ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า

มีหลายครั้งในชีวิต  ที่บางทีความกลัวทำให้เราไม่กล้าที่จะออกไปทำอะไรข้างหน้า  ให้มันสำเร็จเป็นจริงเป็นจังสักที  เราปล่อยให้ความกลัวเข้ามาเป็นเส้นกำบังในชีวิตของเรา  ให้เราไม่สามารถที่จะก้าวข้ามจังหวะเล็กๆน้อยที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาล  สัญชาตญานของมนุษย์มักจะหาที่ปล่อยภัยให้กับตัวเองอยู่เสมอ  ถ้าหากรู้ว่าที่ๆตัวเราอยู่มีความรู้สึกปลอดภัย  เราก็จะสร้างเกราะคุ้มกันภัยตัวอย่าง  จากที่ๆมันเป็นอยู่  ซึ่งก็หารู้ไม่ว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้น  มันก็เกิดจากความปลอดภัยนั่นแหละครับ

โลกมีอะไรที่แปลกประหลาดหลายๆอย่าง  สิ่งที่คุณจะต้องลองฝึกฝนให้มากที่สุดนั่นก็คือ  การสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง  ให้กำลังใจตัวเองบ้าง  บางทีการที่เราแสดงออกว่าตัวเองเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลานั่น  ภายในจิตใจเรากำลังอ่อนแออยู่ก็ได้  เราควรเปิดใจยอมรับสถานการณ์ในตอนนั้นให้ได้ก่อน  แล้วค่อยฝึกฝน  สร้างแรงบันดาลใจและแรงผลักดันจากจุดนั้น

เคยมีประโยคที่คนเคยกล่าวไว้ว่า  เราทุกคนต่างมีดาวอังคารของตัวเอง  ยังไงก็ขอให้ไปค้นหาดาวอังคารของตัวเองให้เจอ  เมื่อเจอแล้วก็ต้องมุ่งหน้าไปหาดาวอังคารที่คุณฝันไว้  บางทีอาจมีคนมองว่ามันใช่เหรอ  ให้ใช้แรงผลักดันจากจุดนั้นเป็นแรงจูงใจให้คุณก้าวไปในชีวิต  เพราะชีวิตทุกชีวิตมีทางเลือกและมีคุณค่าในตัวของมัน

การที่เราได้พบเจอโลกใหม่ๆ  ได้เห็นอะไรใหม่ๆ  ลองเปิดใจเรียนรู้และรับสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิต  คุณอาจพบคำตอบบางอย่างที่มันซ่อนอยู่ในใจคุณก็ได้ครับ  ขอให้ไปให้สุด ๆ  อย่าเอาความกลัว  หรืออุปสรรคในชีวิตมาเป็นข้ออ้างหรือข้อจำกัดให้กับชีวิตของคุณ  วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้  เราได้ทำปัจจุบันของเราให้มันเป็นอย่างไร  ไม่มีใครมากำหนดทางเดินของชีวิตคุณได้ครับ  คนเราเลือกเกิดไม่ได้  แต่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตตามที่เราต้องการได้ครับ

เชื่อในสิ่งที่คุณคิดและทำ

ความคิดและความเชื่อของเรามันเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่เราพบเห็น  คุณว่าจริงไหมครับ  สังเกตุไหมครับว่า

ตอนเด็กๆ  เราก็จะมีความคิดในอีกมุมหนึ่ง

ตอนวัยรุ่น  เราก็จะมีความคิดในอีกมุมหนึ่ง+อารมณ์ที่มากขึ้น

ตอนวัยทำงาน  เราก็จะเห็นโลกอีกมุมหนึ่ง + การรู้จักควบคุมอารมณ์มากขึ้น

ตอนสูงวัย  เราก็จะเห็นโลกอีกมุมหนึ่ง+การปล่อยวาง

ทุกอย่างมีสเต็ป และขั้นตอนของมันอยู่แล้ว  ถ้าเราสังเกตให้ดี  แต่ในปัจจุบันทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบ  จนบางทีวัยรุ่นก็อยากเป็นผู้ใหญ่  ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่ก็อยากเป็นเด็กอีกครั้ง  ทั้งที่เราก็รู้กันอยู่แล้วนะครับว่า  ทุกอย่างจะเป็นไปในแบบที่มันควรจะเป็น  และไม่สามารถเปลี่ยนไปได้  อะไรที่มันฝืนธรรมชาติย่อมเป็นไปไม่ได้ครับ

