วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เราอาจหลีกเลี่ยงคนที่เราไม่ชอบได้ แต่เราหนีความจริงไม่ได้

 


มนุษย์เรามักจะพยายามให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนเองต้องการ

เป็นต้นว่า

- ทำไมทุกคนไม่ได้คิดแบบนี้นะ

- ทำไมเขาคนนั้นมีนิสัยแบบนี้นะ

- ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เราคิดหรือพูดนะ

- ทำไมเรารู้สึกไม่ชอบคนนี่นะ

- ทำไมเรารู้สึกถูกใจคนนี่นะ

- ทำไมเราอยากพูดคุยกับคนนี่นะ

นั่นแหละครับนี่คือนิสัยของมนุษย์เรา มีทั้งที่ถูกใจเราและไม่ถูกใจเรา มนุษย์เราต่างล้วนแล้วแต่ต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน เป็นสังคมเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อทำภารกิจบางอย่าง ให้ลุล่วงสำเร็จ อาจมีบ้างที่ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เราคาดคิดเอาไว้ ล้วนแต่พบเจอกับปัญหาและอุปสรรค์ คนที่คิดต่าง หรือคนที่มีความคิดในทิศทางเดียวกับเราบ้าง

ที่ผมหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยก็เนื่องมาจาก ปัญหาเหล่านี้ถือเป็นปัญหาพื้นฐานของมนุษย์ โดยเฉพาะกับเรื่องของการทำงาน และก็มักเป็นอะไรที่ปวดหัวมากกับผู้บริหาร ในการที่ต้องรับผิดชอบกับลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีเรื่องทะเลาะเบาะเเว้งกัน ในท้ายที่สุดก็ส่งผลเสียกับงาน กับบริษัทนั่นเอง

จนลุลามไปถึงการวางแผนเล่นงานเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกัน ในทางที่มิถูกต้องหรือหาทางกลั่นแกล้งต่าง ๆ นา ๆ ใครที่กำลังพบเจอกับปัญหาแบบนี้ ผมพูดได้เลยครับ องค์กรของคุณกำลังเริ่มมีปัญหาอย่างแน่นอน คนเป็นผู้นำควรมีความเด็ดขาด และรีบจัดการกับตัวปัญหานี้ในทันที

หากปล่อยไปแล้วอาจสร้างความเสียหายที่ยิ่งใหญ่ในภายหลังได้ มนุษย์เราต่างคนต่างก็คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกด้วยกันทั้งนั้น โดยไม่ไตร่ตรองหรือมองให้เห็นข้อเท็จจริงของอีกฝ่าย จนนำไปสู่ความเสียหายกับองค์กรได้ หากคุณซึ่งอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ผมมีข้อแนะนำอย่างหนึ่งนะครับ ให้คุณหลีกเลี่ยงกลุ่มคนพวกนี้ให้มากที่สุด แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ดีที่สุด อย่าไปยึดติดกับฝ่ายใด ให้มองว่าทุกคนคือเพื่อนร่วมโลก และตัวเราคือมนุษย์ที่ต้องมาอยู่ร่วมชะตากรรรมต่อกัน

เราอาจหลีกเลี่ยงคนที่เราไม่ชอบได้ แต่เราหนีความจริงไม่ได้ว่าเราไม่ชอบเขาเพราะฉะนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือ ทำอย่างไรจะอยู่ร่วมกับคนที่เราไม่ชอบได้โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่สร้างปัญหาให้กัน บางเรื่องยอมได้ก็ยอมบางก็ดีครับ แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตและตามความเหมาะสมพอดีที่เรารับได้ การเกิดเป็นมนุษย์นั้นเราต้องฝึกนิสัยต่าง ๆ ทั้งความอดทน วาจาอ่อนน้อม และการเคารพต่อผู้อื่น ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีปัญญาอย่างแท้จริง

ใครที่เกลียดเรา ไม่ชอบเรานั่นก็เป็นเรื่องของเขา สำคัญคือตัวเราต่างหาก จะทำอย่างไรไม่ให้ไปโกรธหรือเกลียดเขาตอบ เพราะสิ่งนั้นถือว่าตัวเรานั่นแหละครับที่บกพร่องอย่างมาก พยายามรักษาใจเราให้อยู่ในทิศทางบวก และคบค้าสมาคมกับคนดี ๆ แล้วสิ่งที่ดีจะเข้ามาหาเราเอง พลังงานที่ดี จะดึงคนไม่ดีออกไปจากชีวิตของเราเอง ไม่ต้องไปเเช่งเขาหรอก เเค่เขาคิด ทำ พูดไม่ดีต่อเราและผู้อื่นก็น่าสงสารมากอยู่แล้วครับ ปล่อยวางและอโหสิกรรมให้เขาไป แล้วชีวิตคุณจะก้าวหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยอย่างแน่นอน ....

