วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วินัยในตัวเอง




            เชื่อไหมครับว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จพื้นฐานก็คือการสร้างวินัยให้กับตัวเองนั้นแหละครับ  วินัย ก็คือ ความมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การใช้วินัยถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก วินัยในที่นี้อาจจะหมายถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ด้วยก็ได้ครับ เช่น

1.ฉันจะมีเงินเก็บ 300,000 บาท ภายในระยะเวลา 1 ปี
2.ฉันจะอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองทุกวัน
3.ฉันจะเรียนรู้ศึกษาภาษาอังกฤษทุกวัน

         เหล่านี้นะครับล้วนต้องอาศัยวินัยในการปฏิบัติทั้งนั้น  ฝึกฝนตัวเองตั้งแต่วันนี้นะครับ ไม่ต้องไปกังวล ลังเลหรือสงสัยในสิ่งเหล่านี้ เพราะการที่บุคคลทำอะไรที่สม่ำเสมอย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ครับ จำไว้เลยว่า "กำแพงเมืองจีน ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว"

วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นาฬิกาชีวิตกับเป้าหมายชีวิต

         

              สวัสดีเช้าวันเสาร์ เชื่อว่าหลายท่านก็คงยังอยู่บนที่นอนกันอยู่ วันนี้ผมจะมาขอพูดถึงเรื่องของนาฬิกาของชีวิตกับเป้าหมายกันนะครับ
         นาฬิกาชีวิตกับเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งที่ทำควบคู่กันได้
                 1.ช่วงอายุ 0-20  เป้าหมายเรา  คือ  เรียนหนังสือ
                 2.ช่วงอายุ 20-40 เป้าหมายเรา คือ .......................
                 3.ช่วงอายุ 40-60 เป้าหมายเรา คือ ........................
                 4.ช่วงอายุ 60-80 เป้าหมายเรา คือ ........................

            เห็นไหมครับว่าช่วงชีวิตของคนเราดูจริงเเล้วก็มีแค่ 4 ช่วงเท่านั้นเอง  ฉะนั้นเราต้องหมั่นสำรวจตัวเองแล้วว่าเราอยู่จุดไหน  และจะไปตรงจุดไหน  อย่างเช่น คนอายุ 40 ถือเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้วควรตรวจสอบชีวิตแล้วว่าตัวเองมีอะไรแล้วบ้าง และควรจะเพิ่มหรือปรับปรุงอะไรให้ชีวิตในช่วงครึ่งหลังเพิ่มเติม  ชีวิตคนเราไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม จะถูกหรือผิดก็ขึ้นอยู่กับการเลือกเรารู้จัก"กฎและกติกาของชีวิต" มากน้อยขนาดไหน เอาเข้าจริงชีวิตเราก็มีกฎอยู่ 2 ข้อแหละครับ
                 1.ถ้าคุณทำถูกกติกา  คุณก็ประสบความสำเร็จ
                 2.ถ้าคุณทำผิดกติกา  คุณก็ไม่ประสบความสำเร็จ
          คนที่เข้าใจสัจธรรมของชีวิต มองโลกด้วยตาใน ไม่ว่าจะเป็น การกระทำ ความคิด หรือคำพูด แม้แต่กระทั่งการดำเนินชีวิต  "Focus" ให้ถูกจุดสนใจเรื่องของตัวเองรับผิดชอบตัวเอง รู้ในสิ่งที่ควรรู้ ทำตามแบบแผน รู้ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร และเมื่อไหร  จากนั้นก็ลงมือทำตามเขา มุ่งมั่น + ความสามารถ +ความพยายาม ผมเชื่อว่า ทำอะไรผลลัพธ์ย่อมได้อย่างนั้นครับ
        หากเราเข้าถึง "สัจธรรม" และความเป็น "ธรรมชาติ" ของโลก เราก็จะเข้าใจถึงความสำเร็จ ว่าจำเป็นต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?  ส่วนตัวผมว่าสิ่งที่ต้องมีคือ
= ต่อสู้ + อดทน +เชื่อมั่น +ซื่อสัตย์ + ขยัน +มุมานะ + พยายาม + สร้างสรรค์ +กล้าคิด +กล้าทำ +รอบคอบ +อื่นๆ อีกมากมายที่เราจำเป็นต้องมีในการที่จะได้รับ "ความสำเร็จ"

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เป้าหมายกับความสุข

         