เมื่อก่อนช่วงที่ผมเริ่มทำงานใหม่  ความมั่นใจเราเต็มร้อยทั้งอาจเป็นเพราะเรายังไม่เคยเผชิญกับโลกภายนอกจริงๆก็ได้  เลยไม่รู้จักระวังตัว  แต่พอเราโตขึ้นเราสามารถแยกแยะอะไรได้มากขึ้น  ทีนี้เราก็เข้าใจเหตุผลอะไรต่างๆได้ดีขึ้น  รู้จักที่จะเป็นผู้ฟังมากขึ้น  ชีวิตบนความเป็นสุข  และลงตัวนี่แหละครับมีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตแล้ว  คุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับว่า  เราต้องการอะไรในชีวิตจริงๆกัน  หากตัดเรื่องทางโลกที่เรากำลังวิ่งตามคนอื่นอยู่  วางแผนเลยครับทุกอย่างมันจะเป็นจริงแบบนั้น  เพราะคุณได้ฝังมันไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณแล้ว  บนขอบเขตของความกลัว  ความไม่ชัดเจนมันทำให้เราตัดสินใจลำบาก  แต่ถ้าหากเราก้าวข้ามจุดนี้ไปได้  ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะยากเกินความสามารถของเราไปได้หรอกครับ

อย่าตกเป็นทาสของวัตถุให้มาก  จงเร่งสร้างทรัพย์สินและประโยชน์ให้กับตนและประโยชน์ให้มาก  ชีวิตที่มีความสุขคือการได้ใช้ชีวิตจริงๆ อย่างเป็นอิสระไม่ได้ตกเป็นทาสของเวลา  มารู้ตัวอีกทีก็เป็นไม้ใกล้ฝั่งไปแล้ว  อยากมีชีวิตที่ต้องการคุณก็ต้องเริ่มมันเลย  ไม่มีอะไรที่จะพร้อมไปกว่าตอนนี้แล้ว  หากรอทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมไปหมด  บางทีคุณอาจไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั้นก็ได้

ทุกๆเช้า และก่อนเข้าฝึกสมาธิและลองจินตนาการถึงภาพที่เราต้องการจะสร้าง และต้องการจะเป็นไว้ในสมอง  ให้มันซึมซับลงไปทุกวัน  เชื่อถึงพลังมหัศจรรย์บางอย่างจะเกิดขึ้นกับตัวคุณอย่างแน่นอน  และที่สำคัญคือคุณต้องมีวินัยในตัวเองด้วยครับ  ยังไงผมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย  ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด อดีตจะเป็นอย่างไร จะเลวร้ายแค่ไหนมันคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  เริ่มต้นกำหนดอนาคตของคุณด้วยปัจจุบัน  แล้วชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างไม่ต้องพึ่งดวงครับ

ขอบคุณ

ชีวิตมันจะเป็นในแบบที่คุณคิดและคุณต้องการ  บางทีการใช้ชีวิตแบบไร้สาระบ้างก็ดีนะครับ  การที่เราเอาแต่ยึดติดว่า  นี่เป็นของเรา ตัวตน สถานะความเป็นอยู่ของเราต้องเป็นแบบนั่น โน้น นี่  ตามที่แต่ละคนได้กำหนดไว้  เราเดินตามใครก็ไม่รู้จนในที่สุดเราก็วนอยู่ในอ่างและก็หลงทางกลับมัน  บางทีโลกใบนี้มันอาจดูซับซ้อนเพียงเพราะใจเรานั่นแหละครับ  ที่ไปต้องการเอาซะหมดทุกอย่าง  จนหาทางออกกับปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันไม่ได้  แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

อยากมีชีวิตที่ก้าวหน้า นั่นก็คือหยุดพักให้เวลากับตัวเองได้ทบทวนบทเรียนจริงๆ  จากนั้นก็ลุยลงมือทำในสิ่งที่ต้องการ  ที่มันอยู่ลึกๆในใจของคุณ  ตัดความกังวลและความกลัวในเรื่องต่างๆ ไปให้หมดซะก่อน  อย่าไปคิดเผื่อนั่น เผื่อนี่เกินไป โลกแห่งความจริง  บนเส้นทางเเห่งความสำเร็จที่ใครหลายๆคนคาดหวังเอาไว้  บางทีมันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังเราตั้งใจไว้ก็ได้นะครับ

