วันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ออกแบบชีวิตให้ตัวเอง



คนที่เอาชนะใจตัวเองได้  นั่นแหละครับคือคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิต  โลกนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันและความวุ่ยวายต่างๆ มากมาย

บางทีภาระต่างๆที่เรามี  มันก็ทำให้เราหลงลืมความฝันในวัยเยาว์ไปมาก  ชีวิตบางทีมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกครับ  ทุกอย่างมันมีปัญหาและอุปสรรค์ผ่านเข้ามามากมาย  ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีแรงฮึดสู้มากกว่ากัน  คนที่ชนะบางทีมันก็แค่เหนื่อยกว่าคนอื่นนิดหน่อยเอง

วันนี้ผมเลยอยากเอาข้อคิดมาให้คุณได้รับรู้  ว่าชีวิตคุณได้ออกแบบชีวิตคุณไว้ยังไงบ้าง  คุณมองเห็นอนาคตของคุณเป็นอย่างไร  ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า  ทุกคนมีฝันและขออย่าได้หยุดฝัน  เติบเต็มความฝันของคุณให้มันเป็นจริงให้ได้  อย่าเอาแต่คิดและไม่ลงมือทำ  ตัดสินใจกับอนาคตของคุณได้แล้วว่าจะให้มันไปในทิศทางไหน   ตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้ว่าในอีกสิบปีข้างหน้าของคุณมันจะเป็นอย่างไร

วันนี้เราดูเหมือนเหนื่ีอยกว่าคนอื่น  แต่เชื่อได้ว่าเราจะสบายอย่างแน่นอนในวันข้างหน้า  มองเห็นตัวเองให้มันชัดเจน อดทนกับบางเวลา  เอาชนะใจตัวเราเองให้จงได้  กาลเวลาจะทำให้เราเก่งขึ้น  และพัฒนาตัวเองขึ้นไปอย่างไม่หยุดหยั้ง  อย่าเอาแต่พูดคำว่าเดี๋ยวก่อน  จนไม่ได้ตัดสินใจลงมือทำอะไรสักที

เลือกใช้ชีวิต  เลือกที่จะเป็นคนใหม่  อะไรเก่าๆที่มันไม่ดีจงทิ้งมันไปเสีย  อย่ามั่วไปเสียดายกับอะไรบางอย่างที่มันไม่น่าจะมานั่งเสียดาย  เพราะชีวิตคือการเดินไปข้างหน้า  ถ้าจะล้มก็ขอให้มันล้มไปข้างหน้าครับ  อย่าไปให้ข้อจำกัดกับตัวเองให้มากนัก  จงเชื่อมั่นและมีศรัทธาในตัวเอง  แล้วแสงสว่างจะนำทางตัวคุณเองให้ไปถึงเส้นชัยหรือจุดหมายที่คุณต้องการเอาไว้อย่างแน่นอน

จงคอยระวังความคิดของคุณเอาไว้  คิดดี พูดดี ทำดีให้มากๆ  ผลบวกแห่งการคิดดีทำดี  ย่อมส่งผลให้คุณได้รับแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นอน  ขอให้เชื่อมั่นและอดทนอีกนิดนะครับ  แล้วเราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เพื่อชีวิตที่ดีกว่า


ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรอีกสิบปี ยี่สิบปีข้างหน้า  นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับคุณนั่นแหละครับเป็นคนกำหนด  บางทีคนเราต้องรู้จักอดทน  ยอมเสียสละเล็กๆน้อยๆ  เพื่อส่ิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่าในวันข้างหน้า  การพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่หยุดหยั้งจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำและควรทำ   ผมเคยท้อใจกับชีวิตมามากมาย  บางทีมีเหงาบ้าง  บางอย่างเราก็ไม่สามารถทึ่จะเป็นตัวของเราเองได้อย่างเต็มที่  แต่จะถึงอย่างไรก็ตาม บางทีเราไม่สามารถทำอะไรได้ในขณะนั้น  สิ่งที่เราทำได้คือ ทำหน้าที่ของเราให้มันดีที่สุด

อย่าเอาแต่บ่นกับโชคชะตาชีวิต  ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง  บางทีคนอื่นอาจมองว่าเราช้า  แต่มันอาจไม่ได้ช้าอย่างที่เราคิด  เกิดเป็นมนุษย์ต้องรู้จักรัก และเคารพและให้อภัยต่อผู้อื่นเสมอ  อย่าคิดว่าตัวเองดีและเด่นเสมอไป  ไม่มีใครอยากอยู่กับคนแบบนั้นตลอดหรอกครับ  การฝึกฝนตัวเองและเตรียมตัวเตรียมพร้อมใจตัวเอง  พัฒนาทักษะต่างๆที่เรายังไม่พร้อม  ให้มันพร้อม

โอกาสมันวิ่งหาคนที่พร้อมเสมอ  อย่าได้น้อยใจไปกับวันนี้  ถ้าเป้าหมายคุณมันใหญ่  คิดใหญ่และทำใหญ่ไปเลย  คนบางคนลำบากจนได้ดีในทุกวันนั้น  บางทีคนอื่นมองว่าเขาโชคดี  จริงๆความโชคดี  ไม่ดีมันอยู่ที่ตัวเรา  หาใครมากำหนดไม่  ส่วนตัวผมเองเป็นคนที่เชื่อว่า  ทำดีได้ดี  ไม่เคยคิดจะไปหวังผลประโยชน์อะไรจากใครก่อน

อย่าเห็นได้เพราะนั่นจะพาคุณไปในทางที่มิชอบ  เราเป็นคนดี  และประสบความสำเร็จได้  โดยไม่ต้องไปคิดเอารัดเอาเปรียบใคร  ใช้ชีวิตนี้อย่างมีคุณค่า  และภูมิใจกับทุกสิ่งที่ได้รับมา  รู้สึกถึงความขอบคุณ  ถ้าไม่มีคนเหล่านี้เข้ามาในชีวิต  เราก็ยังไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตของเราจะเป็นยังไงต่อ  ยังไงก็ต้องขอบคุณเขา

ความเหนื่อย ท้อใจ  หมดหวัง  แท้ที่จริงมันอยู่ที่เรานั่นแหละครับ  เป็นคนสร้างความคิดเหล่านั้นมา  ผมอยากจะแนะนำอะไรคุณบางอย่าง  ถ้าอยากให้ใครคิดอย่างไรกับเรา  จงคิดแบบนั้นกับเขา  เป็นคนดีและมีน้ำใจ  ไม่เอารัดเอาเปรียบ  สุดท้ายเราก็จะได้สิ่งเหล่านี้ตอบแทนเอง    เมื่อคิดว่าเจอทางตัน  แต่ถ้าเรามันใจว่าไปต่อได้  มันก็ไปต่อได้ครับ  ชีวิตนี้ไม่มีคำว่าตันครับ

วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความสำคัญของการทำงานเป็นทีม


เมื่อก่อนผมคิดว่าการฉายเดียวเป็นเรื่องที่ดี  ทุกคนต้องฉายเดียวและโดดเด่น  แต่ยุคนี้มันผิดครับเราจะโดดเด่นและดีได้  นั่นก็คือ

1.ต้องรู้จักยกคนอื่นให้เป็นก่อน  เมื่อยกคนอื่นได้คนอื่นก็จะให้ความสำคัญและยกย่องเรา
2.รู้จักชื่นชมคนอื่นจนเป็นนิสัย
3.ยิ่งให้ยิ่งได้  ก่อนที่จะหวังอะไรจากใครต้องกลับมาถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณให้เขาไปเท่าไหร่
4.มีความสุขกับสิ่งที่ทำ  เพราะคนที่มีความสุขกับสิ่งที่ทำนั่นแหละคุณพบคำตอบแล้ว
5.คิดก่อนพูด  อย่าพูดโดยไม่คิด
6.พูดแล้วต้องทำให้ได้ รักษาคำพูดของเราให้มันดีที่สุด
7.มีความอ่อนถ่อมตน
8.ซื่อสัตย์สุจริต
9.มีภาวะทางอารมณ์ที่ดีสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้

หลายคนบอกจริงเหรอ  ใช่ครับมันจริงๆมาก  คนเก่งไม่ใช่คนที่ทำอะไรได้ดีที่สุดเสมอไป  แต่คือคนที่สามารถรู้จักอดทน  จึงจะสามารถเป็นผู้ชนะและประสบความสำเร็จได้  ไม่มีใครดีที่สุดหรอกครับ  ทุกคนล้วนมีดีในตัวเอง  ยังไงผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ อย่าท้อใจไป  เจอปัญหาให้ยิ้มรับสู้  เผชิญหน้ากับมันให้ถึงที่สุด  แล้วสุดท้ายผลลัพธ์จะเป็นตัวบอกคุณเอง

เมื่อเจอทีมทีดีจงรักษาเขาไว้  ทำงานด้วยกันและเป็นทีมที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่าทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่น  เพราะสุดท้ายไม่มีใครอยากอยู่กับคนที่อยากโดดเด่น  คนเดียวโดยไม่ยกตัวเองให้สูงขึ้นหรอกครับ  ฉะนั้นยกคนอื่นให้สูงเข้าไว้ครับ แล้วเขาจะยกเราเอง  แต่ถ้าไม่ก็เซกูดบ๊ายไปเลยครับ  คุณเก่ง และมีความสามารถอยู่แล้ว

วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง


โลกของการทำงานยังต้องมีอะไรให้เราเรียนรู้กันอีกมากมาย  การแข่งขันในปัจจุบันที่มันรุนแรงและสูงมากจนเราไม่รู้ทิศทางขององค์กรเลยว่าจะเป็นไปอย่างไร  และจะทำอย่างไรดีเพื่อจะก้าวข้ามการแข่งขันนี้ไปได้  หลายๆคนในองค์กรต่างก็เครียดกับภาวะกดดันที่เกิดขึ้นภายในองค์  เรื่องผลประโยชน์ต่างๆ  และการแย่งชิงลูกค้าหรือส่วนแบ่งการตลาด

หลักการบริหารจัดการและการวางแผนงานจึงเป็นเรื่องที่สำค้ัญเป็นอย่างยิ่ง  เราไม่สามารถตัวคนเดียวได้  เราต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม  และเชื่อใจคนในทีมของเราเสมอ  เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับองค์กร  สิ่งที่เราได้เรียนรู้ก็เพื่อการพัฒนาต่อยอดในระยะยาว  โลกนี้ยังมีอะไรเกิดขึ้นมากมาย  ผู้ที่ชนะก็คือผู้ที่เข้มแข็งและมีความอดทนมากที่สุด

ในยุคนี้คนเก่งมีมากมาย  แต่สิ่งที่ทำให้คนเราก้าวไปได้ไกลกว่ากันหรือไม่นั้น  ก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เรากำลังทำอะไรอยู่  มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนหรือไม่อย่างไร  และที่สำคัญคุณเอาชนะใจตัวเองได้หรือไม่  ก็รู้จักและอดทนกับบางเรื่อง  ตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มันดีที่สุด  อย่ากังวลกับสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง  ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำดีอยู่แล้ว  ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องสำเร็จดังที่เราคาดหวัง

คนที่ประสบความสำเร็จนั่นคือ  เขากล้าที่จะลงมือทำ ทำทั้งๆที่กลัว  มุ่งมั่นไปกับความคิด ความฝันเพื่อหวังให้มันเป็นไปอย่างที่เราหวังเอาไว้ บางทีการที่เราเอาแต่คิดว่าทุกอย่างมันต้องพร้อมก่อน  ต้องสมบูรณ์ถึงจะสร้างได้  แต่ที่จริงมันต้องเริ่มลงมือทำทันทีนั่นแหละครับ  มนุษย์เรามีความฝันและความคาดหวัง  อย่าไปกลัว  อย่าไปคิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  แท้ที่จริงคุณมีทางเลือกให้กับชีวิตคุณมากมาย

ดึงดูดแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิต  ด้วยการคิดดี พูดดี และทำความดีให้มากๆ   โลกก็จะผลักดันและดึงดูดคนดีๆเข้ามาหาคุณได้อย่างไม่ต้องสงสัย  กฎทุกกฎมีวิธีการของมัน  ถ้าเข้าใจและทำให้ถูกต้อง  เรียนรู้กฎทุกกฎที่เกิดขึ้น อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ  แล้วความสำเร็จจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง

วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

โรงแรมฮิลตัน


ฮิลตัน (Hilton) เป็นเจ้าของกิจการโรงแรมยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและมีสาขาอยู่ทั่วโลก  สมัยวัยรุ่นเขาเคยลำบากยากจนมาก่อน  เมื่อใจคิดอยากเปลี่ยนแปลงสภาพปัจจุบัน  เขาจึงแสวงหาความร่ำรวยทุกหนทุกแห่ง  มีวันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินช้อปปิ้ง  พบว่าแม้เขตเชิงพาณิชย์ของดัลลัส (Dallas) จะเจริญมาก  แต่กลับมีโรงแรมหรูเพียงแค่แห่งเดียว  เขาคิดว่าในเมื่อมีคนผ่านไปมาพลุกพล่านเช่นนี้  หากจะมีโรงแรมหรูสักแห่ง  ย่อมต้องมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาอย่างแน่นอน

หลังจากศึกษาและวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว  ฮิลตันจึงสนใจที่ดินผืนหนึ่งในย่านธุรกิจดััลลัสเขาจึงรีบเดินทางไปหาเจ้าของที่ดิน  สอบถามราคาที่ดิน  ซึ่งฝ่ายนั้นเปิดราคาขายที่สามแสนดอลลาร์สหรัฐ  เวลานั้นเขามีเงินแค่ 5 พันดอลลาร์สหรัฐ  แม้แต่ที่ดินครึ่งผืนก็ยังซื้อไม่ได้  แต่เขาไม่เคยท้อถอย  และใช้เงินที่มีอยู่เซ้งโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่ง  เริ่มบริหารอย่างตั้งใจ ผ่านไปไม่นาน  เขาก็หาเงินได้จำนวนมาก  รวมกับเงินที่เพื่อนให้ยืมบางส่วน  ในมือของฮิวตันจึงมีเงินทุนเพิ่มเป็นหนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐ

ครั้นแล้วฮิวตันจึงกลับมาหาเจ้าของที่ดินอีกครั้งและพูดกับเขาว่า "ผมต้องการซื้อที่ดินของคุณเพื่อสร้างภัตตาคารหรูๆ แต่ผมเงินทุนไม่พอ  ดังนั้น  หวังว่าคุณจะให้ผมเช่าที่ดินผืนนี้  ระยะเวลาในการเช่าของผมคือ 100 ปี  โดยจะเเบ่งจ่ายค่าเช่าปีละสามหมื่นดอลลาร์สหรัฐ  คุณจะยังคงมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินดังเดิม  ถ้าผมไม่จ่ายเงินตามเวลา คุณก็ยึดที่ดินคืนพร้อมกับภัตตาคารที่ผมสร้างบนที่ดินผืนนี้ไปได้เลย"

เจ้าของที่ดินไม่ลังเลและรับรับปากตามข้อเสนอของเขาทันที  เพราะถ้าเขาขายที่ดินก็จะได้เงินเพียงสามแสนดอลลาร์สหรัฐก้อนเดียว แต่กลับต้องเสียอำนาจในการเป็นเจ้าของที่ดินไป  และเมื่อเทียบกับการเเบ่งจ่ายแต่ได้รับผลประโยชน์ถึงสามล้านดอลลาร์สหรัฐ  ทั้งยังรักษากรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดินได้อีกด้วย  ย่อมต้องเลือกอย่างหลัง  ซึ่งให้ผลลัพธ์คุ้มค่ามากกว่าแน่นอน

หลังจากเจรจาต่อรองเรียบร้อย  ฮิลตันจึงจ่ายเงินค่าเช่าปีแรกไป  ในเวลานั้นในมือเขามีเงินเหลือเพียง 7 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ  ต่อมาเขาได้หาสถาปนิกและสอบถามว่าหากต้องการสร้างโรงแรมในดวงใจของเขาแห่งหนึ่งจะต้องจ่ายเงินมากเท่าใด  หลังจากที่สถาปนิกได้คำนวณแล้วก็บอกกับฮิลตันว่า  ต้องใช้อย่างน้อยหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ

ฮิลตันจึงไปหาเจ้าของที่ดินอีกครั้ง  และพูดโน้มน้าวให้เขาเห็นด้วยที่จะนำโฉนดที่ดินไปจำนองกับธนาคาร  สุดท้ายฮิลตันก็ได้รับเงินกู้จากการจำนองที่ดินถึง 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ  เวลานั้นในมือของเขามีเงินทั้งหมด 370,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ในเวลาต่อมา  เขาไปหานักธุรกิจท่านหนึ่ง ขอร้องให้ร่วมเปิดโรงแรมแห่งนี้กับตน  จนในที่สุดนักธุรกิจท่านนี้จึงร่วมหุ้นอีก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ  เช่นนี้จึงทำให้เขามีเงินเพิ่มเป็น 570,000 ดอลลาร์สหรัฐ  หลังจากมีเงินทุนสร้างครึ่งหนึ่งแล้ว  ฮิลตันจึงเริ่มสร้างโรงแรมขึ้น  แต่เมื่อสร้างโรงแรมเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง  เงินทุนก็เหลือน้อยเต็มที เวลานี้ฮิลตันจึงเข้าไปหาเจ้าของที่ดินอีกครั้ง  และหวังว่าเขาจะร่วมลงทุนด้วย  ช่วยให้เขาสร้างโรงแรมนี้ได้สำเร็จ  อีกทั้งยังรับปากว่าอำนาจทั้งหมดของโรงแรมแห่งนี้จะคืนให้กับฝ่ายตรงข้าม  ตนขอเพียงอำนาจในการบริหาร  พร้อมกับจ่ายเงินค่าเช่าให้กับฝ่ายตรงข้ามปีละ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ

แน่นอนว่าเจ้าของที่ดินต้องตอบรับเงื่อนไขของฮิลตันอยู่แล้ว  ต่อมาไม่นาน  เขาใช้ชื่อของฮิลตันในการเปิดกิจการโรงแรมฮิลตัน (Hilton Hotel)  จนถึงทุกวันนี้  "ราชาโรงแรม" ของฮิลตันได้ขยายไปแล้วทั่วโลก  จากสินทรัพย์เริ่มแรกเพียง 5 พันดอลลาร์สหรัฐพัฒนาไปจนกลายเป็นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ความสำเร็จของเขาก็คือเข้าใจอาศัยเงินของผู้อื่นเพื่องานของตัวเอง  พึ่งพาอำนาจของผู้อื่นเพื่อช่วยเหลือตนเอง  ความสามารถส่วนตัวมีอย่างจำกัด  แต่ถ้าได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น  ก็จะสามารถพัฒนาไปอย่างฉับไว โดยอาศัยการเติบโตแบบก้าวกระโดด

นิทานเรื่องความรู้คือขุมทรัพย์


ชายผู้หนึ่งเปิดบริษัทซอฟแวร์  เขาสามารถหาเงินจำนวนมากได้  แต่ลูกชายของเขากลับทำตัวเหมือนพวกลูกเศรษฐีทั่วไป  ไม่ยอมเรียนรู้รหัสและขั้นตอนที่น่าเบื่อหน่ายเหล่านั้นกับพ่อ  เอาแต่เที่ยวเสเพลและใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายกับเหล่าเพื่อนฝูงทุกวี่ทุกวัน

ต่อมาพ่อของเขาได้เสียชีวิตลง  ก่อนเสียชีวิตเขาได้บอกกับลูกชายว่า  "พ่อได้นำทรัพย์สมบัติทั้งหมดล็อคไว้ในตู้เซฟ  ส่วนรหัสของตู้เซฟก็อยู่ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์  หากลูกใช้กำลังเปิดตู้เซฟทนายความส่วนตัวของพ่อจะนำทรัพย์สมบัติที่อยู่ในตู้เซฟไปบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด

หลังจากที่ลูกชายประกอบพิธีฝังศพของพ่อเรียบร้อยแล้ว จึงเปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความตื่นเต้น  ต้องการหาเลขรหัสของตู้เซฟ แต่กลับพบว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ได้ตั้งรหัสไว้เช่นกัน  เขาเดารหัสอยู่นานก็ไม่สามารถเดาได้ถูก  ครั้งแล้วจึงหาผู้ที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆมากมายเพื่อมาไขรหัสผ่าน  แต่คนเหล่านี้ก็ต้องล้มเลิกและกล่าวลาไปในที่สุด