          วันนี้ผมอยากจะมาพูดต่อยอดเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดเป้าหมายกันนะครับ  หลายคนคิดว่าเป้าหมายที่เราการจะต้องเป็นเป้าหมายที่เราต้องมีความสุข ซึ่งในความเป็นจริงเเล้วมันสวนทางกันนะครับ
           เป้าหมาย หมายถึง  สิ่งที่เราต้องการและเราได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า  ซึ่งในความเป็นจริงเราก็ไม่อาจกำหนดชัดเจนได้ว่าจะทำได้ตามที่ตั้งไว้เมื่อไหร่ เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของความฝันของเรานั้นเอง สิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ ก็คือ "การลงมือทำ การวิ่งตามความฝันของเรา ความฝันหรือเป้าหมายนั้นถึงจะเป็นจริง
          ความสุข หมายถึง สิ่งที่เราจะต้องทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม  ความสุขไม่ใช่การวิ่งไปตามหาแล้วเราจะเจอ  ความสุขอยู่ที่ตรงนี้  นั่นก็คือ การมีสติรู้อยู่ทุกขณะจิตว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ มีความรู้สึกอย่างไรในขณะนั้นๆ ต่างหาก
         เห็นไหมครับว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน  แต่สามารถปรับให้มาเป็นเรื่อง  เดียวกันได้ นั่นคือ มีความสุขอยู่ทุกขณะเวลาทุกสิ่งรอบตัวให้มีความสุขตลอด มองโลก คิด ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ แล้วก็จะเป็นไปตามที่เราต้องการเองครับ

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การแบ่งประเภทลำดับความสำคัญ


       
               
          สวัสดีครับท่านผู้อ่าน  เป็นยังไงกันบ้างครับ ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ หลายคนอาจเป็นหวัดแล้วก็ได้  ยังไงก็พยายามควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอนะครับ  เมื่อร่างกายของเราดี จิตใจของเราก็จะดีตามไปด้วย  เอาละครับ เรามาพูดเรื่อง ลักษณะของหัวใจกันเลยนะครับ หัวใจของเรานี้ประกอบไปด้วย 4 ห้อง โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

       1.สำคัญ        -   ไม่ด่วน
       2.สำคัญ        -    ด่วน
       3.ไม่สำคัญ    -   ไม่ด่วน
       4.ไม่สำคัญ    -    ด่วน

         จริงๆแล้วคนเราก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่า 4 ประเภทนี้เลย  ฉะนั้นผมอยากให้ทุกท่านลองหลับตานึก ค่อยๆนึกไป  แล้วจำแนก เรื่องราวต่างๆ ตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับชีวิตของท่านแล้วจะพบว่ามันไม่ได้ยากเลยใช่ไหมครับ  ยังไงเดี๋ยวผมขอยกตัวอย่างให้แล้วกัน ยกตัวอย่างเช่น

       1.สำคัญ - ไม่ด่วน  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องทำแต่ไม่ต้องเร่งรีบก็ได้ เช่น การวางแผนอนาคต เงินเก็บ การสร้างรายได้ Passive Income เป็นต้น
       2.สำคัญ - ด่วน  เช่น การทำงานต่างๆ การใช้เวลากับครอบครัว การพัฒนาตัวเองเรียนรู้สึ่งใหม่
       3.ไม่สำคัญ - ไม่ด่วน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต เฟสบุ๊ค
       4.ไม่สำคัญ - ด่วน  เช่น นัดคุยกับเพื่อน เที่ยวสนุกสนาน คุยเรื่องไร้สาระ

          เห็นไหมละครับว่า  จริงแล้วเราควร (Focus) ไปที่ 2 ข้อแรก  ส่วน 2 ข้อหลังไม่ทำก็ไม่ได้กระทบกระเทือนต่อการดำเนินชีวิตของเราเลย  เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็จัดการกับชีวิตของท่านได้เลยนะครับ  เริ่มจากการลงทำเดี๋ยวนี้เลย  อย่าไปเครียดหรือคาดหวังกับผลลัพธ์มากเกินไป  ทำอย่างมีความสุข แล้วสิ่งดีดีจะวิ่งเข้ามาหาท่านเองครับ

วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กำหนดเป้าผิด ชีวิตอาจดิ่งลงเหว



                 เทพเจ้าแห่งปัญญา                                            เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง

             เมื่อวานผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อเรื่อง "เข็มทิศชีวิต" ของคุณ ฐิตินาถ ณ พัทลุง ใจความหนังสือมีอยู่ตอนหนึ่งที่เจ้าของหนังสือเอามาเล่าเป็นนิทาน เกี่ยวกับเรื่อง ชายหนุ่มคนหนึ่ง  เรื่องมีอยู่ว่า ในสมัยอินเดียโบราณมีชายหนุ่มคนหนึ่ง  เขาได้เข้าไปถามอาจารย์ของเขาว่า ผมต้องการความมั่งคั่งเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด  ทางฝั่งอาจารย์ก็ตอบว่า ศิษย์เอ๋ย ในตัวคนเรานี้มีเทพเจ้าอยู่ 2 องค์ องค์หนึ่งคือ  เทพเจ้าแห่งปัญญา  อีกองค์หนึ่งคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง ทุกคนจะรักเทพเจ้าทั้งสององค์นี้มาก  แต่ความลับก็คือ เจ้าจงดูแลเทพเจ้าแห่งปัญญา รักเทิดทูล ดูแล และใช้ความพยายามในการดูแลท่าน เมื่อเจ้าดูแลเทพเจ้าแห่งปัญญาอย่างดีที่สุด เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งก็จะอิจฉาและพยายามมุ่งความสนใจมาที่เจ้า ดูแล ติดตามเจ้าไปทุกหน ทุกแห่ง เมื่อนั้นความมั่งคั่งที่เจ้าปรารถนาก็จะเป็นของเจ้าตลอดไป
   
