วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ใครบ้างครับที่เป็นโรคอยู่กับตัวเองไม่ได้


ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการฉลองปีใหม่  ตัวผมเองปีนี้ก็ไม่ได้ไปที่ไหนเลย  ปีใหม่ปีนี้ช่างเป็นปีที่เงียบเหงาสำหรับผมมาก  ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ผมก็คงจะอกแตกตายเป็นแน่  ครับผมยอมรับครับว่าเมื่อก่อนผมเป็นโรคอยู่คนเดียวไม่ได้  เวลาที่อยู่คนเดียวนาน ๆ มักจะมีอาการเหมือนกับคนเป็นโรคซึมเศร้า  ที่จะรู้เบื่อกับชีวิตไปซะหมดทุกอย่าง

ผมใช้เวลารักษาอากาศนี้อยู่เวลานานพอสมควร  ไม่ว่าจะเป็นการไปเข้าวัดปฎิบัติธรรม  นั่งสมาธิ  ออกไปทำกิจกรรมเพื่อสังคม  รวมทั้งงานศิลปะ  สิ่งเหล่านี้ช่วยได้บ้าง  แต่พอต้องมาอยู่กับตัวเองอีกอาการก็ฟุ้งซ่านเข้ามาอีกเหมือนเดิม  ผมเคยสงสัยว่าผมเป็นโรคอะไรกันแน่  ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับตัวเอง  แท้ที่จริงทุกเหตุการณ์กำลังบอกอะไรบางอย่างกับเรานั่นเอง  บางอย่างที่อาจไม่ใช่สำหรับเรา  แต่เราก็ยังดันทุรังเพื่อจะวิ่งเข้าไปหามันจนได้

ผมได้มีโอกาสไปทำงานอยู่ที่ประเทศลาวอยู่ประมาณปีกว่า ๆ  ชีวิตที่นั้นในช่วงเเรกผมยอมรับว่าลำบากมาก  มันแตกต่างจากที่ๆผมเคยอาศัยอยู่  แต่พอผมเริ่มปรับตัวได้และได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสิ่งรอบตัว รวมถึงผู้คน  มันกลับทำให้ผมสนุกมาก  ผมมีเวลาว่างมากขึ้น  มีเวลาคิดทบทวนตัวเองมากขึ้น  ผมแทบไม่ต้องไปทำกิจกรรมอะไรก่อนหน้าที่ผมเคยทำเลย  ผมแค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มันดีที่สุด  แบบไม่คาดหวัง และไปกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  จนในที่สุดอาการของผมก็ดีขึ้นมา  ทุกวันนี้ผมอยู่กับตัวเองได้แล้ว ผมแทบไม่ต้องกระวนกระวายเลยเวลาที่ผมอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน  ผมมีความสุขด้วยตัวเอง  กับสิ่งเล็กน้อยรอบตัว

สาเหตุที่ผมต้องยกเรื่องนี้มาพูดก็เพราะว่า  ในปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า  โรคย้ำคิด ย้ำทำ และไม่สามารถอยู่กับตัวเองได้พยายามหากิจกรรมทำตลอด  แต่สิ่งที่ได้คือแค่ความว่างเปล่า คลายเหงาไปวัน ๆ ไม่ต่างจากการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  บางทีเราเสียเงินมากมายไปกับการช็อปปิ้ง หรือกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เงินในกระเป๋าเราหมดไปเยอะมาก  สิ่งที่ยากที่สุดในยุดปัจจุบันก็คือ  การที่มนุษย์เราต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้  ด้วยเพราะเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอยางมาก ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนจะเร่งรีบไปหมด  จนเราลืมลำดับความสำคัญในชีวิตไป  ว่าอะไรกันแน่ที่สำคัญที่สุด

ถ้าหากคุณไม่ต้องการให้ชีวิตเป็นเหมือนใคร  ก็จงอย่าทำอะไรตามๆ ที่คนส่วนใหญ่เขาทำ  เลือกทำในสิ่งที่ใจคุณมันบอกว่าใช่นั่นแหละครับดีที่สุด  ที่ผมพูดมานี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องไม่ไปท่องเที่ยวไหน  การเดินทางยังเป็นสิ่งที่จำเป็น  มันเหมือนการเปิดโลก และมุมมองใหม่ ๆ ให้คุณอยู่เสมอ  และผมก็ยังทำอยู่ประจำ  ผมแค่ต้องการให้คุณหาบ้านของคุณให้เจอ  บ้านที่แท้จริง เพราถ้าหากคุุณเจอมันแล้ว  สิ่งภายนอก  ไม่ว่าจะปัญหาอะไรก็ตามที่เข้ามากระทบคุณ  ก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าบ้านของคุณอยู่ที่ไหน  ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ และขอสวัสดีปีใหม่ 2020 ขอให้ทุกท่านจงโชคดีตลอดทั้งปี


วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ปัญหาจริงๆ หรือเรากันแน่ที่สร้างปัญหาขึ้นมา


เพราะเราเอาแต่ตัดสินปัญหาต่าง ๆ  ด้วยความคิดความรู้สึกของเราเอง  เลยทำให้มองเห็น หรือพลาดโอกาสดี ๆ บางอย่างในชีวิตไป  ทั้งที่เรื่องเหล่าเป็นเรื่องใกล้ตัวเราทั้งนั้น

เราตัดสินปัญหาต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบน้อยลง

เราตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เราเห็นภายนอก

เราปล่อยให้ปัญหามักลุกลามโดยไม่เคยคิดที่จะแก้ปัญหา

เราจมอยู่กับปัญหา  และใช้ชีวิตเเบบวนอยู่แบบนั้น  หาทางออกไม่เจอ

เราไม่ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต  ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว  แต่ก็ยังแอบหวังลึก ๆ ว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น  ทำอย่างเดิมก็จะได้แบบเดิมนะครับ

เรามักใช้อารมณ์โกรธเป็นตัวนำทางให้ชีวิต  แล้วในที่สุดอารมณ์นั่นแหละกลับเข้ามาทำร้ายตัวเราเอง

ปัญหาที่เรามองว่าเป็นปัญหาต่าง ๆ  เราตีโพยตีพาย  โทษคนนั่น คนนี่  แต่ในความเป็นจริงแล้ว  ทุกอย่างตัวเรานั่นแหละครับ  เราเป็นคนที่ดึงเรื่องราวต่าง ๆ เข้ามาชีวิตเราเอง  แบบที่รู้ตัว  และไม่รู้ตัวเอง  มนุษย์เราคิดทำ สิ่งไหน ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบนั้น  ในมงคลชีวิต 38 ประการพระพุทธเจ้าจึงให้ความสำคัญกับ 2 ข้อแรกของมงคลชีวิตก่อนเลยครับ  นั่นคือ 1. ไม่คบคนพาล   2.ให้คบบัณฑิต

การอยู่กับโลกในปัจจุบัน  คนเราควรคิดและพิจารณาอะไรให้มาก ๆ  อย่าเอาแต่ไปตัดสินอะไรแค่สิ่งที่คุณเห็น  พิจารณาให้รอบคอบซะก่อน  คิดและทบทวนดี ๆ ก่อนจะคิด โพส แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ  ไม่เช่นนั้นจะนำความเดือนร้อนมาสู่เราได้   บุคคลประเภทที่เอาแต่มาพร่ำบ่นเกี่ยวกับตัวเอง  บนโลกออนไลน์ผมแนะนำว่าให้เลิกเถอะครับ  ไม่มีใครเห็นดีเห็นงามกับคุณหรอก  ชีวิตก็ต้องดำเนินไปต่อ  ทุกคนต่างมีภาระและหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว  ไม่มีใครอยากมาฟังเรื่องดราม่าของคุณจริง ๆ หรอก  แทนที่คุณจะเอาเวลาพร่ำบ่น  ผมว่า..คุณเอาเวลาไปนั่งแก้ไขปัญหาชีวิตของคุณดีกว่า  ทำให้มันดีขึ้น 

มีอะไรที่ยังค้างคาใจเราอีกไหม  ให้รีบทำซะ  อย่าพยายามหาข้ออ้างให้กับตัวเอง  อีกไม่กี่วันก็ปีใหม่แล้ว  การเริ่มต้นที่ดีถือเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง  และจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปตลอดกาล  ส่วนตัวผมเองชีวิตของทุกคนไม่มีใครดีพร้อมไปทุกอย่าง  ทุกคนต่างก็พบเจอกับเรื่องราวและปัญหาต่าง ๆ มากมายด้วยกันทั้งนั้น  การที่จะผ่านมันไปได้ก็คือ ลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตัวของเราเอง  ทุกอย่างไม่ได้ยากอย่างที่เราคิดไว้  เพียงแต่ความกลัวเป็นตัวที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะทำสิ่งใหม่  และคิดลบไปซะหมด  สร้างพลังงานบวกให้ตัวเองมาก ๆ  แล้วชีวิตคุณจะพบแต่สิ่งที่สวยงามอย่างแน่นอน

วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อยู่กับตัวเองเพื่อค้นหาภายในจิตใจของเรา


หายไปหลายวันเลยครับ  ชีวิตช่วงที่หายไปผมแทบจะไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตเลย  คุณรู้ไหมครับว่าหลายวันที่หายไปผมรู้สึกว่าได้อยู่กับตัวเองจริง ๆ เลย  ผมรู้สึกมีความสุขมาก ๆ  กับชีวิตที่เป็นไปแบบไม่ต้องกดดัน  หรืออยู่ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง  บางทีการที่คนเราละเลยกับสิ่งต่าง ๆ  จนหลงลืมคนรอบข้างนั้น  เราสนใจสิ่งรอบตัวน้อยลงจนบางที   กลายเป็นไม่พูดคุยกันปัญหาที่ตามมา ก็คือ  การที่เราไม่พูดคุยกันก็ทำให้เราไม่เข้าใจปัญหา  เลยทำให้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

มนุษย์ยุคใหม่เวลาไม่พอใจอะไร  ก็จะใช้อินเตอร์เป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้อื่น  โดยการโพสข้อความลงไป  บ่น นั่น โน่น นี่ เพื่อระบายบางอย่างออกมา  ซึ่งคุณก็ทราบอยู่แล้วว่ามันไม่ได้แก้ปัญหาอะไรเลย  สิ่งที่ดีก็คือ  ให้คุณกลับไปทำงาน  กลับไปทำบางสิ่งบางอย่างให้เต็มที่  มีปัญหาอะไรก็พูดคุยกันให้เรียบร้อย  อะไรที่ค้างคาใจกันก็ให้หันหน้าพูดคุยกัน  ไม่ว่าจะเรื่องงาน ครอบครัว เพื่อน และการใช้ชีวิตส่วนตัว  นี่แหละครับเหตุผลที่แท้จริงของมนุษย์

ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าอินเตอร์เน็ตไม่ดีนะครับ  ตัวอินเตอร์เน็ตหรือโปรแกรมต่าง ๆ  มันจะก่อให้เกิดประโยชน์หรือโทษก็อยู่ที่ตัวเรานั่นแหละครับ  ในแง่ดีผมก็ชื่นชอบจริง ๆ  เพราะมันทำให้โลกนี้ดูง่ายขึ้นไปหมด  (ถ้าเราใช้ให้เกิดประโยชน์)  สำหรับบางกลุ่มที่ใช้มันในทางที่ผิด  หรือไม่ก่อประโยชน์ เช่นการไปสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น  หรือแม้กระทั่งการสร้างข้อมูลเท็จ  เพื่อหลอกหลวงผู้คน  อยากจะบอกว่าอย่าทำเลยครับ  ปัจจุบันการติดตามตัวผ่านโลกออนไลน์  ง่ายซะกว่าการที่คนสองคนจะมานัดเจอกันในสถานที่บางแห่งซะอีก

เราต้องรู้ก่อนว่า  คุณค่าที่แท้จริงของเราคืออะไร  และมองให้เห็นคุณค่านั้น  สร้างและเพิ่มคุณค่าให้กับมันมากขึ้น  อย่าให้ใครมาลดคุณค่าในตัวคุณ  สิ่งที่น่ากลัวกว่าการที่ให้ใครมาลดคุณค่าในตัวคุณก็คือ  คุณต้องไม่ลดคุณค่าในตัวเอง  บางทีชีวิตอาจไม่ได้เป็นไปแบบที่เราตั้งใจเอาไว้  มีผิดพลาด ล้มเหลว แต่ก็อย่าได้ท้อใจไป  ลุกขึ้นสู้ใหม่  พรุ่งนี้ยังมีอีกตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่  ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ  ต่างก็ต้องมีบาดแผล  และผ่านเรื่องราวด้วยกันมาทั้งนั้น  แต่เพราะเขามีความอดทนและฝ่าฝันอย่างไม่ลดละ  เขาจึงพบกับความสำเร็จในชีวิต  ทุกคนก็สำเร็จได้  ทุกอย่างเป็นเรื่องของใจล้วน ๆ 

โลกเปลี่ยนไปทุกวัน  คุณไม่ต้องมานั่งสนใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มันไม่สำคัญออกไปซะ  ทำแต่เรื่องที่สำคัญ  โฟกัสให้ถูกจุด  แล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้น  เพราะคุณมีแผนทุกอย่างเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว  ใกล้จะปีใหม่แล้ว ผมก็ขอให้คุณเป็นคนใหม่  คิดใหม่ ทำใหม่ สร้างอนาคตที่ดีเพื่อตัวคุณ และคนที่คุณรักได้แล้ว เริ่มเลยรออะไรอยู่ละครับ

วันอังคารที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ไม้แก่ ดัดยาก


เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า  ทุกคนสามารถเรียนรู้และฝึกฝนกันได้  ถ้าเรามีความตั้งใจและความพยายาม  แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม้แก่ ยังไงก็ดัดยากครับ  

การจะให้เขาปรับตัวนั้นหาได้เป็นเรื่องง่ายไม่  เมื่อเทียบกับวัยรุ่นหรือวัยที่กำลังเข้าสู่การเริ่มต้นทำงาน  ด้วยความคิดที่ผ่านโลกมามากมาย  ทำให้ระบบความคิดต่าง ๆ ติดกรอบ  และยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด  ถ้าคุณกำลังเจอกลุ่มคนเหล่านี้  ผมอยากให้คุณต้องใจเย็น ๆ นะครับ  ผมพูดได้เลยว่าเราอย่าไปคาดหวังการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายจากเขา  เราทำได้แค่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น  ถ้าเขาไม่สามารถที่จะเป็นส่วนหนึ่งของงาน หรือระบบของเราได้  ก็แค่ปล่อยเขาไป  ลดบทบาทให้เขาทำเท่าที่เรามองว่า  ไม่ส่งผลกระทบกับงานใหญ่

