมันรักเรา ก็ช่างหัวมันการรักตัวเองนั่นแหละเป็นประโยชน์ที่สุด

เมื่อคุณหลงรักตัวเองได้  คุณจะมีความสุขกับทุกๆขณะในชีวิตของคุณ  ไม่มีความทุกข์ใจไหนมาทำร้ายคุณได้  ชีวิตเราจะเป็นแบบไหนในอนาตต  มันก็อยู่ที่คุณเป็นคนออกแบบ  ฉะนั้นเลือกออกแบบแต่ความสุขให้กับชีวิตตัวดีกว่า  การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์มีแต่ทำให้ชีวิตเราแย่ลง 

ข้อเเนะนำสำหรับคนที่กำลังทุกข์ใจเรื่องความรักนะครับ

ผมอยากให้คุณลองออกมาจากเรื่องวุ่นวายเหล่านั้น  มานั่งทบทวนตัวเองว่าตอนนี้เรายังมีอะไรที่เรายังรักและเป็นห่วง  ตัวเราดีแค่ไหน  มีคุณค่ามากแค่ไหนและเหมาะสำหรับใครมากที่สุด  การลดคุณค่าตัวเองสำหรับคนที่เขาไม่เห็นคุณค่าของคุณมันเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์  ต่อให้คุณไปนั่งร้องไห้จนน้ำตาคุณไหลเป็นเลือด  ก็ไม่ได้ทำให้เขากลับมารัก   มาเห็นใจคุณได้หรอกครับ

เดินไปข้างหน้าต่อให้ได้  แรกๆอาจดูเหงาบ้าง โดดเดี่ยวบ้าง แต่เวลาจะทำให้อะไรๆดีขึ้นเองครับ  นึกถึงเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ให้ได้  นึกถึงมันทุกวันจนเป็นภาพที่ติดตาคุณเข้าไว้  ความฝันอยู่ไมไกลหรอกครับถ้าใจเราไปถึง  วันหนึ่งฟ้าจะส่งคนที่เหมาะสมกับคุณมาให้เองครับ  หากไม่ได้จริงๆก็คิดซะว่าตัวคนเดียวก็สามารถอยู่ได้และประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน

ผลลัพธ์ของการปล่อยวาง

ยิ่งโตขึ้น  ยิ่งเข้าใจวัฎจักรชีวิตมากขึ้น  หลายคนรอบตัวก็เริ่มเติบโตขึ้นมีครอบครัวภาระหน้าที่มากขึ้น  กาลเวลาเปลี่ยนผู้คนก็เปลี่ยน เราจะเห็นได้ว่าคนที่เรารัก  เราผูกพันธ์ค่อยๆหายไปทีละคนสองคน  โลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอนครับ  แต่ที่แน่ๆทุกคนต้องได้นอนแน่ๆ  จึงไม่ต้องสงสัยอะไรเลยว่ายิ่งเรายึดติดมากเท่าไหร่  เราก็ทุกข์ใจมากเท่านั้น

เรื่องงาน เรื่องภายนอก ผู้คนอื่นๆไม่มีเรา เขาก็อยู่ได้  หาคนใหม่มาทำแทนได้ แต่ครอบครัวก็ยังเป็นครอบครัว  บางครั้งก็มีทะเลาะกันบ้าง  นั่นแหละครับมันคือชีวิต

ยิ่งเราเติบโตขึ้นอายุมากขึ้นเท่าไหร่  เราก็ได้รู้ได้เห็นอะไรมากขึ้น  การจะใช้ชีวิตให้มีความสุขทีสุดนั่นก็คือการปล่อยวางกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  ความทุกข์ใจกับปัญหาไม่ได้ทำให้เราเติบโตขึ้น  สิ่งที่ทำให้เราเติบโตขึ้นก็คือ  การยอมรับความจริงกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้า  และเผชิญหน้ากับมันนั่นแหละคือทางออกของปัญหา และทำให้เราเติบโตขึ้น

ยิ่งเจอปัญหาเยอะมากก็ยิ่งทำให้คุณเก่งขึ้น  ต่อให้เจอปัญหาหนักหนาแค่ไหนคุณก็จัดการมันได้  การรู้จักยอมรับกับปัญหา  ค่อยๆคิด ค่อยๆหาวิธีการแก้ไขปัญหา  ชีวิตย่อมมีทางออกและแสงสว่างรออยู่เสมอ  ปลายทางของทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรที่เราหาทางออกไม่ได้  แค่เราคิดว่าเราสามารถจัดการกับปัญหานั่นได้  สมองก็จะสร้างพลังงานบางอย่างเพื่อเข้าไปจัดการกับปัญหานั่นได้อย่างอัตโนมัติ  ข้อสำคัญคุณต้องลงมือแก้ปัญหานั่นด้วย  อย่าพยายามหลอกตัวเองด้วยการแก้ปัญหาด้วยการมองโลกในแง่ดีแต่ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง 

หลายคนมองว่าคนบางคนโชคดี  ได้รับโอกาสดีๆ  แท้ที่จริงถ้าคุณไปมองชีวิตพวกเขาเหล่านั้น  เขาต่างผ่านอะไรมามากมายกว่าที่เขาจะมาถึงจุดนี้ได้  การที่ไปอิจฉาเขานั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่ายกย่องสรรเสริญอย่างเป็นแน่  ควรนำเขาไปเป็นแบบอย่างของความอดทนและมุ่งมั่นทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของคุณให้มันชัดเจน  มีแผนที่ชีวิตเพื่อที่จะนำทางให้คุณไปยังเป้าหมายที่คุณได้สร้างเอาไว้   ไม่ว่าจะ 5 ปี  10 ปี  กาลเวลาจะนานแค่ไหน  แต่ถ้าเรามีวินัยและใจสู้ทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอ  บางคนอาจโทษโชคชะตาฟ้าดินได้  แต่เชื่อเถอะว่าชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้  แต่เราเลือกที่จะเป็นได้  ฉะนั้นจงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเองครับ 

ใกล้เข้าปีใหม่มาทุกที  วางแผนชีวิตใหม่  เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ  แล้วคุณก็จะได้รับผลลัพธ์ใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตอย่างที่คุณไม่ต้องสงสัยเลยครับ  ก้าวไปทีละนิด คนสำเร็จคือคนที่ลงมือทำทีละนิด  จากความสำเร็จเล็กๆ  ก็กลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้   ขอแค่ใจใหญ่คิดทำอะไรก็ใหญ่ได้ครับ

ผู้ให้ที่ยิ่งให้

การเป็นผู้ให้นี่มันยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดจริงๆ เหรอครับบางทีผมก็มีคำถามแบบนี้เกิดขึ้นในใจผม  โลกนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจริงๆ  มีข้อความหนึ่งจากคุณ ภาววิทย์ผมชอบมากอยากจะนำมาแชร์

ปีหน้าเหรอ ไม่ต้องเดาเลย ...บริษัทจะพยายามลดต้นทุน ลดคน เอาหุ่นยนต์ เอาเครื่องจักร เอาเทคโนโลยีมาแทนให้มากที่สุด

 ...บริษัทที่ปรับตัวเก่งจะรอดแล้วรุ่ง แต่คนในบริษัท มันจะเข้าหลัก 80/20 คือ คน 80% จะไม่รอด เพราะ คน 80% ในบริษัทวันนี้เหมือนไขมัน เพราะ จริงๆ แล้วทุกบริษัทมีคนเพียง 20% เท่านั้นแหละ ที่ทำผลงานส่วนใหญ่ให้บริษัท 

คน 20% ที่ว่า คือ คนที่จะอยู่ได้ แถมได้เงินมากขึ้นไปอีก ...นี่คือ ยุคแห่งความแตกต่าง .."ถ้ารวย รวยโคตร ...ถ้าจน จะจนโคตร" 

 วันนี้โลกกำลังเปลี่ยนจาก 'เราต้องหางานทำ' มาเป็น 'เราต้องสร้างงานเอง' คุณจะปรับตัวกันอย่างไร ?

- ถ้ายุค 'หางาน' คือ สร้าง Profile ตัวเองให้ดี ..เพื่อจะได้สมัครงานบริษัทที่มั่นคง ..แต่ยุคนี้แม้แต่งาน ราชการ ยังไม่มั่นคงเลย ..สรุปได้เลยว่า ยุค 'หางานทำ' มันจบลงแล้ว ...ไม่มันไม่ได้หายไป เพียงแต่ใครคิดในมุมนี้จะเหนื่อยมากขึ้น และตกยุคไปเรื่อยๆ 

- อันนี้รวมถึงใครมีลูกแล้วยังสอนให้เขา 'หางานทำ' ชีวิตเขาจะ กดดัน งุนงง ..เหมือนคน Gen X (อย่างพวกผมนี่แหละ) ...พ่อแม่สอนผมว่า ให้หางานมั่นคง เหมือนพ่อแม่ส่วนใหญ่ ...แต่วันนี้ผมยิ่งทำงาน ยิ่งมองไม่เห็นว่า งานอะไรมั่นคง ...วันนี้ Gen X ส่วนใหญ่เริ่มเครียด และไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของโลก และ การทำงานยุคต่อไป

อ่านฟังดูแล้วน่าตกใจเหมือนกันนะครับ   แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกโลกทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมาก  มนุษย์เรามีความต้องการมากขึ้น  ต้องการการยอมรับในสังคม  และเป็นที่ต้องการอยากที่จะเป็นไอดอล  ของทุกคน    เราจะไม่เอาอย่างเขาครับ 

เราต้องกลับมาเป็นตัวเองทำในสิ่งที่แตกต่าง  สร้างความแตกต่างเป็นผู้ให้  ยิ่งให้ดีได้ครับมันเป็นกลสากลและใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย  การที่ผมมานั่งเขียนบทความและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนก็เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตมันยังมีหวังครับ  และถ้าคุณไม่สิ้นหวังสักวันคุณต้องประสบความสำเร็จตามที่คุณปรารถนา  เวลาจะเป็นเครื่องบงบอกทุกที่ทุกอย่าง  วางแผนชีวิตมีพิมพ์เขียวของตัวเอง  กำหนดทิศทางที่คุณต้องการจะเดินไปอย่างชัดเจน  ถึงแม้ ..... บางอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด  แต่...คุณก็ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน  ดีว่า....ชีวิตเลื่อนลอยไปอย่างไร้จุดมุ่งหมาย  สวัสดีครับ

โชคดีที่ได้รู้จักความกลัว

การค้นหาคำตอบของชีวิตมันเริ่มจุดใดกันแน่  บางทีเราก็รู้สึกสับสนบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเอายังไงดีกับชีวิต  เราเหนื่อยกับเรื่องเกินความจำเป็นมากเกินไป  เราใช้ชีวิตทุ่มเทไปกับเรื่องบางเรื่องจนไม่รู้ว่าทางออกของปัญหานั่นคืออะไรกันแน่  สิ่งที่ทำได้ก็คือชีวิตเราก็วนอยู่ในอ่างแบบนี้ไม่จักจบสิ้น  ชีวิตเราจะนำเราไปยังจุดใดก็หารู้ไม่  นั่นเพราะเราไม่มีแผนที่ในชีวิต  หรือยังไม่ชัดเจนในทิศทางของตัวเอง

บางทีคนเราก็ไม่มีเหตุผลอะไรมากหรอกครับ  มนุษย์เราตัดสินบางอย่างจากอารมณ์ชั่ววูบก็มี  ทุกอย่างเราจะไปคาดหวังความพร้อม  ความสมบูรณ์แบบในชีวิตนั้นล้วนเป็นไปได้ยากมากทีเดียว  การเริ่มทำอะไรบางอย่างตอนที่ตัวเรายังไม่พร้อมนั่นแหละคือสิ่งที่ดีทึ่สุด  เพราะบางการที่เราพร้อมไปซะหมด  กลายเป็นว่าเรากลับไม่กล้าลงมือทำอะไร

ยิ่งรู้ก็ยิ่งกลัว  พอยิ่งกลัวก็ยิ่งไม่กล้าตัดสินใจอะไรลงไปละชีวิตก็เป็นแบบนี้ละครับ

ลองอยู่นิ่งๆ หยุดทบทวนอะไรบางอย่างกับชีวิตของคุณ  ปล่อยวางบางเรื่องบางสิ่งให้เหตุการณ์มันผ่านไปก่อน  การแก้ปัญหาบางอย่างถ้าเราไม่สามารถแก้ปัญหาตอนนี้ได้  ก็รออีกสักนิดปล่อยให้จิตใจเรานิ่งสงบก่อน  ความสงบเป็นบ่อเกิดปัญญาในการแก้ปัญหา  ฝึกทำตัวเอง จิตใจให้เป็นปกติอยู่เสมอ  ชีวิตคุณจะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดอย่างแน่นอนครับ

แรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว

เป้าหมายชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ชีวิตคนเราจะไปได้ไกลแค่ไหนก็อยู่ที่ว่าเรากำหนดเป้าหมายชีวิตของเราไว้อย่างไรกันแน่  สิ่งที่เราคิดบางทีก็ไม่ได้เป็นไปอย่างใจเราคิดทุกอย่าง  ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุผลในตัวของมัน  อย่างวันนี้ผมอยากจะนำเสนอในเรื่องของข้อคิดในการออกแบบ  ในแบบฉบับของญี่ปุ่น  ผมอ่านดูแล้วน่าสนใจอยากจะนำเสนอให้คุณผู้ได้ลองเอาไปปรับใช้ดู


