วันพุธที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กฏหมายสำคัญ


โลกใบนี้ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎ รัฐธรรมนูญของในแต่ละประเทศนั้นๆ ไม่แตกต่างกัน  ทุกอย่างตั้งอยุ่บนบรรทัดฐานเดียวกันหมด  สาเหตุนี้จึงอยากให้คุณศึกษาในข้อกฎหมายต่างๆไว้ครับ  จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบได้  ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย  และเป็นการเคารพกฎ กติตา ของบ้านเมืองไปด้วย

ในการธุรกิจก็เช่นกัน  เมื่อคุณคิดจะทำการค้าในต่างเเดน  ข้อแรกที่คุณควรเข้าใจมีดังนี้

1 กฎหมายพื้นฐานของประเทศนั้น
2 วิธีชีวิตและระบบงานต่างๆ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐของประเทศนั้นๆ
3 บุคลากรและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น
4 ความรู้เรื่องธุรกิจนั้นๆ และกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
5 Connection สิ่งนี้จำเป็นมาในต่างแดน เรื่องบางเรื่องสามารถทำให้เป็นเรื่องง่ายได้ ถ้าคุณเข้าถึงเขาเหล่านั้น
6 ค่าครองชีพในแต่ละพื้นที่

ครับจริงๆก็ยังมีหลายข้อละครับ  โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญต่างๆ จากภาครัฐ และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับภาครัฐ  การดำเนินธุรกิจจะง่ายหรือยากในต่างแดนเรื่องพวกนี้ควรให้ความสนใจนิดหนึ่งนะครับ เรื่องเล็กน้อยบางครั้งอาจส่งผลเสียหายยิ่งใหญ่ได้  แต่เชื่อเถอะครับพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน  ไม่ว่าจะชนชาติต่างมีความเป็นมิตรทั้งนั้น  อย่าได้มองคนอื่นในแง่ลบไปเลย
 
ในดินแดนที่อันตรายอาจมีสิ่งดีๆ ให้คุณได้คนหามากกว่าดินแดนมั่งคั่งที่ผู้คนแย่งกันค้นหา  ตามหาจนไม่รู้ว่าในท้ายที่สุด  มีผู้ที่จะสามารถครอบครองมันได้จริงๆ ไม่มากนักหรอก  ชีวิตเราเลือกได้ครับว่าจะให้มันเรียบง่าย หรือยุ่งยาก  ฉะนั้นจงเลือกชีวิตให้มันง่ายและเรียบง่ายที่สุดนะครับ  เราไม่อาจรู้ได้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับเรา  แต่เราเลือกที่จะมีความสุขทุกๆนาที และใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดกับผู้คน  การที่เราต้องย้ำในสิ่งที่เราต้องทำทุกวันก็เพื่อให้เราไม่ลืมในบทบาทหน้าที่ของเรา และสิ่งที่เราต้องทำอย่างชัดเจน

เน้นย้ำมันทุกวันจนเป็นภาพที่ชัดเจนในหัวเรา  ถ้าทุกอย่างมันเป็นภาพที่ชัดเจนแล้วโอกาสที่จะสร้างให้มันเป็นจริงได้มันก็ชัดเจนเช่นกันครับ  รักและเป็นตัวของเราเองให้มากๆ  จงเชื่อมั่นในตัวตนที่แท้จริงของคุณ  ให้โอกาสตัวเองได้รับแต่สิ่งที่ดี และประสบความสำเร็จในชีวิต  ผมต้องการเป็นผู้ส่งสารที่ให้ทุกท่านได้รับแต่สิ่งดีๆ และประสบความสำเร็จตามที่ท่านต้องการครับ

วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

มืออาชีพก็ต้องการฝึกฝนทั้งนั้น


คุณสังเกตไหมครับว่า  คนเก่งจำขยันกว่าคนไม่เก่ง  คนรวยยิ่งทำงานหนักกว่าคนจน

ไม่ว่าจะคนจากอาชีพอะไรก็ตามแต่  ทุกสายอาชีพต่างล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก จะเห็นได้ว่าคนที่ได้เปรียบก็จะได้เปรียบมากขึ้นเรื่อยๆ   เป็นเรื่องแปลกแต่จริง ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ทุกอย่างต่างต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก  จนเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น  ไม่มีใครที่เก่งแบบข้ามคืนหรอกครับ

มนุษย์ทุกคนเป็นคนฉลาด  จริงๆไม่มีใครโง่นะครับ  ถ้าสังเกตุให้ดีนะครับไม่ว่าสิ่งไหนถ้าเรารู้ว่าเราไม่มีโอกาสชนะ เราก็จะขี้เกียจ  แต่ถ้ารู้ว่าเรามีโอกาสชนะ เราจะยิ่งขยันเข้าไปอีกนั่นเพราะมนุษย์เรารู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว

ถ้าหากว่าเรารู้ว่าตัวเองยังไม่เก่ง  ต้องเริ่มจากการฝึกฝนจากสนามเล็กๆไปก่อน  ฝึกฝนจนชำนาญแล้ว  ค่อยๆไปยังสนามที่ใหญ่ขึ้น  เมื่อเราเริ่มเก่งขึ้นเจอสนามที่ใหญ่ขึ้น  โอกาสในการประสบความสำเร็จก็มากยิ่งขึ้น  ไม่มีใครทำไม่ได้จริงๆหรอกครับ  ทุกคนสามารถทำได้  ฉะนั้นจงเริ่มจากการสร้างความเชื่อให้กับตัวเราเองก่อน  เมื่อความเชื่อของเราตกผลึกแล้ว  ค่อยๆหาวิธีการ มั่นใจและลงมือทำตามสัญชาตญาตของเรา

เมื่อรู้ว่าจากจุดที่เรายืนไม่สามารถทำให้เราเกิดจินตนาการหรือความคิดได้  ลองออกมาจากจุดไหน  เปลีี่ยนสภาพแวดล้อม เปลี่ยนสถานที่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ทำความฝันของเราให้ดีที่สุด  อย่าให้ใครมาบอกว่าเราทำไม่ได้  จงเชื่อในตัวของคุณเอง  อย่าไปกลัว เดินหน้าต่อไป ไปให้สุดฝั่งทำประโยชน์ให้กับโลกใบนี้  ให้กับสังคมนี้ อย่าได้ไปหวังสิ่งตอบแทน  ให้ด้วยใจแล้วธรรมชาติจะตอบแทนให้คุณเองครับ 

วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทุกอย่างเป็นไปได้


ทุกชีวิตบนโลกใบนี้  ต้องเข้าใจเรื่องของการวางรากฐานให้กับชีวิตของคุณเอง  ตลอดชีวิตของมนุษย์เราอย่างมากอายุเฉลี่ย (ของคนไทยนะครับ) ประมาณ 70 ปี  ท่านต้องมีแบบแผนชีวิตของท่านไว้ด้วยครับว่า  เกิดมาแล้วสิ่งอะไรที่ท่านจะต้องทำ และทำไปเพื่ออะไร  เข้าใจตัวเองให้มากๆ  จากนั้นก็เริ่มปูพิมพ์เขียนให้กับตัวท่านเองว่า  อีกห้าปี สิบปีจากนี้ชีวิตท่านจะไปในทิศทางไหน

ใช่ครับมันอาจไม่มีกฎอะไรตายตัวหรอกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง  แต่ที่รู้แน่ๆ  คือมันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไปหาสิ่งนั้นให้จงได้  นั่นก็คือ สร้างความเชื่อ พลังจิตใต้สำนึก และสร้างภาพให้มันเกิดขึ้นจริง วันนี้ผมมีเทคนิคที่ผมสรุปเอาไว้  10 ข้อดังนี้ (พื้นฐานที่ทุกคนต้องมีไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม)

1.กล้าออกจากจุดเดิมๆ  (ท่านต้องกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเอง กล้าที่จะออกจากจุดเดิมๆซะก่อน)
2. รับฟังแต่เรื่องดีๆ  หาโอกาสใหม่ๆเสมอ
3.อย่างกลัว  จงกล้าลงมือทำ  เพราะคุณใหญ่กว่าที่ท่านคิดอยู่แล้ว
4. คุณเป็นอะไรก็ได้ตามที่ท่านคิด  แล้วให้เชื่อว่ามันเกิดขึ้นกับท่านแล้ว
5.ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องไปตามขั้นตอนทุกอย่าง  บางอย่างเมื่อเราเจอเรื่องไม่คาดคิดก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้  (เปลี่ยนเเผนการไม่เปลี่ยนเป้าหมาย)
6.ออกแบบอนาคตของคุณซะ
7.จงควบคุมตนเองและความคิดของท่าน
8.เลือกคบแต่คนที่จะทำให้พาท่านไปยังจุดที่คุณต้องการได้
9.คิดและต้องลงมือทำ เชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง
10.อย่าให้ใครมาบอกว่าท่านทำไม่ได้  หลีกหนีจากพวกที่คิดลบ

ชีวิตก็เปรียบเหมือนกับการขึ้นบันไดไปทีละขั้น  ทุกขั้นต้องผ่านบททดสอบ  ผ่านปัญหาและอุปสรรค์สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้ท่านเป็นอะไรที่เหนือกว่าคนอื่นได้  ถ้าหากท่านผ่านมันได้  จงเดินไปข้างอย่าหันหลังกลับ  เพราะท่านเดินทางมาไกลมากแล้ว ขอให้เชื่อว่าท่านทำได้และเดินต่อไปอย่าได้สิ้นหวัง

ความจริงอันยิ่งใหญ่เมื่อท่านเข้าใจมัน


ท่านไม่อาจบอกได้เลยว่าความคิดจะทำอะไร
ในการนำความเกลียดหรือความรักมาให้ท่าน
เพราะความคิดมีตัวตน  และมันมีปีกบิน
ที่ไปเร็วเสียยิ่งกว่านกพิราบสื่อข่าว
พวกมันเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของจักรวาล
ความคิดแต่ละอย่างสร้างแบบอย่างของมัน
และมันบินย้อนกลับเส้นทางเพื่อเอามาให้ท่าน
สิ่งใดก็ตามที่บินออกไปจากชีวิตของท่าน

โลกอาจจะอภัยท่านถ้าหากท่านผิดพลาด แต่โลกจะไม่ให้อภัยแก่ท่านหากท่านมิได้ทำการ "ตัดสินใจ" เพราะว่าโลกไม่อาจได้ยินท่านภายนอกสังคมที่ท่านอาศัยอยู่  มันไม่สำคัญว่าท่านจะเป็นใคร หรือทำอาชีพอะไร เพราะท่านกำลังเล่นหมากรุกของ"เวลา"  ท่านมีหน้าที่จะต้องเดินอยู่ตลอดเวลา  เดินหน้าด้วยการ "ตัดสินใจ" ที่รวดเร็ว แล้ว "เวลา" จะเป็นประโยชน์แก่ท่าน หากท่านหยุดนิ่งอยู่กับที่เสีย เวลาก็จะกวาดท่านออกไปจากกระดานเอง

ผมอ่านบทความนี้ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและเป็นกฎที่มนุษย์เราหลีกเลี่ยงไปไม่ได้  โลกจะให้ทุกอย่างแก่คุณแต่คุณก็ต้องทำบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกันกับสิ่งที่โลกได้วางไว้  (นั่นคือกฎทอง)  ผมได้อ่านบทความในประโยคข้างต้นจากหนังสือเรื่อง "กฏแห่งความสำเร็จ"  หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ผมอยากแนะนำท่านผู้อ่านเป็นอย่างมาก  เพราะเขาเล่าโดยกลั่นจากประสบการณ์จริงของคนที่เขาประสบความสำเร็จระดับโลกจากหลากหลายอาชีิพ  เรียกว่าสรุปอยู่ในเล่มเดียว  เป็นกฎทองคำที่ทำให้เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จในชีวิต  นั่นคือสิ่งที่บอกเล่าผ่านตัวหนังสือ

ประเด็นที่ผมต้องการจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า  ต้องการจะบอกว่าเวลา กับ ความคิด เป็นสองสิ่งที่คนเรามีเท่ากัน  ใครจะจัดการทุกสิ่งได้ดีกว่ากันนั่นแหละคือ เคล็ดลับแห่งความสำเร็จของชีวิต

จงให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนเป็นอันดับแรกที่มีผลกับความสุขของชีวิตคุณก่อน  อันได้แก่

อันดับแรก   คือ  ครอบครับ  ญาติพี่น้อง เพื่อน
อันดับสอง  คือ  ชื่อเสียง เงินทอง บ้าน รถ
อันดับสาม  คือ  เรื่องที่ไม่สำคัญแต่จำเป็นต้องทำ

หากท่านสามารถแยกแยะและจัดลำดับความสำคัญเรื่องเหล่านี้ โดยเรียงลำดับความสำคัญให้เหมาะสม  ชีวิตท่านก็จะพบแต่ความสมดุลและความสุขในชีวิต  ไม่มีใครจะบอกได้ว่าคุณจะไปได้ไกลสุดแค่ไหน แต่สิ่งแรกที่จะทำให้คุณได้ทุกอย่างในสิ่งที่คุณต้องการ  คุณต้องปูพื้นฐานเรื่องเหล่านี้ให้ได้ก่อน  "ความสุข"  ล้วนเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตของมนุษย์ทุกชนชั้น  ไม่มีใครอยากมีความทุกข์  ทุกคนอยากกินอิ่ม นอนหลับ และมีความสุขไปกับคนรอบข้างที่เรารัก  และรักเรา  ฉะนั้นไปจัดการเรื่องเหล่านี้ซะ โชคดีครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สิ่งที่ทำร้ายเราคือความคิด


เมื่อก่อนตอนผมทำงานอยู่ในกรุงเทพ  ตัวผมยอมรับเลยครับว่าเป็นคนที่คิดลบในหลายเรื่องเลย  บางทีเราก็ว่าเราคิดบวกแล้วนะ  แต่เอาเข้าจริงเราบนได้กับทุกเรื่องเลย แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย เช่น ผมมองว่าคนในเมืองหลวงไม่มีน้ำใจเอาซะเลย  แท้ที่จริงไม่ได้เป็นทุกคนซะหน่อย บางคนก็เป็นคนดีมีน้ำใจ เช่นคนที่มาจากต่างจังหวัดแล้วมาสู้ชีวิตในเมืองหลวง  หรือในทางกลับกันคนต่างจังหวัดก็ใช่ว่าจะเป็นคนมีน้ำใจทุกคนเสมอไป

เราเห็นคนนั้น คนนี่ ไม่ถูกใจเราไปซะหมดเลย  เราเอาแต่โทษคนนั่น คนโน้นไม่ดีบ้างละ  จนลืมนึกไปว่าตัวเรามีข้อบกพร่องอะไรตรงไหนหรือเปล่า  หรือเรานั่นแหละที่ต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเองกันแน่  (ตอนนั้นยังนึกไม่ออกหรอกครับ)