ผมเคยคิดว่าผมสามารถจะเปลี่ยนแปลงกลุ่มคนนี้ได้  แต่ยิ่งเราใช้ความพยายามมันก็เหมือนยิ่งเหนื่อย  จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น  ที่จะยอมทำตามแล้วยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง  ไม้แก่ก็ย่อมเป็นไม้แก่  การจะเอามาดัดให้มันสวยงามนั้น  ย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายเลย  แล้วเราจะรับมืออย่างไรดีละครับ...คำถามนี้ผมคิดว่าหลายคนอยากรู้

การปล่อยวางนั่นแหละคือเรื่องที่ดีที่สุด  ดังที่พระพุทธองค์เคยกล่าวเอาไว้ว่า "บัวสี่เหล่า"  สิ่งนี้ก็ยังคงมีอยู่ในทุกยุค ทุกสมัย ไม่เคยเปลี่ยนแปลง   และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป  พระพุทธองค์จึงกล่าวไว้ว่า  จงฝึกบุรุษที่ควรฝึกเท่านั้น  โดยให้มองจากระดับสติปัญญาของเขา  และฝึกตามความรู้ความสามารถเท่าที่คน ๆ นั้นจะรับได้  เท่านี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้วละครับ


บางทีการที่เราไปคาดหวังกับผู้คนมากจนเกินไป ก็อาจทำให้เราเป็นทุกข์ใจไปเปล่า ๆ  ตั้งหน้าตั้งตาทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราให้มันดีที่สุด  ทำหน้าที่ของเราต่อไป  มุ่งมั่นและมีความเชื่ออย่างไม่ลดละ  อย่าให้คนอื่นมาบั่นทอนความคิดความรู้สึกของคุณ  มันอาจมีบ้างที่คุณอาจได้คนที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบทุกอย่างในทีมทุกคน  ค่อย ๆ ปรับ ค่อย ๆ แก้กันไปครับ  ให้โอกาสกับคนที่สมควรให้  คนไหนที่เขามีความรู้ความสามารถไม่เหมาะสม  ก็ต้องประเมินตามความรู้ความสามารถของเขาก็เท่านั้นไป  ความยุติธรรมอาจไม่มีอยู่ทุกที่ แต่ผลงานนี้แหละครับจะเป็นคำตอบทุกอย่างของเรา

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

โลกขับเคลื่อนไปด้วยกฎธรรมชาติบางคุณว่าจริงไหม


หลายคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้  ผมมั่นใจว่าหลายคนต่างต้องการวิ่งหาความสำเร็จ  และในขณะเดียวกันเราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า  ความสำเร็จนั้นมันจะออกมาในรูปแบบไหน  ไม่มีใครสามารถที่จะกำหนดและออกแบบได้อย่างชัดเจน  การที่เรามีต้นแบบความสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่า  เราจำเป็นต้องทำเหมือนเขาทุกอย่าง  เราอาจยึดเขาเป็นต้นแบบและแนวทางได้  แต่วิถีทางเดินคุณยังต้องเป็นนักล่าเอง  นักล่าความสำเร็จในรูปแบบที่เป็นของตัวคุณเอง

มันอาจจะสำเร็จบ้าง                                ล้มเหลวบางในบางครั้ง
บางทีก็อาจทำให้คุณเสียน้ำตา               บางทีก็ทำให้คุณยิ้มออกมาได้
นี่แหละครับคือเสน่ห์ของการใช้ชีวิต       ที่ในหนึ่งครั้งของชีวิตทุกคนต้องเจอ  

การอ่าน  จึงเป็นพื้นฐานแรกของความสำเร็จ  หลายคนอาจปฎิเสธได้ว่าจริงหรือ  บางคนแทบไม่ได้อ่านหนังสืออะไรมากมาย  แต่เขาก็ประสบความสำเร็จเร็จได้  ใช่ครับมันมีอยู่จริง  แต่นั้นพวกเขาไม่ได้เรียนรู้จากการอ่านแค่นั้นเอง  แต่คนกลุ่มนั้นใช้วิธีการลองผิดลองถูก  จากการสอบถามเพื่อหาคำตอบ  แต่ถ้ามนุษย์ที่ต้องการสร้างและเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ 

คุณต้องเริ่มจากการเป็นนักอ่านที่ดีนั้นเอง  นอกจากการอ่านสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ  การฟัง ทักษะนี้เป็นทักษะที่จำเป็นและสำคัญไม่น้อยเลย  แต่หลายท่านละเลย  บางทีเราฟังแค่ผ่านๆ และตีความตามความเข้าใจของเราเอง  การฟังจึงไม่เกิดประโยชน์สูงมากนัก

หากคุณต้องการจะเป็นนักฟังที่ดี  สิ่งสำคัญที่สุดคุณต้องฟังด้วยหัวใจ  และเอาใจใส่อย่างมาก  ตั้งใจฟังด้วยความจริงใจ  และที่สำคัญต้องปราศจากอคติต่อตัวบุคคล  คุณถึงจะเป็นสุดยอดนักฟัง  ในโลกใบนี้มีแต่สุดยอดนักพูด  แต่เราแทบหาสุดยอดนักฟังกันไม่ได้เลย  คุณว่ามันเเปลกไหมละ  ทั้งที่โลกใบนี้สร้างหูมา 2 ข้าง มีปากแค่ 1 ปาก   แต่กลับกลายเป็นว่ามนุษย์ส่วนใหญ่กลายเป็นนักพูดไปหมด

มันแสดงให้เห็นว่ามนุษย์สนใจที่จะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง  มากกว่าที่จะฟังเรื่องของคนอื่นไงละครับ  แม้กระทั่งการทำธุรกิจยุคใหม่  ผมว่า..มันไม่จำเป็นต้องทำองค์กรหรือบริษัทของคุณให้ใหญ่โต  ดูดีเสมอไปนะ  เพราะในความเป็นจริงแล้ว หัวใจของทุกธุรกิจก็คือ  การเอาใจใส่ต่อลูกค้านั่นเอง  สิ่งนี้ที่จะทำให้คุณชนะทุกอย่าง  คนที่รู้จักเอาใจใส่ผู้อื่น  ย่อมเป็นที่รัก และ ได้รับความรักกลับคืนมาเสมอ มันเป็นกฎง่าย ๆ ที่เราเห็นในธรรมชาติ

ความยิ่งใหญ่อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่เสมอไป  ธุรกิจที่ใหญ่โตในอนาคตต้องล้มหายตายจาก  เพราะไม่สามารถแบกรับภาระและต้นทุนที่หนักอึ้งได้  ยิ่งใหญ่การบริหารงาน  การจัดการก็ยิ่งยากเข้าไปอีก  การดูแลเอาใจใส่อาจไม่ทั่วถึง  สุดท้ายก็ทำให้ธุรกิจไปต่อไม่ได้  และนอกจากนั้น นวัฒกรรมใหม่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ  โลกยุคใหม่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยสิ่งใหม่  และแตกต่างให้มากๆ  หาไม่คุณก็จะเป็นแค่อะไรที่พื้น ๆ ที่คนธรรมดาสามารถหาที่ไหนก็ได้ 

ทุกสิ่งทุกอย่างมันเชื่อมต่อเข้าหากันหมด  ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การงาน และครอบครัว ถ้าคุณทราบและเข้าใจกฎและทิศทางที่ชัดเจน  ทุกอย่างมันจะง่ายกว่ามาก  อย่าเอาแต่มีฐิฑิ  ยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งนั้นจะต้องเป็นอยู่ และคงอยู่ตลอดไป  จำไว้เลยครับโลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน  เมื่อเปลี่ยนทุกวันเราก็ต้องรู้จักปรับตัว  และเปลี่ยนแปลงให้ได้กับทุกสถานการณ์  นั่นแหละที่จะทำให้คุณสามารถอยู่รอดได้  และมีความสุขได้กับความซับซ้อนที่มากขึ้นบนโลกใบนี้ 

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

แค่เชื่อว่าทำได้ คุณก็สำเร็จไปแล้ว


หลายท่านที่ได้อ่านบทความนี้  ย่อมมีความปรารถนาบางอย่างที่คุณมั่นใจได้ว่า  ตัวคุณเองต้องประสบความสำเร็จ  บางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะครับ  การที่เราจะสร้างความเชื่อบางอย่างให้กับตัวเอง  โลกใบนี้ ก็มีอยู่แค่ไม่กี่กลุ่ม

กลุ่มที่ 1  คนที่คิดจะสร้างและเปลี่ยนแปลงโลก
กลุ่มที่ 2  คนที่เกิดมาพร้อมที่จะทำลายล้างทุกอย่างบนโลก
กลุ่มที่ 3  คนที่ไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นเฝ้าคอยให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวเราเอง

คุณจะพบเจอคนเหล่านี้ได้บ่อยนัก  แต่คนที่ประสบความสำเร็จ  มักจะเป็นคนในกลุ่มแรกมากกว่า  นั่นก็เพราะพื้นฐานที่มาจากความเชื่อ  เชื่อมั่นและลงมือทำในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง  และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับโลก

ถ้าหากนำคนสามกลุ่มนี้มารวมกัน  แล้วให้พวกเขาเจอเหตุการณ์ในภาวะคับขัน  และต้องแก้ปัญหาคล้าย ๆ กัน  คนในกลุ่มที่ 2 และ 3  มักจะล้มเลิกไปก่อน  ในขณะที่คนกลุ่มแรก  พวกเขาจะทำไปอย่างสุดความสามารถโดยไม่ละความตั้งใจของตัวเองเลย  เพราะลึก ๆ พวกเขามีความเชื่อมั่นว่า  ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้  โดยที่ตัวพวกเขาเองก็ไม่ยอมอยู่นิ่ง ๆ  ต่างทุ่มเททุกอย่างจนสุดความสามารถ

ในขณะกลุ่มคนที่ 2 ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่คิดลบ  และเอาแต่อิจฉาคนอื่น  และพยายามหาข้ออ้างไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่คิดจะแก้หรือลงมือทำอะไรให้ดีขึ้น  ไม่พอยังคอยกดให้คนอื่นต้องต่ำลงไปอีกด้วย 

ในขณะกลุ่มคนที่ 3 ส่วนใหญ่เป็นพวก ง่าย ๆ อะไรก็ได้ ขอแค่ได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขไปวัน ๆ  ไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่คุณเชื่อไหม พอเจอปัญหาเข้าจริง คนกลุ่มนี้กลับมีความกดดันและเครียดมากกว่ากลุ่ม  นั่นก็เพราะพวกเขาเอาแต่คิด และไม่ลงมือทำอะไร  และมองคนที่ทำได้ดีกว่า ประสบความสำเร็จว่า เขาโชคดีบ้างละ  มีต้นทุนที่ดีบ้างละ สารพัดที่จะหาข้ออ้างมา  แล้วมาเปรียบกับตัวเอง  คนกลุ่มมีจำนวนไม่น้อยในสังคม

ความคิดกำหนดคำพูด  คำพูดกำหนดการกระทำ  การกระทำกำหนดนิสัย  นี้จึงเป็นที่มาที่เป็น คุณอยากเป็นคนแบบไหน ชีวิตคุณคือ ผู้กำกับและสามารถเลือกทางให้กับตัวเอง  อยู่กับคนคิดดี พูดดี ทำดี คุณก็จะเป็นแบบนั้น  บางสิ่งบางอย่างมันอาจไม่ได้ง่าย  ทุกอย่างมันก็ต้องมีบททดสอบ  เพื่อให้เราก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นไปให้ได้ก่อน

จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม  ธรรมชาติจะสรรหาแต่สิ่งที่ดีให้กับตัวคุณเอง  หลายคนเวลาทำอะไรมักจะไม่เชื่อมั่นในตัวเอง  บางทีแฝงไปด้วยความคิดลบ  ผมอยากบอกนะครับว่า คิดแบบไหนก็จะส่งผลแบบนั้น  เพราะฉะนั้น เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยครับ  ฝึกให้ตัวเองเป็นคนคิดบวก และสร้างกำลังใจ  สร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองทุกอย่าง  ลงมือทำทีละก้าว  ก้าวแรกคือก้าวที่สำคัญ  พอผ่านมันไปได้ อีกหมื่นก้าว แสนก้าว ทุกอย่างมันก็ไม่เกินความสามารถของมนุษย์เราไปได้  อย่าไปคอยจำกัดตัวเอง  ไม่ว่าจะเป็นฐานะการเงิน  ความเป็นอยู่ ฐานะทางสังคม  คุณแค่เชื่อว่าคุณทำได้  คุณก็สามารถทำได้ครับ  

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ต้นแบบที่ดี


ต้นแบบที่ดีเป็นอย่างไรกันแน่นะ  เคยมีคำถามแบบนี้ไหมครับ  ในปัจจุบันมีบุคคลต้นแบบมากมายให้เราเลือกที่ให้เขาเป็นต้นแบบให้กับเรา  จนเราไม่แน่ใจว่า  มันใช่สำหรับเราจริง ๆ ใช่หรือไม่  สำหรับบางคนต้นแบบหมายถึง  แรงบันดาลใจที่จะนำตัวเองไปสู่ความสำเร็จ

แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า  หลายคนไปมองต้นแบบในเรื่องของเงิน  อยากมีเงินมากๆ  แบบนี้ผมไม่ขอเรียกต้นแบบนะครับ  แต่เราควรหาต้นแบบจากความรู้ ความสามารถจากเขามากกว่า  ต้นแบบที่สามารถฝึกฝน  เรียนรู้กันได้  และนอกจากนั้นเรายังสามารถทำได้ดีกว่าตัวต้นแบบเอง  ถ้าคุณใช้เงินเป็นต้นแบบ  คุณแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า  สิ่งที่คุณทำอยู่  มันใช่สำหรับคุณหรือเปล่า  บางทีมันอาจจะไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกคน

เพราะฉะนั้น  การรู้จักตัวเองก่อนเบื้องต้น  สำรวจความต้องการของตัวเองก่อน  จากนั้นค่อยไปมองหาต้นแบบตามความต้องการของเรา  ต้นแบบในที่นี้อาจไม่ใช่บุคคลระดับโลกก็ได้  คนรอบตัวเรา หรือคนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้จริง ๆ  และนอกจากนี้ยังสามารถส่งต่อแบบอย่างดี ๆ ให้กับผู้คนบนโลกใบนี้  เมื่อก่อนผมมักจะสงสัยตลอดว่า  คนที่เขาประสบความสำเร็จในชีวิต  เวลาถามถึงความสำเร็จของเขา  บางทีเขามักจะไม่พูดอะไรมากนัก  แต่สิ่งที่เขาแนะนำส่วนใหญ่  มักจะเป็นเรื่องพื้น ๆ นั่นเอง  เหตุผลก็เพราะว่า  เรื่องบางอย่าง  ต่อให้เราไปอธิบายแบบละเอียดแค่ไหน  แต่ด้วยเหตุการณ์และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา  เลยทำให้เวลาเรานำเรื่องแบบนั้นมาเล่า  คนฟังจะไม่ได้มีความรู้สึกร่วมไปด้วยแม้แต่น้อย  มันจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับบางคนเลย

ศิลปะในการพูดเล่าเรื่อง การเป็นทั้งผู้ฟังและพูดที่ดี  เป็นเหตุจูงใจสำคัญไม่น้อยต่อความสำเร็จในชีวิต  หลายคนไม่เชื่อมั่นในตัวเอง  ผมอยากให้คุณลองเปลี่ยนทัศนคติของคุณดูนะครับ  เราต้องมีความเชื่อก่อน  ถ้าคนเราไม่เชื่อก็ไม่มีทางที่จะลงมือทำให้สำเร็จได้  การปลูกฝังแต่ความคิดที่ดี  และชักนำตัวเองให้ไปพบเจอแต่คนที่ประสบความสำเร็จ  ชีวิตของคุณก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างมาก  อย่าเพิ่งสงสัยในตัวเอง  แต่ขอให้ทำไปก่อน ทำจนเห็นผลลัพธ์  แล้วผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์คุณเองครับ  

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

คุณค่า กับ มูลค่า


เคยมีไหมครับที่คุณรู้สึกว่าตัวเองถูกลดคุณค่า  หรือตัวคุณเองก็ไม่รู้ที่ไปลดคุณค่าตัวคุณเอง  สาเหตุหลัก ๆ มาจากอะไร  นั่นก็เพราะว่า  ช่วงนั้นคุณกำลังรู้สึกไม่พอใจอะไรบางอย่างในตัวคุณเอง  ต้องการอยากจะทำอะไรบางอย่าง  หรือก็อยากหาเวลาให้กับตัวเองไปที่ไหนสักที่หนึ่ง  เพื่อเติมพลังบางอย่างให้กับตัวคุณเอง

แล้วอะไรคือสาเหตุที่คุณคิดแบบนั้น  ผมว่าบางทีคนเราก็มีเหตุผลด้วยกันหลายประการ  หนึ่งในนั้นที่เป็นเหตุผลยอดฮิตเลยก็คือ  การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน  หัวหน้า  หรือคนอื่น ๆ  บางทีคุณมีความรู้สึกว่าฉันทำงานหนักกว่า  แต่ช่างไม่ยุติธรรมกับตัวฉันเอาซะเลย  นั้นก็เพราะว่าตัวคุณกำลังดึงพลังงานคิดลบอยู่  ในตัวเรามันจะมีพลังงานด้วยกัน 2 ด้าน คือ บวก กับ ลบ  มันขึ้นอยู่กับว่า คุณจะเติมพลังงานให้ด้านไหน

เวลาที่ตัวคุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังหมดพลัง  สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำคุณมากนั้นก็คือ  คุณต้องฝึกให้ตัวเองเป็นคนคิดบวก  มันอาจจริงอยู่แล้วครับ  เป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ที่ต้องมีสักครั้ง  การที่ตัวคุณฝึกฝนตัวเองให้เป็นคนที่คิดบวก  ทั้งในเรื่องการงาน ชีวิต และครอบครัวนั้น  มันจะมีพลังงานบางอย่างดึงดูดแต่สิ่งที่ดี ๆ เข้ามาหาคุณ

คุณต้องแยกให้ออกว่าคุณค่า  กับ มูลค่ามันเป็นคนละเรื่องกัน  แต่ก่อนที่คุณจะให้คุณค่าอะไรกับใคร  มันต้องเริ่มจากตัวคุณก่อน  คุณต้องเห็นคุณค่าในตัวคุณก่อน  คุณถึงจะเห็นมูลค่าที่ตามมา  บางทีการที่เราเอาตัวเองไปยึดติดกับมูลค่ามากเกินไป  จนตัวเราเป็นทุกข์  ผมจะบอกคุณนะครับว่า  ไม่ว่าตัวคุณกำลังทำอะไรอยู่  ทุก ๆ สิ่งที่คุณทำมันสร้างคุณค่าให้คุณทั้งนั้น  อย่าไปสนใจถึงมูลค่าของมัน  เพราะถ้าสิ่งที่คุณทำมันดี และถูกต้อง  ผู้คนจะเห็นและชื่นชมในตัวคุณ  ในความสามารถของคุณเอง

มนุษย์เราไปคาดหวังกับผู้อื่นมากจนเกินไป  เราหวังว่าคนอื่นต้องเป็นไปในรูปแบบที่เราต้องการ เขาต้องรักเรา  เขาต้องดีกับเรา หรือเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ พอไปคาดหวังมาก ๆ  ก็มักจะผิดหวัง  พอเราผิดหวังก็นำมาซึ่งความทุกข์ใจ  คนที่มีความสุขก็คือ  ต้องเริ่มจากตัวคุณก่อน  สร้างพลังงานในทางบวกให้กับตัวเอง  ทำตัวคุณเองให้มีเสน่ห์ และมีความสุขจริงๆ  เเล้วส่งต่อความสุขนั้น  ผู้คนจะเห็นในความมุ่งมั่นของคุณเอง  ไม่ใช่การที่ตัวคุณไปคอยเอาใจ ใครต่อใคร  แต่เขาเห็นว่าคุณเป็นในแบบนี้จริง ๆ  คุณมีความสุขได้  โดยที่เราไม่ต้องไปพึ่งพาคนอื่น  หรือคอยเอาใจคนอื่นไปหมด

คุณต้องรู้จักเอาใส่ใจผู้อื่นด้วยความจริงใจ  ให้ความรักและความเคารพต่อผู้อื่น  ปฎิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งต่อหน้า และลับหลัง  จำไว้นะครับว่าเราไม่ชอบอะไร  หรือไม่อยากให้ใครทำสิ่งที่เราไม่ชอบกับเรา  ตัวเราเองก็อย่าไปทำสิ่งที่ไม่ชอบกับใครด้วยเช่นกัน  ข้อสำคัญคือ คุณต้องเติมพลังงานบวกเข้าไปในชีวิตของคุณ  ในทุกๆด้านจริง ๆ  บางทีในตอนนี้มันอาจจะไม่ได้เห็นผลแบบทันตา  แต่มันจะมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลง  ไปในทิศทางที่ดี  อย่างที่คุณไม่คาดคิด  ขอให้เชื่อในพลังคิดบวก  และให้มองเห็นคุณค่าของตัวเองให้มาก ๆ  แท้ที่จริงความสำเร็จมันก็เริ่มจากอะไรที่ง่าย ๆ แบบนี้แหระครับ  มันคือความเป็นจริงของธรรมชาติ 

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สุขภาพกายใจสำคัญมาก


ว่าด้วยเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจ  สองสิ่งนี้เมื่อคุณอายุมากขึ้น  คุณจะเห็นความสำคัญและคุณค่าของชีวิตมากขึ้น  หรืออาจจะมากกว่าทรัพย์สินเงินทองที่อยู่ในมือคุณด้วยซ้ำ  คนเราเมื่ออายุมากขึ้น  เราสะสมความเครียดมากขึ้น  เรื่องบางเรื่องควรปล่อยวางแต่เราก็ไม่สามารถปล่อยวางได้  นั่นแหละครับชีวิต  เราจะเห็นคุณค่าของมันก็ต่อเมื่อ  เรารู้ตัวเองว่าชีวิตเราจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นาน

ดั้งนั้นจึงมีหนังสือหลาย ๆ สำนักเขียนเกี่ยวกับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพ  แนะนำการออกกำลังกาย รวมถึงอาหารการกินต่าง ๆ กินอย่างไร  นอนอย่างไร  ควรจะพักผ่อนแล้วใช้ชีวิตอย่างไร  เมื่อเราโฟกัสกับสิ่งไหน  สิ่งนั้นก็จะให้ผลตอบแทนกับเรา  หลายท่านแทบไม่มีโอกาสได้วางแผนชีวิตด้วยซ้ำ  เราใช้ชีวิตแบบลืมหูลืมตา  ลืมไปว่าชีวิตเรายังวนเวียนอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิด  เวลาเรามีอาการเจ็บป่วย  เราก็เอาแต่รอก่อนไปเรื่อย ๆ  จนโรคภัยไข้เจ็บนั้น  กลับเข้ามาทำร้ายเราอย่างรุนแรง

เวลาเป็นของมีค่า  ต่อให้คุณจะร่ำรวยมหาศาลแต่มันก็ไม่อาจชดเชยเวลาที่เสียไปได้  เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง  เงินทองของคุณก็ไม่สามารถขอแลกกับเวลาชีวิตกับยมฑูตได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ  การให้ความสำคัญกับปัจจุบัน  ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า หมั่นทำบุญ สร้างบารมี  ด้วยผลบุญกุศลทั้งหลายเหล่านี้  จะส่งผลให้คุณได้พบเจอกับภพภูมิที่ดี  (ผมเชื่อว่าภพหน้ามีจริง)  

ลองฝืนทำอะไรที่ขัดกับสิ่งที่ตัวเองทำ  ลองทำอะไรที่แปลกใหม่  ลองใช้ชีวิตในรูปแบบที่คุณไม่เคยได้ทำดูบ้าง  แล้วคุณจะพบว่า..โลกนี้น่าอยู่มาก  อย่าทำตัวเป็นคนน่าเบื่อ  ที่วัน ๆ เอาแต่ทำอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ  หลายท่านอาจมองว่า  การใช้ชีวิตไม่เสี่ยงคือเรื่องดี  แต่อันที่จริงแล้วความเสี่ยงมันมีอยู่ตลอดเวลา  ยิ่งคุณไม่ยอมออกจากพื้นที่โซนเดิม ๆ  วันหนึ่งคุณอาจพบกับความว่างเปล่า  เพราะอย่าลืมว่าเราอยู่บนกฎของไตรลักษณ์  ที่โลกนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน  และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ  เพราะฉะนั้นเราไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่น

ท้ายที่สุดนี้ผมอยากจะฝากไว้นะครับว่า สุขภาพดีไม่มีขาย..อยากได้ต้องทำเอง นะครับ....

วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

พลังงานแห่งศรัทธาและคิดบวก


สิ่งที่เราแน่ใจว่าทุกอย่างมันเที่ยงเเท้แน่นอน  มันก็จะเป็นไปตามแบบนั้น  แต่ในความเป็นจริง  มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป  ภาวะจิตใจมนุษย์มักจะไหล่ลงที่ต่ำเสมอ  เมื่อภาวะจิตใจคุณลงที่ต่ำ จิตใจคุณจะว้าวุ้น  และสับสน บางทีรู้สึกน้อยใจกับเรื่องต่าง ๆ นา ๆ   คุณจะมีวิธีการจัดการปัญหานี้อย่างไร

สำหรับคำตอบของผม  ใครที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อยู่  ผมอยากจะขอให้คุณอยู่นิ่ง ๆ  เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้วครับ  การที่เราไปตัดสินใจ หรือ คิด พูดทำอะไรมากเกินไป  ก็ยิ่งทำให้จิตใจเราว้าวุ่นไปอีก  เหตุการณ์แบบนี้ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เรา  มันไม่แปลกหรอกครับ  ว่าใจสักครั้งหนึ่งในชีวิตมันก็ต้องมีกันบ้างแหระครับ

สิ่งที่สำคัญที่สุดของคุณก็คือ  พยายามรักษาจิตใจของคุณให้อยู่ในทางบวกเสมอ  สิ่งที่ผมอยากแนะนำก็คือ  อยากให้คุณหากิจกรรมบางอย่างทำ  สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า  และไม่ลดคุณค่าของตัวคุณ  จงจำไว้ครับว่า  ไม่มีใครหรอกครับจะลดคุณค่าของคุณได้  มีแต่ตัวคุณเท่านั้น  คุณมองและคิดว่าตัวเองเป็นอย่างไร  มันก็จะเป็นอย่างนั้น  สิ่งที่สำคัญเสมอขอให้คุณหนักแน่น  และมีใจรักในสิ่งที่คุณทำเสมอ  บางทีงานที่คุณทำอาจไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรมากนัก  ในสายตาของคนอื่น  แต่ในความเป็นจริง  คุณเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีที่สุด  แท้ที่จริงทุกงานมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน  ดีไปซะอีกถ้าคุณสามารถทำงานที่น่าเบื่อได้  แบบที่ไม่มีใครอยากทำแล้วผลลัพธ์มันกลับออกมาดีที่สุด นั่นแหละครับคุณสุดยอดแล้ว 

มนุษย์เราส่วนใหญ่ไปโฟกัสแต่ว่า  ฉันต้องได้ทำงานที่มีผลงานและเป็นงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด  แต่ในความเป็นจริง  ถ้าหากคุณไม่ใส่ใจในงาน  และไม่ทุ่มเทให้กับมัน  ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่ได้แตกต่างกัน  นี่แหละคือความเป็นจริงของชีวิต  มนุษย์ทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ  และได้รับความสำคัญเพื่อเป็นที่ยกย่องต่อผู้คน  แต่ก็น้อยคนนักที่จะทำงานด้วยการทำโดยไม่หวังผลตอบแทน  ทำไปเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต  สิ่งนี้สำคัญมากคุณจะเป็นใครนั้น  สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือ  การที่คุณมองตัวเองเป็นใคร  และคุณเหมาะสมกับมันหรือไม่  คุณคู่ควรกับมันจริง ๆ ใช่ไหม   เราเอาแต่ไปตัดสินสิ่งต่าง ๆ  ตามที่คนอื่นเขามอง  แต่ในทางกลับกัน  ผมอยากให้คุณมองในมุมกลับ  มุมทีคนอื่นมองไม่เห็นหรือคาดไม่ถึง  แล้วคุณจะพบว่า  ชีวิตนี้มีคุณค่าอย่างมากมาย  ด้วยจิตใจที่มีพลังมหาศาล  ที่จะนำพาคุณให้ไปสู่จุดที่สูงที่สุดตามที่ใจปรารถนา  ขอให้คุณมีความตั้งใจจริง  มุ่งมั่น ฝึกฝนพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง  แล้วคุณจะพบว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนกับสิ่งที่ได้ทุ่มเทกับมันลงไป