ภายหลังลูกชายตัดสินใจลงมือไขรหัสผ่านด้วยตนเอง  เขากล่าวลาเพื่อที่เอาแต่เที่ยวเล่นในอดีต  และเริ่มลงมือศึกษาตั้งแต่ความรู้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน  หลังจากนั้นได้เข้าไปเรียนหลักสูตรคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน  หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปเรียนคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  พร้อมทั้งทำการผูกมิตรกับผู้เชี่ยวชาญและศาสตร์จารย์ด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ  อีกมากมาย  หลังจากผ่านความมานะพยายามหลายปี  ในที่สุดเขาก็สามารถไขรหัสลับของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จ

เมื่อลูกชายเปิดตู้เซฟออกมา  กลับพบว่าในนั้นไม่มีเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว  มีเพียงกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่ง  ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า "ลูกชาย  เมื่อเห็นกระดาษแผ่นนี้เเล้วลูกอย่าได้ตกใจ  เนื่องจากพ่อได้บริจาคทรัพย์สมบัติให้องค์กรการกุศลไปหมดแล้ว  แต่ลูกก็ได้รับทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของพ่อไปแล้วเช่นกัน  นั่นก็คือ ความรู้"  ในสังคมแห่งนี้เงินเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น  ในยุคของความรู้เชิงเศรษฐศาสตร์มันไม่สามารถเป็นตัวเเทนของทรัพย์สมบัติในชีวิตของมนุษย์ได้  มีเพียงความรู้เท่านั้นที่จะเป็นสมบัติที่ใช้ไม่มีวันหมด  

ถึงตอนนี้ลูกชายได้เข้าใจในสิ่งที่พ่อคิดเผื่ออนาคต  ไม่นานเมื่อเขามีอายุมากขึ้นความสามารถของเขาก็ยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ในที่สุดก็เก่งกาจยิ่งกว่าพ่อ  และสร้างบริษัทซอฟแวร์ใหญ่ขึ้นมาแห่งหนึ่ง  ความรู้นำมาซึ่งสติปัญญาและความสำเร็จของพวกเรา  ในการเผชิญหน้ากับสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในสังคมปัจจุบัน  คุณจะต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้  ไม่หยุดสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง  มีเพียงเช่นนี้จึงจะสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้  จึงจะสามารถเอาชนะและควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความรู้เป็นขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่  ก่อนที่คุณจะวิ่งหาเงินทองความร่ำรวยคุณต้องรู้และเข้าใจในตัวเองซะก่อนว่าเราก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น  จากนั้นก็พัฒนาตัวเองไปเป็นอะไรก็ตามแต่ที่ใจเราปรารถนา "ในชีวิตของทุกคนล้วนมีบทบาทการแสดงที่แตกต่างกันไป  บางทีวิถีแห่งความสำเร็จที่สำคัญก็คือการพบเข็มทิศนำทางชีวิต  ผู้ที่ไม่มีหลักการจะลอยไปลอยมาไม่มีทิศทาง  หากมีเข็มทิศที่ถูกต้องไม่ว่าเราจะแสดงบทบาทใดก็ยังสามารถรักษาตัวตนที่แท้จริงไว้ได้   ทำได้อย่างชำนาญคล่องแคล่ว มีระดับผลงานที่ต่างกันไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและยอดเยี่ยม "

ความรู้คือสมบัติล้ำค่าที่สุดของมนุษย์

 

ในยุคความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์  หากคุณมีเงินแต่ขาดความรู้ไม่มีข่าวสารใหม่ๆ  ไม่ว่าคุณจะทำกิจการใด  คุณยิ่งต่อสู้ ความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้ก็ยิ่งมาก  ถ้าคุณมีความรู้ไม่มีเงิน  การพยายามเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้คุณได้รับการตอบแทน  ทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะบรรลุเป้าหมาย  เมื่อเปรียบเทียบปัจจุบันกับเวลาสิบกว่าปีก่อน  ความรู้และเงินมีประโยชน์ที่ต่างกันบททางแห่งความสำเร็จ

นี่เป็นประโยคหนึ่งของนักธุรกิจดังอย่าง ลีกาชิง  ส่วนตัวผมชื่นชอบผู้ชายคนนี้ไม่น้อย  ทั้งการทำธุรกิจ นิสัยใจคอและความมีน้ำจิตน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ลองไปฟังแนวคิดเกี่ยวกับความรู้ของเขาดูครับ

โบราณได้กล่าวไว้ว่า "ในหนังสือมีค่าดังทองคำ  หนังสือล้ำค่าดุจหยกเนื้อดี"  บนโลกใบนี้การลงทุนในความรู้คือประโยชน์อันมหาศาล โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบัน  ความรู้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขันของมนุษย์   ลีกาชิงเคยกล่าวไว้ว่า

"วงการค้าในวันนี้ต้องใช้ความรู้ในการเอาชนะ  มีเพียงความขยันหมั่นเพียรในการเรียนรู้ จึงจะสามารถก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ของชีวิตได้"   สมัยยังเด็ก เขาทราบดีว่าความรู้เป็นเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาชีวิตได้  ดั้งนั้นเขาจึงปลูกฝังความเคยชินที่ดีด้วยการอ่านหนังสือ   เขามักจะไปอ่านหนังสือในห้องหนังสือของพ่ออยู่เสมอ   เมื่ออ่านก็จะอ่านไปทั้งวัน   ต่อมาเนื่องจากครอบครัวเกิดการเปลี่ยนแปลง  ลีกาชิงจึงต้องจำใจออกจากโรงเรียนในที่สุดเพื่อทำมาหาเงิน  แต่เขาไม่เคยเลิกแสวงหาความรู้  เพื่อเป็นความรู้ให้กับตนเอง  ขณะพักจากการทำงานในโรงงาน ลีกาชิงก็จะถือหนังสือเล่มหนึ่งแล้วตั้งใจศึกษาอย่างละเอียด  และก็เป็นเช่นนี้ทุกวันไม่สนใจคำเย้าแหย่เหน็บแนมจากผู้อื่นแม้แต่น้อย

ด้วยฐานะทางครอบครัวที่ยากจนไม่มีเงินซื้อหนังสือได้มากมาย  เขาจึงซื้อหนังสือเก่ามาศึกษาด้วยตนเอง  และเมื่ออ่านจบก็ขายต่อให้กับร้านขายหนังสือ แล้วนำเงินมาซื้อหนังสือมือสองมาเล่มใหม่มาศึกษาต่อ  ประหยัดเงินและได้ความรู้เพิ่มเติมมาก

เขาได้เล่าว่าในเวลานั้นตนกำลัง "ช่วงชิง"  ความรู้แต่ไม่ใช่การเรียนหนังสือในห้องเรียน  นอกจากจะเข้าใจถึึงแนวโน้มการพัฒนาของโลกในยุคปัจจุบันและข่าวสารที่จำเป็นแล้ว  ยังทำให้เขามีฝีมือในการลงทุนที่ยอดเยี่ยมในอนาคต  และเหนือสิ่งอื่นใดสถานภาพชีวิตของเขาก็ได้รับการพัฒนาและเปิดกว้างมากขึ้น  หากไม่มีความมานะบากบั่นในช่วงแรก  คงไม่มีเขาในวันนี้

นี่ก็เป็นคำพูดที่เตือนใจของเขา  และนำมากล่าวในสถานที่สำคัญต่างๆ  ให้กับนักเรียน นักศึกษา และผู้คนอีกมากมาย ทำให้เห็นได้เลยว่าอนาคต  มนุษย์ยังคงจะเเข่งขันกันที่ความรู้กันอย่างมาก  ใครที่เร็วกว่าย่อมได้เปรียบและเป็นผู้นำของอีกคนได้อย่างไม่ต้องสงสัย   หากใครได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้แล้วกำลังท้อหมดหนทาง  ขอให้นำเรื่องราวนี้เป็นบทเรียนกับตัวเอง  ฉะนั้นอ่านจบก็ไปหยิบหนังสือเล่มโปรดของคุณมาอ่านซะ  มันอาจไม่ได้ให้คุณรวยครับ แต่เมื่อคุณสะสมความรู้ไปเรื่อยๆ  ความรู้นั่นแหละจะนำพาคุณไปสู่ความมั่งคั่งเองครับ  ขอให้ทุกท่านโชคดี

เพราะชีวิตเป็นของเรา เราเลือกทางเดินของเราได้

เมื่่อจิตใจคุณกำลังกลัวหรือกังวลกับการจะลงมือทำอะไรบางอย่าง  สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะฝากให้ทุกท่านนั่นก็คือ  ลงมือทำมันไปเลยครับ  ทำทั้งๆที่กลัวนั่นแหละ  หลายชีีวิตเกิดมาไม่ได้มีโอกาสดีๆเข้าในชีวิตแบบตัวคุณ   ในเมื่อคุณได้รับโอกาสที่ดีเข้ามาจะกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันและทำมันตรงหน้าให้ดีที่สุด

ตอนนี้หน้าที่ของคุณคือ  ต้องหยุดอะไรบ้างอย่างในจิตใจของคุณให้ได้ก่อน  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเอาชนะใจตัวเอง  ไม่ใช่การเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี่แล้วคาดหวังความสำเร็จในชีวิตโดยที่ไม่ลงมือทำปัจจุบันให้ดีนั้น  ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแท้เป็นแน่  ผมอยากจะใ่ห้คุณลองกลับมามองสิ่งที่เรามีในตอนนี้จริงก่อน  แล้วถามตัวเองมันสามารถต่อยอดในอนาคตได้ไหม   และสิ่งที่เรามีจะเชื่อมต่อกับเป้าหมายของเราได้หรือไม่

หลายคนเอาแต่เฝ้าเอาแต่มองหาสิ่งที่เราขาดไป  อยากให้มันเป็นไปดังที่ใจเราคิดซะทุกอย่าง  จนในที่สุดเราก็เสียในสิ่งที่เรามีไป  ทั้งที่สิ่งนี้คือสิ่งที่เรามีความสุขมากที่สุด  ช่างน่าตลกสิ้นดีนะครับ  นานทีเราจะเจอคนที่จริงใจกับเราแต่เรากับเป็นฝ่ายที่เดินออกไปจากชีวิตเขาซะงั้น   แต่การจะมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เราตัดสินใจนั้นก็ช่างไร้ประโยชน์ครับ  ชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไป

สำหรับตัวผมไม่ได้มองความยิ่งใหญ่เพียงแค่  เราได้ทำงานอยู่กับบริษัทที่ใหญ่โตเท่านั้น  สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ  จิตใจเราใหญ่กว่านั้นหรือเปล่า  ประโยคเด็ดนี้ยังอยู่ในใจผมเสมอ  คือ เป็นหัวหมาดีกว่าหางราชสีห์  ครับ  เด็ดจริงๆครับ อิอิ

สิ่งที่ทำให้เราคลายกังวลก็คือ  การทำปัจจุบันของเราให้มันดีที่สุด  อย่าไปหวนหาอดีตที่ผิดพลาดมาแล้ว  หรือกังวลกับอนาคตหรือสิ่งที่มันยังมาไม่ถึง  ใช้ชีวิตแต่ละก้าวอย่างมีสติและไม่ประมาณในการใช้ชีวิต  ชีวิตที่มีความสุขนั่นแหละคือกำไรที่แท้จริง    ผมไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องรวยนะครับ  แต่ก่อนที่คุณจะรวยคุณก็ต้องมีความสุขไปพร้อมด้วยจะดีกว่าครับ  ชีวิตยังมีเรื่องสนุกๆน่าตื่นเต้นให้เราได้ทำอีกตั้งเยอะ  อย่าเอาแต่เฝ้ามองความสำเร็จของคนอื่น  อย่าเดินตามรอยเท้าของใคร  มันไม่น่าจดจำหรอกครับ  มามาสูดลมหายใจลึกๆ  หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าหาตัวเองแล้วออกไปใช้ชีวิตอย่างที่คุณต้องการซะ

มองเห็นภาพอนาคตให้ชัดเจน  ตรงเข้าไปหามัน  ตั้งจิตและมุ่งความสนใจ  โฟกัสไปอย่างมีจุดหมายจักรวาลมีเหตุผลพอที่จะส่งแรงผลักเพื่อให้คุณได้รับในสิ่งที่คุณปรารถนาเอาไว้  เพราะชีวิตที่มีเป้าหมายชัดเจน  เราเลือกได้และมีความสุขในแบบที่เราต้องการจะเป็น  สวัสดีวันตรุษจีนครับ  เฮงๆๆ รวยๆๆ กันทั่วหน้า

วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความน่าเชื่อถือรักษามันให้ดี


ถ้ามาด้วยเรื่องของการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจนั้น  เป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากไม่ว่าจะทุกอาชีพ  คนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น  และสามารถอยู่ได้อย่างยั่งนั้น ก็คือการรักษาคำพูด  พูดคำไหนแล้วต้องเป็นคำนั้น   อย่างหวังแค่ผลประโยชน์เพียงอย่างเดียว  เพราะมันเป็นการสร้างเครดิตให้เราไปจนวันตาย

สิ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง  เราเกิดเป็นคนควรมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อทุกอาชีพ  หรือไม่แม้กระทั่งการคบค้าสมาคมกับผู้คน  เมื่อเราแสดงความจริงใจด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์สิ่งที่ได้รับโลกก็จะจัดสรรให้เราได้รับแต่สิ่งดีๆเข้ามา  ถึงแม้บางครั้งอาจมีอุปสรรค์หรือพบเจอกับคนที่เราไม่พึ่งประสงค์บ้างแต่ก็แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป  เพื่อที่จะให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่างแล้วก้าวข้ามจุดนี้ไปให้ได้  ผมอยากจะฝากไว้นะครับ  โลกเราตอนนี้เป็นโลกของทุนนิยม  เราให้ความสำคัญกับเงินมากกว่าสิ่งใด  หรือมากแม้กระทั่งยอมทำลายความสัมพันธ์ที่ดีก็เพราะเงิน  

จะทำอะไรจงมีสติให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจนะครับ  อย่างน้อยสิ่งที่ควรไม่ควรละทิ้งเลยนั่นก็คือ

1.การสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น
2.การพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหยั้ง
3.การรักษาสัจจะ  และความน่าเชื่อถือ
4.เป็นตัวของตัวเอง  ปรับเปรียบได้บ้างตามสถานการณ์และมีเป้าหมายจุดยืนที่ชัดเจน
5.มีน้ำใจ  รู้จักเสียสละ และให้อภัยผู้อื่น

เหล่านี้เป็นคุณสมบัติบางส่วนของนักปราชญ์ที่อยากให้คุณได้เอามาใช้ในการดำเนินชีวิต  หรือการประกอบธุรกิจ  หาไม่แล้วความโลภ  ถ้ามันเข้ามากันกินหัวใจคุณจนหมดแล้ว  สุดท้ายตัวคุณจะเหมือนเหลืออะไร  นั่นเพราะ  คุณพยายามฝืนกฎธรรมชาติเหล่านี้  สำหรับคนที่มีฝันแล้วรู้สึกว่าตัวเองจะหมดไฟ  ก็อย่าได้เพิ่งท้อใจไปนะครับ  ขอให้เชื่อมั่นในตัวของคุณเองว่าเราสามารถทำตามความฝันของเราได้อย่างแน่นอน  หยุดฟังเสียงคนอื่น  แล้วทำตามความต้องการของใจคุณ  เชื่อในสัญชาตญานเหล่านั้น  และที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยก็คือ  "จงทำในสิ่งที่รักครับ"

วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เรื่องราวของ Walter Disney แรงบันดาลใจของผม

ขอบคุณความฝันที่ทำให้ผมยังมีแรงใจที่สู้กับชีวิต  ไม่ว่าจะเจอเรื่องราวหรือเหตุการณ์อะไรร้ายมากระทบก็ตาม  ผมก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าผมจะต้องประสบความสำเร็จตามที่ผมคิดไว้อย่างแน่นอน  เรื่องราวแรงบันดาลใจของผู้คนจึงเป็นเรื่องที่ผมสนใจและศึกษามาตั้งแต่เด็ก  การอ่านเสมือนเป็นกระจกสะท้อนและทำให้เราเข้าไปในเรื่องราวชีวิตของคนๆนั้นจริง  ได้โลดโผนกับจินตนาการความคิดของเขา  เสมือนเราเป็นเขาไปงั้น  มันสนุกและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าละครหลังข่าวที่เราดูกันซะอีก  บางทีมีล้มเหลว ผิดหวังเสียใจ  ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด  แต่ในที่สุดก็มีแสงสุดท้ายที่ปลายอุโมงค์ให้เราได้ไปถึงเส้นชัย

ขอแค่เรามีหวัง  และไม่ล้มเลิกต่อความฝันของเรา  ภักดีต่อความฝันอย่าทรยศต่อมัน
ใครยื่นข้อเสนออะไรมาให้ที่มันทำลายความฝันของคุณ  อย่าได้ทิ้งมันแค่เงิน  มันเท่ากับคุณทำลาย
ตัวตนของคุณไปด้วย  ขอให้เรื่องราวนี้ส่งต่อเเละเป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับคนที่มีฝันทุกคนนะครับ  ขอให้กลางที่จะเป็นตัวคุณเอง  และอย่ากลัวที่จะล้มเหลวผิดพลาด เพราะมันคือบันไดให้คุณก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนกว่าก็แค่นั่นเอง  ลองไปฟังเรื่องราวกันดูครับ


Walter Disney ผู้ภักดีต่อความฝัน
.
หลายคนอาจจะโตมากับการ์ตูนดิสนีย์
ในโลกของจินตนาการอันสร้างสรรค์นั้น
มาพร้อมความสนุกสนานที่ยังคงตราตรึงใจเราเสมอ
และตัวการ์ตูนเหล่านั้นก็ได้กลายมาเป็นหนึ่ง
ในตัวการ์ตูนตัวโปรดของเราจนถึงทุกวันนี้
.
“วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์” (Walter Elias Disney)
คือเด็กชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
ที่รักการเขียนการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ
เขาเก็บเงินเพื่อเข้าเรียนในสถาบันศิลปะด้วยตนเอง
ก่อนจะมาเริ่มวาดภาพประกอบโฆษณาเป็นงานแรก
.
ต่อมาเขาได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ
และพี่ชาย “รอย ดิสนีย์”
เพื่อฝึกทำการ์ตูนเคลื่อนไหว
และผลิตการ์ตูนสั้น “อลิซในแดนมหัศจรรย์”
ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก
นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้วอลท์กับพี่ชาย
ก่อตั้งบริษัท Disney Brothers Cartoon Cartoon Studio ในปี 1923 และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น Walt Disney Studio
.
ปี 1927 วอลท์ให้กำเนิดเจ้ากระต่ายออสวอลต์
(Oswald the Lucky Rabbit)
และดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี
แต่บริษัทกลับสูญเสียลิขสิทธิ์กระต่ายนำโชคไปเป็นของคนอื่น
.
วอลท์ให้กำลังใจคนรอบข้าง
และสร้างการ์ตูนตัวใหม่ขึ้นมา
เป็นรูปหนูตัวเล็กยิ้มแป้นแล้น
ที่ชื่อว่า “มิกกี้ เมาส์”
ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของ
สตูดิโอการ์ตูนที่สร้างความสุขและรอยยิ้มไปทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมีผลงานอีกมากมาย
ทั้งสโนวไวท์ พินอคคิโอ ดัมโบ้
ปีเตอร์แพน ซินเดอร์เรลลา ฯลฯ
.
ปัจจุบัน The Walt Disney Company
เป็นบริษัทสื่อและสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 180,000 คน
และมีรายรับในปี 2015 อยู่ที่ 52,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
วอลท์ มักให้สัมภาษณ์ถึงหลักในการใช้ชีวิตของเขาอยู่บ่อยครั้งว่า…
“Our greatest natural resource is the minds of our children.”
ทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา ก็คือ “ความเป็นเด็กในหัวใจ” นั่นเอง
.
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จากดิสนีย์คือ
เมื่อใดก็ตามที่คุณเข้าถึงหัวใจของกลุ่มเป้าหมาย
เมื่อนั้นความสำเร็จจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม
.
Cr. : Walt Disney



