ใช้ชีวิตให้ปกติ แต่อย่าใช้ชีวิตแบบธรรมดา

          สวัสดีครับท่านผู้อ่าน  วันนี้เป็นวันที่ผมดีใจมากที่ได้รับตอบรับจากทางจิตอาสาที่เขาอนุญาติให้ผมได้ไปช่วยเหลือสังคม  แปลกมากครับ  ผมรู้สึกว่าพอเราปรับทัศนคติต่อตัวเองใหม่ทุกอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่  มีสิ่งดีๆเข้ามาให้ผม  เหมือนเป็นแรงดึงดูดที่จักรวาลพร้อมจะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับมนุษย์เรา ที่เมื่อจิตใจเราพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งดีดี  ก็จะมีสิ่งดีดีนั้นวิ่งมา  เชื่อว่าภายในหนึ่งปีนี้เป้าหมายที่ผมตั้งไว้คงเป็นจริงแล้วครับ  รู้สึกดีใจมากเพราะตอนนี้ผมยอมรับได้เต็มปากว่าผมพร้อมที่จะรับสิ่งดีๆในชีวิตเข้ามาแล้ว  อยากขอบคุณจักรวาล ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาที่ทำให้ผมผ่านมาได้  ผมสัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ  และนำความรู้ความสามารถไปช่วยเหลือ ไปตอบแทนสังคมและทำประโยชน์ให้สังคม  แบ่งปันความรู้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับตัวผมเองให้ทุกคนได้รับรู้อย่างแน่นอนครับ  การทำอะไรที่มีเป้าหมายมันดีอย่างนี้นี้เอง  ยังไงเพื่อนลองทำดูนะครับ แล้วจะเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับตัวท่านเอง  วันนี้ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

ปรับทัศนคติ

   

           หลายคนบอกว่าถ้าเราสามารถกำหนดวิธีคิดของเราได้  เราก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้  หนึ่งในนั้นก็คือผมเองครับที่มีความเชื่อแบบนั้น  ทัศนคติเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะผลักดันให้เราทำตามสิ่งที่เราต้องการได้  วันนี้ผมมีวิธีแนะนำเมื่อเจอคนที่คิดในทางตรงข้ามกับเราให้ลองปฎิบัติดูนะครับ
        1.ถ้าคุณเจอคนที่คิดลบ พูดแต่แง่ลบ แสดงว่าคุณอยู่ผิดที่ครับ จงหลีกหนีออกมา
        2.ถ้าคุณเจอคนที่เอาแต่บ่นนั้น บ่นนี้  แสดงว่าคุณอยู่ผิดที่ครับ จงหลีกหนีออกมา
        3.ถ้าคุณเจอคนที่เอาแต่ตำหนิ นินทา คนอื่น แสดงว่าคุณอยู่ผิดที่ครับ จงหลีกหนีออกมา
        4.เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ควรทำแบบนี้ครับ
            - เปลี่ยนที่ตัวเอง พูดกับเขาแต่เรื่องที่ดีดี
            - ถ้าเขาชวนคุยแต่เรื่องข้างบนเปลี่ยนเรื่องคุยเลยครับ
            - หาบุคคลที่คิดบวกให้เพิ่มขึ้นเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้นครับ
            - อย่าไปสนใจกับสิ่งที่ได้ยินได้ฟังครับ
            - หว่านเมล็ดพันธ์ุดีดีให้กับตัวเองให้มากๆ คบคนดี พูดแต่สิ่งดีดี คิดแต่สิ่งดีดี
ครับผมนี้ก็เป็นวิธีการเบื้องต้น  เพื่อพัฒนาตัวเองไปอีกจุดหนึ่ง  หากเราสามารถข้ามจุดเหล่านี้ไปได้ ปัญหาใหญ่ที่ตามมาอย่าได้กลัวเคยครับ ผมมั่นใจว่ายังไงเราก็ผ่านไปได้เสมอครับ

พักผ่อนให้เพียงพอ

          การพักผ่อน ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จ  เมื่อคุณพักผ่อนเพียงพอสมองคุณก็จะปลอดโปร่ง  รู้สึกโล่ง สบาย  และมีผลต่อการมองโลกในแง่ดีด้วย  แต่ประเด็นไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป  บางครั้งก็มีบ้างที่เรานอนไม่หลับ  คำถามคือ พอตื่นขึ้นมาไม่สดชื่น  เราจะมีวิธีการปรับอารมณ์เรายังไงดี

      1.หยุดคิด พยายามอย่าคิดอะไรมากเพราะเวลาเรานอนน้อยจะมีสารบางอย่างเหมือนกำลังต่อต้านเราให้คิดในทางลบมากขึ้นฉะนั้นจงหยุด
      2.นึกถึงมุมดีดีของตัวเอง  นึกถึงความสำเร็จหรืออะไรก็ได้ครับที่ทำให้เรารู้สึกดีกับชีวิตแบบสุดๆเลย
      3.ยิ้ม  รอยยิ้มสร้างความสุขเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  "จงยิ้ม"
      4.ดื่มน้ำให้มากๆ  จะช่วยให้สดชื่นและผ่อนคลายได้

        นี้เป็นวิธีการที่ผมปฎิบัติเวลาที่ผมนอนไม่ค่อยหลับ หรือนอนดึกพักผ่อนนอน  มันช่วยได้มากเลยทีเดียวลองนำไปปรับใช้ดูครับ   คิดบวกให้มากๆ  แล้วโลกจะเปิดรับสิ่งดีดีเข้ามาหาคุณเอง

การแบ่งปันที่ยิ่งใหญ่

         หลังจากที่ผมเริ่มการเปลี่ยนแปลงตัวเองมาได้ระยะหนึ่ง  ผมได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากยิ่งขึ้นครับ  รู้สึกมีความสุขมากขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น และพอคนเราเมื่อรู้สึกถึงความเติมเต็มเราก็จะรู้สึกถึงความพอดี  และพร้อมที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่น  เมื่อวานนี้ผมก็ได้มีโอกาสไปช่วยงานบุญที่บ้านพี่ที่รู้จักกัน  ยอมรับว่าเป็นครั้งที่ผมมีความสุขมากๆ  ที่ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือผู้อื่น  ดีใจมากครับ  แค่ความสุขเล็กน้อยแค่นี้  เหมือนมีน้ำหล่อเลี้ยงใจผมให้เติบโตยิ่งๆขึ้นไปอีกนาน  ต่อแต่นี้ไปผมจะตั้งใจทำความดีให้มากขึ้น  ทำประโยชน์ของผู้อื่นให้มากขึ้น นึกถึงตัวเองให้น้อยลง
       ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกิดจากการให้ดีดีนี้เอง  อย่าไปสนใจว่าสิ่งที่เราทำไปเราจะได้อะไรตอบแทน  ไม่สำคัญหรอกว่าคุณเป็นใคร  เพราะคนแต่ละคนมีค่าของความเป็นคนเท่าๆกันครับ  ขอให้สู้ต่อไปครับ

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

         
       เมื่อวานผมได้มีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนาของครูนุ่น   เกี่ยวกับเรื่องการเป็น โค๊ชชิ่ง ไคนิค  เป็นศาสตร์ใหม่ที่ผมก็เพิ่งรู้ว่ากำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศในขณะนี้  เริ่มจากที่ความนิยมจะเฉพาะในกลุ่มประเภทกีฬาก่อนจากนั้นถึงขยายมาในหมู่แวดวงการธุรกิจ   เราลองมาเข้าใจความหมายของการโค๊ชชิ่งก่อนนะครับ  การเป็นโค๊ชแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
          1.โค๊ช  คือ บุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านนั้นๆ  จึงจะสามารถฝึกคนๆนั้นให้เก่งได้
          2.โค๊ชชิ่ง คือ  คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในศาสตร์นั้นมาก่อนก็ได้แต่สามารถที่จะเทรนบุคคลอื่นให้เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการได้

