วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558

การทำธุรกิจส่วนตัว 4 รูปแบบใหญ่ๆ ที่เราพบเจอ




          หลังจากที่ช่วงนี้ผมศึกษาเรื่องการทำธุรกิจอย่างหนัก ทำให้พบว่า จริงๆแล้วคนที่จะสร้างความสำเร็จให้เราได้อย่างยั่งยืนก็คือ ตัวเราเองครับ  เราอย่าไปหวังพึ่งพาหรืออิจฉาชีวิตคนอื่นเลย  วันนี้ผมมีอะไรจะมาแนะนำเพื่อนนิดหน่อยครับ เกี่ยวกับการทำธุรกิจส่วนตัวใน 4 รูปแบบที่เราเจอแล้วประสบความสำเร็จอย่างมากเลย

       1.นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ธุรกิจนี้เงินลงทุนสูงแต่ความเสี่ยงต่ำเพราะไม่ต้องใช้เงินของตัว  อาจมาจากหานักลงทุนหรือการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยส่วนตัวผมว่าการเป็นนายหน้ากับทำเอง  ทำเองจะดีกว่าครับ  หาที่ทำเลดีดี  ลงมือทำเลยครับ
        2.เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา  ธุรกิจนี้ก็คือการสร้างแบรนด์นั้นเอง  เป็นเรื่องที่จำเป็นมากครับ  หากแบรนด์คุณได้รับการตอบรับจากสังคมมากขึ้นเท่าไหร่  คุณจะขายอะไรก็ได้หมดแหละครับ เพราะผู้คนซื้อที่แบรนด์มากกว่าตัวสินค้าด้วยซ้ำ
        3.เจ้าของช่องทางการจัดจำหน่าย  การสร้างสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่ขายไม่ได้ก็ย่อมไร้ประโยชน์  การส่งมอบให้ลูกค้าต่างหากที่จะเพิ่มกำลังการผลิตของสินค้าเราได้  ศึกษาช่องทางการจัดจำหน่ายและส่งมอบให้ลูกค้าด้วยตัวเองดีกว่าการผ่านคนกลางแน่นอนครับ
       4.นักลงทุน  อาชีพที่ทุกคนใฝ่ฝัน เป็นไปได้ครับ แต่ก็ต้องอาศัยความรู้ประสบการณ์ที่เชียวชาญ  ศึกษาข้อมูลให้มากๆ  รู้จักควบคุมอารมณ์

       อย่างที่บอกนั้นแหละครับ  ชั่งน้ำหนักดูอย่าไปคิด ไปฟังคนอื่น  รู้จักวิเคราะห์เหตุผลตามความเหมาะสม  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  รักษาใจให้หนักแน่นเข้าไว้ อุปสรรค์มีไว้แก้ไขครับ

                "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

ออกแบบชีวิตตัวเองหรือยัง



             เพราะชีวิตออกแบบได้ครับ  การออกแบบชีวิต  หลายคนฟังดูอาจแปลกแต่เป็นเรื่องที่จำเป็นเอามากๆ ครับ  การวางแผนชีวิตก็เหมือนกับการวางแผนเดินทางไปเที่ยว  หากคุณไม่รู้ในสิ่งที่คุณต้องการจะไปคุณก็ไม่สามารถไปถึงได้  เราต้องวางแผนชีวิตให้ชัดเจน  เมื่อคุณรู้แผนชีวิตของตัวคุณเองแล้ว คุณก็จะก้าวไปเร็วกว่าคนอื่นได้  วันนี้ผมขอยกตัวอย่างการออกแบบชีวิตของผมก่อนนะครับ

          1.กำหนดเป้าหมายที่เราต้องการ
          2.เมื่อได้เป้าหมายแล้วเราต้องมาแจกแจงรายละเอียดของเป้าหมายให้ชัดเจน
          3.เมื่อได้รายละเอียดแล้วก็จัดทำ Road Map ชีวิตของคุณได้แล้ว
          4.จากนั้นก็ลงมือทำ ค่อยๆศึกษาหาความรู้จากหนังสือ จากประสบการณ์ผู้รู้ เข้าร่วมสมาคมให้มากๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
          5.การรู้จักใช้สื่อให้เป็นประโยชน์  ไม่ว่าจะเป็น Facebook instargram  และอื่นๆ

             เหล่านี้คือเบื้องต้นครับ  ตอนนี้ผมว่าทุกคนคงสงสัยว่าทำไมต้องทำ  ผมก็ตอบไม่ได้นะครับ  เอาเป็นว่าลองลงมือทำดูครับ  แล้วคุณจะรู้เอง

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

ขอบคุณความคิดเห็นดีดีจากผู้มีประสบการณ์




             วันนี้ผมได้คุยกับอดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุด  ท่านเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทที่ผมทำงานอยู่ด้วย  เราคุยกันถึงเรื่องธรรมมะ  เป็นอะไรที่ผมต้องขอบคุณท่านมากๆ  ประโยคเด็ดที่โดนใจผมมากที่สุดก็คือ

"การฝึกฝนจิตใจก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้  นอกจากเราต้องหมั่นรดน้ำ พรวนดินแล้วยังต้องหมั่นใส่ปุ๋ย เข้าไปด้วย"

ผมก็เลยถามท่านไปว่า  "แล้วอะไรคือปุ๋ยของใจ"
ท่านก็แนะนำผมครับว่า
      "คนเราก็เปรียบเหมือนต้นไม้  การที่จะให้ร่างกายอยู่ได้ก็ต้องอาศัยลมหายใจใน การดำรงชีวิต            ขอแค่ให้เรารู้ลมหายใจ เข้า - ออก ของเราตลอดเวลา อยู่ตรง ปลายจมูก  จะสั้นจะยาวก็แล้วแต่ก็ขึ้นอยู่กับจริตของเรา  พอฝึกจนชำนาญจำ ทำให้เราเป็นคนมีสติปัญญาดี  เวลาเราอยากทำอะไร  เราสามารถรู้เหตุการณ์ได้ล่วงหน้า  ตามที่ใจเราต้องการ  ท่านบอกว่าท่านเคยทำมาแล้ว  โดยส่วนตัวผมเชื่อนะครับ    เพราะเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว"  

           เหตุการณ์นี้ผมก็อยากจะเเชร์ประสบการณ์ดีดี  ให้กับเพื่อนๆ  อยากให้ทุกท่านใช้ชีวิตด้วยความมีสติ  หยุดฟังเสียงคนอื่น  ดูแต่ลมหายใจเข้า-ออก ของใจ   แล้วคุณจะพบสิ่งวิเศษอย่างที่ชีวิตมนุษย์คนหนึ่งพึ่งจะได้รับเลยครับ  ยิ่งให้ความสุข  คุณก็จะได้รับความสุขกลับมาเป็น 2 เท่าครับผม

ค้นหาตัวเองให้เจอแล้วเป็นตัวของเราเอง

       

