เพราะ ความพอดีของคนเราไม่เท่ากัน

คุณจะสังเกตได้ว่าเวลาอยู่กับใคร แล้วมีความรู้สึกแบบไหน

บางคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอึดอัด
บางคนอยู่ด้วยแล้วรู้สึกเครียด
บางคนอยู่ด้วยแล้วมีพลังบางอย่าง

นั่นเพราะ  จิตใต้สำนึกในตอนนั้นของคนๆนั้นนะครับ  มันบอกและสะท้อนออกมาในตัวตนของเขาอย่างชัดเจนในช่วงเวลานั้นนั่นเองครับ

บางคนบอกว่าชีวิตต้องทำอย่างโน้น อย่างนี่ ถึงจะดีส่วนตัวนะครับผมว่า ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า มันจะดีจริงๆ  มันอาจดีสำหรับเขา แต่อาจไม่ใช่สำหรับเราก็ได้  บนพื้นฐานความต้องการของมนุษย์มีความชอบ ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน

บางคน  ให้ความสุขกับสิ่งรอบตัว  เพื่อน ครอบครัว คนรัก
บางคน  ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงเงินทอง
บางคน  ให้ความสำคัญกับการผจญภัย ท่องเที่ยวไปในโลกกว้างเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่
บางคน  ให้ความสำคัญกับงาน กิจกรรมต่างๆ

จะอะไรก็ตามนะครับ ทุกอย่างล้วนสำคัญถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งนั้้น  อย่าให้ใครมาบอกคุณหรอกครับว่าสิ่งนั้นเหมาะกับคุณ  สิ่งนี้เหมาะกับคุณ  (ถ้าเขาแนะนำตัวเราก็ควรนำมาพิจารณาด้วยว่า  เขาสิ่งที่เเนะนำมันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงหรือไม่  มีเหตุผล และสอดคล้องกับเป้าหมายหรือสิ่งที่เราต้องการแท้จริงหรือไม่

ไม่มีใครรู้อนาคต เหมือนกับที่ตัวเราก็ไม่สามารถทราบได้ว่า  "เรา" จะมีชีวิตไปอีกยาวนานแค่ไหน  จงทำวันนี้ให้เป็นวันสำคัญที่สุดของคุณ  มีความสุขกับมันทุกลมหายใจ  อะไรที่มันผ่านไปแล้ว สิ่งไม่ดีถ้าทิ้งไปได้ก็ทิ้งมันไปเถอะเริ่มต้นใหม่  อนาคตคือสิ่งไม่แน่นอนอย่าไปกังวลกับมันให้มาก  เริ่มทำสิ่งเล็กน้อยรอบตัว  มองหาโอกาสจากสิ่งรอบตัว  ทำตัวเองให้มีความสุขที่สุดก่อน  คนเราจะสำเร็จหรือไม่มันก็ต้องเริ่มจากตัวเอง  นั่นก็คือ เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นก่อน  อย่าไปหวังที่จะเปลี่ยนคนอื่น  ใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากๆ  เรียนรู้ ฝึกฝน สร้างผลงานของตัวเองให้เด่นชัด แล้วผู้คนจะวิ่งหาคุณเอง

หยุดบ่น แล้วมองหาโอกาส

โลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย และมีเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด

วันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา  และพรุ่งอาจเป็นวันของเราก็ได้ใครจะไปรู้  สังคมยุคใหม่เราโฟกัสแต่ปัญหา
เราบ่น นั่น โน่น นี่  จนไม่ลงมือทำอะไรเลย  บางทีนะครับผมว่าอย่าบ่นทำไปก่อนครับ  ลองผิดลองถูกไป ปัญหาทำให้เราเติบโตขี้นมาได้อยู่แล้ว  ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง  ถ้าคุณวิเคราะห์มาดีแล้วทุกอย่างต้องออกมาดี

ความล้มเหลวในชีวิตอาจไม่ใช่เรื่องแปลก  บางทีการที่เราล้มเหลวบ่อยๆ  อาจทำให้เราไม่กลัวความล้มเหลวอีกต่อไป  ชีวิตอาจมีเรื่องตลกเข้ามาให้คุณตลอดเวลาใครจะไปรู้  พรุ่งนี้คุณอาจเป็นมหาเศรษฐี  เป็นคนมีชื่อเสียงระดับโลกก็ได้  สิ่งนั้นมันไม่ได้อยู่ที่อะไร  มันอยู่ที่ตัวคุณเองวันนี้คุณมองตัวเองยังไง  อนาคตคุณจะเป็นยังไง สิ่งเหล่านี้มันฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์เราอยู่แล้ว

เวลาเจอเรื่องทุกข์  เจอปัญหา อย่าท้อไป ให้ยิ้มรับและบอกกับตัวเองว่ามันจะพาเราไปในสิ่งที่ดีที่สุด  คุณเก่งพอเท่าที่จิตใจคุณสร้างมันขึ้นมา  ถ้าอยากจะยิ่งใหญ่ก็ต้องทำจิตใจให้ยิ่งใหญ่เข้าไว้  โลกอาจจะโหดร้ายกับคุณ แต่คุณไม่จำเป็นจะต้องไปโหดร้ายกับตัวเอง หรือกับใครโอกาสมันมีอยู่รอบตัวอยู่แล้ว  อย่าได้เอาเวลาไปอิจฉาชีวิตคนอื่น  ใครจะวิ่งตามเขาก็แล้วแต่ แต่เราจะไม่วิ่งตามใคร  ตามต้องฟังเสียงหัวใจของเราเอง  และเชื่อมั่นในตัวตนของเรา

ไม่ว่าจะการทำอะไรให้ประสบความสำเร็จทุกอย่างเริ่มจากตัวเราเอง  ปัญหามันมีอยู่แล้วเราหนีไม่พ้น  การหลีกหนีปัญหาย่อมไม่ใช่เรื่องทีดีแน่  ยอมรับกับปัญหาและหาทางแก้ไข  เพราะนั่นมันจะทำให้คุณเติบโตขึ้น และแตกต่างจากผู้คน  ใครจะว่าอย่างไรไม่ต้องไปสนใจขอให้เชื่อมั่น และมุ่งหน้าต่อไปเรื่องแล้วความสำเร็จจะบอกคุณเอง

เมื่อตอนเป็นเด็กเราไม่รู้อะไร  ทุกอย่างมันช่างยากเหลือเกิน พอโตขึ้นเราได้เรียนรู้อะไรมากมาย  เรามีความรู้ ความสามารถที่มากขึ้น  ทุกอย่างดูง่าย  นั่นเพราะ เกิดจากการฝึกฝน ปฎิบัติเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา  วันนี้อาจยังเอาไปใช้ไม่ได้  แต่สักวันการเตรียมความพร้อมย่อมดีกว่าอยู่แล้วครับ  คนที่มีอาวุธทางปัญญาในมือย่อมได้เปรียบผู้อื่นเสมอ

การเอาใจใส่

งานทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่จะยากเกินไปกว่าความสามารถของมนุษย์เราไปได้หรอกครับ

ทำงานอะไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญทีสุดคือ "คุณต้องใส่ใจในงานนั้น"
ไม่ว่าจะเป็น การเรียน การทำงาน การทำธุรกิจ หรืออะไรก็ตามครับ คนที่มีความใส่ใจและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น  มักจะเป็นคนที่แก้ปัญหาได้เก่งที่สุด  โลกไม่ต้องการคนเก่ง แต่โลกต้องการผู้กล้า  ผู้ทีสามารถแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้

โลกในยุคนี้ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ความรู้ก็สามารถที่จะเรียนเรียนได้เท่าๆ กันขึ้นอยู่กับว่าใครมีความสนใจ และใส่ใจศึกษามากกว่ากันครับ  คนที่เป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนเก่งที่สุดก็ได้  แต่เพราะเขาเป็นคนที่มุ่งมั่น  ทำไม่หยุด พยายามเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะตัวเองอยู่เรื่อง  การไม่หยุดนิ่ง ย่อมทำให้เกิดการเติบโตอยู่แล้วครับ

คนพูดเก่ง กับ คนพูดมากเป็นคนละเรื่องกัน  คนพูดเก่งก็คือ คนที่ฟังเก่ง  คนที่ฟังมากๆแท้จริงคือ คนฉลาด มนุษย์เรามีปาก 1 หู 2 นั่นก็เพราะว่าต้องการให้เราเป็นผู้ฟัง  มากกว่าที่จะเป็นผู้พูดนั่นเอง

มีคนเคยพูดไว้ว่า

ความคิดกำหนดการกระทำ   การกระทำกำหนดนิสัย  นิสัยกำหนดพฤติกรรม

นั่นแหละครับจึงเป็นเหตุให้คนต้องรู้จัก ระมัดระวัง คำพูดและความคิดให้มากๆ  การพูดเป็นเสมือนมีดสองคมที่คอยฟันใครขาดก็ได้   เวลาคุณโกธรควรนิ่งให้มากๆ  ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา  อย่าใช้แต่อารมณ์   ชี้แจ้งเหตุผลให้เขาทราบแบบชัดเจนเพื่อให้เขารู้ความจริง  ส่วนว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่นั้น ต้องให้เวลากับเขา  ถ้าเขาเข้าใจก็เป็นผลดีกับเขาไป  แต่ถ้าเขามีอคติหรือไม่เข้าใจ  เราก็ไม่ควรไปโกธรเขา  ต้องปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