ฝึกขอบคุณสิ่งต่าง ๆ จนเป็นนิสัย  เพราะนิสัยการรู้สึกขอบคุณ  คุณจะได้รับพลังงานในทางบวก  เมื่อสมองคุณเติมเต็มในทางบวกเสมอ  พลังงานบวกก็จะส่งพลังงานอย่างมหาศาลให้กับคุณ  คุณต้องปลุกหรือกระตุ้นให้ตัวคุณมีความกระตื้อรื้อร้นอยู่ตลอดเวลา  เพื่อให้คุณสามารถดึงมันออกมาใช้ได้ตลอดเวลา  คุณทำได้ถ้าเชื่อว่าคุณทำได้  ประโยคนี้เป็นจริงเสมอ  ขอให้คุณเชื่อมั่น  เชื่ออย่างสุดหัวใจ  แล้วพลังงานบางอย่าง  จะนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จอย่างที่ใจคุณปรารถนา

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

จิตใจที่หนักแน่นและมั่นคง คือ ความสำเร็จที่ยั่งยืน


ความสับสนที่เกิดขึ้น  กับบางเรื่องบางเหตุการณ์ในชีวิต  ให้คุณต้องลองมาทบทวนเป้าหมาย  หรือสิ่งที่คุณได้ตั้งความหวังเอาไว้  ยึดมั่นและศรัทธาในตัวเองให้มาก ๆ  เดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่นและอดทตต่อปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วคุณจะผ่านมันไปได้เสมอ

หลายครั้งที่คนเรา  เมื่อมาถึงจุดเปลี่ยนกับอะไรบางอย่าง  บางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกลังเล  ไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไร  เป็นสิ่งที่ยากยิ่งนัก  อารมณ์ประมาณเหมือนกับจะเดินไปข้างหน้าไหม  หรือจะหยุดอยู่กับที่ดี  ผมอยากจะบอกคุณนะครับว่า  ถ้าคุณมาถึงจุดนี้  มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกครับ  มันแสดงให้เห็นว่า  คุณยังมีไฟอยู่เสมอและพร้อมที่จะเรียนรู้  และพัฒนาตัวเอง

หลายคนเลือกที่จะไม่ทำอะไร  ปล่อยผ่านกับชีวิต  แล้วคิดโทษโชคชะตาวาสนาในชีวิต  แต่คนที่คิดบวก และมีพลังชีวิต  เราจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองดีขึ้น  เพื่อความฝันที่เราได้ตั้งใจเอาไว้  หลายคนที่มีความฝัน  และก็ถูกดับฝันไป  ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณผ่านเรื่องราวอะไรในชีวิตมาบ้างแล้ว  แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ  อย่าทิ้งความฝัน  อย่าทิ้งเป้าหมายที่คุณได้ตั้งใจเอาไว้  ความเชื่อมั่น เชื่ออย่างสนิทใจว่าคุณทำได้  คุณสามารถประสบความสำเร็จได้ 

คนเราทำอะไรก็ตามมันก็ต้องอาศัยเวลา  อาศัยความอดทนในการจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต  หรือแม้กระทั่งความล้มเหลวที่ผ่านมา  นำมันมาเป็นบทเรียนสำคัญ เพื่อให้คุณก้าวต่อไป  เรียนรู้จากความผิดพลาด  ฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อย ๆ  เพราะโลกนี้ไม่แน่นอน  วันนี้เราอาจเป็นที่รัก  วันหนึ่งเราอาจไม่ได้เป็นที่รักอีกต่อไป  สิ่งที่จะทำให้เรายืดหยัดได้ก็คือ  การเป็นตัวของตัวเอง  มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง  และทำตัวเองโดยการเพิ่มหรือเติมเต็มคุณค่าให้ตัวเองมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ 

ความรู้ความสามารถคือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้กันตลอดชีวิต  ผู้ไม่ประมาทย่อมรู้และทราบถึงเหตุผลข้อนี้ดี  ส่วนคนที่ประมาทในชีวิต  คิดว่าตัวเองเก่ง เจ๋งอยู่แล้วก็จะหยุดพัฒนาตัวเอง  ไม่เปิดรับและไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใหม่  คนประเภทนี้อนาคตน่าเป็นห่วง  และอันตรายเป็นอย่างยิ่ง  เมื่อใดที่คุณหมดความสำคัญ  หมดคุณค่าแล้วละก็  คุณก็แทบจะไม่เหลืออะไร  จงทำตัวเองให้เป็นที่ต้องการ และมีมูลค่าอยู่เสมอ  เราต้องมีไม้เด็ด  ไม้ตาย บางอย่าง  ที่เราเท่านั้นที่สามารถทำได้และเหนือกว่าคนอื่น

นอกจากนั้นการยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต  มีระเบียบวินัย  มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน  สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นบันไดให้คุณประสบความสำเร็จในระยะยาวได้  มันเป็นความสำเร็จที่ยั่งยืนด้วย  ไม่ใช่การได้มาแค่ฉาบฉวย  คนทุกคนมีความรู้ความสามารถ  ในแบบที่แตกต่างกันไป  ทุกๆหน้าที่ในสังคม  ทุกคนมีคุณค่าและประโยชน์  ขออย่าได้น้อยใจกับสิ่งที่ตัวเองทำในวันนี้  มันไม่สำคัญนะครับว่า ณ เวลานี้   คุณทำอะไรอยู่  มันสำคัญอยู่ที่ว่า ในอนาคตคุณต้องการจะทำอะไร  และคุณจะทำมันอย่างไร  คุณพร้อมจะลงมือหรือยัง  ถ้าคุณพร้อมผมก็พร้อมที่จะอยู่ข้างคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

โลกสีเทา



หลายคนอาจเข้าใจว่าโลกใบนี้ มีแต่สีขาวและสีดำเท่านั้น  เรามองโลกและตัดสินโลกด้วยประสบการณ์ของเรา  ภาพในหัวของเราจึงตัดสินเรื่องราวต่างๆ ไปตามแต่ความคิด  และประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราเท่านั้น  จะว่ากันไปแล้วถ้าจะเปรียบวงกลมสองวง  วงหนึ่งเป็นสีขาว  อีกวงหนึ่งเป็นสีดำ  หากเรานำมาทับซ้อนกัน  มันก็จะกลายเป็นสีเทาทันที

ถ้ามองด้วยตาเปล่าไม่มีทางรู้ได้เลยว่า  มีวงกลมอยู่สองวงไม่ใช่แค่วงเดียว   หลายคนไปตีความต่าง ๆ นา ๆ บ้างก็ว่าสีดำ  บ้างก็ว่าสีขาว  แต่อันที่จริงมันคือ "สีเทา"  ที่เหลี่ยมล้ำกันอยู่ระหว่างสองสีนี้

โลกเราก็เป็นแบบนี้แหระครับ โดยเฉพาะสังคมปัจจุบันมีจะค่อนข้างไปทางสีเทาเยอะมาก  เราถูกสอนให้มองโลกด้วยความดี และความไม่ดี

สีขาว  คือ  ตัวแทนของความดี 

สีดำ    คือ  ตัวแทนของความชั่วร้าย

แท้ที่จริงสิ่งที่อันตรายกว่านั้นก็คือ สีเทาต่างหาก  ในหนังสือหลายเล่มไม่มีสอนเรื่องนี้  หรือกระทั่งตอนที่เราเรียนหนังสืออยู่  เพราะมันเป็นเรื่องที่พูดได้ยาก  ที่จะนำมาอธิบายเป็นตำราได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์เรา  ถ้าเราพูดความจริงทั้งหมด  อาจเป็นอันตรายกับตัวเราได้  การเลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ  ไม่พูดเสียยังจะดีซะกว่า  นั้นคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์เรา 

หลายท่านอาจมองว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ  มันมีจริงครับบนโลกใบนี้  เราจะพบเจอจากทุกรูปแบบ  คุณเคยสงสัยไหมละครับ

- ไม่แปลกใจเหรอว่านักการเมืองบางคน  พอมาเล่นการเมืองก็ร่ำรวยขึ้น  แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องมืดมาเกี่ยวข้อง 

- ผู้นำบางประเทศที่ต่างบ่งบอกถึงความใสสะอาดของตัวแทน  อีกมุมหนึ่งที่เรามองไม่เห็น  มันอาจมีอะไรซ่อนอยู่

- ในวงการธุรกิจ เราอาจเห็นนักบุญในคราบของคนสีเทาก็เป็นไปได้

เราจะต้องรับมือ  หรือพบเจอกับคนเหล่านี้ตลอดเวลา  คุณไม่สามารถไปเอาผิดอะไรเขาได้หรอก  เพราะมนุษย์กลุ่มนี้อันตรายมาก  เขาไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้คุณเห็น  ถึงจะเปิดเผยก็แค่มุมที่เขาอยากให้คุณเห็นเท่านั้น  บางคนอ่านแล้วมองว่าเกินไปหรือไป  สำหรับคนมองโลกในแง่ดี  จะถูกปลูกฝังแต่เรื่องดีๆ ทำให้เขามองอะไรที่ดีไปหมด  แม้กระทั่งในเรื่องราวร้าย ๆ  สิ่งนั้นเป็นภูมิคุ้มกันเขาได้  แต่กับคนกลุ่มเทา  คุณอาจกำลังตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว

มนุษย์เราถูกสอนให้อยู่ในสังคม และมีความเห็นใจซึ่งกันและกัน  แต่ในความเป็นจริง กลับมีพวกสีเทาต่างหาผลประโยชน์จากจุดอ่อนของมนุษย์  อันได้แก่ ความโลภ โกรธ หลง  อันเป็นจุดอ่อนของมนุษย์ในการทำลายมนุษย์ด้วยกันเอง  คนที่หลงเข้าไปติดกับดัก  บางทีก็หลงมากจนยอมทำตามทุกอย่าง  โดยไม่แยกผิดถูกเลย  เราควรมีสติให้มากนะครับ  บุคคลเหล่านี้มาในหลากหลายรูปแบบ ถ้าหากคุณใช้ชีวิตอย่างมีสติ  มองโลกตามความเป็นจริง  ใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา  ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดี 

สำหรับคนที่มีเรื่องเจ็บปวดฝังใจในชีวิตอยู่  อาจทำให้คุณกลายเป็นคนหวาดกลัว  ขาดความมั่นใจในตัวเอง  บางครั้งก็มองโลกในแง่ร้ายเกินไป 

ผมอยากจะแนะนำนะครับว่า  เราไม่ได้อยู่ถึง 100 ปี  เพราะฉะนั้น จงใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญ  ไม่ต้องไปกังวลกับอะไรทั้งนั้น  ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมัน  เราต้องยอมรับความเป็นจริง และเผชิญหน้ากับมัน  เราสามารถมีความสุขได้ในทุกรูปแบบ  ตามที่เราต้องการ  อย่าเอาแต่จมทุกข์  จมอยู่กับความเจ็บปวดแบบนั้น  มารู้ตัวอีกทีก็วาระสุดท้ายของตัวเอง  ใกล้เข้ามา  คุณแทบไม่ได้ทำอะไรแล้วมานั่งเสียดายกับชีวิต  เพราะฉะนั้นลืมทุกอย่างซะแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ทันที  ใครที่ทำให้เราเจ็บก็ขอบคุณเขา  ไม่มีเขาเราก็ไม่แกร่งได้จนถึงทุกวันนี้ครับ....

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สุขภาพกับอายุ


คนเราเวลาอายุมากขึ้น  โรคภัยไข้เจ็บก็จะมาพร้อมกันกับอายุ  ชีวิตนี้ช่างไม่มีอะไรแน่นอนและเราไม่สามารถหนี้กฎไตรลักษณ์  หรือความไม่เที่ยงได้นั่นเอง  บางสิ่งบางอย่างเราคาดหวังกับมันมากเกินไป  ก็ผิดหวังไม่เป็นไปอย่างที่เราได้ตั้งความหวังเอาไว้  สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตตอนที่คุณอายุมากขึ้น  นั่นก็คือ  การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวคุณ  อาทิเช่น

- อาหารการกิน

- การออกกำลังกาย

- การพักผ่อนนอนหลับ

- การใช้ชีวิต

สิ่งเหล่านี้ควรจัดความสมดุลให้กับชีวิต  มนุษย์เราพออายุมากขึ้น  เรากลับกลัวตายกันมากขึ้น  อยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวให้มากที่สุด  หลายคนตั้งเป้าหมายกับชีวิตเอาไว้มากมาย  ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังทำไม่สำเร็จ  และยังมีความต้องการจะทำสิ่งนั้น  นั่นก็เป็นเหตุผลของการใช้ชีวิตอยู่  มันจริงอยู่ครับว่ามนุษย์ปรารถนาเงินทอง ชื่อเสียงมากมาย  แต่พออายุมากขึ้นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง  และได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการอย่างแท้จริง 

เราจะเห็นคุณค่าของสิ่งไหน  ก็ต่อเมื่อเราได้เสียสิ่งนั้นไปแล้ว  ความไม่แน่นอนอะไรย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ๆ ขอให้เราใช้ชีวิตอย่างมีสติ  บุคคลที่มีพลังในการคิดบวก  ย่อมจะดึงดูดพลังงานในทางบวกเสมอ  ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร  ก็สามารถจัดการปัญหาและอารมณ์ได้ดี 

อารมณ์จึงมีผลต่อการใช้ชีวิต  เราจะสังเกตุได้ว่าคนที่อารมณ์ดีมักจะมีอายุยืน  คนที่คิดบวกกับชีวิต  คนเหล่านี้อายุยืน  และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในระยะยาวได้  โดยไม่เกิดอากาศเป็นโรคซึมเศร้า  เพราะพวกเขามองโลกในแง่ดี  เห็นไหมละครับว่าการมองโลกในแง่ดีนั้นมันมีผลดีอย่างไร

และสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุอีกอย่างหนึ่ง  สำหรับคนที่มีอายุยืนก็คือ  พวกเขาชอบการท่องเที่ยวและเดินทาง  หลายคนอาจแปลกใจว่าจริงเหรอ  สำหรับผมเชื่อนะครับว่ามันคือเรื่อง  การเดินทางบางทีทำให้หัวใจเราตื่นเต้น  เมื่อได้พบเจออะไรใหม่ ๆ  ได้ลองทำอะไรใหม่  เหมือนชีวิตได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  จึงทำให้เราไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองแก่  และยังสนุกกับการใช้ชีวิตตลอดเวลา  (แต่ก็อย่างนะครับ ต้องมีเงินระดับหนึ่ง)  ใครรู้แบบนี้ก็เก็บเงินไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ  สำหรับบางคนที่เอาแต่ทำงานหนัก  แล้วแทบจะไม่มีเวลาไปเที่ยวไหน  หรือไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่ตัวเองฝันไว้  เก็บเงินไว้เลยครับ  พออายุมากขึ้นคุณอาจได้ทำมันก็ได้ 

เพราะชีวิตนั้นมีคุณค่าและราคา  เราประเมินคุณค่าตัวเองไว้อย่างไรละครับ  ลองตั้งคำถามดูนะครับ  การตั้งคำถามที่ถูกต้อง ก็จะนำพาชีวิตเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง  ขอให้คุณโชคดีกับการใช้ชีวิต  และมีความสุขอยู่ทุกขณะชีวิต  เกิดมาทั้งทีพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีทีสุดให้ได้ครับ เพราะชีวิตเป็นของเรา

วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ความนิ่งเท่านั้นที่เอาชนะได้


ช่วงใดที่ชีวิตเรารู้สึกว่าจิตใจเราไม่นิ่ง  เรามักจะสับสน  และมักจะโทษสิ่งต่าง ๆ รอบตัว  หน้าที่สำคัญที่สุดก็คือ  เราต้องนิ่งให้เป็น  การแก้ปัญหาด้วยตัวของตัวเอง  โลกนี้มีอะไรที่ซับซ้อนวุ่นวายมากพออยู่แล้ว  การจัดสรรชีวิตและการลำดับความสำคัญในชีวิต  จึงเป็นเรื่องที่เราควรใหัความสำคัญอย่างยิ่ง  สิ่งที่สำคัญที่สุดในการวางแผนชีวิตของตัวเราเอง นั่นก็คือ  เราต้องรู้จักตัวเราเองให้ดีก่อน  เราเหมาะหรือไม่  มีสิ่งไหนที่เราจะปรับปรุงพัฒนาตัวเองได้อีกหรือไม่ 

ใจเราบางทีเราพูดไม่ได้  การพูดไปเยอะก็ทำลายทุกอย่างได้  ปัจจุบันมนุษย์มีความโกรธกันมากขึ้น  ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดี  บางเรื่องก็ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจให้ดี  สิ่งที่เราและท่านทั้งหลายควรมีก็คือ สติ  อย่าเอาแต่ตัวเองเป็นจะใหญ่  จะคิดพูดอะไรให้นิ่ง ๆ เข้าไว้  ค่อย ๆ คิดและพิจารณาอย่าได้เร่งรีบ ใจร้อนจนเกินเหตุ  บางทีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล  สิ่งเหล่านี้ที่อาจทำลายมิตรภาพดี ๆ ได้เลย

เกิดเป็นคนเราควรมีธรรมะอยู่ในใจ  ไม่หลงในกิเลส อันประกอบด้วย โลภ โกรธ หลง ให้มาก  เพราะราคะทั้งหลายเหล่านี้  จะเป็นไฟที่เผาตัวเราเองได้  มนุษย์เรามักจะหัวร้อน บ่น นั่น โน่น นี่ โทษไปซะทุกอย่าง  ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่ดีบ้าง  แต่สิ่งที่เราลืมกลับมองย้อนมาก็คือ  เราไม่เคยมองข้อเสียของตัวเอง  เราเอาแต่คิดว่าตัวเราเองถูก  ใครที่คิดต่างล้วนแล้วแต่เป็นฝ่ายผิดทั้งนั้น  ในความเป็นจริงเหรียญมีสองด้านนะครับ  จะคิดพิจารณาอะไร  ต้องมองให้ถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใจหรือวิพากวิจารณ์อะไรออกไป  อย่าหลงยึดติดว่าสิ่งนั้น สิ่งนี้  ต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี่ในแบบที่มันควรจะเป็น  อะไรใดๆในโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยง  ไม่แน่นอน  ทุกอย่างมีเกิดดับด้วยกันทั้งนั้น  อย่าไปยึดมั่นถึอมั่นให้มาก  อยู่บนโลกสมมตินี้อย่างมีสติ

ใครที่กำลังท้อ น้อยใจในวาสนา  อย่าไปถอดใจไปนี่แหละคือความเป็นจริงของชีวิต  ปล่อยให้ตัวเองได้อยู่ในสภาวะนี้ดูบ้าง  เมื่อถึงเวลาที่เหมาะและเรามีความอดทนที่มากพอ  ทุกอย่างมันก็จะผ่านด้วยดี  ไม่มีใครจะไปรู้ได้ดีกว่าตัวเราเองได้หรอก  ขอให้ทุกคนผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ต่าง ๆไปด้วยดี  แล้วประสบความสำเร็จกันทั่วหน้าทุกท่านครับ  กำลังใจที่ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง  พึ่งเอาชนะทุกอย่างด้วยความดีและความไม่โกรธ  แล้วโลกใบนี้จะน่าอยู่ยิ่งขึ้นไปอีก

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562

อย่าใช้ชีวิตแบบมีความทุกข์


ถ้าคุณรู้สึกว่าอยู่ที่ไหนแล้วทำให้ตัวเองไม่มีความสุข  ก็อย่าพยายาม สิ่งที่เราควรทำก็แค่ถอยออกมาเท่านั้น  เพราะยิ่งนานวันเข้า  สิ่งเหล่านี้จะกลับมาทำร้ายเราในภายหลังได้  เราไม่ควรไปตำหนิใครทั้งนั้น  สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เราควรเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตัวเรา  คนบางคนยอมให้ตัวเองจมอยู่ในความทุกข์  รู้ทั้งรู้ว่ามันคือความทุกข์  แต่ก็ยังยอมให้มันเป็นไปแบบนั้น  เหตุนั่นก็เพราะคนบางคนไม่ยอมรับความจริง และไม่รู้จักปล่อยวางกับบางเรื่อง 

คนบางคนยังทุกข์อยู่กับอดีตที่เจ็บปวด  และก็ยอมให้อดีตย้อนกลับมาทำร้ายเราตลอดเวลา  ให้เราต้องเจอแต่คนไม่ดี  คนที่คอยแต่จะกลับมาทำไรเราด้วยเหตุการณ์แบบเดิม ซ้ำ ๆ อย่างนี้ไปเรื่อย  สำหรับบางคนที่บอกว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  แต่ถ้าลองนึกให้ดี ๆ คุณได้เลือกมันไปแล้ว  เลือกให้อยู่ในสภาพจำยอมให้มันเป็นแบบนี้  เพราะชีวิตเราเลือกมันได้นะ  อย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิต

ชีวิตนี้มันแสนสั้น  บางทีเราไปเสียเวลากับเรื่องไม่จำเป็น  เป็นครึ่งกว่าชีวิตกว่าจะมานึกได้  ก็เสียเวลาไปนานมาก  เลยมาก็วัยกลางคนไปแล้ว  ก็อย่างว่าแหละครับ  มนุษย์ล้วนแล้วแต่สติปัญญา และประสบการณ์ชีวิตที่พบเจอนั้นแตกต่างกัน  การแก้ปัญหาของแต่ละคนก็แตกต่างกัน  ตามแต่สติปัญญาของบุคคลนั้นไป  ก็จะพิจารณาว่าเราสมควรจะบอก หรือแนะนำใคร  เราต้องกลับมาพิจารณาก่อนว่า  บุคคลนั้นมีสติปัญญาระดับไหน  เขาสามารถรับรู้ได้มากน้อยเพียงใด  อยากสักแต่พูดหรือสั่งสอนเขา  เพราะสำหรับบางคน  มันแค่คำพูดแบบทวนลม  เขาไม่รับรู้และไม่สามารถเข้าใจมันได้จริง ๆ

การวางแผนอนาคตนั้น  จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง  สำหรับยุคนี้เพราะเงินคือปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต  คนที่มีเงินนั้นมีทางเลือกมากกว่า  คำพูดนี้มีส่วนจริงอยู่มาก  การเลือกให้ความอิสระกับตัวเองได้  บางทีการจะก้าวข้ามเส้นนี้ได้  ก็ต้องมีอิสระภาพทางการเงินให้ได้เสียก่อน  อิสระภาพในที่นี้หมายถึง  มีเงินที่เพียงพอความค่าใช้จ่าย  ไม่เดือนร้อนใคร และไม่มีหนี้สิน  สามารถที่จะเลี้ยงชีพตัวเองได้โดยไม่ลำบาก  จะเห็นได้ว่าคนที่มีความสุขมากที่สุด  ก็คือคนที่มีอิสระ ทั้งทางการเงินและเวลา  สิ่งเหล่านี้ที่มนุษย์ส่วนใหญ่ต่างปรารถนา  แต่น้อยนักที่จะสามารถทำได้  เพราะยังคงติดกับดักอะไรบางอย่าง  โลกทุนนิยมนี้  บางทีก็ไม่ต่างจากนรกบนดินดีๆ นั้นเอง  ถ้าคุณรู้จักใช้เงิน และวางแผนการเงินอย่างมีสติ  ก็ไม่ต่างกับอยู่สวรรค์บนดินนั่นเอง  แต่ถ้าคุณมีหนี้สินรุงรัง  อยากมีอยากได้มากขึ้น  ไม่รู้จักพอ สร้างหนี้ขึ้นเรื่อย ๆ  ก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น ทั้งที่ยังมีลมหายใจอยู่นั่นเอง

ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ  ชีวิตมีทางเลือก แต่ก่อนที่จะมีทางเลือกได้คุณก็ต้องตัดสินใจ ลงมือทำอะไรบางอย่างกับชีวิตของคุณให้มันดีซะก่อน  อย่ามัวแต่อ้อนวอนหรือสวดภาวนา  เพราะไม่มีประโยชน์อันใด  ใครที่พลาดไปแล้วก็ขอให้มาเริ่มกันใหม่ ยอมรับความจริง และตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะแก้ปัญหานี้ให้จงได้  ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้  ถ้าเราคิดจะลงมือทำมันจริง ๆ  ถ้าคุณมีความเชื่อทุกอย่างก็จะสำเร็จดังปรารถนา

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เหตุผลกับความเป็นจริงในชีวิต


คนเราต้องรู้จักแยกเหตุผลกับความเป็นจริงให้ได้  ยุคปัจจุบันมนุษย์หลงงมงายไปกับสิ่งลวงตา  ยิ่งในโลกออนไลน์  ผู้คนเอาแต่โพสข้อความพร่ำบ่นถึงชีวิต  หรือแม้กระทั่งโพสอวดรวย ไปต่างๆ นา ๆ ถึงไลฟ์สไตส์ชีวิตที่ดีมาก ๆ  จนบางทีอาจดูเกินจริง

คนบางคนก็ว่างมากเห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้  ก็เอาแต่ไปโทษคนอื่น ตำหนิคนอื่นไปทั่วทั้งที่ในความเป็นจริง  ตัวเองก็แทบไม่ได้มีดีอะไรเลย  เพราะมนุษย์ไม่อยู่กับความเป็นจริง ไม่อยู่กับเหตุผลที่ถูกต้อง  มองและตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่ตัวเองเห็น  โดนไม่ได้ศึกษาความเป็นไปเป็นมาที่แท้จริง  ก่อนที่เราจะทำอะไรผมอยากให้คุณใช้สติให้มาก ๆ  ก่อนที่จะตัดสินอะไร

1.ต้องรู้จักเเยกเหตุผลและความเป็นจริง
2.อย่าหลงเชื่ออะไรง่าย ๆ
3.ใช้หลักกามลาสูตรเพื่อช่วยในการวิเคราะห์
4.อย่าตัดสินใจอะไรด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว หรือกำลังร้อนอยู่
5.ใช้สติปัญญาให้มาก ๆ กับการจัดการปัญหาในทุกเรื่อง
6.ฝึกเป็นคนเสียสละบ้าง เอาใจเขามาใส่ใจเรา
7.จดและลำดับความสำคัญของทุกเรื่องสิ่งไหนควรทำก่อนและหลัง
8.ต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของข่าวสารอยู่เสมอ ก่อนตัดสินใจเชื่ออะไร
9.อย่ายึดมั่นถือมั่นในทุกสิ่ง เพราะทุกอย่างตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ มีความไม่เที่ยงเป็นของธรรมดา
10.เป็นคนกตัญญูและอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักให้เกียรติผู้อื่นเสมอ อย่าไปพูดจาว่าร้ายหรือดูถูกผู้อื่น

นี่ก็เป็นหลักการง่าย ๆ ที่ผมใช้กับชีวิตจริง  ที่ผมได้ศึกษาและเรียนรู้มาจากกษัตริย์ของผม  นั่นก็คือ ในหลวงรัชกาลที่ 9  บุคคลอันเป็นที่เคารพยิ่งของชาวไทย  การที่ประเทศไทยมีต้นแบบที่ดีแบบนี้  ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินนี้  ได้พบพุทธศาสนาและได้ศึกษาถึงแก่นแท้ของความเป็นจริงของชีวิต  และกฎธรรมชาติ 

มนุษย์เราที่บางคนหลงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่  แท้ที่จริงคุณก็มาจากพื้นฐานเดียวกัน และหนีกฎแห่งกรรมไปไม่ได้  ในท้ายที่สุดคุณก็ต้องจากโลกใบนี้ไป เหลือไว้แต่ชื่อ บุญและบาปเท่านั้นที่ยังคงติดตัวคุณไปทุกภพชาติ  กรรมจากการกระทำของคุณจะจัดสรรให้คุณเอง  ชีวิตหลังความตายไม่มีใครอาจรู้ได้  สิ่งที่เรารู้ก็คือ ทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด  นั่นแหละคือชีวิตที่มีคุณค่ามากที่สุด  หยุดเถอะการบริโภคข่าวสาร ทางออนไลน์แล้วเอาแต่ตำหนิคนอื่น  จนลืมมาดูแล ใส่ใจ และหันมาพัฒนาตัวเองอย่างจริงจัง  การจะโพสรูป หรือคลิปอะไรก็ทำอย่างมีสติ  อย่าไปโพสด้วยความสะใจ  คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาให้มาก ๆ  แล้วคุณจะไม่เดือนร้อน  รวมถึงนำความเสียหายมาถึงตัวเองและคนอื่นด้วย  ฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ชีวิต ที่ไม่ต้องผูกมัดกับ กฎที่มนุษย์สร้างไว้