จนพอเรามาใช้ชีวิตแบบช้าๆ  ในต่างแดนเลยทำให้เรามองชีวิตได้ชัดเจนขึ้น  มองย้อนไปถึงเวลาที่มันผ่านไปก่อนหน้า  และสิ่งที่ต้องทำในปัจจุบัน  แท้จริงแล้วคนที่จะต้องปรับปรุงทุกอย่างไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ ตัวผมเองนี่แหละครับ

ผมชอบคิดภาพลบๆในหัว  มองโลกในแง่ร้าย  ไม่ไว้ใจคนอื่น  ก่อนหน้าผมเป็นแบบนี้จริงๆ  พอมีใครทำไม่ดีกับเรา  เราก็จะมีภาพลบกับเขาทันที  แท้จริงผมลืมมองไปว่าเขาอาจประสบปัญหาบางอย่างก็ได้เลยทำให้เขาเป็นแบบนั้น  เช่นเดียวกับที่เราเป็น

อยากให้คนอื่น คิด พุด ทำ กับเราอย่างไรเราต้องคิดพูดทำกับคนอื่นแบบนั้นก่อนนะครับ  มีสิ่งหนึ่งที่ทำยากมากในชีวิตก็คือการควบคุมจิตใจของเราเองนั่นแหละ  เมื่อเจอความทุกข์จะอยู่อย่างไรให้ไม่ทุกข์  เป็นเรื่องที่ทำยากครับ  แต่ถ้าทำได้ใจคุณก็สบาย  ไม่ต้องมานั่งทุกข์กังวลกับทุกเรื่องในชีวิต  ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนคุณก็ผ่านมันไปได้เสมอ  จงมองชีวิตแบบไม่ใช่ปัญหาของเรา  มองแบบปล่อยวาง อาศัยว่าให้เราเป็นผู้ดู ผู้รู้เท่านั้น  อย่าเอาใจไปยึดติดหรือผูกโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งก็แค่เรื่องธรรมดาเท่านั้นเอง  จงทำตัวเองให้กลมนอกแต่เหลี่ยมใน  เพราะชีวิตเราต้องเจอผู้คนมากมาย  มีถูกใจบ้าง  ไม่ถูกใจบ้าง เป็นเรื่องของจริตและกรรม  ทุกอย่างให้ปล่อยไปตามกรรมของเขา  เราก็อโหสิกรรมให้เขาเท่านั้นเอง  แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้นแบบทันตาเห็นอย่างแน่นอนน้ำนิ่ง ไหลลึก  จงทำตัวเป็นน้ำนิ่ง  อย่าได้สะทกสะท้านกับสิ่งใด  หนักแน่น มั่นคง และยึดมั่นในเป้าหมายที่ได้ตั้งใจเอาไว้  มีความสุขกับทุกวัน

เรื่องของเพื่อนบ้าน


เอาง่ายๆ นะครับผมว่า  จริงๆคนไทยเราเหมือนโลกแคบมากเลย เราแทบจะไม่ค่อยรู้เรื่องภายโลกภายนอกอะไรเลย  อย่างมากก็แค่ไม่กี่ประเทศส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิเช่น อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ จีน รัสเซีย   ข่าวสารที่เราได้ยินก็ล้วนแต่เป็นข่าวสารในทางลบ หรือไม่ก็ทางบวก แต่จะหนักไปทางลบซะกว่าเพราะข่าวสารทางลบกระตุ้นความคิดเห็นและพฤติกรรมความอยากรู้อยากเห็นของคนไทยได้เป็นอย่างดี

ผมแค่อยากจะยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดก็เพราะว่า  หลายคนแทบไม่เคยรู้จักประเทศเพื่อนบ้านของคุณอย่างแท้จริงเลย ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย  พม่า  ลาว  ประเทศติดกับคุณเหล่านี้ ล้วนมีความแตกต่างคุณอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน  การเมืองการปกครอง และสวัสดิการความเป็นอยู่และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างมาก

ผมมาใช้ชีวิตอยู่ที่ลาวได้สักพักหนึ่ง ระหว่างหนึ่งปีที่ผ่านมาผมก็ไปๆ มาๆ  คุณเชื่อครับว่าก่อนหน้าลาวเป็นประเทศที่ไม่อยุ่ในความคิดของผมเลยว่าผมจะมาเที่ยว และไม่คิดจะมา  ตอนมาเห็นครั้งแรกผมพูดได้เลยว่า ไม่คิดจะมาอีกเลยทุกอย่างดูช่างแตกต่างจากไทยลิบลับเลย  เหมือนย้อนหลังไปสัก 20-30 ปีบ้านเราเมื่อก่อน  แต่ไปๆมาๆ บ่อยเข้าผมกลับรู้สึกว่าประเทศนี้เขามีเสน่ห์อยู่ไม่น้อย อย่างน้อยก็

1.ผมใจเย็นลงมาก  จากเมื่อก่อนเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก  วิถีชีิวิตคนลาวเป็นคนใจเย็น ผู้คนก็อัธยาศัยดีไม่แพ้คนไทยเลย
2.ความเลืีอมล้ำในด้านต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการเมือง (ทหารเป็นใหญ่)  การปกครอง และพนักงานบริษัท ชาวบ้านทั่วไป  นักธุรกิจ (มีการแบ่งแยกชนชนอย่างชัดเจน)  พอกับมามองบ้านเมืองเราที่คนไทยส่วนใหญ่มองว่าวุ้นวาย  สังคมเดือนร้อน ประชาชนเดือนร้อน แท้จริงเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลย ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเรียกร้องอะไรจากภาครัฐได้
3.การใช้เงินสด  ต้องบอกว่าของกินของใช้ที่ลาวแพงมาก  เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากไทยและเวียดนาม  ผู้คนนิยมใช้เงินสด  และไม่ชอบนำเงินไปฝากธนาคารเท่าไหร่ ค่าเงินค่อนข้างผันผวน  การค้าขายที่ลาวผมมองว่าวอลุ่มอาจไม่สูง แต่ถือว่าคึกคักมากถ้าเทียบในระดับประเทศลาว
4.ระบบภาษีต่างๆ  ลาวเป็นประเทศที่ยังไม่นิยมใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มมากเท่าไหร่  ส่วนใหญ่จะพบแต่ในบริษัทใหญ่  ตามห้างร้านหรือสรรพสินค้าก็ยังไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม  หรือแม้กระทั่งประกันสังคม ประชาชนยังไม่นิยมทำกันเท่าที่ควรเพราะประชาชนมองว่าพวกเขาไม่ได้รับการบริการจากภาครัฐดีเท่าที่ควร  นอกจากนั้นก็จะเป็นระบบพรรคพวก  สังคมลาวทุกคนแทบจะรู้จักกันหมดแทบจะทุกวงการ  วงการจะไม่กว้างเท่าของบ้านเราที่ไทย  แต่ถ้าคุณสามารถเข้าถึงคนพวกนี้ทุกอย่างมันก็ง่ายครับ
5.อนุสาวรีย์ท่านผู้นำ   ประเทศลาวให้ความสำคัญกับท่านผู้นำเป็นอย่างมาก  แทบจะทุกที่ในลาวจะมีอนุสาวรีย์ท่านผู้นำและประดับไฟงดงามมาก เป็นร้อยๆดวง มากยิ่งกว่าไฟฟ้าบนท้องถนนตอนกลางคืนด้วยซ้ำ  แม้กระทั่งราคาหนังสิอประวัติท่านผู้นำจะราคาสูงมากบางทีผมเรียกว่า เกินความจำเป็นด้วยซ้ำ

ยังมีเรื่องเล็กน้อยหลายเรื่องสำหรับคนลาวนะครับ  ทุกประเทศต่างล้วนรักชาติ ภาษา ของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดา  ที่ผมเขียนมานี้ไม่ได้ต้องการจะหยิบยกเปรียบเทียบ  แต่ต้องการสื่อให้รู้ไว้เพื่อนบ้านเขาคิดอย่างไร  และให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง  เวลาที่คุณจะไปรู้จักเขาหรือไปทำธุรกิจในบ้านเขา  เพราะมันจะได้ง่าย  รู้เขารู้เรายังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย  ทุกอย่างต้องมีระบบระเบียบมีกฏเกณฑ์ของมันอยู่แล้วในแต่ละประเทศ  ถึงแม้ว่าบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่ผิดสำหรับบ้านเรา  บ้านเขาอาจเป็นเรื่องที่ถูกต้องก็เป็นไปได้  ดังนั้น เราเกิดเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ทุกคนต้องเคารพกฎ กติตา และความเป็นอยู่ของพื้นที่นั้นๆ  แล้วคุณจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้

อย่าได้คิดว่าเอาประเทศนั้น โน้น นี่ เปรียบเทียบกัน ทุกสิ่งบนโลกใบนี้มีกฎเกณฑ์ของมันอยู่แล้ว  ทุกอย่างจะถุกพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นเสมอ  ถึงแม้ว่าจะไม่เท่ากันก็ตามแต่มันดีขึ้นแน่นอน  ถึงแม้ว่าวันนั้นคุณอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม แต่ขอให้เชื่อไว้นะครับว่า  เกิดเป็นมนุษย์ควรทำคุณค่าให้กับโลกใบนี้ให้สูงสุด  อย่าไปแบ่งเพศ ศาสนา เชื้อชาติ  ทุกคนคือสัตว์โลกที่ต่างก็เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีอะไรที่คงอยู่ถาวรได้เลยครับ  บนโลกใบนี้ทุกอย่างในท้ายที่สุดเราก็ต้องจากโลกใบนี้ไปอยู่ดี  จงเป็นคนที่สร้างประโยชน์ให้กับโลกใบนี้  สร้างคุณค่าให้กับโลกใบนี้ให้มากที่สุด  ขอให้ทุกวันของคุณเป็นวันที่โชคดีครับ  

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คิดให้ตกผลึก


ความคิดเป็นมวลสารที่ยิ่งใหญ่ มันสามารถเปลี่ยนพลังงานทุกอย่างได้หมด  มนุษย์คิดไปร้อยแปดเราไม่สามารถหยุดคิดได้เลย  สิ่งที่ผมอยากจะให้ท่านได้รู้ไว้ก็คือ  จงฝึกคิดให้เป็นระบบ  คิดทีละเรื่องอยากคิดและทำหลายเรื่องพร้อมกัน  ทำความคิดให้มันตกผลึกก่อน   คิดกลั่นกรองจนแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ท่านคิดนั้นมันดีที่สุดแล้ว

มนุษย์ทุกคนต่างมีความคิดต่างกันแค่คิดแต่ไม่ลงมือทำบ้างละ  คิดแล้วยังไม่ตกผลึกบ้างละแต่นำไปใช้เลยโดยไม่กลั่นกรอง  ผลที่ออกมาคือไม่สำเร็จบ้างละ  มีข้อผิดพลาดบ้างละ  นั่นไม่แปลกเลยครับมันเป็นความคิดของคนทั่วไปทำกันอยู่แล้ว  อยากที่จะแตกต่างคุณก็ต้องทำในสิ่งที่แตกต่าง  อย่าได้หลงเชื่อใครทั้งนั้น  จงเชื่อในตัวตนของคุณเชื่อในทุกๆการกระทำของตัวเอง  ใครที่มาบอกท่านว่ามีเส้นทางที่จะทำให้ท่านร่ำรวยได้นั้น  มันไม่มีอยู่จริงหรอกครับ

จงใช้ปัญญาให้มากกว่าศรัทธา  บางทีการที่เราใช้ศรัทธาเป็นตัวนำแต่ขาดซึ่งปัญญาแล้วย่อมโดนหลอกได้ง่าย  การที่ได้อะไรมาง่ายดายโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมันผิดกฎธรรมชาติอยู่แล้วครับ  โปรดทำความเข้าใจด้วย  อย่าปล่อยให้ใครมาบ่งการชีวิตของคุณ  จงใช้ชีวิตของคุณและฝึกปัญญาของคุณให้มากขึ้นเพื่อใช้เป็นแสงสว่างในการนำทางของชีวิต

การที่ผมมาเขียนเล่าแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณหมดหนทาง หรือท้อในสิ่งที่ทำอยู่แต่อยากให้ฝึกใช้ความคิดให้มากขึ้นก่อนจะตัดสินใจลงมือทำอะไร  ไม่อยากให้คุณถูกหลอก  เพราะโลกเต็มไปด้วยคนที่หวังจะกอบโกยผลประโยชน์มีเยอะซะจนเราไม่รู้ว่าเขาหวังดีกับเราจริงๆหรือไม่  หรือแค่ให้ผลประโยชน์กับเราเล็กน้อย  แต่ตัวเองกอบโกยซะจนร่ำรวยก่อนเราด้วยซ้ำ  มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่ฝึกได้  จงฝึกตนเองไม่ให้หลงเชื่อ  ไม่หลงงมงายกับโลกสมมุตินี้ให้มาก  บางทีสิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด  สิ่งที่สวยงามอาจซ่อนความร้ายกาจไว้ข้างใจ  จงมองทุกอย่างด้วยปัญญา แล้วใช้ปัญญานั้นแก้ปัญหาทุกอย่าง  เป็นต้นแบบที่ดีในการดำเนินชีวิตให้กับผู้คน  เป็นที่รักของผู้คน  ให้ด้วยความจริงใจ  และเสียสละเพื่อโลกที่สวยงามใบนี้  ขอบคุณครับที่ชีวิตมันช่างสวยงามเช่นนี้

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

การเดินทางกับการเรียนรู้


การเดินทางบ่อยๆ  บางทีก็ทำให้เราได้เห็นโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น  ได้เห็นโลกในแบบที่เราไม่เคยเห็น  บางทีผมมานั่งคิดๆดูนะครับ  ชีวิตคนเราบางทีอาจไม่ได้ดีไปหมดทุกเรื่อง แต่เราสามารถทำทุกเรื่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์กับชีวิตเราได้  บางคนบอกว่าชีวิตฉันเหนื่อยเหลือเกินให้ลองถามตัวเองก่อนครับว่า  เพราะอะไรละทำให้ชีวิตคุณเหนื่อย  ถ้าคุณกำลังทำภาระกิจอะไรบางอย่างแล้วมันยังไม่สำเร็จ  แสดงว่าคุณยังเหนื่อยกับมันยังไม่พอ  คุณต้องทำให้มันหนักขึ้นกว่าเดิม  ความสำเร็จบางทีต้องผ่านจุดที่ยากที่สุดในชีวิตไปก่อน  ถึงจะพบกับความสำเร็จในชีวิตได้

อย่าสำออยกับชีวิต  อย่าไปล้อเล่นกับมันอยู่อยากได้อะไรก็จริงจังกับมันเท่านั้นเอง  ตอนนี้ผมมาอยู่ลาวรู้สึกว่าวิธีชีวิตที่นี้ทุกอย่างดูช้าไปหมด  ผู้คน สภาพแวดล้อมเหมือนตัวเองถูกตัดขาดจากทางโลกเลยครับ  แต่ในความสงบเรียบง่าย  เชื่อหรือไม่ครับว่าทำให้เราเกิดความคิดดีๆ  ในการจะทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเรา  บางทีเรารีบไปกับทุกเรื่องจนเราไม่รู้ตัวเลยว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในชีวิตกันแน่  อะไรคือสิ่งที่เราต้องเราต้องทำให้ชีวิตเรา  ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญแต่มันคือสิ่งที่เราได้สร้างมันในมโนภาพก่อนแล้วทั้งนั้น  เราอยากให้ชีวิตเราเป็นอย่างไรก็จงทำชีวิตในปัจจุบันของเราให้ดี  และวางแผนนึกถึงภาพที่เราต้องการทุกวัน  ทำมันให้ดีที่สุด ทำไปแบบไม่ลดละ