สิ่งที่สำคัญก่อนจะเดินขึ้นเขาไป  ใช่อยู่ครับว่าการจะเดินขึ้นเขามันมีวิธีการต่างๆ อยู่หลากหลายวิธีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้วิธีไหน  แต่ข้อที่สำคัญที่ก็คือ  บนยอดเขานั้นมันเป็นยอดเขาที่เราต้องการปีนขึ้นไปจริงๆ หรือเปล่า  หากไม่แล้วการไปอยู่บนยอดเขาอาจกลายเป็นความทุกข์ที่ตามมาภายหลังก็ได้  ชีิวิตเราโตแล้ว  เราต้องเลือกทางที่เรากำหนดเองได้  เลือกและรู้จักปฎิเสธกับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เหมาะกับเรา  หรือไม่ใช่บ้างก็ดีครับ  เคล็ดลับของความสุขก็คือ  การที่เราอยู่กับปัจจุบันเพราะปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะกำหนด อนาคตของเราที่อยู่ตรงหน้าเราได้

บางทีบนความคาดหวังที่เราต้องการ  มันมีคำตอบอยู่ในใจของเราอยู่  ผมว่าค้นหามันให้เจอใช้เวลาอยู่กับมันให้มากๆ  ไม่มีอะไรที่มนุษย์จะสุขไปยิ่งกว่าการเข้าถึงความต้องการสูงสุดของตัวเอง  วันนี้ยัังไม่เจอก็ไม่เป็นไร  เเต่ก็อย่าได้ท้อใจไปและทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มันดีที่สุด  เสมือนว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้รับ  และหน้าที่ของเราคือทำมันให้ดีที่สุด  คิดบวก  มองโลกในแง่ดี แล้วคุณจะได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ และคนดีๆเข้ามาในชีวิตอย่างมากมายครับ

ขอบคุณชีวิตที่ผ่านมาในแต่ละวัน  ไม่ว่ามันจะดีหรือทุกข์ยังไง  ผมได้รับบทเรียนจากมันมากมาย  ได้รู้จักและเข้าใจผู้คนมากขึ้น เข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้น  และเห็นใจคนอื่นมากขึ้น เลือกที่จะมีความสุขได้  ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น  ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว  ขอบคุณจากใจจริงครับ

ออกแบบทางเดินชีวิต

เมื่อเราได้ออกไปใช้ชีวิตจริงๆ  ได้เห็นโลกมากขึ้น  เรากลับค้นพบตัวเองมากยิ่งขึ้น  บางทีผมก็มักจะกลับมาทบทวนและนั่งถามตัวเองว่า  ฉันมาทำอะไรตรงนี้  แล้วจุดนี้จะพาฉันไปยังจุดไหนกันแน่  ความลังเลสงสัยและความไม่แน่ใจม้นก็ฝุดขึ้นในใจเป็นระยะๆ  นี่เรากำลังทำอะไรกันแน่  อะไรกันนะที่เรากำลังวิ่งตามมันอยู่  

โลกแห่งความฝันและความเป็นจริงมันก็ช่างแสนจะแตกต่างกันเหลือเกิน มองไปข้างหน้าบางทีก็มีท้อและอยากที่จะถอดใจเป็นระยะๆ  แต่เพื่อคนที่อยู่ข้างหลังเลยต้องทำให้เราต้องเดินหน้าต่อไป  ผมก็ได้แต่หวังไว้สักวันว่าจะมีบางสิ่งมาเติบเต็มชีวิตของผมให้มากกว่านี้

อยากมีชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ  มีอิสรภาพในการใช้ชีวิต  ทางเลือกในสิ่งที่เราต้องการจริงๆ  มีความคิดสร้างสรรค์ในการที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆ  การมีสมองที่ว่างและปลอดโปร่งมันช่างทำให้อะไรง่ายขึ้น  และทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นจากจินตนาการที่มนุษย์สร้างมันไว้ในหัวนั่นแหละครับ  บางทีผมก็อยากจะให้กำลังใจตัวเองว่า  รอหน่อยนะความฝัน  ฉันกำลังจะพาเธอเดินเข้ามาหาความเป็นจริงแล้ว  แค่อดทนรออีกสักนิดแล้วเราจะเปลี่ยนชีวิตที่เป็นอยู่นี้ด้วย  