10 ข้อคิดเรื่องการออกแบบ 10 ข้อจาก อิเคบานะ

1.พื้นที่ว่างสำคัญเท่ากับองค์ประกอบอื่น จงหัดมองพื้นที่ว่าง
2.พื้นที่ว่างทำให้องค์ประกอบอื่นได้ "หายใจ" และเชื่อมโยงกัน
3.พื้นที่ว่างคือส่วนขยายที่ทรงพลัง  ช่วยสร้างองค์รวมที่ดูน่าสนใจมากกว่าการรวมชิ้นส่วยแยกกันอยู่
4.การชี้แนะและความลุ่มลึกในงานออกแบบดึงดูดผู้ชมให้มีส่วนร่วม ทำให้เขาเติมเต็ส่วนที่ไม่สมบูรณ์
5.การจัดเรียบ (งานออกแบบ)  ควรกระตุ้นจิตตนาการของผู้ชม
6.มีความคิดสร้างสรรค์และเสรีภาพในการออกแบบภายใต้กฎระเบียบ ถ้าไร้กฎระเบียบก็ไร้เสรีภาพ
7.ความชัดเจน ความสวยงามและความหมายปรากฎในความเรียบง่าย
8.ความสมดุลที่ไม่สมมาตรมีความเป็นธรรมชาติ มีมิติและน่าดึงดูด
9.สำหรับนักออกแบบหรือ (ศิลปิน) การจดดจ่อ ความสงบ ความนุ่มนวลและการมองเห็นคือคุณสมบัติที่สำคัญกว่าความกระตื้อรือร้นเพียงอย่างเดียว จงสงบจิตใจที่ว้าวุ้นของคุณ
10.การจัดเรียงส่วนประกอบต่างๆ อย่างใส่ใจโดยยึดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดนั้น  ทำให้เกิดความสวยงามและความน่าสนใจโดยปราศจากการตกแต่ง

ไม่ว่างานอะไร  กิจกรรมอะไรก็ตามแต่ทุกอย่างล้วนต้องการที่ว่าง เพื่อการหายใจชีวิตบางทีก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้ใช้ชีวิตในแบบฉบับที่ตัวเองฝันไว้  ความเรียบง่ายในการใช้ชีวิตจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ  มันมีผลต่อความสำเร็จหลายๆอย่าง  บางทีความเก่งอาจเป็นแค่ตัวช่วยไม่ได้การันตีนะครับว่าคุณจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่  ใจเท่านั้นที่เป็นใหญ่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง  ความสำเร็จไม่ได้มีขาอยากได้ อยากประสบความสำเร็จคุณก็ต้องทำและสร้างมันขึ้นมาเอง  ฝันให้ไกลไปให้ถึงครับ  ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม  ผมเป็นกำลังใจให้นักสู้ทุกคนครับ

10 วิธีถ่ายภาพให้ดีกว่าเดิม

ผมได้อ่านหนังสือเรื่องหนึ่งเขานำเสนอวิธีเกี่ยวกับการถ่ายรูปเบื้องต้นไว้ได้ดีมากเลยครับ อยากจะแนะนำให้ท่านได้ลอง นำไปใช้ดูสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ในเรื่องการถ่ายภาพ  เป็นอะไรที่นำเสนอได้ดีมาก  องค์ประกอบที่ทำให้รูปสวยไม่ได้อยู่ที่กล้อง แต่มันอยู่ที่เคล็ดลับนี้ครับ

1.การถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้งให้ดูดี

ขอให้นายแบบ นางแบบเข้าไปในร่ม เช่น ต้นไม้ กันสาด หรือสถานที่ซึ่งอยู่ใต้เงา (ไม่มีแสงลอดมาทางกิ่งไม้)

2.การวางตำแหน่งคนในภาพ

นักถ่ายภาพมืออาชีพจะไม่ถ่ายรูปคนไว้ตรงกลาง ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านซ้ายหรือขวา ของภาพ แทนที่จะอยู่ตรงกลาง ซึ่งดูน่าสนใจและมีพลัง เน้นตัวบุคคลมากขึ้น

3.การถ่ายรูปในการถ่ายรูปในพื้นที่แสงน้อย

ตั้งขากล้องเพื่อยึดถ่ายรูปให้มั่นคง

4.ทำให้ภาพมีสีสันสดใส

ตั้งค่าการถ่ายไปที่ AUTO  ง่ายๆแบบนี้เลยครับ

5.การถ่ายรูปด้วยการใช้แฟลช

สวมแฟลชด้านบนของกล้องถ่ายรูป  ช่วยให้แสงดูนุ่มนวลและฟุ้งกระจาย ผลลัพธ์ดูดีกว่าเดิมมาก

6. เวลาถ่ายรูปคน อย่าทำผิดพลาดอย่างนี้

คือ มีพื้นที่ว่างเหนือศรีษะมากเกินไป  ดวงตาของนายแบบ นางแบบควรอยู่ส่วนบน 1/3 ของรูป  และอยู่แบบต้องอยู่เต็มภาพ  สิ่งที่ควรโฟกัสคือ ดวงตาเสมอ

7.กฎทองของการถ่ายภาพทิวทัศน์

เคล็ดลับการถ่ายภาพทิวทัศน์ให้ดีขึ้น คือ การถ่ายวิวในแสงที่สวยงาม ซึ่งหนึ่งวันมีสองครั้งคือพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก  นักถ่ายภาพมืออาชีพมักถ่ายทิวทัศน์ในเวลานี้ ซี่งสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก  (นี่คือเหตุผลที่มืออาชีพเรียกว่า ชั่วโมงทอง)  ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่แสงน้อย ดั้งนั้นควรตั้งขากล้องเพื่อไม่ให้ภาพเบลอ

8.ใช้โหมดถ่ายรูปที่มีอยู่กล้อง

9.การวางตำแหน่งเส้นขอบฟ้า

ในขณะถ่ายภาพทิวทัศน์ ช่างภาพธรรมดามักวางตำแหน่งเส้นขอบฟ้าที่กลางภาพ ทำถูกไหมถูกครับ แต่ถ้าอยากได้ภาพธรรมดา ก็วางเส้นของฟ้าที่ตำแหน่ง 1/3 ของส่วนบนหรือส่วนล่างของภาพ  ถ้าท้องฟ้าสวยและมีเมฆมาก ให้วางเส้นขอบฟ้าที่ด้านล่างของภาพ  เพื่อให้เห็นท้องฟ้ามากขี้น  ถ้าท้องฟ้าไร้ชีวิตชีวาและปราศจากเมฆ  ให้วางเส้นขอบฟ้าที่ส่วนบนของภาพ เพื่อให้เห็นพื้นมากขึ้น นี่คือหลักการง่ายๆ ที่สำคัญ โปรดจำไว้ครับว่า  นี่คือเหตุผลที่เรียกว่า "ตรงกลางหายนะ"

10. เปลี่ยนมุมมอง

เช่น  ลองนั่งคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วถ่ายรูปที่ระดับตาเขา

       ลองถ่ายรูปดอกไม้ในระดับพื้นดินหรือระดับเดียวกับดอกไม้

      ลองถ่ายรูปถนนจากบันได

การเปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย ทำให้ภาพดูสดใหม่และเหมือนมืออาชีพมากยิ่งขึ้น  สิ่งสำคัญคือคุณไม่ได้ถ่ายภาพ แต่คุณสร้างมัน   การเรียนรู้พื้นฐานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะมันทำให้คุณทำงานง่ายขึ้น และออกแบบได้ดีขึ้น  ไม่ว่าจะทุกสาขาอาชีพเลยครับ  ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ดูครับ

ออกแบบความสุขให้ตัวเองก่อน

ผมว่าก่อนที่เราจะไปโฟกัสว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จอย่างไร  เราจะไปได้ไกลแค่ไหน  ร่ำรวยมากน้อยขนาดไหน  ให้ลองกลับมาถามตัวเราก่อนครับว่า  ชีวิตที่เราต้องการจริงๆมันคืออะไร

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่เราต้องรวมตัวอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่ม  ยิ่งโลกพัฒนาไปรวดเร็วมากขึ้นเราก็ได้เห็นอะไรมากยิ่งขึ้น  ผมเลยอยากจะให้ท่านผุ้อ่านได้ลองมานั่งทบทวนตัวเองก่อนว่า 

เรามาหาสิ่งที่ชอบก่อนดีกว่าไหม  เมื่อเรารู้จักตัวเองมากขึ้นก็ไม่ยากเลยที่จะเลือกออกแบบชีวิต  ออกแบบเรื่องราวความสำเร็จในแบบฉบับของเราเอง  การวิ่งตามคนอื่นมันไม่เทห์หรอกครับ  คุณก็ไม่ต่างอะไรกับบุคคลทั่วไป  ที่ในสุดท้ายแล้วก็มานั่งเสียดายกับชีวิตที่มันผ่านไป  โดยไม่ได้ทำอะไรตามฝันตัวเองสักที

เราหลงในวัตถุกันมาก  ชื่นชมบุคคลและวัดความสำเร็จที่ตัวเงิน  จนไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงคนที่ประสบความสำเร็จเหล่านั้น เขากำลังทำสิ่งที่เขารักและชอบมันต่างหาก  เงินทองเป็นผลพลอยได้  แต่มนุษย์ผู้กระหายความมั่งคั่งกลับไม่ได้คิดแบบนั้น   เราเห็นเขาสำเร็จก็ไปลอกแบบเขาบ้าง  ทั้งที่ตัวเองไม่มีความรู้  ไม่ได้ชอบในสิ่งนั้นเลย  เราทำเพียงแค่ความต้องการของคนอื่น  และเงิน  มนุษย์ผู้ที่ถูกครอบงำด้วยเงินตราซะเเล้ว  การจะทำอะไรก็ย่อมยากไปหมด   อยากให้คุณตัดเรื่องกังวลใจเหล่านี้ไปก่อนครับ  ความสำเร็จบางทีเราคาดเดามันไม่ได้ 

แต่สิ่งที่เราทำได้เลยคือ  การลงมือทำตามความฝัน  ความปรารถนาของเราและมีความสุขกับมัน  บางคนวิ่งตามหาความสำเร็จ  มีหน้าที่การงานใหญ่โต  สุดท้ายเป็นไงครับ  โรคภัยไข้เจ็บถามหา  มันไม่คุ้มกับการลงทุนลงแรงของคุณเลยใช่ไหม  โลกเรามันแปลกครับเราวิ่งหาสิ่งที่ก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่าสุดท้ายแล้ว  มันต้องแลกกับบางสิ่ง  บางสิ่งที่ว่านั่นก็คือสุขภาพของคุณนั่นเอง  เพราะเราเกิดมามีชีวิตเดียวจงรักและถนอมมันให้มากๆครับ 

คนที่รวยสุดท้ายสิ่งที่เขาต้องการจริงนั่นก็คือ  เวลา  สุขภาพ  ความสุข  นั่นแหละก็คือพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้วไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะอะไรก็ตามแต่  เลือกที่จะเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่  ดีกว่าคนที่เห็นแก่ได้แต่สุดท้ายชีวิตคุณก็ต้องจากโลกใบนี้ไปอยู่ดี  การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าก็คือการสร้างคุณค่าให้กับผู้อื่นนั่นเอง  เมื่อคุณรู้จักให้คุณก็จะได้รับอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

ยังไงก่อนที่คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต ขอฝากรักษา กาย ใจของคุณเองให้ดีนะครับ  แล้วคุณจะรู้ว่าเมื่อความสำเร็จมาถึง  มันดีแค่ไหนที่เรามีมันทั้งสองสิ่งนี้  ยังไงก็ฝากไว้ด้วยครับ

คุณเคารพตัวเองมากแค่ไหน

ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านครับว่าบางทีชีวิตคนเราก็ไม่รู้หรอกครับว่า   เราเดินมาถูกทางหรือไม่  บางทีก็เหนื่อยกับชีวิต บางทีก็รู้สึกแปลกๆกับชีวิต  จนไม่รู้เลยว่าตัวเราเองกำลังหลงทางอยู่หรือไม่  ทางข้างหน้าบางทีมันก็ดูออกจะยาวไกลเหลือเกิน

ยามใดทึี่ชีวิตเรามาถึงจุดนี้  แสดงว่ามันถึงจุดเปลี่ยนอะไรบางอย่างที่เราต้องลงมือทำอะไรกับชีวิตเราสักทีครับ  การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า  ดีงาม และเป็นประโยชน์ต่อผู้คน  หลายคนอาจมองเป็นเรื่องที่มองโลกในแง่ดีเกินไป  โลกใบนี้ผมว่ามันเต็มไปด้วยความซับซ้อนมากมายอยู่แล้วครับ  คุณอย่าไปทำอะไรให้ชีวิตเรามันซับซ้อนวุ่นวายไปเลยครับ  ชีวิตที่เรียบง่ายนั่นแหละคือชีวิตที่ดีที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุด

พยายามรักษาจิตใจของคุณให้สงบ  ทำใจให้เป็นกลางพร้อมรับสิ่งใหม่ๆ  จิตใจที่สงบย่อมแก้ปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิต  และเราก็สามารถผ่านมันไปได้  เหตุการณ์ต่างๆ เรื่องราวๆต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็เพื่อต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่างกับเรานั่นแหละครับ  เพื่อให้เราได้รู้และเข้าใจบททาทหน้าที่ของตัวเอง  ให้ก้าวเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง  บางครั้งเราถูกมองว่าไม่เอาไหนในสายตาใครๆ  เราดูบ้า  แต่ก็นั่นแหละครับ  ใครจะว่าอะไรอย่างไรก็ตามครับ  สิ่งที่เรารู้ดีที่สุดนั่นก็คือตัวของเราเอง

พยายามเข้าไว้ครับ  ใครจะว่าเราบ้าอะไรอย่างไรก็ตาม  สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็คือ  การรู้จักและเข้าใจตัวเราเองนั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด  บททดสอบที่ดีที่สุดก็คือการฝึกนิสัยการลงมือทำ และทำมันทุกวันแบบสม่ำเสมอ  นี่แหละครับคือเคล็ดลับสุดยอดของความสำเร็จ  เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าคนที่เก่งที่สุดคือคนที่ทำอะไรก็สุดยอดไปหมด

คนที่สุดยอดในความคิดของผมตอนนี้เปลี่ยนไปมาก  เมื่อเราโตขึ้นเราได้เรียนรู้  ได้เห็นอะไรมากยิ่งขึ้นก็ทำให้เราได้เข้าใจอะไรต่ออะไรมากขึ้น  ในท้ายที่สุดสิ่งที่ชีวิตเราปรารถนาจริงๆ คืออะไร และสิ่งที่เราควรทำเพื่ออะไร  คนบางคนวิ่งหาความสุข  หาเท่าไหร่ก็ไม่มีทางเจอนั่นก็เพราะคุณเอาความสุขไปฝากไว้กับสิ่งภายนอก  ลองมองลึกเข้ามาในจิตใจของคุณแล้วคุณจะพบว่า  ชีวิตนั้นสวยงามกว่าที่คุณคิด  และคุณก็สามารถทำอะไร ให้กับโลกใบนี้ได้มากมาย

สิ่งใดกันที่เราต้องการ

ชีวิตคนเรา

1. อะไรคือความสำเร็จ? 

เมื่อใครคนหนึ่ง ผ่านอายุย่างเข้าวัยกลางคน เขามีสุขภาพแข็งแรง มีคนรักที่เข้าใจซึ่งกัน(ครอบครัว) มีลูกๆที่กตัญญูและเชื่อฟัง มีงานที่เขาชอบ ไม่ต้องมีชื่อเสียง ไม่ต้องร่ำรวย เป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องเป็นตัวแทนของใคร
นี่คือความสำเร็จ

2. อะไรคือความสุข?

คนที่ใกล้ตายมักจะบอกเหมือนกันก็คือ “หากย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ทำโอทีจนไม่มีเวลาพักผ่อน ผมจะไม่เอาเป็นเอาตายกับการผ่อนบ้านผ่อนรถคันใหม่”
และเมื่อถามเขาว่า หากกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งคุณจะทำอะไร? คำตอบที่เหมือนกันก็คือ “จะขอชดเชยโดยการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด”

3. คุณค่าของคุณอยู่ที่ไหน?

หากคุณล้มป่วยหรือใกล้ถึงความตาย บริษัทที่คุณทำงานอยู่จะรีบหาพนักงานคนใหม่มาทำหน้าที่แทนคุณในทันที งานที่บริษัทยังคงดำเนินไปเป็นปกติ คุณไม่ได้เป็นคนสำคัญที่สุดของบริษัท!
แต่สำหรับพ่อแม่ คนในครอบครัว สามีภรรยาและลูกของคุณ ท้องฟ้าของพวกเขากำลังจะถล่มลงมา เพราะคุณคือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา!

4. อะไรคือวาสนา?

ไม่ร่ำรวยแต่ไม่ขัดสน ที่บ้านไม่มีคนป่วย พ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้า ไม่มีญาติที่ถูกขังอยู่ในคุก
ไม่มีศัตรูคู่อาฆาต ในกลุ่มไม่มีทุรชน ข้างกายไม่มีคนเลว ยามทำผิดมีกัลยาณมิตรคอยตักเตือน ทำการใดมีผู้อุปถัมภ์ มีผู้รู้เป็นมิตรสหาย นี่แหละคือวาสนา


ผมได้รับประโยคนี้แล้วรู้สึกสะกิดใจขึ้นมาทันทีว่า  แท้ที่จริงความสำเร็จหรือสิ่งที่เรากำลังวิ่งตามกันอยู่ในโลกทุนนิยมจนเราลืมความเป็นตัวตนของเรา  เราใช้เงินเป็นตัววัดคุณค่าและความมั่งคั่งกัน  ใครมีเงินมากคนนั่นคือคนที่มีอำนาจ  เราลืมความสุขที่แท้จริงในใจเรา  มันหายไปทุกที คุณเชื่อไหมครับถ้าลองสังเกตุดูดีๆ ลองนั่งดูคนที่เดินผ่านไปมาดูซิครับ  ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยยิ้มเลย เดินผ่านกันไปกันมา  ต่างคนต่างวิ่งหาความสุข เงินทอง ชือเสียง  อะไรก็ไม่รู้จนไม่รู้เลยว่าเราต้องการเพื่อตัวเราเอง  หรือเพื่อใครกันแน่  คำถามที่มันคาใจของเรานั่น  ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์และหาทางออกให้กับปัญหาไม่เจอ

พอเถอะครับเราจะไม่เป็นเหมือนคนอื่น  ทำเหมือนคนอื่นและคิดแบบคนอื่น  เราจะกลับมาเป็นตัวของเราเอง  ไม่ทำตามคนอื่นไม่ไปวิ่งตามใครทั้งนั้น  เพราะการเป็นตัวของตัวเองมันดีที่สุดแล้วครับ  จงเป็นตัวเราในแบบที่เราต้องการ และใช้ชีวิตตามความฝันของเราเอง  อย่าไปกลัวว่ามันจะออกมาดีหรือ  ขอแค่ทำให้ดีที่สุด  แล้วคุณก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจอีกต่อไป  

โอกาสมีไว้สำหรับคนที่พร้อม

ชีวิตคนเรามันก็แปลกนะครับ  บางทีเราก็ไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะพาเราไปที่ไหน หลายครั้งที่เราแต่เฝ้าพร่ำบ่นว่าชีวิตมันช่างยากเย็นเหลือเกิน  ไม่มีโอกาสดีๆจริงๆ โอกาสดีๆวิ่งเข้ามาตลอดครับ  อย่าอ้างว่าไม่มีโอกาสเป็นเพราะตัวเราต่างหากที่ไม่พร้อมรับโอกาสนั้น 


บางครั้งบางทีโชคชะตาก็เล่นตลกกับเรานะครับ  สิ่งที่เราอยากทำก็ไม่ได้ทำ  สิ่งที่ไม่ต้องการหรือไม่อยากทำก็ไม่ได้ทำ  กลับกันบางทีโชคชะตาพลิกผันนตลอดเวลา  บางสถานการณ์เรากำหนดไม่ได้  แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนความคิด ทัศนคติขของเราได้ เพราความคิดจึงทำให้เราเติบโตและชีวิตเราเปลี่ยน  อยากให้ชีวิตคุณดีขึ้น  ก็ต้องเริ่มที่ความคิดและทำปัจจุบันของคุณให้มันดีขึ้น  เราเปลี่ยนโลกได้ด้วยการเปลี่ยนตัวเราเองก่อนครับ

ประสบการณ์มากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมนุษย์  ล้วนสอนบทเรียนที่ดีให้กับชีวิตเรา  เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น  เข้าใจโลกมากขึ้นเห็นอะไรมากขึ้น 

คนบางคนดีมากจนเราน่าแปลกใจ  ในขณะที่บางคนก็เลวมากจนน่าตกใจ 

ชีวิตก็แบบนี้แหละโลกมีทั้งมุมมืดและมุมที่สว่าง   มุมมืดก็สอนอะไรเราได้มากมาย  มุมที่สว่างก็สอนอะไรเราได้มากมายเช่นกัน  การที่เรามองว่าโลกมันไม่ยุติธรรมแท้จริงโลกมันเป็นแบบนี้มานานแล้วนะครับ  เมื่อคุณได้เห็นโลกและเรียนรู้โลกมากขึ้น  ทุกอย่างคุณก็จะเข้าใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย   ตอนเป็นเด็กเราจะเห็นได้ว่า  อะไรก็ดูเป็นของง่ายและของสวยงามไปหมด  การมองโลกในแง่ดีแบบเด็กมันก็ดีครับ แต่เมื่อโตขึ้นเราก็ต้องเรียนรู้การมองโลกตามความเป็นจริง  ตามที่มันเป็นไปด้วยครับ 

คำถามที่ตั้งให้กับตัวเอง  ก็คือคำตอบที่จะพาคุณไปสู่อนาคตของคุณ  ผมเคยถามตัวเองว่า

-ทำอย่างไรชีวิตถึงจะใช้ชีวิตในแบบที่อิสระ  ทั้งทางการเงิน และการใช้ชีวิต
-ทำอย่างไรถึงจะมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น
-งานอะไรที่ทำแล้วไม่ต้องใช้เวลาแลกกับเงิน
-จะพัฒนาตัวเองอย่างไรให้ดีขึ้นในทุกทาง
-อีก 5 ปี 10 ปี ข้างฉันต้องการให้ชีวิตเป็นแบบไหน

ฟังดูเป็นเรื่องจริงจังและดูซีเรียสนะครับ  แต่มันคือชีวิตที่ต้องเรียนรู้เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ  อิสรภาพทางการเงิน และการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้  คนที่มีทางเลือกให้กับชีวิตตัวเองมากกว่า หนึ่งหนทางย่อมเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย  ฝึกฝนพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆอย่างไม่ลดละ  โอกาสที่เข้ามารับรองได้ว่าคุณคว้ามันได้อย่างแน่นอน

เคล็ดไม่ลับของชีวิต

ผมอยากจะบอกว่าการทบทวนตัวเองอย่างหนักเพื่อที่จะก้าวไปสู่บทเรียนใหม่ที่ดีกว่าเดิมนั้น  นั่นก็คือการเตรียมความพร้อมอีกรูปแบบหนึ่งของชีวิต  วันนี้ผมมีเคล็ดลับอย่างหนึ่งจะแนะนำให้ท่านผู้อ่านนำไปใช้ในการดำรงชีวิตครับ  เป็นหนังสือของฝรั่ง ยอดขายกว่า 2800 ล้านบาท  เขาแนะนำสูตรแห่งความสำเร็จเอาไว้  ดังนี้

1.ฝึกตัวเองให้ฝึกแก้ปัญหา  อย่าหนีปัญหา กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง  รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน
2.เลิกโทษคนอื่น เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นสิ่งแรกที่เราต้องแก้ไขนั่นก็คือ ตัวเราเองก่อน
3.รู้จักยอมรับความเป็นจริง เขียนแผนที่ชีวิตและปรับเปลี่ยนตลอดเวลาให้เหมาะกับสถานการณ์
4.ทำตัวให้เป็นกลาง ยึดมั่นถือมั่นให้น้อยลง

บางทีสิ่งที่ยากจริงๆ  ในการใช้ชีวิตไม่ใช่เรื่องที่ยากหรอก  แต่มันอยู่ที่ตัวเรานั่นแหละครับยึดมั่นถือมั่น  ตั้งอยู่บนความไม่พอดี  บางอย่างเรายึดติดมากเกินไป  จนบางทีเราก็หาความพอดีให้กับตัวเราเองไม่ได้  เราวิ่งวุ่นวายไปหมด  ยากที่จะเข้าใจตัวเอง  ผมอยากให้คุณลองหยุดทบทวนตัวเองสักนิด  มองหาความสัมพันธ์ที่มันอยู่ตรงกลาง  หาความพอดีให้เจอ  แล้วคุณจะพอใจกับความสุขในชีวิต 

การใช้ชีวิตแบบให้ตัวเองมีทางเลือก  ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร การมีทางเลือกย่อมทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นในการใช้ชีวิต  จิตใจที่เข็มแข็งร่างกายที่แข็มแข็ง  ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมด  เตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ที่เข้ามา  ชีวิตมีอะไรให้ลองอยู่เสมอๆครับ  อย่าไปกลัวว่าจะไม่มีทางออกให้กับชีวิต  เพราะทางออกมันมีให้คุณอยู่เสมอ  ใจเย็น ๆ นิ่งๆ แล้วคุณจะเจอมันเองครับ

สุขภาพที่ดีมีผลต่อความสำเร็จ

เมื่อก่อนผมคิดว่าคนที่อยู่สังคมเมืองเท่านั้นที่จะมีโอกาสและได้รับโอกาสดีๆ  แต่แท้จริงยิ่งเป็นสังคมใหญ่โอกาสมากมายก็จริง  แต่อย่าลืมซิครับว่า  ทุกคนก็คิดแบบนั้นสังคมเมืองจึงเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นที่แสวงหาโอกาส ซึ่งบางทีคุณก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะมีจริงอยู่หรือไม่