             ที่ผมพูดถึงนิทานเล่มนี้ก็เพราะว่าต้องการจะเตือนสติใครหลายคน  ที่คิดว่าเป้าหมายของชีวิตคือเงิน  จริงๆแล้วการมีเงินเยอะไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาชีวิตเราได้  สิ่งที่สามารถแก้ปัญหาชีวิตเราได้นั่นก็คือ ปัญญา  ในที่นี้อาจหมายถึง ความรู้ผิดชอบ ชั่วดี การมีสติ การปล่อยวาง รวมไปถึงการใช้ปัญญาในการแก้ปัญหาต่างๆในชีวิต  เห็นไหมว่าสิ่งที่สำคัญกว่าเงินก็คือ ปัญญา  บุคคลถ้ามีซึ่งปัญญาก็จะสามารถที่จะพัฒนาตัวเองและนำพาตัวเองจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้  ชีวิตผู้คนมากมายต่างวิ่งเข้าหาความมั่งคั่งร่ำรวย ซึ่งก็ไม่ผิด  แต่เมื่อคุณได้สิ่งนั้นมา  แทนที่จะมีความสุข กลับกลายเป็นความทุกข์แทน ทุกข์เพราะกลัวว่ามันจะหายจากเราไป ทุกข์เพราะว่าต้องวุ่นวายไม่หยุดในการหาสิ่งต่างๆเข้ามาเติมเต็มในชีวิตของเรา  ชีวิตของคนเราสุดท้ายก็ต้องเดินจากไปเหมือนวันแรกที่เรามาตัวเปล่า ฉะนั้นขอให้คิดด้วยสติว่าคุณจะกำหนดเป้าหมายอย่างไรให้ถูกวิธีและนำคุณไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยอย่างแท้จริง ผมขอให้ทุกคนโชคดีครับ

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

การรักษาระดับจิตใจด้วย "สมาธิ"




               อรุณสวัสดิ์เช้าวันอังคารที่แสนสดใสครับ  วันนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้วยังไงก็รักษาสุขภาพกายใจด้วยนะครับ  วันนี้ผมอยากจะมีพูดถึงการรักษาระดับจิตใจเราให้สม่ำเสมอ  ด้วยวิธีที่เรียกว่าการทำ"สมาธิ"  วิธีนี้อย่างที่ทราบกันดีนะครับ มันมีมากว่า 2,600 ปีมาแล้ว ต้องขอบคุณพระพุทธเจ้าที่ท่านได้ทรงตรัสรู้  และได้สั่งสอนสัตว์โลกกัน   ชีวิตคนเราสุดท้ายก็แค่ตายนะครับ  ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะสุข หรือทุกข์ หนักใจเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องหนี้สิน หรือเรื่องครอบครัว คนรัก สิ่งเหล่านี้ก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิตแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตนะครับ  จงรู้จักแบ่งแยกคัดสรรเวลา ปล่อยวางพยายามฝึกฝนพัฒนาระดับจิตใจให้สูงขึ้น  ผมว่าจำเป็นมากนะครับ  เมื่อคนเราไปถึงจุดหนึ่งของชีวิต ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำก็ตาม ความทุกข์จะตามมาด้วยเสมอ  สิ่งที่เราต้องทำคือ ต้องเตรียมตัว เตรียมใจรับมือกับมัน  หากบุคคลซึ่งหมั่นฝึกฝนพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเมื่อประสบพบเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ย่อมสามารถที่จะรับมือ และฝ่าฟันกับปัญหาอุปสรรค์ต่างๆ นานาได้ โดยไม่ติดขัด  ขอให้เชื่อเถอะครับว่าการทำความดี ทำสิ่งดีๆ สิ่งที่ถูกต้อง การนั่งสมาธิ เหล่านี้ ล้วนพัฒนาให้เราไปอีกจุดหนึ่ง  ชีวิตคนเรามันสั้นมากครับ  สิ่งที่อยากได้ในชีวิตสุดท้ายเราก็ต้องคืนให้กับโลก แต่สิ่งที่จะติดตัวเราไปได้คือ "ความดี" สิ่งนี้ต่างหากที่ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ทุกคนปรารถนากันทั้งนั้น  วันนี้ขอบคุณครับ

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กฏของแบรนสัน

         