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เพิ่มพลังชีวิตด้วยการปรับสมดุลให้ใจตัวเอง


การปรับสมดุลให้กับจิตใจของเราเองนั้น  ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ชีวิตของคนเรามักจะยุ่งอยู่กับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายจนหลงลืมบางสิ่งบางอย่างที่มันสำคัญกับชีวิตของเรา  มีบางครั้งไหมครับที่ช่วงจังหวะชีวิตของคุณนั้นมันช่างน่าวุ่นวายใจเหลือเกิน  รู้สึกว่าอะไรก็ยุ่งไปหมด  ทั้งที่ในความเป็นจริงชีวิตก็ยังดำเนินไปเช่นนั้น  สาเหตุนั่นก็เป็นเพราะว่า  สมดุลของจิตใจคุณนั้นเริ่มไม่เป็นปกติแล้ว เป็นต้นว่า

  • คุณอาจยุ่งอยู่กับกิจกรรมบางอย่างมากจนเกินไป  เช่น ครอบครัว การงาน การเงิน หรือกระทั่งหนี้สิน
  • คุณอาจยุ่งอยู่กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  เช่น  การคาดหวังกับบางสิ่งในอนาคต  คิดถึงเรื่องของความมั่นคง หรือ ความมั่งคั่งในชีวิตส
  • คุณอาจยุ่งกับสิ่งที่มันผ่านไปแล้ว  เช่น การจมอยู่กับอดีตที่ตัวเองเคยถูกทำร้าย จากเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย คนรัก หรือครอบครัว  หรือบุคคลใดก็ตาม  แล้วมานั่งเจ็บใจ  เจ็บแค้นคิดแบบนี้ซ้ำ ๆ วนไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จักการปล่อยวาง

การสร้างสมดุลให้กับชีวิตจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก  นั่นเพราะมันคือทุกอย่างของเราอย่างแท้จริง  ธรรมชาติของตัวตนของมนุษย์คนหนึ่ง  มันจะให้คำตอบอะไรบางอย่างกับเราก็ต่อเมื่อเราทำใจให้ว่าง  ชำระสิ่งต่าง ๆ โดยการปรับความสมดุล ทั้งทางร่างกายและจิตใจให้พร้อมอยู่เสมอ  แล้วความปรารถนาที่ลึก ๆ ในหัวใจของเราจะปรากฎ  นั่นคือ ความปรารถนาว่าอะไรกันแน่คือแก่นแท้ของชีวิตเรานั่นเอง  ปัจจุบันผู้คนมากมายมักจะพยายามแก้ปัญหาต่าง ๆ  ยิ่งแก้ก็ยิ่งยากขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน  กลายเป็นว่าเหมือนปมเชือกที่มันพันไปเรื่อย ๆ จนยากที่จะหาทางแก้ไข

เหตุเพราะมนุษย์นั้นมีความโลภ  ความต้องการที่มากเกินพอดี  เลยทำให้หลงลืมไปว่าในท้ายที่สุด  เราไม่สามารถเอาอะไรจากโลกนี้ไปได้เลย  เราไม่ยอมที่จะปรับสมดุลทางใจของเรา  ไม่ยอมปล่อยวางและชำระร่างกายให้ใสสะอาด และบริสุทธิ์อยู่เสมอ  บางทีก็หลงลืมภารกิจที่สำคัญในชีวิตว่า  ตัวเรานั้นตั้งใจจะทำอะไรให้กับโลกใบนี้  เราเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่  ทุกอย่างมันมีคำตอบ  แต่มนุษย์ก็ไม่คิดจะหาคำตอบทั้งที่เป็นเรื่องใกล้ตัว  นั่นเพราะเราหลงอยู่ในทางโลก  สะสมวัตถุทางโลกที่เอาไปไม่ได้  แต่ก็ไปยึดติดกับมัน  จนหลงลืมทางแห่งชีวิตที่แท้จริง  

เมื่อรู้เช่นนี้แล้วจงหมั่นเติมพลังงานชีวิตของคุณอยู่เสมอ  จิตใจที่ว่างและปราศจากความกังวล  ย่อมเป็นผู้ที่น่าเลื่อมใสและเป็นที่รักของผู้คนอย่างแท้จริง  ความสำเร็จที่แท้จริงก็คือ การเอาชนะใจตนเองนั่นแหละครับ .....