ชีวิต ที่ไม่ต้องผูกมัดกับ กฎที่มนุษย์สร้างไว้  
กฎที่มนุษย์สร้างขึ้นมา  และ  กฎที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมานั่น แตกต่างกันมากเราจะเห็นได้ว่า กฎที่ธรรมชาติสร้างมามักจะเกิดขึ้นจริง  และเป็นไปตามนั่นไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด
แต่ถ้าหากเป็นกฎที่มนุษย์ในสังคมได้สร้างขึ้นมาเองแล้ว  ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป  ถ้าจะมองกันว่ามนุษย์จำเป็นที่จะต้องเดินตามกฎเกณฑ์ที่ทางสังคมได้กำหนดไว้หรือไม่  สำหรับคำตอบนี้ ผมมองว่า กฎบางอย่างจำเป็น  แต่บางอย่างก็ไม่จำเป็น  มันขึ้นอยู่กับสังคมในแต่ละประเทศว่าผู้นำของประเทศเขาเคารพในกฎมากน้อยเพียงใด  
กฎเกณฑ์บางอย่างก็ไม่ได้เหมาะกับทุกที่  การอยู่ร่วมกันในสังคมบางที่  การไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากกลับทำให้สังคมน่าอยู่กว่าเดิม  แล้วอะไรละคือปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้น  นั่นก็เพราะว่าลึกๆแล้วมนุษย์ทุกคน  ต้องการมีชีวิตที่อิสระ และอยากที่จะเลือกในรูปแบบที่เขาเป็น  มนุษย์ทุกวันนี้มีความเครียดมากขึ้น  มีโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น  นั่นเพราะสังคมแบบทุนนิยม  ที่หลงพาให้เราไปหลงกลายเป็นทาสของเงิน  โดยทำงานเพื่อแลกกับเงิน  เราแทบจะไม่มีเวลาไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการจริง ๆ  แต่ถ้าหากคนที่ได้ทำในสิ่งที่เขารัก และมีความสุขไปกับมันนั่นก็ถือว่าดีมาก
บางทีการจะเดินออกจากจุดที่เราคิดว่ามันปลอดภัย  อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  แต่...บางทีความคิดที่ว่า...ที่ ๆ เรารู้สึกปลอดภัย  มันอาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เราคิดก็ได้  สังคมยุคนี้เป็นสังคมที่ภาพลวงตามันก็เยอะ  สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ได้เป็นในแบบที่คุณคิด  อะไรที่มันดูดีจนเกินไปก็อาจจะไม่ใช่ของจริง  เพราะฉะนั้นจงอย่าตัดสินอะไรแค่แรกเห็น  หรือหน้าปก  คุณอาจพลาดอะไรข้างในอีกมากมาย  การที่มนุษย์เราเดินตามในรูปแบบที่สังคมกำหนด  จนบางทีเราก็หมดความเป็นตัวตนของเรา และขาดศรัทธา  ขาดแรงจูงใจในการที่จะทำอะไรบางอย่างในชีวิต  พอมารู้ตัวอีกที เราก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว  
จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เรา  กว่าที่เราจะเข้าใจบางสิ่งบางอย่างได้  มันก็ต้องผ่านช่วงเวลาที่เลวร้าย หรือประสบการณ์ชีวิตมาบ้างแล้ว  การอ่านหนังสือทำให้เราเข้าใจภาพทุกอย่าง  แต่ก็สู้ไม่ได้กับการเจอเหตุการณ์บางอย่างด้วยตัวเอง  นั่นมันเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกมากกว่า  และเป็นบทเรียนที่บางทีเราก็ไม่อาจลืมมันได้  คนที่ได้รับบทเรียนชีวิตมาเยอะ  พวกเขาต่างก็รู้สึกผิดหวัง  แต่ด้วยความที่พวกเขาไม่ยอมล้มเลิก  พวกเขาจึงประสบความสำเร็จ  นี่ก็คือกฎที่ผมชอบและยังคงรักษาไว้  ต่างจากกฎบางอย่างที่มนุษย์เราตั้งขึ้น  มนุษย์จะรู้สึกอึดอัดกับกฎบางอย่างที่ตั้งขึ้น โดยปราศจากความชอบธรรม  เพียงเพราะเเค่ผลประโยชน์บางอย่างของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น  ความไม่ยุติธรรมจึงเกิดขึ้น  ที่สังคมวุ่นวายและไม่มีความสุขก็เพราะมนุษย์ต่างต้องการเป็นใหญ่  และกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองให้มากที่สุด
จนในที่สุดพอถึงวาระสุดท้ายก็แทบเอาอะไรไปไม่ได้  มานั่งเสียเวลากับอดีตที่ผ่านมา ที่ตัวเองมีโอกาสได้ทำสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เป็นความดี และเป็นประโยชน์ต่อสังคม  แต่ก็ไม่คิดจะทำ  อยากจะมาทำก็ตอนที่ใกล้ตาย  ตอนที่มัจจุราชมาทวงวิญญานคุณคืน  มนุษย์ถึงจะสำนึกได้ คนเราตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำความดีให้มาก ๆ  เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องจากโลกนี้ไป  นั่นแหละคุณถึงจะเริ่มเข้าใจกฎธรรมชาติอย่างแท้จริง





วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

อยุธยาเมืองเก่า


วันหยุดที่ผ่านมาผมมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดอยุธยา  นานมากแล้วที่ไม่ได้ไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้  ผมจำความได้ก็เมื่อประมาณ 17 ปีที่แล้ว  ผ่านไปนานมาแล้วอยุธยาก็ยังคงมีเสน่ห์ไม่ลืมเลือน  สมกับที่เป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศไทย  มีคนเคยกล่าวว่าถ้าเราอยากรู้จักปัจจุบัน  เราก็ควรลองย้อนที่มาที่ไปในอดีต สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตก็จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างได้เป็นอย่างดี

สำหรับทริปนี้การเดินทางผมเลือกใช้รถไฟในการเดินทาง  ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที จากหัวลำโพง ก็ถือดีเลยครับ  เพราะการเดินทางในปัจจุบัน รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หัวลำโพง สามารถเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหัวลำโพงที่เดินทางออกต่างจังหวัดได้  ปัจจุบันอยุธยาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากกระแสละครบุพเพสันนิวาส  ที่ทำให้คนไทยสนใจที่จะมาเที่ยวอยุธยากันมากยิ่งขึ้น  เพื่อที่จะมาชมเมืองเก่า  และเที่ยวชมประวัติดศาสตร์ที่ยาวนานนี้   

ทริปการเดินทางครั้งนี้ผมแนะนำท่านให้เช่าจักรยาน  หรือไม่ก็มอเตอร์ไซค์เพราะสะดวกดี  สำหรับชาวต่างชาตินิยมเช่าจักรยาน  เพื่อชมความงามของธรรมชาติ  ซึ่งสามารถปั่นจักรยานได้  สำหรับวัดที่ผมอยากจะแนะนำให้ท่านไป มีดังนี้



(รอบวงแหวนอยุธยา)

1.วัดมหาธาตุ
2.วัดพระศรีสรรเพชญ์
3.วัดราชบูรณะ
4.วัดโลกยุสุธาราม


(รอบนอกวงแหวน)

1.วัดไชยวัฒนาราม
2.วัดพระงาม
3.วัดพนัญเชิงวรมหาวิหาร
4.วัดใหญ่ชัยมงคล





สถานที่เหล่านี้เป็นสถานที่ผมแนะนำว่า  คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปอยุธยา  ส่วนสถานที่อื่น ๆ ก็สามารถปรับได้ตามความเหมาะสมของคุณ  โดยภาพรวมแล้วคนอยุธยาเป็นคนที่มีจิตใจที่ดี  มีบางที่อาจพูดจาแบบไม่ค่อยมีหางเสียงบาง แต่ทุกคนมีจิตใจที่ดี  ถ้ามีโอกาสสักครั้งก็อยากให้คุณได้ไปเที่ยวสักครั้ง




ประสบการณ์ในการเดินทางในครั้งนี้  ทำให้ผมได้รู้ว่าประเทศไทยมีสถานที่ ๆ น่าสนใจมากมาย  และควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง  ภายใต้ความวุ่นวายต่างๆ ของบ้านเมือง  แต่คนไทยก็ยังรัก  และมีน้ำใจต่อกัน  ช่างเป็นอะไรที่เราหาที่ไหนในโลกไม่ได้เลยครับ  ขอบคุณสำหรับทริปวัดหยุดนี้ และเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งของผม
 

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2562

โรคซึมเศร้าแก้ได้


ผู้คนยุคใหม่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้ากันมากขึ้น   ผมก้ได้ลองไปศึกษาคราว ๆ เกี่ยวกับโรคนี้  พบว่าสาเหตุหลัก ๆ  มาจากความผิดหวัง  การเลี้ยงดู  และเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้เกิดความสึกผิดหวัง  และเจ็บปวดกับเหตุการณ์บางอย่าง  จนเป็นโรคเครียดสะสม  พอสะสมไปนาน ๆ  ก็กลายเป็นภาวะซึมเศร้ากลายเป็นคนเก็บตัว  และบางทีคิดถึงแต่ความตาย  และอาจมีภาวะร้ายแรงไปจนถึงฆ่าตัวตายได้

ผมอยากจะบอกให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ก่อนว่า  คนเราเกิดมาเราย่อมเป็นทุกข์  และสุขปะปนกันไป  นั้นเป็นเรื่องธรรมดาของโลก  สิ่งที่ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์ใจมากทีสุดนั่นก็คือ  การไม่อยู่กับปัจจุบัน  และไม่รู้จักปล่อยวางกับชีวิต  บางทีการที่เราไปยึดมั่นถือมั่นมากเกินไป  ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามที่เราต้องการ  พอมันไม่ได้เป็นไปในแบบนั้น  ก็เลยทำให้เรามีความทุกข์เกิด  พอมีความทุกข์เกิดขึ้น ถ้าหากเราไม่รู้จักวิธีการจัดการกับปัญหา  ก็ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก  แล้วก็หมดพลังที่จะดึงศักยภาพตัวเองออกมาใช้  ตกอยู่ในภาวะสิ้นหวัง  หมดหวังหมดกำลังที่จะใช้ชีวิตต่อ

ใครที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อยู่  ผมอยากบอกคุณเอาไว้นะครับว่า  อย่าเพิ่งท้อใจไปความล้มเหลวนั้น  เป็นแค่จุดเริ่มต้นให้นำเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  ชีวิตของคนบางคน  ผมเข้าใจบางทีเขาขาดภูมิคุ้มกันที่ดี  นั่นก็คือ ชีวิตประสบแต่ความสำเร็จมาโดยตลอด  ไม่เคยล้มเหลวในชีวิตเลย  พอมาเจอเรื่องผิดหวังแค่ครั้งเดียว  เหมือนถูกทำลายชีวิตตัวเองไปเลย  ทำให้กลายเป็นคนคิดลบ  และหมดหวังที่จะใช้ชีวิตต่อ  ทั้งที่ในความเป็นจริง  ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณเคยสำเร็จมามากมาย  เพราะฉะนั้นอย่าเอาเหตุการณ์ที่ล้มเหลวในชีวิต  แค่ครั้งเดียวมาตัดสินคุณทั้งชีวิต  ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า  ทางข้างหน้าไม่มีใครรู้ได้ว่า  มันจะสวยงามหรือราบรื่นดีแค่ไหน  หน้าที่ของก็คือ  ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มันดีที่สุด  ทุกอย่างถ้าเราทำให้มันดีที่สุดแล้ว  เราก็ไม่ต้องไปกังวลกับอนาคตแล้วละครับ  ต่อให้มันอาจจะผิดพลาดไป หรือประสบความสำเร็จสูงสุด  เพราะเราได้ทำเต็มที่แล้ว  จงภูมิใจในการที่ตัวเราเองทุ่มเทให้กับงานทุกชิ้น  เพราะมันคือพลังชีวิตของคุณ

สิ่งที่เราคาดหวังบางทีมันอาจมีกำแพงกั้นเราไว้  ปัญหาและอุปสรรคล้วนแล้วแต่เป็นบททดสอบของมนุษย์  ที่มันจะผ่านเข้ามาเรื่อย ๆ  ความแตกต่างของมนุษย์คือ  การรู้จักตั้งคำถามให้กับตัวเอง  คุณตั้งคำถามพื้น ๆ แบบคนทั่วไป  หรือตั้งคำถามในเชิงลึก  ที่ทุกคนในแวดวงนั้น ๆ หรือไม่  คำถามที่ถูกต้องก็จะนำคำตอบที่ถูกต้องให้เสมอ  มันคือกฎธรรมชาติที่คุณจะเรียนรู้มันได้  และเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็ต่อเมื่อ  ตัวคุณได้ลองลงมือทำแล้วเท่านั้น  ได้มองเห็นปัญหาอย่างแท้จริง  จากการลงมือทำและการสอบถามจากผู้รู้  ไม่มีใครเก่งไปทุกอย่างหรือดีที่สุด  ทุกอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝน และจังหวะเวลาที่เหมาะสม  ขอให้คุณโชคดีกับความฝันของคุณ


วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ปลดล็อคตัวเอง


ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป  ล้วนมีผลต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่โดยสิ้นเชิง  เด็กยุคใหม่ที่โตมากลับเทคโนโลยี  ก็จะมองเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีมากกว่าผู้คนในยุคเรา  การหาความรู้ในยุคนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่  คุณสามารถหาข้อมูลทุกอย่างใน Google ได้ทันที  ทุกสิ่งดูเป็นเรื่องง่ายไปซะหมด   แต่ก็ช่างน่าแปลก  พอทุกอย่างดูง่ายไปหมด  แต่ช่างน่าแปลกผู้คนยุคหลังกลับประสบความสำเร็จน้อยลง  ถ้าเทียบกับยุคก่อนหน้า  อะไรละครับที่เป็นสาเหตุของเรื่องนี้