ผมก็เชื่อว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็นอย่างแน่นอน  บางทีชีวิตเราเอาไปแต่โฟกัสอะไรก็ไม่รู้จนมองไม่เห็นความเป็นจริงของชีวิต  ลองปล่อยชีวิตให้ว่างแบบไม่ต้องคิดอะไร  สมองกลับได้รับพลังงานทางบวกมากมายมหาศาลเลยทีเดียว ชีวิตที่ดูเหมือนไร้สาระอาจที่จะสร้างประโยชน์มหาศาล  ในการดำรงชีวิต  และวางแผนการออกแบบชีวิตในแบบที่เราต้องการได้  สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตก็คือการรู้จักบริหารชีวิตและเวลาของคุณให้มันอยู่ในจุดที่สมดุลที่สุด  ถ้าชีวิตเจอสิ่งที่ใช่และหลงรักมันแล้วก็ลุยเลย  เพราะชีวิตมันเป็นของเรา  จงใช้เพื่อเราอย่าเอาเวลาไปแลกในสิ่งที่ไม่ได้จำเป็นกับตัวเรามาก   และสุดท้ายคุณก็จะตายไปอย่างไม่มีค่า  และไม่ได้ทิ้งความหมายอะไรให้กับคนรุ่นหลังไว้เลย  จงเป็นตัวเราให้มันดีที่สุด  และออกแบบชีวิตในแบบที่เราต้องการและเป็นเรา  ขอฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ

พลังใจสู้ชีวิต

ความกลัวความกังวลใจในชีวิต  ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาต่างๆในชีวิตมันดีขึ้นได้หรอกครับ  สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆได้  นั่นก็คือการลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ชีวิตมันดีขึ้น  พร้อมที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ  ผมอยากให้คุณนึกถึงตอนที่คุณเคยเป็นเด็ก  คุณเคยประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหน  ต่อให้คุณหกล้มกี่ครั้งแต่กี่ครั้งเราก็พร้อมจะลุกขึ้นมาสู้ใหม่กับชีวิต  จนในที่สุดคุณก็สามารถทำมันได้สำเร็จ

ไม่ว่าอดีตคุณจะเคยผิดพลาดล้มเหลวมากี่ครั้ง  นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ  สิ่งที่สำคัญคือ ณ เวลานี้ ณ ตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่  และจากนี้ไปอีกห้าปีสิบปี  คุณได้วางแผนอะไรให้กับชีวิตไว้อย่างชัดเจนแล้วหรือไม่  มันอาจไม่มีสิ่งที่ดีสุดในแบบที่เราคิด  แต่มันจะดีที่สุดหากเราคิดและเริ่มเปลี่ยนและลงมือทำอะไรบางอย่างสักที

ไม่มีอะไรจะเอาชนะความกลัว  ความกังวลใจไปได้ดีที่สุดก็คือ  การลงมือทำอะไรลงไปนั่นแหละครับ  บางอย่างเราไม่รู้หลอก จะรู้ก็ต่อเมื่อเราได้ทำอะไรลงไปแล้วเท่านั้น  ถึงจะรู้ดีที่สุด  โลกเปิดโอกาสใหม่ๆให้เราเสมอ  ขอเพียงแค่เชื่อมั่นและเปิดรับในโอกาสนั้นเข้ามา  คุณก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ  และมีความสุขในชีวิต  เมื่อคุณมองหาคุณก็จะมองเห็นครับ

จักรวาลนี้ไม่มีอะไรมาก  มันประกอบไปด้วยความเรียบง่ายและไม่ได้ซับซ้อนอะไร  เพียงแต่เรามองไม่เห็นเราไม่รู้  เราเลยมีความรู้สึกถึงความยากในจักรวาลและสิ่งต่างๆ  หากต่อเมื่อคุณได้รู้ได้เห็นแล้วทุกอย่างก็เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมา  แล้วก็ผ่านไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง  เลือกใช้ชีวิตทุกขณะของคุณให้มันดีที่สุด เรียบง่ายและสบายแล้วคุณจะพบความสุขอย่างที่มันควรจะเป็น  ใครที่บอกว่าสิ่งนั่น โน่น นี่มันดี  ใช่ครับมันอาจดีสำหรับเขา  แต่อาจไม่ได้เหมาะที่สุดกับตัวเราก็เป็นไปได้  ยังไงผมก็ขอฝากไว้ด้วยนะครับ

ข้อคิดจากผู้คน

วันนี้ผมไปเดินห้างมาครับ  ก็เจอพนักงานขายอยู่กลุ่มหนึ่ง  ตอนแรกผมก็ยอมรับนะครับว่าไม่ได้สนใจในตัวสินค้าอะไรที่เขาขายมากมายนัก  แต่ด้วยเห็นความตั้งใจและทำงานกับเป็นทีม  จึงตัดสินใจซื้อซึ่งราคาก็แพงเอาเรื่องเหมือนกันครับ  แต่คุณภาพสินค้าก็ถือว่าดีตามระดับราคา  เมื่อทำการซื้อสินค้าเสร็จพนักงานก็คิดเงินให้เรียบร้อย  แต่<<<