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

คนที่เกลียดชังคนอื่นนั่นแหละครับคือคนที่น่าสงสารที่สุด


เป็นธรรมดาของมนุษย์เรานะครับ  ที่เรามักจะชอบหรือไม่ชอบในพฤติกรรมของบางคน  นั่นเพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม  และเลือกพวกพ้อง คนที่มีนิสัยคล้าย ๆ กันก็มักจะดึกดูดคนเหล่านี้เข้าหากัน  นั่นคือกฎธรรมชาตินั่นเอง

ยุคสมัยที่เปลี่่ยนไปมนุษย์มีอิสระ  และสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างเต็มที่  ในทุก ๆ ที่  มันจึงกลายเป็นว่าพวกเขาก็เลือกที่จะมีตัวตนในพื้นที่  ที่ตัวเองคิดว่าสามารถแสดงความคิดเห็นได้  นั่นคือ โลกออนไลน์  ทั้งนี้โดยหารู้ไม่ว่า  มันมีทั้งคุณและโทษตามกันไปด้วย  คุณอาจโดนฟ้องร้องกลับทีหลัง  โดยไม่รู้ตัวในสิ่งที่คุณได้ทำลงไป  เพราะฉะนั้นโปรดจงใช้ชีวิตด้วยความมีสติ

สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ผมมองเห็นว่ามนุษย์นั้นต่างก็อยากมีตัวตน  และอยากเป็นที่รู้จักในทางสังคม  เลยพยายามทำตัวเองให้โดดเด่นที่สุดเพียงที่จะได้รับความสนใจจากผู้คน  เหมือนกับว่าเขานั้นไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก  อาการเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากการหลงตัวเอง  ที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะแสดงออกมาด้วยวิธีใดเท่านั้นเอง  ส่วนตัวผมแล้วมองว่าคนที่ดูถูก เกลียดชังผู้อื่นนั้นคือ คนที่น่าสงสารที่สุดเพราะเขามีปมด้อยบางอย่างในใจ  ที่ต้องการจะทับถมคนอื่นเพียงแค่คิดว่า  การได้ทับถมคนอื่นนั้นจะทำให้ตัวเองดูดี  และมีค่าสูงส่งยิ่งขึ้น  แต่หาไม่เลยในช่วงแรกมันอาจใช่  แต่น้ำลดตอไม้มันย่อมฝุดขึ้น  ความไม่ดีงามต่าง ๆ  ก็จะปรากฎแก่บุคคลผู้นั้น  

นักปราชญ์ผู้มีปัญญาย่อมรู้เรื่องนี้ดี  เพราะฉะนั้นเขาจะระมัดระวังตัวเองอย่างมาก  ในการพูด คิด และทำ  เพียงเพื่่อความสะใจหรือความชอบใจส่วนตัว  การเพิ่มคุณค่าของตัวนั้น  ไม่ใช่การลดคุณค่าของผู้อื่น  แต่มันคือการทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม  ลงมือทำให้ความสำเร็จปรากฎอยู่ตรงหน้า  แล้วผู้คนจะให้คุณค่ากับสิ่งที่คุณได้ทำลงไป

ท้ายที่สุดนี้อยากฝากไว้นะครับว่า  มารไม่มี  บารมีไม่เกิด จงอย่าท้อกับคำของคน ยิ่งแดดแผดเผาเรามากเท่าไหร่ เงาก็จะปรากฎชัดมากขึ้นเท่านั้น เงาคือเพื่อนแท้ของเรา จงเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองทำ และศรัทธาในความดีที่ตนมี แม้ว่าสิ่งที่เราทำในวันนี้เราไม่เหลือใครในชีวิต  ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจ  อย่างน้อยเราก็มีเงาของเรานี่แหละครับที่เป็นเพื่อนที่แท้จริง  เพื่อนที่ดีที่สุดก็คือตัวตนของเราตนเป็นที่พึ่งของตนครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...