        วันนี้ผมคงไม่เขียนแนะนำอะไรนะครับ  แค่อยากจะขอแชร์ประสบการณ์ครับ  หลังจากช่วงที่ผ่านผมศึกษาเกี่ยวกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จมามากมายทำให้ผมได้ทราบอะไรบางอย่างครับว่า  จริงๆแล้วคนที่เยี่ยมที่สุดก็คือตัวเราเอง  ไม่จำเป็นต้องไปค้นหาที่ไหนให้ไกลหรอกครับ  ที่ผมพูดไม่ได้หมายถึงไม่ให้คุณไม่ต้องไปศึกษาหรือพบเจอผู้คนนะครับ  การพบปะผู้คนถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมากๆครับ  การสร้างเครือข่ายเชื่อมโยง  สังคม กลุ่ม หรือเพื่อนอะไรก็แล้วแต่ที่เขามีความสนใจคล้ายๆเราผมสนับสนุน  โลกยุคใหม่เป็นยุคที่ทุกคนควรมีเวทีที่ต้องแสดงความสามารถของตัวเองอย่าปิดกลั้นตัวเองเลยครับ  เช่น ฉันก็ทำงานบริษัท หรือองค์กรนี้อยู่แล้วยังไงก็ไม่จำเป็น  ผมอยากจะถามคุณกลับนะครับว่า แล้วบริษัทจะไปรอดถึงไหน ทราบไหมครับ  ใครก็ตอบไม่ได้
เวลาว่าง ๆ ลองหยุดทบทวนตัวเอง  หาสิ่งใช่ สำหรับเราเอง  อย่าไปวิ่งตามเป้าหมายของคนอื่นให้มากครับ  มีเป้าหมายที่ชัดเจนในตัวเอง  นึกไม่ออก ผมให้คุณลองนึกย้อนถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาแบ่งออกเป็นช่วง ๆ นะครับ  ยกตัวอย่างของผมแล้วกัน  เช่น

1.ช่วงวัยเด็ก   -ผมชอบงานศิลปะออกแบบ ที่บ้านแม่เป็นช่างตัดเสื้อผมคลุกคลีกับมันและสนุกกับมัน                             มาก
                       -ผมชอบไปนั่งขายของที่ตลาดเพราะยายเป็นคนชอบค้าขายแกจะไปขายของที่ตลาด
                       -ผมชอบการทำฟาร์ม  ตอนเป็นเด็กที่บ้านจะปลูกพืชผักสวนครัวกินเอง  และขายด้วย  มี                            ฟาร์มเห็ด  ของปู่ก็จะเป็นฟาร์มไก่ บ่อปลา และสวนลิ้นจี่ ผมสนุกมากครับที่ได้ทำ                                      กิจกรรมเหล่านี้
                       - ตอนเด็กชอบเล่นสร้างบ้าน  ผมมักจะหาก้อนอิฐเล็กมาก่อพร้อมกับขุดดินสร้างบ้านเล่น                            กับเพื่อนทุกวัน  โดยไม่รู้จักเบื่อเลยครับ
                       - หารายได้จากการไปปลูกหอม และแกะหอม  แกะเมล็ดมะขาม  การเก็บขยะไปขาย  หา                            รายได้เล็ก ๆน้อย
                         - เคยออมเงินได้มากที่สุดในเพื่อนร่วมรุ่นจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองประมาณ 950 บาท                          เก็บฝากวันละ 3 บาทผมแทบจะไม่ได้กินขนมเลย ภูมิใจมากๆครับ
                         - ไปช่วยยายปลูกหัวมัน ที่ทุ่งนา หัวใหม่ใหญ่มากสนุกๆมากๆครับ

2.ช่วงวัยรุ่น      - ผมเคยทำขนมทองม้วนขายที่โรงเรียน  เป็นโปรเจคของโรงเรียนที่ได้รับทุนสนับสนุน                               จาก อบต  มันสนุกมากเลยครับได้เงินและได้ความรู้
                         - ผมชอบงานศิลปะมาก  ชอบงานออกแบบ ผมทำได้ดีงานวิชาการงานอาชีพ  ออกแบบ                             ตัดเย็บเสื้อผ้า  จัดสวน จัดดอกไม้  และการประดิษฐ์ประดอยต่างๆ
                         - เคยชนะการประกวดเรียงความ  และอื่นๆอีกมากมายรวมทั้ง 4 ทักษะภาษาอังกฤษด้วย
                         - รับจ้างเกี่ยวข้าวให้แม่ครับ  เหนื่อยแต่ก็สนุกมากครับ
                         - เคยแข่งขันจัดดอกไม้เป็นแชมป์จังหวัด 3 ปีซ้อน
                         - เคยชนะการประกวด มงคลชีวิต  ข้อสอบธรรมมะ
                         - ช่วงเรียนมอปลายผมสอบได้ที่หนึ่งทุกเทอมเลยครับ ภูมิใจในตัวเองมาก
3.ช่วงมอปลายและมหาลัย
                         -  ผมชอบงานขายมากผมมักจะหาของไปขายระหว่างที่เรียนตลอดเวลาเลย
                         -  เริ่มทำงานประจำแล้วครับ  งานที่ผมทำคือ  โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร รับจ้างติด                                       สติ๊กเกอร์  ขายของ ครีมต่างๆ รับจ้างอื่นๆ
                         -  ผมงานสัมมนาเข้าสัมนาบ่อยมาก  ชอบเที่ยว ชอบพบปะผู้คนเข้าสังคมกับเพื่อนๆ
                         -  เคยไปอบรม RD CAMP เป็นกิจกรรมที่ผมว่ามันสุดยอดมากๆครับเปิดโลกผมเลย                                    ทำให้ผมกล้าแสดงออกมากขึ้น และมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

                  เหล่านี้แหละครับจะเป็นตัวหล่อหลอมคุณเอง  อ่านแค่นี้ผมก็พอจะรู้แล้วครับว่าตัวเองควรจะกำหนดเป้าหมายตัวเองยังไงครับ  ลองมองหาสิ่งรอบตัว  มองหาอะไรที่ง่ายๆ และเราทำมันได้จริงๆ  ยังไงลองทำดูนะครับ  เชื่อว่าละครชีวิตของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน แต่ก็สามารถไปยังจุดที่เราต้องการได้ทุกคนครับ






วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

มองจากอีกมุม

         

              เมื่อวานผมได้มีโอกาสนั่งคุยเกี่ยวกับปัญหาชีวิต  แต่เป็นอีกมุมหนึ่งนะครับ  มุมนี้เป็นมุมของผู้ประกอบการหรือความเป็นเจ้าของ  พี่ที่ผมคุยด้วยแกเป็นเจ้าของกิจการแห่งหนึ่ง  ซึ่งฟังแล้วก็พอจะทราบแล้วครับว่า  จริงๆแล้วการเป็นผู้ประกอบการมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใจเราคิดเลยครับ  ไหนจะเรื่องสภาพคล่อง เรื่องคน เรื่องคุณภาพของงาน  และอื่นๆ อีกมากมาย  ทุกอย่างมีปัญหาและความเสี่ยงกันทั้งหมดแหละครับ  วันนี้ผมขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาสำหรับผู้ประกอบการเบื้องต้นให้ลองไปใช้ดูนะครับ

     1.มีความเป็นกลาง ต้องยุติธรรมกับลูกค้าทุกคนให้ความเสมอภาค  เลือกวางคนให้เหมาะสมกับงาน
     2.ให้เวลา และให้โอกาส มีเวทีให้เขามีโอกาสได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่
     3.รู้จักเลี้ยงรักษาลูกน้องเก่งๆเอาไว้
     4.คิดให้รอบคอบให้หลายๆสเต็ป ใจเย็นปล่อยวางได้เป็นปล่อยวาง ทำจิตใจให้สงบ ค่อยๆแก้ปัญหาที         ละนิด
     5.อดทน มีน้ำใจกับลูกน้อง  แบ่งปันและพูดถึงประโยชน์ที่เขาจะได้รับ และความมั่นคง ความก้าวหน้า         จากสิ่งที่เขาทำ

           จริงๆเหล่านี้ทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว  เพียงแค่อาจจะมองข้ามไปเท่านั้นเองครับ ใครที่กำลังจะเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ก็อย่าลืมทำ มายแม็ป ลงไปในแผนธุรกิจของท่านด้วยนะครับ

