วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ปัญหาทางโลก คิดยังไงก็แก้ไม่ตก

 


ผมมั่นใจเลยครับว่าชีวิตของเรานั่น  ทุกคนล้วนต้องเคยพบเจอกับความทุกข์กาย และใจ  มีเรื่องที่ต้องรบกวนใจเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น

...เรื่องครอบครัว

...เรื่องงาน

...เรื่องคนรัก

...เรื่องของตัวเอง

พอเรื่องนี้ดีขึ้น  ก็จะพบว่าชีวิตก็มีเรื่องใหม่ให้เราต้องทุกข์ใจอีกละ  นั่นเพราะมันเป็นของคู่กับโลกใบนี้  พระพุทธองค์  จึงมักจะพูดเสมอ ๆ ว่า การเกิดนั่นเป็นทุกข์  การไม่เกิดจึงเป็นหนทางที่ดีทีสุด...

ตนตอของความทุกข์ หรือปัญหาแบบชาวโลกที่เราพบเจอกันนั้น  สาเหตุก็มาจากการที่เราไปยึดมั่นถือมั่น  มากจนเกินไปนั่นเอง  หลงคิดไปว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้  กำหนดได้ ตามแต่ที่เราปรารถนา  เราหลงลืมไปว่า  คนเรานั้นเกิดมา  จากนั้นก็ใช้ชีวิต  และในท้ายที่สุดก็กลับคืนสู่ธรรมชาติ  หาได้เอาสิ่งใดติดตัวไปไม่

เราเอาแต่ขยันสะสม  เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเอง  จนบางทีก็หลงลืมไปว่า  ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้เอาอะไรไปเลย  การมีเงินทอง การสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองนั่น ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ  แต่มันก็ต้องอยู่ในความพอดี  ไม่ไปสร้างกรรม หรือเบียดเบียนคนอื่น  หรือทำให้ตัวเองมีความทุกข์มากกว่าเดิม  เพราะการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้  หากคุณไม่มีอะไรเลย  นั่นก็ถือว่า ตัวคุณนั่นบกพร่องในหน้าที่เป็นอย่างมาก  

หาเวลาให้ตัวเองได้สร้างแต่กรรมดีบ้าง  ถือเป็นการสะสมบารมีไว้ใช้ในภายภาคหน้า  เราไม่อาจรู้ได้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร  แต่ผมมั่นใจว่า  คนที่ทำเรื่องดี  ก็ย่อมได้ผลที่ดีเช่นกัน  ฝึกให้ตัวเองใช้ชีวิตแบบธรรมดา และมีความสุขกับปัจจุบัน  เป็นคนที่มีความสุขง่าย ๆ กับทุกเรื่อง  ใจกว้างและมีน้ำใจ  ไม่อ่อนไหวต่อสิ่งยั่วยุ  หรือนำพาให้ชีวิตเราไปในทางที่เสื่อม  เพียงแค่นี้คุณก็มั่นใจได้เลยครับว่า  ชีวิตของคุณนั้น  ไม่ว่าจะตอนที่มีชีวิตอยู่  หรือตายจากโลกนี้ไปแล้ว  ย่อมพาคุณไปในทางที่ดี  และเจริญอย่างจริงแท้  แน่นอน..

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ค้นหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต

 


ยามใดที่ใจเรารู้สึกว่าเราต้องออกเดินทาง  นั่นหมายถึงว่ามันถึงเวลาที่คุณต้องออกเดินทางแล้วครับ ลองทบทวนกับชีวิตตัวคุณเองดูซิครับว่า  อะไรกันนะที่เรากำลังรออยู่  เราทำทุกวันนี้เพื่ออะไร  หรือใครบางคนอยู่หรือเปล่า  หนทางบางทีมันช่างมืดมนเหลือเกิน  นั่นเพราะแท้จริงแล้วคุณอาจยังไม่เจอบ้านที่แท้จริง  บ้านที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะหยุดชีวิตของคุณ  แล้วไม่ก้าวไปไหนอีก  และมีความสุขกับทุกช่วงชีวิตของตัวเองไว้แค่นั้น

การที่มนุษย์เรามีเป้าหมาย  มีแรงผลักดันเพื่อที่จะทำอะไรบางอย่างในชีวิต  คิดและทำเพื่อให้ชีวิตนั่นดีขึ้นกว่าเดิม  แต่บางทีก็อาจหลงลืมคนข้างหลังไว้  ขอให้คุณทบทวนตัวเองให้ดีนะครับ  อะไรกันแน่ที่ทำให้คุณยิ้มได้  อยากมีชีวิตต่อ  อยากวิ่งเข้าไปหาเป้าหมายของชีวิตคุณและทำอะไรเพื่อใครบางคน  ความสำเร็จนั่นอาจไม่ได้ยิ่งใหญ่  แต่มันมีคุณค่ามากมายที่ไม่สามารถตีเป็นราคาได้

เราเกิดมาบนโลกใบนี้ก็เพื่อละ เพื่อปล่อยวางกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  ไม่ใช่เพื่อยึดติดการยึดติดก็ทำให้คุณเป็นทุกข์  เมื่อเป็นทุกข์จิตใจคุณกระสับกระส่าย  ไม่เป็นสุข และมีแต่ความเดือนร้อน  นั่นเพราะมันขัดกับหลักการของธรรมชาติ  

ใจที่เป็นอิสระย่อมจะนำพาความสุขที่แท้จริงของชีวิตมาให้  เราเกิดมาแล้วก็ตายจากโลกใบนี้ไป  เราไม่สามารถนำอะไรไปได้  จงอยู่แบบคนที่เบาที่สุด  อย่าใช้ชีวิตแบบต้องแบกอะไรทุกอย่างในโลกไว้  หาไม่แล้วทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  คุณก็จะจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอดทั้งชีวิต  หยุดเอาชีวิตของเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  แล้วมีความสุขตามแบบที่เราเป็น  เพียงแค่นี้คุณก็จะเจอกับสุขที่แท้จริงแล้ว

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

มงคลในชีวิตของมนุษย์โลก

 


มีคนเคยบอกผมว่า แก่นแท้ของชีวิตก็คือ  การหาตัวเองให้เจอ  แล้วคุณจะมีความสุขเอง  โลกแห่งความเป็นจริง  มันก็ยากมากกับการที่เราจะสามารถเลือกเส้นทางชีวิตของเราเอง  ตามแบบฉบับที่เราต้องการ ซึ่งเส้นทางแบบนั้นมันปลอดภัย  แต่มันก็ไม่ได้หมายถึงการสะสมความมั่งคั่งให้กับชีวิตได้

อันที่จริงมนุษย์นั้น ต้องพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ และอริยทรัพย์  หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็ทำให้ชีวิตเราไม่ได้ราบรื่นไปตามแบบที่เราต้องการ  การเป็นคนดี แต่ไม่มีทรัพย์ก็ย่อมยากลำบากเหลือเกิน  ในการที่จะไปสร้างคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่  นั่นเพราะเสียงเราไม่ได้ดังพอ  เสมือนคนที่มีทรัพย์มากมายมหาศาล  การจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ก็ย่อมง่ายกว่ามาก

และนอกจากนั้น เมื่อเรามีมากพอมนุษย์ถึงจุดที่ตัวเองไม่เดือนร้อน  ก็มิใช่เรื่องยากที่คิดจะเเบ่งปันไปให้กับผู้อื่นโดยง่าย  ผิดกับการที่มนุษย์แทบจะไม่มีอันจะกิน  การทำบุญกุศล กลับกลายเป็นสร้างความลำบากให้กับตัวเองไปอีกก็เป็นไปได้  เพราะฉะนั้นจงหาความพอดีให้เจอ  ความพอดีในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องร่ำรวยมหาศาล  แต่ก็ไม่ขัดสนใจตัวเองต้องลำบาก  

ผมอยากแนะนำท่านผู้อ่านในเรื่องหลักการใช้ชีวิตแบบชาวพุทธ  มงคลสูตร มงคลชีวิต 38 ประการ  ท่านสามารถหาอ่านได้ทั่วไป  แล้วชีวิตของคุณจะเจริญขึ้นแบบทันตาเห็น  ทั้งนี้ก็เพราะการเลี้ยงชีพโดยชอบ  มิใช่การได้มาโดยมิจฉาชีพนั้น  มันย่อมส่งผลดีในระยะยาว และทำให้ชีวิตเรานั้นสงบสุขลงได้  

ชีวิตที่สงบสุข  และมุ่งหน้าสร้างแต่กรรมที่ดีนั้น  ชีวิตหลังความตายก็จะส่งผลให้เราไปยังถิ่นที่ควรกับเรา  หากไม่ทำเช่นนั้นแล้ว  คุณย่อมมีนรกเป็นที่ไป  มนุษย์ต้องมีศีล สมาธิ ปัญยา จาคะ สัจจะ เเละ หิริ โอตัปปะ  นั่นจะส่งผลให้เราเป็นคนดีมีศีลธรรม และสามารถเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้

ผมก็อยากฝากให้ทุกท่านนะครับ  ใครที่สร้างแต่กรรมดีไว้ก็สร้างต่อไปนะครับ  การทำความดีนั้นยากและเห็นผลช้า  แต่รับรองได้ว่าคุณจะได้รับผลนั้นแน่นอน มันคือหลักธรรมชาติ  ท่านปลูกสิ่งใด  ท่านก็จะได้รับสิ่งนั้นอย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ข้อแนะนำสำหรับคนที่มักโกรธง่าย


คนมักโกรธง่าย ผู้คนมักไม่ค่อยอยากเข้าหาและคบค้าสมาคมด้วย  เหตุเพราะเราจะรู้สึกร้อนไปด้วย  การฝึกนิสัยอดทน อดกลั้น ไม่ให้ตัวเองเป็นคนมักโกรธง่าย เป็นสิ่งที่ที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน  วันนี้ผมมีข้อแนะนำดีๆ ดังนี้ครับ

1.มองโลกในมุมที่กว้างขึ้น ฝึกตัวเองให้เป็นคนใจกว้าง รู้จักฟังเหตุผลคนอื่นบ้าง ฟังให้จบก่อนตัดสินใจจะพูดอะไรออกไป

2.การหายใจเข้าลึก ๆ เข้าออกสัก 1-2 นาที สิ่งเหล่านี้ช่วยได้

3.พักผ่อนหลีกหนีจากเรื่องที่กวนใจเรา  ออกเดินไปเที่ยว พักผ่อนหรือใช้เวลาว่างกับครอบครัวบ้าง หรือกิจกรรมที่สนุก ๆ และตรงกับความสนใจของเรา บางทีสิ่งเหล่านี้ อาจสร้างอารมณ์ให้เราดีขึ้นได้

4.ฝึกตัวเองให้เป็นคนทำอะไรช้า ๆ ลงบ้าง อย่ายึดติดหรือจริงจังกับทุกเรื่องในชีวิตบ้าง  สนุกสนานบ้าง หาช่วงเวลาที่ให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย  และอยู่ให้ภาวะที่เบาตัว

5.ฝึกทำสมาธิ สวดมนต์ก่อนนอน มันจะทำให้จิตใจเราสงบและระงับความโมโห หรือมักโกรธของเราได้

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ที่อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเป็นเรื่องธรรมดาที่ย่อมต้องมีความคิดเห็นต่างกันบ้าง  หรือขัดแย้งกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา  การฝึกความอดทน (ขันติบารมี) จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก  การที่เรามักโกรธ  คิดแต่จะเอาชนะไปซะทุกอย่าง  ในท้ายที่สุดเราอาจไม่เหลือใครก็ได้  เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนจะมารองรับอารมณ์คุณได้ตลอดเวลาหรอก  บางเรื่องยอมได้ก็ยอม  

เราสามารถยอมผู้อื่นได้ในทางร่างกายและการกระทำ  แต่จิตวิญญานเรานั้นต้องเป็นอิสระ  เมื่อจิตวิญญานเราเป็นอิสระ  เราก็จะปราศจากความกลัว  และมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง  ทำการสิ่งใดไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่  ก็ย่อมประสบความสำเร็จได้

ลองเปิดใจกับทุกเรื่องในชีวิตนะครับ อะไรที่เรามองว่าเป็นปัญหา แท้ที่จริงอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้  มันก็อาจเป็นบททดสอบเราเท่านั้นเอง  ถ้าเราผ่านมันได้  ต่อไปทำอะไรต่อให้หนักกว่านี้  เราก็จะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน  ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเรื่องกวนใจ ไม่สบายใจด้วยกันทั้งนั้น  ขอให้ฝึกนะครับเพราะผลดีมันอยู่ที่ตัวเราอย่างแน่นอน  ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ คุณจะมีอายุที่ยืนนานและเป็นคนที่มีความสุขง่าย ๆ กับทุกเรื่อง  คนที่มีความสุขง่ายก็ประสบความสำเร็จได้ง่ายนี่แหละครับคือกฎธรรมชาติ...

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563

จงอยู่กับปัจจุบัน แล้วความกลัวจะไม่มี


สิ่งที่จะทำให้มนุษย์ไร้ความกลัว และความกังวลได้ดีที่สุด  นั่นก็คือ การอยู่กับปัจจุบันและไม่ไปกังวลกับอนาคต  ถ้าเราไม่กังวลกับอนาคต  แล้วอยู่กับปัจจุบันอดีตก็ไม่สามารถทำอะไรเราได้  บางทีสิ่งที่เราทุกข์ใจ  กังวลใจอยู่นั้น  ท้ายที่สุดอาจไม่ได้เป็นเรื่องที่จำเป็นต่อเราสักน้อย  

ที่ผมหยิบยกหัวข้อนี้ขึ้นมาพูด  เพียงแค่อยากจะเตือนสติเพื่อน ๆ  ให้ลองกลับมาคิดทบทวนดูซิครับว่า  ชีวิตนี้คุณต้องการอะไรกันแน่  เราเกิดมาเพื่ออะไร  และมีเป้าหมายการใช้ชีวิตอย่างไร  การมีความสุขมันคือเรื่องเดียวกันกับการเงินทองมากมายจริงหรือไม่  จงหาคำตอบนั้นให้เจอครับ

อย่างที่ทุกท่านทราบเงินทองคือสิ่งสำคัญทางโลก  แต่ในทางจิตวิญญานนั้น หรือชีวิตหลังความตาย  สิ่งเหล่านี้ก็เพียงแค่สิ่งสมมติ  เราไม่สามารถเอาสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในเมืองผีได้  มีแต่บุญและบาปเท่านั้นที่จะส่งผลต่อเขาในภพหน้า  ผู้ใดปรารถนาในเทวโลก ก็ควรสั่งสมบุญบารมีให้มาก ๆ  เพราะการไปเทวโลกก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก  ในขณะเดียวกันการจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ยากแสนยาก

เกิดเป็นคนเมื่อมีโอกาสทำความดี  ก็จงเร่งทำความดีให้มาก ๆ  อย่าเลือกชีวิตให้ตัวเองมีความทุกข์ใจ  แล้วเที่ยวเอาตัวเราเองไปเปรียบเทียบกับใครต่อใคร  แล้วทำให้ตัวเรารู้สึกด้อยค่าราคาเลยครับ  ไม่มีใครจะดีพร้อมไปซะทุกอย่าง  ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน  คนที่มีความอดทนเท่านั้นจะถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจเอาไว้  

เราอยู่บนโลกสมมติเพราะฉะนั้น  จงตั้งตัวเองอยู่ในความไม่ประมาท ฉลาดกิน ใช้ชีวิต อย่างมีสติทุกเวลา เพียงแค่นี้คุณก็จะไม่หลงทาง  และได้เห็นดวงตาแห่งธรรม ที่ใดมีธรรมที่นั่นก็จะเจริญครับ..


วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563

คนต่อหน้าทำอย่าง ลับหลังทำอีกอย่าง

 


ถ้าในชีวิตคุณต้องเจอคนประเภทหนึ่งที่ต่อหน้าทำอีกอย่าง  ลับหลังทำอีกอย่าง  หลายคนก็คงไปไม่ถูกเหมือนกัน  แต่ข้อแนะนำสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ก็คือ   ขออย่าไปได้โกรธอะไรเขาเลยนะครับ  เพราะมันเป็นนิสัยของเขาอยู่แล้ว  สิ่งที่สำคัญก็คือ  เราต้องระมัดระวังตัวเองถ้าชีวิตต้องเจอกับคนแบบนี้  เราเปลี่ยนนิสัยเขาไม่ได้หรอกครับ  ได้แต่อยู่แบบห่าง ๆ เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงจะดีที่สุดครับ

นี่แหละครับการใช้ชีวิตบนโลก  ก็มักจะส่งคนแต่ละประเภทเพื่อให้เป็นบททดสอบสำหรับ  ว่าเราจะรับมือหรือผ่านกับสถานการณ์อย่างนี้ไปได้อย่างไร  แต่ขอให้เชื่อผมได้เลยครับว่า  พอเวลาผ่านไปเรื่องนี้ อาจเป็นแค่เรื่องขำ ๆ  ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณนั้นได้พบเจอ  ก็แค่นั้นเอง  สิ่งที่สำคัญก็คือ จงโฟกัสไว้เฉพาะสิ่งที่ดีงาม  เลือกคบค้าสมาคมกับคนดี  คนที่เราเห็นคุณค่าในตัวเรา  และดีกับคนที่ควรดีเท่านั้น  ชีวิตนี้เราก็มีความสุขแล้วครับ

เหตุการณ์บางอย่างในชีวิต  บางสิ่งเราควบคุมได้  บางสิ่งเราก็ควบคุมไม่ได้  เพราะฉะนั้นจงเรียนรู้ที่จะปล่อยวางกับชีวิต  เรียนรู้เพื่อเข้าใจ  ไม่ใช่ไปผูกใจเจ็บแค้นใคร  เขาทำกรรม นั่นก็เป็นเรื่องของเรา  ถ้าเราไม่อะไรด้วยก็คือการตัดกรรมดี ๆ นี้เอง  

ชีวิตนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ  เพราะฉะนั้นทำดีเข้าไว้ครับ  เราอยู่บนโลกใบนี้ไม่กี่ปีหรอก  ในท้ายที่สุด  ผมมั่นใจว่า ถ้าเราคิดดี และทำดี  เราก็ต้องได้รับสิ่งที่ดีแน่นอน  การเอาแต่โทษและตำหนิคนอื่นนั้นไม่ดีหรอกครับ ตัวเรานั้นแหละคือคนที่น่าเกลียดที่สุด 

ใครที่ชีวิตกำลังท้อใจ  มองไม่เห็นหนทาง  หรือคิดว่าตัวเองกำลังจนมุม หรือสิ้นหวังกับชีวิตนั้น  ผมอยากให้คุณลองพักใจดูนะครับ  มองหาสิ่งดีๆ รอบตัวดู  อย่าคิดว่าตัวเองหมดสิ้นหนทาง  สู้ไปกับทุกปัญหาอย่างมีสติ  แล้วปัญหาจะเป็นเส้นทางเรา  ออกไปจากปัญหานั้นได้อย่างแน่นอนครับ  ขออย่างเดียวอย่าไปสร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง  อย่าดูถูกตัวเองเด็ดขาด  ใครจะว่าอะไรยังไง ก็ไม่สำคัญเท่ากับตัวเรารู้สึกจริง ๆ กับตัวเราอย่างไร  จงเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุดครับพี่น้อง..


วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2563

บัณฑิตเลือกนาย


การเป็นบัณฑิตนั้น  นอกเนื่องจากทักษะในเรื่องความรู้ ความสามารถทางด้านสติปัญญาแล้ว เราต้องรู้จักการวางตัวให้ดี  รู้จักกาละเทศะ  เรื่องไหนที่ควรพูดไม่ควรพูด  และการระแวดระวังตัวเมื่อภัยจะเกิดขึ้นกับตัวเอง  นอกจากนั้นคุณธรรมก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  การที่เราจะเป็นที่ปรึกษาให้ใคร  หรือรับใช้นายประเภทไหน  การพิจารณาในเรื่องนี้ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง  นายที่เราเลือก คือสิ่งที่จะกำหนดเราได้ในอนาคต  ในเรื่องคุณธรรมของนายควรสูงและมีความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น  เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน  และดูน้ำจิตน้ำใจของเขา  ที่แสดงออกต่อเรานั้นมีความจริงใจมากแค่ไหน  ได้นายดีชีวิตคุณก็เจริญงอกงามครับ

การพึ่งรู้ของบัณฑิตนั้น  เราต้องรู้จักการเลือกนายให้ดี  ทดสอบคุณธรรมตัวเขา  ถ้าหากคุณมั่นใจว่าตัวเขาดีพร้อมก็จงทุ่มเทให้สุดกำลัง  แต่หากเขายังเป็นนายประเภทต่อหน้าและลับหลังคนละเรื่องกันเลย  หรือประเภทที่ไม่รู้จักเชื่อใจใครเลย  บุคคลแบบนี้บัณฑิตควรถอยห่างนะครับ  ชีวิตคุณนั้นเลือกได้  อย่าไปเสียเวลากับเขาเลย  การเลือกคนผิดบางทีอาจนำภัยใหญ่หลวงมาหาเราได้  

สิ่งที่จะคุ้มครองคุณได้คือ ความถูกต้อง และคุณธรรมในใจคุณนั้นแหละ  มันเป็นยาดีและยาชูกำลังให้กับคุณได้  ถ้าบัณฑิตท่านไหนอยู่ภายใต้นายที่ขาดซึ่งคุณสมบัติที่ดี  ขาดคุณธรรม  อยากให้คุณลองพินิจ พิจารณานะครับว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง  หรือยอมรับฟังความคิดเห็นเราหรือไม่  ถ้าไม่....Move on ครับ  อย่าไปเสียเวลากับคนประเภทนี้เลย  โลกนี้กำลังรอคนที่เหมาะสมกับคุณ  เข้าไปหาเขาอยู่ครับ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีหนทาง  เพราะชีวิตนี้คุณเลือกได้ว่าจะให้มันเป็นไปในทิศทางไหน  อย่าให้ใครมาบงการชีวิตคุณ

จิตใจที่แน่นิ่ง  มั่นคงนั้น  แม้มีคนปองร้ายหรือคิดไม่ดีกับบัณฑิต  ย่อมไม่สามารถทำอะไรเราได้  การมีสติรู้ตลอดเวลา ย่อมรู้วิธีการเอาตัวรอดได้  ใครจะดีหรือเลวนั้นมันก็เรื่องของเขา  สิ่งที่สำคัญก็คือ ตัวเราต้องคิดดี พูดดี ทำแต่สิ่งที่ดีเข้าไว้  แล้วพลังงานที่ดีจะวิ่งเข้าหาคุณเอง  จำไว้ครับว่ามารไม่มี บารมีไม่เกิด...

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2563

เป็นคนตรง ๆ หรือพูดไม่คิดกันแน่


เป็นคนตรง ๆ หรือพูดไม่คิดกันแน่จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งนะครับที่คุณควรหลีกเลี่ยงได้จะดีที่สุดครับ  ก็คือคนที่ไม่รู้จักรับผิด  แต่รับชอบอย่างเดียว ก็คือ (เอาหน้าอย่างเดียวถ้าทำดีแต่ถ้าเป็นเรื่องผิดพลาดไม่เกี่ยวกับฉัน)  ไม่ว่าเราจะหวังดีแค่ไหน แต่มั่นใจได้เลยครับว่าคนแบบนี้จะนำเรื่องเดือดร้อนมาให้เราอย่างแน่นอน  อย่าไปไว้ใจเขาให้มากนะครับ  เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับเขาได้  แต่ก็ให้มันพอดีครับ  อย่ามากไป

บทเรียนในชีวิตในแต่ละครั้งก็จะสอบบททดสอบใหม่ ๆ  ให้กับเราเสมอ ๆ  เราต้องรู้จักแยกแยะและวิเคราห์บุคคลแต่ละประเภทให้ได้  มันมีส่วนต่อทุกเรื่องของเราได้  เราทำงานอยู่กับคนหลากหลายประเภทการที่เราพูดทุกอย่างแบบไม่คิดนั้น  หาใช่เรื่องที่ทำนะครับ  ต้องรู้จักวางแผนให้ดี  ไม่เช่นแล้วถ้าคุณเจอคนประเภทรับชอบแต่ไม่รับผิด  งานเข้าคุณแน่นอน  เขาจะหาคนรับผิดและโทษทุกคนที่อยู่รอบตัวเขา  แต่อย่าไปนึกโกรธหรือน้อยใจนะครับ คนประเภทนี้เขาก็เป็นแบบนี้แหละครับ  คงจะไปเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก  ปล่อยเขาไปตามวิถีของเขาเถอะครับ  เราก็ทำหน้าที่ของเราต่อไป

 โลกนี้เราก็แปลกนะครับมักจะส่งคนประเภทนี้มาเป็นบททดสอบเราตลอด  ถ้าเจอคนแบบนี้ต้องอโหสิกรรมให้เขานะครับ  อย่าคิดหนี้ไปไหนเพราะคุณจะเจอบุคคลประเภทนี้ได้ทุกที่ที่คุณไป  ขอให้ใช้ขันติ  ความอดทน อดกลั้น แล้วแผ่เมตตตาให้เขาไปครับ  แล้วคนประเภทนี้จะหลุดจากวงจรชีวิตของเราไปเอง  คนเรามีพบต้องมีจากครับ  การสร้างกรรมใหม่กับเขานั้นหาเป็นเรื่องที่ควรทำไม่  การเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่เราควรทำจะดีที่สุด  ยังไงก็ขอฝากให้เป็นข้อคิดนะครับ

หากคุณอยากเป็นคนที่มีคุณค่าก็ต้องเริ่มจากตัวคุณทำตัวเองให้มีคุณค่า  จากตัวของคุณเองไม่ใช่การที่ให้คนอื่นมาพูดว่าคุณเป็นอย่างไร  ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ตัวเองดีแก่ใจ  เวลาที่เรารู้สึกแย่กับอะไรบางอย่าง  ผมอยากให้คุณลองมองไปรอบ ๆ ตัว แล้วโฟกัส แต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่เป็นบวกแล้วชีวิตคุณจะมีพลังงานในด้านดี ๆ เพื่อมาลบล้างความรู้สึกแย่ ๆ ที่มันเกิดขึ้นกับคุณเอง  สถานการณ์บางอย่างเราเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้  แต่เราสามารถสร้างสถานการณ์ใหม่ ๆ เพื่อลบล้างสถานการณ์ที่มันแย่อยุ่แล้วให้มีกลับมาดีขึ้นได้  ลองเอาเทคนิคนี้ไปใช้ดูครับ  เพราะชีวิตเรามันสั้น  จงเลือกทำและใช้ชีวิตอยู่กับที่เราคิดว่าเขาคือคนสำคัญ และมีคุณค่ากับเรา

ยังไงผมก็เอาใจช่วยทุกคนที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้นะครับ  ผมเชื่อว่าคุณต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน  ผมคนหนึ่งที่ขอเป็นกำลังใจให้กับคุณนะครับ  สู้ไปด้วยกันคุณไม่ได้ตัวคนเดียว

วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2563

ความทรงจำดีๆ กับใครสักคนหนึ่ง



ผมเชื่อแหละครับคนเราไม่ว่าคุณหรือผม  เราต่างก็มีช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่ดีกับใครสักคนหนึ่ง  ไม่ว่าจะเป็นคนรัก เพื่อน หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัวเรา  ช่วงเวลานั้นบางทีเรานึกย้อนไป  มันก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่หอมหวานมาก  คิดไปก็อดอมยิ้มไม่ได้  ช่วงเวลานั้นช่างมีความสุขมากจริง ๆ

ที่ผมหยิบยกประเด็นนี้มาพูด  ก็แค่อยากเตือนสติกับใครบางคน  ในช่วงที่เรามีชีวิตอยู่ไม่ว่าชีวิตเราจะสุข เศร้า หรือประสบความสำเร็จสูงสุดแค่ไหน  ก็ขอได้อย่าลืมข้างหลัง  คนที่ทำให้เรามีวันนี้มาได้  ทุกการเดินทางมันไม่ใช่โชคทั้งหมด  แต่มันคือผลจากตัวเราและบุคคลรอบ ๆ ตัวเราเองนี่แหละครับ  การรู้จักให้ความสำคัญกับคนรอบข้างของคุณ  มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

โปรดจงจำไว้นะครับ  ชีวิตเรานั้นมันสั้นยิ่งนัก  อย่ามัวรอที่จะบอกรักใคร  หรือทำสิ่งดีๆ ให้กับใคร ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม ชีวิตเราถ้าเราอยากให้มีความทรงจำเป็นอย่างไร  ก็เริ่มจากการทำวันนี้ของคุณให้มันดีที่สุด เพราะว่า  วันนี้ก็จะกลายเป็นความทรงจำของเราในวันพรุ่งนี้นั่นเอง...