แท้ที่จริงโอกาสไม่ได้เกิดจากการแสวงหาอย่างเดียว  มันเกิดจากความปรารถนาในตัวเรานั่นแหละครับ  คนเราคิดแบบไหนย่อมได้รับแบบนั้น  จึงเป็นคำถามที่ติดในใจของทุกท่านว่า  วันนี้คุณคิดทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือความสำเร็จแล้วหรือยัง  หลายที่ที่ผมไปประสบพบเจอมาจากการเดินทางบ่อย  ผมพบว่าทุกที่ที่ผมไป  ผมได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ  นั่นแหละมันคือโอกาสเห็นเลยว่าในทุกที่มันมีโอกาส

การที่มนุษย์เราคิดแต่ว่าการจะได้โอกาสเราต้องเรียนหนังสือสูงๆ  ทำงานบริษัทๆ  อาชีพๆมั่นคง อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ  เป็นความคิดที่ไม่จริงซะทีเดียวนะครับ  ใช่ครับว่าเมืองใหญ่เหมาะสำหรับโอกาสในการพัฒนาตัวเอง และสร้างธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น  นั่นเป็นความคิดของผู้ประกอบการ  มนุษย์เงินไม่ว่าคุณจะอยู่ไหน  มันอยู่ที่ตัวคุณต่างหากครับ  ถ้าคุณมีวินัยในการใช้เงิน บริหารงาน เงินเป็น คุณก็จะมีอิสรภาพทางการเงินอย่างแน่นอน

กลับมาที่ตัวเราเองดีกว่า  การที่มนุษย์ต่างผลักดันตัวเองไปข้าง  บางทีก็มีจุดมุ่งหมาย  บางทีก็ไร้จุดมุ่งหมาย  อยากทำเพื่อแค่ต้องการเป็นที่ยอมรับคนอื่น  นั่นแค่ความคาดหวังจากภายนอก  จึงเป็นเหตุให้เราต้องทราบจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของเราให้ดีก่อน  ไม่มีผิดหรือถูกในความคาดหวัง  ทุกๆเป้าหมายของคนเรามันเป็นไปได้เสมอ ตอนนี้เราอยู่จุดนี้ถ้าเราเชื่อว่าเราจะไปยังจุดนี้ได้  เราก็ต้องไปได้อย่างแน่นอน

อย่างมองเเค่ผลประโยชน์ระยะสั้น  ผิวเผินนะครับเวลาจะคิดทำการสิ่งให้ให้มองลึกๆ และยาวๆ  วางแผนชีวิตตัวเองไปเลยครับ  5 ปี   10 ปี จะทำอะไร  ไม่ใช่เรื่องตลกนะครับ  ชีวิตที่มีการวางแผนรู้หามองหาลู่ทางย่อมเป็นชีวิตที่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  ปล่อยชีวิตไปวันๆแบบไร้จุดมุ่งหมาย  เวลาที่หมดหวัง ท้อใจ  ก็หาแรงบันดาลใจเพื่อเติมเชื่อพลังให้ตัวเองให้ได้ครับ  คนเราอยู่ได้ด้วยพลังของความมุ่งมั่น และเชื่อมั่นในตัวเอง  รักษากายใจของคุณให้ดี  เพราะการมีชีวิตที่ดี นั่นคือองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จ

ขี้เกียจแบบมีรสนิยม

ใครว่าคนขี้เกียจเป็นคนไม่ดีครับ  จริงๆโลกใบนี้มันมีทั้งคนขี้เกียจ และคนขยัน  ทีนี้เรามาดูกันครับ

บางคนขยันมากยิ่งขยัน ยิ่งรวย ยิ่งประสบความสำเร็จ นั่นเพราะเข้าเดินมาถุกทางไงครับ

บางคนขยันมาก ยิ่งขยัน ก็ยังอยู่ที่เดิม ต้องกลับมาดูแล้วครับว่างานที่เขาทำนั่นสร้างคุณค่าให้ผู้คนมากขนาดไหน  หรือแค่งานแรงงานทั่วไป

ในขณะที่บางคนขี้เกียจมาก  แต่ทำไมรวยเอาๆ  ประสบความสำเร็จมากขึ้น  ถ้าคุณไปศึกษาจริง นั่นเพราะสิ่งที่เขาทำ  หรือผลลัพธ์ที่เขาทำมันชัดเจน และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับองค์กรไงครับ   บางคนทำงานแทบตายกลับบ้านดึกดื่น  แต่เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายอะไรคุณต้องมาตอบคำถามตัวเองแล้วละครับว่า  งานที่คุณทำมันสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทหรือองค์กรจริงๆหรือไม่

ผมไม่ได้ต้องการให้คุณเป็นคนขึ้เกียจนะครับ  แค่อยากให้คุณได้เข้าใจกฏเกณฑ์บางอย่าง  ที่ผมกำลังจะพูดนั่นก็คือ 

1 งานที่ใช้เวลาแลกเงิน

2 งานที่ใช้ความสามารถแลกกับเวลา

ฟังดูคล้ายกันนะครับ  แต่มันแตกต่างกันมากทีเดียว  ทำไมคนประเภทที่สองจึงก้าวไปได้เร็วกว่าและไกลกว่าละครับ  นั่นเพราะเขาเข้าใจกฏนี้ไงครับ  ดูเหมือนเขาไม่ได้ทำอะไรมาก  แต่ผลลัพธ์มันมากมายจริงๆ  แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแบบนี้ได้   แต่การเรียนรู้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการทำสิ่งเหล่านี้  ย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะให้คุณได้ก้าวไปข้างหน้า  และประสบความสำเร็จได้สิ่งที่ทำให้มนุษย์เราแตกต่างกันไม่ใช่มาจาก ฐานะความเป็นอยู่หรือชาติตระกูล  แต่มันคือความคิด ทัศนคติของคนนั่นแหละครับที่จะกำหนดเราได้ว่า  เราจะไปได้ไกลมากขนาดไหน  หาใช่สิ่งสภาพแวดล้อมไม่

คนเราเลือกเกิดไม่ได้  แต่เราเลือกที่จะเป็นได้  เลือกที่จะทำตามหัวใจตัวเอง  เลือกที่จะเดินตามรอยเท้าของเราเอง  ไม่ไปตามแบบที่ใครๆ กำหนดไว้ว่ามันดี  เลือกทำในสิ่งที่เรารัก  ไม่ว่าอะไรจะเกิดกับชีวิตคุณ  สิ่งเดียวที่คุณต้องทำคือ อดทนผ่านจุดนี้ไปให้ได้  ฟ้าหลังฝนมันดีเสมอครับ  อยากเป็นคนเช่นไรก็ให้คบคนแบบไหน  สิ่งไหนไม่ดีอย่าเอามาที่ต้วเรา  และอย่าไปทำกับคนอื่น  ชีวิตมันก็ง่ายๆสไตส์คนขี้เกียจก็มีแบบนี้เอง

ชีวิตปกติ

บางทีคนดรานะครับ  ตั้งความหวังไว้มากก็ผิดหวังมาก  ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าทางที่เราเดินอยู่มันจะเต็มไปด้วยขวางหนามหรืออุปสรรค์อะไรบ้าง  แต่ในที่สุดตัวเราก็ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างให้กับตัวเราเอง  จะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงก็มีค่าเท่ากัน

สิ่งหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้คิดและตัดสินใจลงมือทำอะไรไปก่อน  นั่นก็คือ

1.ศึกษาวางแผนเตรียมความพร้อมตัวเราเองอย่างดี

2.ไม่ต้องรีบร้อนขอแค่มั่นคงและหนักแน่น

3.รู้จักอดทนรอคอยจังหวะที่ดีเหมาะสม

จริงๆ ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่ให้เราได้เลือกใช้ให้ดีที่สุดสำหรับการวางแผนชีวิต  มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่เรามองว่าชีวิตเราอีกไม่นานก็ตายเราจะไปคาดหวังอะไรให้มันมากไม่ได้หรอก  คนเราถ้าปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้กำหนดย่อม  ย่อมเป็นต้นแบบที่ไม่ดีแน่  มนุษย์เราถ้าอยากประสบความสำเร็จก็ต้องรู้จักเรียนรู้แบบอย่างจากคนที่เขาทำสำเร็จ  เรียนรู้วิธีการของเขา  แล้วทำในสิ่งที่แตกต่างในแบบฉบับของเรา  ขอให้มั่นใจในตัวเองทำในสิ่งที่มันดีที่สุด  อย่าไปคิดว่าคนอื่นจะไม่รู้ในการกระทำของคุณ  สุดท้ายน้ำลดตอจะฝุดเอง  ทำในทุกสิ่ง  ทุกการกระทำของชีวิตด้วยความตั้งใจจริง  

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คน  คุณไม่จำเป็นต้องเป็นสุดยอดขอแค่เป็นคนธรรมดา  ใช้ชีวิตแบบธรรมดา  มีเศรษฐีท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า  "เวลาที่เราจะว่ายน้ำไปอีกฝั่งหนึ่ง  เราต้องเก็บเวลาเผื่อไว้เพื่อที่จะว่ายกลับมาด้วยครับ"  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย  เราทำตามความปรารถนาของเราได้  โดยที่ไม่เหนื่อย  ใช้ชีวิตให้เป็นปกติ รู้จักรอจังหวะและโอกาสที่เข้ามาอย่างเสมอ  คุณทำได้อยู่แล้วครับ ขอแค่เชื่อมั่นในตัวตนของคุณ

การให้อภัย

ความโกรธก็เหมือนไฟ  ถ้าเราไม่ดับมันสุดท้ายไฟนั่นแหละครับที่จะเผาตัวเราเอง  ก่อนจะคิดโกรธใครให้ตั้งสติสักนิดครับว่า  มันคุ้มไหมกับการที่มานั่งโกรธหรือนั่งเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง  บางทีความโกธรมันบังตาเราอยู่จนไม่รู้ว่าอะไรถูกผิด  เราทำอะไรโดยที่เราไม่รู้ตัว 

บทความนี้ที่ผมหยิบขึ้นมาก็เพราะว่า  ปัจจุบันสังคมเราเจริญขึ้นมาก เทคโนโลยีมากับความสะดวกสบายแต่ในขณะเดียวกัน ก็มาพร้อมกับความซับซ้อนทางเทคโนโลยีที่บางทีเราก็คาดไม่ถึง  สิ่งเหล่านี้เลยทำให้พฤติกรรมมนุษย์เราเปลี่ยนแปลงไป  มนุษย์ชอบอะไรที่รวดเร็วขึ้น  เราใจร้อนมากขึ้น  เราแก้ปัญหาในแบบที่คิดว่ามันดีที่สุด  แต่ปัญหากับไม่ได้หมดไปไม่ต่างอะไรกับการปัดภาระให้กับผู้อื่นต่อ  สภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป  ทำให้ผู้คนทะเลาะกันมากขึ้น  บางทีก็ทำอะไรโดยขาดความยับยั้งชั่งใจตัวเอง  มารู้ตัวอีกทีก็เสียใจที่ทำอะไรโดยไม่คิดไปแล้ว

เรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางเรื่องหากเรารู้จักการให้อภัยผู้อื่น  ปล่อยวางกับบางเรื่องบ้างก็ดีนะครับ  อย่าไปหนักใจอะไรให้มันมาก  ชีวิตคุณไม่ได้อยู่ไปถึง 100 ปีครับ  ฉะนั้นจะใช้ชีวิตของคุณอย่างมีคุณค่าให้มากที่สุด  ให้อภัยผู้อื่นก็คือการให้อภัยตัวเราเองไปด้วย  การเป็นคนไม่โกธรย่อมเป็นคนที่มีเสน่ห์  น่าคบค้าสมาคมด้วย  บุคคลที่วางตัวอยู่ก็ย่อมเป็นที่เคารพยกย่อง  กับคนที่พบเห็นเป็นที่รักของทุกคน  มันอาจใช่ครับว่าเราไม่สามารถทำให้เป็นที่รักของทุกคนได้  แต่เราสามารถทำตัวเราให้ดีเยี่ยมขึ้น  ไม่จำเป็นต้องไปเสียเวลากับคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรา  จงให้ความสำคัญกับคนที่เขาเห็นความสำคัญกับเราครับ  ไม่ต้องไปเสียเวลาให้ใครมารัก  ถ้าเรามั่นใจว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราให้มันดีที่สุดแล้ว

เมื่อประสบการณ์เรามากขึ้น  ได้เห็นโลกเห็นผู้คนมากขึ้นก็ทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น  ทุกๆเวลาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  เราล้วนพบคำตอบบางอย่างในชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี  หลายคนบ่นท้อชีวิตหมดหนทางไปซะทุกอย่าง  ที่จริงมันมีทางเลือกให้กับชีวิตมากมาย  เพียงแค่คุณยังมองไม่เห็นมันต่างหาก  ขอให้เชื่อมั่นในตัวเองครับ  แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน  หาแรงบันดาลใจดีๆในการใช้ชีวิต  ในยามที่ท้อแท้ หมดหวัง  หรือคิดว่าไปต่อไม่ได้ ศึกษาประวัติพวกเขาเหล่านั้นเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต  ศึกษาจากเขาแต่ใช้วิถีของเรา  คิดในมุมที่แตกต่างอย่าเดินตามรอยเท้าของคนอื่นไปแบบมั่วๆครับ  เราต้องมีรอยเท้าของเราให้คนอื่นได้จดจำ  มันน่าภาคภูมิใจมากกว่าครับ  