บ้านรักษ์ไทย แม่ฮ่องสอน



บ้านรักษ์ไทย  เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาแห่งนี้ในชุมชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เป็นการรวมกลุ่มของคนจีนอพยพมา  สถานที่แห่งนี้ทำเลสวยงามมากครับ  มีทั้งร้านอาหารและของฝากและนอกจากนั้นที่เป็น  ไฮไลน์ของที่นี้ก็คือ รีสอร์ตบ้านดินที่เรียงรายตามระดับชั้น  ของเนินเขา  มองวิวไม่ว่าจะมองจากด้านบนขึ้นไป  หรือด้านล่างลงมาก็สวยงามไม่แพ้กันเลย

บรรยากกาศทีนี้ดีครับ  เงียบสงบและสวยงามมาก  เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างมาก  และเหมาะกับการมานั่งเขียนหนังสือ หรือบทความติดตามเรื่องราวชีวิตผู้คนในชุมชนที่นี้  เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าโดดเด่นและเป็นเสน่ห์เอามากๆ  ที่ขาดไม่ได้เมนูอาหารชั้นเลิศเลยก็คือ  ขาหมูเยอรมันที่นี้ของเขาขึ้นชื่อมาก  อยากให้ท่านที่ได้ลองเเวะเวียนเข้าไปลองไปรับประทานอาหารกันดู

การเดินทางก็คือการบอกเล่าเรื่องราว  และประสบการณ์ต่างๆ  ตามแต่ที่เราได้พบเห็นมามีทั้งที่น่าประทับใจและไม่น่าประทับใจเราก็ว่ากันไปครับ  แต่นั่นแหละในทุกที่มันมีเสน่ห์ของมันจริงๆ  โลกวันข้างหน้ามนุษย์จะหวนเข้าสู่ธรรมชาติมากขึ้น  สนใจสถานที่สงบๆ เป็นธรรมชาติ  เพราะอะไรเหรอเพราะสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมันอาจสวยงามจริงครับ  แต่ไม่มีจิตวิญญาน และขาดความเป็นธรรมชาติ  อะไรที่มันขัดกับธรรมท้ายที่สุดธรรมชาติจะให้บทเรียน  และเข้าใจถึงกฏเหล่านี้เอง  ทุกอย่างบนโลกใบนี้มันมีกฎบางอย่างที่ซ่อนอยู่  เพียงแต่เราไม่พยายามที่จะศึกษาและทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้เท่านั้นเองครับ

เมื่อคุณลองเรียนรู้และเข้าลึกไปสู่ธรรมชาติ  รอบตัว  และลึกเข้าไปในจิตใจของคุณแท้  คุณจะพบกับสิ่งมหัศจรรย์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ  มันพร้อมที่จะเปลี่ยนคุณไปทั้งชีวิตของคุณเลย  ขึ้นกับคุณนั่นแหละพร้อมที่จะเปลี่ยนหรืออยู่ที่เดิม  ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณนั่นแหละ  ไม่มีใครเลือกทางเดินของคุณได้มีแต่คุณเท่านั้นที่ต้องเลือกทางเดินให้คุณเอง  ฉะนั้นเพราะชีวิตคุณมันมีชีวิตเดียวจงออกไปใช้ชีวิตของคุณซะ

ปางอุ้ง แม่ฮ่องสอน



การเดินทางไปสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างจะไกลครับ  ทางขึ้นไปชันนิดหน่อยแต่ถ้าชำนาญเส้นทางแล้วก็ไม่มีอะไรครับ  ผมอยากให้คุณได้ลองไปสถานที่แห่งนี้สักครั้งในชีวิต  ยอมรับเลยครับว่ารูปถ่ายกับของจริงไม่แตกต่างจากกันมาก  ตอนเช้าๆไปนั่งเรือแจ่วเล่นกินบรรยากาศลม  สูดหายใจเข้าลึกมันช่างสุดวิเศษ

มองๆไปแล้วที่นี้สวยเหมือนทะเลสาบเลยครับ  บรรยากาศเงียบสงบ  เหมาะกับการไปกับครอบครัวหรือหมู่คณะ  หรือไม่ก็ไปนั่งจิ๊บกาแฟทำงานแบบ Co working ดูครับรับรองไม่ผิดหวัง  บรรยากาศตอนสายๆ ยิ่งน่าดูไปอีก  เวลาที่แสงแดดส่องกระทบกับลมและเคลื่อนน้ำมันระยิบระยับอย่างกับเทพนิยายเลย

ใครที่ได้ไปแม่ฮ่องสอนลองไปดูกันนะครับ  ไม่ต้องกลัวว่าไม่มีที่พักครับ  จะมีโฮมส์สเตย์ให้พักในปางอุ้งเลยครับ ราคาไม่แพง  เวลาเครียดๆ ลองไปสัมผัสบรรยากาศที่นี้ดูครับ ทิ้งความสุขความเศร้าใจไว้ที่นี้ให้หมด  อยู่กับตัวเองแบบเงิียบๆ  คุณอาจได้พบคำตอบอะไรบางอย่างที่คุณตามหามาทั้งชีวิตก็เป็นไปได้  หลายคนที่กำลังรู้สึกว่าชีวิตยังเดินไปข้างหน้าไม่ถึงไหนเลย  ลองกลับมาที่ตัวเองมาตั้งหลักชีวิตที่นี้ดูครับ

บางทีการก้าวไปข้างหน้าก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรอย่างที่คุณคิดก็ได้  มันก็เหมือนการมองเห็นโอกาสในชีิวิตที่เปิดให้กับตัวเอง  มองในมุมที่แตกต่างคุณก็จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกับชีวิต  ตัวผมมีความเชื่อเสมอว่าชีวิตเราต้องไปอยู่จุดที่ดีขึ้นเสมอ  ถ้าเราคิดว่ามันต้องไปในจุดที่ดีขึ้น  ไม่มีใครทำให้เราตกต่ำหรือสูงขึ้นได้  เพราะทุกอย่างอยู่ที่การกระทำในปัจจุบันของเรานั่นแหละครับ  อดีตที่ผ่านมาไม่ว่าคุณจะเจออะไรก็ตามแต่ก็ขอให้คุณลืมมันเเล้วเริ่มใหม่  ต้นคด ปลายตรงก็ยังดีกว่าครับ

เมื่อชีวิตคุณเรียนรู้อะไรมากขึ้น  ได้เห็นอะไรมากขึ้น  คุณจะเริ่มเข้าใจจุดหมายที่แท้จริงของชีวิตของคุณเอง  ส่วนตัวผมว่าผมโชคดีนะครับ  ผมได้เดินทางบ่อยได้เห็น ได้พบเจออะไรใหม่ๆมาก็มากทำให้เข้าใจชีวิตมากขึ้น  และเริ่มมีแผนการของตัวเองที่ชัดเจนขึ้น  ของคุณความผิดพลาดล้มเหลวที่ผ่านมาตลอดที่ทำให้ผมเติบโตขึ้น  และผมสัญญากับตัวเองว่าผมจะทำชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน

วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สุดยอดมนุษย์


มนุษย์มักตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆขึ้น  แล้วมาตัดสินกันเองว่านั่นถูก  นั่นผิด  ใครที่ไม่ทำการหลักเกณฑ์ถือว่าผิด  แท้ที่จริงบางที่คนที่เดินตามทางที่คนอื่นวางไว้ก็อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องก็ได้  แต่ก็อย่างที่เรารู้ๆกันแหละครับ  มนุษย์เป็นสัตว์สังคม  เราถูกเลี้ยงดูมาจากสภาพแวดล้อมสังคมที่แตกต่างกัน  ทำให้มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์ กล่าวก็คือ  ยังยึดติดกับวิถีของตัวเองตามสภาพแวดล้อมและสังคมที่ตัวเองได้ใช้ชีวิตมา  

มันก็น่่าแปลกนะครับ  เรากลับมองสัตว์หรือแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันในมุมมองของเราเอง  ทั้งที่จริงมันไม่ได้มีอะไรเลย พื้นฐานของมนุษย์ถ้ามองจากหลักการและโครงการการดำรงชีีวิตทุกคนเหมือนกันหมด  มีเกิด แก่ เจ็บและก็ตายไป  บางทีผมมานั่งมองผู้คนจากกลุ่มคนในสังคมแห่งการทำงาน  บางคนทำงานที่เดิมมานาน  ความคิดของคนในสังคมก็ถูกหล่อหลอมเข้าไปในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว  พอมีคนที่คิดต่างหน่อยก็ว่าคนนั้นทัศนคติไม่ดี  มีความคิดเห็นที่พาไปในทางแตกแยก  ผมว่าแทนที่องค์กรจะโตไปในทิศทางที่ดี  กลายเป็นเราเลี้ยงคนของเราให้เป็นคนใจแคบไปซะงั้น

หลักการคิดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  พื้นฐานความคิดที่ถูกต้องย่อมทำให้มนุษย์สร้างสิ่งใหม่ได้  และอยู่ร่วมสังคมอย่างสันติสุข  ไม่ว่าจะมาจากชาติ ศาสนาใด  มีผิวพันธ์ุหน้าตาแบบไหนก็ตาม  สังคมแห่งปัญญามักจะตัดสินคนที่ปัญญา    เราอยากเป็นคนแบบไหน  อยากให้อนาคตเราเป็นแบบไหน  ก็จงสร้างสภาพแวดล้อม และดึงดูดคนแบบนั้นเขามาหาคุณเอง   ผมเห็นในหนังสือความสำเร็จต่างๆมากมายพูดถึงกฎแห่งเเรงดึงดูด  แท้ที่จริงเราวิ่งเข้าหาได้เองครับ  ไม่ต้องไปรอให้อะไรมาดึงดูดหลอก

ขึ้นอยู่ว่ามนุษย์มัันวิ่งหาความสำเร็จกันอยู่แล้วครับ  ไม่มีใครไม่อยากให้ความเป็นอยู่ของตัวเองไม่ดีหรอกครับ  สิ่งที่เราทำได้คือวิ่งหา  สร้างโอกาสให้ตัวเองก่อนเลย อย่าไปรอกว่าจะรู้ตัว อ่าวคนอื่นคว้าโอกาสนี่ไปซะละ  แล้วมานั่งโทษตัวเอง  มองว่าเขาเก่งบาง  เขามีความสามารถมากบ้างละ  โดยที่เราลืมนึกไปว่าเขาก็เตรียมตัวและวิ่งหาโอกาสตลอดต่างหากละ  เขาเลยสมควรได้รับสิ่งนั้น