         
          ในที่นี้ผมจะพูดถึงตัวที่ 2  ศาสตร์นี้ว่ากันตามเป็นจริงก็คือ คล้ายกับหลักศาสนาพุทธของเรามาก  นั้นก็คือ  การรู้จักตนเอง ศึกษาจิต ทำตัวเองให้อยู่ในแดนบวกเสมอ  เมื่อเราคิด ทำ พูด แต่สิ่งที่ดีดี  สิ่งเหล่านั้นก็จะโตขึ้นเหมือนคนเราที่ปลูกต้นไม้  คอยให้น้ำปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอต้นไม้ก็จะโตขึ้นอย่างสมบูรณ์  มนุษย์เราแปลกแต่จริง  เราพยายามค้นหาทุกอย่างในสิ่งที่เราต้องการ อยากมีอยากเป็น แต่ลืมไปว่าสิ่งที่คุณต้องหาให้เจอก่อนก็คือ  จิตใจของเราเอง ต้องรู้จักตัวเอง ต้องนำศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ให้มากที่สุด  เชื่อไหมครับว่ามนุษย์เรามีอีกคนในตัวตนของเรา  ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกคนไหนออกมาใช้  หากเราเลือกถูกเราก็ย่อมจะเติบโตและสามารถเป็นทุกอย่างได้ในสิ่งที่เราต้องการ  ฝึกฝนสติปัญญา รู้จักใช้สติไตร่ตรองปัญหา    พยายามใช้ใจให้มากๆอย่าใช้สมอง  แล้วคุณจะเห็่นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นครับ  วันนี้ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนครับ

พูดกับตัวเอง

         

          การพูดแต่สิ่งดีดีกับตัวเองถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ  เป็นเหมือนการหว่านเมล็ดพันธ์ุที่ดี ค่อยใส่ปุ๋ย และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้ต้นไม้เติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง และยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน  ท่านผู้อ่านครับหลายคนคงแปลกใจว่าเกี่ยวด้วยเหรอ  เกี่ยวมากครับ  เมื่อเรามองเห็นแต่สิ่งดีๆรอบตัว  ก็เปรียบเหมือนเราอนุญาติให้ตัวเองได้รับแต่ดีดีๆ  ทุกเช้าหรือก่อนนอนให้ทำดังนี้นะครับ

       1.นึกถึงสิ่งดีดีที่ตัวเองได้ทำในแต่ละวัน
       2.คิดว่าจะทำประโยชน์อะไรให้กับผู้คนได้บ้าง
       3.ต้องรู้ความต้องการของตัวเอง
         ลองทำดูครับ  แล้วจะเห็นความแปลกใจที่เกิดขึ้น  เมื่อเราฝึกเปิดรับแต่สิ่งดีดี  เราก็จะมองเห็นภาพที่กว้างขึ้น  แล้วทุกอย่างจะค่อยๆเปิดทางให้  พอทุกอย่างเปิดทางความสำเร็จก็จะวิ่งหาเราโดยที่เราไม่ต้องกังวลเลยเพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่ในตัวเรา  เรามีความสามารถมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ สามารถที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เป็นที่รัก และสามารถทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้  และเป็นที่จดจำไปตราบนานเท่านานบนโลกใบนี้  อย่ามัวแต่คิดเลยครับลงมือทำกันดีกว่า

ของขวัญจากจักรวาล

       

              คุณเคยสงสัยไหมว่า คุณเกิดมาเพื่ออะไร  และต้องการอะไรในชีวิตเชื่อเลยครับว่าหลายคนในที่นี้ไม่ทราบ  ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น ประเด็นก็คือแล้วเราจะจัดการกับชีวิตของเรายังไงต่างหาก  ชีวิตเราหากเราเดินทางไปที่ถูกที่ควร  รัก เคารพในผู้คน ศรัทธาในผู้คน  รู้จักให้อภัย และปล่อยวาง สิ่งเหล่านี้แหละครับ  ที่จะเป็นขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมีแบบแผนและเป็นระเบียบ  ผมไม่ได้หมายถึงต้องตรงขนาดนั้นนะครับ  หมายถึงการใช้ชีวิตแบบสมดุล