การเป็นผู้นำ นอกจากต้องมีจิตใจที่กว้างแล้ว  ต้องมีความเสียสละและให้โอกาสผู้คน  ทุกคนมีความสามารถ และยอมรับในข้อแตกต่างนั้น ใช้ชีวิตแบบหนักแน่นและมั่นคง เป็นที่รักของผู้คน เป็นนักแก้ปัญหาอย่าโยนปัญหา  และยอมรับผิดในสิ่งทีทำ  อย่าเอาแต่โทษผู้อื่น   ที่สำคัญใช้ชีวิตให้พอดีและมีความสุขมากที่สุด

ฝึกฝนตัวเองให้เป็นมืออาชีพ  ด้วยการเป็นคนธรรมดาที่ใส่ใจกับทุกเรื่องของชีวิต  ใช้ชีวิตอย่างมีสติทุกเวลา  แค่นี้เองครับคือเคล็ดลับที่จะให้คุณแตกต่าง เมื่อถึงเวลานั้นประตูเงินและโอกาสจะวิ่งเข้าหาคุณ เคล็ดในชีวิตก็ง่ายๆแค่นี้เองครับ

เพราะมันเบื่อ

มีไหมครับวันที่ไม่อยากทำอะไรเลย รู้สึกเบื่อไปหมด 5555+

เขาเรียกโรคนี้ว่าโรคขี้เกียจครับ  โรคนี้ผมว่ามันคงมันทุกคน  เอาละครับ แล้วเราจะไม่ให้ตัวเอง
ขี้เกียจยังไงดี  ผมว่าไม่ต้องทำอะไรครับ  555+

ให้มองดูมันอย่างนั้นแหละครับ ดูว่าความเบื่อมันหน้าตาเป็นยังไง แล้วสุดท้ายมันจะเป็นยังไงต่อ
เอาเถอะครับ  จะให้เบื่อก็ให้เบื่อแบบสุดๆ ไปเลยครับ  เอาจริงๆ นะชีวิตมันไม่มีอะไรแน่นอนหรอก
ตอนนี้เราเบื่อ  สักพักก็เปลี่ยนไป อารมณ์เป็นอะไรที่เปลี่ยนตลอดเวลา  เดี๋ยวสุข  เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวทุกข์
เรียกว่าชีวิตมีครบทุกรสชาติ

ลองไม่ต้องทำอะไรดูครับ นั่งอยู่นิ่งๆ  จนจิตใจมันสงบไปเอง  ยิ่งเราไปทุกข์ร้อนกับมัน ก็มีแต่ทุกข์ใจ
เปล่าๆ  ถ้าสงบจิตใจไม่ได้แนะนำเลย นอนเลยครับ หลับไปเลยตื่นขึ้นมาเดี๋ยวคุณก็อารมณ์ดีเอง  ผมโชคดีนะครับ ที่ได้มีโอกาสได้เจอเพื่อดีๆ ทีคอยให้คำแนะนำในช่วงที่เจอวิกฤตต่างๆ และผมก็ผ่านมาได้

บางทีความเบื่อมันไม่ได้มีอยู่จริงซะด้วยซ้ำ  อาจเพราะเราปล่อยให้จิตใจเราไม่อยู่กับปัจจุบันต่างหาก  ถ้าหากไม่ปล่อยจิตใจให้ลอยไปเรื่อยเปื่อยมีสติอยู่ตลอดเวลา ความเบื่อจะไม่มีทางเกิดกับคุณได้  คิดจะทำการใหญ่อะไรขอให้มีสติให้มากๆ  การใดยังไม่ถึงเวลา หรือยังไม่ควรก็เบรคไว้ก่อน  กาลใดเรามองว่าสบโอกาสก็ลุยเลยนะครับ อย่ามัวแต่รอเพราะถ้าเราเตรียมตัวมาดีแล้ว แสดงว่าลดความเสี่ยงไปได้มากแล้วครับ

ไม่มีใครจะบอกอนาคตคุณได้ดีเท่าตัวคุณหรอก  หลายคนเที่ียวถามว่าทำไมชีวิตตัวเองไม่่เปลี่ยนสักที  นั่นเพราะ  "คุณเปลี่ยนตัวเองหรือยัง"  โลกจะเปลียนตามสถานการณ์  อยากเปลี่ยนอะไรต้องเริ่มเปลี่ยนที่ตัวเองก่อน  อยากได้ความรัก ความเคารพจากใครก็ต้องให้รักและความเคารพกับเขาก่อน   อยากได้ความเชื่อใจ ความจริงใจก็ต้องจริงใจกับเขาก่อน  ชีวิตมันต้องแลกกันนะครับ อย่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว  เราเอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง  ในสุดท้ายเราจะเสียคนดีๆ ในชีิวิตเราไปหมดแน่นอน  บางทีต้องยอมเสียสละเล็กน้อยบ้าง   เพื่อได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

นาฬิกาไม่อาจเดินทวนเข็มนาฬิกาได้  ชีวิตเราไม่ว่าจะอะไรก็ตามเราต้องเดินต่อไปให้ได้  ความสำเร็จมันไม่ดังเท่าหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณหรอกครับ  ถ้าคุณมั่นใจ และเชื่อในสันชาตญานว่าคุณต้องสำเร็จมันก็ต้องสำเร็จแน่นอนครับ  หยุดฟังเสียงคนอื่น ฟังแต่เสียงภายในใจของคุณ  เป็นตัวของตัวเองและวิ่งตามความฝันของคุณ ไปคว้าเอามันมาให้ได้  เพราะชีวิตเป็นของคุณ

เตรียมพร้อมตั้งแต่เริ่มต้น

อะไรที่เราให้ความใส่ใจหรือให้ความสำคัญมันก็จะยิ่งเพิ่มความสำคัญมากขึ้น

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษที่สามารถเรียนรู้ สิ่งต่างๆ รอบตัวได้และเติบโตไปกับมัน  ไม่ว่าจะเจอปัญหาหรือเหตุการณ์ใดๆ ก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยดี

ที่ผมต้องการสื่อก็เพื่ออยากจะบอกว่า  ถ้าหากคุณชอบหรือถนัดในสิ่งไหน  จงฝึกฝนและทำสิ่งนั้น บ่อยๆ ตอนนี้อาจไม่เก่ง  แต่สักวันหนึ่งคุณต้องเก่งอย่างแน่นอน การฝึกฝนอย่างไม่ลดละ อะไรที่มีให้ทำ ให้ทำไปเถอะครับ  อย่าเอาแต่นั่งบ่นกับชีวิต เพราะมันไม่ก่อประโยชน์ใดๆ กับชีวิตของคุณ  มีแต่ทำให้จิตใจคุณย่ำแย่  ถ้าคิดในทางบวก คุณก็เก่งขึ้นจากการลงมือทำอย่างแน่นอน

ตอนเด็ก  เราก็กลัวนั่น โน้น นี่ พอโตขึ้นเรื่องที่เรากลัวก็กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย  คนเรายิ่งโตขึ้นปัญหาก็ยิ่งใหญ่ขึ้น  นั่นเพราะมันบ่งบอกถึงว่าคุณกำลังเติบโต (โตไปพร้อมกับปัญหา และนักแก้ปัญหาจะประสบความสำเร็จในระยะยาว)  ฝึกเป็นคนอารมณ์ขันบ้างก็ได้นะครับ  ชีวิตนี้มันน่าอยู่มาก

ผมอยากให้คุณเชื่อ และศรัทธาในตัวของคุณเอง  มนุษย์เราหากปราศจากซึ่งความเชื่อก็ทำให้ชีวิตขาดเป้าหมายสุดท้ายคุณก็จะท้อใจได้  ลุกขึ้นสู้ต่อไป  อย่าได้ลังเลในสิ่งที่ตัวเองกำลังเชื่อ หรือศรัทธา  หากจำเป็นต้องทิ้งอะไรบางอย่างเพื่อแลกกับอะไรบางอย่างให้มันดีขึ้น ก็ควรทำ  อย่าติดนิสัยเดิมๆที่ทำให้คุณเดินไปข้างหน้าไม่ได้  ใครเขาจะมองตัวคุณอย่างไรไม่สำคัญเท่ากับตัวเราเห็นอะไรในตัวเรา

ตัดสินใจไปเลยครับว่าตัวคุณ คือใคร มีความสามารถมากเพียงไหน มองเห็นตัวเองให้ชัดเจน คุณอยู่จุดไหนและจะไปยังจุดไหนต่อ ตัวคุณเก่งมาก มีความสามารถรอบด้าน  จงภาคภูมิใจในตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ บางทีกำแพงที่กลั้นคุณกับความกลัวอยู่  มันอาจไม่มีอยู่จริงก็ได้  ฝึกคิดวิเคราะห์ด้วยเหตุและผล  คิดบวกเข้าไว้  พลังงานแห่งจิตใจจะนำคุณเข้าไปในทางที่ถูกที่ควร

เปลีี่ยนข้างในของคุณ  วางพิมพ์เขียวให้ตัวเองใหม่  เมื่อจิตใจคุณใหญ่พอคุณก็จะได้ในสิ่งที่คุณคู่ควร  นั่นแหละครับ ธรรมชาติมักจะให้สิ่งที่เหมาะสมกับคุณ  มองเข้าไปข้างในของคุณ  ชำระล้างจิตใจของคุณให้สะอาด และฝึกอยู่กับปัจจุบัน  ความเรียบง่ายจะนำคุณไปหาสิ่งที่เรียบง่ายและยิ่งใหญ่

