ในช่วงชีวิตของเรามันต้องมีสักครั้งแหละครับ ที่บางทีเราก็ล้มเหลวกับบางเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่อง ชีวิตส่วนตัว หรือหน้าที่การงาน จนบางทีอาจทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลย แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้มันก็น้อยนักที่จะมีคนเข้าใจเราจริง ๆ บางทีกลับมีแต่คนคอยตำหนิและซ้ำเติมเราด้วยซ้ำ
อันที่จริงแล้วในห้วงเวลาที่เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเอง สิ่งที่เราต้องการจริงๆก็คือ ใครสักคนที่อยู่ข้างๆเรา ไม่ต้องทำอะไรมากแค่อยู่ข้าง ๆ ผมเคยมีช่วงเวลานี้มาก่อน สิ่งที่ผมเจอคือคำดูถูก และซ้ำเติมในความผิดพลาดของเรานั่นเอง ทุกอย่างเราแก้ไขมันไม่ได้ เพราะมันผ่านไปแล้ว
ในช่วงเวลานั้นผมอยู่ในสภาวะที่จิตตกอย่างมาก ผมกระวนกระวายใจและอยากจะให้ใครสักคน เข้ามาเปลี่ยนแปลงช่วงเวลานั้นๆ. ผมโทรปรึกษาคนนั่น คนนี่จนวุ่นวายไปหมด แต่ทุกคนก็ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ หลายคนคงสงสัยว่าแล้วผมผ่านช่วงเวลานั่นมาได้ยังไง
สิ่งที่ผมทำก็คือ เลิกโทษตัวเอง และเลิกโทษคนอื่น ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง ต้องยอมรับแหละครับว่าเราลืมอดีตที่เลวร้ายไม่ได้หรอก แต่เราสามารถทำสิ่งที่ดี และสิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้จิตใจเราเข้มแข็งขึ้นมาได้ จิตใจคนเราก็เหมือนน้ำ ถ้าเราคิดลบ คิดไม่ดี ทำไม่ดี น้ำก็จะขุ่นมั่ว ในทางกลับกันถ้าเราคิดทำแต่เรื่องดี ๆ น้ำก็จะใส นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม คนส่วนใหญ่จึงต้องคิดบวกให้มาก ๆ เพราะมันมีผลต่อจิตใจเรานั่นเอง
เวลาที่คุณเจอบางคนที่เขากำลังล้มเหลว ผิดหวังจากการกระทำของเขาเหล่านั้น อย่าได้ไปซ้ำเติมเขานะครับ เพราะบางทีคำพูดที่ออกจากปากเรา อาจไปทิ่มแทงเขา จนเขาหมดหวังทุกอย่างในชีวิต และอาจคิดทำร้ายตัวเองได้ ควรให้กำลังใจเขา เพราะคนเรามันผิดพลาดกันได้ เรื่องง่าย ๆ บางทีเราอาจมองว่า ทำไมคุณแก้ปัญหาไม่ได้ ทำไมคุณทำไม่ได้ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะทำแบบนั้น แบบนี่ นั้นเพราะเป็นคุณไงครับ ไม่ใช่เขา ถ้าไม่คิดจะช่วยเขาก็แค่ไม่ต้องพูดอะไรจะดีที่สุดครับ
ระหว่างความยุติธรรมกับกฎหมาย บางทีเราก็ต้องแยกให้ออกนะครับ สำหรับผมคิดว่าความยุติธรรมต้องอยู่เหนือกฏหมาย บางอย่างมันต้องยืดหยุ่นกันได้บ้าง หากทุกอย่างใช้กฏหมายเป็นที่ตั้ง คนถูกอาจกลายเป็นคนผิด คนจนก็อาจต้องติดคุกโดยไม่ตั้งใจ ฝากเป็นข้อคิดให้ทุกท่านด้วยนะครับ ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น