นิสัยคนไทยที่ผมเจออีกอย่างที่แก้ยากมาก นั่นคือ  ไม่ชอบเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตัวเอง  เวลาเห็นคนเก่งกว่าก็มักอิจฉาและคิดไปในทางลบ  หาทางทำลายเขา  ซึ่งตลกมากนะครับแทนที่เราจะช่วยกันผลักดันสนับสนุนคนเหล่านี้  เพราะจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศชาติอย่างมาก  เมื่อประเทศมีการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์  มันก็ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งมันก็คนทั้งหมดในประเทศชาตินั่นแหละครับ  เราถูกปลูกฝังวิธีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็หาทราบได้   เอาเป็นมาเปลี่ยนความคิดกันใหม่ดีกว่า  หันมาสนับสนุนคนเก่ง คนที่คิดต่างดีกว่า  เชื่อว่าถึงเขาจะนำหน้าคุณไปไกลขนาด  แต่คุณย่อมได้ผลประโยชน์จากเขาเหล่านั้นแน่นอน

แต่ก็ใช่ว่าคนไทยเราไม่มีดีนะครับ  สิ่งที่ผมยังชอบก็คือ  ความมีน้ำใจไมตรีต่อกัน  สยามเมืองยิ้มที่ยังเป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากในเอเชียเรา  อีกอย่างสังคมไทยก็ยังไม่ได้บังคับลูกๆให้เดินในกรอบตามที่พ่อ แม่ ต้องการเหมือนในหลายๆ ประเทศในเอเชียที่พัฒนาไปไกลกว่าเราแล้ว  สุดท้ายมาคนก็เกิดความเครียด  มีสถิติการฆ่าตัวตายมากขึ้น  โรคซึมเศร้าและอื่นๆ   นั่นเพราะการที่เขาเหล่าทำตามความคาดหวังของสังคม  พ่อ  แม่ โดยที่ไม่ได้มาจากจิตใต้สำนึกหรือความต้องการของตัวเองจริง  มารู้ตัวอีกที เอ่าแก่จะเข้าโรงแล้วเหรอนี่  แล้วเสียดายเวลาในที่สุด  อย่ากลัวที่จะผิดพลาดล้มเหลว  มันก็แค่บททดสอบคุณเท่านั้นเอง  คนที่ไม่เคยล้มเหลวย่อมไม่สร้างสิ่งที่มันยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้หรอกครับ  ท้ายที่สุดคุณก็แค่มนุษย์ธรรมดาที่จะถูกลืม  เมื่อคุณไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว  จงเป็นคนที่แตกต่างและสร้างความไม่ธรรมดาให้คนทั้งโลกได้จดจำเราดีกว่าครับ  โจทย์แบบนี้มันมีอะไรสนุกให้ทำอีกเยอะ  อย่าไปโฟกัสแค่ความรวยแล้วก็ตายไปแบบไม่มีอะไร  รวย มีเสน่ห์และสร้างมูลค่าทำความเปลี่ยนแปลงให้โลกจดจำชื่อเราดีกว่าแบบนี้ซิครับ  ที่เขาเรียกว่าสุดยอดมนุษย์

ผู้ชนะในเกมส์


ไม่รู้คนนอนไม่หลับอาการเป็นเหมือนผมไหมครับ  เวลาผมนอนหลับผมมีความรู้สึกว่าสมองผมจะทำงานหนักมาก  เหมือนเราไม่สามารถควบคุมความคิดของเราได้เลย  สมองมันจะคิดไปเรื่อยๆ จนบางทีเราก็รู้สึกว่าแทบจะไม่ได้หยุดพักเลย  เอาเขาจริงมนุษย์มีเรื่องกังวลไม่กี่เรื่องหรอก ถ้าไม่คิดถึงเรื่องในอดีต  ก็กังวลกับอนาคตที่มันยังมาไม่ถึง  การที่มนุษย์เราไม่ยอมอยุ่กับปัจจุบัน  ทำให้เราสูญเสียปัจจุบันของเราไปอย่างน่าเสียดาย

ผมเคยคิดเสมอว่าชีวิตถ้าเอาดีไม่ได้  มันก็น่าอายหมาจริงๆนะครับ  คุณเคยสังเกตุแม้กระทั่งหมาขี้เรือนไม่มีบ้านอยู่มันยังสามารถเอาตัวเองรอดจากการหาของกินตามถังขยะจนเกิด  เราเกิดเป็นคนมีทั้งสมอง และสองเราขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐที่สามารถฝึกฝนได้  แล้วทำไมตัวเราต้องให้อายหมาละครับ  คนเกิดมาทั้งที่ก็ต้องเอาดีสักอย่างให้ได้ครับ

ผมเชื่อมั่นว่าในตัวมนุษย์เราทุกคนมันมีดินดีอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว  ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหยิบมาใช้หรือผลักดันมันออกมาได้อย่างไร  การดึงศักยภาพในตัวเราเองออกมานั่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ถ้าฝึกฝนและทำจนเป็นนิสัย  ผมก็เชื่อมั่นได้ครับว่าทุกอย่างก็สำเร็จได้อย่างที่ใจเราต้องการ

มนุษย์คือผู้สร้างโลก  และกำหนดทิศทางความเป็นไปของโลกมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย  บางอย่างที่ฝืนธรรมชาติ  เรารู้ทั้งรู้แต่มนุษย์ก็สามารถที่จะทำมันขึ้นมาจนได้  นั่นแหละที่เขาเรียกว่าความสามารถที่เหนือมนุษย์  ฉะนั้นอย่าไปจำกัดตัวเอง  อย่าไปสร้างกรอบหรือกฎเกณฑ์อะไรให้กับชีวิตคุณให้มันมากนัก  รู้จักทิศทางและกำหนดทางเดินให้ถูกต้อง  ผมเชื่อว่าวิถีทางที่ถูกต้องล้วนแต่นำพามาซึ่งความสุข และความสำเร็จที่ยั่งยืน  ในท้ายที่สุด  มนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม  ทุกคนล้วนมาจากพื้นฐานเดียวต่างก็มีความต้องการคล้ายคลึง  นั่นก็คือ ความสุขและความสงบนั่นเอง

ไม่มีใครอยากเป็นผู้สร้าง  และผู้ทำลายในเวลาเดียวกัน  โลกถูกสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติและมนุษย์ก็คือผู้อาศัยและทำลายธรรมชาติ  บางทีกฎเกณฑ์ต่างๆ  ความยุติธรรมที่มนุษย์เรียกร้องกันมันก็คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเป็นเกาะกำบังตัวเองจากอันตรายต่างๆ นั่นเอง  ธรรมชาติล้วนกำหนดทิศทางของมันอยู่  มนุษย์รู้ทั้งรู้อยู่แล้วละครับว่า  ไม่คนใดคนหนึ่งต้องเป็นผู้ได้เปรียบ  อีกฝ่ายก็ต้องเสียเปรียบหรือมองให้ดีหน่อยก็คือ   วิน วินกันทั้งคู่  ผลประโยชน์ที่มนุษย์สร้างขึ้น  กรอบด้วยความโลภ  ความต้องการที่เกินพอดีนั่นแหละที่จะทำลายมนุษย์เองในที่สุด  ใช้ชีวิตอย่างมีสติครับ  อย่าหลงตามเกมส์ของโลกนะ  เมื่อคุณมองจากภาพเหตุเห็นทุกอย่างชัดเจน  เมื่อนั่นคุณคือผู้ชนะในเกมส์แล้วครับ 

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ชีวิตที่มีความสุขที่สุด


วันนี้ไปนั่งคุยกับเพื่อนสมัยมัธยมมาครับ  มันบอกว่าอยากกลับมาอยู่บ้าน  ตอนนี้ก็สำรวจทำเลว่าอยากมาหาอะไรทำแถวบ้าน  แล้วก็จบด้วยการบอกว่าที่บ้านเราไม่น่าลงทุนเลย  มันจะน่าลงทุนได้ยังไงละครับก็อย่างที่ทราบกันอยู่ในปัจจุบัน  อย่าว่าแต่ในจังหวัดที่ผมอยู่เลยครับ  แม้กระทั่งในเมืองอยู่อย่างกรุงเทพ  ตอนนี้แทบจะหาคนซื้อของไม่เจอ  ซัพพายมันมีมากกว่าดีมานด์จริง ๆ  หลายคนบอกว่าเบื่องานประจำออกมาหาอะไรทำ  ใช้ชีวิตแบบอิสุระไม่ต้องมามีกฎเกณฑ์อะไรมากมายสุุดท้ายก็จบด้วยการไปไม่รอดจะไปโทษอะไรก็ไม่ได้หรอกครับ เทรดของโลกมันเป็นแบบนี้จริง

คำถามคือ  เราจะเเก้ปัญหาสินค้าที่มากกว่าความต้องการของตลาดได้อย่างไร  ตอบยากจริงๆครับ  แต่ในยุคนี้คนที่อยู่รอดก็คือคนที่ทำในสิ่งที่แตกต่าง และเป็นผู้นำเทรดเท่านั้น  ถึงจะพาธุรกิจตัวเองไปข้างหน้าได้  ที่ผมเขียนบทความนี้ไม่ได้ต้องการให้คุณท้อใจไปกับชีวิตนะครับ  อยากให้คุณสู้และมีความหวังต่อ  หลายท่านบอกว่าหางานในประเทศไม่ได้ก็ไปต่างประเทศซิ  ซึ่งตอนก็กำลังเป็นเทรดใหม่เลยครับไปทำงานต่างประเทศ  ในประเทศที่ค่าเงินสูงกว่า  หวังแค่ว่าจะทำให้ลืมตาอ้าปากได้  แท้ที่จริงผมว่ามันอยู่ที่วินัยในการใช้เงินต่างหาก  เมื่อมีวินัยแล้วก็รู้จักหาวิธีการลงทุนที่จะเพิ่มหรือสร้างมูลค่าให้เงินที่มีอยู่อย่างจำกัดเติบโตขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตามแต่ เอาตามที่ท่านถนัด และสะดวกดีกว่าครับ