ล้มไปข้างหน้ายังดีกว่าปล่อยให้ชีวิตนิ่งอยู่กับที่  ว่างๆ ลองไปศึกษาเกี่ยวผู้นำ หรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลายๆท่านดูครับว่า  กว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร  มันไม่ง่าย ทุกอย่างต้องอาศัยความอดทน และการลงมือทำอย่างไม่ลดละ  จนพบกับความสำเร็จ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณชื่นชมในความร่ำรวยของเขานะครับ แต่ให้ชื่นชมในความมานะพยายาม  ล้มแล้วไม่เคยเลิก นั่นแหละครับที่ทำให้คุณเป็นยอดมนุษย์

ทางออกของทุกข์

ผมว่าทางออกของทุกข์ก็คือ การไม่ทุกข์

ไม่ยากครับ  วิธีง่ายๆ ก็คือ ทำงานที่ต้องใช้ความคิด และทำให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอดเวลา เท่านี้คุณก็ลืมความทุกข์ไปแล้ว

สำหรับหลายคนอาจใช้วิธีการฝึกสมาธิก็ได้นะครับ  แต่วิธีนี้ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่มีจิตที่มั่นคงระดับหนึ่งมาแล้วครับ  หากใครที่ทุกข์แล้วไปนั่งสมาธิโดยที่ไม่เคยฝึกสมาธิ สิ่งที่ได้เหรอความฟุ้งซ่านมากกว่าเดิมแน่นอนครับ

อย่าไปทำตามคนที่คนส่วนใหญ่ทำกันเลยครับ  อะไรที่เขาว่าดี คงต้องมีอะไรซ่อนไว้อยู่แน่นอน อะไรดีไม่ได้  จิตของมนุษย์เราบอกเองได้ครับ  (วิธีสังเกตง่ายคือ อะไรแล้วจิตใจเราสงบ มีสุข และมีความสุข นั่นแหละครับคือสิ่งที่ถูกต้อง)  แต่ถ้าทำไปแล้วยังมีความเคลือบแคลงสงสัยแบบนี้ ไม่เรียกว่าสุขแท้หรอกท่าน

บางทีเราวิ่งตามอะไรอยู่ก็ไม่รู้จนรู้สึกว่าชีวิตนี้ยุ่งไปหมด  ไม่รู้จักจบสิ้นสักที เรามีความอยาก ความต้องการมากขึ้น  เรารับเอาวัฒนธรรมจากที่นั่น โน่น นี่ เข้ามาเป็นของเราจนลืมไปว่า ไทยแท้ เป็นยังไง บ้านเมือง ชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมสิ่งเหล่านี้คือมนต์เสน่ห์ของคนไทยที่เราควรบำรุงรักษาไว้ให้จนชั่วลูกชั่วหลาน  อย่าไปหลงวัฒนธรรมต่างชาติจนลืมแก่นแท้ของเรา

ที่เราทุกข์กันทุกวันนี้ก็เพราะเราวิ่งตามวัฒนธรรม ตามค่านิยมของภายนอกมากเกินไป  ค่านิยมสำเร็จรูปบางทีอาจทำร้ายเราในทางอ้อมได้  จงยืดหยัดที่จะเป็นตัวเอง  ยึดมั่นในคุณธรรมความดีงาม ชัดเจนในการใช้ชีวิต แล้วชีวิตคุณก็จะชัดแจ้งครับ

ความกลัวกับโอกาส

สองเรื่องแค่พลิกมือเองครับ  มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองมันในรูปแบบไหน

บางคน "กลัว"  และไม่กล้าลงมือทำอะไร
บางคน "กลัว" แต่ก็กล้าที่จะสบตาและเผชิญหน้ากับความกลััว
บางคน "กลัว" ไว้เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

บางคน "กล้า" ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด
บางคน "กล้า" ทำในสิ่งที่คาดคิด
บางคน "กล้า" ได้กล้าเสีย
บางคน "กล้า" ในทางที่ผิดหรือเสียหาย

ไม่ว่าจะอย่างไรสองคำนี้แทบจะแยกกันไม่ออก  มนุษย์ถ้าปราศจากความกลัวแล้ว ความกล้าคงไม่มี  แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าปล่อยให้ความกลัวกัดกินหัวใจ ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรในที่สุดก็จะทำร้ายตัวเราเอง   โอกาสมันมากับความกลัว  โดยเริ่มจากตัวเราต้องกล้าที่จะลงมือทำและฝ่าฝันปัญหาและอุปสรรคให้ได้ก่อน

ใช้ความ "กล้า" เป็นตัวผลักดันความ "กลัว"
ใช้ความ "กลัว" เพื่อสร้าง "โอกาส"

บนเส้นทางของชีวิตเราอาจไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น  แต่สิ่งที่เรารู้คือ ต้องทำปัจจุบันให้ออกมาดีที่สุด  มองตากับความกลัว  อยู่กับปัญหาให้ได้  ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา  ความเรียบง่ายคือ สมดุลที่ธรรมชาติต้องการให้เราทุกคนเป็นแบบนี้ครับ

ตำราพิชัยสงคราม

คุณว่าตำรา หรือ ยุทธวิธีที่มนุษย์เราหรือพวกนักปราชญ์ยุคโบราณได้เขียนไว้ มีความสำคัญไหมครับ

ใช่ครับโลกเราอาจไม่ได้มีสงครามเหมือนยุคก่อนโน้น  แต่ภายใต้ความสงบเรากำลังเล่มเกมกับสงครามระหว่างประเทศ ในเรื่อง เศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ  แต่ละประเทศต่างต้องการเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด

ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ตราบใดที่คุณยังไม่หมดกิเลสเป็นเรื่องธรรมดาที่ยังมีความต้องการเฉกเช่นปถุชนทั่วไป  ประเทศใหญ่ย่อมได้เปรียบประเทศเล็กนั้นก็เป็นเรื่องปกติ  ทีนี้แล้วตำราพิชัยสงครามเกี่ยวกันยังไงละครับ  (หลายคนอาจบอกว่าไม่เห็นเกี่ยวกันเลย)

อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงครับ  แต่...ถ้าลองไปศึกษาหาความรู้ดู  คุณจะเข้าใจอะไรบางสิ่ง บางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตำราเหล่านั้น  เราศึกษาอดีตเพื่อเรียนรู้อนาคต  (ทุกอย่างเป็นวงจรของมันครับ)  ใช่ครับว่าในยุคเราอาจจะหานักปราชญ์ผู้กล้าที่จะมาเขียนตำราอะไรแบบนั้นได้ยาก  เนื่องจากข้อจำกัดในหลายด้าน  แต่เราศึกษาประวัติศาสตร์ของชาตินั้นๆได้ครับ  เช่น อยากไปลงทุนประเทศไหน ศึกษาประวัติศาสตร์บ้านเขาก่อนครับ  แล้วมาวิเคราะห์ดู เพราะเชื่อได้เลยครับว่ามันเปลี่ยนแปลงไปก็จริง แต่ก็ยังคงฝั่งรากฐานของระบบการเมืองการปกครอง สังคมในรูปแบบนั้นๆอยู่แน่นอน

โดยเฉพาะประเทศไทย  ในอนาคตประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ผู้สูงอายุมากกว่าเด็ก  จะเห็นได้จากอัตตราการเกิดน้อยกว่าการตายด้วยซ้ำ  และปัญหาที่หนักกว่านั้นก็คือ เด็กรุ่นใหม่ความอดทนต่ำมาก  ผมไม่ได้เหมารวมนะครับ เด็กบางคนก็มีดี  การปลูกฝังรากฐานตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงกันมาก  ผมอยากให้รัฐบาลใส่ใจเรื่องพวกนี้มากกว่าเรื่องคอรัปชั่นมากๆเลยครับ  ถ้าคุณปลูกพื้นฐานเด็กเหล่านี้ให้มีคุณธรรม ต่อไปเด็กย่อมโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้  ส่วนตัวผมเชื่อในเรื่องนำคนดีมาดำรงตำแหน่งอยู่แล้วครับ  เพราะคนดีเมื่อมาดำรงตำแหน่งอยู่ก็สามารถสร้างระบบที่ดีได้  แต่ถ้าระบบที่ดีแต่เอาคนไม่ดีมาดำรงตำแหน่ง ระบบก็จะพังและพินาศไปในที่สุด

เด็กคืออนาคตที่สำคัญของประเทศชาติ  ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ไม่ใช่มาทะเลาะกันแต่เรื่องผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  ถ้าคุณรักประเทศชาติจริงเรื่องแบบนี้ไม่ต้องพูดให้ยืดยาวหรอกครับ  อนาคตเราก็ไม่อาจรู้หรือไปคาดเดามันได้ครับ  เอาเป็นว่าเราในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง หน้าที่ที่ดีที่สุดของเราก็คือ การเป็นคนดี  และตอบแทนสังคม ประเทศชาติ และสถาบัน ชาติ กษัตริย์ เท่านี้ก็ถือว่าเยี่ยมที่สุดแล้วครับ

แด่ คนที่กำลังหลงทาง

ใช่ครับชีวิตเราบางทีก็มีหลงทางกันบ้างไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร

แต่ ทำยังไงละครับ จะให้เราเดินออกมาจากจุดนั้นให้ไวที่สุด  ไม่ยากเลยครับ

1.คุณต้องเลิกวิ่งตามคนอื่น  อะไรที่เขาว่าดี อะไรที่เขาว่าเหมาะกับเรา (คุณรู้คำตอบดีที่สุดครับ)
2.เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองให้มากๆ  ลองงดเล่นอินเตอร์เน็ตบ้าง ไม่ต้องเป็นสาวกอยู่หน้าจอโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา แล้วเมื่อพบว่าคุณเบื่อนั้นแหละคุณจะได้คำตอบอะไรบางอย่าง
3.เชื่อในจิตใต้สำนึกของคุณ  มีไหมครับเวลาที่นอนหลับอยู่ๆก็มีไอเดียดีๆ เกิดขึ้นตอนที่คุณนอน ให้ฝืนตัวเองลุกขึ้นมาจดไอเดียนั้นนะครับ อย่าเอาแต่นอน ผลลัพธ์มักมากับสิ่งที่เราคาดไม่ถึง
4.คบเพื่อนใหม่ๆ  การคบเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ  เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บางทีเพื่อนใหม่เหล่านี้ก็นำสิ่งดี ๆ มาสู่คุณได้ครับ
5.ลงมือทำเป็นชิ้นเป็นอัน  เริ่มจากสิ่งที่คุณชอบ สนใจก่อนก็ได้ครับ ทำไปเรื่อยจนคุณกลายเป็นคนเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ
6.งบการเงินส่วนบุคคล  การวางแผนการเงินส่วนบุคคลยังไงก็สำคัญครับ  คนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน  ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จน้อยมาก
7.หนังสือ  การท่องโลกกว้างอาจให้ประสบการณ์ดีๆมากมายกับคุณ  แต่หนังสือเป็นการท่องโลกกว้าง ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการใหม่ๆ ที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากทีเดียวครับ
8.อย่าโฟกัสที่เงิน  หลายคนทุกข์ใจ เป็นกังวลมากๆ ส่วนใหญ่คงหนี้ไม่พ้นเรื่องเงินๆ ทองๆ เงินมักจะตามมากับปัญหา  เวลาทำอะไรอย่าเพิ่งไปโฟกัสที่สิ่งนี้ก่อน ให้หาในสิ่งที่คุณมีความสุข และรัก ชอบที่จะทำมันจริงๆก่อนครับ  มีสไตส์เดี๋ยวสตางค์จะตามมา
9.ชัดเจน  คนเราถ้าทำอะไรแบบขอไปที ไม่ชัดเจนไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม  คุณย่อมได้ในสิ่งที่ไม่ชัดเจนเช่นกัน  อยากให้ชีวิตตัวเราเป็นแบบไหนชัดเจนไปเลย
10.มีวินัย  ข้อนี้จริงๆสำคัญเป็นอันดับแรกเลยนะครับ  ไม่ว่าจะทำอะไรให้สำเร็จถ้าเราขาดวินัยแล้วย่อมสำเร็จได้ยาก คิดแล้วทำ ฝึกสร้างวินัยโดยเริ่มจากสิ่งเล็กน้อยๆ และการใช้ชีวิตประจำวันของคุณจนเป็นนิสัยก่อน  แล้วเรื่อยใหญ่ๆ ก็จะง่ายไปหมดเอง

เคล็ดไม่ลับ 10 ข้อ ผมว่าทุกคนทำได้  ไม่จำเป็นต้องไปจำกัดอายุตัวเองหลอก ทุกช่วงเวลาย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา  ขึ้นอยู่กับเวลาและสถานการณ์นั้นๆ  แค่บอกกับตัวเองเสมอว่า เราไปต่อได้ ชีวิตมันก็เดินต่อไปได้ละครับ  

ปัญหาคือ ยาวิเศษ

ปัญหาคือยาวิเศษ  หลายคนบ่นเวลาเจอปัญหาหรืออุปสรรค  ปัญหาหรืออุปสรรค์นั่นแหละครับจะเป็นเครื่องบอกคุณว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน  ยิ่งคุณแก้ปัญหาได้มาก  คุณก็ประสบความสำเร็จมาก  จริงหรือ

ถ้าไม่จริงแล้วทำไมคนที่ประสบความสำเร็จร้อยทั้งร้อยคือนักแก้ปัญหาที่ดีละครับ
ไม่มีใครเป็นคนที่เก่งตั้งแต่เกิด  แต่มันอยู่ที่ว่าใครแก้ปัญหาได้เก่งกว่ากัน

บางคนมองปัญหาเป็นอุปสรรค์หรือข้อจำกัดในชีวิต  แต่ในคนอีกกลุ่มหนึ่งเขามองเป็นโชคดีที่มีโอกาสได้เรียนรู้แก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา  เพราะอะไรนะหรือครับ  เพราะเขาโฟกัสไปที่เป้าหมายของเขามากกว่าปัญหาไงครับ   คนเราถ้ายิ่งไปโฟกัสกับปัญหา ปัญหาก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  แต่ถ้าคุณไม่โฟกันที่มันทุกอย่างก็แค่เรื่องเล็กๆที่คุณต้องผ่านมันไปให้ได้

หลายคนมองความสำเร็จ  คือ การมีเงินทองทรัพย์สินจำนวนมากๆ เป็นตัววัดความสำเร็จแท้จริง ไม่ใช่ ผมไม่ปฎิเสธนะครับว่าเงินคือ ความจำเป็นพื้นฐานของโลกในระบบทุนนิยม  เงินทำให้เรามีทางเลือกที่มากขึ้น  แต่เงินไม่สามารถวัดความสุขและความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิตของเราได้

บางคน  ต้องการทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้ผู้คนยอมรับ
บางคน  ต้องการออกไปตามหาโลก ท่องเที่ยว ผจญภัยไปในที่ต่างๆ
บางคน  ต้องการหลุดพ้น  เข้าหลักแก่นแท้ของชีวิต
บางคน  ต้องการสร้างสิ่งใหม่ๆให้กับโลก เช่น สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ นวัฒนกรรมใหม่ๆให้กับโลกใบนี้
บางคน  ต้องการสร้างความสำเร็จให้กับผู้คน

จะเหตุผลใดก็ตามครับ ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน  การเอาเงินทองทรัพย์สินเป็นตัววัด ย่อมไม่ใช่เหตุผลของทั้งหมดอย่างแน่นอน  เลือกโจทย์ชีวิตของคุณให้ถูกต้องแล้วคุณจะพบว่าถ้าคุณได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง  ผลลัพธ์ที่คุณต้องการมันก็จะถูกต้องเช่นกัน

ใครจะว่าคุณมโนไร้สาระอะไรก็ช่างเขาเถอะครับ  เพราะชีวิตเป็นของเรา เราย่อมรู้ดีที่สุด  นึกถึงภาพที่คุณต้องการบ่อยๆ ชัดๆ หายใจเข้าออกเป็นมัน  จะสำเร็จไม่สำเร็จขึ้นอยู่กับคุณไม่ใช่ใครตัดสิน  ดีกว่ามานั่งเสียใจตอนแก่แล้วพูดว่า  เสียดายจัง ไม่ได้ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้  อย่าเอาข้ออ้างเรื่องอายุ หรือปัญหาต่างๆมาเป็นข้อจำกัดในการสร้างความสำเร็จของตัวเอง  คนที่สร้างข้อจำกัดให้ตัวเองแล้วมาโทษนั่น โน่น นี่ ก็คือคนที่คิดไม่เป็น  ถ้าคุณแน่จริงกับชีวิตเรื่องดีๆต้องเกิดกับคุณอย่างแน่นอน

ที่สำคัญที่สุดคุณต้องไว้ใจตัวเอง  เวลาเจอปัญหาหรือทางเลือกใดๆ เข้ามาหลอกให้ชีวิตคุณเดินไปไม่ถูกขอให้เชื่อในสัญญาตญานของตัวเองให้มากๆ   เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้  ปัญหาแค่นี้เล็กๆ  แล้วคุณจะผ่านมันไปได้เอง  ผมขอให้ทุกคนโชคดีกับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตครับ

เรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนๆ

มนุษย์ฺเราตั้งแต่เกิดมา  นอกจากพ่อแม่ พี่น้อง  สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ เพื่อนครับ

เพื่อนนี่แหละจะเป็นเหมือนกระจกที่คอยส่องตัวเราได้ดีที่สุด

ได้เพื่อนที่  มันก็จะพาเราไปในทางที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์
ได้เพื่อนไม่ดี  ก็นำความหายนะให้เราเช่นกัน

ที่พูดอย่างนี้ผมไม่แน่ใจพวกคุณเป็นเหมือนผมหรือเปล่า เวลานัดเจอเพื่อนเก่าทีไร  เรื่องร้ายกาจของเราเรียกว่า บางทีเรานะลืมไปแล้ว แต่มันยังติดตรึงในสมองของเพื่อนเราอยู่เลย  (เจอกันทีนี้ยกมาเล่าเป็นฉากๆ ยิ่งกว่าเป็นเรื่องของตัวเองซะอีกครับ 555+)

ไม่รู้ควรดีใจหรือเสียใจดีนะครับ  แต่ก็อย่างว่าแหละเพื่อนก็คือเพื่อน  เขาไม่ได้ตั้งใจให้เราขายหน้าหรอกก็แค่ขำขำนะครับ  จะโทษก็ต้องโทษที่ตัวเราต่างหากว่า ตอนนั้นทำเรื่องแบบนั้นไปได้ยังไง  555+
เวลาผ่านไปนานๆ อายุมากขึ้นเพื่อนเราก็น้อยลง  แต่ก็ได้เพื่อนที่มีคุณภาพมากขึ้น  ผมว่าเรื่องเพื่อนพูดไปมันยาวเเหระ  ที่ยกเรื่องนี้มาพูดก็แค่อยากจะบอกว่า

"การคบเพื่อนส่งผลต่อการประสบความสำเร็จของเราเป็นอย่างมาก"