มองต่างมุม

เป็นมนุษย์หากรู้เพียงแค่ปฎิบัติตามกฎเกณฑ์ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเขาจึงเป็นได้แค่หุ่นเชิด หากทำงานรู้เพียงขอบเขตหน้าที่ของตัวเอง แต่กลับไม่พลิกแพลงไปตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ก็ไม่ต่างกับการกระทำตามผู้อื่น

นั่นแหละครับจึงเป็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นทุกวันนี้  เราเดินตามใครก็ไม่รู้  ซึ่งเป็นคนกำหนดทิศทางให้เราเดินไปตามนั้น  เราเห็นคนอื่นมีโทรศัพท์รุ่นใหม่  ตัวเราก็อยากได้อยากที่จะมีแบบเขาบ้าง  ค่านิยมสังคมหล่อหลอมให้คนยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก  จนหลงลืมรากเหง้าความเป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา  บางทีเราเอาแต่ทุกข์ใจกับบางเรื่องทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลยนิดเดียว  ความคิดเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก  เลือกคิดแต่สิ่งที่เป็นบวก  คบคนที่คิดบวกเพื่อให้ความสุขกับตัวเราเอง

ถ้าคุณปล่อยให้ความคิดลบมากัดกินหัวใจคุณมากเกินไป  ไม่นานคุณก็จะกลายเป็นคนที่คิดลบและยากที่คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้  บางที่ปัญหาที่อยู่ตรงหน้ามันเล็กน้อยมาก  แต่สาเหตุก็เพราะว่าคนเรามองในมุมที่ต่างกันนั่นเอง  เลยทำให้ความคิดในการเเก้ปัญหาจึงแตกต่างกันไปด้วย  คนที่คิดใหญ่เขาก็สามารถมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก  และแก้ไขมันได้ไม่ยาก  คนที่คิดเล็กมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ก็ยากที่จะแก้ปัญหานั้นได้สำเร็จ  

นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  หลายคนมองว่าเพราะว่าเขาโชคดีแต่จริงๆไม่เลย  เพราะเขาฝึกฝนตัวเองมาอย่างดีต่างหาก  ซึ่งเรื่องนี้ผมก็พูดไว้หลายครั้งแล้วครับ  การฝึกฝนตนเองอย่างสม่ำเสมอ รู้จักพลิกแพลงไปตามสถานการณ์  รู้จักแก้ปัญหาให้ถูกจุด  เมื่อคุณมองทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย  ทุกอย่างก็จะดูง่ายไปหมดครับ

สถานการณ์บางอย่างมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก  หน้าที่ของเราก็การตั้งรับมือกับปัญหา  และในขณะเดียวกันก็ต้องฝึกฝนเรียนรู้การแก้ปัญหาในอนาคตด้วย  การอยู่นิ่งๆเพื่อฝึกฝนแก้ปัญหา  ฝึกวินัยและความอดทนในตัวเราเองนั้น  ถือเป็นวิชาขั้นสุดยอดที่ทุกคนจะเกรงกลัวเราได้  มองปัญหาให้เป็นเรื่องตลก ท้าทาย แล้วชีวิตคุณก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกับปัญหาอีกต่อไป  การยึดอยู่กับกรอบเดิมๆ ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณไปข้างหน้าได้  เราต้องรู้จักคิดแก้ปัญหาในวิธีการที่แตกต่างกันออกไป  ร่วมคิดร่วมทำ  ช่วยกันแก้ปัญหากันไป  ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ถ้าใจเราสู้  ขอให้สู้ต่อไปครับ

ชีวิตของนักสู้

หลายคนบ่นกับชีวิตว่ามันไม่มีทางออก  ทุกหนทางมันตันไปหมด  ให้ลอกลับมาทบทวนตัวเราเองดีๆครับว่า  สิ่งที่มันตันจริงๆ  ความคิดเราหรืออะไรกันแน่  ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าหนทางสู่ความสำเร็จหรือเป้าหมายของเเต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง  บางคนอาจหมดห่วงไม่มีอะไร  บางคนอาจมองว่าชีวิตฉันมีแค่นี้และฉันก็พอใจมันแค่นี้  นั่นมันก็ไม่ผิดอะไรนะครับ  บางอย่างเราไม่รู้หรอกครับว่าอะไรคือจุดประสงค์หรือเป้าหมายของการดำรงชีวิตของคนเราในแต่ละคน


คนที่เขาคิดใหญ่ความคิดก็จะแตกต่างกันไปสักนิด  เขารู้ว่าทุกเวลานาทีของเขานั้นมันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใดซะอีก  เราอาจมีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้างเป็นบางเวลา  แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับนักสู้ที่ต้องการชีวิตที่อิสระ  สำหรับตัวเขาเอง  เขาเป็นนักต่อสู้ที่หาตัวจำได้ยาก  และไม่ต้องเเปลกใจเลยครับว่าปลายทางชีวิตของเขาจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด  หนทางที่มองไม่เห็นจุดหมาย  แต่มันมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับนักสู้ชีวิตเสมอ

อาจมีเหงาบ้าง โดดเดี่ยวบ้าง  แต่ทุกครั้งที่มองออกไปภายนอกก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังครั้งใหม่กับชีวิต  เพราะเขารู้ว่าสักวันเขาต้องไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้อย่างแน่นอน  การใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ที่บางทีเราวัดคุณค่าจากสิ่งภายนอกทำให้เราลืมนึกถึงภายในที่แท้จริง  ที่ทรงพลังของเราได้  ไม่มีความอ้างว้างใดๆ  จะมากเท่ากับการที่มนุษย์เราไม่รู้จักพอ  และไม่เข้าใจตัวเราเองได้อย่างถ่องแท้หรอกครับ 

แด่ คนที่รู้สึกหมดหวัง  ผมก็เคยหมดหวังผมอยากให้คุณลุกขึ้นสู้กับชีวิตใหม่ทุกครั้งที่คุณล้มลง  การล้มลงไม่ได้หมายความว่าชีวิตคุณจะพบกับความล้มเหลวนะครับ  มันคือบททดสอบ  บทเรียนที่มีค่าที่สุดในชีวิตให้คุณรู้จักเรียนรู้และเติบโตขึ้นไปในจุดหนึ่งๆ  เมื่อคุณเข้าใจอะไรมากขึ้นคุณก็เก่งขึ้น  แก้ปัญหาได้มากขึ้น  ศรัทธาในความเชื่อมั่นของตัวเราเองให้มากๆ  เคารพตัวเราเองและทำสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ให้มากๆ  เราไม่รู้หรอกครับว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อ  แต่มันคุ้มค่าอย่างแน่นอนสำหรับการทุ่มเทในทุกสิ่งทุกอย่าง  ไม่มีอะไรเหนื่อยฟรีหรอกครับ  มีแต่คุณจะยอมแพ้ไปเอง  (ถึงแม้ว่าไม่ได้อย่างที่คุณหวังไว้  แต่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่าคุณได้ประสบการณ์ที่ดีให้กับชีวิตคุณอย่างหาที่ไหนไม่ได้)

ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะสำเร็จ

ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าและความปรารถนาที่ต้องการจะประสบความสำเร็จนั่นและครับจะเป็นตัวผลักดันคุณให้ไปถึงจุดมุ่งหมายปลายทางที่คุณได้วางเอาไว้  ชีวิตบางทีมันก็มีเหนื่อยบาง  ท้อบางเป็นธรรมดา  ไม่งั้นเขาไม่เรียกว่าชีวิตครับ  บางทีเราก็อยากจะหนีจากความวุ่นวายที่มันเกิดขึ้นกับเราไม่เว้นแต่ละวันไปไกลๆ  แต่ก็นั่นแหละครับเพราะชีวิตมันก็คือชีวิต 

บางทีเราก็กลัวไม่กล้าที่จะตัดสินใจทำอะไรใหม่ๆ  นั่นเพราะเราคิดว่าสิ่งที่เรามีอยู่ตรงหน้ามันดีที่สุดแล้ว  เมื่อเราถูกความกลัวครอบงำ จิตใจเราร่างกายเราก็ไม่พร้อมที่จะเริ่มอะไรไหม  นั่นเพราะความคิดที่เราติดลบไปแล้ว  ผมอยากจะแนะนำอะไรท่านผู้อ่า่นบางอย่างนะครับ 

ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรก็ตาม  อยู่จุดไหนก็ตาม  สิ่งหนึ่งที่ผมพูดอยู่เสมอก็คือ  ไม่อยากให้คุณทิ้งความฝันของคุณไป บางทีคุณอาจมีเสียใจ  ผิดหวัง  ล้มเหลวกับการใข้ชีวิตบ้าง แต่ที่สำคัญอย่างทิ้งความฝันของคุณไปไหน  จงเชื่อมั่นในโชคชะตาของคุณ  เดินหน้าและลุยต่อให้ถึงที่สุด  ไม่มีอะไรที่จะหนักเกินความสามารถของมนุษย์ไปได้หรอกครับ  ถ้าใจเราถึงพร้อมนะ  ขยันอดทนทำให้มากกว่าคนอื่นคือคุณสมบัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จ

รักษากายใจ  สติปัญญาและจิตใจของคุณให้มันเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาอย่าปล่อยให้มันลดทอน หรือปั่นทอนจิตใจของคุณลงไป  ยืนหยัดต่อสู้เพื่อวันพรุ่งนี้และทำมันให้ดีที่สุด  ใครจะว่าดีหรือไม่ดีก็ช่างทำหน้าที่ของเราให้มันเต็มร้อย  ความสำเร็จก็รออยู่แค่เอื้อมละครับ

ทิ้งอคติต่างๆไว้ก่อนครับ  ทำงานให้เป็นมืออาชีพผมเชื่อมั่นในตัวเองว่าตัวเรามีความเป็นมืออาชีพมากพอ  ไม่ว่าจะทำอะไรถ้าเราเข้าใจกฎและกฎไกลต่างอย่างชัดเจน  งานที่ว่ายากมันก็ไม่ยากเกินความสามารถของเราไปได้หรอกครับ  ธรรมชาติของมนุษย์คือเราต้องเรียนนรู้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว  ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์เราก็ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว  เมื่อใดที่คุณหยุดที่จะเรียนรู้  เมื่อนั้นก็จากที่ตัวเราคิดว่าเราฉลาดเราอาจตามคนอื่นไม่ทันก็เป็นไปได้  อย่าหยุดที่จะเรียนรู้  เพราะความรู้คือสิ่งที่จะทำให้เราแตกต่าง คิดต่าง ทำต่าง  และได้ในสิ่งที่แตกต่างครับ 

ศรัทธาในตัวเอง

บางทีชีวิตคนเราก็กลัวกับการต้องทำงานหนักเกินไป  คนที่เขาประสบความสำเร็จหลายๆ คน  หนึ่งในนั้นคือ วอเรน  ซึ่งบุคคลนี้เขาอ่านหนังสือวันละ 500 หน้า  ไม่ใช่เรื่องยากแต่ก็น้อยคนนักนะครับที่จะทำแบบเขา  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์เราแท้จริงมันไม่ยาก  มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมีวิธีจะจัดการกับปัญหา  หรืออะไรก็ตามที่มันเข้ามาในชีวิตคุณได้อย่างไร

บางทีเราก็อยากจะร้องไห้ออกมาแบบไม่รู้ตัว
บางที่เราก็อยากอยู่นิ่งๆ แบบไม่ต้องรับรู้ไม่ต้องทำอะไร
บางทีก็อยากปล่อยวางกับทุกเรื่อง

นั่นแหละครับคือ ชีวิตของมนุษย์  มันวุ่นวาย สับสน ปนกันไปหมดยิ่งถ้าเราไม่รู้จักฝึกฝนสมาธิ  ใช้เวลาให้อยู่กับตัวเราเองมากขึ้น  บางทีก็อาจหลงทางและลืมตัวเราเองไปชั่วขณะ  เหตุการณ์บางอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัยของมัน  มองภายนอกอาจเป็นเรื่องบังเอิญแต่แท้จริงแล้วไม่  ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว จากเหตุการณ์ในอดีตที่ส่งผลต่อเราในอนาคต  ทีนี้เราต้องตั้งคำถามว่าเราเปลี่ยนแปลงมันได้ไหม

เรื่องราวในอดีตเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ครับ  แต่ถ้าเป็นเรื่องราวในปัจจุบันขณะเราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้  ด้วยการทำปัจจุบันของเราให้มันดีที่สุด  คุณอาจจะบ่นกับชีวิตว่ามันแย่  ลองมองรอบๆตัวคุณ  ลองมองสิ่งที่คุณมีอยู่  คุณจะเห็นว่าคุณโชคดีมากแค่ไหนที่ยังมีสิ่งเหล่านี้  ในขณะที่หลายๆคนยังไม่มีโอกาสเช่นคุณ

จงภูมิใจและศรัทธาในตัวเอง  ไม่มีใครมาบอกเราหรอกว่าเราทำไม่ได้  เราต้องมุ่งมั่นตามความฝันของตัวเอง  คนอื่นจะคิดอะไรก็ช่างเขา ต้องฝึกฝนการคิดบวกและหนักแน่นในตัวเอง  หัวใจสำคัญของการมีชีวิตและการดำรงอยู่นั่นก็คือ ความมั่นใจในศักยภาพของตัวเราเอง  ในสิ่งที่เราทำได้และเชื่อมั่นว่ามันเป็นไปได้ ทุกอย่างมันก็จะเป็นไปตามที่คุณคิดไว้ครับ  อย่าให้ใครมาดูถูกความฝันของคุณ  เขาจะดูถูกความฝันของคุณให้เขาดูถูกไปแต่ตัวคุณต้องไม่ดูถูกความฝันของตัวคุณเองครับ

ปีก แห่ง ความสำเร็จ

ผมอะไรที่เราไม่ต้องใช้ความพยายามมากนั่นแหละครับคือสิ่งที่เราทำได้ดี  แต่อันไหนที่เราทำแล้วใช้ความพยายามอย่างมาก

หลายสิ่งหลายอย่างบนโลกใบนี้ถูกกำหนดโดยขอบเขตบางอย่าง กับคนเพียงไม่กี่คนที่ตั้งกฎกติกาที่ใช้อยู่ร่วมกัน  การทำดีที่สุดอาจไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เราไปได้ไกลกว่ากันหรือไม่  ความคิดที่วกวนเหมือนมันไม่นิ่ง  เหมือนการที่เราไม่รู้จักตัวเราเองดีพอ  เราเหนื่อยกับเรื่องบางเรื่องมากเกินความจำเป็น  เราอยากจะมีชีวิตที่ดีพร้อม  โดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

ชีวิตในแบบที่เราเองก็ไม่ได้เป็นคนเลือกมันด้วยซ้ำ  มายาหรือภาพที่เราสร้างมาบางทีเราก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าเราต้องการมันจริงๆหรือไม่  เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังไปได้  เมื่อมาถึงจุดหนึ่งชีวิตคนเราก็ต้องเลือกอะไรบางอย่าง  สิ่งที่ได้เงินเยอะกับสิ่งที่รัก  เราไม่สามารถได้อะไรมาพร้อมกันในเวลาเดียวกัน  คำตอบมันไม่มีถูกหรือผิดหรอกครับ  มันอยู่กับว่าคุณได้เลือกมันอย่างดีที่สุดแล้ว

เวลาจะเดินก็ต้องไปให้ไกลที่สุด  มีความสุขกับสิ่งรอบตัว  มีความสุขกับการใช้ชีวิตอย่ามองว่าชีวิตมีปัญหาแต่ชีวิตคือ  ทางออกของปัญหาท้อได้แต่อย่าถอย  คิดถึงสิ่งที่เรามีรอบตัวมีความสุขของสิ่งรอบตัว  มองทุกปัญหาที่เข้ามาและหาโอกาสจากมันให้ได้  สิ่งที่ยากแท้จริงๆไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้ แค่ใจเรากลัวมันไปก่อนเท่านั้นเอง  มีความสุขกับสิ่งที่เรามีตอนนี้อย่าไปวิ่งหา  ที่ผมพูดไม่ได้ต้องการให้คุณละความพยายามนะครับ เพียงอยากให้คุณรู้จักการสร้างความรู้ให้ตัวเองจากสิ่งง่ายๆ รอบตัวเราก่อนแล้วค่อยๆ ทำสิ่งที่มันใหญ่ขึ้น  เมื่อคุณมีความสุขคุณก็สามารถสร้างโอกาสได้  เมื่อมีโอกาสก็ทำให้เต็มที่เชื่อได้เลยครับว่าคุณพบกับความสำเร็จได้

เรื่องดวง

ผมว่าบางทีชีวิตคนเรามันก็ตลกนะครับ  เวลาที่เราคิดอะไรไม่ออกสิ่งแรกเลย เรามักจะคิดว่าเราดวงตก  ก็ไม่รู้ซิครับ  ว่าชีวิตดวงมันขึ้นหรือลง  ช่างน่าแปลกใจเหลือเกินแต่สิ่งหนึ่งที่ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่เป็นกันมากก็คือ  การดูดวงพึ่งหมอดู  (อาจฟังดูตลกนะครับแต่มันคือเรื่องจริง)

การที่มนุษย์ไม่ได้ฝึกจิต  เรียกว่าแทบไม่มีเวลาฝึกจิตกันเลยทำให้มนุษย์ว้าวุ่นไปหมด  แทบอยากตะโกนร้องดังๆ  ให้โลกได้รู้เลยครับว่าฉันกำลังมีความทุกข์อย่างใหญ่หลวงนะ  บางทีมันก็ฟังดูน่าตลกสิ้นดีนะครับ  เราแก้ปัญหาเหมือนแทงหวยซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีหรือเปล่า การแก้ปัญหาที่ถูกจุดก็คือการมองปัญหาที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงก่อน  แล้วค่อยหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นว่าเราสามารถหาทางแก้ไขได้อย่างไรบางชีวิตมันไม่ได้ยากไปกว่า  การได้เรียนรู้และฝึกฝนทำจริงหรอกครับ

ใช่ครับว่าการพึ่งดวงอาจทำให้เราสบายใจขึ้นบ้าง  ในบางเวลาแต่ทั้งนี้มนุษย์เรา ตามหลักพระพุทธศาสนาก็ยังสอนให้เราเป็นคนดีรู้จักรับผิดชอบกับหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมาย  และทำหน้าที่ของตัวเองให้มันดีที่สุด  อย่าไปน้อยใจในโชคชะตาวาสนาเลยครับ  ขอให้เชื่อมั่นอย่างไม่ลดละในความเพียรเกิดเป็นมนุษย์ทั้งที   มันก็มีอยุ่แล้วครับเป็นเรื่องธรรมดาของโลก  เราหลีกหนีไม่ได้แต่เราสามารถยอมรับทุกอย่างและอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข

อย่าเอาแต่เฝ้ารอความสุขจากสิ่งภายนอก จากคนอื่นสิ่งที่ตัวเราควรทำในตอนนี้คือ  สร้างความสุขขึ้นมา  สร้างโอกาสขึ้นมา  รู้จักแก้ปัญหาอย่างฉลาดกับทุกเรื่อง  อะไรที่ใครติดปัญหาก็ช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้  ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมาเอง  อย่าคิดว่าตัวเองแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สุดท้ายไม่ทำอะไรนั่งอยู่เฉยๆ   รอโชคชะตามากำหนดคุณ  สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมอยากจะแนะนำคุณก็คือ  การลุยกับปัญหาทำไปก่อนทุกอย่างมันมีทางออกและวิธีการแก้ไขของมันอยู่แล้ว  หนักอย่างไรก็ตามมันต้องผ่านไปได้เสมอ 

คนที่ลำบากกว่าเรามีตั้งแยะ ทุกคนปรารถนาแต่ความสุขโดยไม่เจอความทุกข์นั่นช่างเป็นเรื่องตลกสิ้นดี  โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาแบบไม่ต้องแลกอะไร  และก็ต้องบอกด้วยครับว่าเราสามารถได้ทุกอย่างพร้อมกัน  ในเวลาเดียวกันได้  (บางครั้งก็ต้องใช้การตัดสินใจที่เด็ดขาดของตัวเรา)  สร้างจิตของคุณให้แข็งแกร่งและให้มันเป็นปกติอยู่ตลอดเวลา  มีสมาธิกับทุกอย่าง  ภาวะอารมณ์คือตัวกำหนดชะตาชีวิตคุณครับ  คิดแบบเดิมทำแบบเดิม และหวังสิ่งต่างให้เปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้น  (นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก)

เวลาที่คุณหาทางออกไม่เจอ ดวงตก  สิ่งที่ต้องทำคือต้องรู้จักวางแผนสำรองไว้  แผน 1 ไม่สำเร็จก็ยังมีแผน 2 และแผน 3  รู้ทันความคิด ฝึกทบทวนตัวเองอย่างมีสติ  คิดว่าอะไรก็เป็นไปไม่ได้  เปลี่ยนไม่ได้  ตัวเองประสบความสำเร็จไม่ได้  เหล่านี้ให้ลบออกไปเลยครับ  อย่าเก็บไว้ในหัวสมอง  มนุษย์ที่คิดลบน่ากลัวมาก  สามารถทำลายชีวิตเราได้เลย ลงมือทำฝึกฝนบ่อยๆ เดี๋ยวคุณจะกลายเป็นคนที่สุดยอดแห่งความชำนาญเลย  เห็นไหมมันไม่ยากเลยครับ "แค่เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยนครับ"

ทุกๆ ปัญหาล้วนมีทางออก

ไม่รู้จะบอกตัวเองยังไงดีครับ  ทุกวันนี้ชีวิตไม่รู้จักคำว่าเต็มเลย  พยายามจะเรียนรู้และหาอะไรใหม่ๆเพื่อมาเติมเต็มให้กับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ  จนบางทีเราก็รู้สึกว่าชีวิตไม่รู้ว่ามันจะไปจบที่ไหน  เราโหยหาความรัก  สิ่งภายนอกจนลืมเข้าไปดูภายในของเรา  ว่าเมื่อเราพยายามเติมมันให้เต็มมากแค่ไหน  มันก็ไม่เคยที่จะเต็มสักที  บางทีเรากลับรู้สึกถึงความว่างเปล่ามากยิ่งขึ้น  เราพยายามเป็นเหมือนคนอื่น  พยายามทำทุกอย่างให้มันดีทีสุด  ตามที่เรามองว่ามันดีสำหรับเราแล้วใช่หรือไม่

คำถามที่เราพยายามหาคำตอบให้กับชีวิตเรา  มองไปแบบไม่รู้ทิศทาง  ผมมีวิธีการที่จะแนะนำทุกท่านครับ   

1.ให้ท่านกลับเข้ามาอยู่ที่ตัวเราเอง มามองความเป็นไปของชีวิตดูว่าวันนี้เรามีอะไรบ้าง  รอบตัวเรามีอะไรบ้าง

2.ปล่อยวางกับบางเรื่องอย่าไปยึดติดหรือให้ความสำคัญมากเกินไป

3.หาเวลาพัฒนาตัวเองบ้างศึกษาเรื่องราวต่างๆ  หาทางพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง  อย่าไปคิดว่าเราอยู่ตรงนี้ก็พอ  ไม่มีทางพัฒนาตัวเองไปแล้ว คิดแบบนี้คิดผิด ต้องหาหนทางให้ตัวเอง  ชีวิตไม่มีคำว่าทางตันหรอกครับ

4.รักและเคารพตัวเองให้มาก  คนที่รักและเคารพตัวเอง  ย่อมผ่านเรื่องราวต่างๆได้เป็นอย่างดี  ปัญหาที่ผ่านเข้ามามันก็แค่ทางผ่านเพื่อให้เราเข้มแข็งขึ้น  และหาทางผ่านพ้นปัญหาไปได้  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

หนทางของการแก้ปัญหามันมีอยู่มากมาย  บางทีการที่เรามีคำตอบให้กับตัวเองย่อมเป็นเรื่องที่ดี  มากกว่าการใช้ชีวิตอย่างไร้จุดมุ่งหมาย  เวลาที่เรารู้สึกเหนื่อย  ท้อแท้กับชีวิตนึกถึงเป้าหมายให้มากๆ   เมื่อเรารู้ว่าเรามีเป้าหมายชีวิตเราก็จะมีพลังที่จะทำต่อไปในวันพรุ่ง  ขอให้เชื่อมั่นว่าสิ่งที่คุณทำมันถูกต้องและคุณก็สามารถเดินทางไปต่อได้  ใจเท่านั้นที่เป็นใหญ่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง  หาเวลาพักผ่อน  หาเวลาให้กับตัวเราเองบ้าง  อย่างทุ่มพลังงานกับางเรื่องจนลืมดูแลสุขภาพของคุณไป  เพราะมันสำคัญมาก  ต่อให้คุณมีเงินเป็นร้อยล้าน  ก็สู้ไม่ได้กับการมีสุขภาพ กายและใจที่ดีได้  โชคดีกับทุกๆวันของคุณนะครับ  ทำมันให้เป็นวันพิเศษของคุณแล้วชีวิตคุณ  โลกก็จะส่งมอบสิ่งที่วิเศษให้กับคุณครับ

เพราะชีวิตคุณเลือกได้

ผมไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตมันจะพาผมไปยังจุดไหนกันแน่  เราค้นหาสิ่งใดกันจากความไม่แน่นอนในชีวิต  ชื่อเสียง  เงินทอง หรืออะไรแล้ว  งานที่เรารักและเราอยากจะทำมันจริงๆ  บางทีมันก็สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง  งานที่ได้เงินมากส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นงานที่เราไม่ชอบ  หรือหนักเกินไปจนบางทีเราก็มีความรู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่าการการเสียเวลาไปหรือเปล่า

บางทีมันก็คงถึงเวลาที่จะต้องมาตัดสินใจอะไรบางอย่างให้กับชีวิตของเราจริง ๆ ซะทีว่าอะไรกันแน่ที่เหมาะกับตัวเรา  เราปรารถนาอะไรกันแน่  ความหวัง ความฝัน  เวลา ถามคำถามตัวเองให้ดีว่ามันสอดคล้องกับชีวิตจริงๆของคุณหรือไม่

ชีวิต  เวลา  สุขภาพ  มันสัมพันธ์กันหรือไม่  ผมได้รับรู้ความจริงบางอย่างในชีวิตแล้วครับว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้  มันไม่เคยได้มาพร้อมกันจริงๆ ครับ