การที่ได้ทำอะไรที่ตัวเอง รักและถนัดย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว  เพราะไม่ว่าคุณจะเสียใจหรือผิดหวังในภายหลัง  นั่นก็คือคุณก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่ายังไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนั่น โน่น นี่เลย  นิสัยคนไทยคือชอบทำอะไรตามๆกัน  ใครว่าดีก็จะแห่ไปตามกระแสเขาแล้วครับ  ชอบอวดบ้าน รถ และทรัพย์สินที่เป็นขยะ  ทั้งที่รู้ทั้งรู้นะครับในอนาคตไม่ได้สร้างมูลค่าขึ้นมา เป็นเพียงแต่เปลีือกนอกที่ทำให้เราดูดีในสังคม  หากคุณลองตัดเรื่องเหล่านี้ลงไป  แล้วมองเห็นแต่ความจำเป็นในการดำรงชีวิต  ที่เหลือก็พอเพียง รับรองว่าคุณรวยเป็นเศรษฐีแน่นอนครับ

สังคมยุคนี้เราบริโภคเกินความพอดีไปแล้ว  เรามองที่ความหรูหรามีระดับ  ไว้อวดเพื่อน ในออนไลน์  เพื่อให้ตัวเราเองดูดีมีราคา  ทั้งที่เงินในกระเป๋าแทบไม่มี  สังคมที่มองและตัดสินกันแค่เปลือกนอก  พอเถอะเลิกวิ่งตามคนอื่น  แล้วกลับมาเป็นตัวของคุณเอง  ใช้ชีวิตอย่างพอดีและพอประมาณต่อไปคุณจะได้ไม่ต้องมากังวลกับอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อีก ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร  จะมีผู้นำแบบไหน ดีหรือไม่  ล้วนไม่ส่งผลกระทบกับคนที่มั่นคงและหนักแน่นในตัวเอง  ไม่หลงแสงสี และวิ่งตามกระแสสังคม  ใช้ชัีวิตที่เรียบง่าย และมีความสุขที่สุด เท่านี้แหละคือสุดยอดของชีวิตแล้ว

วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Trend


ผมได้ยินประโยคนี้มานานแล้วครับ  แต่ไม่คิดว่าจะมีผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก  วันก่อนผมคุยกับพี่คนรู้จักท่านหนึ่ง  เกี่ยวธุรกิจค้าขาย  ผมก็สงสัยว่าในยุคแม่ค้าในตลาดเขาอยู่กันได้อย่างไร  ในเมื่อมีกลุ่มธุรกิจใหญ่ๆ  เป็นเจ้าตลาดและนอกจากนั้นก็ยังมีห้างสรรพสินค้า และ SHOP สินค้าเกิดขึ้นมากมาย  ไม่ต้องตัดราคากันตายเหรอ

ใช่ครับ  ยอมรับเลยว่าเป็นความจริง เมื่อก่อนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเวลาขายของกำไรถือว่าดีกว่า  แต่ยุคสมัยเปลี่ยน โลกของทุนนิยมเข้ามามีอิทธิทำให้เขาเหล่านั้นก็ต้องปรับตัวตามไปด้วย  หาไม่แล้วก็ไปไม่รอดอย่างแน่นอน  Trend ในตอนนี้นอกจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามแผงในตลาดแล้วยังไม่พอ  พวกเขามีการเปิด ร้านค้าเล็กๆข้างนอกตลาดอีกด้วย  บางคนก็อาศัยการขายในช่องทางใหม่ๆ เช่น อินเตอร์เน็ต  จะได้เห็นว่าระบบทุนนิยมสามารถทำให้การค้าเปลี่ยนแปลงไปมากมายทีเดียว

บางทีเรามองแต่ตัวเลขที่สวยงาม ที่เขาเรียกว่า GDP ของประเทศ  จนลืมไปว่าประเทศไทยเราจริงยังมีช่องว่างระหว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคมอีกหลายประกาศ  อย่าว่าแต่ในประเทศไทยเลยครับหลายๆประเทศที่พึ่งพาระบบทุนนิยมก็เป็นเหมือนหมด  นั่นคือ คนรวยก็จะยิ่งรวยขึ้น  ส่วนคนจนก็จะจนไปอีก  นี่แหละคือ ระบบทุนนิยม  ไม่ใช่ว่าระบบนี้ไม่ดีนะครับ  บางคนก็สามารถลืมตาอ้าปากได้ด้วยระบบนี้ถ้าคุณเข้าใจ กฎบางอย่างของมัน

สิ่งที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วครับ หน้าที่ของเราคือรู้ทันเกมของโลก  และใช้ชีวิตโดยไม่ตกเป็นเหยืือของโลก  เท่านี้คุณก็สามารถมีความสุขและประสบความสำเร็จกับสิ่งที่คุณคาดหวังได้

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ความคิดกำหนดการกระทำ




เมื่อก่อนผมเคยคิดนะครับว่าเรื่อง Mid set ไม่สำคัญ   แท้ที่จริงมันสำคัญมากเลยที่เดียวครับ ยิ่งโตขึ้นตัวผมเป็นคนเดินทางบ่อย  ได้พบเห็นอะไรมากมาย  ได้เจอคนที่ประสบความสำเร็จแบบสูงสุด  จนคนที่ตกต่ำแบบสุดเราก็มีโอกาสได้พบเจอและพูดคุยมาไม่มากก็น้อย  ทำให้ผมได้เห็นว่า  “ทัศนคติ”  คือตัวสำคัญมากที่เป็นจุดที่ทำให้คนแต่ละคนแตกต่างกัน  หาใช่พื้นฐานที่มาจากครอบครัวไม่ 

ผมยอมรับนะครับว่าในโลกของความเป็นจริง  คนที่มีต้นทุนที่ดีและพื้นฐานครอบครัวที่ดีนั้น  มีแต้มต่อเราแบบ ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ อย่างน้อยเขาก็มีทางเลือกที่มากกว่าเราในตอนเริ่มต้น  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จในระยะยาวของพวกเขาเหล่านั้นได้  สิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ Mid set ที่ถูกต้องในการทำธุรกิจ และการใช้ชีวิตต่างหาก ทุกคนมีโอกาสที่ประสบความสำเร็จได้อย่างสูงมาก ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆสิ่งที่ทำให้ผู้คนแตกต่างกันก็คือ คนหนึ่งคิดและลงมือทำ ส่วนอีกคนได้แต่คิดแต่ก็ไม่ทำนั่นเอง 

โลกของทุนนิยมเราวัดกันด้วยตัวเลขเพื่อวัดความมั่งคั่ง และประสบความสำเร็จกัน  แท้ที่จริงเราควรมองในทุกมิติต่างหาก  การที่เราทำอะไรที่มีความสุข  ล้วนนำพามาซึ่งความยั่งยืนในการใช้ชีวิตและธุรกิจ  หลักแห่งความสมดุลจึงเป็นที่ขาดไม่ได้เลยของโลกทุนนิยม  มนุษย์เราใช้เงินกันอย่างบ้าคลั่ง  โดยให้ความโลภ เป็นตัวกำหนดจนแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนถูก สิ่งไหนที่ผิด  คนที่เป็น TOP เหนือคนอื่นจริงก็คือ เขาไม่ได้ตกเป็นทาสของเงินแต่เขาใช้เงิน  โดยให้เงินเป็นทาสของเขาต่างหาก  กฎเหล่านี้พวกมหาเศรษฐีย่อมรู้ดี  เพียงแต่คนส่วนใหญ่หลงคิดไปว่าถ้ายิ่งมีเงินมากเราก็สร้างอำนาจได้มาก  อำนาจที่ปราศจากบารมีในท้ายทีสุดย่อมมีวันล้มสลายครับ

ผมอยากจะขอฝากให้นักล่าฝันทุกท่าน  เพื่อเตือนสติท่านให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้สำเร็จลุล่วงนั่นแหละคือสุดยอดของมนุษย์แล้วครับ  คุณเป็นทุกอย่างได้อย่างที่ใจคุณปรารถนานั่นแหละครับเพียงแต่คุณต้องสละบางอย่าง เพื่อก้าวข้ามบางอย่างให้ได้เสียก่อน ทุกสิ่งมีขั้นตอนของมันอยู่  ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ  ถ้าใช้ชีวิตและเดินไปแบบถูกต้องและมีแบบแผนคุณก็สำเร็จอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องพึ่งหมอดู

พัฒนาสู่ความยั่งยืน


จิตใจคือตัวกำหนดทุกสิ่งทุกอย่าง มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์หรือสภาวะที่คุณกำลังเจอกับมันอยู่  แท้ที่อยู่มันไม่ได้ดีหรือร้ายในตัวของมันหรอกครับ  ทุกอย่างมันมีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวของมันแล้ว  ขอเพียงแต่เรารับรู้ ยอมรับ และเข้าใจกับสถานการณ์นั้นๆ

โลกในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก  ทุกคนต่างแข่งขันกันในทุกๆด้าน  ไม่ว่าจะเป็นระดับชุมชน  จังหวัด หรือประเทศ และระหว่างประเทศ โดยการใช้ GDP เป็นตัววัดความมั่งคั่งของผู้คนและความเป็นอยู่ในประเทศนั้นๆ  จนบางทีเราก็หลงลืมเสน่ห์ รากเหง้า ความเป็นตัวตนของเราไปแล้ว  ผมอยากจะให้ทุกท่านได้หวนกลับมาคิดทบทวนอะไรบางสิ่งบางอย่าง  จากสิ่งที่ท่านมีอยู่แล้วสร้างการเปลี่ยนแปลงกันดีกว่าครับ  อย่าไปหลงกับวัฒนธรรมต่างชาติจนลืมความเป็นตัวตน รากเหง้าที่แท้จริงของเรา  อีกหน่อยเราจะไม่มีความภาคภูมิใจในประเทศชาติของเราให้ลูกหลานได้เห็นกันเลย

เอาละอนาคตจะเป็นยังไงเรายังมองไม่เห็นแต่เราสามารถทำปัจจุบัน  โดยการเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวเราให้มันดีขึ้นได้  เริ่มจากตรงนี้และวันนี้เลยครับ  ผมอยากเห็นประเทศไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ การอ่าน  มากกว่าการเเข่งขันแย่งชิง  เพียงเพื่อปากท้องและความอยู่รอดในสังคมเท่านั้น  เมื่อคนเรารู้จักแบ่งปันกัน  สังคมคงเป็นสังคมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น  การปูพื้นฐานที่ดีให้เด็กได้เห็นในวันนี้  ผมเชื่อมั่นได้ว่าประเทศไทยเราจะก้าวเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วไม่นานอย่างแน่นอน

วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สูตรแห่งความสุข


หลายคนพยายามหาโอกาสในชีวิตให้กับตัวเอง  แต่บางทีโอกาสที่คุณได้รับกลับไม่ใช่โอกาสของคุณซะงั้น  เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าบางทีเราเอาเป้าเป็นตัวเงินไงครับ ไม่ใช่ความรัก ความชอบในสิ่งที่เราทำ  สุดท้ายพอตัวเรากดดันมากๆในที่สุดก็ล้มเหลวกับสิ่งที่ทำอยู่  ยังไงซะมนุษย์เราสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ  อย่ากลัวที่จะล้มเหลวลงมือทำต่อไป  สิ่งที่น่ากลัวก็คือการล้มเลิกนั่นต่างหาก

เราไม่อาจเกิดมาสมบูรณ์พร้อมหรือมีความสุขกับชีวิตได้ตลอดเวลาหรอกครับ  คนที่เป็นคนเก่ง เป็นเบอร์  หรือแม้บุคคลที่ประสบความสำเร็จในทุกๆสาขาอาชีพ  เขาล้วนผ่านความยาก  ผ่านการฝึกฝนตัวเองอย่างหนักมาแล้วกันทั้งนั้น  เราเอาแต่ไปดูแต่ด้านที่เขาสำเร็จ  จนลืมไปว่ากว่าเขาจะมาถึงวันนี้ได้ทุกคนต่างก็มีด้านมืดของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น

ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวความล้มเหลว  หรือความไม่มั่นคงแน่นอนในชีวิต  ถ้ามองกันจริงสิ่งเหล่านี้มันติดตัวเราตลอดเวลาอยู่แล้ว เพียงแต่เราไปหลงคิดว่าทุกอย่างมันแน่นอน จีรัง ยั่งยืน  ในท้ายที่สุดมนุษย์เราก็ไม่ได้เอาอะไรไป  มองชีวิตให้ลึกๆ  เชื่อมั่นในตัวเองและสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง

เลือกคบคนที่มีพลังงานบวก  พร้อมที่จะสร้างสิ่งใหม่ให้กับเรา  มนุษย์เราไม่สามารถแก้ปัญหาหรือหาทางออกด้วยวิธีการหรือผลลัพธ์เดิมๆ ได้  เราต้องรู้จากคิดต่างมองวิธีการที่แตกต่าง  แก้ปัญหาด้วยวิธีที่แตกต่าง  เหล่านี้ต่างหากที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของมนุษย์เรา  บางทีมนุษย์เราอยู่ในโลกของการทำงานหาเงิน  จนหลงคิดว่าตัวเองเก่งกาจในสายงานเหนือผู้ใด  มารู้ตัวเองอีกทีอายุก็ปาจะเข้าวัยเกษียณรู้สึกดายวันเวลาที่ผ่านมา  อย่าปล่อยให้ตัวเองบอกว่า  รู้งี้..........  ก็ทำ  

ความล้มผิดพลาดนั่นคือ บทเรียนหรือบททดสอบให้คุณก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งต่างหาก  ผมไม่อยากจะให้คุณไปเชื่อมั่นอะไรกับหนังสือพวก HOW TO  ให้มากนะครับ  ฟังไว้เป็นแนวทาง  แต่คุณต้องเลือกทางเดินของตัว  การเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง  ย่อมนำพาความสำเร็จมาให้กับคุณ นั่นคือกฎของธรรมชาติ  มนุษย์เราหลีกหนีความจริงของธรรมชาติไม่ได้ครับ

คุณอยากรู้ว่าคุณ หรือคนอื่นจะเป็นแบบไหนในอนาคต  ก็ทำนายได้จากพฤติกรรมในการใช้ชีวิตในปัจจุบันของเขาเหล่านั้น ก็รู้แล้วละครับว่าจะเป็นอย่างไร  หลายคนเฝ้าเอาแต่บ่นไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณมันดีขึ้นมาเลย  ฉะนั้นจงเปลี่ยนปัจจุบันแล้วอนาคตคุณเปลี่ยนแน่นอนโดยไม่ต้องพึ่งหมอดูหรอกครับ

อยู่กับตัวเอง


เคยคิดนะครับว่าถ้าชีวิตเราก้าวไปข้างหน้าจนถึงจุดที่สูงที่สุดแล้ว  ชีวิตคงจะมีความสุข  แท้ที่จริงสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขไม่ใช่ปลายทางแต่เป็นระหว่างทาง  เพื่อน  ครอบครัว  สิ่งเหล่านี้ต่างหากครับที่ทำให้ชีวิตเรามีความหมาย  เมื่อก่อนผมไม่เคยเข้าใจเลยความสมดุลของชีวิตคืออะไร  จนชีวิตเราพัง ล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง  สิ่งที่เราหันกลับมาหานั่นก็คือ  ครอบครัวนั่นเองสิ่งเหล่านี้เหมือนยาเลี้ยงหัวใจเราให้เราก้าวต่อไป  และเติบโตขึ้น

เวลาคุณรู้สึกหมดหวังอะไรลองให้กำลังใจตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่สวนทางกับความต้องการของคนอื่นดูครับ  บางทีคุณอาจเห็นมิติใหม่ๆ เกิดไอเดียใหม่ๆในชีวิตของคุณได้  มนุษย์ในยุคนี้เรามุ่งแต่หาเงินจนลืมความสำคัญหลายๆอย่างไป  ยอมทิ้งแม้กระทั้งความสุขเพื่อเงินทองที่ในสุดท้ายคุณเอาอะไรไปไม่ได้  ผมไม่ปฎิเสธเลยครับว่าเราเกิดมาในยุคของโลกทุนนิยม  เงินย่อมเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิตมนุษย์อยู่แล้วครับ  เงินทำให้คุณมีอิสระและทางเลือกที่มากขึ้น

แต่ก่อนที่คุณจะก้าวข้ามไปเป็นคนมีเงินนั้น  พื้นฐานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก  ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจ  สังคม เพื่อน ฝูงที่คุณคบค้าสมาคม  และที่สำคัญคือความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของคุณที่จะประสบความสำเร็จและปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้  นั่นเป็นความคิดที่ถูกต้องครับ  เราอาจไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 ในสายตาใครๆ  แต่เราต้องเอาชนะใจตัวเราเองให้ได้ก่อน  เมื่อชนะใจตัวเองได้  ฝึกฝนมีสติ มีวินัยในตัวเอง  เชื่อได้ว่าคุณประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

เพราะชีวิตเรามีทางให้เลือกเดินอยู่แล้วครับ  อย่าบอกว่าตัวเองไม่มีทางเลือก  สาเหตุที่คุณไม่มีทางเลือกนั่นเพราะคุณไปจำกัด ความคิด ทางเลือกของคุณต่างหาก  อย่ากลัวที่จะทำในสิ่งที่เเตกต่างจงเป็นตัวของคุณเอง  และฉลาดในการใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเราต้องการ  มั่นคงและเป็นอิสระฝากไว้ด้วยนะครับ

วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ออกแบบชีวิตเราได้


ผมเฝ้าถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาอะไรกันแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปได้ตลอดกาล  มีบางรู้สึกเรามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่  แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางสิ่งที่เรายังมีความต้องการให้มันดีขึ้นกว่านี้  อยากให้ผู้คนรอบข้างได้เห็น  ได้ภาคภูมิใจกับเรามากกว่านี้  เพราะตลอดเวลาที่่ผ่านเข้ามาในชีวิต  ผมได้รับประสบประการณ์ต่างๆมามากมาย  ได้เห็นถึงอะไรบางอย่างและทราบถึงความไม่แน่นอนในการใช้ชีวิต

ฉะนั้น  ผมเลยคิดว่ามันคงถึงเวลาที่เราจะต้องทำอะไรสักอย่างได้แล้ว  ทำทั้งๆที่เรายังไม่พร้อมนี่แหละครับ  ทำในขณะที่เราก็ยังมีความกลัวอยู่นี่แหละครับ  บางทีความกลัวนั้นอาจเป็นแรงผลักที่ดีให้เราออกไปทำอะไรใหม่  ลองอยู่นิ่งๆ  ปล่อยให้สมองมันว่างๆ บ้างแบบไม่ต้องคิดอะไรดูครับ  บางทีคุณอาจพบคำตอบในความว่างเปล่านั้นก็อาจเป็นไปได้

อย่าเอาแต่นั่งจมทุกข์  เฝ้าโทษโชคชะตาชีวิตของคุณ  ไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องไปลดมาตรฐานการใช้ชีวิตของคุณเพียงเพราะคนอื่นตัดสินว่า  คุณไม่เหมาะที่จะเป็นแบบนั้น  แบบนี่   ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าตัวเราเองหรอกครับ  ฉะนั้นเปิดใจรับรู้  เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ  ความผิดพลาดในอดีตก็ปล่อยให้มันเป็นบทเรียนในการก้าวผ่านสิ่งนี้ไป  แล้วทำวันนี้ให้มันดีที่สุด  อนาคตของเรามันอยู่ที่ตัวเรานั่นแหละครับเป็นคนกำหนด  มีความสุขทุกๆวินาที  เพราะความสุขคือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้คุณนั้นประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างมากมาย

ช่วงนี้ก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ  พักผ่อนให้เยอะให้เพียงพออย่าไปคิดอะไรมาก  ปล่อยวางกับทุกเรื่อง  พร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่  ทำในสิ่งใหม่ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม ลืมความผิดพลาดในอดีตลุกขึ้นมาให้ไวที่สุด  คุณเป็นดินดี  สักวันก็ต้องได้รับแต่สิ่งดีๆ  อยู่ในที่ๆเหมาะสมแล้วคุณก็จะได้รับความสำเร็จเอง  หยุดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น  มองชีวิตของเราให้มีความสุขและใช้มันให้ดีที่สุดก็พอ จากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้นขอให้คุณตั้งใจและมีสติกับทุกวินาที  ทุกๆลมหายใจของคุณอยู่กับเป้าหมายและอย่าหยุดฝันครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...