การที่เอาเหตุผลมาใช้กับทุกเรื่องในชีวิตนั่น  มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย  บางทีเราก็ต้องรู้จักใช้หัวใจเป็นตัวนำทาง  ทำตามสัญชาตญาณและความรู้สึกของเรา  คุณเคยไหมครับอยู่ดีๆ  บางทีน้ำตาเราก็ไหลออกมาโดยไม่มีสาเหตุ  นั่นเพราะจิตใต้สำนึกของคุณนั่นเอง  มันบอกว่าคุณกำลังเหนื่อยนะ  คุณควรพักบ้าง  จิตใต้สำนึกมันจะไม่หลอกคุณ  และมันจะทำตามความรู้สึกที่แท้จริงที่เกิดขึ้นจากภายใน

ในท้ายที่สุดนี้ผมก็อยากให้คุณเก็บความทรงจำที่ดีกับใครสักคนไว้นะครับ  เรื่องที่ลบออกจากชีวิตไปได้ก็ควรลบ  ปล่อยมันไป  เรื่องที่เราไม่อยากลืมก็ไม่ต้องลืมมันครับ  ชีวิตต้องเดินหน้าต่อ  อย่าให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์นาน  ลองออกไปใช้ชีวิตบ้าง  ลองไปทำสิ่งใหม่ ๆ  ให้ตัวเองได้มีเวลาพักกาย พักใจบ้าง ชีวิตนอกจากความสุขทางกายแล้ว  ความสุขทางใจก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ  ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ


วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

อย่าเอาข้อจำกัดของเราเองไปเทียบกับคนอื่น



ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับผู้ติดตามนะครับ  มีคำถามจำนวนมากสอบถามมากับผม  หัวข้อที่มากที่สุดก็คือ  ผมทำบล็อกนี้อย่างไร ?

ผมก็ต้องขอพูดตรงนี้เลยครับ  ความสำเร็จของผมในการทำเวปบล็อก  มันใช้เวลาพอสมควรเลยครับ  ไม่ได้มาเพราะโชคแต่เพราะความพยายามแบบไม่หยุด  ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา  ผมเขียนบล็อกมาตลอด  เริ่มจากไม่ได้เรื่องจนค่อย ๆ พัฒนาบทความขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัยและประสบการณ์  รวมถึงการฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง  สำหรับบางท่านที่กำลังจะเริ่มต้น  ผมขอเป็นกำลังใจให้นะครับ  ขออย่าได้หยุด  และอย่าสร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง..

เข้าเรื่องดีกว่าครับ  การเปรียบเทียบนั้นถือเป็นการแข่งขันที่ไม่มีผู้ชนะที่แท้จริง  การชนะใจตัวเราเองนั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  เวลาที่ตัวคุณถูกเปรียบเทียบกับใครบางคน  มันทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์  ยิ่งถ้าเรารู้สึกด้อยกว่าเขาแล้วด้วย  ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก  เพราะฉะนั้น  อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครเลย...


บางคนอาจยิ่งใหญ่ได้ในพื้นที่ธรรมดา ๆ 

บางคนอาจยิ่งใหญ่โดยต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ 

บางคนก็เกิดมาเพื่อเป็นผู้สร้าง ผู้ยิ่งใหญ่ตามแต่โชคชะตาให้มา

ในขณะที่บางคนต้องใช้ความขยัน อดทน และฝึกฝนตัวเองจนกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่


จะเห็นว่าปลายทางของทุกคน  เรานั่นต่างก็ต้องการเป็นที่ยอมรับจากใครสักคนหนึ่ง  เพื่อให้ได้รู้ว่าเรายังมีตัวตน  ความสำเร็จหรือข้อจำกัด  หรือแม้กระทั่งต้นทุนชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้

เวลาแห่งความสำเร็จของคนหนึ่งอาจเเลกกับทั้งชีวิต ในขณะที่อีกคนหนึ่งสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว  สาเหตุอาจมาจากหลายปัจจัยข้างต้น  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุนชีวิต  โอกาส ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา  เพราะฉะนั้นจงอย่าได้ดูถูกตัวเอง  

คุณเคยไหมครับ ร้องไห้กับบางเรื่องที่โดนคนอื่นดูถูก  หรือมีคนไม่แน่ใจในความสามารถของเรา  โดนดูถูกว่าอย่างเรานะมันไม่เอาไหน  ชีวิตจะไปได้ไกลสักแค่ไหน  

ใครที่เคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้  ผมบอกได้เลยว่ามันบั่นทอนจิตใจเรามาก ๆ  และเราก็รู้สึกโกรธเขามากด้วย  สิ่งที่เราทำได้ในเวลานั้นก็คือ  การนิ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด  ไม่มีใครจะไปรู้อะไรได้ดีกว่าตัวเราหรอกครับ  เก็บคำดูถูกของเขาไว้   ใช้มันเป็นเเรงผลักใจของเรา  เผื่อให้เขาได้รู้ว่าสักวันคนอย่างเรา  ก็มีดีไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน

หลักสำคัญในการดำเนินชีวิตของผม  ผมเลือกที่จะอยู่กับคนที่เขาเห็นคุณค่าในตัวเราเท่านั้น  มันเป็นพื้นฐานง่าย ๆ   คนที่เห็นคุณค่าในตัวเรา  ย่อมเคารพในตัวตนของเราจริง ๆ และปล่อยให้เราได้มีโอกาสได้แสดงความสามารถของเราได้อย่างเต็มที่  

ในช่วงเวลาที่เรายังหนุ่มสาว  โอกาสนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  มันเป็นเสมือนใบเบิกทางไปสู่ความสำเร็จของคุณในอนาคต  จงทำตัวเองให้เป็นคนง่าย ๆ  เรียนรู้สิ่งรอบตัว  และพยายามมองหาโอกาสในทุกที่ที่คุณไป  จำไว้นะครับว่าไม่มีใครดึงเราให้ตกต่ำได้  ถ้าเราไม่ยอม...และที่สำคัญความสำเร็จมีเวลาของมันครับ..ใจเย็นๆๆ


 

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563

วิธีฝึกใจตัวเองให้อยู่กับคนที่คิดเล็กคิดน้อย


 เวลาที่คนเรารู้สึกแย่กับตัวเอง  หรือมีบางคนที่มาบั่นทอนความรู้สึกของเรา  อย่างเช่นคนประเภทที่คิดเล็ก คิดน้อยไปหมดกับทุกเรื่อง  จนบางทีเราอยู่ด้วยก็มีความรู้สึกอึดอัดใจ  คนแบบนี้เขามีปมในชีวิตนะครับ  อันที่จริงเรียกได้ว่าแทบจะหาอะไรดีให้กับตัวเองได้ยากมาก  เพราะเขาเอาแค่คิดว่าจะทำอย่างไร จะได้คนที่ดี  คนที่พร้อมทุกอย่าง  และถูกใจตัวเองไปหมดทุกเรื่อง  ทั้งที่ในความเป็นจริง  มันไม่มีคนแบบนี้หรอกครับ  สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ  การเปลี่ยนตัวเองต่างหาก

มนุษย์จำพวกนี้มักจะคิดว่าเหตุผลของตัวเองนั้นถูกต้องเสมอ  เขาจะไม่พบข้อบกพร่องในตัวเองเลย  ทั้งที่ในความเป็นจริง ทำอะไรแทบไม่สำเร็จสักอย่างเลย  ให้ทำอะไรก็ทำแบบ.....จนเราลืมไปแล้วว่าได้ให้เขาทำเรื่องนี้  ผมว่ามีคนจำนวนมากแหละครับที่พบเจอกับคนประเภทนี้ในโลก

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ อย่าหนีปัญหานะครับ  เราก็แค่ดูอยู่แบบนั้นถ้าเขาไม่ได้มายุ่งหรือสร้างความเดือนร้อนอะไรกับเรา ก็อย่าไปโต้ตอบเขา  แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามโต้ตอบให้น้อยที่สุด  เพราะมันเสียเวลาชีวิตจริง ๆ  จำไว้นะครับว่าเราไม่สามารถให้ใครมาชอบ  หรือรักเราได้ทุกคนในชีวิต  จงโฟกัสแต่คนที่เขาให้คุณค่า  และเห็นคุณค่าของเราเท่านั้น  คนที่เขาไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา  ก็ปล่อยเขาได้มันเรื่องของเขานะครับ  เพราะต่อให้เราจะทำดีแทบตาย  มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบที่ผมว่า  ผมอยากให้คุณลองหยุดอยู่นิ่ง ๆ  แล้วหาเวลาออกไปใช้ชีวิตบ้างนะครับ  ไม่อย่างนั้นพลังงานแห่งความคิดลบจะวิ่งเข้ามาหาคุณโดยไม่รู้ตัว อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นคนคิดลบเด็ดขาด  ถ้าเราทำตัวเองให้เป็นคนคิดในทางบวก พลังงานบวกก็จะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาหาเรา  เราจะได้รับโอกาสดีๆหลายอย่างในชีวิต  แบบที่เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลย  รู้จักวางใจให้เป็นกลางกับทุกเรื่อง  เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก  เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้  แต่เราเปลี่ยนใจเราได้

ยิ้มเข้าใจแล้วสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง  ช่วงสถานการณ์โลกแบบนี้  ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกลัว  ความไม่ปลอดภัยในชีวิต  และความเสี่ยงในเรื่องต่าง ๆ  ขอให้คุณมีสติให้มาก ๆ  เพราะจิตที่นิ่งจะนำไปสู่สมาธิ  เมื่อมีสมาธิคุณก็จะจัดการกับทุกปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างดีครับ  ลองเอาไปใช้ดูรับรองได้ผลครับ..


วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ฝึกตัวเองให้เป็นคนจิตว่าง

 ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาก็คือ  การทำจิตใจให้ว่าง.........................................................

เมื่อจิตว่างเราจะปราศจากอคติต่าง ๆ   ชีวิตเราจะมองเห็นแสงสว่าง  เห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น  บางทีเราก็ต้องฝึกคิดนอกกรอบ  เพื่อพาให้ตัวเองก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง

ชีวิตที่เราอยู่กับกรอบมากจนเกินไป  จนบางทีเราไม่กล้าแม้แต่จะลองเสี่ยง  หรือทำอะไรใหม่ ๆ  ทนอยู่กับบางสิ่งทั้งที่ในใจไม่ได้มีความสุขกับมันเลย  ไม่ว่าจะ...

ทนอยู่กับคนแย่ ๆ  ทั้งที่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องทนกับมัน

ทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิม ๆ ทั้งที่ตัวเองก็มีโอกาสพบและทำในสิ่งใหม่ ๆ

ทนอยู่กับอดีตที่คอยตอกย้ำให้ตัวเองต้องเจ็บปวด และขุดหลุมฝังตัวเองไปเรื่อย ๆ


เราต้องรู้จักพึ่งพาตัวเองให้ได้  อย่าได้ไปคาดหวังหรือฝากชีวิตไว้ที่ใคร  ไม่มีใครจะเป็นที่พึ่งให้เราได้ตลอดไปได้หรอกครับ  หรือแม้กระทั่งบางทีเราอาจต้องพบเจอกับสิ่งที่ผิดหวังบ้าง  คนที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้เราจะมาพบเจอกับเขาบ้าง  เหตุการณ์เหล่านี้บางทีมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ  แต่มันคือความตั้งใจของเรานั่นแหละครับ  

โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับใคร  ถ้าคุณไม่ไปทำอะไรกับมันก่อน  ทุกสิ่งมันเริ่มจะความคิดของคุณ  ถ้าชีวิตคุณคิดและทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง  โอกาสที่จะดึงคุณเข้าไปหาคนที่ดีพร้อม  ก็ย่อมจะเป็นไปในทิศทางนั้น  ในโลกแห่งความจริง  มันอาจไม่ได้เป็นสีขาวหรือสีดำแบบสุดโต่งหรอกครับ    มีแต่โลกที่เป็นสีเทานั้นแหละ  

มันก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเทามาก เทาน้อย  ถ้าเราหลงเข้าไปวงจรพวกนี้  คุณต้องระมัดระวังให้มาก  อย่าปล่อยให้จิตใจทำความชั่วจนเป็นเรื่องเคยชิน  อย่าให้ตัวเองกลายเป็นปีศาจที่เห็นความโลภ  ความหลง เข้ามากุมหัวใจคุณได้  จนตัวคุณยอมทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  เพียงเพื่อแลกกับบางอย่าง....

การรักษาสมดุลของจิตใจ  และพัฒนาจิตใจให้มันสูงขึ้นจึงเป็นสิ่งที่เราต้องพึ่งปฎิบัติจนเป็นนิสัย  ทำจิตให้ว่างอย่างสม่ำเสมอ  เมื่อปัญหาเข้ามาก็ยอมรับมัน และใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น  เมื่อจิตคุณเข็มแข็งไม่ว่าเหตุการณ์ตรงหน้าจะเป็นอย่างไร  ก็ไม่มีใครมาทำอะไรคุณได้  

เพราะชีวิตเราเกิดมาพร้อมกับคำว่า อิสระ  อย่าปล่อยให้เรื่องทางโลกมาปิดบังอิสระทางจิตวิญญานของเรา  จนเราไม่กล้าที่จะทำอะไรให้ดีงาม ถูกต้อง  และเจริญงอกงามได้  เพราะฉะนั้นคุณต้องอนุญาตตัวคุณเองได้แล้วครับ  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป..



วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2563

เพราะเวลานั่นมีค่ายิ่ง

 

มีหลายคนบอกว่าเวลาคือสิ่งที่มีค่าที่สุด  แต่ในความเป็นจริง ตัวผมกลับมองเห็นว่า  ส่วนใหญ่มักจะบอกกับตัวเองว่า ยุ่งมากไม่มีเวลาเลย  .....  มันเพราะอะไรกันแน่...

สาเหตุที่คุณยังยุ่งตลอดเวลานั้นมันมาจากสาเหตุไหนกันแน่  คุณบริหารจัดการเวลาไม่เป็น  หรือคุณไม่เข้าใจกันแน่ว่าเวลานั้นควรบริหารจัดการให้ดีได้อย่างไร  มันน่าคิดนะครับสำหรับประเด่นนี้

บางคนยุ่งตลอดทั้งปีเลย  แต่กับไม่สร้างอิมแพคอะไรมากมายเลย  บางคนมีเวลาสนุกสนานได้กิน เที่ยว ใช้ชีวิตในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ  แต่ในขณะเดียวกันกันก็สามารถสร้างการเปลี่ยนให้กับตัวเอง  และสิ่งรอบข้างได้

บางคนคาดหวังแต่ผลลัพธ์เดิม  เชื่อว่าการทำงานขยันอดทนอย่างเดียว  เดี่ยวมันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้  แต่ผมจะบอกนะครับว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่  ถ้าคุณยังคงใช้วิธีการเดิม ๆ มันไม่มีทางหรอกครับว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้  

มนุษย์ส่วนใหญ่ก็แปลกจริงนะครับ  เราแข่งกันกิน แข่งกันใช้ หรือแม้กระทั่งในชีวิตของการทำงาน  ทุกคนจะพยายามทำงานให้มาก ๆ และทำตัวเองให้ดูยุ่งไปหมด  จนแทบจะไม่มีเวลาได้คิด หรือพัฒนางานใหม่เลย  แท้ที่จริงแล้ว  ประโยชน์ของการทำตัวเองให้ว่าง และมีเวลาคิดทบทวนในผลงาน และตัวเราเองนั้นก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

ผมยกตัวอย่างเช่น  คุณต้องการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่  ในเมื่อทุกคนรู้อยู่แล้วว่าฉันต้องเดินทางไปเชียงใหม่วิธีการของผู้คนส่วนใหญ่ก็คือ  จะพยายามเร่งความเร็วของรถให้มากขึ้น  เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้ไว ๆ  แต่อันที่จริงมันก็ไม่ต่างกันมากนัก  แทนที่คุณจะเปลี่ยนวิธีคิด  เราทราบจุดมุ่งหมายของเราแล้ว  เรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องไปที่ไหน  เราเอาเวลามาวางแผนการเดินทางให้ปลอดภัย  หรือเส้นทางให้สะดวกในการเดินทางให้เร็วไม่ดีกว่าเหรอครับ

เวลาเป็นของมีค่า  เราต้องรู้จักวางแผนการใช้ให้ค๋มค่านะครับ  ...  เพราะถ้าคุณเห็นมันเป็นเรื่องตลก  มันก็จะเล่นตลกกับคุณจริง.............







วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

จะรับมืออย่างไรกับคนที่แพ้ไม่เป็น


ในชีวิตของคนเราคุณคงเคยเจอกับสถานการณ์บางอย่าง ที่อาจทำให้คุณรู้สึกคับข้องใจไม่น้อย  กับบุคคลประเภทที่แพ้ไม่เป็น  มักจะเอาความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่  โดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่่น  คิดแต่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ  แต่พอพบเจอกับเรื่องที่ผิดพลาดกลับไม่ยอมรับข้อผิดพลาดนั้น  แล้วโทษแต่คนอื่นทั้งที่ในความเป็นจริง  ตัวเขานั่นแหละที่ควรแก้ไข

ถ้าชีวิตคุณมีความจำเป็นที่ต้องวนเวียนอยู่กับคนประเภทนี้   ผมอยากจะขอแนะนำนิดหนึ่งนะครับว่า  อย่าไปคิดเอาชนะเขาเลย  อะไรที่ยอมได้ก็ยอมไปเถอะเพราะถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะรังควานคุณไม่เลิก  ตราบใดที่เขายังมีความรู้สึกว่าตัวเขานั่นยังไม่ใช่ผู้ชนะ  คนประเภทนี้เราเรียกว่า  “พวกที่แพ้ไม่เป็น”  และมักจะชอบในความสมบูรณ์แบบจนบางทีเกินความจำเป็นมาก

อย่างที่ทุกท่านรู้นะครับชีวิตนี้ถ้าคุณแพ้ไม่เป็น  ก็ยากที่จะเป็นใหญ่ ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้  เพราะในโลกของความเป็นจริง  คนเราย่อมมีผิดพลาด มีล้มเหลว อ่อนแอ และพ่ายแพ้บ้าง  เป็นเรื่องธรรมดา  ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปหมดหรอกครับ

ภายใต้หน้ากากที่สวยหรู  ก็อาจเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย  กว่าที่คนบางคนจะไปถึงจุดมุ่งหมายที่ได้ตั้งใจเอาไว้  ไม่มีใครจะรู้อะไรไปดีกว่าตัวเราครับ  ถ้าคุณมั่นใจว่าสิ่งที่คุณทำนั่น  มันคุ้มค่าก็ตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไปครับ  ในที่สุดคนพวกนี้เขาจะยอมแพ้ไปเอง  หรือไม่ก็แพ้ใจตัวเองเพราะคนที่คิดเอาแต่ชนะ  และตัวเองถูกเสมอ  จะไม่มีทางได้ในสิ่งที่เขาต้องการ  และไม่มีใครคอยสนับสนุนเขาอย่างแท้จริงหรอก  เขาอาจต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว  และผู้คนก็จะค่อย ๆ เดินจากเขาไปเอง  ไม่ต้องไปโกรธ  หรือไปเอาคืนเขาหรอกครับ  เดี๋ยวเขาจะทำตัวเขาเอง  (มันคือกฎของการกระทำ)

คนประเภทนี้ถือว่าน่าสงสาร  เขาแค่เรียกร้องความสนใจ และอยากแค่มีคุณค่าและตัวตนเพื่อให้ใครเห็นว่าตัวเขาดีและเก่ง  อันที่จริงคนจะดีจะเก่งมันมีอะไรมากกว่านั้น  เราต้องมีความเมตตาต่อเขา  ภาวนาและหวังว่าสักวันเขาจะเปลี่ยนความคิดได้  แต่ถ้าไม่ก็ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกครับ  ปล่อยให้มัตนเป็นปัญหาของเขา มันไม่ใช่ปัญหาอะไรของเรา….เพราะฉะนั้นก้าวต่อไป

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เมื่อคนล้มอย่าไปเหยียบเขาซ้ำนะครับ


ในช่วงชีวิตของเรามันต้องมีสักครั้งแหละครับ  ที่บางทีเราก็ล้มเหลวกับบางเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่อง ชีวิตส่วนตัว หรือหน้าที่การงาน จนบางทีอาจทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลย  แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้มันก็น้อยนักที่จะมีคนเข้าใจเราจริง ๆ บางทีกลับมีแต่คนคอยตำหนิและซ้ำเติมเราด้วยซ้ำ

อันที่จริงแล้วในห้วงเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเอง สิ่งที่เราต้องการจริงๆก็คือ ใครสักคนที่อยู่ข้างๆเรา ไม่ต้องทำอะไรมากแค่อยู่ข้าง ๆ ผมเคยมีช่วงเวลานี้มาก่อน สิ่งที่ผมเจอคือคำดูถูก และซ้ำเติมในความผิดพลาดของเรานั่นเอง  ทุกอย่างเราแก้ไขมันไม่ได้  เพราะมันผ่านไปแล้ว

ในช่วงเวลานั้นผมอยู่ในสภาวะที่จิตตกอย่างมาก ผมกระวนกระวายใจและอยากจะให้ใครสักคน เข้ามาเปลี่ยนแปลงช่วงเวลานั้นๆ. ผมโทรปรึกษาคนนั่น คนนี่จนวุ่นวายไปหมด  แต่ทุกคนก็ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้  หลายคนคงสงสัยว่าแล้วผมผ่านช่วงเวลานั่นมาได้ยังไง

สิ่งที่ผมทำก็คือ เลิกโทษตัวเอง และเลิกโทษคนอื่น ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง ต้องยอมรับแหละครับว่าเราลืมอดีตที่เลวร้ายไม่ได้หรอก  แต่เราสามารถทำสิ่งที่ดี และสิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้จิตใจเราเข้มแข็งขึ้นมาได้ จิตใจคนเราก็เหมือนน้ำ  ถ้าเราคิดลบ คิดไม่ดี ทำไม่ดี น้ำก็จะขุ่นมั่ว  ในทางกลับกันถ้าเราคิดทำแต่เรื่องดี ๆ น้ำก็จะใส นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม คนส่วนใหญ่จึงต้องคิดบวกให้มาก ๆ เพราะมันมีผลต่อจิตใจเรานั่นเอง

เวลาที่คุณเจอบางคนที่เขากำลังล้มเหลว ผิดหวังจากการกระทำของเขาเหล่านั้น  อย่าได้ไปซ้ำเติมเขานะครับ เพราะบางทีคำพูดที่ออกจากปากเรา อาจไปทิ่มแทงเขา จนเขาหมดหวังทุกอย่างในชีวิต และอาจคิดทำร้ายตัวเองได้ ควรให้กำลังใจเขา เพราะคนเรามันผิดพลาดกันได้ เรื่องง่าย ๆ บางทีเราอาจมองว่า ทำไมคุณแก้ปัญหาไม่ได้ ทำไมคุณทำไม่ได้ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะทำแบบนั้น แบบนี่ นั้นเพราะเป็นคุณไงครับ ไม่ใช่เขา ถ้าไม่คิดจะช่วยเขาก็แค่ไม่ต้องพูดอะไรจะดีที่สุดครับ

ระหว่างความยุติธรรมกับกฎหมาย บางทีเราก็ต้องแยกให้ออกนะครับ สำหรับผมคิดว่าความยุติธรรมต้องอยู่เหนือกฏหมาย บางอย่างมันต้องยืดหยุ่นกันได้บ้าง หากทุกอย่างใช้กฏหมายเป็นที่ตั้ง คนถูกอาจกลายเป็นคนผิด  คนจนก็อาจต้องติดคุกโดยไม่ตั้งใจ ฝากเป็นข้อคิดให้ทุกท่านด้วยนะครับ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วิธีรับมือกับคนมีความคิดเห็นสุดโต่ง


คุณคิดยังไงกับคนที่มีความคิดเห็นแบบสุดโต่ง  ไม่ไปทางใดก็ทางหนึ่ง  ไม่ซ้ายก็ขวา  ซึ่งคนแบบนี้เขาจะไม่สามารถรับมือ  หรือยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่มันเกิดขึ้นตรงหน้าได้

เวลาที่คุณเจอคนประเภทนี้นะครับ  ผมขอให้คุณตั้งสติไว้ก่อนครับ

ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ  ทำจิตใจของตัวเองให้สงบก่อนพยายามเดินทางสายกลาง  เพื่อให้ทุกอย่างปรับเปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์ที่มันควรจะเป็นครับ 

คนประเภทนี้สาเหตุที่เขาเป็นแบบนั้นหลักๆ  มาจากพื้นฐานครอบครัวและการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กของเขาครับ  เป็นสิ่งที่ยากที่เราจะเปลี่ยนเขาได้  พอเราพยายามจะเปลี่ยนสุดท้ายเขาก็จะกลับไปยังวิถีเดิมของเขาด้วยความคุ้นชินนั้นเอง

การทำงานหรือร่วมงานกับคนแบบนี้  บางทีเราต้องรับฟังไปก่อน  ส่วนวิธีการนั้นเราค่อยมาหาวิธีที่มันเหมาะสมดีกว่าครับ  ขื่นไปทำตามวิธีของเขานั้น  รับรองได้เลยว่าพังทั้งคุณและลูกค้า  หรือไม่ก็เพื่อนร่วมงานอย่างแน่นอน

สิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือ  ให้ทนเท่าที่คุณทนได้นะครับ  เพราะคนประเภทเขาจะไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรอยู่แล้ว  ถ้าคุณคิดว่าหลีกได้ก็หลีกจากเขาไปเลย  หรือออกจากชีวิตเขาไปเลยจะดีที่สุด  อย่าไปเสียเวลานะครับ  เสียสุขภาพจิตของคุณเอง  อันที่จริงมันไม่มีใครผิดหรอก  เพียงแต่คนเราเกิดมาบนโลกนี้  เราเลือกได้ว่าเราจะให้ชีวิตเรานั้นมีความสุข  และสนุกไปกับทุกเรื่องที่ทำ  หรือทนอยู่กับคนที่ทำให้เรารู้สึกลำบากใจไปตลอด  ขอให้คุณคิดเอานะครับ

โลกมันก็แบบนี้แหละอย่าไปเรียกร้องความยุติธรรม หรืออย่าไปพยายามเปลี่ยนนั่น โน่น นี่  เปลี่ยนตัวเราเองง่ายกว่าครับ  อะไรที่ทำให้เราเสียสุขภาพจิตก็ห่าง ๆ มันจะง่ายกว่าครับ  ชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป  อย่ามัวมาเสียเวลากับคนที่ไม่เห็นค่าของเราครับ  เพราะชีวิตคุณเลือกเอง...

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

บางทีเราต้องฝึกความอดทนบ้างครับ ไม่มีใครได้ดังใจเราทุกคน


เวลาที่เราต้องอยู่กับคนที่เราต้องใช้ความอดทนมาก ๆ กับเขา  จนบางทีเราก็แทบจะหมดความอดทนกับเขานั้น  ผมอยากให้คุณขอบคุณเขานะครับ  ถือว่าเราฝึกความอดทนในตัวเอง  มนุษย์เราขันติบารมีถือเป็นสิ่งที่เราต้องฝึกฝน  บางทีเราก็ทำอะไรโดยขาดสติและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง  และสร้างความเสียหายจนตัวเองแทบจะกลับมาตั้งตัวไม่ได้ 

คนเรานะครับเวลาทำอะไรมันต้องตั้งอยู่บนความพอดี  ไม่มากหรือไม่น้อยเกินไป  บางทีผมเห็นผู้คนในโลกอินเตอร์เน็ต  โพสอวดรวย  อวดรู้  อวยสารพัดที่ตัวเองจะอวดได้  หารู้ไม่ว่าโลกเรานี้มันมีทั้งคนที่เขาหวังดีกับเรา  และคนที่หวังจะทำลายเราให้เสื่อมเสียงชื่อเสียงได้  เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณดัง หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง  ควรต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก  ไม่ว่าจะเป็นการวางตัว  ความคิดและการกระทำ

สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เราต้องฝึกควบคุมความคิดของเราครับ  ความคิดเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง  ถ้าคุณคิดดี คำพูดและการกระทำของคุณก็จะออกมาดีด้วย  ผมเข้าใจนะครับว่ามันยากมากกับการที่ต้องคอยระมัดระวังความคิดของเราเอง  แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นครับ

มันคือสิ่งที่สะท้อนออกมาจากข้างในของคุณ  นี่แหละครับที่หนังสือหลาย ๆ เรื่องจึงพูดถึงเรื่องของกฎแห่งจักรวาล  ทุกอย่างเริ่มต้นจากความคิด  "ถ้าคุณเชื่อมันว่าคุณทำได้  คุณก็สามารถทำได้"  

การอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมบางทีอาจถูกใจเราบ้าง  ไม่ถูกใจบ้างนั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลก  เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอกครับ  นอกจากได้แต่มองดูอย่างมีสติ  เฝ้าระวังความคิดของเราไม่ให้ไปตำหนิหรือมองเขาในแง่ลบ  เพราะมิฉะนั้นแล้วพลังงานนั้นจะส่งไปยังเขาโดยที่เรายังไม่ทันได้ตั้งตัว  โดยที่เราเองก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ  การไปตัดสินคนอื่นหาใช่เรื่องที่คุณควรทำหรือไม่

เวลาที่เราทุกข์ใจกับบางเรื่อง  รู้สึกจะหมดความอดทนกับมัน  ขอให้คิดแค่ว่าอดทนอีกนิด  เป้าหมายของคุณใกล้บรรลุแล้ว  โฟกัสไปถึงสิ่งที่คุณต้องการ  นั่งเฝ้านึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา  เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงชะตาเท่าไหร่  แต่......