เมื่อทุกอย่างลงตัว  ทุกอย่างพร้อมความสำเร็จจะวิ่งหาคุณเอง  อย่าไปถามหาความสำเร็จ โอกาส เพราะบางทีมันอาจไม่มีอยู่จริงในชีวิตของคนบางคนก็ได้  จงสร้างโอกาสนั้นขึ้นมาเอง  แล้วทำตรงหน้าให้มันเสมือนว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเปลี่ยนชีวิตของเรา  เวลาที่คุณนึกอะไรไม่ออก ท้อ หมดหวังในชีวิตให้คุณลองนึกถึงว่าคุณกำลังปลูกต้นไม้อะไรขึ้นมาสักต้น  มันต้องเวลาและความอดทนอย่างมากเพื่อให้มันเป็นต้นไม้ใหญ่และให้ร่มเงา  ดอกผลกับเรา  ปลดปล่อยความเป็นตัวของคุณออกมา เป็นตัวของตัวเอง และใช้จุดเด่นของเราในการสร้างความสำเร็จให้กับชีวิตของเรา

ชีวิตกับการเดินทาง บางครั้งอาจไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่ที่เรารู้ได้ก็คือ เราสามารถมีความสุขกับทุกนาทีของเราได้  การเดินทางได้บอกเรื่องราวต่างๆ ได้พบเห็นส่ิงใหม่ๆ  ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ  ได้เรียนรู้และอะไรใหม่ ๆ  มิตรภาพ เพือน และการมองโลกในมุมที่กว้างขึ้น  ขอบคุณชีวิตที่ส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับตัวผมและโอกาสดีๆ  ในการไปเห็นโลกกว้าง  และผมสัญญาว่าจะนำสิ่งดีๆ  ประสบการณ์ดีๆมอบให้พวกคุณกลับอย่างแน่นอน

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บทเรียนชีวิต



ผมมีความตั้งใจอะไรบางอย่าง  ผมตั้งใจว่าอยากจะเเบ่งปันเรื่องราวเรื่องดีๆ ให้กับผู้คนอย่างน้อยวันละเรื่องก็ยังดีครับ

ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยจากโรคร้ายที่กำลังหมดกำลังใจ
ไม่ว่าผู้ที่กำลังลาจากโลกใบนี้
ไม่ว่าคนที่กำลังเศร้า ทุกข์ใจ และเสียใจผิดหวังกับบางเรื่องในชีวิต
ไม่ว่าจะดีใจสุด หรือกำลังมองหาโอกาสหรือตัดสินใจอะไรบางอย่าง

มันอาจเป็นเรื่องที่ยากนะครับที่จะสามารถสร้างกรอบหรือแนวทางแบบนี้ได้  เพราะทุกคนต่างผ่านประสบการณ์เรื่องราวในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป  แต่โดยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคนต่างต้องการที่พึ่งทางใจกันครับ   ไม่ว่าจะมนุษย์ชาติไหน ศาสนาไหน ทุกอย่างถ้ามองว่าทำไมนะหรือเพราะมนุษย์หากไม่มีซึ่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเสียแล้วก็ยากที่จะทำอะไรสำเร็จ  เหมือนเรือที่ขาดหางเสือ

บทความที่เรียงร้อยเพื่อสร้างกำลังใจให้กับผู้คน  จะเป็นเสมือนรักษาแผลใจให้เขา และเป็นเสมือนยาวิเศษที่สร้างกำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกับความมั่นใจในการใช้ชีวิตในด้านต่างๆ  มนุษย์เราจะเป็นไปอย่างที่เราคิดและเราสร้างขึ้นมาในจิตใต้สำนึก  เพราะฉะนั้น จงจำไว้นะครับว่าการที่เรารับเอาข้อมูลข่าวสารที่ดีเข้าไปในโปรแกรมสมองของเราทุกๆวัน  ย่อมมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ก็เปรียบเสมือนการปลูกต้นไม้  ต้นไม้เป็นอะไรที่มีความอดทนเป็นอย่างมากจงทำตัวเราให้เป็นเสมือนต้นไม้  กว่ามันจะโตเป็นต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแผ่คลุม  ต้องผ่านอะไรมากมายไม่ว่าจะเป็น พายุ ลม ฝน และฟ้าผ่า  เหตุการณ์เหล่าไม่ได้ทำให้ต้นไม้เป็นกังวลเลยครับ ต่างใช้ความอดทนไปเรื่อยๆจนกลางเป็นต้นไม้ใหญ่

อย่าคิดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบใครเลยครับ  ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถึงจะมีความแตกต่างกันมาก  แต่ทั้งสองต่างก็มีหน้าที่เหมือนกันนั่นคือ ให้แสงสว่าง  แค่เราทำหน้าที่ของตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะอยู่ในตำแหน่งไหน  ในฐานะอะไรที่เราไม่ลืมหน้าที่ ลืมสิ่งที่เราต้องทำและรับผิดชอบ  ทุกอย่างก็ประสบความสำเร็จได้ในจุดที่เราเป็น

ชีวิตมันก็คล้ายละครฉากหนึ่ง  คุณเคยเล่นเก้าอี้ดนตรไหมครับ  เมื่อเพลงหยุดทุกคนจะแย่งกันนั่งเก้าอี้  และแน่นอนไม่มีใครจะได้นั่งเก้าอี้ทุกคน  เพราะเก้าอี้มีน้อยกว่าคนอยู่แล้ว  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่ควรไปดูถูกใครเพราะชีวิตเราก็ไม่ต่างอะไรจากเก้าอี้ดนตรี  บางครั้งเราก็มีโชค หรือบางทีเราก็ไม่อาจโชคก็ไม่ได้มีกับตัวเราทุกครั้ง

มองชีวิตแบบเข้าใจมันและปล่อยวางกับชีวิต  คนที่สามารถควบคุมอารมณ์ จิตใจ ความรู้สึกได้ คุณจะเป็นทั้งผู้ชนะ และผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่  ให้อภัยตัวเอง ผู้คน และทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาเสมือนละครฉากหนึ่ง สุดท้ายก็ต้องมาถึงตอนจบ  เพราะชีวิตต้องการให้คุณเป็นผู้ให้และผู้รับ ทุกอย่างต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน  ปล่อยให้มันเป็นไปตามกฏที่เราได้วางไว้การเล่นนอกกฎคุณก็จะได้อะไรที่นอกกฏเช่นนั้น

วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

วิธีกำจัดความคิดฟุ้งซ่าน


ยิ่งอายุมากขึ้น  มนุษย์เรากลับมีเรื่องต้องให้คิดมากมายแท้จริงเป็นเรื่องทางโลกทั้งนั้นเลย  เราเรื่องทางโลก ภาระทางโลกมาแบกไว้มากมายเลยครับ จนทำให้ชีวิตเราดูไม่มีเวลาส่วนตัวเลยยุ่งไปหมด

เวลางานก็ยุ่งกับเรืื่องงาน  เวลาส่วนตัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เวลาพักก็กลับคิดแต่เรื่องงาน
แบบนี้ผมว่า... ชีวิตคุณกำลังขาดสมดุลแล้วละครับ  ควรบริหารจัดการเวลาซะใหม่ก่อนที่โรคร้ายจะมาเยือน

การทำงานและทุ่มเทให้กับงานถือเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตนะครับ แต่ก็ต้องจำไว้ด้วยครับว่างานไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตเช่นกัน  ต้องปล่อยบ้างกับบางเรื่องแล้วชีวิตคุณจะคล่องตัวขึ้น  การที่มนุษย์เราจะคิด จะทำ อะไร หรือตัดสินใจอะไร ต้องในภาวะที่เรียกว่าจิตว่างจากภาระทุกอย่างนะครับ  ถึงจะตัดสินใจได้ถูกจุดไม่ใช่จิตวุ่นวายไปหมดจนหาทางออกให้ตัวเองไม่เจอ

วิธีกำจัดความฟุ้งซ่านได้ดีที่สุดครับ  

1.หยุดคิดกับทุกเรื่องวางไว้เลยครับ  ทำแค่ตรงนี้ และปัจจุบัน (อย่าไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น)
2.เมื่อเวลาเครียด หรือมีความคิดฟุ้งซ่านให้หากิจกรรมทำครับ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง
3.เมื่อเวลานอนไม่หลับ สมองจะทำงานหนักมาก มันจะคิดไปต่างๆนาๆ  บางครั้งควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เเนะนำให้ ลองไปเดินเล่นครับ  อยู่คนเดียวในที่สงบๆ นั่งสมาธิเพื่อสงบจิตใจก็ดีครับ
4.ถ้าลองทุกวิธีไม่ได้ผล ก็ต้องปล่อยวางเลยปล่อยมันคิดไปลองมองดูครับเดี๋ยวมันเหนื่อยมันก็หยุดคิดเอง  ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้บ่อยๆ แนะนำตอนเย็นให้ออกกำลังกายนะครับเพราะจำทำให้เราเพลียและหลับไปเองในตอนกลางคืน

บางคนอาจมีวิธีการที่ดีกว่านี้ก็ได้นะครับ  ขึ้นอยู่แต่ว่าใครจะสะดวกแบบไหน  แต่หลักที่สำคัญก็เพื่อต้องการจะบอกว่า  การนอนหลับพักผ่อนถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพราะทำให้เราสมองดีแล้ว  มันยังมีผลต่ออารมณ์เราด้วย  การพักผ่อนอย่างเต็มที่ทำให้สมองโปร่ง อารมณ์แจ่มใส และการตัดสินใจอะไรก็ถูกต้อง  ฉะนั้นผมเลยอยากจะให้คุณกำจัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นออกไปให้หมดเพราะชีวิตคุณจะไปได้ไกลหรือไม่มันขึ้นอยู่กับความคิดคุณนั้นแหละครับ

จงใช้ชีวิตเสมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ  ทำปัจจุบันให้มันดีที่สุด  ทุกคนมีเป้าหมายได้ ตั้งใจอยู่ที่เป้าหมายแต่อย่าไปกังวลกับมัน ให้จักรวาลมันจัดสรรของมันเอง  หว่านพืชอย่างไรมันได้ผลอย่างนั้นอยู่แล้วครับ อย่าไปกังวลกับมันให้มาก

วันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กฏแห่ง GOOD LUCK

ใครเคยฟังนิทานเรื่องนี้ผมว่าดีมากนะครับ  ทุกอย่างแฝงไปด้วยแง่คิดที่ดีมากครับ  อยากให้ทุกคนลองนำกฎนี้ไปใช้ดู  แล้วมาดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนะครับ  ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่คุณคิดและทำ หากคุณทำตามกฎข้อนี้


จำไว้ว่า  “โชคดีจะมาเยือนเสมอ หากเรายึดมั่นต่อสิ่งที่ทำ” 

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 1:
โชคนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเรา แต่โชคดีเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นด้วยตัวเอง ดังนั้นมันจะคงอยู่ตลอดไป

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 2:
คนที่อยากจะมีโชคดีมีมาก แต่คนที่จะตัดสินใจไขว่คว้าหามาให้ได้มีน้อย

กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 3:
หากตอนนี้คุณไม่มีโชคดี บางทีอาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อมยังเป็นสภาวะเดิม ๆ เพื่อให้โชคดีมาเยือน คุณจำต้องสร้างสภาวะใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 4:
การเตรียมสภาวะที่เหมาะสมสำหรับโชคดี ไม่ได้หมายความว่าให้หาผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเพื่อให้คนอื่นได้รับประโยชน์ด้วย จะนำโชคดีมาให้

 กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 5:
หากผัดผ่อนการเตรียมสภาวะที่เหมาะสม “ไว้วันหน้า” บางทีโชคดีอาจจะไม่มาเยือนเลย การสร้างสภาวะที่เหมาะสม ต้องมีก้าวแรก…เริ่มก้าวเสียแต่วันนี้

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 6:
แม้ในสภาวะที่ดูเหมือนว่าพร้อมแล้ว บางครั้งโชคดีก็ไม่มาเยือน จงมองหารายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ สภาวะที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะไม่จำเป็น…แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 กฏแห่งความ โชคดีข้อที่ 7: 
คนที่เชื่อแต่เรื่องโชคจะเห็นว่า การสร้างสภาวะที่เหมาะสมเป็นเรื่องไร้สาระ คนที่ลงมือสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้เกิดขึ้น จะไม่กังวลเรื่องโชค

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 8:
ไม่มีใครขายโชคได้ โชคดีนั้นไม่มีขาย จงอย่าเชื่อใจผู้เสนอขายโชค

 กฏแห่งความโชคดีข้อที่ 9:
เมื่อได้สร้างสภาวะที่เหมาะสมทุกประการแล้ว จงอดทนรอ อย่าละทิ้งไป เพื่อให้โชคดีมาเยือน จงเชื่อมั่น

 กฏแห่ง ความโชคดีข้อที่ 10: 
การสร้างโชคดีก็คือ การเตรียมสภาวะแวดล้อมให้พร้อมสำหรับโอกาส แต่โอกาสไม่ใช่เรื่องของโชค หรือความบังเอิญ โอกาสมีอยู่ตลอด

ข้อคิดที่ได้จากนิทาน...
          การสร้างโชคดีก็คือ .. การสร้างสภาวะที่เหมาะสม เท่านั้นเอง  เพราะการสร้างโชคดีคือ การสร้างสภาวะที่เหมาะสม ความโชคดีจึงขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณก็สามารถสร้างโชคดีได้! และจงจำไว้ว่า…นิทานเรื่องโชคดี..ไม่ได้มาอยู่ในมือคุณเพราะความบังเอิญ



ขอบคุณที่มา : https://swhappinessss.blogspot.com/2014/01/good-luck.html

จงเป็นคนโชคดีตลอดไป


มนุษย์เราต่างเจอปัญหา  และคนเราก็มีวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป

บางคน ชอบไปท่องเที่ยวคลายเครียด หาเวลาพักผ่อน
บางคน  ออกกำลังกาย
บางคน  ออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ไปพบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ
บางคน  อยู่บ้านพักผ่อนกับครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันในบ้าน

ปัญหาเหล่านี้ล้วนถูกแก้ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป  ขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายของแต่ละท่าน  ปัจจัยเหล่านี้  เป็นวิธีการแก้ปัญหาโดยพื้นฐานของมนุษย์ทั่วไป  ไม่ได้นำท่านไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้  วันนี้ผมต้องการสื่อไปถึงวิธีการในการแก้ปัญหา และวิธีการเมื่อพบเจอกับอุปสรรค์ต่างๆ แล้วจะมีวิธีการอย่างไรที่จะเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสในการประสบความสำเร็จในชีวิต