             เมื่อวานผมไปนั่งฟังสัมมนาของ Stock 2 morrow ชั้น 17 สีลมคอมเพล็กซ์  ซึ่งทาง Stock 2 morrow เขาได้จัดขึ้น งานนี้มีการประมูลของด้วยนะครับ เรียกว่าขายของด้วยได้ทำบุญไปด้วยนะครับ  เมื่อวานนี้ตอน 16.30 ช่วงของพี่บอย  พิสูจน์ ได้พูดเรื่อง 3 ข้อสำคัญที่สุดในชีวิตนะครับ  เรียกว่าเป็นเคล็ดลับของพี่เขาก็ได้มาแชร์ให้ฟัง ลองฟังกันดูนะครับ
            1.หาเงินให้เก่ง
            2.เก็บเงินให้อยู่
            3.หาช่องทางการลงทุน
            ครับนี่แหละเป็นเคล็ดลับที่พี่บอยได้ให้ไว้  ทีนี้เราลองมาดูข้อแรกซึ่งสำคัญมากครับ ที่จะให้เราเคลื่อนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ครับ ซึ่งเป็น 7 วิธีที่จะทำให้เรามีรายได้มากกว่าคน 90 % ที่เหลือครับ ลองฟังดูนะครับ   เป็นเคล็ดลับของ ซอร์ ริชาร์ด ชาร์ลส นิโคลาส แบรนสัน หรือ ริชาร์ด แบรนสัน ผมเรียกมันว่า "กฏของแบรนสัน"             1.เห็น "คุณค่า" ของตัวเองก่อน

             - ถามตัวเองว่าคุณคำนวณค่าตัวคุณ ชั่วโมงละเท่าไหร่
             - หลังจากนั้นให้ตั้งคำถามว่าคุณคู่ควรกับค่าตัวนั้นไหม
             - จากนั้นก็ต้องเริ่มสร้างแบร์น สร้าง "คุณค่า" ให้กับสิ่งที่คู่ควรกับเรา ใส่ใจตัวเองให้มากขึ้น เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง
             2. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณมีรายได้น้อย
              - โลกนี้ไม่มีของแพง โลกนี้ไม่มีคนมีรายได้น้อย มีแต่ความสามารถน้อยเกินไป
              - เราต้องเลิกโทษคนอื่น  แล้วเข้ารับผิดชอบตัวเอง
              - ถ้าความสามารถเยอะให้ลาออกไปเลย
              - เราต้องหมั่นเติมความรู้ให้ตัวเอง  การหาความรู้ หาได้จาก Youtube,google,สัมนานาต่างๆ
              3. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
                คุณเอาเวลาว่างไปทำอะไร (หลังเลิกงาน)
               อย่างของผมคือ
                   - กฎหมายภาษี - ความรู้เรื่องการลงทุน - หนังสือพัฒนาตัวเอง
               - รู้จักแบ่งเวลาจัดสรรเวลา - ฝึกทักษะการเป็นเจ้านายกับตัวเอง - เรียนรู้ภาษาอังกฤษ
              4.ต้องทำงานที่คุณรัก เก่ง และมีความสุขไปด้วย
              -  ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา การที่คนเราทำในสิ่งที่รัก จะทำให้เราอดทน แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีคนชอบ สิ่งที่เรา รัก เก่ง และต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน จำไว้ว่าหากไม่เกี่ยวกับเขาเขาจะไม่สนใจ
              5.เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม
              -  เลือกคบเพื่อน เปลี่ยนรสนิยม เรื่องคุย ที่อยู่
              - ใช้เวลากับคนใหม่ๆ  คุณเรื่องอนาคต เรื่องการลงทุน
     จำไว้ว่า  คนส่วนน้อย คุยเรื่อง ไอเดียใหม่ๆ คำพูด "แพท ภาวิวิทย์ กลิ่นประทุม"
              6. ทำอะไรใหม่ๆ
             - คนเราควรหัดทำอะไรใหม่ๆ บ้าง เพราะการทำอะไรใหม่ ๆ อาจนำมาซึ่งความสำเร็จหรือความชอบที่ยิ่งใหญ่ได้
               7. ตั้งเป้า Top 10 ของสายอาชีพที่คุณทำ
             ตอนนี้เรายังไม่เจอไม่เป็นไร แต่เจอแล้วเราควรตั้งเป้าหมายของเราให้เป็น Top 10 ให้ได้ ที่สำคุญือ ต้อง รัก ชอบ เก่ง ตั้งเป้าไว้เลยว่า ฉันต้องไปอยู่ตรงนั้นบ้าง  "บนท้องฟ้ารถไม่เคยติด งานดีๆ เงินดีๆ ไม่มีคนแย่ง"
             ทักษะที่ตามมาคือ เมื่อคุณมีความสามารถคุณต้องรู้จักวิธีเลือกงานเพราะงานจะเข้ามาเยอะมาก จำไว้ว่าคนที่งานยุ่งๆ จะทำได้ดีเสมอ คนเก่งๆทุกคนพร้อมจะบอกเคล็ดลับเสมอและทำตามวิธีของเรา