มีบางอย่างเกิดขึ้นกับผมครับ  ตอนแรกผมก็ไม่แปลกใจอะไร  แต่ในใจก็นึกเอ๊ะใจอะไรบางอย่างผมจึงตัดสินใจแกะดูข้างในกล่องสินค้า  ปรากฎว่าสินค้าที่เขานำมารีวิวให้เรากับสินค้าที่ขายให้เราเป็นคนละตตัวกัน  ผมก็รู้สึกเริ่มไม่โอเครจึงตัดสินเดินเข้าไปที่ร้านอีกรอบ  สอบถามว่าได้หยิบสินค้าให้ผิดหรือเปล่า  ตอนแรกพนักงานขายก็เหมือนจะพูดออกมาว่า  สินค้าตัวที่เราทดลองใช้เป็นสินค้าอีกระดับราคาหนึ่ง  หาลูกค้าต้องการ  ก็ต้องเสียเงินเพิ่ม  พอได้ยินคำนี้ปุ๊บผมมีความรู้สึกไม่โอเครเลยครับ  ภาพที่ติดตาครั้งมันหายไปหมดเลย  ผมก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเช่นนั้น  ก็จะขอคืนสินค้าและคืนเงินทั้งหมดที่ได้ซื้อสินค้าไป  เพราะรู้สึกไม่ประทับใจในบริการแล้ว  พนักงานขายก็เลยแก้ปัญหาด้วยการพูดว่าเขาหยิบสินค้าให้ผิดต้องขออภัยด้วย  จริงๆตั้งใจจะให้ตัวนี้  (ในใจผมคิดว่าถ้าผมไม่เปิดดูจะรู้ไหมนี่ และทำให้ย้อนนึกถึงว่าคุณขายสินค้าแต่คุณกลับไม่ใส่ใจลูกค้าเลยใช่ไหม จึงทำเรื่องผิดพลาดขนาดนี้ได้)

เรื่องนี้ผมไม่ต้องการจะประจานหรือต่อว่าพนักงานขายเหล่านั้นนะครับ  ผมแค่อยากเล่าเป็นประสบการณ์และอุทาหรณ์ให้ฟังว่า  สินค้าหรือบริการบางอย่าง ต่อให้มันจะดีแค่ไหน  แต่ถ้าผู้ขายหรือผู้ให้บริการ ไม่จริงใจต่อลูกค้า ท้ายที่สุดลูกค้าก็จะเป็นคนจากคุณไปเอง  ยิ่งในยุคปัจจุบันทุกอย่างเคลื่อนไหวด้วยเทคโนโลยีซึ่งเป็นอะไรที่ไวมาก  แค่ปลายนิ้วมันก็สามารถแพร่กระจายออกไปแบบรวดเร็ว ยิ่งกว่าความเร็วแสงซะอีก

คนเรานะครับไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร  คุณจะรักหรือไม่รักในอาชีพนั้นก็ตาม  สิ่งที่จะทำให้คุณไปได้ไกลและประสบความสำเร็จในชีวิตก็คือ  การตั้งใจทำในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มันดีที่สุด  จริงใจกับตัวเองและลุกค้า  ท้ายที่สุดผลลัพธ์มันจะตามมาเอง  ผมไม่รู้หรอกครับว่าพนักงานขายเหล่านี้เขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่  แต่ที่แน่ๆคือ เขาได้เสียลูกค้าอย่างผมไปอย่างไม่คิดจะหันกลับไปซื้อซ้ำอย่างแน่นอน

เรื่องนี้ก็ทำให้ผมกลับมาทบทวนบางอย่างกับตัวเอง  ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายและเป็นบทเรียนที่สำคัญในการดำรงชีวิต  อะไรที่มันพลาดก็ปล่อยแล้วเริ่มใหม่ได้  การโทษคนอื่นก็เท่ากับดูถูกตัวเองไปด้วย  ขอบคุณเขาที่ให้ข้อคิดดีๆกับเราในชีวิต  เพื่อให้เราก้าวไปยังจุดที่สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งให้ได้  อย่าไปน้อยใจว่าตอนนี้คุณเป็นอะไรหรือทำอะไรอยู่ แต่ขอให้คิดเสมอว่าจุดนี้จะต้องพาคุณไปยังเป้าที่คุณต้องการและวางไว้อย่างแน่นอน