1.สร้างมโนภาพ  พื้นฐานแรกเลยนะครับไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามแต่  ถ้าท่านเจอปัญหาหรืออุปสรรค์ หรือต้องการสร้างเป้าหมาย เพื่อให้สำเร็จในชีวิต  คุณต้องฝึกสร้างภาพในสมองในจิตใต้สำนึกของคุณก่อน  มนุษย์เราหว่านพืชอย่างไรย่อมได้ผลอย่างนั้น  เริ่มที่ความคิด คำพูด การกระทำ ในเชิงบวก

2.สร้างแผนการลงมือทำ  นอกจากสร้างมโนภาพให้ชัดเจนในเรื่องที่จะทำ  จะต้องแก้ปัญหาแล้วสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ  ท่านจะต้องทำแผนการลงมือทำไว้อย่างชัด   ระบุระยะเวลาที่แน่ชัดไว้ในแผน กำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจน

3.การฟื้นฟูและเตรีมความพร้อมให้จิตใจ  เป็นเรื่องแน่นอนว่าการจะทำอะไรก็ตาม  สิ่งที่ท่านต้องเจอในการสร้างเป้าหมายของท่านเพื่อไปสู่ความสำเร็จย่อมพบเจอกับความล้มเหลว หลายต่อหลายครั้ง เป็นเรื่องธรรมดา บางทีอาจทำให้ตัวท่านถึงกับถอดใจกับมันไปทีเดียว   วันนี้ทางผมจะได้มีเทคนิคมาแนะนำให้ท่าน ดังนี้

I. เวลาที่คิดลบ  ให้ระบายออกมาเป็นคำพูด หรือตัวหนังสือเลยครับ  ระบายออกมาให้หมด เพราะมันช่วยลดอารมณ์หงุดหงิดของท่านได้ และควบคุมไม่ให้เรากระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมได้

II. ลองมองหาความแตกต่างของสิ่งที่เกิดขึ้น หาวิธีการการมีสิ่งที่จะทำให้มันดีขึ้นหรือไม่  เพราะปัญหาทุกปัญหาไม่จำเป็นจะต้องแก้ไข้ด้วยวิธีการเดิมๆ เสมอๆไป อย่าไปยึดติดกับวิธีการให้มากนัก  ลองมองหาทางเลือกใหม่ๆ  และให้คิดเสมอว่าความล้มเหลวเป็นหนทางแห่งความสำเร็จ

III. หากิจกรรมทำ  เช่น ออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ  ปั่นจักรยาน  ตีแบต  วิ่ง

IIII.ลองหาเหตุผลดีๆให้กับเป้าหมายหรือภารกิจที่ท่านองทำดูซิครับ  นั่งคิดทบทวนดูว่า ทำไมท่านต้องทำมัน และมันมีผลอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของท่าน

มนุษย์ทุกคนจะประสบความสำเร็จหรือไม่พื้นฐานแรกก็คือ การวางฐากฐานให้กับจิตใต้สำนึกของคุณ ความคิดจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง  คุณจะเปลี่ยนชีวิตของคุณให้ดีขึ้นหรือไม่ อนาคตอยู่ในมือของคุณเท่านั้น  หาใช่ใครกำหนดไม่  โชค กับ โชคดีมันต่างกันครับ จงเลือกที่จะเป็นคนโชคดีตลอดไป

วันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จิตบริสุทธิ์


ผมไปนั่งอ่านเกี่ยวกับเรื่องทวารทั้ง 6  (ตามหลักชาวพุทธครับมันเป็นเรื่องของจิตนะครับ)

เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของการฝึกจิตให้ตื่นรู้ตามความเป็นจริงครับ  เป็นศาสตร์ที่ยากครับถ้าให้มานั่งอธิบายเป็นตัวหนังสือผมว่าสามารถหาอ่านได้ตามร้านหนังสือ หรือ Google ได้เลยนะครับ

หลักทวารทั้ง 6 เป็นการรับรู้เกี่ยวกับสิ่งเร้าต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกตามความเป็นจริง  โดยใช้การรับรู้เข้าและไม่ต้องไปปรุงแต่งมันเพิ่มเติม เช่น

1.ตากระทบรูป  ก็บอกว่า เห็นรูป
2.หูได้ยินเสียง  ก็บอกว่า  ได้ยินเสียง
3.จมูกได้กลิ่น   ก็บอกว่า   ได้กลิ่น
4.ลิ้นกระทบรส  ก็บอกว่า  ได้รส
5.กายกระทบโผฏฐัพพะ ก็บอกว่า โผฏฐัพพะ  (สัมผัส)
6.ใจกระทบธรรมมารมณ์  ก็บอกว่า ธรรมมารมณ์ (อารมณ์)

การที่มนุษย์เรายังหลงอยู่ในโลกธรรมเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร  เพราะตราบใดที่คุณยังไม่หมดกิเลส  เพราะโลกนี้เต็มไปด้วยความอยาก  ความต้องการอย่างไม่มีขีดจำกัด  ให้คุณลองเลิกมองข้ามสิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อน  แล้วคุณถึงจะรู้และเห็นตามความเป็นจริง  โดยคุณไม่หลงไปตามโลกสมมตินี้

ทุกอย่างบนโลกใบนี้คือสิ่งสมมติ  ในท้ายสุด จิตเราก็จะเกิด-ดับ เมื่อกายดับทุกอย่างก็จบ  จะมีแต่จิตเท่านั้นที่ยังไม่จบ  ยังต้องวนเวียนตายเกิดไปอย่างนั้นเรื่อยๆ  จนกว่าคุณจะเข้าใจจิตอันบริสุทธิ์นั่นแหละ คือการหลุดพ้นที่แท้จริง  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณของมนุษย์  ผมว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของกรรม เรื่องของศาสนา  เพราะในท้ายที่สุดมนุษย์ทุกคน พื้นฐานของจิตของทุกคน ล้วนเป็นคนดีและมีจิตใจที่บริสุทธิ์  ในท้ายสุดมนุษย์ก็จะหาทางหลุดพ้นตามธรรมชาติไปเอง

ที่ผมยกประเด็นมาพูดก็เพราะต้องการจะบอกให้คุณทราบว่า  การฝึกจิตเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ  มนุษย์ที่ประสบความสำเร็จต้องรู้จักฝึกใช้สมองซีกขวาให้มาก  คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ใช้  วิธีที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ัมากแค่ไหนก็คือ การฝึกใช้สมองซีกขวาให้มาก แยกนามแยกรูปได้แบบชัดเจน  นั่นแหละครับ  บางทีเราก็ทำอะไรโดยไม่รู้ตัวจริงๆ  การขาดความยับยั้่งชั่งใจการฝึกสติจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง  ฝึกปูพื้นฐานจิตใต้สำนึกของคุณให้ดีเยี่ยมก่อนครับ  แล้วพลังงานต่างๆ และแรงดึงดูดสิ่งดีๆจะวิ่งเข้าหาคุณเอง  ความสำเร็จก็คือการผ่านการฝึกจิตอย่างดีนั่นเอง  เริ่มเลยนะครับฝึกมันทุกวัน  ต้องมีสักวันที่คุณต้องสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรมได้อย่างง่ายดาย

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

จงใช้เวลากับความคิดให้มาก


ความคิด  มีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ เป็นพลังงานที่สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างมหาศาลเลย  จินตนาสามารถสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับโลกใบโลก  มันไม่ได้จำกัดว่าคุณอายุเท่าไหร่  แต่มันอยู่ว่าคุณจัดการกับบางสิ่งบางอย่างได้อย่างไร

ปัญหาทุกวันนี้มีเยอะขึ้นวัน  ปัญหาใหม่ๆเกิดขึ้นทุกวัน  จึงไม่แปลกใจว่าคนที่เป็นนักแก้ปัญหาสามารถช่วยผู้อื่นได้  ย่อมกลายเป็นฮีโร่เป็นของธรรมดา  สาเหตุที่คนเราต้องฝึกอยู่กับตัวเองคนเดียวให้ได้  และฝึกใช้ความคิดให้มากๆ  เพราะทุกอย่างมันสำเร็จจากความคิดเราแล้ว

เวลาที่คุณเจอปัญหา อุปสรรค์แทนที่จะลงมือแก้ปัญหาทันที ลองหยุดใช้ความคิดทบทวนดู
เวลาที่คุณหาทางออกให้กับบางสิ่งบางอย่างไม่เจอ  ลองหยุดคิดทบทวนดู
เวลาที่คุณกำลังสงสัยหรือลังเลบางอย่างกับชีวิต   ลองหยุดคิดทบทวนดู
เวลาต้องการทำอะไร วางแผนชีวิต อนาคต งาน   ลองฝึกคิดทบทวนดู

อยากให้คุณตั้งโปรแกรมชีวิตคุณไว้เลยว่า อย่างน้อยใน 1 วันของสัปดาห์ให้เป็นสัปดาห์แห่งความคิด กล่าวคือ  วันทั้งวันคุณไม่ต้องทำอะไร ให้คุณนั่งคิดวางแผนชีวิต การงาน อนาคต  ทุกอย่างไว้เลยครับ  ไม่ใช่การใช้ความคิดฟุ้งซ่าน แต่ให้คิดเป็นภาพ เป็นระบบและเชื่อมโยงเหตุการณ์เหล่านี้เข้าหากัน  เหมือนต่อจิ๊กซอร์ที่เป็นภาพใหญ่ๆ ให้มันสมบูรณ์

คุณไม่จำเป็นต้องไปคาดหวังว่าผลลัพธ์มันจะออกมาดีหรือไม่  เพราะทุกอย่างมันเป็นไปตามที่คุณคิดไว้อยู่แล้ว  อาจมีเหตุการณ์สถานการณ์บางอย่างบ้างที่ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คุณคิด  แต่ในท้ายที่ผลลัพธ์มันจะเป็นไปตามที่คุณต้องการแน่นอน  ต่างแค่วิธีการณ์อาจเปลี่ยนไปบ้างไม่ต้องตกใจ

คุณอยากให้ใครเชื่อมั่นในตัวคุณ  คุณอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับตัวคุณ  คุณอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรกับคุณ  ทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ด้วยการออกแบบชีวิตของคุณเองด้วยความคิด  ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของคุณ  คิดไปในทางที่ดี ทางที่บวก ไม่ว่าจะเจออะให้ของให้บอกตัวเองว่าคุณคือคนโชคดี และคุณก็จะผ่านมันไปได้ทุกสถานการณ์  ขอให้ทุกคนโชคดีกับการใช้ชีวิต  แม้ชีวิตไม่เป็นไปอย่างที่หวังแต่ผลลัพธ์มันก็จะเป็นไปอย่างที่คุณต้องการอย่างแน่นอน

รูป กับ นาม


เคยได้ยินเรื่องพวกนี้ไหมครับ  ระหว่างรูปธรรม กับ นามธรรม

รูปธรรม  คือ สิ่งที่จับต้องได้มองเห็นได้ด้วยตา
นามธรรม คือ สิ่งที่มองด้วยตาไม่ได้สัมผัสไม่ได้

ข้อแตกต่างเหล่านี้แหละครับ  ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเบื้องหลัง คอยเป็นพลังในการใช้ชีวิตให้กับเราได้  คนที่สามารถแยกนามกับรูปได้  ย่อมมองเห็นความแตกต่างข้อสิ่งไหนคือข้อเท็จจริง สิ่งไหนคือข้อคิดเห็น
ซึ่งมันสำคัญมากกับโลกในยุคนี้   ที่ทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เท่ากันทุกคน  และมีสิทธิบริโภคข่าวสารตามความสนใจที่แตกต่างกันออกไปตามชอบ ความคิดเห็น และทัศนคติของคุณ

ประเด็นก็คือ  ไม่ใช่คนทุกคนที่จะรู้ได้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับนั้นมีข้อเท็จจริงอยู่ในนั้นมากแค่ไหน  มีความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับใด  เรื่องของการฝึกคิดมองให้เห็นภาพ แยกนามรูปจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ

บางข้อมูลไม่มีข้อเท็จจริงอยู่เลย
บางข้อมูลมีข้อเท็จจริงผสมกับข้อคิดเห็น
บางข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด
บางข้อมูลเป็นแค่การเปรียบเปรยเพื่อเชื่อมโยงบางอย่างเพื่อนำไปสู่ข้อเท็จจริง

การฝึกคิดเป็นภาพจึงเป็นพื้นฐานที่ดีนะครับ  ลองคิดซิครับถ้าเราสามารถให้คนทุกคนฝึกคิดเป็นภาพและมองเห็นในสิ่งเดียวกับความคิดของเรา  มันจะวิเศษแค่ไหน  เป็นเรื่องยากแต่ก็ไม่ยากเกินไปหากฝึกฝน  การคิดเป็นภาพมันง่ายมากกว่าการฝึกเป็นระบบเชื่อมโยง  เพราะเราไม่จำเป็นว่าคนทุกคนต้องเรียนจบสูง  ทุกคนสามารถเข้าใจมันได้  เพราะในตัวมนุษย์ทุกคนมีจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์ซ่อนอยู่แล้ว  เพียงแค่ไม่รู้เท่านั้นเองว่าจะดึงพลังงานนั้นออกมาใช้มันได้อย่างไร

จึงเป็นเรื่องที่เราต้องฝึกจิตของเราให้แข็งก่อน  ฝึกทักษะการคิดเชื่อมโยง  คิดเป็นภาพและสามารถสร้างภาพของสิ่งที่เราคิด หรือต้องการให้ชัดเจนในความคิด  ฝึกจนชำนาญเมื่อนั้นแหละครับ  การกระทำ ผู้คน ทุกสิ่งจะดึงดูดเข้าหาคุณเอง  โดยที่คุณไม่ต้องไปตามหามันหรอก  ของบางอย่างตามหาทั้งชาติก็ไม่เจอ  เราต้องอยู่กับสิ่งที่เป็นปัจจุบันให้แล้วเชื่อมโยงไปหาสิ่งที่เราคิด หรือต้องการให้เป็นในอนาคตได้  อนาคตก็อยู่ในมือเรา อยู่ที่เราสร้างปัจจุบันมันอย่างไร  ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง และเชื่อมันในผู้คน เชื่อว่าการสร้างความสำเร็จเกิดจากความคิดที่ยิ่งใหญ่ ฉะนั้นคุณได้ไปต่อครับ

วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พลังความคิดสร้างสรรค์


งานทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยดี ก็คือ ทุกฝ่ายจะต้องทำงานประสานงานการอย่างเป็นระบบ  งานถึงจะออกมาดี  ไม่ติดขัดอะไร  แต่สิ่งที่เราประสบปัญหามากที่สุดนั่นก็คือ เรื่องของคน  โดยเฉพาะคนกลางที่คอยจะประสานงานด้านต่างๆ  ให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ทุกอย่างต้องผ่านคนกลางที่คอยรับ-ส่งงาน  เพื่อให้งานสำเร็จได้ด้วยดี  บุคคลนี้จำเป็นต้องมีทักษะความสามารถในด้านต่างๆ อาทิ เช่น