คุณอยากให้ชีวิตคุณเป็นแบบไหน เพื่อนที่คบจะบอกได้อย่างชัดเจนว่าอนาคตคุณจะเป็นอย่างไร  อย่างว่าแหละบางคนถามแล้วไอ้คนรวยๆมันอยากจะคบกับเราเหรอ  ผมไม่ได้หมายความว่าคุณต้องคบคนรวย  คนรวยบางคนก็ใช่ว่าจะมีความคิดที่เข้าท่าซะหน่อย

สิ่งที่ผมบอกหมายถึง  ให้เลือกคบบัณฑิต ต่างหาก  การคบบัณฑิตยังไงก็ไม่พาเราไปในทางเสื่อมอย่างแน่นอน  บางทีอาจมีเหตุการณ์เพื่อให้คุณต้องไปอยู่ในที่ๆ อาจไม่เหมาะกับคุณ  แต่ในท้ายที่สุดก็ต้องผลักออกจากกันอยู่ดี  คนที่มีพลังงานที่คล้ายกันจะดึงดูดเข้าหากัน  แต่คนที่มันเหมือนกันก็ผลักออกจากกันเช่นเดียวกัน  บางทีเราก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร  ไม่ว่าจะสุขทุกข์  เพื่อนก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เราคล้ายทุกข์ กังวลใจไปบ้างในบางเวลา  เรารู้สึกว่าเวลาอยู่กับเพื่อนเราเป็นตัวเองตัวเองที่สุดแล้ว  เพราะมันเข้าใจเรา และในขณะเดียวกันเราก็เข้ามันเหมือนกัน

แด่วันเพื่อนแห่งชาติครับ  หยุดยาวสงกรานต์ขอให้ทุกคนพบเจอแต่เรื่องดีๆ  คิดทำ วางแผนการงาน การเงินอะไรก็สมหวังกันทั่วหน้านะครับ  อะไรที่อยากทำก็รีบๆทำนะครับ  โอกาสไม่ได้วิ่งเข้าหาเราทุกวัน อยากทำทำไปเลย ไม่ต้องลังเล  (ขอให้เป็นทางที่ถูกที่ควรนะครับ)  เรื่องอะไรที่ไม่ดีก็ให้มันผ่านไปกับสงกรานต์นี้นะครับ  เริ่มต้นชีวิตใหม่  เพราะชีวิตคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับอดีตแต่มันขึ้นอยู่ปัจจุบันที่คุณทำนั่นแหละครับ

ปัญหาคือเพื่อนที่ดีที่สุด

การจากลาเป็นเรื่องที่เราต้องพบเจอไม่ว่าเราอยาก หรือ ไม่อยากก็ตามแต่

ชีวิตมันก็ตลกนะครับ  คนที่เราไม่อยากให้เขาจากไปไหนกลับต้องจากเราไปเร็วกว่าที่คิด
คนที่ที่อยากให้เขาออกจากชีวิตเราไวๆ  เขาก็ไม่หนีหน้าไปไหน สังคมที่วัดความแน่นอน
อะไรไม่ได้  ในท้ายที่สุดเราก็แค่มีทางเลือกอยู่ 2 ทางแหละครับ  ทนอยู่  กับ อยู่ทน

ทนอยู่  ก็เพราะจำเป็นต้องอยู่เพราะหาที่ไปยังไม่ได้
อยู่ทน  ก็เพราะมีความอดทนอดกลั้น และคนแบบนี้แก้ปัญหาเก่ง แต่เมื่อเจอลู่ทางใหม่ๆเขาก็พร้อมโบกมือลา

จะอะไรก็ช่างเหอครับชีวิตยังไงมันก็ต้องไปต่อให้ได้  ล้มสักกี่ครั้งมันก็ต้องลุกขึ้นมาต่อ  โลกนี้ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับคนที่อ่อนแอหรอกครับ  บางทีนะโลกส่งบทเรียนมาให้เรานั่นก็เพราะเพื่อเป็นบทพิสูจน์เราไงครับ  ว่าเราจะผ่านมันไปได้หรือเปล่า   บางทีความเจ็บปวดมันก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมดหรอกครับ  มันอาจทำให้เราพบกับคำตอบใหม่ๆให้กับชีวิตก็เป็นไปได้  ชีวิตมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดแต่มันจะเป็นไปตามสิ่งที่เราทำ

คิดดี  ทำดี  พูดดี เข้าไว้ครับ  แล้วเรื่องดีๆ  คนดีๆ จะดึงดูดเข้าหาคุณเองเชื่อผม
คนเก่ง คนที่เขาประสบความสำเร็จรู้กฏเหล่านี้เป็นอย่างนี้  ในมุมมืดที่คนมองไม่เห็นเพราะทุกคน
ไปโฟกัสแต่ความสำเร็จของเขาจนลืมมองสิ่งที่เป็นมุมที่เขาก็เคยเจ็บปวดมาก่อน

ถ้าวันหนึ่งวันที่ถึงเวลาที่คุณต้องเดินออกมาจากจุดที่ไม่เหมาะกับคุณ  คุณก็แค่ทำหน้าที่ของคุณให้มันดีที่สุด  เพื่อ ตัวคุณเองแหละครับไม่ใช่ใครที่ไหน  ทางข้างหน้าก็ยังจะเจอปัญหาอีกมากมาย ยิ่งเราฉลาดและแก้ปัญหาได้เก่งแค่ไหน  ก็ทำให้เราผ่านมันได้เร็วและก้าวกระโดดมากขึ้นเท่านั้น  มองทุกอย่างให้ทะลุ  แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี

อย่าเก็บความสงสัยหรือความไม่รู้ไว้ในใจ  ไม่รู้ก็หาคำตอบ หาวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆให้ได้  อย่าอวดดี คิดว่าตัวเองเก่ง สุดยอด เพราะไม่มีทางที่คุณจะผ่านมันไปได้ถ้าคุณไม่รู้จักจัดการกับปัญหาเหล่านี้  อย่าไปน้อยใจกับวาสนา  วาสนาหรือโชคชะตาอยู่ที่คุณ  คุณเลือกให้มันเป็นไปตามที่ใจคุณคิด  ขอให้อดทน อีกสักนิดนะครับ  พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่เสมอ คุณพร้อมผมก็พร้อมครับ

กฏหมายหรือกฏหมู่

ช่วงนี้ข่าวสารตามหน้าทีวีและเฟสบุ๊ค  ต่างพูดถึง ม.44 ในเรื่องการแก้ไขข้อกฏหมายต่างๆที่เกิดขึ้นกับสังคมเราปัจจุบันนี้  หลายฝ่ายต่างมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน  ถ้าเรามองให้ดีจริงๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวกฎหมายหรอกครับ  แต่อยู่ที่ตัวบุคคลไปมากกว่า  ผมจะไม่ไปนั่งโทษใครหรอกครับ  ต่างฝ่ายต่างคิดเห็นไม่เหมือนกัน  สุดท้ายก็ขอให้นึกถึงประโยชน์ฺที่ส่วนรวมจะได้รับก่อนแล้วกันครับ

ถ้าเราย้อนไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน  กฎหมายมีไว้เพื่อ

คนเราเมื่ออยู่ร่วมกันมากๆ ต่างก็ต้องมีการตั้งกฎระเบียบต่างๆ ในการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข  เอาเถอะครับผมว่า  ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสังคมระบบไหน  ประธิปไตย  สังคมนิยม  หรือคอมมิวนิสต์  หากเรามองถึงแก่นของมนุษย์ทุกคนก็คือ  ต่างต้องการความสุข  ความสงบ และสันติสุข กันทั้งนั้น

สงครามไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น  มีแต่สร้างความเจ็บปวดจากรุ่นสู่รุ่น แล้วในที่สุด คุณก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง  ทุกอย่างไม่ใช่ของเรา  มีแต่มนุษย์ต่างหากที่แบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็น เพศ ศาสนา เชื้อชาติ สัญชาติ  แท้จริงสิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริงเป็นการสมมติขึ้นมากทั้งนั้น   เราอยู่บนโลกสมมติ บทบาทของเราก็คนมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องดำรงชีวิตตามแบบแผนของแต่ละสังคมได้กำหนดไว้

ค่านิยม  ได้ทำให้มนุษย์เราหลงลืมตัวตนของเราไปมาก  เราถูกปลูกฝังด้วยค่านิยมใหม่ๆ ทั้งที่เราไม่ได้ต้องการมันจริงๆ  เราอยากได้การยอมรับทั้งที่ตัวเรายังไม่รู้สึกภูมิใจจริงๆด้วยซ้ำ  ที่ผมพูดประเด็นเหล่านี้อยากจะให้คุณลองมองชีวิต ในมุมกลับกันดูนะครับ  มุมที่คนส่วนน้อยเขามองกัน  มุมที่คนอื่นมองข้ามแต่เราเห็น  บางทีชีวิตมันอาจให้คำตอบที่ดีสุดสำหรับคุณแล้วก็ได้

พื้นฐานสังคมที่คุณเป็นอยู่ต่างก็ถูกกำหนดด้วยสังคมแบบนั้น  มันไม่ผิดเลยหากคุณไปอยู่ในสังคมที่คุณไม่คุ้นเคย  ไม่ผิดถ้าคุณจะเดินออกมา  เพราะมันไม่ใช่ที่ของคุณ  บนสังคมที่มนุษย์ต่างแสดงหาผลประโยชน์ใ้หักับตัวเอง  ความโลภ  ความโกรธ ความหลง  จึงค่อยๆกลืนกินจิตวิญญานของคุณเรื่อยๆ จนตัวคุณเอง  ยังไม่กล้ามองกระจก ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าหัวเราะรื่นเริงให้กับคนในกระจกนั้น ร่างที่ปราศจากวิญญานอันบริสุทธิ์   เป็นเพียงซาตานผู้โหยหา และเป็นนักล่าที่ไม่เคยพอ  มัจจุราชกำลังรอรับตัวคุณอยู่  หากคุณยังปล่อยให้ตัวเองหลงอยู่ในเงาของ 3 สิ่งชั่วร้ายนี้  ไม่นานคุณก็ต้องพบจุดจบในทางเดียวกับคนส่วนใหญ่  มัจจุราชกำลังยิ้มเยอะมนุษย์เรา  รอรับวิญญานอันชั่วร้ายไปสะสางคดีความเพื่อให้หลาบจำ

