ในความเป็นจริง เราไม่อาจกำหนดทางเดินชีวิตของใครได้ มีแต่ตัวเราเท่านั้นที่สามารถกำหนดทางเดินของตัวเราเองได้ ในบางครั้งเราก็แอบคิดว่า
ทำไมคนนั้นไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ ทั้งที่ปัญหามันไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย นั่นก็เพราะว่าคนเราทำกรรมมาไม่เท่ากัน ระดับสติปัญญาในการแก้ไขปัญหาก็แตกต่างกันไป ประสบการณ์เท่านั้นที่จะเป็นบทเรียนสอน บุคคลๆนั้นได้ดีที่สุด เขาต้องเรียนรู้ด้วยตัวของตัวเอง แล้วเขาจึงจะเข้าใจในสิ่งนั้นได้เอง เราไม่สามารถไปบอกเขาได้ทุกอย่าง
ธรรมชาติจะให้บทเรียนกับเขา ในเรื่องนี้ซ้ำ ๆ แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะยอมรับบทเรียนที่เกิดขึ้น ด้วยตัวของตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเขาก็จะได้รับบทเรียนที่เพียงพอ จนในที่สุดเขาก็จะเติบโตด้วยปัญหาที่เขาเป็นคนก่อขึ้นมานั่นเอง เรื่องบางเรื่องมันสอนกันยากจริง ๆ ครับ จนกว่าเขาจะเจอด้วยตัวของตัวเอง
โลกเรานี้มันก็แปลกนะครับ คนที่ต้องการได้ทุกอย่างกลับต้องเป็นคนที่อาจจะต้องสูญเสียทุกอย่าง คนที่ไม่ต้องการได้อะไรในทางกลับกัน เขากลับได้ทุกอย่าง นั่นก็เพราะว่า สิ่งที่คู่ควรมักจะดึงดูดเข้าหากัน ด้วยสิ่งที่คู่ควร หรือเหมาะสมเป็นกฎทางธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนรับรู้ แต่ไม่เคยเรียนรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจ พอไม่เรียนรู้ปัญหาที่ตามมาก็คือความโลภ ความทุกข์ใจ และการไม่ยอมรับความเป็นจริง เพียงเราหยุดนิ่ง แล้วเปิดตายอมรับความเป็นจริง เปิดมุมมองใหม่ๆ
คุณจะพบว่า...โลกใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน เกินกว่าที่คุณจะอธิบายได้ ฝึกตัวเองให้เป็นคนคิดบวกให้มาก ๆ เพราะอะไรนะหรือครับ เพราะไม่ว่าคุณจะเจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน มักจะมีพลังงานบวกเข้ามากลบตลอดเวลา ทำให้คุณกลายเป็นคนที่ทำอะไรก็ประสบพบเจอแต่โชคดี
อดีตบางอย่างที่มันผ่านไปแล้ว ก็อย่าเก็บมาคิดหรือฝังใจตัวเองเลยครับ เป็นคนใหม่และก้าวต่อไป ถ้าจะว่ากันไปแล้วมันเป็นธรรมดาของโลก ที่เราต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งดีและร้าย แต่สิ่งเหล่านั้น ต่างก็ให้บทเรียนที่สวยงามกับคุณได้เสมอ ล้มแล้วก็ลุกขึ้นใหม่ ก้าวต่อไปเพื่อวันข้างหน้า สิ่งดีๆกำลังรอคุณอยู่ ไม่มีอะไรที่จะฉุดคุณให้ตกต่ำลงได้ ถ้าคุณไม่ยอมให้คใครมาฉุดตัวคุณ เวลาที่คุณท้อใจก็บอกกับตัวเองว่า ฮึดสู้อีกสักครั้งหนึ่งนะ อีกสักครั้งแล้วมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้ ฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น