- ด้านการติดต่อสื่อสาร
- ด้านการสร้างความสัมพันธ์และเชื่อมโยงเรื่องราว
- ด้านทักษะในการแก้ไขปัญหา
- ด้านการวางแผนงานให้เป็นระบบ

ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่จำเป็นและพื้นฐานสำหรับคนกลางในการประสานงานเป็นอย่างมาก  ไม่สามารถจะขาดข้อใดข้อหนึ่งไปได้  เพราะงานอาจประสบปัญหาได้  นักแก้ปัญหาที่เก่งย่อมเข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี  ทุกอย่างต้องใช้ความอดทนและทักษะเฉพาะตัวอย่างสูง

ในอนาคตผมว่าอาชีพเหล่านี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  คนที่เข้าใจปัญหาและสามารถหาช่องทางเลือกในการแก้ปัญหาได้  บวกกับความรู้ในศาสตร์ทางด้านนวัฒกรรมและเทคโนโลยีย่อมทำให้งานประสบความเร็จสูง  ด้วยเวลาที่จำกัดและรวดเร็ว  โลกในยุคอนาคตใครที่รู้ข้อมูลข่าวสารได้เร็วคนนั้นย่อมได้เปรียบ

เพราะโลกจะเเข่งกันด้วยข้อมูลข่าวสาร และทักษะที่สำคัญในการประสานงาน ทักษะในการแก้ปัญหางานต่างๆ ระหว่างผู้บริหารกับหัวหน้า  หัวหน้ากับลูกน้อง  ลูกน้องกับลูกน้อง  ผู้บริหารกับบุคคลทุกฝ่าย  ไม่ใช่เรื่องตลกครับ  บางทีการที่คนเรามีความคิดที่ต่างกัน  ไม่แปลกเพราะความรู้ ความคิด ความสามารถ ประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆด้วย  คนเหล่านี้แหละที่เขาเรียกผู้บริหารยุคใหม่แบบมืออาชีพ  เก่งครบเครื่องและวิสัยทัศน์กว้างไกลหาตัวจับได้ยาก  ทุกที่ต้องการนักเเก้ปัญหาทั้งเรื่องคนและเรื่องงาน เรื่องระบบไปพร้อมๆกัน  เวลาได้คนมาต้องอ่านคนออก บอกคนได้  มองให้ทะลุว่าเขามีความสามารถอะไรบ้าง  และเก่งในการแก้ปัญหาอะไรบ้าง

ทักษะผู้นำเป็นเรื่องที่ฝึกฝนกันได้  คุณจะเป็นผู้ที่เคารพนับถือหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวคุณเองเท่านั้น  ผู้ที่มีความอดทน  มีความหนักแน่นจะไม่มีใครกล้ามาทำอะไรคุณได้  เหมือนดังพญานกอินทรีที่สง่างามบนท้องฟ้า  จงเป็นดังพญานกอินทรีปลดปล่อยพลังและความสามารถของคุณอย่างเต็มความสามารถ

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ความสุข ความทุกข์ ความธรรมดาของโลก


ภาวะที่ตกตะลึงแล้วทำอะไรไม่ถูก หรือภาวะตกใจ

มันเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่แปลกแต่จริงครับ  มันส่งผลให้เรารู้ว่ามนุษย์มีพลังจิตใต้สำนึกที่ทำให้เราสามารถทำในสิ่งที่เกินความคาดหมายตลอดเวลา  ทำให้เห็นได้ว่าถ้าคุณพลังจิตบ่อยๆ  จิตของคุณก็จะแข็ง  เมื่อจิตคุณแข็งแรงก็จะสั่งการทุกอย่างได้

ผมเห็นในปัจจุบันมีผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญมากมายที่รู้ในเรื่องของการสะกดจิต  โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้นะครับ  การสะกดจิตเหมาะกับใช้ในวงการแพทย์มากกว่า  หากจะมาใช้กับความรู้สึกของเรา  ในท้ายสุดผลข้างเคียงที่ได้อาจส่งผลระยะยาวได้  ฉะนั้นอย่าตกเป็นเครื่องมือของนักสะกดจิตเลยนะครับ  จงเป็นตัวของคุณเอง  ปล่อยให้จิตของคุณมันเดินไปตามธรรมชาติ เพียงแค่คุณฝึกจิตให้มันชำนาญเท่านั้นเองครับ

คนที่หลงตายไม่เคยฝึกจิต  ก่อนตายจะมีภาวะแบบตกตะลึง หรืออยู่ในภวังค์ จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นั่นเพราะ  มโนภาพก่อนตายและวิบากกรรมของเขาปรากฎให้เห็น  ถ้าหากฝึกจิตเรื่องเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องผิดวิสัยอะไรเลยครับ เพราะคนที่มีสติจะไม่หลงตายอยู่แล้ว  เพราะเขาเข้าใจกฎธรรมชาติข้อนี้ ว่าในท้ายที่สุดมนุษย์เราต้องตาย  ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรดาและสัจธรรมของโลก  ไม่มีอะไรที่จะยิ่งยงยาวนาน

หลายคนคงเครียดน่าดู  อะไรวะพูดแต่เรื่องความตาย ใจคอไม่ดีเลยที่พูดก็เพราะจะบอกว่าทุกสรรพสิ่งมันสัมพันธ์กันหมด  ทำดีย่อมได้ดี  หว่านพืชแบบไหนก็ต้องได้ผลแบบนั้น  ถ้าคุณฝึกจิตคุณก็จะเข้าใจว่า สิ่งไหนที่คุณต้องทำ  เพื่อให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ  ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญมันมีเหตุและปัจจัยที่ทำให้มันต้องเกิดและเป็นแบบนั้น  บางทีชีวิตเหมือนเล่นตลกกับเรา แต่ถ้ามองจากความเป็นจริงแล้ว  เรื่องราว เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับเรา  ตัวเรานั่นแหละคือ คนที่กำหนดมันไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วครับ  ไม่ใช่ใครทำอะไรหรอก  การที่คุณเจอบททดสอบหนักๆ หรือเหตุการณ์ร้ายนั่นเพราะเป็นการเตือนคุณว่า คุณอยู่ผิดที่ เหตุการณ์ต่างจะเป็นบททดสอบและพลักดันคุณให้ไปเจอสิ่งที่เหมาะกับคุณจริงๆ   

ธรรมชาติของจิตมักจะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ  แต่ถ้ามนุษย์ที่ฝึกฝนจิตใจเป็นอย่างดี  ย่อมเป็นผู้ที่ประเสริฐและมีจิตใจที่สูงอยู่เสมอ  ไม่ว่าในสถานการณ์ตอนนั้นเขาจะเจอเหตุการณ์ที่ดี  หรือร้ายก็ตาม  เพราะเขาเห็นมันเป็นเรื่องของสัจธรรม  ที่ต้องเกิดขึ้นกับมนุษย์เราทุกคนอยู่แล้ว  เลยไม่ได้วิตกกังวลอะไร  เพราะการเตรียมตัว เตรียมใจไว้จึงเป็นเรื่องที่เป็นปกติวิสัยอยู่แล้ว  ผมไม่ได้สอนให้คุณต้องธรรมมะ ธรรมโม อะไรหรอกนะครับ แค่อยากให้ทุกคนเตรียมพร้อม  จำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะไปอยู่ในจุดที่สูงแค่ไหน ร่ำรวย ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน  (สิ่งที่คุณหนีไม่พ้นก็คือ ความทุกข์  และความสุขเป็นของธรรมดาที่ต้องเจออยู่ดี  การที่คุณจะผ่านมันไปได้ก็คือ คุณต้องมีสติ  เพราะสติจะทำให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องในชีวิตได้)  ขอให้ทุกวันเป็นวันที่โชคดีสำหรับทุกคนครับ

วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ชัดเจนซิครับ


ผมเห็นตอนนี้มีผู้รู้หลายคนเลยนะครับ กูรู ในแต่ละทางต่างแนะนำ โน่น นั่่น นี่ ให้กับคุณ

ทางที่เขาแนะนำอาจดีสำหรับเขา แต่อาจไม่ใช่สำหรับเราก็ได้ ลองพิจารณาให้ดีครับ
บางคนใช้เงินเป็นที่ตั้ง  โดยลืมไปว่าตัวเองไม่ได้มีความสามารถในด้านนั้นสักหน่อย แค่เห็นว่าได้ตังเยอะ  จนในที่สุดก็ไปต่อไปไม่  หรือที่เขาเรียกทางตัน นั่นแหละครับ เพราะคุณไม่ได้เก่งจริงในเรื่องนั้นไง คุณแค่อยากรวยทางลัด

บนโลกนี้ไม่มีทางลัดจริงๆหรอกครับ  คุณลองไปถามคนรวยก็ได้ว่ากว่าเขาจะมาถึงจุดที่เขาเป็นอยุ่นี่เขาผ่านอะไรมาบ้าง  ทุกคนไม่ทราบ  ทุกคนอยากทราบแต่ว่าเขาสำเร็จยังไง  ซึ่งนั้นเป็นแค่ผลลัพธ์ ไม่ใช่วิธีการ  สิ่งที่สำคัญกว่านั่น  คือวิธีการต่างหากที่คุณต้องรู้  เพราะมันคือเส้นทางของความสำเร็จจริงๆ

บางคนก็บอก COPY ความสำเร็จเขาซิครับ  โหบางทีผมอยากจะบอกมากครับว่า ถ้ามันง่ายอย่างงั้น คนทั้งโลกคงรวยกันไปหมดละครับ เพราะทุกคนก็รู้ ก็เห็นข้อมูลแบบที่เราเห็นเหมือนกันนิครับ  ยิ่งอายุมากขึ้น  ผมว่าธรรมมะของพระพุทธองค์มันเป็นอะไรที่วิเศษจริงๆ  อริยสัจ 4 (หลักธรรมที่แท้จริง)

ธรรมมะเป็นเรื่องปัจตัง  รู้ได้เฉพาะตน  ไม่สามารถบอกกันได้ต้องอาศัยการลงมือปฎิบัติเพราะในความเป็นจริง ทุกคนต่างกรรมต่างวาระ  ไม่มีใครที่จะปฎิบัติธรรมแล้วมีวิธีแบบเดียวกันหรอกครับ  ผลลัพธ์หรือปลายทางอาจเหมือนกันได้  แต่วิธีการย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอนตามเหตุและปัจจัย

ทีนี้ผมก็เลยมองย้อนมาในแง่ของคนที่ต้องการประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ธุรกิจ หรืออะไรก็ตาม  เราเห็นผู้รู้ต่างๆ มาแนะนำให้เรามากมาย  แต่เอาเข้าจริงมันกลับนำไปใช้ในทางปฎิบัติได้น้อยมากเพราะอะไรเหรอ  ทุกอย่่างคือ ปัจตังไงครับ   รู้ได้เฉพาะตน ต้องฝึกฝนปฎิบัติหาแนวทางเอาเอง  วิธีการหรือแบบแผนเราศึกษาได้แต่ไม่สามารถเอามาใช้กับเราจริงได้ทั้งหมดครับ  เหมือนธรรมมะพระพุทธองค์ ที่ท่านกล่าวไว้ว่า  "คำสอนของเราก็เท่ากับเศษใบไม้ในกำมือเท่านั้นถ้าเทียบกับเศษใบไม้ที่มีทั้งป่า"  ก่อนจะทำอะไรให้คิดให้รอบคอบ  ทุกคนต่างตัองการผลประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  พิจารณาให้ดี  ให้รอบคอบ ก่อนนะครับ  อย่าไปหวังน้ำบ่อหน้า  ระวังน้ำบ่อหน้าจะไม่มีอยู่จริง โปรดเข้าใจนะครับ

ลองใช้ชีวิตให้ช้าลง


ชีวิตบางทีรีบไปก็ไม่ดีหรอกครับ  ทำให้เราตัดสินใจอะไรยากและอาจตัดสินใจไม่ถูกได้
ในขณะเดียวกัน ถ้าช้าไปก็อาจพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตได้เหมือนกัน

ทุกอย่างมันต้องตั้งอยู่บนความพอดี  ไม่ช้า หรือ เร็วจนเกินไป  ผมว่าวิถีชีวิตของคนเราในยุคนี้ทุกอย่างเร็วมาก  เร็วจนเราไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา

ทำไมนะเหรอครับ  ก็ค่านิยมต่างๆ  ต่างพาให้เราหลงไปแบบนั้นจริง เช่น  เรายังไม่ดีพอบ้างละ  ไม่ขาวพอบ้างละ  เราอ้วนไปบ้างละ  ทุกอย่างในโลกของความเป็นจริง มันไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบจริงๆหรอกครับ  สื่อต่างๆ ต่างให้เราหลงกับวัตถุมากเกินไป  ทำให้เราต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ตามแบบฉบับของคนยุคใหม่  โดยลืมเป้าหมายในชีวิตของคุณจริงๆว่า...

ชีวิตคุณต้องการเป็นอะไรกันแน่ ?  และจุดไหนนะที่เรียกว่าความพอดีสำหรับตัวเอง ?
และเราจะดีพออย่างที่เขาบอกกล่าวได้อย่างไร?

คำถามเหล่านี้ทำให้เราหาตัวเองไม่เจอสักที  เพราะเมื่อเราพัฒนาตัวเองไปสู่จุดหนึี่ง  เราก็ยังพบอีกว่าเรายังมีข้อบกพร่องอีกละ  มันทำให้เราเหนื่อยและชีวิตไม่รู้จักคำว่า "พอดี" สักที  ชีวิตเราโหยหาอยู่ตลอดเวลา  วันนี้ผมจึงอยากให้คุณลองใช้ชีวิตให้ช้าลงครับ ด้วยการ

ทำทุกอย่างให้ช้าลง  ไม่ว่าจะการทำงาน  การกิน  การใช้ชีวิต  บางที.......อาจมีคำตอบในนั้น
เช่น

เมื่อเราว่างขึ้น จากการใช้ชีวิตช้าลง  เรากลับพบว่า

- เราเก่งในเรื่องการเขียนหนังสือ เรามีเวลาว่างในการอ่านหนังสือและทบทวนสิ่งต่างๆมากขึ้น
- เราสนุกกับการทำโปรเจคใหม่ๆ ในแบบที่เราก็ไม่รู้มาก่อนว่าเราชอบมัน
- เราสนุกกับการทำสิ่งใหม่ๆ ที่เราลืมไปแล้วว่ามันเคยเกิดขึ้นกับชีวิตเรา

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือ "ความสุข" ที่แม้แต่เงินก็หาซื้อไม่ได้ไงละครับ ชีิวิตเราเอาแต่โหยหาเงินทอง  บางคนมีมากจนเกินไปด้วยซ้ำแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่พอ ที่ไม่พอไม่ใช่เงินหรอกครับ  "จิตใจ" คุณต่างหากละที่ไม่รู้จักว่า "ความพอดี" ของคุณมันอยู่ตรงไหน  พอไม่รู้ยิ่งมีเงินมากขึ้นแทนที่จะ "สุข" มากขึ้นกลับ "ทุกข์" มากขึ้น  เพราะการไม่รู้จักตัวเอง

ในท้ายที่สุดพอถึงวันที่คุณต้องจากโลกใบนี้ไป  ก็มานั่งเสียดายวันเวลาที่ผ่านไป  นึกย้อนไปว่าถ้าตอนนั้น เราน่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ ถึงจะดี  แต่มันก็สายไปแล้วละครับ ชีวิตก็เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันไหลย้อนกลับ  ทุกอย่างเราต้องเดินไปข้างหน้า  หากใครที่ยังหลงทางอยู่แล้วยังหาตัวเองไม่เจอ  และพยายามไปค้นหาตัวเองในที่ต่างๆ  แท้จริงมันอยู่ในตัวคุณอยู่แล้วครับ  ลองอยู่นิ่งๆ  ใช้ชีวิตให้ช้าลง  แล้ว.......ตัวตนของคุณจะปรากฎให้เห็นเองครับ  

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

YOU HAVE A SPECIAL


You have a special you can help a people.