             จักรวาลมีที่ว่างมากพอที่จะทำให้คนๆหนึ่งมีจุดยืนขึ้นมาได้  ผมรู้ว่าจักรวาลสามารถมอบพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับเรา มอบความรัก ชื่อเสียง การเงิน การงาน และสุขภาพที่ดีให้เราได้  เพียงแต่เราจะต้องเคลียร์พื้นที่ภายในของเราให้สะอาดเปิดรับกับสิ่งดีๆ ที่จักรวาลพร้อมจะส่งมอบมาให้  ถามว่าวันนี้ คุณพร้อมจะเปิดรับกับสิ่งดีๆหรือยังครับ  ยิ้มให้กับตัวเอง แล้วโลกจะยิ้มให้คุณครับ

ความสำเร็จกินความล้มเหลวเป็นอาหาร

 

             หลายคนเคยพูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จกันมาก็มายมายแล้วนะครับ  แต่ไม่เคยพูดถึงความล้มเหลวที่เกิดขึ้น  กว่าที่พวกเขาจะมาถึงจุดนี้พวกเขาผ่านอะไรมาเยอะมากต้องฝ่าฝันกับอุปสรรค์ต่างๆมากมาย  อุปสรรค์ที่ว่าก็คือ  ความล้มเหลว  พวกเขากินความล้มเหลวเป็นอาหารแต่พวกเขาก็สามารถที่จะก้าวข้ามมันไปได้  ด้วยการมองถึงสิ่งที่สำคัญไปยิ่งกว่าความล้มเหลวนั่นคือ เชื่อในความสำเร็จของตัวเอง   เชื่อในพลังบางอย่างที่อยู่ในตัวเอง
            จริงๆแล้วความล้มเหลวก็ผสมผสานกับโอกาสที่อยู่รอบตัวเรานะครับ  เหมือนเราสนใจในสิ่งไหนสิ่งนั้นจะใหญ่ขึ้นมาทันที  แปลกไหมครับ  เช่น เราสนใจรถยี่ห้อนี้  มองไปทางไหนก็มีแต่คนขับรถยี่ห้อนี้  นั้นแหละ   เป็นเคล็ดลับในการมองเห็นโลก  ฝึกฝนตัวเองให้เป็นคนคิดบวกมองโลกในแง่ดีแล้วคุณก็จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เองครับ  

การเปลี่ยนแปลง

          ชีวิตมันคนเรามันเป็นเรื่องแปลกแต่จริง  เราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเราได้บ้าง  ในหลายครั้งเราก็รู้สึกท้อแท้  ในหลายครั้งก็อยากก็ตื่นขึ้นมามีกำลังใจที่หึกเหิ้ม  ผมคิดว่าหากใครกำลังเกิดอาการแบบนี้ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องชาร์ตแบตตัวเองแล้วละครับ  วิธีการคือ

          1.ลองไปในสถานที่ที่คุณไม่เคยไป

          2.ลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทำดู

          3.ลองอ่านหนังสือแนวที่ไม่เคยอ่านดู

         บางทีสิ่งเหล่านี้อาจให้เราต้องกลับมาทบทวนอีกครั้ง  เป็นเหมือนการชาร์ตแบตให้ตัวเอง  หากคนเรามีพลังกาย พลังใจที่ดี  ผลลัพธ์ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน  การเงิน หรือการดำเนินชีวิตก็ย่อมดีตามไปด้วย  ที่สำคัญคือคุณต้องรู้จักขอบคุณสิ่งเล็กน้อยทุกอย่างรอบตัวเราเพราะมันเป็นก้าวเเรกของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  เมื่อมองเห็นสิ่งดีดีรอบตัวเราก็ต้องเห็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน

ให้อภัย

          หลายคนทำตัวเองเหมือนจมอยู่ความทุกข์ตลอดเวลา  หลายคนไม่มีความสุขในชีวิต หลายคนก็ยังหลงทางหาเป้าหมายของตัวเองไม่เจอ  สาเหตุทั้งหลายทั้งมวลเหล่านี้เกิดมาจากความคิดปรุงแต่งขึ้นมา เพื่อสร้างกำแพงให้ตัวเราทั้งนั้น  การที่เราจะปลดล็อกกำแพงนี้ไปได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การ "ให้อภัยตัวเอง"  เมื่อเราให้อภัยตัวเองได้  ให้อภัยคนอื่นได้  มองเห็นแต่ข้อดีของอีกฝ่าย หรือข้อดึของสิ่งที่เรามีอยู่ในตัวเอง  ความสุขก็จะเข้ามาแทนที่  นั้นแหละ เขาถึงพูดว่า  เปลี่ยนความคิดชีวิตก็เปลี่ยน  ผมดีใจมากที่ได้มีโอกาสเขียนประสบการณ์ชีวิตของผมเพื่อแชร์ให้ผู้อื่นได้รับรู้ได้มีความสุข  และอยากให้ผู้คนมีความสุข และประสบความสำเร็จกันทั่วหน้าครับ  เมื่อผู้คนได้รับแต่สิ่งดีๆ  การเอารัดเอาเปรียบก็จะน้อยลง  โลกก็จสงบขึ้นครับ
               ส่วนตัวผมมองว่า  พลังอำนาจภายในตัวเราทุกคนมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่มาก  หากเรารู้จักควบคุม และนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าอะไรในโลกจะยากเย็นสักแค่ไหนเราก็สามารถทมันได้และประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ครับ  บนโลกนี้มีที่ว่างพอสำหรับเราทุกคนบนโลกใบนี้  ทุกคนมีความสามารถ มีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต  มีความสามารถที่จะเป็นที่รัก  และรู้จักที่จะแบ่งปันสิ่งดีดีให้กันและกันได้ครับ  

คนในกระจก

          จริงๆแล้วเราใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากที่สุด  ฉะนั้นจงจำไว้ว่าคนที่เราพูดด้วยมากที่สุดก็คือตัวเราเองครับ ที่ผมพูดอย่างนี้หลายคนคงอาจจะงง  แต่ขอให้รู้ไว้นะครับว่าเป็นเรื่องจริง  อย่าพยายามคิดลบกับตัวเอง  แต่ให้เติมความคิดที่เป็นบวก  ที่สำคัญคือ ผมอยากให้คุณลองมองตัวเองที่กระจก  และฝึกสบตาและพูดกับตัวเองถึงความสำเร็จและความต้องการของเราทุกวัน   คุณจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของคนในกระจก  กระบวนการของสมองมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าที่เราจะเข้าใจได้ หากเรามีศรัทธาในสิ่งที่เราต้องการ เราก็จะได้สิ่งนั้นมาโดยไม่ต้องสงสัย ผมมีข้อแนะนำนิดหน่อยนะครับ เวลาพูดกับตัวเองที่หน้ากระจก ให้พูดดังนี้ เช่น ผมเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ  ผมมีความสุข มีความสามารถที่จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ได้ใช้เวลากับครอบครัว และทำประโยชน์เพื่อคนอื่น นึกถึงตัวเองให้น้อยลง เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากขึ้น  เท่านี้เองครับ คือข้อความต้องเป็นปัจจุบัน และการฝึกฝนตัวเราเองก็เช่นกัน  ไม่ว่าจะ ยืน เดิน นั่ง นอน คุณต้องทำเสมือนว่าคุณเป็นนักลงทุนจริงๆและประสบความสำเร็จอยู่แล้วไม่ว่าจะการกระทำ ความคิด และคำพูด

ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด

       

     

         ความสำเร็จเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาได้  หากแต่อาศัยการลงมือทำ ทำอย่างสม่ำเสมอ อย่างไม่ย่อท้อ  บางครั้งคนเราก็รู้สึกเหนื่อยล้ากับการดำเนินชีวิต  แต่เชื่อเถอะครับว่า ขออย่าได้ท้อใจไป  ยังมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่รอเราอยู่  เพียงแค่เรารอเวลาปลดล็อกเท่าน้้นเอง วันนี้ผมจะมาพูดถึงวิธีการง่ายๆ จากเพื่อให้เราไปถึงสิ่งที่เราต้องการได้ง่ายๆกันดูนะครับ  เริ่มจาก