พลังชีวิต

บางทีผมก็เฝ้านึกถามคำถามและสงสัยกับตัวเองมาตลอดครับว่า  ผมมาทำอะไรที่นี้ อะไรเป็นสาเหตุให้ผมต้องก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงเมืองแห่งความวุ่นวายแบบนี้อีกรอบ  ความรู้สึกที่โตขึ้นและเปลี่ยนไปทำให้ผมรู้อะไรมากขึ้นก็จริง  แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ขาดหายไป  ยังมีพลังบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความต้องการของผมจริงๆ บางทีรู้สึกมีพลังอยากลุกมาทำมัน  บางทีพลังนั้นก็หายไปอย่างไม่รู้สึกตัว ผมจึงได้แต่กลับมานั่งทบทวนตัวเองว่า  อะไรกันแน่ที่ผมต้องการในชีวิต

ทรัพย์สินเงินทองหรือความสุข  หรืออะไรกันแน่ที่มันคอยผมอยู่  บางทีชีวิตมันก็คงต้องถึงเวลาหยุดอยู่กับตัวเอง  หยุดอยู่กับบางเรื่องเพื่อทบทวนตัวเองแล้วก้าวไปต่อ  หาไม่เช่นนั้นคุณอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้  มันไม่มีผิดหรือถูกหรอกครับ  เป้าหมายของชีวิตเราไม่เหมือนกันก็เลยทำให้ทางเดินไม่เหมือนกัน

ผมเคยผิดพลาดล้มเหลวมาหลายครั้ง  บางทีก็ไม่เอาไหนเลย  การเปรียบเทีียบกับคนอื่นมันคือสิ่งที่ทำให้ตัวเราทุกข์ใจ  แต่พอเราเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง  เป็นคนใหม่เริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ  มองโลกในมุมมองใหม่ๆ คุณก็จะได้รับสิ่งใหม่ๆกลับเข้ามา  ผมอยากให้คุณรอผมนะครับ "ความฝัน" สิ่งที่ผมต้องการ คงไม่เกินจากนี้ไม่กี่ปีหรอกครับ  ยังไงผมก็จะทำตามสัญญาของหัวใจผม

ความสับสนจึงเป็นสาเหตุทำให้เราหลงทาง  และไม่กล้าที่จะเดินออกไปตามหาสิ่งที่ต้องการลึกๆอยู่ในใจของเรา  บางทีก็แอบมานั่งคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่จะพาเราไปยังจุดไหนกันแน่  ทำไมรู้สึกว่ายังย่ำอยู่กับที่  เราต้องทำอะไรได้ดีกว่านี้ซิ  สิ่งเร้ากระตุ้นผมได้ดีที่สุดคือ ธรรมมะ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจได้ผมทุกขณะในชีวิต  ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราสุข หรือทุกข์  ธรรมมะก็ยังใหม่และดีงามอยู่เสมอ  เพราะไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า  สุดท้ายคุณก็ต้องไปจากโลกใบนี้  คิดดูซิครับคุณจะไปแบบมือเปล่าหรือทำประโยชน์ให้กับโลก สังคมใบนี้ให้มากๆ   ค่อยๆคิด ค่อยๆทำไป  อย่ากลัวอย่ากังวล  ทำมันไปเรื่อยๆเดี๋ยวจะเห็นผลลัพธ์ของมันเองครับ  ผมขออยู่ตรงนี้และเขียนบทความสร้างกำลังใจให้คุณต่อไปเรื่อยๆครับ  เราจะสู้ไปด้วยกันผมเอาใจช่วย

สำหรับก้าวใหม่ที่ดีกว่าเดิม

เมื่อก่อนเคยคิดนะครับ  ชีวิตต้องทำในสิ่งที่ตอบแทนเพื่อความสมบูรณ์แบบให้กับตัวเราเอง  แต่แท้ที่จริความสมบูรณ์แบบในชีวิตมันก็คือโลกสมมติที่เราได้สร้างมันขึ้นมา  กำแพงที่ก่อขึ้นในใจ นับวันเรายิ่งกลัวมากขึ้นทุกที จนไม่กล้าออกไปเจอโลกใหม่หรือทำอะไรใหม่ๆ  ผมอยากให้คุณมองข้ามเรื่องของเงินไปก่อนแต่ให้มองในเรื่องสิ่งที่คุณชอบและคุณรักก่อน  เมื่อคุณชอบและรักคุณจะมีความสุขและสนุกกับมันมากๆ  อย่างตัวผมสิ่งที่ผมชอบก็คือ

1.ผมชอบอ่านหนังสือ เวลาว่างจะอยู่ตามร้านหนังสือหรือไม่ก็ห้องสมุด

2.ผมชอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ งานก่อสร้าง เพื่อสร้างสิ่งที่แปลกใหม่สวยงามตา ทำให้โลกนี้ดูมีชีวิตชีวิต

3. ผมรักการท่องเที่ยวและการผจญภัย

4.ผมชอบดูรูปภาพสวยๆ พวกรีสอร์ต  โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ทั้งที่เป็นเชิงอนุรักษ์และสร้างใหม่

5.ผมชอบศึกษาประวัติความเป็นมาของบุคคล สิ่งของ และสภาพแวดล้อมสังคมความเป็นอยู่และการแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนในชุมชนนั้นๆ

6.ผมชอบดูรายการอาหาร หรือรายการที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตเรา เช่น รายการประวัติของนักธุรกิจ

ทุกสิ่งเหล่านี้มันหล่อหลอมตัวผมและทำให้ผมเป็นผมในวันนี้  เชื่อไหมว่าถ้าหากเราได้้ทำอะไรในสิ่งที่เราชอบ  ถึงแม้ว่ามันจะหนัก จะเหนื่อยสักแค่ไหนเราก็จะสู้และทนทำให้ได้  มันท้าทายความสำเร็จเรามาก  วันนี้อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แต่ผมจะคิดเสมอว่านี้คือสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่เพื่อก้าวไปหาอนาคต  ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นสิ่งเล็กน้อยหรือไม่  แต่มันคือก้าวแรกและก้าวที่สำคัญที่จะไปต่อในอนาคตได้

หลายคนที่กำลังรู้สึกสับสน  ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดีกับเส้นทางในชีวิตของตัวเอง  อายุปาไปกว่าครึ่งชีวิตแล้วก็ยังไม่รู้จักตัวเอง  เอาแต่เฝ้าอิจฉาชีวิตคนอื่นขอบอกว่า  มันไม่ดีหรอกครับ  เลือกทำตามความต้องการของเราเองนั่นแหละที่ดีสุด  ใครจะว่ายังเราได้ตัดสินใจแล้ว  และเราเลือกทางเดินที่ดีที่สุดให้กับตัวเราแล้ว  ขอให้เชื่อมั่นในสิ่งนั้น  สิ่งที่ลดความกลัวความกังวลในใจเราได้มากที่สุดก็คือ  การลงมือทำ  ทำทั้งๆที่กลัว  และไม่รู้ถึงผลลัพธ์แต่สุดท้ายมันจะบอกหนทางให้คุณเอง  แค่ต้องลองทำ ลองผิดลองถูกให้ได้ซะก่อน

ผมขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะหมดไฟ  ลุกขึ้นมาใหม่อย่าได้ไปสนใจว่าคุณอายุเท่าไหร่  อายุก็แค่บอกประสบการณ์ที่ผ่านมาในชีวิต  คุณเก่งและมีค่าที่สุด  หาคุณค่าในตัวเองให้เจอแล้วทำมันให้ดีที่สุด แสดงความสามารถและคุณค่าของเราให้ได้  บอกให้โลกรู้ประกาศมันออกไป  สักวันต้องมีคนเห็นว่าคุณมีพลังยิ่งใหญ่มากมายที่จะช่วยตััวคุณ  และคนทั้งโลกได้  เริ่มเลยครับผมเอาใจช่วย

ตัดสินใจเลือกทางเดิน

ชีวิตเมื่อโตขึ้นผมก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากขึ้นเลยครับ  ว่าตัวเองยังมีจุดบกพร่องที่จะต้องปรับปรุงและพัฒนาตัวเองในหลายๆ ด้านเลยทีเดียว  สิ่งที่ตอนเป็นเด็กเราไม่เคยเข้าใจจุดนั้น  แต่พออายุมากขึ้นเราถึงได้เข้าใจจุดนี้ได้เป็นอย่างดี  งานยุคใหม่ วิถึชีวิตของคนยุคใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก  จนบางทีมองแทบไม่เห็นถึงความแตกต่าง และข้อบกพร่องของตัวเอง  นับวันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองยิ่งห่างไกลจากความสำเร็จไปทุกที  จนไม่รู้จักตัวตนและความต้องการว่าตัวเราเองต้องการอะไรกันเเน่

เอาละครับอะไรที่มันผ่านไปแล้วไม่สามารถทำอะไรได้  ก็ปรับปรุงแก้ไขกันไป  ก่อนอื่นเราต้องวิเคราะห์ตัวเองให้ได้ก่อนว่าจุดอ่อนของเราตอนนี้คืออะไร  เช่น

1.เป็นคนพูดเสียงเบาฟังดูไม่หนักแน่น

2.ไม่มองตาผู้พูด

3.ฟังยังไม่ทันจบก็ขัดขึ้นมาซะก่อน

4.ตัดสินจากอารมณ์มากกว่า

หลายสิ่งเราทำไปโดยที่เราไม่รู้ตัว  บางทีพอตกอยู่ในสถานการณ์นี้ก็มักจะเข้าข้างตัวเอง และหาเหตุผลให้ตัวเราเองเป็นฝ่ายถูกอยู่เสมอ  จนไม่พยายามหาข้อบกพร่องของตัวเอง  แล้วกลับนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น  สังคมไทยจะมี 2 แบบครับ  ผมมองแบบนี้

แบบแรก ก็คือ คนสองคนคนที่ตั้งใจทำงานในสายงานของตัวเองไปเรื่อย ขยัน อดทน และเขาก็ประสบความสำเร็จ  และคนที่ไม่ทำอะไรเลย  รอแต่ให้โลกมาตัดสิน  พอเป็นแบบนี้คนที่ประสบความสำเร็จกลับกลายเป็นว่าลำเอียงไปเข้าข้างเขาโลกช่างไม่น่ายุติธรรมเลย หากมองจริงๆ มันเป็นเพียงแค่ความเหลี่ยมล้ำมากกว่า

แบบที่สอง  ก็คือ คนที่เกิดมาต้นทุนต่างกัน  แต่เรียน ทำงานในที่เดียวกับแปลกที่ว่าคนที่พื้นฐานดีกว่า  กลับได้รับโอกาสที่มากกว่าเพียงเพราะเขาเป็นลูกคนใหญ่คนโต มีชื่อเสียง แบบนี้มากกว่าที่ผมเรียกความไม่ยุติธรรมที่แท้จริง

การที่คนๆหนึ่งวิ่งตามความฝันและเขาก็รัก และมีความชัดเจนในสิ่งที่เขาทำ  และตั้งใจมุ่งมั่นทำไมันไปเรื่อยๆ  จนในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ  ใช่ครับว่าต้นทุนเป็นสิ่งที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน  เราอาจเลือกที่จะเกิดไม่ได้  แต่เราสามารถเลือกทำในสิ่งที่เราต้องการ  ให้โลกรับรู้ในความเป็นตัวเราได้ครับ  ข้อสำคัญต้องฝึกยื่นหยัดด้วยตัวของเราเองให้ได้  ดีที่สุดในแบบที่เราเป็น  ไม่ต้องไปคิดและวิ่งตามคนอื่นให้มากนัก  มีประโยคหนึ่งที่ผมชอบมาก  แต่จำไม่ได้แล้วเป็นของใครเขาเขียนไว้ว่า

จุดเปลี่ยนของชีวิตของคนๆ  หนึ่งอยู่ที่ "การตัดสินใจ" บางครั้งการออกจากที่สบายๆ ไปหาแหล่งน้ำใหม่ๆอาจเจอมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล  ก็เป็นไปได้ (อย่าอยู่ใน Comfort Zone นานๆ)

มันก็คล้ายๆกับการจะให้เสือตัวหนึ่งมันเชื่องได้ ก็คือให้มันอยู่ในที่สบายๆ ให้อาหารมันกินทุกวันจนมันลืมวิธีหาอาหารไปเอง    เพราะถึงคุณไปตัดเขี้ยว ตัดเล็บมัน เสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ 

มนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถ  ที่จะดำรงชีวิตได้ตามที่ตัวเองต้องการ ต่างจากสัตว์ที่ไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ชีวิตนี้เเสนสั้นครับ ลองเปิดโอกาสอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองดูครับ

มันมีความจริงซ่อนอยู่ครับ  การตัดสินใจคือทางที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดการ  การเลือกหรือไม่เลือกใครมาบังคับคุณไม่ได้  ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเท่านั้นแหละครับ  ยังไงผมฝากไว้ด้วยนะครับ