คุ้นๆกับประโยคนี้ไหมครับ  ส่วนตัวผมเชื่อนะครับ พื้นฐานของคนเอเชียคือความเป็นเครือญาติ  ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ถูกปลูกฝังให้รักและสามัคคีต่อเพื่อนฝูง ครอบครับ และสังคมคนรอบข้าง  คุณไม่ต้องสงสัยในตัวเองหรอกครับ ตัวเรามีความพิเศษอยู่ในตัวเองอยู่  คุณและผมคือคนพิเศษ  เราสามารถเปลี่ยนเเปลงโลกใบนี้ได้  ด้วยการเริ่มทำในสิ่งที่รักและสร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมา

ทุกครั้งที่ผมท้อ  ผมชอบที่จะโทรหาแม่  แม่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้ผม  ไม่ว่าผมจะเจออะไรแม่ก็จะพูดกับผมเสมอว่า  ขอให้ผมโชคดี  และผมก็เชื่ออย่างนั้นจริงๆ มีหลายๆเหตุการณ์เข้ามาในชีวิตผม  และผมก็จะโชคดีตามที่แม่พูดไว้เสมอ  ผมรู้ว่าตัวผมพิเศษพอที่จะตอบแทนให้กับโลกใบนี้  คุณให้เขา  เขาก็ให้คุณ  ธรรมชาติของมนุษย์ต่างตอบแทนซึ่งกันและกันเป็นของธรรมดา

ช่วงเวลาที่ผมลำบาก  ถึงขึดต่ำสุดในชีวิตแต่ผมกับผมว่ายังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่เสมอเราไม่ได้แย่แค่ชีวิตกำลังให้บทเรียนที่ดีที่สุดกับเราต่างหาก  คนเราเวลาเดินไปต่อข้างหน้าไม่ได้  เราก็แค่อยู่เฉยๆก่อนไม่ต้องรีบ  เดินช้าดีกว่าเราเดินถอยหลัง  เขาเรียกว่าถอยเพื่อมาตั้งหลัก ไม่ใช่ถอยหลังลงคลองนะครับ  เมื่อชีวิตผ่านจุดนี้ไปได้  ก็จะมีกลไกบางอย่างที่เขาเรียกว่าตัวผลัก  เพื่อให้เรากระโดดขึ้นไปยังบันไดที่สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง  มันจะใหญ่ขึ้นเรื่องตามความคิด และความสามารถของตัวคุณเอง

บางคนเจอปัญหาแค่นี้กลับจะล้มเลิกไป  อย่าได้คิดเลยนะครับ  อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครสิ่งที่ดีของเขาก็คือตัวเขา  ตัวเราก็คือ สิ่งพิเศษของเรา  ขอให้เชื่อเสมอว่าเราต้องประสบความสำเร็จในวันหนึ่ง  ทำไปเรื่อยๆ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ เราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตของเรา แต่วันนี้ ปัจจุบันนี้เราสร้างมันขึ้นมาได้  ด้วยการทำวันนี้ของเราให้มันเยี่ยมที่สุดไปเลย

เลือก โฟกัส กับเรื่องที่สำคัญ แล้วชีวิตของคุณจะง่ายไปหมด เพราะชีวิตคุณเลือกได้อยู่แล้วว่าจะให้มัน  ง่าย  หรือ ยุ่งยาก  จงเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมทั้งทรัพย์ภายใน และภายนอก  เป็นที่รักของเพื่อนมนุษย์ ทำประโยชน์ให้กับโลกใบนี้ ให้สมกับคำว่า มนุษย์ผู้ประเสริฐกว่าสัตว์  ลุย............

แค่อยากพัก


เคยมีไหมครับ บางทีคนเราก็อยากจะออกจากพื้นที่เดิมๆ ไปพบเจอโลกกว้าง ในที่ๆไม่มีใครเคยเห็น หรือรู้จักครับ  ลองไปใช้ชีวิตในต่างแดน เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางด้านความคิด ทัศนคติ สภาพแวดล้อม และศาสนา

แค่หลับตานึกก็สนุกแล้วครับ  ผมว่าหลายคนถอดใจว่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก  ตื่นๆๆ จากความเป็นจริงได้แล้ว  ทุกอย่างทำเป็นจริงได้ครับ  แค่เตรียมความพร้อมก่อนเท่านั้นเอง  ทุกอย่างเป็นไปได้อย่าเอาแค่นั่งคิด  ต้องหาวิธีครับ  อย่างที่ผมเคยพูดไปในครั้งก่อนเรื่องพลังจิตนั่นแหละครับ  พลังจิตสร้างได้จริงๆ  แค่คุณต้องรู้จักเอามาใช้ และควบคุมมันให้ได้  อย่าเอาแต่นึกเอง เออเอง  ความสำเร็จคือสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาเองได้  ไม่ต้องรอโชคหรือวาสนาหรอก

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณนั่นแหละครับ  คุณจะไปได้ไกลหรือไม่ นั่นก็อยู่ที่คุณได้สร้างข้อจำกัดให้กับตัวคุณเองมากน้อยแค่ไหน  ลองนึกถึงตอนคุณเป็นเด็กซิครับ  คุณไม่เคยกังวลอะไรเลยคุณทำมันไปตามสัญชาตญาน  และสิ่งที่คุณได้ก็คือ ความสุขและความสำเร็จกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ  ลองใช้ชีวิตแบบเด็กดูครับ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มาก  แต่ต้องทำแบบผู้ใหญ่เท่านั้นเอง  วางแผนสักนิดเพื่อชีวิตที่ดีกว่า  มองชีวิตให้เหมือนน้ำ ที่มันจะไหลไปเรื่อยๆ  ชีวิตเราก็เช่นกันต่างต้องผ่านเรื่องดีบ้าง ร้ายบ้าง นั่นแหละมันคือชีวิต  ลองสนุกกับมันไปก่อนทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาอย่าได้เอาความเศร้ามาเลย

ความสำเร็จก็เริ่มจากความสุขนั่นแหละครับ  เมื่อใจสุขความสำเร็จก็ตามมาเพราะธรรมชาติจะนำสิ่งที่ยิ่งใหญ่สู่คนที่เข้าใจมันแล้วเท่านั้น  ลองหาอะไรใหม่ๆทำเช่น เพื่อนใหม่ จากต่างแดนลองพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติดู อาจทำให้คุณได้แนวคิดดีๆ ในการใช้ชีวิตและอาจเจอหนทางใหม่ๆให้กับชีวิตคุณ  วันนี้วันหยุดยังไงก็เต็มที่กับชีวิตนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดี


วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พลังอำนาจของจิต


คุณเคยเเปลกใจไหมครับว่าเรื่องราวหรือเหตุการณ์บางอย่าง  ที่เกิดขึ้นกับเรามันคุ้นๆ จังเหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน  พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก  เอาเป็นไม่ต้องไปแปลกใจหรอกครับ  มันเคยเกิดขึ้นจริงเเหระ  เพียงแต่มันอาจมาในรูปแบบที่ใกล้เคียงและแตกต่างกันออกไปเท่านั้นเอง  ตามสถานการณ์

ถ้าว่ากันในแบบชาวพุทธ มนุษย์เกิดตายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ  ไม่แปลกหรอกที่บางครั้ง บางคน บางเหตุการณ์เราเลยคุ้นเคยกับมัน  ธรรมชาติของจิตมันฝังแน่นอยู่แล้ว  ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากครับ การที่เรานึกไม่ออกก็เพราะเรายังไม่ได้ฝึกจิตต่างหาก   ถ้ามนุษย์เราฝึกจิตอย่างดีแล้ว  เชื่อไหมละครับว่า  ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ภพชาติ  คุณก็จะนึกถึงมันได้เองโดยไม่ต้องสงสัย

การที่เราผูกพันกับบางเหตุการณ์ก็เพราะธรรมชาติของจิตมันคุ้นเคย  เห็นไหมครับว่าบางคนต่อให้เจอปัญหาหรืออุปสรรค์อะไรก็ตามแต่  เขาก็ยังเชื่อเสมอว่าเขาจะประสบความสำเร็จในชีวิต  และจะมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเขา  และแน่วแน่ในปณิธานนั้นอย่างมั่นคง  ผลลัพธ์มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ  เรื่องธรรมชาติของจิตมันคุ้นเคยแบบนั้น   เรื่องจิตเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เข้าใจแต่สำหรับนักปฎิบัติธรรมล้วนเข้าใจมันดี  สาเหตุที่ต้องฝึกจิตก็เพราะจิตมันพาให้คุณทำอะไรก็ได้  ให้คุณร่ำรวยประสบความสำเร็จก็ได้  ล้มเหลวผิดพลาดก็ได้  เราเลยต้องฝึกฝนมันอยู่เสมอไงละครับ

บางคนบอกไม่เห็นสำคัญตรงไหนเลย  สำคัญมากที่สุดเลย  อาจมากกว่าการหาเงินด้วยซ้ำ  จิตมันผูกพันไปถึงชาติต่อๆไปของเราด้วย

จิตดี  ก็พาเราไปสู่ภพภูมิที่ดี  ร่ำรวย ประสบความสำเร็จ
จิตไม่ดี  ก็พาเราไปในทางเสื่อม เป็นทุกข์  และล้มเหลวได้

ชีวิตเราเลือกได้ครับ  อย่าพูดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  ทุกการใช้ชีวิตของคุณแท้จริงคุณเป็นคนเลือกมันแล้ว  อย่าบอกนะครับว่า ฉันไม่มีทางเลือก  คุณมีทางเลือกอย่างน้อยก็ 1 ทางที่คุณเลือกนี่แหละครับ  ถ้าไม่มีทางเลือกจริง  ตัวคุณคงไม่มาถึงจุดที่คุณยืนได้หรอก  ปล่อยจิตให้ว่างอย่าไปกังวลกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป  ปล่อยได้เป็นปล่อย  ธรรมชาติของจิตที่มันว่าง จะทำให้สมองเราปลอดโปร่ง ไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไร มันก็ถูกไปหมด  เพราะจิตว่าง

ใช้เวลาก่อนนอนสักครึ่งชั่วโมงฝึกจิตของคุณนะครับ และก็ตื่นตอนเช้าสัก 10 นาทีก็ได้ครับ  แล้วจะรู้ว่าพลังจิต มีพลังอำนาจเหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง  มันสามารถเคลื่อนภูเขาทั้งลูกยังได้เลยครับ อย่ากังวลกับเรื่องเล็กน้อย  ฝึกจิตให้เข้มแข็งเข้าไว้แล้วมาคุยกันครับว่าผลลัพธ์เป็นยังไง

ผ่านไปด้วยดี



บางทีก็รู้สึกว่าเหนื่อยกับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก  แต่คุณรู้ไหมครับบางทีกำลังใจก็เป็นเรื่องที่เราขาดไม่ได้เลย  การสร้างแรงบันดาลใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง  ชีวิตบางทีก็อยู่ได้ด้วยการให้กำลังใจกับใครบางคน  ชีวิตเราไม่ได้เดินเป็นเส้นตรงตลอด  บางทีอาจมีคดเคี้ยวไปบ้างไม่มีอะไรจะโรยไปด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะครับ   บางทีนะอาจเป็นโชคชะตาก็ได้นะครับที่ทำให้บางคนมาเจอกัน  แล้วก็ต้องพรากจากกัน  ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของมันอยู่แล้ว  เราต้องฉลาดคิด ฉลาดพูด และฉลาดทำ  ไม่มีอะไรจะสมหวังแต่ไม่ได้ความว่าชีวิตเราจะผิดหวัง หรือเดินไปต่อไม่ได้นะครับ

เวลาที่คุณเศร้าใจคุณลองหันไปมองคนที่เขากำลังทุกข์กว่าแล้วจะรู้เลยว่าชีวิตจริง ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าซะอีกครับ  เวลาที่กำลังหาทางออกอะไรไม่ผมแนะนำคุณนะว่าให้ลองหยุดทบทวนตัวเองให้ดีเสียก่อนว่าสิ่งที่เราทำเราได้ตัดสินใจมันถูกหรือยัง  ถ้ามั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องไปกังวลหรอกนะครับ  ให้เดินหน้าต่อไปยังไงซะถ้าเราเดินไปข้างหน้า  ชีวิตของเราอย่างน้อยมันก็ไม่ได้นิ่งอยู่กลับที่แล้วละครับ   อาจมีบ้างแหระที่ชีวิตถึงจุดหักเห  หรือหักมุมที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาลเลยก็ได้  ยากไหมไม่ยากแต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางสิ่งบางอย่าง  แรกๆอาจดูฝืนแต่พอเมื่อทุกอย่างมันโอเครมันก็จะง่ายไปหมด

เคยไหมเวลาคุณทำอะไรในช่วงแรกๆ คุณรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างยากเย็นเหลือเกิน  แต่พอคุณผ่านตรงนั้นมาได้  คุณจะเห็นว่าทุกอย่างมันดูง่ายไปหมดเลย  นั่นเพราะคุณเคยผ่านจุดที่มันยากที่สุดมาแล้วไงละครับ  อาจมีนะบางทีแทบอยากจะร้องไห้อตนที่เรายังอยู่ในสถานการณ์นั้นอยู่  แต่พอเวลาผ่านไป เห่ยนี่มันเรื่องตลกไร้สาระสิ้นดีเลย  ทำไมเราเอาเวลามาคิดเรื่องไร้สาระพวกนี้วะ

แนะนำนะครับเวลาติดปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามแต่ 
1.ให้ถามตัวเองว่า  ถ้าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้วจะมีผลต่ออนาคตเราหรือไม่อย่างไร
2.มันคุ้มค่ากับการเสี่ยงหรือไม่  ถ้าไม่ก็อย่าเสี่ยงดีกว่า
3.ถ้าหากมีทางเลือกอื่น ควรหาทางเลือกไว้หลายๆทาง