      1.เรียนรู้จากอดีตของคนรวยหรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
      2.แกะรอยคนอื่นแล้วทำในแบบของเรา จำไว้ว่า "ความสำเร็จทิ้งร่อยรอยเสมอ"
      3.พยายามทำให้ตัวเองอยู่ในแดนบวก แล้วพลังแห่งความสำเร็จจะตามมา
      4.ต้องเก่งกว่าต้นแบบ เราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ ความสำเร็จของเขาก็เป็นยุคของเขา ความสำเร็จของเราก็ต้องปรับให้เหมาะสมกับยุคสมัยของเรา
      5.ขอบคุณตัวเองทุกครั้งเมื่อมีโอกาส
      6.ความสำเร็จเพื่อผู้อื่นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ เพราะหากเราทำได้ก็จะนำมาซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต่อคนอื่นและต่อตัวเราเอง
     
แต่สำหรับคนที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอลองทำวิธีดูนะครับ
    1.ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่อทำอะไรเมื่อรู้แล้วก็ค่อยๆ ทอดสะพาน 20%
จากงานที่ทำ 80 %
    2.(PASSTION) นึกถึงสิ่งที่เราชอบและอยู่กับมันได้ตลอดเวลา
    3.(TRANCE)  อะไรที่เราทำได้ดี  เรียนรู้ได้เร็ว
    4.นึกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบว่าสามารถจะทำเงินได้อย่างไร
    5.ตั้งเป้าหมายและวิถึชีวิตที่คุณต้องการ ตามไลฟ์สไตส์ของตัวเอง ซอยเป้าหมาย ลงมือทำให้เป็นจริง
    6.เป็นนักพลังจิตใต้สำนึก เกี่ยวกับทักษะภายในและภายนอก

5 วิธีของคนรวยยุคใหม่

ความร่ำรวยเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกลียด  เราทุกคนสามารถร่ำรวยได้ครับ ทุกคนสามารถมีศัพยภาพที่ยิ่งใหญ่  และสามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้  มีความสามารถที่จะรับและความสามารถที่จะเป็นบุคคลที่ร่ำรวยได้  วันนี้ผมมีเคล็ดลับ 5 วิธีที่จะทำให้เราเป็นคนรวยยุคใหม่กันครับ

1.ไม่ใช่เรื่องของจำนวนแต่เป็นเรื่องคุณภาพ  ธุรกิจในอนาคตจะแข่งขันกันในเรื่องของคุณภาพของสินค้าและบริการ ไม่ใช่จำนวนพนักงานอีกต่อไปรูปแบบธุรกิจจะเปลี่ยนไปเมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเเทนที่
2.ไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิตใหญ่  โลกในอนาคตผู้คนสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ ไม่จำเป็นต้องเช่าออฟฟิตใหญ่เพื่อสร้างภาพลักษณ์อีกต่อไป
3.Co working space เป็นสถานที่ใดที่หนึ่งที่จะมีการรวมคนเก่ง คนมีความสามารถ ทำงานร่วมใหญ่เป็นเหมือนแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่
4. Make the system การสร้างระบบให้ทำเงินให้เอง โดยไม่ต้องออกแรงมากแต่สามารถสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ได้เอง
5.หาเงิน+เพลิดเพลิน+เรียนรู้ไปในตัว  เมื่อเรามีความสุขในการทำงาน เราก็จะเกิดความเพลิดเพลินและมีความสุขในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไปในตัวด้วย ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน

สิ่งเหล่านี้ที่ผมพูดขึ้นมาเชื่อได้เลยครับว่าในอนาคตจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อผมตอนนี้นะครับ แต่คุณรอดูผลลัพธ์ที่ผมจะทำให้คุณได้เห็นเองครับ จำไว้นะครับว่า "อย่าไปเถียงเรื่องความเชื่อกับคนอื่นเพราะคนแต่ละคนมีความเห็นที่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลงมือทำให้เห็นผลลัพธ์เลยครับแล้วเขาจะเชื่อในสิ่งที่คุณทำโดยไม่ต้องบอกกล่าว