ถ้าเราเลือกเงิน  สิ่งที่เสียไปก็คือ เวลา และ สุขภาพ
แต่ถ้าเราเลือก เวลาและสุขภาพ  บางสิ่งอาจทำให้เราได้เงินน้อยลง

ที่ผมอยากจะบอกท่านผู้อ่านจากประสบการณ์ชีวิตของผมก็คือ  จงเลือกเวลาเป็นตัวนำนะครับ อย่าเลือกเงินเป็นตัวตั้ง  การที่เราเลือกเงินเป็นตัวตั้งในการเเก้ไขปัญหาชีวิต  ย่อมทำให้คุณหมดความศรัทธาในตัวคุณเรื่อย  ๆ

ช่วงวัย 23-30  เป็นช่วงของการเรียนรู้และค้นหาตัวเอง
ช่วงวัย 30-40 เป็นช่วงที่เราต้องรู้แล้วครับว่าเราชอบอะไรและเหมาะกับอะไร  บางทีสิ่งที่เราชอบส่วนใหญ่อาจเป็นงานที่ทำให้เราได้เงินน้อย  แต่มันก็แลกมาซึ่งความสุข  ช่วงวัยนี้ผมว่าอย่าไปหักโหมกับชีวิตตัวเองให้มากนัก  เพราะเป็นวัยที่คุณกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว
ช่วงวัย 40-50 เป็นวัยที่ลงหลักปักฐานแล้วครับ  คุณต้องชัดเจนกับตัวเองและทำความฝันของตัวเองให้ประสบความสำเร็จสักที  วัยนี้เป็นวัยแห่งการรักษาสุขภาพ และสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับครอบครับ
ช่วงวัย 60 ขึ้นไป  หลายคนบอกว่าคือการหยุดชีวิตให้ช้าลงแต่ในยุคปัจจุบันมันทำได้ยากมาก  เพราะอะไรนะครับ  เพราะว่าอายุมนุษย์โดยเฉลี่ยมันมากขึ้น  เมื่อมันมากขึ้นก็ทำให้เราต้องทำงานไปทั้งชีวิต  ฉะนั้น  ผมจึงให้ความสำคัญตั้งแต่ช่วงวัย 30 คุณต้องวางแผนเรื่องอนาคตของคุณได้แล้วว่า จะกำหนดมันยังไง  การเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วรอเกษียณคงทำได้ยากมากในยุคนี้แล้วละครับ 

ผมว่าจริงๆ  มันไม่มีถูกหรือผิดหรอกครับ  ทุกอย่างมันอาศัยความเหมาะสมและความพอดีในการใช้ชีวิตต่างหาก  บางทีอาจเหมาะสำหรับเขา  แต่ไม่เหมาะสำหรับเราก็ได้  งานที่ต้องเอาเวลาแลกบางคนอาจบอกว่ามันเหมาะสำหรับเขา   แต่ตัวผมเองอาจไม่เหมาะแบบนั้น  ผมต้องการชีวิตที่เหมาะสม  บาลานซ์ทั้งเงินและเวลาดีกว่าครับ  เอาที่สะดวกคนเรามีทางเดินชีวิตที่แตกต่างกันไม่ผิดถ้าคุณจะคิดแบบนั้น  ขอให้โชคดีกับชีวิตนะครับ

กฏทองของชีวิต

คุณพอทราบไหมว่าอะไรที่เป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตคุณ  แท้จริงหาใช่ใครไม่  คนที่กำหนดชะตาชีวิตคุณก็คือ ตัวคุณนั่นเอง  เวลาที่ตัวคุณพบเจอกับปัญหา  มันมีทางออกอยู่เสมออย่าได้ไปคิดน้อยใจในวาสนา  ปลายทางเเห่งความสำเร็จ  ย่อมมีแสงสว่าง  เมื่อมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น  อีกสิ่งหนึ่งก็จะดับไปเป็นของธรรมดาของโลก  ไม่มีอะไรที่จะอยู่ค้ำฟ้าเราได้อยู่แล้ว  ทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลงนั่นคือหลักการใช้ชีวิตของเราบนโลกใบนี้นั่นแหละครับ

ยิ่งเรายึดติดมากเท่าไหร่ชีวิตยิ่งทำให้เราทุกข์ใจมากขนาดนั้น  บางอย่างการอาศัยความอดทนในการทำงาน ฝึกฝนไปเรื่อยๆ  ในที่สุดความใฝ่ฝันของเราจะต้องเป็นจริงครับ  การฝึกงานบริหารให้คล่อง  จะทำให้คุณสามารถเรียนรู้และฝึกการแก้ปัญหาได้  เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง  แต่เราต้องสามารถเข้าใจงานในภาพรวมได้อย่างชัดเจน

คนทำงานและนักแก้ปัญหา  ดูแล้วอาจไม่แตกต่างกันมาก  แต่นักแก้ปํญหาคือ  พวกที่ลุยทุกอย่างและไม่กลัวกับปัญหาที่มันถ่มเข้ามา  งานทุกงานมีความสำคัญไม่แตกต่างกันครับ  ทุกคนทุกหน้าที่ต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้มันดีที่สุด  การทำงานเป็นทีมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด  กาลเวลาผ่านไปเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น  เราโตขึ้นเรามีเหตุผลมากขึ้นกับบางเรื่องมากขึ้น

ประสบการณ์และการเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมาทำให้  เรียนรู้ศึกษาจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น  ทบทวนทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ใจเราปรารถนา  ความฝันยังอีกไกล  อย่าได้ท้อใจไปสักวันคุณต้องถึงจุดมุ่งหมายที่คุณได้ตั้งใจเอาไว้อย่างแน่นอน

ความหวัง

สาเหตุที่ทำให้มนุษย์เราทุกข์ใจมากที่สุดก็คือ  การไม่อยู่กับปัจจุบันนั้นแหละครับ  เราเอาแต่โหยหาอดีตวาดฝันอนาคต  บางที่การที่เราเป็นทุกข์ใจมากนั่นเพราะเราเอาตัวเราเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  เราเห็นว่าสิ่งที่คนอื่นทำนั่นมันดีไปหมดเลย  เราอยากรวยอย่างเขา  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์ก็คือ  การไม่รู้จักพอนั่นเอง 

ถ้าไม่อยากเหนื่อยกับชีวิตบนโลกใบนี้ที่มันวุ่นวายเหลือเกิน  ก็คือการกลับเข้ามาอยู่กับปัจจุบันอยู่ที่ใจของเราเองนั่นเเหละครับ  คนอื่นจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ช่าง  ปล่อยเขาไปก่อนครับ  ผมแค่อยากจะบอกคุณต้องกลับมาอยู่กับบ้านในใจของตัวเองก่อน  เห็นคุณค่าที่แท้จริงที่มันเกิดขึ้นกับตัวของคุณก่อน  เพราะนั่นมันคือ  สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตของคุณ  ใครจะลดคุณค่าของคุณก็ช่าง  แต่คุณจะต้องไม่ลดคุณค่าของตัวเอง  เพราะนั่นมันจะลดคุณค่าคุณไปอย่างแน่นอน

มนุษย์เราจะเป็นไปตามสิ่งที่เราคิด  ฉะนั้นเราต้องฝึกดูใจตัวเอง  ระวังความคิดของเราให้มากๆ  เพราะมันจะดีมากถ้าหากมนุษย์มีเหตุผลพอ  ในการคิด ทำ และตัดสินใจ  อาจเป็นเรื่องผิดสำหรับความเห็นของคนหลายๆ  คน  แต่สิ่้งที่ดีที่สุดก็คือการได้ตัดสินใจด้วยตัวของคุณเอง  ด้วยเหตุผลที่คุณได้คิดและกลั่นกรองมาอย่างดีแล้ว  บางที่เหตุผลถูก หรือ ผิด  มันอาจไม่ใช่ตัวตัดสินของทั้งหมดหรอกครับ  มันก็ต้องขึ้นอยุ่สถานการณ์นั้นๆ อีกทีหนึ่ง 

การคาดหวังจึงเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตเราเป็นทุกข์ได้มากเหมือนกัน  ฉะนั้นอย่าไปคาดหวังอะไรให้มันมากนัก  แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้มันดีที่สุด  ตามที่ใจเราปรารถนากาลเวลาจะเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จและความมุ่งมั่นให้กับตัวคุณเอง  คุณต้องรู้จักเลือกที่จะทำให้เหมาะสม  แยกให้ได้ว่างานไหนให้ผลลัพธ์มากแต่ทำน้อย  งานไหนให้ผลลัพธ์น้อยแต่ทำมาก  เมื่อเข้าใจกลไกเหล่านี้จะทำให้คุณก้าวไปได้ไกล  แต่รู้จักวางตัวเองอย่างเหมาะสมในทุกขณะ 

แค่คุณบอกตัวเองว่าคุณจะไม่แพ้  คุณก็จะไม่มีทางแพ้ได้อย่างแน่นอน โชคชะตาอยู่ในมือคุณ คุณกำหนดมันได้  และมันก็จะเป็นไปตามที่คุณได้กำหนดมันไว้นั่นแหละครับ  บนความสับสนวกวนบนโลกใบนี้ก็ยังมีวันพรุ่งนี้ดีๆ ให้เราได้เสมอ  ขอขอบคุณสำหรับโอกาสที่มอบให้กับชีวิตผมครับ

วินัย

มีเรื่องที่ผมอยากจะบอกทุกท่านนะครับว่า  สิ่งที่จะทำให้คุณเหนือกว่าคนอื่นไปได้ไกลกว่าคนอื่นนั่นก็คือ   การรักษาวินัยในทุกเรื่องของชีวิต   ในตอนแยกมันอาจเป็นเรื่องที่ยากไปหน่อยหนึ่ง  เราจะรู้สึกฝืนตัวเองไปหมดแต่พอผ่านจุดนี้ไปได้  รับรองได้เลยครับว่าคุณจะกลายเป็นสุดยอดนักจัดการที่ดีที่สุด  สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการไม่รู้จักยอมรับความจริงนั่นเอง 

ระเบียบวินัยเกิดจากตรงไหน  จากการสร้างเงื่อนไขให้ตัวไงละครับ  มีหลายคนอาจกล่าวไว้นะครับว่าอย่าไปสร้างเงื่อนไขให้ชีวิตเยอะมันจะทำให้ชีวิตเรายุ่งยาก  แท้ที่จริงสำหรับบางเรื่องเราควรมีเงื่อนไข  โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ กาย ใจ  เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เป็นต้น  ฉันจะตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อไปวิ่งออกกำลังกาย
             ฉันจะรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น  พร้อมกันกับลดเครื่องดิ่มที่มีแอลกอฮอล์


ความสำเร็จทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำงาน  สุขภาพ  ชีวิตครอบครัว  ทุกอย่างมันจะต้องสมดุลกันนะครับ  อย่างที่เราทราบทุกอย่างต้องเกิดจากการที่เราเตรียมความพร้อมก่อนที่จะถึงจุดมุ่งหมาย  หลายคนทราบแต่ก็มีน้อยคนนักที่จะลงมือทำ   ถ้าอยากสำเร็จก็ต้องฝึกฝนตัวเองอย่างสม่ำเสมอ คนที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่คนเก่งครับแต่เป็นคนที่ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอต่างหากละครับ 

คนเราแค่ทราบบทบาทและหน้าที่ของตัวเราเอง  ฝึกปฎบัติอย่างสม่ำเสมอ  ไม่มีอะไรในโลกใบนี้ที่มนุษย์ทำไม่ได้  ผมเชื่อว่าถ้าเรามีความตั้งใจทำจริงๆ  ความสำเร็จต้องวิ่งเข้ามาหาเราอย่างแน่นอนครับ  หลายคนเฝ้าบ่นว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมกับเรา  ถามเถอะครับว่าคุณจะเป็นเรียกร้องความยุติธรรมอะไรมากมาย  สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ  ทำหน้าที่ของตัวเราที่ได้รับมอบหมายให้มันดีที่สุด 

การเฝ้าโทษคนอื่นย่อมไม่ดีแน่นอน  มีแต่ทำให้ภาพลักษณ์เรามีแต่แย่ลงไปทุกที  ฉะนั้นจงหยุดบ่นและทุ่มเทให้กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเราให้มันดีที่สุดก็พอครับ  ทุกอย่างผมเข้าใจดีว่ามันต้องอาศัยระยะเวลาและความอดทนเป็นอย่างยิ่ง  แล้วมันจะผ่านไปด้วยดีครับ  

บทความให้กำลังใจตัวเอง

จะว่ากันไปแล้วชีวิตเราบางทีมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายขนาดนั้นหรอกนะครับ  สาเหตุที่เรากลัวไปนั่นก็เพราะเราคิดไปเองต่างๆ  ในมุมที่เรามองว่ามันไม่สวยงาม  แท้ที่จริงยังมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ตั้งมากมาย  ชีวิตนั่นเป็นของเราไม่ใช่ใครเป็นผู้กำหนดไม่  คุณอยากให้ชีวิตคุณดีหรือไม่คุณออกแบบมันได้อยู่แล้ว  อย่าได้ไปโทษคนอื่นเลย  ถ้าจะโทษก็ให้โทษตัวเราเอง


เวลาจากนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผมอีกนะครับ  อาจมีเหนื่อยบ้าง  ท้อบ้าง แต่ไม่ว่ายังไงซะทุกๆการกระทำมันขึ้นอยู่กับเรานั่นแหละครับ  ผมเคยพูดอยู่เสมอครับว่าการที่เราได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่นั่นย่อมได้รับโอกาสที่มากกว่า  แต่ก็ไม่ใช่ว่าการมาอยู่จังหวัดเล็กๆ  อย่างแม่ฮ่องสอน จะไม่มีโอกาสอะไรนะครับ  ผมได้พบเห็นอะไรใหม่ๆ  การใช้ชีวิตในมุมที่มันช้าลงทำให้เรามองเห็น และทบทวนตัวเราเองได้ชัดขึ้น  ยังไงซะผมก็ยังมั่นใจอยู่ดีกว่า  ผมต้องไปถึงเป้าหมายได้อย่างแน่นอน

ผมเคยคิดนะครับว่าชีวิตผมต้องเป็นอะไรไม่เหมือนคนอื่น  แต่เอาเข้าใจมันโชคดีกว่าคนอื่นต่างหาก  เราได้เดินทางบ่อย  ได้เห็นอะไรมากมายอย่างที่เราคิดไม่ถึง  ได้พบเจอผู้คนประสบการณ์ใหม่ๆ  ประสบการณ์ใหม่ๆ  ทำให้เราได้รับรู้อะไรบางอย่าง  มองข้ามกับบางอย่าง  ปล่อยวางกับบางอย่าง  เหตุผลของการใช้ชีวิตอยู่มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้วละครับ 

เราเรียนรู้และยอมรับในความแตกต่างได้  แค่เปิดใจเรียนรู้  มองหาโอกาสเรียนรู้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอๆ  คนที่มีความรู้นั้นก็เหมือนมีอาวุธครบมือ  เราหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้  อย่าได้ดูถูกความรู้เป็นอันขาด  มีปัญญาเหมือนมีทรัพย์ไม่ว่าคุณจะได้อยู่ที่ไหนคุณก็ไม่มีทางตกอับครับ  ยาวิเศษที่คอยช่วยให้คุณรู้จักพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้น  มองเห็นเป้าหมายและหนทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ขอเพียงคุณไม่ท้อและเดินหน้าต่อไปให้ได้ครับ  คุณเป็นคนเก่งและมีความสามารถรอบด้านอยู่แล้ว

ค่อยฝึกฝนตัวเองไปครับ  วันนี้เราอาจยังไม่เก่งที่สุด  แต่สักวันเราจะต้องเก่งครับ  ทุกคนกว่าจะเก่งได้ก็ต้องอาศัยระยะเวลาและการฝึกฝนไปเรื่อยๆจนในที่สุดคุณกลายเป็นคนเก่งนั่นแหละครับ  สู้เพื่อวันพรุ่งนี้ สู้เพื่อคนข้างหลัง  สู้เพื่อวันที่ดีกว่า  คุณไปต่อได้อย่างแน่นอนครับ

ความจริงที่ต้องเผชิญ

ความกล้าเผชิญหน้ากับปัญหานั่นเป็นเรื่องที่ดี  ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้หรอกครับ  ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขอยู่แล้ว  อย่าได้กลัวไปว่ามันจะไม่มีทางออกให้กับปัญหา  มนษย์คือผู้สร้างปัญหานั้นขึ้นมาก  และมนุษย์นั่นแหละก็คือ  ผู้ที่ต้องแก้ปัญหานั้นก็คือมนุษย์นั่นเอง  มันไม่มีเหตุผลอะไรมากมายหรอกครับ

มนุษย์เราเดินทางมาตลอดชีวิต  มีบางทีที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า ต้องการกำลังใจในชีวิตให้เราออกเดินทางไปหาแรงบันดาลใจในชีวิต ออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ หาแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับชีวิตของเรา  มัวแต่จมอยู่กับอดีตก็ไม่มีอะไรดีหรอกครับ  ลุยหน้าต่อไปในเมื่อคุณตัดสินใจเลือกทางเดินไปแล้ว  คุณก็ต้องไปให้มันสุด  อย่ามัวมาเสียเวลาเปรียบเทียบนั่น โน่น นี่ กับชีวิตเลยครับมันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ  มีแต่จะทำให้ทุกอย่างดูแย่ลงไปเฉยๆ 

เคยมีคนบอกผมนะครับเวลาเราท้อ  นึกถึงเป้าหมายในชีวิตไม่ได้  ทางเดียวก็คือให้นึกถึงหนทางที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายให้ได้  ใครจะว่าเราบ้าก็ช่างแต่เราต้องฝึกทำทุกวันจนเป็นนิสัย  คนเราเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับสิ่งรอบตัว  เราอยากสร้างบรรยากาศแบบไหนเราก็สามารถกำหนดสิ่งรอบตัวเราได้  อย่าคิดแต่ว่าฉันอยู่แบบนี้ฉันไม่มีโอกาส  ในสถานที่คับขัน  มันซ่อนไปด้วยโอกาสมากมายนับไม่ถ้วน  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือความคิดของคุณนั่นแหละครับ  มันบั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจคุณได้เลย 

การเดินทางไปข้างหน้าคนเราต้องทำความเพียรให้มากๆ  อย่าได้ท้อแท้ใจไปครับ  มองไปข้างหน้าให้สุดอย่าได้หันหลังกลับ  อดทนเวลารอจังหวะดีๆ  ฝึกฝนตัวเองให้มีวินัยให้มากๆ  ฝึกให้พนักงานหนักไม่ได้ทำให้คนตายครับ  มีแต่จะทำให้คนเราเก่งขึ้นทุกวัน  กาลเวลาจะทำให้อะไรๆดีขึ้น  เชื่อได้เลยครับครั้งแรกอะไรก็ดูยากไปหมดแหระครับ  แต่เมื่อคุณชำนาญทุกอย่างจะดูง่ายไปหมด  คุณสามารถหาช่องทางใหม่ๆ  และวิธีการง่ายๆให้กับตัวเองได้ในการแก้ปัญหาได้  ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดหรอกครับ  ทุกอย่างต้องอาศัยการฝึกฝนเรียนรู้ไปเรื่อยๆ  จนชำนาญนั่นแหละครับถึงมีคนกล่าวว่า  คนที่เตะท่ายากท่าเดียว ยังไม่น่ากลัวกว่าคนเตะท่าธรรมดาแต่ทำจนบ่อยครั้งได้ 

แต่ยังไงซะตัวผมก็ยังมีความเชือ่ว่า กฎ 20/80  ยังใช้ได้กับทุกที่นะครับ  อย่าไปคาดหวังว่าทำงานเยอะจะได้ผลลัพธ์ของงานเยอะ  คิดแบบนี้คิดผิดมากเพราะงานที่คุณทำแสดงว่าเป็นงาน Lutein มากทำ 80  แต่ผลลัพธ์จริงๆ ได้แค่ 20 เองครับ   มองให้ออกว่างานที่คุณทำผลลัพธ์จริงๆมัน 80 หรือ 20 (ถ้าคุณมองออก ก็จะทำให้คุณทำงานได้ง่ายขึ้น   สิ่งที่เรามองว่ามันยากมันก็จะยากทันที  สิ่งที่เรามองว่ามันง่ายทุกอย่างก็จบ  แค่นั้นเอง  สิ่งที่มนุษย์ต่างกันก็ตรงที่ทำอย่างไรกับวิธีคิด มุมมองและการแก้ปัญหานั่นแหละครับ  ทางออกมีให้เราเสมอสำหรับปัญหา  มองปัญหาให้เป็นเรื่องตื่นเต้นน่าสนุก  แค่นั้นเองความสุขเริ่มจากการเข้าใจตัวเอง และสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา  สิ่งที่คุณเรียนรู้นั่นแหละครับ คือประสบการณ์ที่มีค่ามากที่สุด  ทุกคนเป็นคนเก่งและมีความสามารถในตัวของเราอยู่แล้ว 

อย่าลดคุณค่าของตัวเอง  เพียงเพราะคำพูดของใครนะครับ  ทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเราเองเสมอ  สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ให้เกียรติตัวเองและเคารพตัวเราเองให้มากๆ  เฉกเช่นเคารพคนอื่นๆ  เราอยากได้อะไรเราต้องเป็นผู้ให้กับเขาก่อน  อย่าหวังว่าคนอื่นต้องมานั่งทำให้คุณเสมอไป

คำตอบของชีวิต

ชีวิตคนเราบางทีนะครับมันก็ช่างหาจุดจบและจุดเริ่มไม่ได้สักที  บางทีเราก็รู้ว่ายังไม่ได้เริ่มอะไรเลย แต่บางก็รู้สึกเรามาไกลเกินจะหันหลังกลับได้แล้ว  มีบางทีนะครับก็รู้สึกโครตท้อกับชีวิต  ไม่รู้เลยว่ามันจะผ่านช่วงชีวิตนี้ไปได้อย่างไรกัน

อาการแบบนี้เรียกว่าซึมเศร้า  หรือ จิตตก ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามครับ  ในท้ายที่สุดเราต้องหาวิธีแก้ครับ  ปัญหาหรือสาเหตุของเรื่องเหล่านี้ก็คือ

เราเอาตัวเราเองไปผูกมัดกับสิ่งภายนอกมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นผู้คน สิ่งของ เราต่างคาดหวังจากคนอื่นโดยที่ไม่ยอมรับในตัวตนของเราก่อน  เลิกโทษสิ่งรอบตัวเเล้วหันกลับมามองตัวเองได้แล้ว  เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ทำปัจจุบันของคุณให้มันดีที่สุดก็ในเมื่อคุณได้ตัดสินใจมันแล้วนิครับ

โลกที่สร้างระบบต่างๆนาๆ ขึ้นมาเพื่อให้เราหลงติดกับดักเหลานั้น  ไม่ได้ช่วยหาทางออกให้ชีวิตคุณเลยหรอก  มีแต่จะทำให้ชีวิตคุณจมลงไปทุกที ทั้งหมดก็คือ เราเอาค่านิยมสุดโต่งในรูปแบบของสังคมมาเป็นตัวกำหนดเรานั่นเอง  สิ่งที่เราต้องพบเจอก็คือ

1. เราเสียตัวตนของเรา  เราไม่รู้จริงว่าเราต้องการอะไรกันแน่  เราชอบ เรารักที่จะทำอะไร เราวิ่งตามคนอื่นไปทั่ว  คิดแบบคนอื่นเอาเงินเป็นที่ตั้งสุดท้ายชีวิตก็หลงทาง

2. เราไม่มีเวลาให้ตัวเอง  ไม่มีเวลาดูแลแม้กระทั้งคนที่เรารักและรักเรา  เพราะส่วนใหญ่งานที่เงินเดือนสูง (มักจะเป็นงานที่เราไม่ชอบ) มันดูดเวลาและวิญญานของเราทั้งหมดที่เรามี ผลก็คือ ไม่มีเวลาให้ตัวเอง สุขภาพย่ำแย่ และมีเวลาให้คนที่รักเราน้อยลง

3. ความเครียดและโรคซึมเศร้า  เกิดจากการทนทำในสิ่งที่เราไม่ชอบเพียงเพื่อหาเงินมาซื้อของโชว์คนที่เราไม่ได้รัก  มันโครตเครียด เหมือนชีวิตมันว่างเปล่า  สุดท้ายเราก็จะกลายเป็นมนุษย์อีกคนที่ไม่ได้สร้างผลงานอะไร เพราะเราแค่ทำงานไปวันๆ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่คอยกันกินเราทุกวันจนในที่สุดเราก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่วิ่งหาความสำเร็จ  จนในที่สุดของชีวิตคุณก็ไม่มีทางได้เจอสักที 

คนที่ประสบความสำเร็จเอาความฝันเป็นตัวนำเอาเงินไว้ข้างหลัง
คนส่วนใหญ่เอาเงินเป็นที่ตั้งเอาความฝันไว้ข้างหลัง  แล้วคุณละครับกำลังทำอะไรอยู่ ?

เริ่มค้นหาความชอบ แรงบันดาลใจในตัวเราเองให้เจอ เป็นอันดับแรก ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อหาเงิน เพราะต่อให้เงินเยอะขึ้นเท่าไหร่ มนุษย์เงินก็รวยยากครับ  เมื่อเจอสิ่งที่ใช่แล้ว ต้องลงมือทำความฝันให้เป็นจริง  อาจใช้เวลาว่างหลังจากเลิกงาน แล่วค่อยหาทางมาทำให้เต็มที่

หาคนร่วมสร้างอุดมคติด้วย  เหมือนคนที่ร่วมสร้างฝัน อย่าไปสนใจกับคำพูดของใครเราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด  เรามีฝันและต้องการเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ  เพราะถ้าเราเจอสิ่งที่รักสิ่งที่ใช่แล้ว เราจะได้ "ผลงาน"  และได้เงินกับความร่ำรวยตามมา

มองชีวิตให้เป็นของง่ายอย่างสนใจอุปสรรค์อะไรที่มาขว้างกั้นเรา  เพราะชีวิตมันมีเรื่องให้ปวดหัวมากมายอยู่แล้วครับ  อย่าท้อ  สร้างโอกาสให้กับตัวเองอยู่เสมอ  ชีวิตมันไม่เคยมีทางตันหรอกครับมีแต่ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ  แล้วคุณจะพบคำตอบที่อยู่ในใจของคุณเองครับ