                    มนุษย์เงินเดือน ------------ นักลงทุน--------------------นักธุรกิจ/วิทยากร

                      "วิธีการเปลี่ยนได้  อย่าเปลี่ยนเป้าหมาย ที่สำคัญ เป้าหมายต้องวัดผลได้"

           "ความกลัวมันตัวใหญ่ เมื่ออยู่ในความคิด  ความกลัวมันตัวนิด เมื่อหยุดคิดและลงมือทำ"

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กฎแห่งแรงดึงดูด





             พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์  หรือการคิดบวก มีพลังอำนาจบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น  เมื่อคนเราคิดดี พูดดี ทำดี  เราก็จะเจอแต่สิ่งที่ดีดีวิ่งเข้ามา  พลังอำนาจบางอย่างมักจะดึงดูดเอาแต่สิ่งที่ดีดี  วิ่งเข้ามาหาเรา  ผมอยากจะบอกว่า  บางครั้งคนเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก  ก็ให้อดทนไว้ ความสงบนิ่งจะนำมาซึ่งความสำเร็จและสิ่งที่เรียกว่าโอกาสหรือแสงสว่างเข้ามาเสมอ  ขอให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองมั่นใจในความดีงามที่เราได้ตั้งใจเอาไว้  ชีวิตเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็จริง  แต่ชีวิตก็คือชีวิต ย่อมต้องเดินไปข้างหน้าเสมอ  ทางข้างหน้าอาจมีสะดุดบ้างนั้นก็เพราะเป็นสัญญานเตือนบางอย่างว่าเรากำลังจะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกขั้นหนึ่งนั้นเอง
             วันพรุ่งนี้ผมมีไปนั่งฟังสัมมนา เรื่อง Make the different หากได้ความคืบหน้ายังไงผมจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆฟังนะครับ  เพื่อใช้ในการต่อยอดไปในตัวด้วย  ใครที่กำลังสับสน ท้อแท้ หมดกำลังใจ  ของให้คิดซะว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไปและต่อจากนี้ไปจะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาอย่างแน่นอนขอให้มั่นใจอย่างนั้นนะครับ

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Make THE Difference



           บางครั้งชีวิตคนเราควรมองหาอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง  ชีวิตก็เหมือนละครฉากหนึ่งอาจมีเรื่องตลกขบขัน  ตื่นเต้น ท้อแท้ หมดกำลังใจบ้าง แต่ชีวิตก็คือชีวิต มีสิ่งหนึ่งคือ ผมเชื่อว่าเรากำหนดชีวิตและออกแบบชีวิตเราได้  นั่นก็คือ  การคิดต่าง  การคิดต่างไม่ได้หมายความทำในสิ่งที่แปลกไปแต่หมายถึงการทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ สร้างความโดดเด่นให้กับตัวเราเอง  บางช่วงชีวิตของคนเรา  อาจอาจมีท้อบาง กังวลบ้างเป็นเรื่องธรรมดา  เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้ขอให้เราคิดในทางบวกเข้าไว้   แล้วพลังงานแห่งความคิดสร้างสรรค์จะนำมาซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  ถนนสายนี้ยังมีทางเดินไปอีกมากมาย  วันก่อนได้ดูนิทานพระราชนิพนธ์  เรื่อง พระมหาชนก  มีประโยคหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมาก   ที่พระมหาชนก กล่าวว่า  ถ้าคนเราไม่รู้ซึ่งจุดมุ่งหมายของสิ่งนั้น  ก็จะมองเห็นแต่ความเกียจคร้าน  เพราะไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม  ทุกวันนี้เหมือนเราตื่นขึ้นมารู้สึกว่าเราตื่นมาทำไม  นั่งแหละก็เป็นเหมือนสัญญาณบอกว่าเรามีสิ่งที่จะต้องทำนะ   ตื่นมาเพื่อทำประโยชน์ให้กับโลกกับความสำเร็จให้ตัวเอง และทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไป

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน


             ความเชื่อและทัศนคติเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงกันได้ยากจริงๆ เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง  เรากำลังพูดถึงบุคคลที่ 3 ที่มีรายได้มากกว่าเราหลายเท่า  ซึ่งนั้น  ผมก็มองว่าเพราะความเตรียมพร้อมของเขาและโอกาสที่เขาได้รับด้วยเป็นเหตุให้เขาประสบความสำเร็จ  แต่ก็ผิดคาดเพื่อนคนนี้กลับคิดว่าเพราะเขาเก่งกว่าเราความสามารถไม่เท่าเขา  เรื่องนี้ก็เลยเป็นเหตุให้คุยกันยาวเลย  ผมรู้ว่าผมเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้หรอก  เพราะความคิดเขามันไปทำลายความเชื่อมั่นในตัวเขาไปแล้ว  ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขานะครับ  ที่สำคัญผมยังยืนยันคำเดิมคือ  อย่าดูถูกตัวเอง  การที่บุคคลคนหนึ่งเห็นซึ่งคุณค่าในตัวเอง ถึงแม้วันนี้เราอาจยังไปไม่ถึงเป้าประสงค์ที่เราต้องการ  แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเราย่อมไปถึงได้อย่างแน่นอน หากเราไม่ทิ้งความฝัน และเป้าหมายของตัวเอง  ทางข้างหน้ามีอุปสรรค์มากมาย มีเหนื่อยบ้าง  ท้อแท้ในบางครั้งแต่อย่าเพิ่งท้อถอยนะครับ  ปลายอุโมงค์ข้างหน้าต้องมีแสงสว่างเสมอ  เวลาเจอคนที่มีความคิดลบสิ่งที่เราต้องทำคือ