อาจมีหลายข้อแนะนำแต่นี่เป็นเบื้องต้นนะครับ  ลองเอาไปใช้ดู  คนบางคนแค่กลัวที่จะเริ่มต้น  ไม่กล้าคิดสิ่งใหม่  กลัวความผิดพลาด ผิดหวัง  กลัวการล้มเหลวหรือเริ่มต้นอะไรใหม่  ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้เสมอครับ  อย่าไปคิดอะไรให้มาก  ถ้ามีพรุ่งแสดงว่าคุณยังไปต่อได้  เข้มแข็งเข้าไว้  ล้มแล้วต้องรีบลุก  ห้ามล้มเลิกความตั้งใจเป็นอันขาด

ผู้คนไม่ได้ตัดสินว่าคุณเก่งอะไร  เขามองว่าคุณทำอะไรต่างหาก  อย่าเอาแต่พูดแต่ให้ลงมือทำมัน  ความสำเร็จจะเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญ  มันเทห์กว่ามากที่ทำอะไรสำเร็จแล้วมีผลงาน  มากกว่าไปพูดคุยโว้ ให้ผู้อื่นฟัง  ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาดคิด  แต่น้อยคนนักที่จะเป็นคนฉลาดทำ  อยากประสบความสำเร็จจงเป็นคนที่ฉลาดทำครับ  ผมขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่สู้ชีวิต  ไม่เคยท้อแท้  เพราะวิญญานของนักสู้จะทำให้คุณพบแสงสว่างในเร็ววัน

วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอมรับกับสิ่งใหม่ๆ



บางทีเราก็ไม่มีทางรูู้หรอกครับว่าชีวิตมันจะพาเราไปยังจุดไหน  สิ่งที่เราหวังไว้ อาจเป็นไปอย่างที่เราคิดหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ได้

นวัฒกรรมและเทคโนโลยีีเปลี่ยนเเปลงโลก และวิถึชีวิตของมนุษย์ไปอย่างมาก  ถ้าย้อนไปจากอดีตมนุษย์ในยุคหิน ยุคดึกดำบรรถ์สามารถย้อนเวลามาปัจจุบันของเราได้  ทุกคนคงตื่นเต้นและเเปลกใจก้บสิ่งที่เกิดขึ้นได้  จินตนาการสร้างความสำเร็จและความแปลกใหม่ให้กับมนุษย์โลก  เราสามารถเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว  โดยที่เราไม่ต้องเดินทางไปสถานที่จริงด้วยซ้ำ

Data information  จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น  เราตอบโต้กันทางโลกออนไลน์ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทางอินเตอร์สามารถเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าหากันได้  ในอนาคตคนที่มีข้อมูลเยอะก็คือคนที่ได้เปรียบ  เพราะมนุษย์จะมีความกระหายในข้อมูลข่าวสารมากขึ้น  เพราะทุกอย่างตอนนี้มันง่ายไปหมด แต่ปัญหาก็คือ  ไม่รู้ว่าข้อมูลที่ได้รับสิ่งไหนน่าเชื่อถือได้  สิ่งไหนแค่หลอกลวง  ระบบตรวจจับจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นมาในอนาคต  ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบต่างๆ

การดำเนินชีวิต หรือแม้กระทั่งเรื่องเกี่ยวอาชีพจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก  ผมมีความเชื่ออย่างหนึ่งนะครับว่า  มนุษย์จะมีความสนใจที่แตกต่างกันออกไป  สิ่งที่สื่ออินเตอร์จะนำเสนอก็จะมีคนที่สนใจในรูปแบบที่เฉพาะกลุ่มขึ้น  ผู้บริโภคจะมีการเลือกบริโภคในสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจและมีความต้องการในเรื่องนั้นๆ  อาจไม่แปลกอะไรนะครับจริงๆสายอาชีพในปัจจุบันก็แบ่งแยกผู้คนตามความสนใจอยู่แล้ว  เพียงแต่มันอาจยังไม่ชัดเจนเท่านั้นเอง  เมื่ออินเตอร์เข้ามามีบทบาทหน้าที่อย่างเต็มตัวมากขึ้นในอนาคต ทุกอย่างจะชัดเจนเพราะทุกคนมีโอกาสเท่ากัน และมีสิทธิืเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ได้เท่ากัน

การจัดแบ่งประเภทตามความเหมาะสม  จึงถูกกำหนดบทบาทพื้นที่วงการใหม่ๆสำหรับโลกออนไลน์มากย่ิงขึ้น  คำถามคือ แล้วใครจะเป็นคนที่มีบทบาทมากที่สุด   บทบาทในการกำหนดเหล่านี้ก็คือ ผู้นำ  ผู้นำไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนโลกก็ยังต้องมีผู้นำอยู่ดี  แต่บทบาทอาจเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทและยุคสมัยของสังคมเท่านั้นเองครับ  เด็กยุคใหม่จะรุ้ทันข้อมูลข่าวสารทุกอย่าง  และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น  การสร้างเงินมหาศาลจะเกิดขึ้นในรุปแบบบริษัทออนไลน์และมีแรงผลักดันกันมากขึ้น  แต่นั้นอาจต้องมีการกำหนดกฎกติกาต่างๆ เมื่อถึงเวลานั้นทุกคนจะเข้าใจเองครับ

ผมว่ามันดีมากนะครับ  มันทำให้เด็กยุคใหม่เข้าใจและชัดเจนในตัวเองมากขี้น  โดยเฉพาะปัญหาของเด็กไทยในปัจจุบันที่ไม่รู้จักตัวเอง  เพียงแต่ทำตามความฝันของคนส่วนใหญ่ ของพ่อแม่ และในท้ายที่สุดก็ไม่เจอตัวเอง  เป็นอะไรที่น่าเศร้ามากครับ  แต่โลกเปิดกว้างเด็กก็กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น  กล้าที่จะทำและเป็นในสิ่งที่ตัวเองต้องการ  ทำให้เด็กในอนาคตชัดเจนกับตัวเองมากยิ่งขึ้น

เอาเถอะครับไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน  สุดท้ายมนุษย์ก็ยังคงต้องอาศัยปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตอยู่นะครับ  มนุษย์ในอนาคตจะเป็นโลกซึมเศร้ากันมาก  ความทุกข์ความเครียดก็มากขึ้น  ธรรมมะจึงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดี  เป็นที่พึ่งทางใจได้เป็นอย่างดี  จะมีผู้ตั้งสำนักต่างๆมากขึ้น แต่ยังอย่างเพิ่งไปหลงเชื่อให้มากนะครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่ดี  ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือ ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุดครับ

วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ควรเชื่อใครดี


เดี๋ยวนี้ผมเห็นมีสถาบัน ผู้รู้ต่างๆ ในประเทศไทยเรามากมาย ที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น

เช่น  เชี่ยวชาญในเรื่องการวางแผนการเงิน  เชี่ยวชาญในเรื่องการวางแผนภาษี  เชี่ยวชาญเรื่องหุ้น  และอีกหลายๆเรื่อง จนไม่รู้ว่า อันไหนจริง อันไหนรู้ไม่จริง  ที่ผมเขียนขึ้นมานี้ไม่ได้ต้องการจะพาดพิงถึงใครนะครับ  แค่อยากจะเตือนสติ พวกเราคนไทยยุคใหม่  ควรจะคิดพิจารณาให้ดี และถี่ถ้วนก่อนว่า มันคุ้มไหมกับสิ่งที่เราต้องจ่ายไป  บางทีอาจได้ในสิ่งที่เป็นของไม่จริงกลับมาหรือที่เสียเงินไปเปล่าๆ มีแต่น้ำๆ เนื้อหาแทบไม่มี

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ  ไม่มีใครจะเป็นที่พึ่งให้เราได้ทุกอย่าง  ผมว่าถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร ให้เริ่มจากศึกษาด้วยตัวเองก่อน  หาหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราต้องการจะรู้มาอ่านทำความเข้าใจเอง  หาแนวข้อสอบในเรื่องที่จะไปสอบพร้อมเฉลย  เมื่อถึงจุดหนึ่งค่อยไปหาผู้รู้ขอคำปรึกษาดีกว่า  ผมเชื่อว่าผู้รู้เหล่านั้นเขาพร้อมจะให้คำปรึกษาคุณอยุ่แล้ว  ไม่แน่อาจไม่ต้องมานั่งเสียตังสักบาทก็ได้

เราเอาแต่วิ่งตามกระเเสค่านิยมต่างๆ  หากว่าได้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น  เราจะประสบความสำเร็จ  แท้จริง อาจไม่ได้เป็นไปในแบบที่เรากำลังคิดก็ได้  อยากให้คุณได้ลองทบทวนตัวเองดีๆ ก่อนนะครับ  อย่าไปหลงเชื่อตามคนนั่น คนโน้น ถ้าดีจริงเขาคงไม่มาบอกเราหรอกครับ  คำว่าผู้ให้จริงๆ เขาแทบไม่หวังผลตอบแทน อะไรที่มาในรูปของผลตอบเเทนย่อมไม่เรียกว่าการให้  ถ้าให้ดีต้องเรียกว่า การซื้อขาย แลกเปลี่ยนจะถูกกว่า

บางคนบอกว่าตัวเองเป็นผู้ให้  เอาเข้าจริงคุณก็คือ นักขายดีๆนั่นแหละครับ  ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เห็นว่าใครจะเป็นสุดยอดได้ทุกอย่างหรอกครับ  ทุกคนล้วนต้องเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ  เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า  ไม่มีใครจะอยู่เหนือไปทุกอย่างได้  ทุกอย่างมีเกิดดับ ตามสัจจธรรมของมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก  สิ่งที่เขาบอกว่าดีอย่างนั้น อย่างนี้อาจดีครับสำหรับเขา แต่อาจไม่ใช่สำหรับเรา ลองไปคิดทบทวนดีๆนะครับ  ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป ชีวิตเรา เรากำหนดเองดีกว่าไม่ต้องให้ใครมานั่งบงการเราหรอกว่าจะต้องทำอะไร  เราเลือกได้ด้วยตัวเอง  มนุษย์ที่หวังดีกับเรามากที่สุดก็คือ ตัวเอง จำไว้นะครับ  

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เพราะได้เลือกไว้แล้ว


ผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดีนะครับ แต่สิ่งที่ผมรู้ก็คือ บางทีสิ่งที่เราคิดไว้อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิด
เช่น

ผมอยากเดินทางไปในสถานที่แห่งหนึ่งพอไปถึงกลับพบว่ามันไม่ได้มีอะไรอย่างที่ผมคิดไว้
ผมคิดว่าการเดินทางคือ การพักผ่อนแต่ที่ไหนบางทีมันก็เหนื่อยไม่น้อยเลย
บางที่เราออกตามหาบางสิ่งบางอย่าง แต่เรากลับเจอมันเมื่อเราหยุดตามนะ

โลกนี้มีอะไรแปลกๆที่เรายังไม่รู้อีกเยอะ. เราคาดหวังในสิ่งที่เรามองไม่เห็นมัน สิ่งที่ได้กลับไม่ได้ แต่กลับได้สิ่งอื่นทดแทน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่นะครับ ชีวิตคือ การเติบโตและก้าวไปข้างหน้า. บางทีการที่ชีวิตเรายังย่ำอยู่กับที่ให้ลองถามตัวเองดีๆสิครับว่า

ทำไมคุณยังย่ำอยู่กับที่ ความกังวล ความกลัว หรืออะไรที่บงการตัวคุณอยู่และไม่ยอมออกมาทำอะไรสักที เอาแต่นั่งรอโอกาสแทนที่จะสร้างโอกาส. มีทางเลือกให้กับชีวิตเรามากมายอยู่ที่เราจะเลือกไปทางไหน ไม่มีผิด ถูก เพราะถ้าคุณเลือกมันไปแล้วและทำมันให้เต็มที่ เขาทำได้เราก็ต้องทำได้

สายน้ำ กาลเวลา ไม่เคยหวยกลับ เช่นเดียวกับชีวิตของเรา เอาจริงๆนะมันสั้นมาก อีกไม่ช้าก็เร็วเราต้องจากโลกนี้ไปอยู่ดี ที่ผมพูดนี้ต้องการจะสื่อให้คนเราได้รู้ว่าอย่าได้เอาความคิดคนอื่นมาเป็นความคิดเลย อย่าไปคิดแทนเขา ชีวิตเขามันก็เป็นเรื่องของเขา ฝึกดูตัวเราเองดีกว่า อะไรถอยได้เป็นถอย อะไรคือ โอกาสจงรีบคว้า

ฟังเสียงหัวใจของคุณ ฟังคำเรียกร้องของมัน แล้วลงมือทำตามคำเรียกร้องนั้นซะ อย่าให้มันมาดับฝันคุณได้ ความสุขใจอยู่ที่คุณแล้ว เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

วันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เพราะชีวิต คือ การเรียนรู้


ชีวิตเราจะสมบูรณ์แบบหรือไม่  ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนกำหนด ตัวเราคือ สิ่งที่ทราบกันดีที่สุด
ทำไมมนุษย์จึงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน  คำถามนี้หลายปีก่อนเคยอยู่ในความสงสัยของผมมาตลอด จนมาถึงวันนี้ผมพบกับคำตอบในชีวิตแล้วว่า

สิ่งที่ทำให้คนเราแตกต่างกันนั่นคือ  พื้นฐานทางการศึกษา วัฒนธรรม ความคิด และทัศนคติ
คนที่ไม่เคยทำอะไรนอกจะสิ่งที่เป็นอยู่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาผิด  แต่เขาอาจไม่มีโอกาสก็ได้
คนบางคนพยายามดิ้นรนตัวเองไปจนสุดชีิวิต คนบางคนพัฒนาตัวเองไปไกลจากจุดเริ่มต้นเรื่อยๆ
เมื่อมองกลับมาข้างหลัง  หลายคนเลยมองว่าเขาเก่ง วิเศษบางละ  แท้จริงเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง  ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่ลดละความพยายาม

ประสบการณ์จึงสอนให้คนแตกต่างกัน  ตัวผมผมโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเดินทางบ่อย  ได้พบเจออะไรเต่างๆมากมาย  ได้ทำในสิ่งที่คนอื่นหลายคนไม่มีโอกาสได้ทำ  ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ บางครั้งมีเหนื่อยแต่ท้อไหม  ไม่มีคำว่าท้อเลยครับ เพราะชีวิตคือการต่อสู้  เราอาจไม่ได้ในทุกสิ่งที่เราต้องการ แต่เราก็สามารถเลือกทางเดินชีวิตให้กับตัวเราเองได้  ถูกผิดใครกำหนดตัวเราย่อมทราบดีแก่ใจ