การฝึกใจ

          สติ เป็นสิ่งที่อยู่กับตัวเราอยู่ตลอดเวลาแต่เราแค่ไม่รู้จักนำมาใช้เท่านั้นเอง  การฝึกจิตถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก หากคนเราฝึกฝนบ่อยๆ  จิตใจก็จะเกิดความรู้สึกเคยชินกับมัน  เมื่อเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ก็พยายามสรรหาคำพูดดีดีมาพูดกับตัวเอง เช่น ฉันสุดยอดไปเลย  สุดสุด  วิเศษ  ขอบคุณจริงๆ  การที่เราพูดกับตัวเองในสิ่งที่ดีดี ทุกวัน  มันเหมือนกับการตอกย้ำให้เราได้รับรู้ว่ามีสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับเราจริง  เมื่อเราเชื่อแบบนั้น ก็จะมีสิ่งต่างๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตเราตามความต้องการที่เราอยากให้มันเป็นไป  โลกนี้พยายามสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ จงจำไว้ว่าต้องเริ่มที่ความคิดดีๆ ต่อตัวเองก่อนครับ ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด ดึงศักยภาพที่ดีของเราออกมาให้ได้ ขอบคุณและให้กำลังใจตัวเองทุกวัน รับรองครับ ชีวิตคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ความสุขอยู่ใกล้ตัว

         

             การสร้างความสุขเป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับการดำเนินชีวิต   หลายคนคิดว่าต้องมีเงินให้เยอะๆก่อนถึงจะมีความสุข  จริงๆแล้วความสุขเริ่มต้นที่ตัวเราครับ  อย่างที่ผมเคยพูดไว้ในครั้งก่อนนะครับว่า  ความสุข กับความร่ำรวยเป็นคนละเรื่องกัน  คนที่มีความสุขก็จะมองโลกต่างจากคนที่มีความทุกข์ฉะนั้น  เราต้องฝึกให้ตัวเองอยู่ในโซนบวกครับ  บุคคลที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่อยู่ภายในตัวเองก่อน  เมื่อสิ่งที่อยู่ภายในเปลี่ยนก็จะส่งผลต่อสิ่งที่อยู่ภายนอก ที่สำคัญคือ การรู้จักขอบคุณทุกสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา  เอาเป็นว่าผมมีกฏอยู่ข้อหนึ่งที่อยากให้คุณนำไปปฎิบัติดูนะครับ  ผมได้มาจากหนังสือเรื่อง  "หนังยางล้างใจ" เป็นหนังสือที่ดีมาก  เขาบอกไว้ว่า  เราต้องรู้จักขอบคุณสิ่งดีดีที่เรามีในตัวเองก่อน เช่น ในทุกวันให้คุณเขียนคำขอบคุณตัวเองวันละ 5 ข้อครับ  ลองทำดู   แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคุณได้เลย  การที่เราเห็นซึ่งคุณค่าในตัวเอง  ก็จะสามารถนำซึ่งพลังและศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ออกมาใช้ได้  ว่าเรามีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ สามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และมีความสุขกับทุกสิ่งโดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยภายนอก  

            ชีวิตที่สงบสุข  การรักษาจิตใจให้อยู่ในแดนบวก  มองโลกในแง่ดี  เหล่านี้นำมาซึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จงจำไว้ว่า  ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นที่รัก เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กันทุกคน   ขอให้ยึดมั่นในเป้าหมายและเดินหน้าไปสู่เป้าหมาย  ลงมือทำทันที อย่าพลัดวันประกันพรุ่ง ทำด้วยจิตใจที่ยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์  แล้วผลลัพธ์ที่ได้ต้องออกมาดีอย่างแน่นอนครับ  

หลักในการดำเนินชีวิต

         