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความหวังครั้งใหม่




หลายวันมานี้ผมยุ่งอยู่กับการคิดโปรเจคงานใหม่ๆ ที่เข้ามา  การที่เราเริ่มทำอะไรใหม่เป็นอะไรที่สนุกและท้าทายมาก  ลุ้นอยู่ครับว่าสิ่งที่เราทำผลลัพธ์ที่ได้จะดีไหม  มีคำถามมากมายอยู่ในหัวผมมากมายเลยครับตอนนี้  ไม่รู้เพื่อนๆเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผมหรือเปล่า  ใครมีอะไรก็แชร์ได้นะครับ  บางเรื่องหากผมรู้ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันให้ทุกท่านครับ   คุยไปตั้งนานเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ  วันนี้ผมมีโปรเจคตัวใหม่ที่จะทำ เอาเป็นว่าผมขอนำเสนอเทคนิคเบื้องต้นในการคิดโปรเจคงานในกรณีที่ทุกท่านคิดอะไรไม่ออกดูครับ

1.หยุดฟังเสียงของผู้คนครับ  นึกถึงสิ่งที่ท่านต้องการจะทำมัน โดยไม่ต้องไปสนใจอะไรทั้งสิ้น แค่เริ่มลงมือทำและตั้งธงกับตัวเองเลยครับ คุณต้องการทำอะไรเอาให้ชัดเจนเลยนะครับ
2.ศึกษาจากผู้รู้  เริ่มจากคนที่ท่านชอบและติดตามเขาก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยนำมาปรับใช้กับตัวท่านแล้วท่านจะรู้เองว่าทำไมผมถึงต้องให้ท่านทำแบบนี้
3.ศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่ท่านจะทำอย่างละเอียด ทั้งการอ่าน การพบปะผู้คน  ถามให้มากๆ แล้วคุณจะพบคำตอบ
4.ลงมือทำอย่างจริงจัง ตัดสินใจไปเลยว่าไม่เลิก ต่อให้ล้มกี่ครั้งก็ไม่เลิก  10,000 ชั่วโมงยังไงก็ใช้ครับ พอท่านผ่านมันได้ ท่านคือคนที่สุดยอดครับ

วันนี้ผมก็แนะนะเท่านี้ก่อนนะครับ  ขอเตรียมตัวไปทำแผนชีวิตตัวเองต่อครับ   อยากให้ทุกคนมีความฝัน และลงมือทำมันวันละนิด  แล้วผลลัพธ์ที่ได้จะตามมาเองครับ  ใครที่ท้อแท้หมดหวัง หมดไฟ เขียนมาปรึกษาผมได้เลยครับ  เราจะไปด้วยกัน  เบอร์โทรผมครับ  0895205512

วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

เคล็ดไม่ลับ




           
        วันเสาร์นี้ใครไปเที่ยวกันที่ไหนบ้างครับ  ใกล้จะสงกรานต์แล้วผมมั่นใจว่าทุกคนคงมีโปรแกรมเป็นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย  ไหนๆก็มีโปรแกรมการท่องเที่ยวพักผ่อน  แล้วโปรแกรมชีวิตได้วางแผนกันไว้บ้างหรือเปล่าครับ  ทุกวันนี้ผมเฝ้าถามใจตัวเองตลอดเวลา  พยายามค้นหาคำตอบของความต้องการจนมาถึงวันนี้ผมได้เจอแล้วครับ  อุปสรรค์มีไว้ให้คนเราผ่าฝันจริงๆครับ  พอมาถึงจุดที่ต้องตัดสินใจทำให้เราสับสนจริง  วันนี้ผมมีเคล็ดลับมาแนะนำครับ

     1.พยายามศึกษาจากผู้ที่สำเร็จแล้วในธุรกิจที่คุณสนใจจริงๆครับ  ใช้เวลาเรียนรู้ศึกษาเขาสัก 6 เดือน
     2.อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจ  ความรู้ที่ต้องศึกษา และต้องมีเพิ่มเติม  สัก 6 เดือน
     3.ระหว่างนี้ก็หารายได้เสริม  งานพิเศษอะไรก็ได้ที่เราสนใจหรือชอบทำครับ เพื่อผลักดันเราและเพื่อการลงทุนที่ยิ่งใหญ่
    4.ปิดหูครับ  อย่าไปฟังคนอื่น สนใจแต่เป้าหมายของเรา
     5.เมื่อคุณผ่าน 4 ข้อมาได้ก็ลุยเลยครับ

      อย่าไปกลัวหรือกังวลกับสิ่งที่มันยังไม่เกิดขึ้นครับ  ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเสี่ยงในตัวมันอยู่ครับ  คนที่ไม่กล้าเสี่ยงต่างหากที่น่ากลัวกว่า  เพราะถึงคุณไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง  เดี๋ยวโลกก็ต้องให้คุณเปลี่ยนตามอยู่ดี  จงเป็นผู้นำโลก  อย่าเป็นผู้ตามเลยครับ  จำไว้เลยครับว่าผลประโยชน์ที่มาเป็นอันดับแรกก่อนจะไปถึงคนอื่นๆ  มันมีค่ายิ่งใหญ่มากกว่าเสมอ

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

เราแก้นิสัยคนไม่ได้หรอกครับ

           




         เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผู้คนได้หรอกครับเชื่อผม  ขนาดตัวเขาเองยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงเลย  อย่างที่ผมเคยบอกไว้ว่าถ้าเจอคนแบบที่เราคิดว่าไม่โอเค  เราเปลี่ยนที่ตัวเองดีกว่าครับ  ปิดหู อย่า
ไปรับรู้เรื่องไร้สาระพวกนี้เลย  ปล่อยเขาไปเถอะครับ  เราเปลี่ยนตัวเองดีกว่า  ผมเชื่อมั่นนะครับ คนที่
คิดดี พูดดี ทำดี อยู่ตลอดเวลาจะมีสิ่งดีๆ รออยู่เสมอ  โลกจะจัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณ  เมื่อนั้นจงจำคำพูดบทเรียนต่างที่เราได้รับไว้เป็นประสบการณ์ไว้เรียนรู้เรา  เพื่อที่จะเติบโตไปอีกระดับหนึ่ง  บุคคลที่
พัฒนาจิตใจของตัวเอง  ยกระดับจิตใจของตัวเองอยู่เสมอ คือผู้ประเสริฐ  ความคิดที่ประเสริฐเปรียบเสมือนแก้วที่ใสสว่าง คิดหาทางออกอะไรก็เจอ  อย่าพยายามให้แก้วขุ่นมั่วเพราะจิตใจที่ขุ่นมั่วพลอยแต่จะทำให้เราด่างพร่อยไปด้วย   
           เลือกคบคนดีๆ  อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  นึกถึงแต่เป้าหมายที่ตัวเองต้องการ  ทอดสะพานไว้ครับ วันละนิดๆ  ตอนนี้ยังนึกไม่ออกไม่เป็นไร  สักวันคุณจะรู้เอง  หลักอิทธิบาท 4 เป็นหลักที่ดีมากยังไงจำไว้ขึ้นใจก็ดี ครับ

            1. ฉันทะ    ความพอใจในสิ่งที่ทำ
            2.วิริยะ       ความพากเพียรอย่างสม่ำเสมอในเรื่องนั้นๆ
            3.จิตตะ     ความมุ่งมั่นอย่างใจจดใจจ่อโดยไม่ละความพยายาม
            4.วิมังสา    การตรวจสอบในสิ่งที่ทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ

           ธรรมมะคือธรรมชาติ คือ ยาหล่อเลี้ยงหัวใจทุกท่าน จงมีธรรมมะ ในใจรักษาศีล สมาธิ ปัญญาอย่างสม่ำเสมอ แล้วชีวิตคุณจะเจริญขึ้น ๆ  ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่ไม่คาดคิด

           



           เมื่อมองหาคุณก็จะมองเห็น  เป็นเรื่องจริงครับ  ผมประสบพบเจอมาแล้ว  รู้สึกว่าชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น  ผมได้รู้จักหลายคน  ทำให้ผมมั่นใจมากครับว่า  ผมได้เดินมาถูกทางแล้ว  ความสำเร็จรออยู่ ชีวิตเรานี่แปลกนะครับ  คนที่เราไม่คาดคิดก็สามารถทำในสิ่งที่เราคิดไม่ถึงอยู่เหมือนกันครับ  เมื่อวานผมได้ไปนั่งคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง  ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจในตัวเขามาก  ทัศนคติความคิดมีผลต่อการกระทำในอนาคตของเราเป็นอย่างมาก  เราคุยกันอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง  เวลาช่วงนี้เป็นเวลาทองที่มีค่าของผมมากเลยครับ  ทั้งทึ่ง ทั้งตื่นเต้น  และมีไฟมากขึ้น  รู้สึกขอบคุณพี่เขาจริงๆเลยครับ 
ที่ผมเขียนขึ้นมาคือต้องการจะบอกว่า  
    1.การเลือกคบเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก  เราคบคนแบบไหน เราก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น
    2.ปิดหูอย่าไปฟังเสียงคนอื่นให้มาก
    3.ก่อนจะทำอะไรให้คิดให้รอบคอบ  และดูความเหมาะสมความพอดีด้วย
    4.คิดต่าง กล้าฝัน กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และลงมือทำความฝันของเรา
    5.อย่าสะสมเงินแต่ให้สะสมทรัพย์เพราะระยะยาวมันยั่งยืนกว่า
    6.เข้าอบรมสัมมนาบ้างเพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้

          วันนี้ใกล้จะเลิกงานแล้วครับ  ผมก็มีคำแนะนำแค่นี้นะครับ  ความคืบหน้าในแผนธุรกิจของผมจะเป็นอย่างไร  เดี๋ยวผมจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟังเป็นระยะๆ นะครับ

วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

พร้อมรับโอกาสใหม่ๆแล้วครับ

         

        ตอนนี้เป็นช่วงที่ผมจะต้องยกเครื่องครั้งใหม่กับชีวิตของตัวผมเอง  คนเราหากไม่จริงจังกับตัวเอง หรือทำอะไรให้มันชัดเจน  ชีวิตคุณก็จะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ  ถ้าอยากได้ผลลัพธ์อะไรใหม่ๆ  คุณก็ต้องทำอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเอง  เริ่มจากการสำรวจตัวเองเลยครับว่ามีอะไรบ้างที่เราจะต้องพัฒนาปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น  ทั้งบุคลิกภาพ การแต่งกาย  การพูดจา การเข้ากับสังคม  รูจักเลือกคบคนให้เหมาะสม อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม  ชีวิตเป็นของเราครับ  เราสามารถเลือกเองได้  ผ่านมาจนถึงจุดนี้ผมรู้เลยว่า  "การใช้ชีวิตแบบพอดีเป็นอย่างไร"  คุณเชื่อไหมครับ ว่าคนเราพอใจเราเปิดรับแต่สิ่งดีดี พลังด้านบวกเข้ามาในชีวิตเราก็จะมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่พร้อมจะผลักเราให้ไปหาสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ  ตอนนี้ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่า ยังไงซะชีวิตนี้เกิดมาต้องประสบความสำเร็จให้ได้  ไม่ว่าจะลำบากยากเย็นสักแค่ไหน  ยังไงเพื่อนคนไหนที่กำลัง เศร้า ทุกข์ใจ หรือไม่สบายใจ  ผมก็ขอให้ทุกท่านผ่านไปโดยดีนะครับ  ผมเป็นกำลังใจให้มีอะไรก็สอบถามได้ครับ
          ขอบคุณช่วงชีวิตที่ผ่านมาของผมจริง  ไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์  มันเป็นบทเรียนที่ผมดีใจมากที่ก้าวผ่านมาได้  ผมมั่นใจมากว่าผมเดินมาถูกทางและมีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิตแบบจริงๆแล้วครับ  ผมใช้เวลาเกือบ 4 ปี ในการค้นหามัน  เหนื่อยมากกับชีวิตแต่ก็คุ้มครับ  ต่อแต่นี้ไปทุกอย่างอยู่บนเป้าหมายครับ

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

อย่างฟังเสียงของคนอื่น




           ก่อนอื่นต้องขอบคุณบางสิ่งบางอย่างที่ผ่านมาก่อนครับ  มันทำให้ผมรู้จักโลก เข้าใจโลกมากขึ้น  จริงๆแล้วคนมีหลายประเภทจริงๆ  เราไม่สามารถคาดหวังอะไรจากคนอื่นได้ทั้งหมด 100% หรือแม้แต่การที่จะให้คนอื่นมาช่วยเราในทุกเรื่อง  ธรรมมะเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆครับ  พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า "เราตถาคตก็แค่ผู้บอกทาง จะมายึดมั่นอะไรในตัวท่านทั้งหมดก็ไม่ได้" หมายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องฝึกฝน ลงมือทำเอง  การที่เราจะเข้าไปช่วยเหลือคนจมน้ำ  เราก็ต้องว่ายน้ำให้เป็นก่อน  อย่าไปคาดหวังจากผู้อื่นให้มาก  ผู้อื่นเขาก็มีวิถีชีวิตในแบบของเขา  เรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาเอาตัวเขารอดหรือยัง  เราต้องเชื่อมั่นในตัวเอง  หมั่นฝึกฝนพัฒนาทักษะตัวเอง  ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ  อะไรที่เราไม่รู้จงศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้  อย่าด่วนตัดสินใจอะไรเร็วเกินไป   
         ที่ผมเขียนมานี่หลายท่านอาจจะยังงงอยู่  ไม่จำเป็นต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ  สักวันเมื่อท่านได้มาถึงมุมเหลี้ยวแบบผมคุณจะเข้าใจเองโดยธรรมชาติ  ต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมต้องทำ

    1.ฝึกฝน ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
    2.ชัดเจนในเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้
    3.อย่าเชื่อคนอื่น ฟังเสียงหัวใจเรา
    4.ไม่มีใครแก้ปัญหาให้เราได้นอกจากตัวเราเอง
    5.อย่าเอาตัวเองเป็นเหยื่อของสังคม สื่อ และสิ่งแวดล้อม
    6.มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ
    7.อย่าไปคาดหวังหรือหวังผลประโยชน์จากผู้อื่น  การจะได้ประโยชน์จากผู้อื่นเราต้องเป็นคนให้ก่อน
    8.เวลาจะเข้าสัมมนาพัฒนาตัวเอง ต้องเป็นเรื่องที่ตัวเองสนใจจริงๆ อย่าตามเพื่อน หรือตามกระแส
    9.เลือกอยู่ในกลุ่มคนที่มีความคิดคล้ายคุณ
   10.เติมไฟให้ตัวเองเสมอ
   11.ยอมรับในความแตกต่างของผู้คน  เข้าใจและเรียนรู้

            เหล่านี้ก็เป็นประสบการณ์เบื้องต้นที่ผมได้ประสบพบเจอมาแล้วอยากจะแบ่งปันให้พวกท่านนะครับ  หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยยังไงก็ลองเอาไปปฎิบัติดูได้

วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558

การพัฒนาตัวเอง

         



             เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปนั่งฟังสัมมนาเกี่ยวกับเรื่อง  การพัฒนาบุคลิคภาพของตัวเอง  ก่อนหน้านี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ  จริงๆแล้วมันเป็นจิ๊กซอร์ตัวหนึ่งเลยครับ  การแต่งกาย  การพัฒนาบุคลิคภาพให้ตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลาถือเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก  นั่นคือสิ่งที่แสดงถึงความมั่นใจในตัวเองที่สะท้อนภาพออกมาจากข้างใน  วันนี้ผมก็มีเคล็ดลับในการพัฒนาบุคลิคภาพของตัวเองมาให้เพื่อนได้ลองนำไปใช้กันนะครับ

      1.เราต้องรู้จักตัวเองก่อนครับ  เริ่มจากรู้จุดบกพร่องในตัวเราเองก่อนว่ามีอะไรบ้าง อย่าพยายามเข้าข้างตัวเองนะครับ  เอาจากความเป็นจริงเลย แล้วค่อยศึกษาเรียนรู้เพื่อจะปกปิดข้อผิดพลาดนั้น  ก็คือ เสริมจุดเด็นของตัวเองในน่าสนใจมากขึ้น
     2.คุณต้องการเป็นอะไรในชีวิตคุณ  คุณแต่งตัวทำบุคลิกภาพของคุณให้เหมาะสมกับอาชีพหรือความต้องการนั้นๆ ของคุณ  การแต่งกายจะสะท้อนถึงความเหมาะสมในด้านต่างๆของคุณ  ความพอดีจะทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ การที่เราจะเคลื่อนที่จากจุด เอ  ไปยัง จุด บี  จากสิ่งที่เราต้องการเราต้องปรับทัศนคติวิธีคิดและการแต่งกายจากภายในสู่ภายนอกให้เหมาะสมกับสิ่งนั้นๆ ครับ  แล้วสิ่งที่คุณต้องการจะตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย
     3.ต้องสร้างแบรนด์ให้ตัวเอง  สร้างคาแร็กเตอร์ของตัวเองตามแบบที่ฝันเอาไว้ว่าฉันต้องการเป็นคนเเบบไหน เช่น ผมอยากเป็นนักลงทุน นักธุรกิจ  สไสต์ของผมคือ ความมุ่งมั่นในตัวเอง  ความน่าเชื่อถือ  ทั้งการกระทำและคำพูด  นั่นก็คือ การแต่งกายของผมต้องเน้นถึงความหรูหรามีสไตส์ แผงไปด้วยพลังอำนาจและความน่าเชื่อถือ เป็นต้น
      4.การสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองต้องมีความชัดเจน  ต้องไม่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตามอารมณ์  ต้องมีความชัดเจนเหมือนกับเป้าหมายที่เราได้ตั้งเอาไว้  หากเรามีความชัดเจนของภาพในหัวในสิ่งที่เราต้องการทุกคนก็จะเชื่อในสิ่งที่เราคิดเช่นเดียวกัน
    5.อย่าไปฟังคนอื่น  สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาตัวเองเราต้องไม่ฟังคนอื่น  ฟังเสียงความต้องการของหัวใจเรา  หมั่นศึกษาเติมความรู้ให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอในสิ่งที่เรารัก  เราต้องการ เชื่อได้เลยทุกอย่างจำไว้เลยว่า  ก้าวเเรกสำคัญเสมอ เริ่มลงมือทำได้แล้วครับ
     6.การแต่งตัวคือการเล่าเรื่อง  คุณอยากจะให้คนอื่นมองเรื่องราวตัวคุณเป็นคนอย่างไร  คุณก็ต้องแต่งตัวให้สอดคล้องกับสิ่งนั้น  เพราะอย่างที่รู้กันครับทุกอย่าง

            นี่ก็เป็นเคล็ดไม่ลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้รับมายังไงลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ  เชื่อมั่นในตัวเอง  ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการและหยุดฟังเสียงผู้อื่นครับ  เรียกความมั่นใจคุณกลับมา

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของคน



              คน หรือ มนุษย์ เป็นอะไรที่ซับซ้อนจริง ๆ ครับ  ในโลกแห่งการทำงานที่มนุษย์ส่วนใหญ่บ่นกันจริงๆแล้ว ปัญญาหลักๆ  ไม่ได้อยู่ที่องค์กร  แต่อยู่ที่คนต่างหาก  จะดีก็คน  จะไม่ดีก็คนนั้นแหละ ฉะนั้นวิธีการรับมือกับคนจึงเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้  ทั้งนี้ก็ต้องดูที่สถานการณ์อีกที  เรื่องจิตมนุษย์เป็นอะไรที่ยากแท้หยั่งถึง   ถ้าเรามีสติปัญญาก็ค่อยๆคิดพิจารณาให้ถูกต้องอันไหนดีก็รับฟัง  อันไหนไม่ดีก็ไม่ต้องไปรับฟังเท่านั้นเอง   พยายามรักษาใจตัวเองให้อยู่ในแดนบวก  รัก เคารพตัวเอง  ให้มากๆ  อย่าไปสนใจคำพูดคนอื่นให้มาก  เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงเขาได้หรอกครับ  มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง  แล้วพลังงานจะดึงดูดสิ่งดีดีเข้ามาหาเราเอง
            ลงมือทำสิ่งที่ถูกต้อง  โดยไม่ต้องไปสนใจว่าสิ่งนี้จะกระทบอะไรกับใครเพราะความถูกต้องจะเป็นเกราะคุ้มภัยเราเอง  การทำความดีแบบไม่อายใครเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายอย่างน้อยตัวเราก็ได้รับความภาคภูมิใจกลับมาครับ  เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลย  คิด ทำ พูด  รักษาใจตัวเองให้อยู่ในแดนบวก เติมพลัง สสารให้มากสะสมธนาคารความคิดบวกไว้มาก ๆ  ยามที่คุณทุกข์มันจะช่วยคุณได้  วันนี้สวัสดีครับ


วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

ศีลเสมอแล้วเจอกัน

         

            ผมได้อ่านบทความของพี่บอย  พิสูจน์  แล้วเจอประโยคนี้  รู้สึกชอบมากๆครับ   ตรงตามหลักของพระพุทธเจ้าที่เคยกล่าวไว้ว่า  บุคคลที่จะมาเจอกันหรือร่วมบุญร่วมชาติกัน  หรือจะเป็นเนื้อคู่กัน  ต่างต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน  นั้นก็คือ ศีล  สมาธิ ปัญญา  เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งสิ้น

       หลายครั้งเราบ่นโทษสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราไม่ดี
       โดยลืมคิดไปว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ก็คือ ภาพสะท้อนในใจเรา
       เราพยายามจะเปลี่ยนโลกภายนอก
       โดยหารู้ไม่ว่าโลกภายนอก  ก็คือกระจกสะท้อนโลกภายในของเรา
       
       ถ้าคุณเปลี่ยนโลกข้างในของคุณ  โลกข้างนอกของคุณก็จะเปลี่ยนตาม
       ถ้าคุณอยากให้โลกยิ้ม  คุณก็ต้องยิ้มให้กับโลก

       นี่เป็นเรื่องจริงถ้าคนที่โลกมือจะแย้งขาดใจว่าไม่จริง
       ฉันยิ้มให้เขาเเล้ว  เขาไม่เห็นยิ้มหรือดีกับฉันเลย
  
      ขอบอกเลยครับว่า ถ้าคุณยังยิ้มต่อไป ดีต่อไป
      เปลี่ยนโลกข้างในของคุณต่อไป  โดยไม่ต้องสนใจคนอื่น
      ที่คุณควบคุมเขาไม่ได้   