ความอยู่รอดในสังคมปัจจุบันนี้ก็คือ  คุณต้องมีสติ  หันเข้าหาธรรมมะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ  ธรรมมะอยู่รอบตัวเราไม่ต้องไปแสวงหาตามความเชื่อ  ที่ว่า "เขาบอกว่า" นะครับ  มีแต่ธรรมมะลวงโลกทั้งน้้น  ผมแค่อยากจะบอกให้คุณได้รู้ว่า  ความบริสุทธิ์ในจิตวิญญานเกิดจากการชำระภายในของเรา  ไม่ใช่วิ่งทำบุญ ทำทานไปทั่ว ที่ไหนมีลุยหมด  รักษาศีลให้ครบถ้วน บริสุทธิ์เข้าถึงการหลุดพ้น  เมื่อนั้นแหละครับความสุขที่แท้จริงมันยิ่งว่าความสุขใดๆในโลก  ขอให้ทุกท่านโชคดี

คุณเคยทำอะไรผิดพลาดไหมครับ

ปีที่ผมมีเรื่องตัดสินใจหลายเรื่องเลยทีเดียว  มีโอกาสเข้ามาให้ผมเลือกแต่ด้วยความที่ตัวผมเตรียมตัวไม่พร้อม  เลยทำให้พลาดโอกาสนี้ไป  โอกาสที่บางทีอาจจะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล....

บางทีการที่เราเดินตามวิถีชีวิตของคนอื่น  คนนั่นแนะนำว่าดีบ้าง
มีโอกาสอย่างนั้น อย่างนี่บ้าง  โดยที่...ตัวเรา.....  รู้จักตัวเองจริงๆหรือยัง
บางอย่างอาจเหมาะกับบางคน                      แต่  บางอย่างก็ไม่ได้เหมาะกับทุกๆคน
บางอย่างกินเข้าไปแล้วมีประโยชน์ต่อเขา     แต่   ก็เป็นพิษสำหรับอีกหลายคน
บางอย่างเขาทำแล้วมันเหมาะกับเขา            แต่   กลับไม่เหมาะกับเรา

สิ่งที่สำคัญก็คือ โอกาสมาหาเราไม่บ่อยครับ  แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ  เตรียมพร้อมในสิ่งที่เราต้องการที่จะทำด้วยใจที่รัก  ปัญหามันมีอยู่แล้วครับ  เป็นไปไม่ได้ว่าชีวิตคุณจะราบรื่นไปทุกอย่าง   ความผิดพลาดบางทีมันก็ให้บทเรียนที่เจ็บปวดกับเรา  แต่ที่สำคัญคือ เราต้องลุกขึ้นมาให้ไวที่สุด

เมื่อคุณเข้าใจตัวเอง....

                               ........  คุณจะเข้าใจผู้อื่น
                               .......   คุณจะรักตัวคุณเองมากขึ้น
                                .......  คุณจะมีความสุข
                               .......    ชีวิตของคุณก็จะชัดเจนมากขึ้น
                               .......    คุณจะไม่หลงตามคนอื่น
                               .......    คุณจะเข้าและรู้จักปล่อยวางกับชีวิต
                               .......    คุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน.   


โลกให้บททดสอบที่ดีเสมอกับมนุษย์เราครับ  ความกลัว ความขี้ขลาดไม่ได้ช่วยให้ปัญหาถูกแก้ได้  สิ่งที่ดีที่สุดคือ เผชิญหน้ากับปัญหา  และลงมือแก้ไขมันทันที  ปัญหาบางอย่างอาจแก้ไปไม่ได้ในตอนนั้นแต่ในที่สุดปัญหาทุกอย่างจะถูกแก้ลงเอง  มันอาจดูโหดร้ายกับชีวิตเรา  ไม่ต้องตกใจกับมันครับ  แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตคุณก็เปลี่ยนแล้วครับ..

ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ของชีวิตก็คือ  การไม่ลงมือทำอะไรต่างหาก

คุณจะมองตาตัวเองได้อย่างไร  ถ้าคุณยังไม่ประสบความสำเร็จ
คุณจะมองคนอื่นได้อย่างไร      ในเมื่อตัวคุณยังไม่ศรัทธาในตัวเองเลย
คุณจะรักคนอื่นอย่างเต็มหัวใจได้อย่างไร  ในเมื่อตัวคุณยังไม่รักตัวเองเลย
และที่สำคัญคุณจะรู้ได้อย่างไร ถ้า..คุณเอาแต่คิดไปเอง  ไม่ลงมือทำอะไรสักที

ปิดหู   ปิดตา  แล้วเปิดใจเรียนรู้  ลงมือทำทุกๆวัน  ไม่สำเร็จให้มันรู้ไปครับ  ทำในเวลาที่คุณกำลังกลัว ไม่มั่นใจ เเละเชื่อในสันชาตญานของตัวเอง ลดอีโก้ ลดอัตตาในตัวเองลง  และคุณจะเจอเเสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อย่างแน่นอนครับ

เคล็ดลับความสำเร็จ

คุณรู้ไหมครับว่าโลกกลม  ทุกครั้งที่คุณเดินไปข้างถ้าผิดแค่องศาเดียวชีวิตคุณมันจะกลับมาที่เก่าทันที
ฟังดูแปลกมันใช่เหรอ ทุกทีก็เห็นตัวเองออกมาไกลจากจุดเดิมทุกที

แล้วไอ้จุดเดิมที่คุณว่านะมันแตกต่างจากคนอื่นหรือเปล่าละครับ  ถ้าไม่ได้แตกต่างอะไรคุณก็แค่คนที่อยู่ในระดับพื้นฐานเท่านั้นเอง  อย่างที่ผมเคยพูดไปครั้งก่อนหน้าว่า  โลกในความเป็นจริงไม่ได้กลม แต่โลกเป็นสี่เหลี่ยม

ในแต่ละชั้นจะเเบ่งได้เป็น  3 ระดับ

ชั้นล่างสุด   คือ ชนชั้นทั่วไปที่ยังต้องหาเช้ากินค่ำ  พอลืมตาอ้าปากได้บ้างซึ่งคนกลุ่มนี้มีเยอะมาก

ชั้นกลาง      คือ  หลายคนชอบคิดว่าตัวเองเป็นคนชนชั้นกลาง  ผมว่า คิดใหม่ได้นะครับ  ในความหมายทีนี้ ชนชั้นกลางก็คือ คนรวยหรือเศรษฐีใหม่นั่นเอง คนเหล่านี้มักกังวลกับเงินที่เขาหามาได้  และพยายามหาเงินให้ได้มากขึ้นเพราะกลัวว่าจะกลับไปจนอีก

ชั้นบนสุด    คือ  คนรวยชั้นชั้นบนสุดนี้  ความกังวลเรื่องเงินเขาจะน้อยลงแล้วครับ  แต่เขามีเวลามากขึ้น  เงินที่ใช้จ่ายก็มาจากดอกผล หรือที่เราเรียกว่า เงินต่อเงินแหละครับ  สังเกตุเห็นได้ไม่ยากคนเหล่านี้จะยิ่งรวยขึ้นเรื่อยๆ เหมือนไม่มีข้อจำกัด  นั่นเพราะ เขาเข้าใจกฎแห่งทวีคูณของเงินไงครับ

มาดูอย่างนี้แล้วตกใจไม่น้อยนะครับ  จริงๆ หากอยากหลุดพ้นจากวงจรเหล่านี้ไปได้คุณต้องขึ้นมาอยู่ชั้นบนสุดให้ได้  มันไม่ใช่ความโลภนะผมว่า  มันคือสิ่งที่ท้าทายต่างหาก  คนมีเงินก็คือคนที่มีทางเลือกในยุคนี้  เราสามารถทำอะไรก็ได้  เสียงเราจะดังกว่าคนอื่นแม้กระทั่งเราพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องคนก็เอาไปตีความกันหมด   ผมเห็นคนที่เขาเขียนเรื่องความสำเร็จมาก็มากมายแล้วสูตรเหล่านั้นมันคล้ายๆกันหมดนะครับ  นั่นคือ ลงมือทำ  มีเป้าหมายชั้นเจน (นี่แหละครับพูดในหนังสือซะยาวสรุปคือเท่านี้แหละครับ)

ลองออกไปพบเจอผู้คนในสังคมที่คุณต้องการจะเป็นดูครับผมแนะนำแบบนี้  ไปฟังเขาคุยกันเรื่องแบบนั้น แบบนี่ ดูว่าตัวคุณเหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ไหม คุณมีความสนใจมันจริงๆหรือ  ไม่ต้องทำตามคนนั้น คนนี่พูดเสียเวลาเปล่า ทำตามหัวใจแหละ