         เมื่อวานผมได้ดูรายการทีวีช่อง 3 ช่วงของคุณไตรภพ  มีพระท่านหนึ่งพูดเกี่ยวกับหลักในการดำเนินชีวิต  ซึ่งน่าสนใจมากสามารถนำมาประยุกต์ใช้การชีวิตประจำวันของเราได้เลยครับ มีหลักอยู่ 5 ข้อ ดังนี้
         1.ศรัทธา  ในที่นี้หมายถึงความเชื่อ คนเราต้องมีความเชื่อก่อนนะครับ  เมื่อมีความเชื่ออย่างนั้นสิ่งนั้นๆก็จะเกิดขึ้นกับเราได้
         2.ศีล  บุคคลถ้ามีศีลก็จะประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัย  รู้จักอดทน อดกลั้น
         3.คำสอน  เมื่อบุคคลมีความเชื่อแล้วก็ต้องทำตามคำสอนของผู้รู้ผู้มีประสบการณ์  การจะไปให้ได้อย่างที่เราต้องการนั้นเราต้องมีบุคคลต้นแบบ  พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า บุคคลเมื่อหว่านพืชผลแบบใดก็ย่อมได้แบบนั้น เหมือนกันถ้าเราอยากเป็นอะไร อยากให้เราเป็นอะไร เราก็ต้องมีต้นแบบของเราเป็นแบบนั้น
         4.จาคะ  การเสียสละ รู้จักให้ก่อน  ถึงจะได้ในสิ่งที่เราต้องการ เมื่อเรามีความรู้สึกว่าเรามีมากจนสามารถแบ่งปันให้คนอื่นได้ เราก็จะได้มากตามที่เราต้องการ
        5.อุเบกขา  การปล่อยวาง อย่ายึดติดกับบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป ควรรู้จักประมาณตน รู้จักสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ทำประโยชน์ให้กับคนอื่นให้มากๆ

พรปีใหม่ 2558

               สวัสดีปีใหม่ 2558  วันนี้ผมมารายงานตัวกับสภาพอากาศที่กำลังดีเลยครับ  ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาผมได้ตั้งใจทำอะไรไว้หลายอย่างแม้กระทั่งใช้เวลาในการเรียนรู้ตัวเองมากขึ้น ทำให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้น และเรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมาย  การเคารพในตัวเอง การเชื่อมั่นในตัวเอง และการฝึกลงมือทำจนเป็นนิสัย  สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมีความหวังมากขึ้น เดี๋ยวลองมาดูวิธีการพัฒนาตัวเองที่ผมตั้งเป้าหมายที่ผมได้เขึยนไว้ลองดูนะครับ

วินัยที่ผมตั้งใจจะทำในปี 2558

   1.ตื่น 6.00 น.เพื่อมาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและการพัฒนาตัวเอง

   2.อ่านหนังสือพัฒนาตัวเองให้ได้เดือนละ 3 เล่ม

   3.เก็บเงินให้ได้เดือนละ 20,000 บาท

   4.ศึกษาภาษาอังกฤษเรียนรู้คำศัพท์ให้ได้ เดือนละ 20 บท คำศัพท์ 10 คำต่อวัน

   5.เรียนรู้การฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษให้ได้อาทิตย์ละ 2 วันเป็นอย่างต่ำ

   6.เข้าสัมมนาให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง

วินัยในที่ทำงาน

    1.ตั้งใจทำงานให้เสร็จลุล่วงไม่ปล่อยให้งานค้างไว้

    2.รู้จักการแบ่งเวลาและให้ความสำคัญกับเวลา

    3.ให้คิดเสมอว่าเราเป็นนายตัวเอง เราเข้ามาทำงานให้บริษัทคือลูกค้าของเราฉะนั้นทำให้เขาดีที่สุดให้เขาประทับใจให้ได้

         เงินเป็นสิ่งที่หาได้ง่าย  การไม่มีเงินเป็นเรื่องชั่วคราวเท่านั้นเอง เงินทองอยู่ทุกทีรอให้เราเข้าไปคว้ามันเอาไว้เท่านั้นเอง  จำไว้ว่า มีที่ยืนสำหรับเราทุกคนเสมอครับ  ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