เมื่อคุณต้องเจอคนที่เรารู้สึกว่าในชีวิตนี้ไม่อยากเจอ

เมื่อคุณต้องเจอคนที่เรารู้สึกว่าในชีวิตนี้ไม่อยากเจอ  ไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือการกระทำ พฤติกรรมอะไรบางอย่างของเขานั้น  คุณรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง  ผมอยากแนะนำนะครับว่าให้คุณเลือกที่จะนิ่งดีกว่าครับ  อย่าไปตอบโต้อะไรกับเขามาก  หลีกหนีได้ควรหลีกครับ  เพราะคนแบบนี้เขาไม่เคยจะพยายามเข้าใจอะไรหรอกครับ  คิดแต่ว่าตัวเองดีทุกอย่าง  สำหรับคนอื่นนั้นแย่หมด  พอตัวเองโดนตำหนิก็รับไม่ได้  ร้อนตัว  และก็มองคนอื่นแย่ไปอีก

ถ้าชีวิตคุณเจอคนแบบนี้  ผมบอกเลยว่าเขาน่าสงสารมาก  ในท้ายที่สุดชีวิตของเขาอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า  ไร้เพื่อน ขาดมิตรอย่างแน่นอน คนที่พยายามใช้ตัวเองเป็นมาตรฐานกับทุกเรื่อง  ก็กลายเป็นสร้างปัญหาให้กับคนอื่น ในท้ายที่สุดทุกคนก็จะค่อย ๆ ถอยห่างออกไปทีละนิด ๆ จนในที่สุดก็ไม่เหลือใคร

ถ้าหากเราเจอคนแบบนี้  ผมอยากจะบอกคุณว่าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้นะครับ  เพราะเขาไม่คิดว่าตัวเองควรเปลี่ยน  เขาจะให้เรานั่นแหละเปลี่ยนตัวเราเอง  ช่างน่าเบื่อนะครับ แต่คุณก็แค่นิ่งไว้  การนิ่งไม่ได้หมายความว่าเรายอม  แต่แค่บอกให้เขารู้ว่า  เราก็หนักแน่นในจุดหมายของเราเหมือนกัน

สิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ  เราจะทำใจยอมรับกับคนแบบนี้ได้อย่างไร  ถ้าต้องพบเจอและติดต่องานกันเป็นประจำ  ผมอยากจะแนะนำว่า  ฝึกใจตัวเองให้คิดบวกครับ  เขาจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญเท่าตัวเรามองอย่างไร  ถ้าเรามีคุณค่าและเหนือ  ก็ทำตัวเองให้มีคุณค่า  แบบที่ตัวเขาเองก็รู้สึกละอายใจไปเลยครับ  ไม่ต้องไปโกรธเขาหรอก  ทุกอย่างมันมีผลของมัน  ในท้ายที่สุดเขาจะได้รับบทเรียนของเขาเอง

ใครที่ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม  เรื่องนี้อาจเข้าใจยากครับ  แต่ถ้าคุณฝึกจิตใจให้นิ่ง แน่วแน่อย่างสม่ำเสมอ แล้วชีวิตคุณจะไม่หลงทาง เดินทางแบบถูกต้อง ตามธรรมนองคลองธรรม  ผมมั่นใจเลยครับว่าชีวิตคุณต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ในท้ายที่สุดทุกคนต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา   อย่าไปโกรธหรือเจ็บแค้นใครนานเลยครับ  ในท้ายที่สุดก็ต้องจากโลกใบนี้ไป  ทิ้งไว้แต่ความทรงจำดี ๆ  ให้เราไปสู่ภพภูมิที่ดี  เท่านี้ก็ได้ทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ได้ดีที่สุดแล้วครับ....

กำลังใจสำคัญเสมอ

การได้ออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง   ในบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม  บางทีมันก็ให้ความรู้สึกที่ดีไม่น้อยเลยนะครับ  ชีวิตก็เหมือนกับปมอะไรบางอย่างที่ยิ่งเราไปจดจ่อกับมันมาก ๆ  เราก็จะเกิดความตึงเครียดไม่สบายใจ  พอเราปล่อยวางกับมัน  เรากับมีความรู้สึกโล่งสบายแบบบอกไม่ถูก  นั่นก็เพราะว่าสัญชาตญาตของมนุษย์นั่นเอง ธรรมดาของมนุษย์เราต้องการปล่อยวาง  และใช้ชีวิตให้เป็นอิสระจากสิ่งแวดล้อมบ้าง  การยึดมั่นถือมั่นจึงไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นเสมอไป เราต้องรู้จักคำว่าพอดี  เพื่อให้ตัวเราได้ปลดปล่อยพลังงาน  รวมถึงรับพลังงานใหม่ ๆ ให้กับตัวเราเองบ้าง

บางทีเราเคยสำคัญตัวเองว่าเราดีกว่า  เราเยี่ยมเก่งกว่าคนอื่น  แท้ที่จริงแล้วบนโลกใบนี้  ไม่มีอะไรที่แน่นอนเสมอ  เหนือฟ้าก็ยังมีฟ้า  ต่อให้เราเก่งขนาดเราก็ยังไม่สามารถทำอะไรพร้อมๆ กันได้  และเก่งไปซะหมดทุกเรื่อง  เราอยู่ในยุคที่ต้องปรับตัวเองอยู่สม่ำเสมอ  พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง รับมือกับสถานการณ์ใหม่ ๆ  ยิ่งในช่วงยุคแห่งโควิดแบบนี้  ทุกอย่างไม่แน่นอนเลย  เราไม่สามารถกำหนดทิศทางอะไรที่ตายตัวได้  หลายคนยังโชคดีที่มีเงิน มีงานให้ทำ  แค่นี้ก็อุ่นใจไปกว่าครึ่งละครับ  