ประโยคต่อไปนี้สำคัญมาก
       
      สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ  ถ้าเขาคนนั้นยังไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดี
      เขาคนนั้นก็จะค่อยๆ  หลุดออกจากวงโคจรชีวิตของคุณไปเอง
      นี่เป็นเรื่องของระดับพลังงานที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะอธิบาย
      แต่เอาเป็นเป็นว่า  "ศีลเสมอแล้วเจอกัน"


              โลกใบนี้คือกระจกที่สะท้อนตัวเราข้างใน  อย่าพยายามเปลี่ยนโลก  เปลี่ยนคน ให้เรา 
เปลี่ยนข้างในตัวเราง่ายกว่า  ได้ผลกว่า ต้องลองทำดูครับ  การที่เราเปลี่ยนความคิดของตัวเอง
 21 วันแล้วทำต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  จักรวาลจะสรรจัดบางสิ่ง  บางอย่างที่เหมาะกับตัวเรา  ให้เราได้รับสิ่งที่คู่ควรที่เราสมควรจะได้รับ  และมองพลังอำนาจบางอย่างที่สามารถให้เรามีความสุข   และแบ่งปันไปสู่โลก  สังคม และบุคคลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด   
     

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรื่องน่ารู้ของสมอง "ถ้าคุณคุมสมองคุณได้คุณก็คุมทุกอย่างได้ในชีวิต"




                สมองมีกลไกลที่สลับซับซ้อนเป็นอย่างมากที่มนุษย์เรายากที่จะเข้าใจ  รอยหยักของสมองมีส่วนที่ทำให้คนๆนั้นเป็นคนฉลาด  แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกมากครับ  เส้นใยของสมองที่มากขึ้นไม่ได้ส่งผลให้คนฉลาดขึ้นนะครับ  สมองมีกลไกที่ยากที่เราจะเข้าถึงจริงๆ  เข้าเรื่องดีกว่าครับ  ที่ผมนำเสนอแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับสมอง  คุณรู้ไหมครับว่า สมองจะผลิดสารบางอย่างที่ทำให้มนุษย์เราเครียด
ความเครียดแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

    1.ความเครียดระยะสั้น  เป็นความเครียดที่ดีครับความเครียดแบบนี้จะกระตุ้นให้เราตื้นตัวอยู่เสมอ
    2.ความเครียดเรื้อรัง    เช่น เครียดเนื่องจากไม่รักในงานที่ทำ  เครียดกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ เป็นต้น ความเครียดเรื้อรังสามารถทำลายสมองได้  ในส่วนของบันทึกความจำ หรือสมองเสื่อม

แปลกแต่จริง
          คุณรู้ไหมว่าถ้าเราอยากเก่งเรื่องไหนเราต้องทำสิ่งนั้นทุกวัน  ฝึกให้เป็นอัตโนมัติระบบสมองเราก็จะทำการประมวลผลข้อมูลสิ่งนั้นและกลั่นกรองไปเรื่อยๆจนสามารถทำให้เราเป็นอัจฉริยะในเรื่องนั้นๆได้
ผมมีเคล็ดง่ายๆ ลองตัวสัก 3-4 วิธีนะครับ
          1.ถ้าอยากรวย   ต้องคิดแบบคนรวย  (ให้กระบวนการสมองใช้วิธีการต่างคิดหาเงินทุกวันแล้วสมองจะปรับสภาพของตัวมันเอง)
          2.พกสมุดติดตัว คอยจดสิ่งต่างๆ เขียนเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง  การที่เราหมั่นเติมความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวให้กับสมองทุกวันเราก็สามารถประสบความสำเร็จได้ครับ
         3.การอ่านมีผลกับสมองมาก  อ่านหนังสือกันมากๆนะครับ
         4.ไม่ควรดูโทรทัศน์เพราะการดูโทรทัศน์ทำให้สมาธิสั้นและยังมีแต่เรื่องใช้เงินและเรื่องลบๆ

            แต่ก็มีบางครั้งที่สมองมักจะหลอกเรา  จำไว้นะครับว่าอย่าเชื่อสมองของคุณตลอดเวลา  คุณต้องวิเคราะห์ตรวจสอบตลอดเวลา  บางครั้งสิ่งที่คุณเห็น อาจมีหรือไม่มี   ใช่หรือไม่ใช่ก็ได้

สมองบงการเรา
         สมองมีสาร "ดอบคิวมีนรัส"  เป็นสารกระตุ้นบางสิ่งบางอยากให้เราเสพติด  คุณรู้ไหมว่าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดในโลกคือใคร  คำตอบคือ "สมองเป็นพ่อค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก"  สมองสามารถสร้างสารเสพติดได้เองโดยไม่ต้องพึ่งสารใดๆทั้งสิ้น  นั้นก็หมายความว่า  เราสามารถสร้างความสำเร็จต่างๆขึ้นมาได้โดยการสร้างสมองให้คิดในเรื่องนั้นๆ
คุณทราบไหมว่าถ้าสมองเลือกได้มันจะเลือกความสุขหรือความทุกข์
 หลายคนคงคิดว่าความสุข ผมก็หนึ่งในนั้น  แท้จริงแล้วสมองเราเลือกความทุกข์นะครับ  ความทุกข์คือของจำเป็น  ความสุขคือของฟุ่มเฟือย  คนเรามี 2 ชีวิตในร่างเดียวครับ

ร่างที่ 1 สมองคิดตัดสินใจด้วยตัวของมันเอง
ร่างที่ 2 เราคิดและตัดสินใจโดยให้สมองคิดแบบไหน
เชื่อไหมครับว่าสมองจะเป็นผู้ชนะ

ตา+สมอง+หัวใจ  คืออวัยวะเดียวกัน  ไม่ว่าคุณจะทำอะไรกับสิ่งต่างๆ ย่อมกระทบกับสมองทั้งสิ้น

การทำงานของสมองจะแบ่งได้ 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ
   1.จิดใต้สำนึก
    2.จิตสำนึก

            เคยมีการทดลองให้คนสองกลุ่มเล่นกีฬาชนิดเดียวกัน  กลุ่มหนึ่งให้ฝึกซ้อมทุกวัน  อีกกลุ่มหนึ่งให้ใช้จิตใต้สำนึกจินตนาการทุกอย่างเหมือนซ้อมจริง  เชื่อไหมครับว่า เมื่อนำมาแข็งกันผลลัพธ์เท่าๆกัน สมองไม่ว่าจะใช้วิธีคิดหรือทำ ก็จะใช้ WAY เดียวกันเสมอ สมองน่ากลัวมากคุณต้องใช้มันอย่างมีสติ

เคล็ดลับ
     เช่น ก่อนที่คุณจะทำอะไรสักอย่างในวันรุ่งขึ้น ไม่ว่าจะสอบ ทำงาน หรือดิวงานต่างๆ  ให้ก่อนนอนคุณต้องคิดอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่คุณจะต้องทำมันก่อนล่วงหน้า  ทำทุกอย่างเเบบจริงจังเหมือนเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ  เห็นกิจกรรมทุกอย่างให้ชัดเจนทุกรายละเอียด  แม้กระทั่งการคิด พูด ทำ การบิด หันซ้ายขวาทุกอิริยาบท  นึกถึงความสำเร็จที่เกิด ณ ตอนนั้น  สมองประหลาดมากอะไรที่เคยเกิดขึ้นแล้วมันจะเกิดขึ้นอีก  จำไว้ว่าอย่าคิดเรื่องแย่ๆ  เพราะสิ่งที่คุณคิดมันจะเกิดขึ้น คิดแต่เรื่องดีดี  ใส่ใจทุกรายละเอียดของความสำเร็จ

วิธีนอนหลับให้สนิท
    1.สังเกตตัวเอง  หาเวลาสงบของตัวเอง
    2.การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้สูญเสียความทรงจำได้
    3.การนอนดึกแล้วทดแทนด้วยการตื่นสายเป็นไปไม่ได้ครับ  เพราะเรามีนาฬิกาชีวิตของเรา
    4.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  สมองจะสร้างเม็ดเลือดช่วยกระตุ้นความจำ
    5.ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม


"ตอนเช้าหากมีโอกาสควรตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น  ตอนเย็นก็ดูพระอาทิตย์ตก  พระอาทิตย์ขึ้นทำให้เราสดชื่นยิ้มรับกับวันใหม่  พระอาทิตย์ตกทำให้เราผ่อนคลายทำให้หน้าเราเด็กตลอดเวลา"














วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

Infopreneur

             


              เอาละครับวันนี้ผมจะมาขยายความของคำว่า Infopreneur  หรือ นักธุรกิจความรู้  กันนะครับ  หลังจากที่เคยกล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้นะครับ   จริงๆคำนี้มีมานานแล้วครับ  หลังจากที่วันนั้นผมได้มีโอกาสได้ไปนั่งฟังสัมมนาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้  ก็พอเข้าใจแล้วธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่จะทำเงินได้ในอนาคตแน่นอนครับ   โลกในศตวรรรษที่ 21  ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปหรือที่เรียกกันว่า  "ยุคข้อมูลข่าวสาร"  ใช่แล้วมันก็คือ  การขายข้อมูลข่าวสารบางอย่างที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้คน หรือบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง ภายใต้
                    (Concept)  ชีวิตผู้คนต้องดีขึ้นในจำนวนผู้คนมากๆ  หรือกล่าวอีนนัยก็คือ ทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้นโดยใช้ข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการตัดสินใจ และเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิต

                                             INFOPRENEUR =  VALUE * LEVERAGE


KEY MESSAGE = ทำตัวเองให้เจ๋งเดี่ยวมีคนทำให้
     1.Social Medea
     2.Talking and presentation
     3.The book or Ebook / Photo/ V DO
     4.Other.

(HOW TO) ผมมีตัวอย่างที่น่าสนใจ 10 ตัวอย่าง โดยการใช้ KEY MESSAGE ข้างบนมีตัวอย่าง ดังนี้ครับ 
   1.เงินทอง    เช่น การลงทุนต่างๆ
   2.ดวงชะตา  เช่น ทำนายต่างๆ
   3.สุขภาพ     เช่น อาหารการกินต่างๆ
   4.ศาสนา      เช่น ธรรมมะแนวใหม่
   5.ภาษา        เช่น วิธีการต่างๆที่ง่ายและสะดวก
   6.อาชีพ       เช่น ตามแต่คุณถนัน
   7.พัฒนาตัวเอง  
   8.ความสวยความงาม/ลดน้ำหนัก
   9.ไลฟ์สไตส์ เช่น การท่องเที่ยว ทำสวน ทำอาหาร แต่งบ้าน
   10.ความรัก/เซ็กซ์

            มนุษย์เราสามารถกำกับชีวิตของเราได้ครับ  เลือกชีวิตของเราได้  โดยผ่านการนำเสนอตามตัวอย่างข้างบนนี้  ตอนนี้ยังนึกไม่ออกไม่เป็นไร  แต่เราทุกคนมีเรื่องราวแน่นอนครับ  อยู่ที่การนำเสนอหรือการถ่ายทอดเท่านั้นเองที่่เรายังนึกไม่ออก  ค่อยๆเรียนรู้ครับ  ก้าวแรกสำคัญเสมอ  วิธีการจะทำเงินกับสิ่งพวกนี้ได้ผมมีเคล็ดลับ 4 อย่างนี้
     1.เรื่องเล่าของคุณต้องเกี่ยวกับเขามีประโยชน์กับผู้คนและต้องขายได้  
     2.หา Content ตัวเองให้เจอ อาจจะเป็นความชอบ กิจกรรมต่างๆที่สนใจและทำตอนว่าง
     3.ที่สำคัญคือเราต้องถนัดจริงและลงมือทำต่อยอดได้
     4.ต้องรู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเราเอง  ฝึกฝนทักษะต่างที่เราต้องการให้พร้อม
    จำไว้ครับว่า  "ใครที่พูดเก่งผู้คนจะคิดว่าเขาเก่งทันที"  ทักษะการถ่ายทอดสำคัญมากครับเมื่อเราสามารถถ่ายทอดได้เราก็จะมีชัยไปกว่าครึ่ง  แล้วถามว่าเราจะพัฒนาตัวเองแบบนั้นได้อย่างไร ง่ายมากครับ
     1.ตามหาคนเก่งๆ หรือ Idol ของเราให้เจอแล้วศึกษาวิธีการเรียนรู้จากเขา
     2.ศึกษาแนวคิดของเขาและคนที่เราสนใจหาสไตส์ตัวเองให้เจอ
     3.ต้องเรียนรู้วิธีการถ่ายทอดและการสร้างแรงบันดาลใจ

        ข้อดีคือ  แม้จะมีใครอยากจะเลียนแบบเราแต่ก็ทำไม่ได้  ธุรกิจนี้ไม่ต้องการเลียนแบบ  ให้เงินเยอะๆ  มีคนเก่งๆ เยอะๆ

     "ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องรู้จักคุณ แต่ต้องมีคนกลุ่มหนึ่งที่อยากรู้จักคุณ"
     "คนที่คุณไม่คาดหวังอาจจะทำในสิ่งที่คุณคาดฝันไว้ก็ได้"




วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

แค่อยากจะบอก



           ช่วงนี้ไปทางไหนมีแต่คนพูดถึงอาชีพ Infopreneur  หรือ นักธุรกิจความรู้   เป็นอาชีพใหม่ที่จะเกิดในศรรตวรรษที่ 21  นั้นก็คือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามแต่คุณสามารถเลือกทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ  ไม่จำเป็นต้องนั่งทำงานวันละ 8 ชั่วโมง  สามารถเลือกทำงานที่ไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ  อาจเป็นการรวมตัวกันในสถานที่หนึ่งๆ หรือที่เรียกว่า  Co-working specs  โลกยุคใหม่นี้ไปเร็วมาก  ข้อมูลข่าวสารที่ไหลเข้ามาทำให้บางครั้งเราถึงกลับสับสนไปเลย  วิธีการง่ายๆนะครับลองเอาไปทำ
     1.กำหนดเป้าหมายของคุณแล้วสนใจ โฟกัสไปต่ข่าวสารที่คุณต้องการเท่าส่วนอันไหนที่ยังไม่จำเป็นและไม่ได้ให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอย่าไปสนใจครับ
     2.เมื่อทราบในสิ่งที่เราต้องการแล้วก็ยึดมั่นในสิ่งนั้น  และลงมือทำให้เป็นจริงทันที
     3.อย่ารอโอกาสแต่จงสร้างโอกาสขึ้นมา
     4.นึกถึงสิ่งที่เราต้องการอยู่ตลอดเวลา 
     5.ยินดีกับสิ่งเล็กน้อยที่เราทำได้ รู้สึกขอบคุณและชมตัวเอง
           ก็ไม่มีอะไรมากก็อย่างที่ทุกท่านเคยอ่านเจอในหลายๆ  บทความแหละแต่การกระตุ้นตัวเองตลอดเวลาทำให้เรามีไฟอยู่ตลอดเวลาไงครับ  เมื่อมีไฟในตัวเอง  อะไรก็สำเร็จครับ

วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

รู้จักการลงทุนเพื่ออนาคต



ทำไมต้องลงทุน 
 1.ป้องกันเงินเฟ้อ 
 2.เราไม่สามารถทำงานได้ตลอดชีวิต
สิ่งที่มนุษย์เราต้องการ
1.เงิน
2.ทุน
3.เวลา
การลงทุนในหุ้นแบ่งได้2ประเภทใหญ่ๆคือ
1.ปันผล
2.กำไรส่วนต่าง

การเทรดforex. ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
1.เช่นการแลกเงินที่ธนาคาร 
     -เสน่ห์ ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
     -ปั่นหุ้นไม่ได้ พูดถึงสกุลหลักเท่านั้น 
     -คานผ่อนแรง เช่นเล่น1บาทได้ร้อย
     -ตลาดเปิด24 ชั่วโมง ปิดเสาร์อาทิตย์
     -การแหว่งสูง ข้อดีคือทำกำไรได้เยอะ. มีแค่37คู่เงิน
      -กฎหมาย พื้นที่สีเทา กลต ยังไม่อนุญาติ ทุกธนาคารเทรดฟอเร็คด

     1.ฝั่งโบรคเกอร์ถือว่าผิดกฎหมายไม่รองรับ
     2.ฝั่งเราถ้ามีหลักฐานโอนเงินไปต่างชาติ

ข้อแนะนำจากวิทยากร คุณพสุธา ผู้บริหารดีเทค ชื่อเล่น คุณเอิรด์
    1.สนใจอันไหนให้อยู่กับมัน
    2.ต้องศึกษาตรวจดูหุ้นที่เราสนใจ
    3.ทำอย่างสม่ำเสมอศึกษา สนใจมันตลอดเวลา
    4.ได้เงินจากการเป็นผู้บริหารและค่าเทรดหุ้น
    5.ออกจากงานประจำได้
    6.ขาดทุนบ้างใช้เวลา10ปีต้องรู้จักตัวเอง
   7.ถ้าเล่นหุ้นได้กำไรตำ่กว่า20%ต่อปี. ต้องทบทวนใหม่
   8.Meta. Treder4. Siamsport.com    (ไม่จำเป็นต้องมีใบเซอร์คือมีid. หรือ mgm)

        ผลตอบแทนเป็นเงินทุกบาทโบรคเกอร์ฟอเร็คต้องการจะขยายและแข่งขันกันนอกจากนั้นยังมีwelcom bonus แต่ถอนไม่ได้ และที่ล้ำไปกว่านั้นคือมีแมนเน็จแอ็คเคาน์คุณเปิดไม่เป็นผมเทรดให้กำไรแบ่งกันก็สามารถทำได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลง. ถ้าเราจะเทรดก็ต้องดาวน์โหลดของแต่ละโบรคข้อสังเกตุคือไฟล์ไม่ควรจะเกิด1เม็กก็เริ่มเทรดได้แล้ว

ข้อดีก็คือ
     ทำกำไรได้2ขาทำยังไง
สูตรในการดูง่าย
      ถ้ายูโรแข็งกว่ายูเอสค่าเงินจะเพิ่มขึ้น. มันจะตรงข้ามกัน ถ้ายูโรอ่อนค่ากว่ายูเอสจะค่าเงินลดลง
ต้องศึกษานโยบายทางเศรษรษฐกิจด้วยพร้อมศึกษากราฟ ฟอเร็คเขาดูที่สัญญาทุกๆหนึ่งช่องจะมีราคาส่วนต่าง. ค่าเหวี่ยงจะสูงมาก ยูโรมักประกาศอะไรตอนตี4ต้องศึกษาข่าวสารล่วงหน้า แต่สามารถทำกำไรได้100%ในวันเดียว
ต้องมีเป้าหมายทางการเงินวินัยถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
         ข้อแตกต่างระหว่างการออมและการลงทุน คือ การออมไม่มีสิทธิขาดทุน การลงทุนฉลากออมสินควรซื้อสัก 500,000ขึ้นไป. การลงทุนมีความเสี่ยงคุณต้องรู้มันจริงๆ ควรกระจายความเสี่ยง แต่ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่า
วิทยากรอีกท่าน คุณฐานวัฒน์ ภูริธนาเลิศพงษ์
ได้แนะนำหนังสือน่าอ่านดังนี้
    1.ไขความลับสมองเงินล้าน
    2.เงินสี่ด้าน 
    3.พ่อรวยสอนลูก
    4.คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก บทที่4ให้ค้นหาให้เจอ
ข้อคิด
        ให้เราจำไว้เลยว่าถึงคุณรักงานประจำคุณมากแค่ไหนเขาก็ไม่จ้างคุณทั้งชีวิต ธุรกิจฝั่งซ้าย
หมูเป็นเจ้าของกู ตัวอย่างของ เจ้าของฟาร์มหมู ธุรกิจฝั่งซ้าย
งานฝั่งซ้ายไม่เคยให้อิสระภาพกับตัวเอง คนเราชอบทำสิ่งเดิมๆแต่อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ๆ
เฟรนไซน์. โรงแรม. mlm ธุรกิจฝั่งขวา
Investor. ธุรกิจฝั่งขวา

พอคุณมองหาคุณจะมองเห็น แต่ก่อนจะมองเห็นคุณต้องคิดไว้เลยว่าความรวยมันโครตง่าย
ต้องเปลี่ยนความคิดคุณต้องตัดสินใจกับชีวิตของตัวเอง
   1.หาธุรกิจหรือการลงทุนที่เป็นฝั่งขวาเท่านั้น
   2.หยุดฟังคนฝั่งซ้าย ตัวเอง ผมจะบอกตัวเองว่ามึงพูดแล้วชีวิตมึงดีขึ้นไหมไม่ดีหยุดเลย
   3.ฟังคนฝั่งขวา
   4.คอนเน็คชั่น สำคัญที่สุดคือการหาคนเก่งเราสามารถสร้างความแตกต่างให้คนอื่นได้

ความรู้เรื่องฟอเร็ค
Odfx ฟอเร็ค
     1.ฟอเร็ค6%ต่อเดือนเงื่อนไข จ่ายเม็คซิมั่มไม่เกิน3เท่า หยุดปันผลตอนipo
วิธีการเทรดฟอเร็คมี2ทางเลือก 1.มูลค่าเท่ากับบัญชี บัญชีต้องactive. ทางเลือกที่2 เมดเนจเทรด กำไรอาจต่ำมากๆ เน้นปันผล 6%ต่อเดือน  odfx.คืออะไร od cappital ศึกษาก่อน

จะมี. 2 ช่องทาง. 1.เทรดเดอร์เอง 2.นักลงทุนเทรดให้เป็นอินเวสเตอร์. สายตลาด

Ib. Investor broker  เอื้อเฟื้อมีเงิน
นิยาม
   ลงทุนโดยไม่ใช้เงิน
   รวยแบบงงๆดีกว่ายากจนแบบมีสติ
   ความต้องการมั่นคงแปรผันกับอิสระภาพเสมอ

การเปิดบัญชี
เอื้อเฟื้อและมีเงิน 
   1.ศึกษาก่อนการจัดการความเสี่ยง
   2.รหัสอ้างอิงref code
   3.เอาเงินใส่ลงไป
   4.เข้าเวปodfx. ซื้อล็อทลงทุนเลือกใช้วิธี่ที่3 es ธนาคารกลางในกลุ่มของเราลง35ถอน32
1000เหรียญ 2lot
   5.วิธีกรอกต้องดูว่าเลือกแบบแมนนวลด้วย
   6.มีวิธีการสมัครศึกษาได้  Www.odfx.com







กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...