มาตอนนี้ผมรู้แล้วละครับว่า  คนเรานั้นจะเก่งอย่างเดียวก็ไม่ได้  มันต้องมากับความเฮงด้วยครับ  แล้วทำอย่างไรละ  ในทางพุทธศาสนาก็คือการทำกรรมดีนั้นเอง  หมั่นทำบุญ ภาวนาดี สร้างแต่กรรมดีให้มากๆครับ  แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะส่งผลให้เอง  (เคล็ดไม่ลับจริงๆ ครับผมถามคนสำเร็จมาหลายคนละ)  เอาละครับท้ายที่สุดนี้ก็ขอให้ทุกท่านโชคดีนะครับ  รักษาสุขภาพ และหมั่นสะสมแต่ความดี  มีคุณธรรม รักษาคุณธรรมของคุณไว้  ความสำเร็จแบบนี้มันยั่งยืนอย่างแท้จริงครับ..

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เศรษฐกิจพอเพียงในยุคโควิด


อย่างที่ทุกท่านได้ทราบนั่นแหละครับ  โควิด-19 ได้สร้างความเสียหายไปอย่างรุนแรงในวงกว้าง  ไปทั่วโลกทั้งในเรื่องระบบเศรษฐกิจและการเงิน  ปัญหาเรื่องสุขภาพและปากท้องของประชาชน  และปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ที่จะตามมาด้วย  สิ่งเหล่านั้นล้วนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง  และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาเรื้อรังไปอีกนาน

พอย้อนกลับมานึกถึงหลักคำสอน ของในหลวงรัชกาลที่ 9  ที่ท่านได้พูดถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียง  เป็นหลักการพื้นฐานง่าย ๆ ที่เราสามารถลงมือทำได้ทันที  หลักการนี้ผมว่าเหมาะที่จะนำมาใช้ในยุคโควิดเอามาก ๆ  เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเบื้องต้น  ได้ดีที่สุด

เศรษฐกิจพอเพียง  เป็นกรอบแนวคิด ซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้  รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น  จนเกิดความยั่งยืน  พอเพียงในความหมายนี้ก็คือ การเดินทางสายกลาง โดยตั้งอยู่บนหลัก 3 ประการ ดังนี้

1. ความพอประมาณ  ในที่นี้หมายถึง การใช้จ่ายให้เหมาะสมกับฐานะของตน  ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย สามารถดูแลตัวเอง และครอบครัวได้ อย่างไม่ยากลำบากเกินไป

2.ความมีเหตุผล  เราต้องมีเหตุผลทุกครั้งในการตัดสินใจกับทุกเรื่องในชีวิต  พิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบ โดยปราศจากอารมณ์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง

3.การมีภูมิคุ้มกันที่ดี  หมายถึงการยอมรับการเปลี่ยนแปลง และสิ่งไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  เราต้องเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเองให้ได้  มีสติและตั้งตัวอยู่ในความไม่ประมาณ  รวมทั้งมีแผนสองสำรองไว้อยู่เสมอเวลามีเหตุฉุกเฉิน

การที่เรารู้จักพอเพียงใช้ชีวิตแบบพอประมาณ  ไม่สร้างหนี้  ไม่โลภจนเกินไป  รู้จักประมาณตนและความพอดีในชีวิต  นี่แหละครับที่เราเรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียง  หลายคนไม่เข้าใจชีวิตในยุคโควิด  พอเกิดปัญหาต่างฝ่ายต่างก็เรียกร้อง และโทษกันไปมา  ทั้งที่ในความเป็นจริง  เราคือมนุษย์โลก  ตำแหน่งหน้าที่นั้นเป็นสิ่งสมมติที่เราสร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง  เราทุกคนมีหน้าที่  ต้องรับผิดชอบร่วมกัน  และแก้ปัญหาร่วมกัน  ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง  เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

มันไม่มีใครดีกว่าใครหรอกครับ  เรามองต่างมุมกัน  ทุกคนมีความคิดเห็นในมุมของตัวเองผ่านประสบการณ์ของตัวเราเอง  เพราะฉะนั้นหาจุดตรงกลางเพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน  เมื่อความเข้าใจตรงกันทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยดีครับ 

ทีนี้เมื่อเราอยู่ในยุคของโควิด  เรามาดูกันครับว่าเศรษฐกิจพอเพียงทำได้อย่างไรบ้าง

1.ใช้จ่ายเงินสดพยายามอย่าใช้บัตรเครดิต  หรือเอาเงินอนาคตมาใช้

2.ห่อข้าวมากินในที่ทำงาน (ทำกับข้าวทานเอง)

3.ไฟฟ้าถ้าหากไม่จำเป็นก็ปิดและใช้เท่าที่จำเป็น  วันไหนอากาศไม่ร้อนก็เปิดพัดลมแทนการเปิดแอร์

4.ก่อนที่จะไปซื้อของทุกครั้งควรทำรายการไว้ให้เรียบร้อย  เพื่อที่จะได้ให้ทราบว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นที่เราต้องซื้อ  นอกเหนือจากนั้นคือไม่จำเป็น

5.เก็บออมก่อนทุกครั้งเมื่อคุณมารายรับเข้ามา  ถ้าให้ดีควรอยู่ที่ 30-50 % ของรายรับถ้าเป็นไปได้  นั่นจะทำให้ลดความเสี่ยงในการดำรงชีวิตของคุณมาก

6.หากมีพื้นที่ก็ปลูกผักสวนครัวกินเองดีกว่าครับ  มีประโยชน์และทำให้สุขภาพของเราดีด้วย

นี่ก็แค่หลักพื้นฐานง่าย ๆ ที่คุณสามารถปฎิบัติได้ทันที  ชีวิตง่าย ๆ ธรรมดานี่แหละครับ  คือชีวิตที่มนุษย์ต่างปรารถนา  แต่ก็มักหลงลืมไปว่า  เราเกิดมาเพื่ออะไรกันแน่  ยังไงฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ.


วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ฝึกสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง


วันนี้ผมขอพูดหัวข้อเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองนะครับ  คุณสังเกตไหมครับว่า 

คนบางคนดูเป็นคนที่มั่นใจตัวเองอย่างมาก

คนบางคนดูเป็นคนไม่เชื่อมั่นในตัวเองเอาซะเลย

อะไรละครับที่เป็นตัวกำหนดให้พวกเขาเหล่านี้  ซึ่งตัวผมเองมองว่าสิ่งเหล่านี้มันสามารถฝึกฝนกันได้ครับ  มันขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้มากน้อยขนาดนั้น  กำแพงที่อยู่ภายในใจนั้นก็มีผลอย่างยิ่ง  ต่อเรื่องของบุคลิคภาพที่แสดงออกมา  แต่การที่มนุษย์เรานั่นจะสร้างความเชื่อมั่นได้นั่น  มันก็ต้องเริ่มด้วยตัวของเราเอง  หาใช่การที่ได้ยินหรือฟังจากคนอื่นมา  ความเชื่อมั่นเกิดจากภายใน      บุคลิคภายในคือตัวที่สะท้อนให้เห็นภายนอก 

ผมก็เชื่อมั่นว่าหลายคนอยากเป็นคนที่มีบุคลิคที่ดี  และเป็นที่พบเห็นประทับใจต่อผู้คนที่พบเห็น  มันเป็นเสมือนการสร้างโอกาสดี ๆ ในชีวิตให้กับเรา  จุดเริ่มต้นหากให้ผมต้องแนะนำ  ก็ต้องเริ่มมาจากการฝึกภายในจิตใจของคุณให้หนักแน่น  มั่นคง  และเชื่อจริงๆว่าตัวคุณนั้นเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองจริง ๆ  ไม่ใช่การหลอกตัวเองเท่านั้น 

วิธีการสังเกตุว่าบุคคลที่คุณพบเห็นเขาเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองหรือไม่  คุณสังเกตุได้จากอากัปกิริยาของเขา  ไม่ว่าทั้งการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็น คำพูด กิริยา วาจา รวมถึงนิสัยหรือบุคลิคภายในที่แสดงออกมา  จะทำให้คุณรู้สึกว้าวทันที่  ที่คุณได้พบเจอเขาและอยากที่จะสนทนาเพิ่มเติม  หรือไม่ก็มีเรื่องที่อยากจะขอคำแนะนำบางอย่างจากเขาเหล่านั้น  สิ่งเหล่านี้ตัวคุณก็สามารถฝึกฝนด้วยตัวเองได้ 

มันอาจจริงครับที่ผมเห็นว่ามีคอร์สสอนเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเขาก็ต้องการผลประโยชน์จากคุณนั้นเอง  มันอาจได้ผลนะแต่ก็ไม่ทั้งหมด  เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวคุณนั่นเอง  ถ้าคุณเป็นคุณเชื่อมั่นในตัวเองอยู่แล้ว  ผมว่า...คุณไม่ต้องไปเรียนให้เสียเงินหรอกครับ  หาหนังสือดีๆ  มาอ่าน  คบค้าสมาคมกับคนที่เขาเป็นคนมีบุคคลิภาพที่ดูมีความเชื่อมั่นในตัวเอง  กล้า และลองทำในสิ่งใหม่ ๆ  ออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ  เพียงเท่านั้นก็ถือเป็นการฝึกพื้นฐานของคุณได้แล้วครับ

จงจำไว้นะครับว่า  คนที่จะนำทางชีวิตของคุณไปสู่ความสำเร็จได้นั่น  มีแต่คุณเท่านั้น  ทางลัดนะเหรอให้ลืมไปได้เลยครับ  เลือกทำในสิ่งที่คุณถนัด  ทำในสิ่งที่คุณอยากตื่นขึ้นมาทำมันทุกวัน  โดยไม่คิดว่ามันคืองาน และคุณก็สนุกไปกับมัน  ความกลัวเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นลงมือทำมันครับ  เพราะชีวิตนี้สั้นนัก  อยากทำอะไรก็ทำไปเลยครับ...

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

หลักในการดำเนินชีวิต


ในโลกที่เราไม่อาจรู้จักตัวตนที่แท้จริงของใครนั้น  บางทีการที่เราทำตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากเกินไป  ก็อาจส่งผลเสียกับตัวเราได้  ไม่มีใครรู้อย่างแท้จริงหรอกครับว่า  ใครกันแน่ที่จริงใจกับเรา  ผมพยายามย้ำกับตัวเองเสมอว่าเราต้องมีสติให้มาก ๆ  อย่าได้ไปหลงเชื่อคำพูด  หรือคำยุยงจากใครแบบง่าย ๆ  ให้เราจำกฎ  3 ข้อนี้ไว้เลยครับ

1.ไม่มีอะไรได้มาง่าย  ๆ อย่าคิดที่จะหาทางลัดให้ชีวิตของคุณ

2.อย่าเสียเวลากับเรื่องไม่จำเป็นหรือสิ่งที่ล่อตาล่อใจ

3.อย่าได้ตัดสินใจวู่วามในยามที่คุณมีอารมณ์ฉุนเฉี่ยว

คำเตือน 3 ข้อนี้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตที่ดี  และผมยึดถือเป็นแบบอย่าง  เพราะในความเป็นจริงของชีวิต  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน  เราจะมาคาดหวังให้คนนั่น คนนี่ เขามาคิดและทำในรูปแบบที่เราต้องการนั้นหาใช่เรื่องที่ควรทำไม  สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ  การเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นที่พบเห็น 

หลายคนมีชื่อเสียง สามารถหาเงินได้มาง่าย ๆ  ไม่ว่าจะทางไหนก็ตามทั้ง ออนไลน์  หรือรูปแบบอื่น ๆ ขอให้จำไว้ครับว่าอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ก็มักจะไม่ยั้งยืน  และที่สำคัญคุณก็จะเป็นจุดสนใจของผู้คน  แล้วยิ่งคุณเผยตัวตนของคุณให้คนอื่นได้เห็นมากเท่าไหร่  เขาก็จะพบจุดอ่อนของคุณมากเท่านั้น  มันไม่ใช่เรื่องที่ดีทั้งหมดนะครับ  ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ

ส่วนตัวผมแล้วมองว่า  การที่เราจะเป็นต้นแบบที่ดีนั้น  ก็คือเราต้องทำจริง ๆ และทำดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง  ไม่ใช่เพียงแค่การนำเรื่องราวของผู้อื่น  มาแล้วนำเสนอในรูปแบบของเราเอง  ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเราแทบไม่รู้จักเลย  แค่จำมาเท่านั้นเอง  ประสบการณ์จริงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและควรที่บอกต่อมากกว่า  บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่  หรือมันอาจเป็นเรื่องที่ล้มเหลวน่าอับอาย  แต่สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์ที่จะทำให้ตัวเรา  ก้าวข้ามไปสู่สิ่งที่ดีกว่า (ผมมั่นใจอย่างนั้นนะ)  เราที่เราจะดีได้  ไม่ใช่ให้ใครต้องมาบอกว่าเราดี  หรือการที่เราจะทำอะไรสักอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราว  แล้วต้องให้ใครมาบอกว่า  คุณต้องทำอย่างนั่น อย่างนี่  เรามีทางลัดสำหรับคุณ  ขอให้เชื่อได้เลยครับว่าไม่มีอยู่จริง

ทางลัดที่จะไปสู่ความสำเร็จก็คือ  การลงมือทำตรงหน้าของคุณนั่นแหละครับ  ทำทันทีบางทีมันอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จไปทุกเรื่อง  แต่สิ่งที่เราได้ลงมือทำ  มันได้หว่านพืชผลความสำเร็จของคุณไว้ล่วงหน้าแล้ว  คนบางคนที่เขาเก่งนั่นก็เพราะเขาได้เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว  เขาฝึกฝนจนตัวเองเกิดองค์ความรู้และชำนาญ 

สำหรับกฎบางอย่างคุณก็อย่าไปยึดให้มันตายตัวไป  เพราะในความเป็นจริงแล้วมนุษย์ก็คือผู้สร้างกฎ  เพราะฉะนั้นถ้าอยากแตกต่างก็จงเดินในเส้นทางของตัวเอง  ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เราเป็นคนกำหนดไว้  แต่ต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องดีงามด้วยนะครับ  วันนี้ก็ไม่มีอะไรมากขอให้ทุกท่านปลอดภัยจาก โควิด 19 และมีสุขภาพที่แข็งแรงกันทั่วหน้าครับ

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เดี๋ยวมันก็ผ่านของมันไปเอง



ห่างหายไปนานพอสมควรเลยครับ  ต้องบอกว่าช่วงนี้งานเข้าผมมาก มันเป็นจังหวะหลาย ๆ อย่างตัวผมที่ทำให้ผมต้องกลับมานั่งทบทวนกับตัวเองอีกครั้งว่า  สิ่งที่ผมได้ทำนั้นผมได้ทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่  และยังชัดเจนอยู่กับเป้าหมายของตัวเองอยู่หรือไม่  การที่มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับตัวผมเองนั้น  ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องโชคดี  ที่ทำให้ตัวผมต้องมานั่งฉุกคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง

บางทีเราทำเพื่อคนอื่นมามากพอแล้ว  เราต้องรักตัวเอง  และทำเพื่อตัวเองบ้าง  การเป็นคนดีนั้นถือเป็นเรื่องที่เราต้องยึดถือปฎิบัติ  แต่การเป็นคนดีก็ไม่ได้หมายความจะให้คนอื่นมาเอาเปรียบเราได้  เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือ เรายังต้องฝึกฝนและพัฒนาตัวเอง เพราะเวลาที่ตกทุกข์ได้ยาก  วิชาความรู้เท่านั้นที่จะทำให้เราสามารถเอาตัวรอดได้  ขอให้เรายังยึดมั่นในความถูกต้องและซื่อสัตย์  ขอให้ทำทุกอย่างด้วยความชัดเจนและจริงใจ

โลกเรานี้พบกันเพื่อจากครับ  วันนี้เรามาพบกันก็อาจเพราะกรรมเก่าหรือบุญหนุนนำก็แล้วแต่  หน้าที่ของเราคือทำดีกับเขาให้มาก ๆ พอต้องจากกันจะได้ไม่ต้องติดค้างอะไรกันอีก  ส่วนถ้าเขาจะทำไม่ดีกับเรานั้น  นั่นก็เป็นกรรมของเขามันไม่เกี่ยวกับเรา  ขอเราอย่าได้สร้างกรรมใหม่อีก เลิกแล้วต่อกันตั้งหน้าตั้งตา ทำความดี หมั่นรักษาศีลและภาวนาให้มากๆ  มองไปที่เป้าหมายของคุณ  ทางข้างหน้ามันอาจยาก แต่ชีวิตที่ขาดเป้าหมาย  มันก็คือเรือที่ขาดหางเสือ  คนเราทำอะไรก็ตามนะครับ  ขอให้อดทนเข้าไว้  แล้วชีวิตคุณประสบความสำเร็จเอง  คิดดี พูด ดี ทำดีครับ  แล้วสิ่งดี ๆ จะเข้ามาคุณเอง

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563

อย่าไปพยายามเปลี่ยนอะไรกับคนที่เขาไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเอง


มันจะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งนะครับ  ที่เขามักจะตำหนิทุกอย่างไปหมด  รอบตัวเขาไม่มีอะไรเป็นสิ่งที่ดีเลย  เขามักจะเอาคนนั่น คนนี่ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือสิ่งที่ดีกว่าเสมอ  คนแบบนี้ปล่อยวางนะครับ  ห่างได้เป็นห่าง  เพราะต่อให้เราทำสิ่งที่ดีที่สุดไปแล้ว  ก็ยังไม่มีอะไรจะถูกใจเขาหรอกครับ 

สิ่งที่แก้ได้คือต้องไปแก้ที่ตัวเขาเอง  ถ้าเขาไม่แก้ตัวเองทุกอย่างก็จบ

ทีนี้ถ้าเรามาเจอคนประเภทนี้  ถามว่าเราจะรับมือกับคนแบบนี้ยังไงดี  ผมก็ต้องบอกตามตรงว่ามันบั่นทอนจิตใจเรา  และบางทีอาจเสียความรู้สึกกับคำพูดและการกระทำของเขาไปด้วย  การรับมือที่ดีทีสุด  คือ การนิ่งเฉยอย่าไปตอบโต้กับคนแบบนี้  อย่าไปลดคุณค่าของเรากับคนแบบนี้ เพราะชีวิตเรา  เราคือคนกำหนดชะตาชีวิตของเราเอง  บางทีที่เขาเป็นแบบนั้นก็เพราะว่าตัวเขานั่นแหละ  ที่มองตัวเองในความรู้สึกว่าไม่มีคุณค่า  ก็เลยพยายามจะสร้างตัวตนและสร้างคุณค่าของตัวเองให้คนอื่นเห็น  หรือไม่ก็ไปลดคุณค่าของคนอื่นให้ดูด้อยลงไป  แล้วทำให้ตัวเองดูดีขึ้นมา

แต่สิ่งที่เขาทำนั่น  ในที่สุดมันจะกลับไปทำร้ายตัวเขาเองนั่นแหละ  เพราะความจริงก็ยังคงเป็นความจริงเสมอ  ทองแท้ยังไงก็ไม่มีวันหลุด  ขอให้คุณตั้งมั่นในสิ่งที่ดี  และขยันมุ่งมั่นในสิ่งที่คุณทำครับ  อย่าไปสนใจคำคน  ในที่สุดเขาก็จะเลิกลาไปเอง  แต่ถ้าเขาไม่เลิกก็ถือว่าคนแบบนี้น่าสงสาร  ให้ปล่อยไปตามวาระกรรมของเขาเถอะ  จำไว้ครับว่า  ไม่มีใครดีหรือร้ายไปหมด  พยายามมองเขาในมุมที่เราคิดว่าตัวเขายังมีส่วนดีอยู่ 

โลกที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย  เรามีโอกาสพบสิ่งใหม่ ๆ หลายอย่าง  และก็มีโอกาสประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น  ขอเพียงแค่เราไม่หยุด  และตั้งใจทำความฝันของเราให้มันดี  สักวันหนึ่งฝันที่คุณหวังไว้ก็จะเป็นจริง  เลือกอยู่กับคน 5 คนในชีวิตที่จะพาคุณให้ประสบความสำเร็จ  แล้วชีวิตคุณก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน  ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับ  คนที่รู้สึกหมดหวัง ท้อแท้ใจในการใช้ชีวิต  ขอให้มองย้อนกับไปในวันวาน  ว่าเรามาถึงวันนี้ได้  นั่นเพราะทุกอย่างไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ  แต่เพราะความตั้งใจของเรา  เพราะฉะนั้นชีวิตจงไปต่อ  แล้วในที่สุดสิ่งที่ดีที่สุดจะเข้ามาหาคุณเอง

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563

อย่าไปให้คุณค่ากับคนที่ไม่รู้คุณค่า


ชีวิตที่ผ่านมา ผมก็มีโอกาสได้เจอผู้คนในหลากหลายรูปแบบ ที่แตกต่างกันออกไป ดีบ้าง ร้ายบ้าง หรือกลางๆ แต่เราก็ไม่สามารถไปตัดสินได้หรอกครับว่า เขานิสัยใจคอเป็นอยากไรกันแน่ ผมว่าอย่าให้อคติของเราเป็นเครื่องนำทาง เพราะฉะนั้นถ้าเจอคนที่เขาไม่มีความสำคัญ  เราก็อย่าไปให้ค่าหรือความสำคัญเท่านั้นเอง.

สิ่งที่เราต้องทำก็คือ มุ่งมั่นกับเป้าหมายที่อยู่ข้างหน้าของเราอย่างเต็มที่ ทำทุกอย่างแบบเต็มที่ เรื่องบางเรื่องปล่อยวางได้ก็แค่ต้องปล่อย บางสิ่งที่ผ่านเข้ามาหาเรานั้น ก็เป็นแค่บททดสอบหนึ่งเท่านั้น วันหนึ่งเราก็ต้องเจอคนแบบนี้ในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว  ตัวเขาแค่เรียกร้องความสนใจ  หรือต้องการสร้างตัวตนของเขาขึ้นมาเท่านั้นเอง  เราก็แค่ทำหน้าที่ของเรา  เพราะสิ่งที่เราทำมันก็บอกตัวตนของเรา ส่วนสิ่งที่เขาทำก็บอกตัวตนของเขา  เราต้องปล่อยวางและเห็นใจเขา  คนที่เอาแต่เรียกร้องในที่สุดทุกคนก็มองเห็นเอง  นิ่งเสียจะดีที่สุด

ประสบการณ์บางอย่างได้สอนให้ผมได้รู้ว่า  การพึ่งพาตนเองนั้นดีที่สุด  อย่าได้หวังไปพึ่งพาคนอื่นเลย  ถ้าอยู่แล้วไม้สบายใจเป็นทุกข์ก็อย่าไปทนกับมัน  โลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายให้เราได้เรียนรู้  และมีเรื่องสนุกๆ มีคนดีๆ ให้เราต้องไปรู้จัก และเรียนรู้เพื่อที่จะเติบโตไปกับเขา  เลือกอยู่ในที่ๆเขาเห็นในคุณค่าของตัวเรา และเราก็รู้สึกถึงคุณค่านั้นด้วยความภูมิใจ ไม่มีใครในโลกนี้จะถูกใจเราไปได้หมด  เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียเวลาให้เขามาชอบเรา  อยู่กับคนที่เขาชอบและเคารพในตัวตนของเราดีกว่า

สุดท้ายอยากจะขอบคุณบทเรียนชีวิตนี้ ที่ทำให้ผมมีสติอีกครั้งว่า ความไม่แน่นอนมีอยู่เสมอ เมื่อทุกอย่างไม่แน่นอน คนเราก็ต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง และเลือกทำในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง เมื่อจังหวะและเวลามันได้ ก็มุ่งหน้าสู่ความฝันของเราดีกว่า  ทิ้งคนข้างหลังที่ไม่สำคัญกับชีวิตเราไว้  เก็บแต่คนดีๆเรียนรู้เอาสิ่งดีงามทกเขาไป  ผมเชื่อเลยว่าคุณจะสำเร็จอย่างแน่นอน

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563

คนคิดบวก กับ คนคิดลบ


มีนิทานเรื่องหนึ่งผมไม่แน่ใจนะครับว่าที่มาไม่แน่ชัด  เรื่องมีว่า...  ในบ้านที่มีครอบครัวหนึ่ง  มีลูกชายอยู่ 2 คน 

คนหนึ่งเป็นคนที่ลบเอามาก ๆ 

ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นคนที่คิดบวกมาก ๆ

พ่อแม่ของเด็กทั้งสองจึงมีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่น้อย  จึงได้ไปปรึกษาจิตแพทย์ดูว่า  ควรทำอย่างไรดีกับเด็กทั้งสองคนนี้  จิตแพทย์ก็เลยนะนำพวกเขาว่า  ให้ลองให้ของขวัญสักชิ้นหนึ่งให้กับเด็กทั้งสองคน  โดยที่เด็กที่คิดลบมาก ๆ ก็ให้สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด  ส่วนเด็กที่คิดบวกก็ให้สิ่งที่แย่ที่สุด 

พ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนจึงได้ลองทำตามวิธีของจิตแพทย์ดู  โดยคนที่คิดลบก็ได้ซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้ เป็นจักรยานราคาแพงรุ่นใหม่  แต่ผลปรากฎว่า

-เด็กก็ยังมีความคิดลบอยู่ เขามองว่ารถแบบนี้ถ้าเกิดขับบนถนน  จะเกิดอุบัติเหตุกับเขาไหม และอะไรต่าง ๆ อีกมายมายที่สามารถทำให้เขาคิดลบได้

-เด็กที่คิดบวกพ่อแม่ได้เอาขี้ม้าใส่ในกล่องของขวัญ  พอเปิดออกมาพบว่าเป็นขึ้ม้า  เด็กคนนี้ก็มองว่านี่ขนาดขี้ม้า ยังมากมายขนาดนี้ที่พ่อแม่ให้กับเรา  ถ้าเป็นตัวม้าคงใหญ่ขนาดนี้แน่นอน  เขาพยายามมองแง่ดีต่าง ๆ และจินตการถึงความเป็นไปได้ของม้าตัวนี้ เท่าที่จะเป็นไปได้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้  ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยน  คนที่คิดลบก็จะคิดลบ  คนที่คิดบวกเขาก็จะคิดบวก  เพราะฉะนั้นในโลกของการทำงานก็เช่นเดียวกัน  การที่เราจะพูดคุยอะไรกับใครนั่น  เราต้องดูด้วยว่า  คนนั่นนิสัยใจคอเป็นคนยังไง  ความมีความคิดเห็นยังไง  และมีทัศนคติยังไงต่อเรื่องราวและผู้คนในเหตุการณ์นั้น ๆ

การฟังอย่างมีสติ  และระมัดระวังคำพูดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ เราไม่รู้หรอกว่าเขานั้นเป็นคนยังไง  และจริงใจต่อเรามากน้อยขนาดไหน   การวางตัวเป็นกลาง  ใครจะคิดพูดอะไรก็อย่าได้สนใจไป  เราต้องมีสติให้มาก ๆ  การที่เรารักษาภาวะอารมณ์ให้สมดุลอยู่เสมอนั่น  ย่อมทำให้เราเป็นที่น่าเกรงข้าม  และเคารพของคนทั่วไป  ใครจะคิดดีหรือไม่ดีก็อย่าได้สนใจไป  ตัวเรารู้ตัวเองมากที่สุด 

ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้เอามาก ๆ  ว่าถ้าเราทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง  เราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีกลับมาเสมอ  เลือกอยู่ในที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวของเรา  ไม่ใช่เลือกอยู่ในจุดที่ต้องลำบากใจและไม่มีความสุข  ให้เขามากดดันให้ตัวเราต้องรู้สึกว่า  เราด้อยกว่าหรือคุณค่าลดลง  เพราะชีวิตของเรานั่น มีคุณค่ามากมายเกินกว่าที่เราจะพูดออกมาได้  อดีตเป็นอะไรอย่างไรนั่นไม่อาจพูดได้  ปัจจุบันนั่นสำคัญที่สุดครับ   เพราะฉะนั้นมาทำปัจจุบันของคุณให้มันดีที่สุด  มองชีวิตเป็นให้มันมีความสุขกับมันในทุก ๆ วัน  มีเป้าหมายกับสิ่งที่ทำและชัดเจนกับมัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณมีความสุขที่สุดแล้ว

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ฉลาดพูด ฉลาดคิด อย่างมีสติ


คนฉลาดไม่ใช่แค่ฉลาดพูดเท่านั้น
ต้องรู้จักนิ่งอย่างมีสติ ให้เป็นด้วย
ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูด  
ให้มากยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด

(ท่านพุทธทาสภิกขุ)

โลกเรานี้จะมีคนอยู่หลากหลายประเภทให้เราต้องพบเจอ  
- บางคนภายนอกดูจริงใจ  แต่ภายในกับร้ายลึก  
- บางคนดีทั้งภายนอกและภายใน 
- บางคนภายนอกดูร้าย  แต่ภายในกับจริงใจ

มนุษย์เรายากแท้หยั้งถึง  เราไม่อาจรู้ได้แบบแท้จริงว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างไรกันแน่  เพราะฉะนั้นคำพูดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก  การจะพูดจะจาอะไรเราต้องระมัดระวัง  ยิ่งถ้าเราต้องทำงานกับคนหมู่มาก  เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขาดีกับเราหรือเปล่า  คนที่มีสติต้องทบทวนให้ดีก่อน  คิดให้รอบคอบก่อนจะพูดอะไรออกมา  เพราะมันอาจสร้างผลกระทบในทางที่ร้ายได้