ก็เพราะทุกอย่างมันง่าย และสะดวกสบายไปหมด  ทำให้มนุษย์ยุคใหม่ใช้ความพยายามน้อยกว่าผู้คนในยุคก่อนหน้าเอามาก ๆ  พวกเขามีความตั้งใจและความอดทนน้อยกว่ามาก  ถึงแม้ว่าจะมีความรู้มากกว่าคนในยุคก่อนก็ตาม  เอาเข้าจริงพอเราลองมองย้อนกลับไปแล้ว  ยิ่งโลกพัฒนาไปมากเท่าไหร่ในท้ายที่สุด  มนุษย์กลับจำกัดตัวเอง  เพียงเพราะคำนิยมที่ว่า "อาชีพ"  มาปิดกั้นตัวเองไม่ให้สามารถทำสิ่งนั้น  โน่น นี่ได้อย่างเช่นก่อน

ย้อนไปในยุคก่อนหน้าที่จะพูดถึงเรื่องการจ้างงาน  มนุษย์ทุกคนสามารถเลือกอาชีพตามแต่ที่ตัวเองชอบ และตามความสนใจของตัวเอง  ในปัจจุบันเราเลือกอาชีพจากค่านิยมของสังคม  พร้อมกับเงินเดือนที่สูง  เป็นการตอบแทน  ในยุคทุนนิยมที่ให้คุณค่าของเงิน เป็นเครื่องหมายของความสำเร็จ  เราไปจำกัดคำนิยามของอาชีพกันเอาไว้  เพียงเพราะใบปริญญา  เพียงแค่ว่าฉันจบมาด้วยวุฒิการศึกษาแบบนี้  และต้องทำงานสายงานนี้  เป็นสายงานที่ฉันเรียนมา  ถึงแม้จะชอบหรือไม่ก็ตาม  เราไปจำกัดความสามารถของตัวเอง  พอยิ่งนานวันเข้า  เรากลายเป็นคนที่ไม่รู้ถึงคุณค่าของตัวเอง  และยิ่งนานวันเข้างานที่ทำ   กลับกัดกินวิญญานของคุณไปเรื่อย ๆ  จนหมดพลังไปในที่สุด

เรื่องนี้ที่ผมเขียนขึ้นเพียงเพื่อต้องการเตือนสติให้คุณไงละครับว่า  อย่าจำกัดความสามารถของตัวเอง  เพียงเพราะคำว่าอาชีพ  แต่จงปลดปล่อยพลังงาน และความสามารถของคุณ ดึงศักยภาพของคุณออกมาใช้อย่างเต็มที่  ทุกอย่างมันมีเส้นกั้นบาง ๆ  ของคนที่สำเร็จและไม่สำเร็จ  นั่นก็คือความคิด ทัศนคติต่อตัวเองและผู้อื่น  รวมถึงการฝึกตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่คำตอบ  เราต้องปลดล็อคความสามารถภายในของเราตรงนี้ออกมาให้ได้  ถ้าคุณสามารถปลดล็อคมันได้  นอกจากคุณจะช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว  คุณยังสามารถส่งต่อพลังงานนี้ไปยังผู้อื่นได้ด้วย  เราอาจตกเป็นทาสของวัตถุสิ่งของมากมาย  จนทำให้เราหลงทาง  ลืมเป้าหมายที่เราได้ตั้งใจเอาไว้ 

ขอให้คุณนึกถึงความตั้งใจแรก  ความตั้งใจที่แท้จริงของคุณเอาไว้  บางทีมันอาจจะขัดแย้งกันบ้าง  ในบางอารมณ์   คุณจำเป็นต้องมีวินัยเป็นอย่างยิ่งในการใช้ชีวิต  มันจะมีสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ให้คุณเข้ามาตลอดเวลา  เพื่อให้คุณกลายเป็นคนอ่อนแอ  หลงทางและสับสนกับกับชีวิตที่เป็นอยู่  มองไม่แม้กระทั่งเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง ขอให้คุณโฟกัสถึงเป้าหมายที่คุณได้ตั้งใจเอาไว้  อดทนอีกสักนิด   แล้วคุณจะพบทางออกให้กับทุกปัญหาได้  จำเอาไว้ว่าไม่มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนใจคุณได้  นอกจากตัวคุณเท่านั้น  ทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวคุณเองก่อน  เอาละครับวันนี้คุณพร้อมหรือยัง


วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

ปลุกพลังในตัวคุณ


เราอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน  ความไม่แน่นอนนี่แหละ เป็นที่สิ่งทำให้มนุษย์กลัวกันเหลือเกิน  เราไม่อยู่กับปัจจุบัน  เราพยายามเอาชีวิตของเราเข้าไปอยู่กับอดีต  และอนาคตที่เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร  ยิ่งเราพยายามค้นหาคำตอบให้กับบางสิ่งบางอย่าง  มันก็ยิ่งจะห่างไกลไปทุกที เหมือนกับว่า  สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นเหมือนกับอากาศที่พยายามจะคว้ามันเอามาให้ได้  แต่ในที่สุดก็คว้าน้ำเหลว

โลกยิ่งพัฒนาไปมากขึ้นเท่าไหร่  แต่จิตใจมนุษย์กลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่โลกพยายามพัฒนาขึ้น  เรามีความต้องการมากขึ้น  ความโลภมากขึ้น  หรือแม้กระทั่งโรคภัยที่ตามมากับชีวิตปัจจุบัน  อันได้แก่ โรคซึมเศร้า  ภาวะนี้เป็นภาวะเหมือนคนที่อยู่ไปแบบไร้คุณค่า  ไม่รู้จะหาทางออกให้กับปัญหาของชีวิตไปอย่างไร  ไม่ต่างจากคนที่ตายครึ่งซีก

เมื่อคุณรู้สึกตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้า  คุณอย่าเก็บตัวเองอยู่คนเดียว  ควรหากิจกรรมอะไรทำก่อน  ลืมบางเรื่องไป  พอจิตใจคุณเริ่มสงบ  สิ่งแรกที่ควรทำก่อนคือ รักษาสภาวะนั้นด้วยการนั่งสมาธิ  ฝึกจิตใจให้สงบอยู่ตลอดเวลา  หลายต่อหลายคนมีปัญหาในชีวิต  ปัญหาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาพื้นฐานของมนุษย์  ที่ไม่ว่าสักครั้งคุณจะต้องเจอมันอยู่แล้ว  สถานการณ์อาจแค่แตกต่างกันไปตามแต่ประสบการณ์  ว่าคุณจะสามารถรับมือกับปัญหาได้มากน้อยสักแค่ไหน

ข้อสำคัญที่สุดก็คือ  การอยู่กับปัจจุบันและกล้าที่จะยอมรับความจริงที่อยู่ตรงหน้า  บางทีเรื่องที่คุณทุกข์ใจมากมายนั้น  พอเวลามันผ่านไปแล้ว  แท้ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรเลย  ปัญหาทุกอย่างมีทางออกของมัน  ผมไม่อยากให้คุณไปคิดสั้น  หากหาทางออกไม่เจอจริง ๆ  ก็ลองออกจากโซนเดิม ๆ ของชีวิต  ไปลองหาเส้นทางใหม่ ๆ ทำดูครับ  บางทีปัญหาที่มันเกิดขึ้น  ก็เพราะต้องการให้เราได้หาคำตอบบางอย่างให้กับชีวิตของเรา  บางอย่างที่เราลืมมันไปแล้ว  เพื่อต้องการปลุกไฟในตัวเราขึ้นมา  ความฝันที่ยังไม่สำเร็จ  ความปรารถนาลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ  สิ่งเหล่านี้เพื่อต้องการเปิดทางให้กับคุณอยู่  แล้วลุกขึ้นมาทำความฝันของคุณให้มันเป็นจริง

มันอาจใช่ครับบางทีเราอาจหาข้ออ้างให้กับตัวเองมากมาย  เพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองออกจากโซนเดิม ๆ  แล้วไปวิ่งหาสิ่งที่เราไม่รู้จัก  มันมีความกลัวเกิดขึ้นมากมาย  และความไม่มั่นคงที่ยังคงรอคุณอยู่  เพียงแค่คุณต้องก้าวข้ามกำแพงที่ปิดกั้นตัวคุณเอาไว้  ทลายกำแพงที่อยู่ในใจคุณให้มันพังลง  ทางเลือกใหม่ ๆ  ที่คุณอาจไม่ได้คาดคิดเอาไว้  สร้างคุณค่าและศรัทธาให้กับตัวคุณเองให้มาก ๆ  ผมเชื่อมั่นครับว่าคุณต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน  เดินทีละก้าวอย่างช้า ๆ ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ สร้างมันขึ้นมาทีละนิด  ตึกที่ใหญ่โตก็เริ่มจากอิฐก้อนเล็ก ๆ นั้นแหละครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562

ความเคารพในตัวเอง


คุณเคยมีคนที่คุณแอบชอบ หรือชื่นชมใครบางคนไหม  รู้สึกว่าประทับใจอยากจะรู้จัก อยากจะเป็นเหมือนกับเขา  เขาช่างมีเสน่ห์และชวนดึงดูดเป็นอย่างมาก  นั่นก็คือเหตุผลที่ผมเข้ามาพูดประเด็นนี้  นั่นก็เพราะว่า  เขาคนนั้นมีความเคารถในตัวเขาเอง  แล้วมีบางอย่างที่คุณและคนอื่น ๆ สามารถมองเห็นได้ แล้วเกิดความประทับใจขึ้นมา

เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกว่า  เขาหมดศรัทธาในตัวเอง  ไม่เคารถในตัวเองบางทีกลายเป็นคนคิดลบ  กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ  ชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่มีความสำคัญ  ไม่มีประโยชน์  บางทีก็เผลอเอาตัวเราเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  นั่นก็เพราะว่าคุณกำลังไม่เคารพนั่นเอง

วิธีที่จะยังคงดึงคุณค่าในตัวคุณเอง  และยังศรัทธาในตัวคุณเองนั้น  คุณต้องปลุกพลังตัวเองขึ้นมาก่อน หากิจกรรมให้ตัวเองได้ทำ  ตั้งเป้าหมายของตัวเอง และมีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต อย่างที่ผมเคยพูดไปในหลาย ๆ ครั้งว่า ไม่มีใครจะลดคุณค่าของตัวคุณเองได้  นอกจากตัวคุณนั้นแหละ  ทีนี้ถ้ากลับมาถามว่า ถ้าหากเราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้  เราควรจะทำอย่างไรดี

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เรียกพลังของตัวเองกลับมาก่อน  พาตัวเองให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนคิดบวก  เพื่อเรียกพลังงานของเรากลับมา  บางทีเราก็อาจเลือกไม่ได้ที่เราต้องพบเจอ กับบางสิ่งที่เราไม่อาจคาดคิดเอาไว้  แต่เราเลือกที่จะรับรู้ข้อมูลได้  คนที่ฝึกจิตตัวเอง และมีความมั่นใจ เคารพในตัวเอง  เล็งเห็นคุณค่าในตัวเอง  และความสามารถที่มีอยู่  คุณต้องเเสดงมันออกมา  อย่าไปปิดกั้นหรือไม่มั่นใจในตัวเอง  การที่คุณฝึกนิสัยให้ตัวเองเป็นคนที่ดูดี มีความมั่นใจในตัวเองอยู่เสมอ  จะมีคนเข้าหาและพวกเขาจะเชื่อมั่นในตัวของคุณ

สิ่งนี้จะบ่งบอกและสะท้อนออกมา  ทำให้คุณเป็นคนมีเสน่ห์  มีสิ่งแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาหาคุณ  มันไม่ใช่เพราะโชคช่วย  แต่มันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง  และการสร้างพลังจิตสำนึกที่รักตัวเอง แบบมากๆ  ไม่ยอมให้อะไรมาปิดกั้น  หรือมาทำลายตัวคุณได้  สิ่งเหล่านี้ก็เลยดึงดูดแต่สิ่งที่ดีงามเข้าหาตัวคุณ  คุณจะเป็นอย่างไร  นั่นก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิดและการปฎิบัติของคุณนั่นเอง  อย่ายอมให้ใครมาดูถูกตัวคุณได้ว่าคุณไม่เอาไหน  แล้วทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยคุณค่าลงได้  เกิดเป็นมนุษย์มีสองมือเหมือนกัน  และคุณก็มีความสามารถไม่น้อยไปกว่าใครทั้งนั้น  คุณสามารถเป็นอะไรก็ได้ตามแต่ที่จิตใจคุณปรารถนา  จิตเป็นนาย  กายเป็นบ่าว  เพราะฉะนั้นจงฝึกจิตใจของคุณให้เข็มเเข็งอยู่เสมอ  เส้นทางแห่งความสำเร็จมันก็ต้องเริ่มจากการเตรียมพร้อมจิตใจของคุณนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2562

พลังงานของคนคิดบวก


บางสิ่งบางอย่าง  เราไม่สามารถจะไปเปลี่ยนนิสัยใจคอใครได้  คนที่ทำได้ก็สุดยอดแล้วครับ  คนบางคนเกิดมาโชคดี  มีฐานะการงานการเงินที่ดี  ปัญหาที่พวกเขาพบเจอ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาอีกแบบหนึ่ง  ต่างกับคนที่ไม่มี  ปัญหาก็จะเยอะขึ้นมาหน่อย  แล้วแต่ว่าจะเจออะไร  แต่ในท้ายที่สุดทุกคนต่างต้องเรียนรู้  ไม่ว่าอย่างใดก็อย่างหนึ่ง  เพื่อให้ตัวเองได้รับบทเรียนในการใช้ชีวิต  บทเรียนเหล่านี้ก็เพื่อให้เราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่

บนเส้นทางแห่งชีวิต  เราเคยฝันไว้ว่าทุกสิ่งต้องเป็นไปอย่างที่เราหวังเอาไว้  แต่ในความเป็นจริง  สิ่งที่เราหวังเอาไว้มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราหวัง  ทุกสิ่งมีเหตุและปัจจัยของมัน  บางอย่างถ้าไม่ถึงเวลาของมัน  มันก็คือไม่ถึงเวลา เราต้องรู้จักรอจังหวะเวลาและโอกาส  เมื่อโอกาสเข้ามาถึงก็ต้องรีบคว้าเอาไว้  ทำตัวเองให้พร้อมเสมอ  ถึงแม้ว่าตอนนี้โอกาสยังมาไม่ถึง  แต่ก็ไม่แน่ว่าจะไม่มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต  ขอให้คุณจงเป็นคนรักสนุก  และตื่นเต้นกับทุกสิ่งรอบตัว