อย่างเช่น  คุณอยากเปิดร้านอาหาร  ลองไปดูร้านอาหารที่คุณชอบ ไปนั่งกินดู ดูเรื่องการบริการ คบค้าสมาคมกับเพื่อนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจนี้ดู   ดูว่าคุณชอบมันจริงๆหรือไม่  ผมว่ามนุษย์พื้นฐานเดียวกันเลย ถ้าเราชอบนะ  เราจะไม่เบื่อมันและอยากจะทำมันทุกวันแหระ

ใครจะว่ากูบ้าก็ช่าง  ก็กูชอบอะ
ใครจะว่าเป็นไปไม่ได้หรอก มีคนทำเยอะแล้ว กูไม่สน
ใครจะว่ามันไม่โอเคร  แต่กูโอเคร

นั่นแหละ  คือคำตอบของคุณแล้วแหละครับ  ขอให้ทำมันต่อไปนะอย่าได้หยุดเลย  บนเส้นทางมันอาจมีท้อ อยากล้มเลิกหลายๆครั้ง ขอให้นึกไว้เลยว่าถ้ามันสำเร็จ  มันเปลี่ยนชีวิต "กูอย่างแน่นอน"  ท่องเอาไว้แบบนี้นะครับ  เกิดมาทั้งทีไหนๆไม่รวยก็ขอได้ทำความฝันของตัวเองสักทีเหอ   แค่คิดมันก็มันไปถึงสวรรค์ชั้น 7 แล้วครับ  อ่านหนังสือให้มากๆ  ไปเจอผู้คนให้มากๆ  ฝึกเรียนรู้สังเกตสิ่งรอบตัวให้มากๆ  ลด ละ เลิก ความกลัวที่อยู่ในใจคุณออกไปให้หมด   นี่แหละครับเคล็ดลับความสำเร็จ

เพราะเราแตกต่าง

ปัญหาสุขภาพปัญหาใหญ่ในสังคม

เมื่ออายุมากขึ้น สุขภาพก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องดูแลตัวเองให้มากๆ สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ  ในอนาคนผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ  จะเป็นที่นิยมและได้รับความนิยมแพร่หลายในสังคม

สาเหตุที่ผู้คนมีบุตรน้อยลง และประเทศกำลังส่งเสริมให้คนมีบุตรกันเยอะๆก็เพราะว่า เด็กก็คือผู้ใหญ่ในวันหน้า  (เด็กฉลาดชาติก็เจริญ)  จะเห็นได้ว่าประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่จะมีกลุ่มคนหนุ่มสายเยอะมาในอนาตค  ประเทศนี้ในอนาคตจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วทีเดียว  จะเห็นได้จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ  ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศนั้น

เอเชียใกล้ตื่นแล้ว  ไม่เกิน 10 ปี เอเชียจะมีเงินไหล่ทะลักเข้าเป็นจำนวนมาก  จะเกิดพวกเศรษฐีหน้าใหม่ขึ้นเยอะมาก  ความล่มสลายของโลกยุคเก่าจะเกิดขึ้น วิวัฒนการใหม่และรูปแบบทางการเงิน เทคโนโลยี และความก้าวหน้าในนวัฒนกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล  ในที่นี้ผมขอพูดแต่ทางบวกนะครับ นักพัฒนาไม่ว่าจะในด้านไหนต่างพยายามหาทางพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ  โลกทุกวันนี้มันต้องดีขึ้นไม่ใช่ถอยหลัง  แท้จริงไม่มีอะไรถอยหลังหรอกมันแค่เป็นรอบของธุรกิจนั้นที่ต้องหมดอายุไขเหมือนต้นไม้ที่รอวันตาย  ไม่แม้แต่มนุษย์เราก็ตาม  เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนไปสิ่งที่ยังคงเดิมอยู่ก็คือความทรงจำในชีวิต  ขึ้นอยู่กับเราแล้วละครับว่า เราจะเลือกใช้ชีวิตเราให้มีความทรงจำในรูปแบบไหน

เวลาที่คุณขึ้นมาในทุกเช้าผมอยากให้คุณท่านฝึกขอบคุณตัวเองจนเป็นนิสัย  การพูดแต่สิ่งดีๆ ให้กำลังใจตัวเอง ก็เสมือนเติมพลังงานในทางบวกให้จิตทุกวัน  พลังงานก็จะสะสมและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เคารพตัวเองและมองตาตัวเองให้ได้  รักตัวเองให้มากๆ  แล้วจะมีคนรักคุณมากขึ้น  เพราะทุกคนมีเสน่ห์ในตัวเองอยู่  ลองทำติดต่อกันสัก 1 เดือน ดูนะครับแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงยังไงมาบอกกันได้ครับ

โลกของความเป็นจริงมันจะโหดร้ายยังไง ก็ไม่สู้เราไม่ดูถูกตัวเองหรอกครับ  เชื่อมั่นในตัวเองและเดินตามความฝันของตัวเอง  ชัดเจนในตัวเองเดินไปให้สุด  ใครจะว่ายังไงไม่ต้องไปสนใจ  ทุกอย่างมันต้องลงตัวกัน  ความสุข  การงาน การเงิน สุขภาพ ที่อยู่อาศัย สังคม เพื่อน ผู้คน  ดึงดูดสิ่งเหล่านี้โดยปล่อยพลังงานออกไปทุกวันๆ  เดี๋ยวโลกจะส่งคนที่คู่ควรกับคุณเข้ามา สิ่งที่คู่ควร เพื่อเป็นผลตอบแทนของการที่คุณทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นยังไงละครับ  ผมอาจไม่ใช่คนที่ยิ่งใหญ่แต่ผมก็สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสวยงามให้กับโลกใบนี้ได้ นั่นคือ แบ่งปันเรื่องราวดีๆ  กำลังใจ ทัศนคติที่ดีในการใช้ชัีวิต มันเป็นยาดีที่สุดที่สมานแผลให้ทุกคนแล้วครับ   

ความลงตัวของชีวิต

ตอนนี้อายุขึ้นเลข 30+  ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราผ่านประสบการนอกห้องเรียนแล้วเข้าสู่โลกของความเป็นจริงในการทำงานเพื่อปรับตัวเขากับสภาพแวดล้อมของสังคม  ห้องเรียนตอนสมัยเราเป็นนักศึกษาแทบไม่ได้ช่วยอะไรในการทำงานเรามากมายนัก  ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่หรือที่เราเรียกมันว่า "มหาลัยชีวิต" มหาลัยนี้ไม่มีวันจบ  ไม่มีปริญญามารองรับความสำเร็จให้คุณ  ต้องอาศัยประสบการณ์ ความทุ่มเท และความตั้งใจฝึกฝนลงมือทำล้วนๆ ครูของคุณก็คน ประสบการณ์ และความผิดพลาด  

ยิ่งเจ็บปวด และผ่านเรื่องราวที่ผิดหวัง ผิดพลาดมาเยอะ คนเหล่านี้ย่อมเรียนรู้ได้เยอะ เรียกว่ามีภูมิคุ้มกันที่สูงมาก  เมื่อเข้าวัย 30+ (จะเริ่มชัดเจนในตัวเองมากยิ่งขึ้น  จะฝึกคิดอะไรเป็นระบบ และวางแผนทุกครั้งมากขึ้น)  ช่วงระหว่าง 30-40 คุณต้องชัดเจนในตัวเองแล้วครับ เพราะเป็นช่วงที่คุณต้องลุยและเดินหน้าเต็มที่กับเป้าหมาย  อย่าไปกลัวความผิดพลาดล้มเหลวนะครับ ลุกขึ้นสู้ชีวิตทุกคร้้ง  ปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างเอง  คุณเลือกได้เพราะชีวิตมันเป็นของคุณ อย่าไปทำตามรูปแบบสังคมสำเร็จรูปที่ทุกคนมอง  เราต้องมีจุดยืนและแตกต่างในแบบของเรา  สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับสังคม  ใช่ครับ คิดบวกจึงเป็นพลังงานที่จำเป็น และนอกจากนั้น ช่วงวัยนี้เป็นวัยที่คุณต้องรักษาสุขภาพให้มากๆ ควบน้ำหนัก อาหารการกินที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี  ตอนนี้คุณยังนึกไม่ออกว่าทำไม  แต่พออายุ 40+ ขึ้นคุณจะเข้าใจมันทันทีครับ

ความสำเร็จของคนเราแต่ละคนแตกต่างกัน  ขึ้นอยู่กับความพอใจของคนเรา  เป้าหมายจึงเป็นจุดที่ตอบโจทย์ของคนเราทุกคนได้ดี  หากขาดเป้าหมายย่อมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่  ถ้าชัดเจนก็นึกถึงภาพนั้นให้ชัดเจน  นึกถึงมันทุกวันแล้วหาทางลงมือทำมัน ทำทุกวัน วันละนิดๆๆ  (มันต้องสำเร็จไม่วันใดก็วันหนึ่งแหละครับ)  อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร  จงโฟกัสที่ตัวเอง  และฝึกฝนตัวเองให้เก่งขึ้นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง (ไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกอย่าง) ใครจะคิดอย่างไร  ไม่ว่าเราจะมาจากสังคมแบบนั้น  มันไม่สำคัญเท่ากับตัวเราต้องการอะไรกันแน่  อย่าไปโทษนั้น โทษนี่  เมื่อมีโอกาสเข้ามาในชีวิตจงยื่นมือรับโอกาสนั้นโดยไม่ลังเล และทำมันให้เต็มที่สุดความสามารถของเรา  มันอาจยากในช่วงแรก แต่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่างของเรา  

บางทีนะครับลองเดินออกมาจากจุดที่เราคิดว่ามันดีสำหรับเราตอนนี้  ลองหาอะไรใหม่ๆทำดูครับ  เผื่อจะรู้ได้ว่าชีวิตนี้มีอะไรให้คุณสนุกๆทำอีกเยอะ  ไม่ต้องยิ่งใหญ่คับฟ้า  แต่มีประโยชน์ต่อผู้คน ตัวเรามีความสุขและผู้คนก็มีความสุข  ทุกอย่างมีจุดพอดีของมันเมื่อถึงที่สุดถึงตัวเราไม่ปล่อยวาง สุดท้ายสภาพแวดล้อมจะบังคับเราเอง  ไม่ว่าเราจะต้องการสิ่งนั้นหรือไม่  ความสุขเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง  ฝึกมองทุกอย่างให้เป็นความสุข ทำจิตใจของคุณ ฝึกสติ และนั่งสมาธิรวบรวมจิตใจให้ตั่งมั่น  แล้วชีิวิตของคุณจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุด  แบบที่ตายจากโลกนี้ไปแล้วคุณก็ไม่ต้องเสียดายเลยทีเดียว

ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน

ผมดูข่าวตาม Facebook หรือสื่อต่างๆปัจจุบันนี้  เราเห็นได้เลยว่าโลกเรากำลังเข้าสู่ยุคข้อมูลข่าวสาร  ทุกอย่างรวดเร็วและที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้ไม่ผ่านการกรองซะด้วย

เราจะเห็นคดีฆ่าข่มขืนเป็นคดีใหญ่ของสังคมบ้านเรา
ปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ
ปัญหาการทุจริจคอรััปชั่น
ปัญหาการลักขโมยที่ตามมาจากผลพ่วงของเศรษฐกิจ
ปัญหายาเสพติด ฯลฯ

โลกวุ่นวายขึ้นก็เพราะมนุษย์มีความต้องการที่มากขึ้น  ทุกคนต้องการเงินเป็นตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่าง  ใช่ครับ หลายคนอาจพูดว่าก็เงินมันสำคัญนิ  เงินสำคัญกับสิ่งที่จำเป็นกับมันครับ  ในบางเรื่องที่เงินซื้อไม่ได้ก็มีอยู่  มนุษย์เราห่างไกลคำว่าพอดีมากขึ้นเรื่อยๆ  จนเราเริ่มไกลจากตัวเองไปทุกที

ปัญหาที่จะตามมาติดๆ นั่นก็คือ โรคเครียด  ความไม่พอดีก็ทำให้คนเครียดและหาทางแก้ปัญหาไม่ก็จะเกิดปัญหาเรื้อรังขึ้นเรื่อยๆ  จนในที่สุดก็กลายเป็นปัญหาระดับชาติ  (คนที่อยู่ในยุคนี้ได้ต้องมีสติครับ  หันเข้าหาธรรมมะเพื่อเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจของเราบ้าง  พุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดี  ไม่ให้เราหลังไปกับทางโลกมากเกินไป

คุณจะเห็นได้จากโฆษณาตามหน้าทีวี  เฟจรีวิวสินค้าต่างๆ  หรือวิทยากรที่พูดเรื่องความสำเร็จ บุคคลเหล่านั้น แท้จริงมีผลประโยชน์เราก็หารู้ไม่  ไม่มีใครจะหวังดีกับตัวเราได้เท่าตัวเราหรอกครับ  เราย่อมรู้จักตัวเองดีที่สุดว่า เราควรเป็นแบบไหน และแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา  หลังๆมานี่ผมแทบไม่ดูข่าว ไม่เข้าเฟสบุ๊ค  ไปแล้วครับ สือเหล่านี้ทำให้ตัวเราเครียดและเสียสุขภาพจิตไปด้วย

ยังไงซะผมก็ยังเชื่อว่ามนุษย์ควรหันหน้าเข้าหน้ามันมากกว่าจะเป็นสังคมก้มหน้า  เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่คอยว่ากล่าวร้ายกระทบกระทั่งกัน  ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำร้ายทั้งผู้บริสุทธิ์และคนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องอีกหลายคนเลย  เพราะความอยากรู้เป็นพื้นฐานของมนุษย์อยู่แล้ว  มนุษย์ต้องการรู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ แต่แปลกกับเรื่องตัวเอง ไม่ชักอยากรู้และจัดการซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ เราเป็นสัตว์สังคมมีความอยากรู้อยากเห็นในสังคม  การแปลกแยกจากสังคมเลยทำให้คุณกลายเป็นคนที่แตกต่าง  (ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขาเถอะครับ แตกต่างได้แต่อย่าไปแตกแยกแล้วกันนะครับพี่น้องคนไทย)

ปัญหาของคนไทยอย่างหนึ่งที่แก้ยากคือ ถ้าปัญหาไม่เกิดก็ยังไม่หาทางแก้ไขหรือป้องกัน  จนกว่าปัญหานั้นเข้ามาและให้บทเรียนก่อนถึงจะหาทางป้องกันและแก้ไข

การคบเพื่อนหรือการคบค้าสมาคมให้เลือกคบคนที่ทำให้ชีวิตเราเดินไปข้างหน้า  และมีพลังงานไปในทางบวก  ศึกษาความผิดพลาดของคนที่ประสบความสำเร็จ  เอาพวกเขามาเป็นแรงบันดาลใจและแก้ไขปัญหา ชีวิตไม่ว่าจะเจออะไรก็แล้วคุณเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  อย่าท้อครับพรุ่งนี้ลืมตาขึ้นมาก็วันใหม่แล้ว  ขอบคุณความผิดพลาดที่ทำให้ฉลาดมากกว่าเดิมสู้ต่อไปครับ

พลังงานของคนอายุ 30+

สวัสดีวันเลิกทาสไทยครับ  ปีนี้ก็เป็นปีที่ผมจะอายุ 30 พอดีเลยครับ  ทุกอย่างมันไวเหมือนโกหก  เพลอแปปเดียวอ่าว หันไปทางไหนมีแต่เด็กรุ่นใหม่ นี่เราแก่แล้วเหรอ 555+

พออายุมากขึ้นเราก็เริ่มหันมาสนใจในสุขภาพมากขึ้น  ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาแหละช่วงวัยนี้เป็นวัยที่มนุษย์ต้องสร้างเนื้อสร้างตัว และที่สำคัญก็คือ ต้องรักษาสุขภาพของตัวเองให้มากๆ อายุจะได้ยืนๆครับ  สำหรับบางคนอาจเป็ํนวัยที่ต้องการนิ่งอยู่กับที่สำหรับผม  ยังเปรียบเหมือนวัยรุ่นที่ต้องการจะพึงพลังงานของตัวเอง หลังจากที่เราสะสมวิชามานานเอามาใช้สักที  (วัยรุ่นแบบผมมันต่างจากสมัยที่เรายังเป็นนักเรียนนักศึกษานะครับ  เพราะทุกอย่างเราใช้ความคิดมากขึ้น)

การทำแบบเด็ก แต่คิดเเบบผู้ใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะเด็กเวลาทำอะไรจะไม่คิดมาก เขาอยากทำก็ทำไปเลย  แต่พอเราโตขึ้นเราต้องฝึกคิดเพราะทุกอย่างล้วนส่งผลต่ออนาคตของเราทั้งนั้น ส่วนนิสัยการลงมือทำเเบบเด็กก็ต้องคงรักษาไว้

เวลาผมออกไปเจอผู้คน นั่งคุยกับคนนั่น คนโน้น คนนี่ ผมว่า เราได้อะไรกลับมาเยอะมากเลยครับ เขาเป็นครูเราในขณะเดียวกันเราก็เป็นครูให้เขา  ทุกอย่างก็คือการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  บนโลกใบนี้เราก็แค่จุดเล็กบนหนึ่ง  การทำหน้าที่ของตัวเองให้จุดเล็กแต่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกใบนี้จึงสวยงามมาก  เวลาเราเจอผู้คนที่หลากหลาย ได้เห็นถึงความเหมือนและความแตกต่างของเพื่อนมนุษย์  เรายิ่งเข้าใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น และที่สำคัญเราเข้าใจตัวเองมากขึ้น

การอยู่กับตัวเองนั่นเป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่เราก็ยังเป็นสัตว์สังคมที่ต้องมีการพบปะสมาคมกับผู้คน  เพราะเรายังไม่ใช่นักบวช  การเรียนรู้การเข้าสังคม มารยาททางสังคมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้ วันนี้ผมมีอะไรจะบอกครับ  ลองไปฟังดู

1.ครอบครัวคืออันดับแรก
2.ห้ามรักลูกมากเกินไป
3.บริจาค 1 เปอร์เซ็นต์ของรายได้
4.จงทำใจให้กว้าง
5.อย่าอิจฉาในเงิน
6.ลงมือทำอะไรก็ได้
7.คนคือคำตอบ
8.อย่าคาดหวังในตัวผู้อื่น
9.โลกเราไม่มีเหนื่อยเปล่า
10.จงเดินทาง
11.จงสนใจศิลปะ
12.ถนอมใช้ร่างกาย
13.มองคนรอบๆตัว
14.หาเวลาส่วนตัว
15.อย่าหูไวตาไวแบบผิดๆ
16.อย่าตื่นเต้นกับเรื่องเล็กน้อย
17.อย่าโอ้อวด
18.จงชัดเจนและรักษาในสิ่งที่ต้องรักษา

เคล็ดลับง่ายๆที่ควรนำไปใช้   โลกนี้อาจไม่ได้อะไรมาง่ายๆ แต่ทุกอย่างก็ไม่ยากเกินความสามารถเราหรอครับ  แด่. ความเป็นไทยแท้ทุกท่านครับ