ยิ่งเราเติบโตขึ้นผ่านโลกมามากขึ้น ก็ยิ่งทำให้เราสามารถวิเคราะห์ได้มากขึ้น  ในเรื่องต่างๆ  บางทีคุณต้องนิ่งให้เป็น  รู้สึกฝึกอดทน อดกลั้นกับบางเรื่อง  แยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องส่วนรวมให้ได้  การฝึกฝนตนเองนั้นมันเป็นเรื่องที่ยาก  แต่ถ้าเราสามารถฝึกฝนจนเป็นนิสัยได้นั่น  ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกับตัวเราครับ  มันทำให้เราดูเป็นคนที่ฉลาดในสายตาผู้อื่น  และตัวเราเองด้วย  

คนที่ดีจริงต้องไม่ไปว่าร้ายหรือกล่าวโทษผู้อื่น  ให้เสีย ๆ หาย ๆ และพยายามมองโลกด้วยความเป็นกลางให้มากที่สุด  อย่าเอาอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว  มาตัดสินหรือพิจารณาในเรื่องต่าง ๆ  มองเหตุการณ์ด้วยความเป็นจริง  และใช้เหตุผลในการตัดสินอย่างตรงไปตรงมา  จำไว้ครับว่าไม่มีใครไม่อยากเป็นคนไม่ดีในสายตาคนอื่น  ทุกคนก็อยากเป็นคนที่ดูดี และมีคุณค่าในสายตาคนอื่นอยู่แล้ว  

เวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อยหรือท้อใจกับบางเรื่อง กับคน หรืองานก็ตามแต่  ผมขอให้คุณหาเวลาไปพักผ่อน  และหยุดคิดทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ  หลีกเลี่ยงจากผู้คนที่คิดลบ  ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อทบทวนสำหรับบางเรื่อง  ผมเชื่อมั่นว่าโลกจะดึงดูดคนที่มีความเหมือนกันเข้าหา  หากเราคิด พูดดี ทำดี  เราก็จะพบเจอกับผู้คนเหล่านั้นอยู่เสมอ

โลกก็อย่างนี้แหละครับ  เราอย่าไปหาความยุติธรรมกับมันเลย  ใช้ชีวิตให้ปกติและเรียบง่ายที่สุด  ตั้งมั่นอยู่ในความดี  ความซื่อสัตย์สุจริต  แล้วความดีจะเป็นเกราะในการคุ้มครองตัวคุณเอง ชีวิตไม่ต้องไปรีบร้อนอะไรขนาดครับ  ทุกอย่างมันมีเวลาของมัน  ปล่อยให้ทุกอย่างจัดการตัวมันเอง ถ้าคุณมั่นใจว่าสิ่งที่คุณทำมันถูกต้อง  มันก็ย่อมเป็นไปตามนั้นครับ ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ไม่ประมาทกับความตาย


มื่อตอนเรายังเป็นเด็ก  สิ่งที่เราคาดหวังในแต่ละวันคือการได้เล่นสนุก ๆ กับเพื่อน ๆ

เมื่อตอนเราโตขึ้นเป็นวัยรุ่น  เราเริ่มสนใจและดูแลตัวเองมากขึ้น  เราเริ่มมีความรัก และชอบเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน


เมื่อเข้าวัยทำงาน  เราเริ่มเรียนรู้และการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่  ระหว่างนี้ก็มีการติดต่อพูดคุยกับเพื่อนสมัยเรียนบ้างเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน  รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนของเราก็เริ่มแต่งงานมีครอบครัว  และมีลูก ๆ  ชีวิตในวัยนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไปมาก จากที่มีเวลามาก  เราก็มีเวลาน้อยลงเพราะเวลาส่วนใหญ่เราจะไปทุ่มเทให้กับลูก ๆ และครอบครัวของเรา

เมื่อเข้าอายุสูงวัย  เราเริ่มมีโรคภัยไข้เจ็บ  เริ่มพูดคุยเรื่องเพื่อนเก่า  เรื่องเก่า ๆ  และความเป็นความตายเกี่ยวกับเพื่อนฝูงคนนั่น คนนี่ที่ได้เสียชีวิตลง  ด้วยโรคนั้น โรคนี่  และสิ่งหนึ่งที่คุณจะดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษก็คือ "สุขภาพ" และเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โรคกลัวความตาย

นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมาก  เพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว  การเกิด-ดับ เป็นธรรมดาและเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ  การใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท  จึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ  หลายคนประมาทและไม่รู้จักยอมรับความเป็นจริง  ไม่ยอมรับว่าชีวิตนี้เราเกิดมาแล้วต้องตาย  เมื่อถึงเวลาตายก็เลยหลงตาย   

ชีวิตเราจึงจำเป็นมากที่ต้องอยู่กับปัจจุบัน  ไม่หลงไปยึดติดกับสิ่งภายนอกจนทำให้เราเกิดความทุกข์ใจได้  เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ไปตลอดชีวิต  ผู้คนยุคใหม่ต่างขาดสติ ขาดการยับยั้งชั่งใจ  เห็นเรื่องการทำความผิดเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว  พอมารู้ตัวอีกทีอยากสำนึกมันก็สายเกินไป  เวลาผมดูข่าวรู้สึกว่าโลกเรามีอะไรที่แปลกมากขึ้น 

ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องของคนฆ่าตัวตาย

คดีฆ่าข่มขื่นเด็กผู้หญิง 

คดีทะเลาะวิวาทกับเรื่องที่หาสาระอะไรไม่ได้

คดีหึงหวงและถึงขั้นทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายให้ถึงแก่ชีวิต

สิ่งเหล่านี้ล้วนเกินจากผู้คนไม่ประพฤติตนอยู่ในศีล 5  ทั้งที่เป็นเรื่องที่ชาวพุทธเราเข้าใจเป็นอย่างดี  แต่เพราะโลกเต็มไปด้วยมนุษย์ที่มีความต้องการมากขึ้น  ไม่รู้จักความพอดีในชีวิต  ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตามที่ตัวเองต้องการ  โดยไม่สนใจว่าอะไรถูกผิด  บุคคลเหล่านี้ช่างน่าสงสารยิ่งนัก  คุณเกิดมาบนโลกใบนี้  แต่คุณกลับไม่ยอมทำความดี  เอาเวลาไปทำความชั่ว  พอชีวิตนี้คุณจากโลกนี้ไป ก็ไม่พ้นนรกและก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปไม่รู้จบสิ้น 

ผมอยากจะฝากข้อคิดอะไรให้สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  ตัวเองมีเหตุผลที่จำเป็นต้องทำ  หรือคิดว่าสิ่งที่ทำนั่นมันถูกต้องดีแล้ว  ทั้งที่รู้อยู่ว่ามันผิด อย่าได้คิดนะครับว่าเวรกรรมมันตามไม่ทัน  ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎของธรรมชาติ เราหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้หรอกครับ  ใครทำกรรมอะไรไว้ย่อมได้รับผลเช่นนั้น  มันยุติธรรมเสมอ  ใครจะทำชั่วอย่างไร ถ้าเรามั่นใจในความดีของเรา ก็อย่าไปเอาเขาเป็นแบบอย่าง  วันนี้เขาอาจโชคดีเพราะกรรมเก่ายังไม่ให้ผล  แต่ในไม่ช้ากรรมที่เขาได้ก่อเอาไว้  จะกลับมาให้ผลกับเขาเอง  เพราะฉะนั้นจงตั้งตัวอยู่ในความไม่ประมาท พยายามรักษาศีล 5 ให้ครบ  มีมงคล 38 เป็นเครื่องมือในการนำทางชีวิต  เพียงเท่านี้ชีวิตคุณก็มีความสุขได้แล้วครับ...

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ความดีคือสิ่งที่คุณยึดมั่น


ชีวิตที่ถูกกำหนดมาก็ตาม  ผมยังมีความเชื่อลึก ๆ ว่า สิ่งที่จะทำให้คุณปลอดภัยได้ก็คือ ความถูกต้อง และการยึดมั่นในสิ่งที่ดี  เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ว่าชีวิตเราจะ
จะพบเจออะไรบ้าง  แต่เราสามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ถ้าเรามีสติ  และยึดมั่นในคุณธรรมของตัวเราเอง  หลายคนจบชีวิตไปเพียงเพราะท้อแท้กับชีวิต  ปัญหาเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งเรื่องปากท้อง  มันเป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ลำบากนะครับ  แต่เหนือสิ่งใดถ้ามนุษย์เรามีการวางแผนที่ดี  รู้จักประหยัด อดออม  ไม่สร้างภาระหนี้สิ้นจนเกินไป  ย่อมทำให้ชีวิตคุณดำเนินชีวิตไปอย่างผาสุขได้

หลายคนไปจำกัดเอาความมั่งมี ร่ำรวย  เป็นตัวกำหนดความสำเร็จในชีวิต  ทั้งที่ในความเป็นจริง  ชีวิตยังมีอีกหลายด้านที่คุณยังต้องเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนปฎิบัติ  ไม่ว่าจะเป็นทางโลก  หรือทางจิตใจ(ธรรมมะ) นั่นเอง  ความสำเร็จทางโลกเพียงแค่หล่อเลี้ยงกายได้  แต่มิอาจเลี้ยงใจให้เติมเต็มได้  มนุษย์เราถ้ายังปล่อยให้ความโลภเข้ามา ครอบงำมากจนเกินพอดี  เราก็จะไม่สามารถแยกระหว่างความดี กับ ความชั่วออกจากกัน  อาจเห็นสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ควรทำและถูกต้อง  โดยให้หรือหาเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ มายืนยันว่า  สิ่งที่ตัวเองได้ทำนั่นมันคือถูกต้องแล้ว  จะว่าไปแล้วอันที่จริงมนุษย์นั่นเต็มไปด้วยความต้องการ  หรือที่เราเรียกว่ากิเลสอยู่ตลอดเวลา  การที่เรารู้จักฝึกฝนจิตใจของเราให้สูงขึ้น  ก็เพื่อพัฒนาระดับจิตใจของเรา  ไม่ให้หลงติดกับวัตถุทางโลกมากจนเกินไป 

การมีสมบัติมากมายถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีในทางโลก  แต่เมื่อชีวิตมาถึงจุดสิ้นสุด  วาระสุดท้ายสิ่งเหล่านี้คุณก็ต้องคืนให้โลกใบนี้ไป  ไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้  จะมีก็แต่  ความดี ความชั่ว ในสิ่งที่เคยทำไว้ในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่  ผมอยากเตือนสติทุกคนก็เพราะว่า  ในช่วงที่ทุกท่านมีปัญหาชีวิต การคิดสั้นด้วยการจบชีวิตนั่นไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย  มันกลับทิ้งปัญหาให้คนข้างหลัง  หรือแม้กระทั่งการที่มนุษย์ยอมทำผิด  เพียงเพราะเห็นแก่เงินทอง  นั่นก็คือคุณได้ทำลายจิตวิญญานอันสูงส่งของคุณไปแล้ว  คนเรานะเมื่อมีมากขึ้น  ก็ย่อมต้องการมากขึ้น  การได้อะไรมากด้วยความถูกต้องและดีงาม  มันก็จะส่งผลต่อยอดไปในทิศทางที่ดี  กลับกันถ้าคุณได้ในสิ่งที่ต้องการมาแบบไม่สุจริต  ของร้อนย่อมจากไปเหมือนสมบัติพลัดกันชม  ไม่มีอะไรเป็นของแท้แน่นอนได้ 

ความรู้และสติปัญญาหมั่นฝึกฝน  พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ  จะทำให้คุณกลายเป็นคนมีคุณค่า  ไม่ว่าอยู่จะไปอยู่ที่ไหนในโลก  ขึ้นชื่อว่าคนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ครับ  คนอื่นมองไม่เห็นไม่เป็นไร  ขอให้ตัวเรารู้ตัวเองก็พอ  สักวันหนึ่งสิ่งที่คุณได้ทำย่อมให้ผลกับคุณในท้ายที่สุด  ไม่ช้าก็เร็วหว่านพืชแบบไหนก็ต้องได้ผลแบบนั่นครับพี่น้อง......

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563

การแก้ปัญหาสำหรับธุรกิจ

ผมมั่นใจเลยครับว่าในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้  ของโรคระบาดส่งผลเสียเป็นวงกว้างเป็นอย่างมากให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก  ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ใใหญ่หรือธุรกิจที่เล็ก  ต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น  ไม่ว่าจะทางตรง  หรือทางอ้อมก็ตามแต่ 

หลายคนมีความเครียดและความกังวลเกิดขึ้น  กับสิ่งที่ไม่แน่นอนที่จะตามมาในอนาคต  คนบางคนยังมีความหวัง  ความฝันเพื่อที่จะพาตัวเองไปสู่เป้าหมาย  และประสบความสำเร็จในชีวิต  เรื่องบางเรื่องก็เกิดขึ้นโดยบังเอิญ  เป็นความไม่ตั้งใจที่เกิดจากการกระทำของน้ำมือของมนุษย์ด้วยกัน

สำหรับผมมองว่า  ในชีวิตจริง...