บางทีเราต้องทำตัวเองให้กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม  สิ่งที่เราเลือกและให้ตัวเราเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  เมื่อเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  พบเจอแต่คนดี ๆ  เราก็จะมีความคิดที่ดีส่งเสริมกันไปในทางที่ชี้นำให้เราพบเจอแต่ความสำเร็จ  คนที่ฝึกคิดบวกตั้งแต่เด็ก  เมื่อเขาโตขึ้น  ต่อให้เขาต้องไปเจอกับสภาพแวดล้อมที่แย่แค่ไหน  ในที่สุดเขาจะผลักตัวเอง  ให้ไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นเสมอนั่นก็เพราะ  เขามีพลังงานบวก  ที่สามารถดึงดูดสิ่งต่าง ๆ รอบตัว 

การอยู่กับคนคิดบวก  เราก็จะได้รับแต่พลังงานบวก  ถึงแม้ว่าตัวเราจะเป็นคนคิดลบก็ตาม  คนที่คิดบวกทุกอย่างจะดูง่ายไปหมด  มองเห็นทางออกของทุกปัญหา  ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคนที่คิดบวก  ผลลัพธ์ที่ออกมาและการนำเสนอ  ก็จะเป็นไปในทางที่ดีเสมอ  เพราะเขาเป็นคนที่คิดดี พูดดี นั้นเอง  บางทีอาจดูยากในการจะทำแบบนี้  แต่ถ้าฝึกจนเป็นนิสัยแล้ว  ผมมั่นใจว่าคุณก็คือคนหนึ่ง ที่มีพื้นฐานของความสำเร็จ  จงรีบปูพื้นฐานของคุณไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ  ความสำเร็จกำลังรอคุณอยู่

เราอยู่บนโลกนี้ไม่นาน  อย่าไปโกรธหรือเกลียดใครเขาเลยครับ  เลือกใช้ชีวิตในทางบวกเสมอ  ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหน  แล้วสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาตัวคุณโดยไม่รู้ตัว  นั่นเพราะคุณมีพลังงานของคนคิดบวก  มองเห็นภาพตัวเอง  ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า  มองเห็นความสำเร็จอย่างชัดเจน แล้วทำให้มันเป็นจริงขึ้น  อย่าเอาแต่กลัว  ลงมือทำไปเรื่อย ๆ  แล้วผลลัพธ์มันจะตอบคุณเอง  โชคดีกับวันสุดสัปดาห์ครับ

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

สมาธิช่วยได้จริง


ตามหลักพุทธศาสนาเราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า  การให้ทานและการทำบุญรักษาศีล รวมไปถึงการภาวนาสิ่งเหล่านี้จะต้องทำควบคู่กันไป  ถึงจะได้อานิสงค์อย่างแรงกล้า  แล้วการภาวนามีผลสูงสุดอย่างไร  เราจะทราบได้อย่างไร

คำตอบนี้เป็นปัจตังจริง ๆ ครับ  ตามที่พระท่านพูดว่า รู้ได้เฉพาะตน ถ้าถามตัวผมจิตที่ตื่นรู้เป็นอย่างไร  ผมก็จะตบว่า  การมีสติ และรู้ถึงปัจจุบันขณะตลอดเวลา  จิตของเราจะรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา  ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เราตื่นหรือขณะที่เรานอนหลับ  บางทีอาจมีเหตุการณ์ที่เรารู้ล่วงหน้าได้โดยที่เราไม่รู้ตัว  เหมือนจิตมันบอกล่วงหน้า  ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ฝึกสมาธิบ่อย ๆ 

การฝึกจิตตามหลักอานาปานสติถือเป็นเรื่องที่ดี  จะทำให้จิตเรานิ่งและอยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา  โลกใบนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย  นั้นเพราะเราไม่รู้จักความพอดี  และมองเห็นแต่ข้อเสียของคนอื่น  รวมทั้งความรัก โลภ โกรธ หลงในตัวเราเองด้วย  จิตที่ไม่มีการฝึกก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ  นั่นเป็นธรรมดาของโลก  การรักษาสภาวะจิตนั่นดีอย่างไร  สภาวะจิตตอนใกล้ตายยังไงละครับ  จิตเราจะปั่นปวนรุ่นแรง  เนื่องจากอากาศธาตุกำลังจะแตกดับ  จากภพภูมิหนึ่งไปยังอีกภพภูมิหนึ่ง  การฝึกสมาธิจึงช่วยให้  สามารถทำให้เราควบคุมอารมณ์ไม่ให้หลงตาย 

แล้วเป็นให้ปัจจัยที่ทำให้คุณไปสู่ภพภูมิที่ดีได้  มันอาจฟังดูแปลกแต่สำหรับนักปฎิบัติ  สิ่งเหล่านี้เรารู้และเข้าใจกันดี  การที่คนหนึ่งมีบารมีมาก  มีทรัพย์สินเงินทองมาก  นั่นก็เพราะเหตุและปัจจัยที่เขาเคยทำไว้ในอดีตและการสั่งสมในชาติปัจจุบัน  ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลของการกระทำด้วยกันทั้งนั้น  เพราะฉะนั้นจงตั้งตัวเองให้อยู่ในความไม่ประมาท

สรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  เราต้องทำตัวเองให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง  และอยู่กับปัจจุบัน  จงเป็นผู้ตื่นรู้  และมองเห็นสภาพทุกอย่างตามความเป็นจริง  ลด ละ เลิก อบายมุขต่าง ๆ หรือที่ที่จะพาให้เราตกต่ำได้  การคบค้ากับสมาคมกับนักปราชญ์  ก็ทำให้เราได้รับอานิสงค์อย่างยิ่งใหญ่  เป็นการต่อบุญบารมี  ในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป  ดึงตัวเองให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ๆ  แล้วชีวิตคุณก็จะมีแต่เจริญขึ้น  และพบเจอแต่สิ่งที่ดีไปทั้งชีวิต  วันนี้ก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับ  ขอให้ทุกท่านลองฝึกสมาธิดูนะครับ  มันช่วยได้จริง ๆ

วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

ปรับคำนิยามในชีวิตของตัวเองใหม่



หลายคนเคยตั้งคำถาม  เมื่อไรกันนะชีวิตของฉันถึงจะหลุดพ้นจากคำว่า  ความเป็นอยู่ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ  เพื่อทำงาน  และได้รับผลตอบเเทนในรูปของค่าจ้าง  แล้วเราจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน  มันอาจเป็นสิ่งที่โชคดีสำหรับใครบางคน  ที่ได้เจองานที่ตัวเองรักและชอบ  ทำไปแบบไม่รู้จักเบื่อหน่าย  แต่สำหรับใครหลาย ๆ  บางทีกลับถึงบ้าน  ต้องมานั่งตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาว่า  อะไรกันแน่ที่บงการเราอยู่  แล้วเราจะผ่านจุดนี้ไปได้อย่างไร  "ฉันมาทำอะไรทีนี้  หรือฉันกำลังทำอะไรอยู่"

สิ่งที่เป็นปัญหาเรื้อรังมากกว่านั้นของมนุษย์ยุคนี้ก็คือ  ยิ่งเราทำงานหนักขึ้น  มีความเครียดมากขึ้น  เรากลับสนองความต้องการของตัวเองมากขึ้น  ด้วยการมีบ้านหลังใหญ่  รถคันโต และของใช้ฟุ่มเฟือยในราคาที่แสนแพง  เกินความจำเป็น  เพียงเพราะคิดว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ตอบสนองความต้องการ  และมีหน้าตาในทางสังคม   หากคุณคิดย้อนกลับ  มันใช่จริง ๆ หรือ ?  สิ่งที่คุณทำงานหนักมาทั้งชีวิต  เพียงเพื่อต้องการสิ่งนี้จริงหรือไม่

คำตอบในใจหลายท่านอาจว่างเปล่า  หาแก่นแท้ของความหมายในชีวิตไม่เจอ  นั่นก็เพราะว่าเรากำลังวิ่งตามคนส่วนใหญ่อยู่  โดยที่เราไม่รู้ตัว  กลายเป็นสูตรสำเร็จรูปในการใช้ชีวิต  วันนี้ที่ผมมากล่าวเรื่องนี้ก็เพราะว่า  ถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่คุณท่านทั้งหลาย  ต้องมาให้คำนิยามกลับชีวิตตัวเราเองใหม่  โดยตัดคำว่าเงิน หรือค่าจ้างออกไปก่อน  แล้วมาโฟกัสว่า  ชีวิตที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้  เราต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือไม่  บางคนอยากเที่ยวรอบโลก  อยากมีเวลาไปนอนพักผ่อน ริมชายทะเลสักเดือน สองเดือน  อยากใช้ชีวิตในการล่องเรือเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ

นั่นแหละครับแท้จริงแล้วเราก็แค่มนุษย์ที่เกิดมาบนโลก  เราต่างต้องการความสุข  ความเป็นอิสระและมีชีวิตในรูปแบบที่เราเลือกได้  ไม่ต้องการตกเป็นทาสของสิ่งใด  แต่ด้วยโลกทุนนิยม  บังคับเราต้องทำบางสิ่ง  เพียงเพื่อเป็นการเลี้ยงชีพ  และสร้างความมั่งคั่ง ร่ำรวย ในรูปแบบสังคมยุคใหม่  ที่บูชาเงินเสมือนเป็นพระเจ้า  แท้ที่จริงโดยเริ่มแรก  เงินก็เป็นแค่เครื่องมือชนิดหนึ่ง  ที่เราใช้ในการแลกเปลี่ยนบางสิ่งขึ้นมาเท่านั้น 

เรามองโลกผิดใบ  เมื่อเรามองย้อนกลับไปเมื่อก่อน  สังคมยุคก่อนไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเงินตราขนาดนี้  แต่ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเองไป  เพียงแค่รูปแบบอาจเปลี่ยนไป  ลองหันกลับมาตั้งนิยามชีวิตกับตัวเองใหม่นะครับ  กลับมาเป็นตัวตนที่แท้จริงของเรา  แล้วคุณจะเห็นว่าโลกใบนี้มีอะไรให้ทำตั้งมากมาย  มีสิ่งวิเศษ  สิ่งมหัศจรรย์รอคุณอยู่  เพียงแค่คุณต้องเปิดใจและเรียนรู้กับมัน  ออกไปเจอโลกข้างนอกบ้าง  อย่าอยู่ในโซนที่คิดว่าทำให้ตัวเองปลอดภัย  หนทางใหม่อาจทำให้คุณเจอคนใหม่ ๆ  และอาจเป็นเส้นทางที่คุณไม่คาดคิด  หรือเป็นเส้นทางที่คุณฝันมันมาทั้งชีวิตก็ได้ ....

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2562

บางอย่างเราไม่สามารถสอนกันได้


ในความเป็นจริง  เราไม่อาจกำหนดทางเดินชีวิตของใครได้  มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่สามารถกำหนดทางเดินของตัวเราเองได้  ในบางครั้งเราก็แอบคิดว่า

ทำไมคนนั้นไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้  ทั้งที่ปัญหามันไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย  นั่นก็เพราะว่าคนเราทำกรรมมาไม่เท่ากัน  ระดับสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาก็แตกต่างกันไป  ประสบการณ์เท่านั้นที่จะเป็นบทเรียนสอน   บุคคลๆนั้นได้ดีที่สุด  เขาต้องเรียนรู้ด้วยตัวของตัวเอง  แล้วเขาจึงจะเข้าใจในสิ่งนั้นได้เอง  เราไม่สามารถไปบอกเขาได้ทุกอย่าง

ธรรมชาติจะให้บทเรียนกับเขา  ในเรื่องนี้ซ้ำ ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะยอมรับบทเรียนที่เกิดขึ้น  ด้วยตัวของตัวเอง  เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเขาก็จะได้รับบทเรียนที่เพียงพอ  จนในที่สุดเขาก็จะเติบโตด้วยปัญหาที่เขาเป็นคนก่อขึ้นมานั่นเอง  เรื่องบางเรื่องมันสอนกันยากจริง ๆ ครับ  จนกว่าเขาจะเจอด้วยตัวของตัวเอง

โลกเรานี้มันก็แปลกนะครับ  คนที่ต้องการได้ทุกอย่างกลับต้องเป็นคนที่อาจจะต้องสูญเสียทุกอย่าง  คนที่ไม่ต้องการได้อะไรในทางกลับกัน  เขากลับได้ทุกอย่าง  นั่นก็เพราะว่า  สิ่งที่คู่ควรมักจะดึงดูดเข้าหากัน  ด้วยสิ่งที่คู่ควร หรือเหมาะสมเป็นกฎทางธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนรับรู้  แต่ไม่เคยเรียนรู้  เพื่อสร้างความเข้าใจ  พอไม่เรียนรู้ปัญหาที่ตามมาก็คือความโลภ  ความทุกข์ใจ  และการไม่ยอมรับความเป็นจริง  เพียงเราหยุดนิ่ง  แล้วเปิดตายอมรับความเป็นจริง  เปิดมุมมองใหม่ๆ

คุณจะพบว่า...โลกใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน  เกินกว่าที่คุณจะอธิบายได้  ฝึกตัวเองให้เป็นคนคิดบวกให้มาก ๆ เพราะอะไรนะหรือครับ  เพราะไม่ว่าคุณจะเจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน  มักจะมีพลังงานบวกเข้ามากลบตลอดเวลา  ทำให้คุณกลายเป็นคนที่ทำอะไรก็ประสบพบเจอแต่โชคดี 

อดีตบางอย่างที่มันผ่านไปแล้ว  ก็อย่าเก็บมาคิดหรือฝังใจตัวเองเลยครับ  เป็นคนใหม่และก้าวต่อไป  ถ้าจะว่ากันไปแล้วมันเป็นธรรมดาของโลก  ที่เราต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย  ทั้งดีและร้าย  แต่สิ่งเหล่านั้น ต่างก็ให้บทเรียนที่สวยงามกับคุณได้เสมอ  ล้มแล้วก็ลุกขึ้นใหม่  ก้าวต่อไปเพื่อวันข้างหน้า  สิ่งดีๆกำลังรอคุณอยู่  ไม่มีอะไรที่จะฉุดคุณให้ตกต่ำลงได้  ถ้าคุณไม่ยอมให้คใครมาฉุดตัวคุณ  เวลาที่คุณท้อใจก็บอกกับตัวเองว่า  ฮึดสู้อีกสักครั้งหนึ่งนะ  อีกสักครั้งแล้วมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้  ฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...