1.หยุดเอามาเป็นความคิดของเรานั้นเป็นความคิดของเขา
2.พยายามรักษาความสัมพันธ์ในระดับหนึ่งแต่อย่าให้มากกว่านี้
3.อย่าไปสนใจ มุ่งทำให้เกิดผลลัพธ์ขึ้น ให้เขาเห็นว่าเราทำได้จริงๆ
4.พยายามหาข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ความเชื่อของเราเพื่อให้เราเดินไปอย่างถูกต้อง


              การที่เรามีความคิดติดลบในใจ เราก็ไม่ต้องให้ความสนใจ ไม่ต้องพยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลความคิด ไม่ต้องพยายามต่อสู้กับความคิดที่ติดลบ เพราะการทำอย่างนั้น เท่ากับเราเติมพลังด้านลบให้มากขึ้น ทางที่ดี ขอให้เราคิดแง่บวกไว้ให้มากๆ ได้แก่ มองคนในแง่ดี ทั้งมองตนเองและผู้อื่น มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าต้องมีแง่บวกที่เราอาจมองข้ามไป ชื่นชมในความดีของผู้อื่น มองหาข้อดีของเขาให้มาก ๆ กล่าวชมคนให้เป็น ฝึกขอบคุณในสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับเรา

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อย่าทิ้งความฝันของตัวเอง

         


                  วันก่อนผมได้มีโอกาสคุยกับรุ่นพี่ที่รู้จักท่านหนึ่ง  ซึ่งคำพูดของเขามันกระตุ้นความรู้สึกของผมเป็นอย่างมาก  เขาพูดว่า  "คนเราต้องทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงก่อน"  เรื่องนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง  บุคคลที่มีความฝันทุกคนย่อมเข้าใจความรู้สึกนี้เหมือนผม  พี่เขาเล่าให้ฟังว่าเขามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นเด็กต่างจังหวัด  ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมาจากจังหวัดสุรินทร์ ครับ  เพื่อนเขาคนนี้ก่อนหน้าก็เหมือนคนทั่วไปคือหลังจากเรียนจบก็เข้าโหมดของการทำงาน  เขาได้สอบเข้ารับราชการและได้เป็นข้าราชสมความตั้งใจตามแบบฉบับของบุคคลอื่นในสังคมปัจจุบันที่มองว่าอาชีพนี้มั่นคง  แต่แล้วกลับไม่เป็นไปอย่างที่ฝัน  ความกระหายในความสำเร็จ และความรู้สึกที่ว่าตัวเองไปได้ไกลกว่านี้ทำให้เขาต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นข้าราชการและมุ่งหน้าทำความฝันของตัวเอง  นั่นก็คือ  การท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในต่างประเทศ  ถามว่าเด็กต่างจังหวัด ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายจะทำยังไงให้ฝันเป็นจริงละครับ  เขาก็ตัดสินใจเรียนรู้เพิ่มเติมนั้นก็คือการอ่าน  เรียนรู้ และศึกษาทางด้านภาษาอังกฤษให้มากขึ้น  เพื่อใช้ในการพัฒนาตัวเอง  หลังจากนั้นก็ไปสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศได้ตามที่ใจปรารถนา  ถึงแม้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่เสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไป  เขารู้สึกภูมิใจที่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง  แล้วคุณละครับ  คิดว่า "ความฝันของคุณหรืออะไรกันแน่ที่ชีวิตของคุณต้องการมันจริงๆ"  ผมเขียนมาถึงตรงนี้ก็อดนึกไม่ได้ว่าจริงซินะ  บางครั้งเรามักจะวิ่งตามคนอื่น  ปรารถนาความรัก ความต้องการ และความคาดหวังจากผู้อื่นมากเกินไป  จนเราลืมตัวตนที่แท้จริงของเราไป  เมื่อเวลาผ่านไปก็มานั่งนึกเสียดายที่ไม่ได้ทำตามความต้องการและความฝันของตัวเอง  
                  วันนี้ยังไม่สายเกินไปนะครับ  สิ่งที่สำคัญกว่าเงินก็คือเวลาที่ใช้ในการหาเงินใช้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องทำงานต่างหาก  ฝึกเรียนรู้ พัฒนานาตัวเองหาเวลาว่างทำงานอดิเรกหรือค้นหาตามความต้องการของเราจริงๆและลงมือทำมันทันที  ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เกิดจากการลงมือทำมันครับ  เชื่อเถอะว่าจะมีกระเเสจากคนรอบข้างหรือหลายคนกระหนำมาเพื่อให้คนอย่างเรารู้สึกท้อแท้  สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำต่อไปคือ  ยืนหยัดและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราได้ทำมันอย่าไปฟังเสียงของคนอื่นให้ทำตามใจของเราเอง  บางครั้งการหยุดทบทวนเข้าไปในจิตใจของตัวเอง  จะทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้นกว่าการวิ่งไปหาสิ่งภายนอกที่สร้างความวุ่นวายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   สิ่งสำคัญก่อนทิ้งทายกันครับ  คือ วินัย เท่านั้นที่จะทำให้คุณไปถึงสิ่งที่คุณหวังได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เป้าหมายในอีก 1 ปี






                ผ่านวันพ่อปีนี้ไปอีกปีแล้วนะครับ  รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วจริงๆครับ  เห็นไหมครับว่าเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญเอามากๆเลย  คนเราต่อให้มีเงินทองมากแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะซื้อเวลาที่ผ่านไปได้  ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่คุณคือเราต้องรู้จักการบริหารเวลาให้ดี ใน 1 ปี มี 365 วัน ใน 8,760 ชั่วโมง คุณใช้เวลาไปกับการทำอะไรเพื่อตัวเองและสังคมบ้าง  หลายคนมีเป้าหมายจากนี้ไปอีก 1 ปีว่าเป็นอย่างไร  ผมว่ามันสำคัญนะครับกับการที่เรารู้จักวางแผนบางสิ่งไว้ก่อนที่มันจะมาถึง  นั่นเป็นเหมือนสิ่งที่คอยกระตุ้นเราให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและเป็นไปตามแบบที่เราต้องการให้มันเป็นไป  เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะมาเล่าเป้าหมายของผม 1 ปี จากนี้ไปนะครับ  ยังไงลองมาดูกันว่าจะเป็นไปตามที่ผมต้องการไว้หรือไม่

เป้าหมายข้อที่ 1 มีรายได้มากกว่า 50,000 บาท/ต่อเดือน
เป้าหมายข้อที่ 2 พัฒนาตัวเองในการเข้าอบรมสัมมนา และพบเจอกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
เป้าหมายข้อที่ 3 เรียนรู้ศึกษาภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสื่อสารมากขึ้น
เป้าหมายข้อที่ 4 มีความสุขกับการใช้ชีวิตและมีโอกาสได้อยู่กับครอบครัวและคนที่รักมากขึ้น
เป้าหมายข้อที่ 5 ท่องเที่ยวต่างประเทศ

นี่ก็เป็นเป้าหมาย 5 ข้อที่ผมได้ตั้งเอาไว้  เดี๋ยวเรามาดูกันนะครับว่าในอีก 1 ปีต่อจากนี้ไปชีวิตผมจะเป็นอย่างไร  วันที่ผมเขียนเป็นหมายลงไปวันนี้คือวันที่ 6/12/2557 เวลา 15.47 นาทีนะครับ  ผมว่าการที่คนเรามีเป้าหมายและมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งนั้นให้มากที่สุด  ผมเชื่อว่ามันจะนำมาซึ่งสิ่งที่ดีดี รวมไปถึงการใช้ชีวิตของเราเป็นไปอย่างมีความชัดเจน  การที่เราทำในสิ่งที่ถูกต้องและชัดเจนจะนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างแน่นอนครับ

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

วันแห่งการเปลี่ยนแปลง

         

             เริ่มต้นวันใหม่วันนี้ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความหวัง  หลายเดือนมานี้ผมมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น  การตัดสินใจอะไรก็ใจเย็นลงมากผมรู้สึกว่าจริงๆแล้ว มนุษย์เราทุกคนต้องการความสงบที่ไม่ต้องกระวนกระวายใจให้มากนัก   บางครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ที่ต้องใช้การตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต  เราก็ต้องเปิดใจและยอมรับในการตัดสินใจครั้งนั้น  มีเหตุการณ์บางอย่างที่กระทบกระเทือนใจเราบาง  แต่ถ้าเรามีความอดทน อดกลั้น ผมเชื่อว่าเราก็จะผ่านมันไปได้  ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นมาก  รู้สึกมั่นใจในตัวเองและเข็มแข็งมากขึ้น  มีบ้างที่เจอมรสุมชีวิต  แต่ผมก็ยืนขึ้นมาได้  ต้องขอบคุณอุปสรรค์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ที่สอนให้ผมรับรู้ถึงความกลัว ความเสียใจ ความผิดหวัง เหล่านี้ล้วนส่งให้ผมมายืนอยู่จุดนี้ได้  ต่อแต่นี้ไปผมจะไม่ทำให้ตัวเองผิดหวัง ผมจะสร้างคุณค่าให้ตัวเองมากๆ  จะไม่ดูถูกตัวเอง จะสร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนตัวเองให้ไปสู่จุดที่สูงที่สุด  และประสบความสำเร็จในที่สุด เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ



วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

7 วิธีที่ทำให้คุณเข้าไปนั่งในใจคน

                 
               

              อรุณสวัสดิ์กับเช้าวันจันทรฺที่แสนสดใสครับ  หลายคนเริ่มต้นวันด้วยการพูดแต่สิ่งที่ดีๆ ให้กับตัวเอง   ผมว่าการให้กำลังตัวเองเป็นสิ่งที่เราไม่ควรนิ่งนอนใจนะครับ  เมื่อคืนผมก็นอนไม่หลับเลยเพราะผมมักจะตื่นเต้นเสมอเพื่อที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่  ผมเลยมานั่งสมาธิทบทวนบางสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา  และสิ่งที่เราจะก้าวไปข้างหน้า  เป้าหมายคือสิ่งที่ผมปรารถนามาก  มันเหมือนเส้นทางที่ผมได้เลือก และกำหนดมันแล้ว ในหลายครั้งที่ผมสับสน  ผมรู้สึกว่าการมองกลับมาที่เป้าหมายของตัวเองสำคัญอย่างยิ่ง  เช้านี้ได้มานั่งอ่านบทความทางเฟส ของพี่บอย  เขาได้ให้ข้อคิดที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างความประทับใจผู้คน ผมนำมาฝากเพื่อนๆด้วยครับ   ลองอ่านกันดูครับ

1.คุณต้องพูดในที่คุณเชื่อเท่านั้น เพราะคุณไม่ต้องเสแสร้งและเมื่อคุณเชื่อในสิ่งที่พูดมากพอในที่สุดก็จะมีคนเชื่อเหมือนคุณ
2.คุณต้องฝึกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่ง อย่าพูดแต่ข้อมูล เพราะการเล่าเรื่องสร้างจินตนาการ และจินตนาการมีพลังมากกว่าที่คุณคิด
3.คุณต้องตอบให้ได้ว่าคุณกำลังส่งมอบคุณค่าอะไรให้กับผู้คน.  เราอยู่ในยุคเหลือกินเหลือใช้มีของให้เลือกมากมายสิ่งเดียวที่ทำให้เราแตกต่างคือ คุณค่า  ที่เรามอบให้ผู้คน
4.คุณต้องมีเอกลักษณ์หาจุดเด่นให้คนจำ  แล้วตอกย้ำให้คนเห็นภาพคุณในใจเป็นภาพเดียวเสมอที่สำคัญ จงเป็นตัวเอง อย่าเป็นคนอื่น เพราะคนอื่นเขาก็เป็นคนอื่นกันอยู่แล้ว
5.คุณต้องสร้างความสนิทสนมคนด้วยการพูดจาภาษาคน  อย่าทำตัวเป็นโฆษณาพูดจาเป็นทางการ อย่าทำตัวไร้ตัวตน ไร้หน้า เพราะคนเราชอบคุณกับคนด้วยกัน  เพราะฉะนั้นหาโอกาสเล่าเรื่องของตัวเอง เพื่อให้คนจดจำ
6.คุณต้องรู้จักใช้เครื่องมือออนไลน์ให้เป็นประโยชน์  เพราะมันคือกระบอกเสียงที่ดัง แต่ใช้ตังน้อยไม่เคยมียุคไหนที่เราจะส่งทีวีของตัวเองได้  ไม่เคยมียุคไหนที่เราพูดทีเดียว แล้วคนได้ยินเยอะขนาดนี่
7.คุณต้องให้ ก่อนที่คุณจะได้รับ  คุณมีความรู้อะไรจงแบ่งปันออกไปแบบไม่ต้องหวังผลตอบแทน  แล้วผู้คนจะเริ่มจดจำคุณได้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องนั้น  คุณจะเข้าไปนั่งในใจผู้คน และเมื่อนั้น ทุกสิ่งที่คุณต้องการจะมาหาคุณ

ผมว่าช่างเป็นวิธีที่ง่ายและไม่ต้องเสียตังเลยครับ   แค่เราลงทุนในตัวเองให้มากขึ้น รู้จักสร้างคุณค่า และภาพลักษณ์ หรือ แบรด์ของตัวเอง สิ่งเหล่านี้แหละครับจะนำมาซึ่งมาสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตและทำให้ชีวิตเราแตกต่างจากคนอื่น  ยิ่งเราแตกต่างจากคนอื่นมากเท่าไหร่ โอกาสก็จะวิ่งมาเสมอพร้อมกับโอกาสดีๆ  ที่เราได้เตรียมความพร้อมนั้นแหละครับ  ยังไงก็มีความสุขในเช้าวันทำงานนะครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...