เมื่อก่อนตัวผมเคยทุกข์ใจกับปัญหาต่างๆ มากมาย นั่นเพราะเรากังวลกับอนาคต กับสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง  เราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนนั้น คนโน้น ทั้งที่เราเห็นเขาแค่บางมุมเท่านั้น  ยังมีอีกหลายๆมุม ที่เป็นมุมมืดที่เรามองไม่เห็น  ตัวเราก็เอาแต่เเอบอิจฉาเขาไปวันๆ  แท้จริงไม่ได้เป็นแบบที่เราเห็นเลย  พอเริ่มหยุด  เราก็หันเข้ามาหาตัวเราเอง  ทำให้เราได้รู้ว่าที่แท้จริงตัวเราต้องการอะไรกันแน่  ความคาดหวังของเราอาจไม่เป็นไปอย่างที่ใครหลายคนคิด  แต่เราก็ไปในจุดที่ดีที่สุดตามที่เราต้องการให้เป็นได้

จงหลีกหนีจากคนที่ทำให้ชีวิตคุณไม่ได้ดีขึ้น  หรือทำให้คุณเครียดเพราะมันเสียเวลาเปล่าๆ เลือกเดินตามทางที่เราต้องการ  เลือกสิ่งที่เราอยากจะทำและเป็นมันจริงๆ  มีความสุขกับสิ่งที่ทำ  และทำตรงหน้าให้มันดีที่สุด ภายใต้สังคมที่หลายคนอาจมองว่าช่างเลวร้าย วุ่นวาย  ขาดโอกาส จริงๆมันแค่ความคิดบกพร่องที่คุณสร้างให้ตัวคุณเองเท่านั้น  ในทุกๆที่มันมีโอกาสซ่อนอยุ่แล้วครับ  ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองเห็นมันหรือเปล่า    อย่าตัดสินอะไรจากสิ่งที่คุณเห็นแค่ภายนอก มองให้ทะลุแล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้น  บอกตัวเองทุกวันว่าคุณจะโชคดี  และคุณก็ต้องโชคดีตามที่คุณต้องการให้มันเป็นไป

ผิดบ้าง เป็นบ้างครั้ง ไม่มีใครเก่งไปหมดทุกเรื่อง โง่ต้องมาก่อนฉลาดอยู่แล้วครับ  ยอมโง่แล้วฉลาดทีหลังดีกว่า  เอาให้สุดกับชีวิตครับ เพราะชีวิตมันเป็นของคุณ

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คนดีสร้างชาติ


การสร้างชาติบ้านเมือง หรือการทำนุบำรุงรักษาไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องร่วมกัน  ในช่วงที่ประเทศอยู่ในช่วงคับขันหรืออยู่ในภาวะวิกฤต  คนในชาติควรร่วมมือร่วมใจกัน  อยากให้สังคมเป็นสังคมแห่งการแบ่งปัน  มนุษย์เราเมื่อมีมากขึ้นคุณก็ควรแบ่งปันให้ผู้อื่นมากขึ้น  

ในเรื่องบริบท ทางสังคมถ้าทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี  ความวุ่นวาย ปัญหาต่างๆจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน  บางทีนิสัยคนไทยเราเอาแต่เป็นกระต่ายตื่นตูมไปก่อนไม่พินิจพิจารณาให้ดีว่าสิ่งนั้นจริงหรือไม่  ความน่าเชื่อถือมีมากน้อยแค่ไหน

แต่ละุคนต่างล้ำเส้นกันและกัน  อยากจะเป็นใหญ่เป็นโต  ไม่ได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีไม่พอยังไปก้าวก่ายหน้าที่ของคนอื่นด้วย  มองว่านั่นไม่ดี  โน้นไม่ดี  ให้กลับมาถามตัวเองก่อนนะครับว่าที่ไม่ดีนะเขาหรือเรากันแน่  ทุกอย่างมีกฎกติกาของมันอยู่แล้วครับ  ไม่ต้องไปวุ่นวายมันให้มาก  บางทีการปล่อยให้เขาได้ตัดสินใจกันเองอาจดีกว่าก็ได้

มนุษย์เรามีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน  เอาง่ายแค่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรายังคิดไม่เหมือนเราเลย  เพราะอะไรเหรอครับ  ทัศนคติ  สภาพแวดล้อมและสังคมเป็นตัวกำหนดให้คนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป  เชื่อไหมครับคุณไปคุยกับคนที่ใช้ชีวิตแบบไม่เคยไปไหน กับพวกนักพจนภัยขอบอกเลยว่าความคิดเห็นช่างต่างกันลิบลับ

ส่วนตัวผมชอบพบปะผู้คน  ชอบเรียนรู้ความคิด มุมมอง ทัศนคติของผู้คน  การเป็นผู้ฟังมากๆ  ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นให้มากทำให้เราได้ทราบความเป็นไปของชีวิตของคนในแต่ละคน คนไหนจะประสบความสำเร็จมันเห็นแววตั้งแต่ความคิดเขาแล้วครับ  ฉะนั้นอย่าได้ไปอ้างว่าไม่มีโชคบ้างละ  ไม่มีโอกาสบ้างละ  โชค โอกาสเป็นสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาเองได้  ไม่ต้องไปหวังพึ่งพาคนอื่น  ศาสนาพุทธได้สอนเรื่องนี้เป็นอย่างดี  ไม่ให้พึ่งพาคนอื่น แต่ให้เรารู้จักพึ่งพาตัวเอง  หลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงก็ไม่เลวครับ  หากทำได้มันมีประโยชน์จริงๆ

ปูรากฐานตัวเราเองตั้งแต่ยังเริ่มต้น  เพราะในวันที่โอกาสวิ่งเข้ามาหาคุณ คนที่พร้อมเท่านั้นคือคนที่ได้รับโอกาสไม่ใช่เพราะโชคช่วยแต่เพราะตัวเขารู้ตัวเองดีว่า  เขากำลังทำอะไรอยู่ต่างหาก  วันนี้เราอาจไม่ใช่คนเก่งที่สุด  แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเก่งที่สุดคือ คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดนะครับ  มันเป็นคนละเรื่องกัน  คนที่ไม่เคยท้อถอยและทำไม่หยุด ฝึกฝนพัฒนา ต่อยอดตัวเองไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็จะกลายเป็นคนเก่งเอง  อยากจะไว้เป็นข้อคิดเตือนใจให้คนไทยนะครับ  อย่าหลงไปตามกระแสวัฒนธรรมให้มาก  ให้กลับเข้ามาอยู่กับตัวเอง กับรากเหง้าของเราจริงๆ เพราะในท้ายที่สุดมนุษย์ก็ต้องกลับคืนสู่สามัญเป็นธรรมดาของโลกครับ  


วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เพราะการเดินทางมันบอกอะไรหลายอย่างกับคุณ


คุณเชื่อไหมครับบางคนยังไม่เคยเดินทางออกจากบ้านไปอยู่ไกลๆเลยครับ

อย่างมากก็แค่ไปทำงานไกลบ้านแต่ก็ไม่ได้เที่ยวไหน  หลายคนที่ผมรู้จักมักจะให้เหตุผลการ
สิ้นเปลื้องเงินทองทำไม  เงินทองควรใช้จ่ายในยามที่จำเป็น

นั่นมันก็ไม่ผิดนะครับสำหรับความคิดคุณ  แต่การเดินทางสำหรับชีวิตผม  ผมคิดว่ามันเยี่ยมที่สุดไปเลยครับ  การเดินทางบอกอะไรหลายๆอย่างกับเรามาก  ไม่ต้องพูดถึงต่างประเทศหรอกครับ  เอาแค่ในประเทศไทยของเราก็พอ

แต่ละที่ที่เราไป เราได้สัมผัสถึงความแตกต่างในหลายๆด้าน เช่น ทัศนคติ  ความเชื่อ ความเป็นอยู่ในชุมชน  ศาสนา และวัฒนธรรม รวมไปถึงอาหารการกินของท้องถิ่น  สิ่งเหล่านี้แท้จริงน่าอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานมากๆ  อย่าได้ไปหลงกับค่านิยมของต่างชาติให้มากเลยครับ ของเราดีอยู่แล้ว

การได้เข้าไปสัมผัส พูดคุย เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆกับผู้คน  ทำให้เราได้ทราบถึงความแตกต่างในหลายๆด้าน  รวมถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมด้วย  เชื่อไหมครับว่าอีกไม่นานคนไทยจะหันมาสนใจกับวัฒนธรรมท้องถิ่นกันมากขึ้น  แต่ตอนนี้ยังมองไม่ออกกันเพราะทุกคนสนใจเรื่องปากท้อง และการสังสมความมั่งคั่ง ร่ำรวยเพื่ออวยกัน  ซึ่งในท้ายที่สุดมนุษย์ก็เอาอะไรไปไม่ได้อยู่ดี

เงินสร้างอำนาจให้กับผู้คนมากมาย  เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย  มนุษย์บางคนยอมแลกศักดิ์ศรีของตัวเอง เพื่อเศษเงิน  ในโลกทุนนิยมใครที่มีเงินคือผู้ครองโลก  สามารถเนรมิตอะไรก็ได้ตามใจอยาก  ไม่ผิดนะครับ ถ้าคุณลองมองเข้าไปที่ความต้องการที่แท้จริงในรากเหง้าของจิตวิญญานอันบริสุทธิ์ของคุณก่อนว่า  สิ่งที่คุณต้องการมันคืออะไร

นั่นแหละครับ ก่อนที่คุณจะร่ำรวย ผมถึงอยากให้คุณได้เดินทาง  ไปลองใช้ชีวิตในหลายๆรูปแบบในแบบที่คุณต้องการ  หรือแบบที่คุณกำลังค้นหามันอยู่  เพราะการมุ่งตรงไปที่ความร่ำรวยท้ายที่สุด คุณอาจไม่ได้มีความสุขกับเงินทองที่คุณหามาได้  เป็นแค่ความสุขจอมปลอมจากภายนอก ที่ผู้คนให้การยกย่องนับถือในตัวคุณจากเงินของคุณ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณเลย  มนุษย์ผู้บูชาเงินต่างวิ่งเข้าหาคุณไม่หยุดในช่วงที่คุณกำลังรุ่งโรจน์  โดยหวังผลประโยชน์จากคุณนั่นเอง

นั่นแหละครับ เมื่อคุณมีมันมากขึ้นคุณจะยิ่งหาตัวเองไม่เจอ  ผมจึงให้คุณเจอมันตั้งแต่ที่่กำลังวิ่งตามหามันนี่แหละครับ  เมื่อถึงจุดนั้น  เมื่อคุณประสบความสำเร็จ รุ่งโรจน์  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณ คุณก็จะไม่ทุกข์ และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในทุกๆวัน  เงินทองอาจแยกคนจริงใจได้ยาก  แต่คุณจะแยกมันได้เมื่อคุณผ่านบททดสอบเหล่านี้ไปแล้ว  หาตัวตนของคุณให้เจอ แล้วสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แตกต่างให้กับโลกใบนี้  แล้วคุณจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในใจคนครับ

เลือกทางที่ดีที่สุด


บางทีสถานการณ์ก็พิสูจน์อะไรบางอย่างกับเรานะครับ

ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ เพื่อน คนรัก หรืออะไรก็ตามแต่นะครับ ในสถานการณ์ที่คับขัน
บางทีมันพิสูจน์อะไรได้หลายอย่างทีเดียว  ทีนี้ก็ถึงเวลาที่คุณต้องเลือกแล้วละครับว่า

คุณจะเลือก....ไปในทิศทางไหน  หรือคนเเบบไหนที่ควรคบ หรือถอยห่างไปให้ไกล
เสียคนๆเดียวในชีวิตไป เพื่อแลกกับบางอย่างในชีวิตมาก็คงคุ้มไม่น้อย

มันก็ไม่แปลกนะครับที่คนเราต้องต้องเหตุการณ์บางอย่างก่อนถึงจะทำให้มนุษย์เราได้สำนึกและกลับมาทบทวนอะไรบางอย่างกับตัวเอง  บทเรียนในครั้งนี้ก็ได้สอนข้อคิดบางอย่างกับตัวผมนั่นคือ

1.จงอย่านึกถึงแต่ตัวเอง  หันเห็นใจคนรอบข้างบ้าง
2.พูดให้เกียรติรักษาน้ำใจเพื่อน
3.อย่าเป็นฝ่ายให้เขายื่นมือมาขอคุณ แต่จงเป็นฝ่ายให้เขาก่อน
4.จงหัดพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด อย่าหวังพึ่งพาคนอื่น
5.ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรทุกครั้งต้องคิดให้ถี่่ถ้วน
6.อย่าเสียดายเงินเล็กน้อย ถ้าสิ่งนั้นมันซื้อประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิต
7.ฝึกฝนตัวเองอย่างเงิียบๆ
8.นึกถึงเป้าหมายทุกวัน และหาทางลงมือทำมัน
9.ศึกษาในส่ิงที่ตัวเองสนใจและถนัดที่สุด จนคุณกลายเป็นสุดยอด
10.ปล่อยวางกับบางเรื่องที่ไม่สำคัญ  อยู่กับปัจจุบัน และทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ข้อคิดให้กำลังใจตัวเองได้ดีมาก  เพียงแค่เราลดอีโก้ในตัวเราลงบ้าง หัดมองสิ่งรอบตัวมากขึ้น เห็นใจคนอื่นมากขึ้น  เชือเถอะครับว่าคุณต้องได้สิ่งๆเป็นผลตอบแทนอย่างแน่นอน  ไปหวังพึ่งพาคนอื่นตลอดมันไม่ได้อยู่แล้วทีครับ  เอาที่เราสบายใจดีกว่า  มนุษย์เราก็มีศักดิ์ศรีความเป็นคน ฉะนั้น จงภูมิใจในตัวเอง และความสามารถของตัวเอง โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร

บางทีไอ้การที่คุณเหนื่อยกับการใช้ชีวิต นั่นก็เพราะการยึดติดนั่นเอง  ถ้าไม่ยึดก็ไม่ทุกข์  ไม่ว่าชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น จงมีสติตั้งสติทุกครั้ง  ปัญหาทุกอย่างบางทีมันต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา  เราไม่อาจแก้ได้ทันทีในตอนนั้น  อย่าเอาแต่บ่น หรือน้อยใจในโชควาสนาของตัวเอง  เปลี่ยนข้อด้อยของตัวเองให้เป็นโอกาสกับชีวิตดีกว่า แบบนี้ผมว่ามันสนุกสุดๆ ไปเลย  การปิดกั้นตัวเองการมองตัวเองด้อยกว่าคนอื่น  นั่นไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น  ยิ่งเรารู้ว่าตัวเองไม่เก่ง  ไม่ถนัดอะไร นั่นแหละยิ่งได้เปรียบเพราะมันทำให้เรารู้ว่าเราไม่ประมาท  แต่ต้องพยายามให้มากขึ้นๆ ไปอีก

จากวันนี้เป็นต้นไปให้ตั้งใจเอาไว้เลยครับว่า  เราจะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดในชีิวิตให้กับตัวเอง  เหตุการณ์ไม่ดี คนไม่ดี ก็ปล่อยให้มันผ่านไปและให้เขาออกไปจากชีวิตคุณซะ  รับสิ่งใหม่ รับคนใหม่ คนดีๆ เข้ามาในชีวิตของคุณ  แล้วคุณจะรู้ว่าโลกนี้น่าอยู่  และตัวเรามีคุณค่ากับผู้อื่นมากแค่ไหน

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...