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต กับคนที่ล้มเหลว   มันมีอะไรที่ไม่ได้แตกต่างหรือลึกลับซับซ้อนอะไรเลยครับ  คนที่ประสบความสำเร็จก็คือคนที่เข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติอย่างถูกต้อง  และมีชีวิตที่เรียบง่าย  ถูกต้องตามหลักศีลธรรม  มีแบบแผนในชีวิตและการทำงานที่ชัดเจน  และที่ขาดไม่ได้ก็คือมีความตั้งใจ และความพยายามที่จะพาตัวเองให้ประสบความสำเร็จให้ได้


สิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ  การจะรักษาความสำเร็จให้ยืนนานจะต้องทำอย่างไร  มีสูตรอะไรที่ตายตัวไหม  ผมว่าไมมีหรอกครับ  มีแต่ต้องลงมือทำและแก้ไขในทันที  ที่เรารู้ว่าอะไรคือรูรั่วของเรา 

อุปสรรค์ที่ยากที่สุดในการที่จะผ่านพ้นปัญหาได้ก็คือ  การมีเป้าหมายที่ชัดเจน  และตัวเรามีความหนักแน่นในตัวเองที่มากพอ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ในระยาว  ปัญหาของธุรกิจเล็ก ๆส่วนใหญ่ เกิดจากการที่พวกเขาหมดเวลาไปกับเรื่องการแก้ปัญหาเดิม ๆ  ซ้ำซาก  และก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ  แทนที่เราจะเอาเวลามาวางแผนบริหารงานไปข้างหน้า  เอาเวลามานั่งคิดทบทวนเพื่อความก้าวหน้าของบริษัท  ไม่ใช่การทำสิ่งที่ควรทำในวันนี้แต่อย่างเดียว

การอยู่กับปัจจบันเป็นเรื่องที่ดี  แต่การไม่มีแผนที่จะรองรับกับเป้าหมายในอนาคนนั่นย่อมถือเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่  คนที่ควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้  ก็คือคนที่สร้างเป้าหมายและเห็นเป้าหมายในอนาคตเป็นภาพได้อย่างชัดเจน  และที่สำคัญและขาดไม่ได้ก็คือ  การที่คุณต้องสนุกไปกับเป้าหมายของคุณ  พยายามหาแรงกระตุ้น และสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา   ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด  แล้วทำด้วยจิตใจที่รักมันอย่างเต็มเปี่ยม

ผลงานที่ทำด้วยใจรัก  จะมีผลตอบแทนที่มีค่า และไม่สามารถวัดค่าได้ด้วยจำนวนเงินในบัญชี  แต่มันคือความสุข และความภาคภูมิใจของคุณในระยะยาว  คุณจะเห็นแล้วใช่ไหมละครับว่า  เหตุการณ์โรคระบาดครั้งนี้  ส่งผลอะไรกับตัวคุณ ธุรกิจบ้าง  นั่นเพราะเราลืมเรื่องแผนการรับมือไว้ไงละครับ เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ต้องมีแผนรองรับแบบนี้สำหรับการเตรียมตัว  กับสิ่งที่เราคาดไม่ถึงไว้ด้วยนะครับ 

หัวใจของการแก้ปัญหาสำหรับธุรกิจก็คือ  "การเข้าใจเป้าหมาย ลงมือทำ และแก้ปัญหาอย่างมีสติ  เชื่อมั่นในสัญชาตญาตของตัวเอง  และเชื่อว่าตัวคุณทำได้"  


วันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2563

การแก้ปัญหาผมว่า..มันช่วยให้เราเก่งขึ้นนะครับ หรือคุณคิดว่าอย่างไร



มนุษย์เราจะมีหลายจำพวก  บางคนก็จะเป็นพวกที่ชอบหนี้ปัญหา  เวลาเจอกับปัญหาพวกเขาก็พยายามที่จะเลี่ยงและไม่ขอเผชิญหน้ากับปัญหาโดยตรง  ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนอีกประเภทหนึ่งที่เขาจะวิ่งเข้าหาปัญหาตลอด  เรียกว่าเป็นนักแก้ปัญหาตัวยง  การแก้ปัญหาทำให้เขาเกิดความสนุกสนานและทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับการแก้ปัญหาในชีวิต คุณจึงจะเห็นได้ว่าเขาเหล่านั้นมักจะเป็นผู้นำเทรดตลอด  พวกเขาเป็นนักล่า นักคิด นักสร้างสรรค์ และไม่ชอบที่จะเป็นผู้ตาม  การใช้ชีวิตของคนเรานั้น  มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นคนแบบไหน  สิ่งที่กำหนดทิศทางว่าคุณเป็นแบบไหนก็คือ พฤติกรรมที่คุณแสดงออกนั่นแหละครับ

บางทีมันก็ไม่ได้สำคัญหรอกครับว่าในตอนที่เราทำนั่น  เราอยู่ในสถานะไหน  มันสำคัญที่ความคิดและจิตใจของคุณต่างหาก  มันใหญ่ขนาดไหน  คนที่คิดและลงมือทำเท่านั้นคือคนที่สำเร็จ  บางทีการวัดความสำเร็จเราอาจไม่ได้หมายถึงจุดมุงหมายปลายทาง  แต่มันคือประสบการณ์ดี ๆ  ประสบการณ์ที่คุณก็หาซื้อจากที่ไหนก็ไม่ได้  มันเป็นเหมือนใบเบิกทางสำหรับคุณ  จุดเริ่มต้นที่เล็กน้อยก็คือ การลงมือทำทีละนิด จนมันกลายเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น 

การเป็นผู้นำที่ดี ควรรู้จักมองทั้งมุมกว้าง และมุมแคบ 

มุมกว้างก็เพื่อให้เห็นภาพรวม  ภาพที่ใหญ่ขึ้น  บางทีการไปจดจ่อกับปัญหาเล็ก ๆ แค่จุดเดียวก็อาจมองไม่เห็นภาพทั้งหมดได้  และในทางกลับกัน มุมแคบ  ก็เพื่อให้คุณได้มองลึกลงไปถึงรายละเอียดและดีเทลบางจุด  เพื่อให้สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่เกิดความสวยงาม และสมบูรณ์มากขึ้น  มันจึงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง  ที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการทำงานร่วมกัน  

ความล้มเหลว  แต่ถ้าคุณไม่ล้มเลิกผมว่า...ต้องมีสักวันที่คุณต้องประสบความสำเร็จกับสิ่งที่คุณคาดหวังไว้อย่างแน่นอน  หลายคนหวาดกลัวกับบางเรื่อง  แต่ในความเป็นจริงพื้นฐานของมนุษย์มีความกลัวเป็นเรื่องธรรมดาของมันอยู่แล้ว  เมื่อรู้ว่าสิ่งไหนน่ากลัว หรือมีความเสี่ยงก็ต้องรู้จักวิเคราะห์  และลงมือทำอย่างรอบคอบ และระมัดระวัง  การวางแผนที่ดีเป็นเครื่องมือนำทางอย่างหนึ่งที่ใช้ได้ดี  มันทำให้คุณไม่ต้องหลงทาง  และชัดเจนอยู่กับสิ่งที่คุณตั้งใจทำ  เวลาว่างก็หมั่นฝึกฝนพัฒนาตัวเองให้สม่ำเสมอ  ไม่ว่าจะทางโลก และทางธรรม (ผมหมายถึง  เราหาเงินเลี้ยงชีพแล้วก็อย่าลืมที่จะเลี้ยงจิตวิญญาณของเราด้วย  สองสิ่งนี้มันทำงานควบคู่กัน)  ความสำเร็จมันจะมาจากภายในและส่งผลลัพธ์ออกมาภายนอก  เพราะฉะนั้นจงรักษาสมดุลนี้อย่างสม่ำเสมอ อย่าได้ขาด  คนมีปัญญาย่อมหาทรัพย์ได้  และไม่มีทางอับจนหนทางเด็ดขาดครับ

วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2563

สร้างแรงจูงใจให้ตัวเองเป็นคนคิดในทางที่ดี


พลังงานแห่งความคิดจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของท่าน  ท่านจะเป็นอย่างไรมันอยู่ที่ความคิดของท่านเป็นตัวกำหนด ไม่ใช่สิ่งที่ท่านร้องขอ  ธรรมชาติของมนุษย์เรา  เราต่างต้องการที่จะเรียกร้องเพื่อให้ได้ในสิ่งทีต้องการเข้ามาในชีวิต  พอเราได้สิ่งหนึ่ง จนถึงจุดหนึ่งเมื่อเราได้สิ่งนั้นมา  ความอยากหรือความต้องการเราก็จะเพิ่มขึ้น  เราจะมองหาสิ่งใหม่ ๆ ไปอีก  และจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ

การสร้างแรงจูงใจนั้นเป็นเรื่องที่ดี  มันคอยผลักดันเราให้ก้าวไปข้างหน้า  แต่การที่มนุษย์เราทำอะไรแล้วขาดเป้าหมาย  ย่อมทำให้เราไร้ทิศทางหาหนทางไม่เจอ  ในท้ายที่สุดเราก็จะวนกลับมาที่เดิม นี่แหละครับชีวิต  มันมีกฎเกณฑ์ของมันอยู่ มีใครหลายคนที่บอกกับคุณว่า มันมีวิธีรวยทางลัด ที่สามารถทำให้เงินทำงานให้คุณ  แต่ในความเป็นจริง...ถ้าคุณไม่ลงมือทำเงินมันย่อมไม่มีทางงอกเงยขึ้นมาได้  มันคือสัจธรรมของความจริง 

บางทีมนุษย์เราก็แปลกนะครับ  เราไปโฟกัสกับเรื่องทางโลกมากจนหลงลืมตัวตนที่แท้จริงของเรา  ว่าเราต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต  ในท้ายที่สุดมนุษย์ทุกคนต่างต้องการที่จะมีชีวิตที่มีความสุข และเรียบง่ายด้วยกันทั้งนั้น  มันยากที่จะฝืนธรรมชาติ เพราะเราเกิดมาจากธรรมชาตินั่นเอง  การทำตัวเองให้เป็นคนที่มีคุณค่า  เราก็ย่อมจะมองเห็นคุณค่าในตัวของเราเอง  และคนอื่นก็ย่อมมองเห็นเช่นกัน

เพราะชีวิตมันมีแค่ชีวิตเดียว  คนบางคนใจร้อนทำอะไรแบบไม่ทันคิด  จนสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น และสร้างความอับอายให้กับตัวเอง  เพียงเพราะไม่รู้จักระงับสติอารมณ์ให้ดี  คนเราจะทำอะไรต้องมีสติและคิดให้รอบคอบ  อย่าใจร้อนจนเกินไป  อาจทำให้ทุกอย่างพังลงได้

การใช้ชีวิตบางทีคุณก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเด่น คนดังอะไร  แค่ใช้ชีวิตให้เรียบง่ายที่สุด  การทำตัวเด่นดังเกินไปก็อาจเป็นอันตรายกับคุณได้  ผู้คนจะมองเห็นคุณ  เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าใครที่มาดีกับเรา หรือมาด้วยเจตนาอื่น  การเป็นคนเงียบจึงทำให้ชีวิตคุณก้าวไปอย่างไม่สะดุด  เพราะคุณไม่กดดันและไม่มีใครคอยจ้องมองคุณตลอดเวลา  บางทีเราก็ต้องเลิกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  เราต้องโฟกัสที่ตัวเอง  และมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำ  ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมันดีแล้ว  ก็ทำดีต่อไป  แต่ถ้าไม่ก็ควรพัฒนาปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น 

ในท้ายที่สุดชีวิตนี้  มันก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วละครับว่า  คุณจะทิ้งอะไรไว้ให้โลกใบนี้  คุณอยากให้โลกจดจำคุณในฐานะอะไร  หรือจะเป็นคนที่โลกลืม  คุณเลือกได้ครับ...

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2563

จงเอาเยี่ยงกา แต่อย่าเอาอย่างกา


วันก่อนผมได้คุยกับพี่คนรู้จักกัน เขาก็ได้หยิบยกสุภาษิตไทยนี้ขึ้นมาพูดกับตัวผมเอง  ผมได้กลับมานั่งคิดและมันก็มีเหตุผลจริง ๆ นะครับ  ถ้าใครยังไม่เข้าใจความหมายนี้  ผมขออธิบายตามความหมายง่าย ๆ แบบนี้นะครับ
หากจะพูดถึง “อีกา” มันเป็นสัตว์ที่ออกหากินตั้งแต่เช้าตรู่  และนิสัยที่แย่ของมันก็คือเป็นพวกลักกินขโมยกิน
ก็เปรียบกับมนุษย์เรา ที่จะมีทั้งด้านที่ดี และด้านที่ไม่ดี  เวลาที่เราเรียนรู้อะไรจากคน ๆ หนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องรับทุกอย่างจากเขาทั้งหมด  เราต้องแยกให้ออกว่า  สิ่งไหนดี  สิ่งไหนไม่ดี  แล้วก็เลือกแต่สิ่งที่ดีของเขา  นำมาปรับใช้กับตัวเรา  การเรียนรู้จากต้นแบบก็คือแบบนี้ครับ  ไม่ใช่ไปเอาอย่างเขาหมด  เพราะสิ่งที่ไม่ดี มันก็คือไม่ดีนั่นแหละครับ
หรือถ้าหากตัวคุณมั่นใจอยู่แล้วว่า  คุณคือหงส์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปยุ่งกับอีกา  แต่ในความเป็นจริง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม  ที่ต่างต้องเรียนรู้และพบปะผู้คน ทั้งคนที่เราชอบและไม่ชอบ เพราะฉะนั้น การเผชิญหน้าจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ในช่วงภาวะที่โรคระบาดได้กระจายไปทั่วโลก  ล้วนทำให้ผู้คนต่างวิตกกังวล กันอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาการว่างงาน และตกงาน  ซึ่งถ้าหากเรากลับมามองกันในอีกแง่มุมหนึ่ง  มันกลับทำให้เราเห็นได้ว่า
แท้ที่จริงแล้วบางอย่างที่เราคิดว่ามันจำเป็นกับชีวิตของเรา  มันแทบไม่จำเป็นเลย  เราสร้างหนี้สินไปกับเรื่องที่ไม่ควร  แทนที่จะเก็บรักษาสภาพคล่องของเงินสดให้มาก ๆ เข้าไว้  เหตุการณ์นี้ได้สอนใจอะไรไว้มากมายเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในชีวิต  และปัญหาที่เราไม่อาจจะควบคุมได้  เพราะฉะนั้นจงมีสติและอยู่กับปัจจุบัน  มันอาจอึดอัดนะครับ  สำหรับใครหลายคนที่ชอบเที่ยวและรักสนุกกับการพบปะผู้คน  แต่ในสถานการณ์แบบนี้การถอยห่างจากผู้คนไปสักระยะหนึ่ง เป็นเรื่องที่ดีมาก  ทั้งปลอดภัยกับตัวเรา และคนในครอบครัว
กิจกรรมหลายๆ อย่างที่เราไม่คิดว่าจะได้ทำ  เราก็สามารถหาเวลาทำในช่วงที่เราว่างอยู่บ้าน  ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นดนตรี  หรืออะไรก็ตามที่คุณกำลังสนใจอยู่  และเคยบอกกับตัวเองว่า  ถ้าฉันมีเวลาว่างฉันจะทำมันนี่ไงละครับ  เป็นโอกาสที่คุณจะได้ลงมือทำแล้ว อย่าไปนั่งจิตตก ฟังแต่ข่าวลบๆ จนมันกันกินหัวใจคุณไปอยู่เลย  ปัญหามันเกิดขึ้นได้  มันก็จะมีทางแก้ปัญหาของมันเอง  แค่ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่านั้น นานแค่ไหนไม่มีใครตอบได้อย่างแน่ชัด  ขอให้อดทน และอดใจรอกันไปก่อน  คุณไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับผลกระทบ  ทุกคนต่างได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าได้วิตกจนเกินไป
ในยามที่คับขันเราจะเห็นน้ำใจผู้คนที่ออกมาแสดงความเห็นใจซึ่งกันและกัน  เราจะเห็นมิตรแท้ และมิตรเทียมในยามที่ลำบาก ยังไงซะชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปครับ  เพียงแต่ว่าเราต้องปรับตัวกันใหม่  บางสิ่งที่เราไม่คาดคิดมันเกิดขึ้น  ในอนาคตเราอาจต้องวางแผนบางอย่าง (แผนชีวิตของคุณ) ไม่จำเป็นต้องไปรอความช่วยเหลือจากใคร  ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชน  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน การพึ่งตนเองนั้นดีที่สุดครับ  ยังไงก็ขอให้ทุกท่านปลอดภัย

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...