ผมว่าทางออกของทุกข์ก็คือ การไม่ทุกข์
ไม่ยากครับ วิธีง่ายๆ ก็คือ ทำงานที่ต้องใช้ความคิด และทำให้ตัวเองยุ่งอยู่ตลอดเวลา เท่านี้คุณก็ลืมความทุกข์ไปแล้ว
สำหรับหลายคนอาจใช้วิธีการฝึกสมาธิก็ได้นะครับ แต่วิธีนี้ผมว่าเหมาะสำหรับคนที่มีจิตที่มั่นคงระดับหนึ่งมาแล้วครับ หากใครที่ทุกข์แล้วไปนั่งสมาธิโดยที่ไม่เคยฝึกสมาธิ สิ่งที่ได้เหรอความฟุ้งซ่านมากกว่าเดิมแน่นอนครับ
อย่าไปทำตามคนที่คนส่วนใหญ่ทำกันเลยครับ อะไรที่เขาว่าดี คงต้องมีอะไรซ่อนไว้อยู่แน่นอน อะไรดีไม่ได้ จิตของมนุษย์เราบอกเองได้ครับ (วิธีสังเกตง่ายคือ อะไรแล้วจิตใจเราสงบ มีสุข และมีความสุข นั่นแหละครับคือสิ่งที่ถูกต้อง) แต่ถ้าทำไปแล้วยังมีความเคลือบแคลงสงสัยแบบนี้ ไม่เรียกว่าสุขแท้หรอกท่าน
บางทีเราวิ่งตามอะไรอยู่ก็ไม่รู้จนรู้สึกว่าชีวิตนี้ยุ่งไปหมด ไม่รู้จักจบสิ้นสักที เรามีความอยาก ความต้องการมากขึ้น เรารับเอาวัฒนธรรมจากที่นั่น โน่น นี่ เข้ามาเป็นของเราจนลืมไปว่า ไทยแท้ เป็นยังไง บ้านเมือง ชาติ ศาสนา และวัฒนธรรมสิ่งเหล่านี้คือมนต์เสน่ห์ของคนไทยที่เราควรบำรุงรักษาไว้ให้จนชั่วลูกชั่วหลาน อย่าไปหลงวัฒนธรรมต่างชาติจนลืมแก่นแท้ของเรา
ที่เราทุกข์กันทุกวันนี้ก็เพราะเราวิ่งตามวัฒนธรรม ตามค่านิยมของภายนอกมากเกินไป ค่านิยมสำเร็จรูปบางทีอาจทำร้ายเราในทางอ้อมได้ จงยืดหยัดที่จะเป็นตัวเอง ยึดมั่นในคุณธรรมความดีงาม ชัดเจนในการใช้ชีวิต แล้วชีวิตคุณก็จะชัดแจ้งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น