โลกแห่งการเปลี่ยนแปลงแบบนี้  ผมว่าคุณควรทำใจให้สบายไว้ก่อน  ลองหาโอกาสใหม่ ๆ  และทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนดูครับ  เผื่อว่าสิ่งที่คุณคิดว่าไม่เคยคิดจะทำ  ก็จะได้มีโอกาสได้ทำแบบจริงจังและสามารถสร้างรายได้ให้คุณอีกทางหนึ่งก็อาจเป็นไปได้  ข้อสำคัญคือคุณต้องฝึกให้ตัวเองเป็นคนที่มีความอดทน และวินัยในการใช้ชีวิตอย่างมาก  ไม่ว่าจะการงานและการเงิน สุขภาพ และการดำเนินชีวิต  สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานคือสิ่งที่สำคัญที่สุด  ในการทำสิ่งต่าง ๆ  เพราะถ้าพื้นฐานดีแล้ว  ต่อให้เป็นเรื่องที่ยากกว่าเดิมเราก็สามารถทำได้  และผ่านมันไปได้  สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราได้หวังเอาไว้  ผมหวังว่าคนที่ได้อ่านบทความนี้จะได้รับความสุข  ผ่านข้อความนี้นะครับ..

จงรู้จักให้ความรัก  แล้วคุณจะได้รับมันกลับมา......  

 

ต้องทำอย่างไรเมื่อต้องร่วมงานกับคนชอบเอาเปรียบผู้อื่น

คนเรานะครับ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนเราต่างก็มีความเป็นมนุษย์เท่ากัน  ไม่มีใครอยากถูกเอารัดเอาเปรียบหรอก  ที่ผมหยิบยกหัวข้อนี้มาพูดอันที่จริงก็ไม่ได้เจตนาที่จะไปต่อว่าใครหรอกครับ  แต่มันก็มักจะมีบางคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้จริง ๆ พฤติกรรมที่ฉลาดในทางที่ไม่ถูกไม่ควร  ฉลาดที่จะให้ตัวเองสบายแต่คนอื่นลำบาก  โดยเฉพาะการทำงาน  เมื่อเราต้องร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้  ขอให้รู้ไว้เลยนะครับว่า...ตัวเราจะเหนื่อยมาก  ไม่ว่าจะเหนื่อยทั้งกายและทั้งใจเลยเเหระ  บางทีสิ่งที่เขาทำอาจจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม  แต่การอยู่ร่วมกันเป็นสังคม  ควรเคารพสิทธิ์และหน้าที่ซึ่งการและกัน

อยากได้ความเคารพนับถือ  คุณก็ต้องทำตัวเองให้น่านับถือ

อยากให้คนรัก  คุณก็ต้องรู้จักแสดงความรักกับคนอื่น

คำถามคือถ้าชีวิตคุณพบกับคนแบบนี้  ควรทำอย่างไรดี  ที่ดีก็คือ  ทำใจครับ  มันเป็นคำตอบที่เจ็บปวดนะครับ  แต่ถ้าเราไม่ฝึกทำใจตัวเราก็จะทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น  รังแต่จะสร้างบรรยากาศที่ไม่ดีกับตัวเองและผู้อื่น  การปล่อยวางจึงดีที่สุด  อย่าไปให้ความสำคัญกับเขา  เพราะคนแบบนี้ยากที่จะไปแก้นิสัยเขาได้  เขาก็จะเป็นแบบนี้แหละครับไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาให้ตัวเขาดีขึ้นได้  สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ  การที่ตัวเราต้องเร่งฝึกฝนพัฒนาตัวเอง  ให้หลุดพ้นจากกลุ่มคนเหล่านี้ไปจะง่ายกว่า  กฎแห่งแรงดึงดูดจะดึงคุณเข้าหาสิ่งที่คู่ควรเสมอ  เพราะฉะนั้นอย่าไปเสียเวลากับเรื่องนี้เลยครับ

ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่กำลังตกอยุ่ในสถานการณ์แบบนี้ดีครับ  มันทั้งอึดอัดและลำบากใจจริง ๆ  กับการต้องทนอยู่กับคนแบบนี้  สถานการณ์แบบนี้อยากจะหลีกหรือหลบให้พ้นไปไกล ๆ  ขอให้คุณอดทนนะครับ  ใจเย็น ๆ เข้าใจ  ตั้งใจให้มาก ๆ  แล้วสิ่งที่ดีจะปรากฎกับคุณอย่างแน่นอน  เขาจะค่อย ๆ หลุดจากวงโคจรของคุณไปเอง  โดยที่คุณไม่ต้องไปทำอะไรเขาเลย  การให้อภัยเขาอย่างเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งนั้น  จึงดีที่สุดแล้ว  สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการให้อภัยผู้อื่น  แต่ที่ยากยิ่งกว่าก็คือการให้อภัยตัวเอง  การฝึกจิตใจให้อดทน อดกลั้นต่อสิ่งต่าง ๆ รักษาใจให้สงบและนิ่งอยู่เสมอ  อย่าหวั่นไหวกับอะไรทั้งนั้น  ขอให้มั่นใจได้เลยครับว่า  ทุกอย่างกำลังจะพาเราไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน  ผมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ...