วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

กฎของเเรงดึงดูด


บางครั้งมักจะมีเหตุการณ์บางอย่างนำพาเราไปในที่ๆ จิตใต้สำนึกเราได้วางเอาไว้ ทั้งที่เราต้องการและไม่ต้องการ  ทัศนคติเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  ถ้าเราคิดแต่เรื่องดีๆ พลังงานดีๆก็จะวิ่งเข้าหาเรา ไม่ว่าจะเรื่องราวดีๆ ผู้คนดีดี มักจะมีพลังดึงดูด  

ในทางกลับถ้าจิตใจ สมองเราคิดแต่เรื่องแย่ๆ พลังงานทางด้านลบก็จะวิ่งเข้าหาเราแบบที่เราไม่ทันตั้งตัว  การเปลี่ยนพลังงานทำได้ไม่ยาก  นั่นก็คือ ทุกครั้งที่เจอเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบในจิตใจของคุณ สิ่งแรกคือ  ต้องหันพลังงานด้านบวกเข้าหาตัวเราไว้ก่อนไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะร้ายแรงแค่ไหน  ขอให้คิดเสมอว่าทุกอย่าง ทุกปัญหาล้วนมีทางออกของมันอยู่แล้ว เพียงแต่เวลานั้นเรายังหาไม่เจอ  การโทษสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น

สิ่งที่ดีที่สุดคือ เตรียมตัวเตรียมใจรับกับสถานการณ์นั้นๆนั่นเอง  คนเราจะซึมซับพลังงานจากผู้คนรอบตัวเรา อย่างน้อยก็ 5-6 คน  คนที่มีอิทธิพลกับคุณมากๆจะทำให้คุณกลายเป็นแบบนั้น  นั่นจึงเป็นเหตุสำคัญ ถ้าพูดในแง่ของหลักศาสนา พระพุทธองค์เลยบันทึกไว้เป็นข้อแรกของมงคลชีวิต 38 ประการ นั่นก็คือ  ไม่คบคนพาล  (เห็นไหมครับว่าพระพุทธองค์ท่านเข้าใจเรื่องนี้มานานมากแล้ว  ศาสนาก็ไม่เคยล้าสมัยไปด้วย)

การกระตุ้นเตือนจิตใจของเราให้หาพลังงาน  นึกถึงสิ่งที่เราต้องการและไม่สร้างความเดือนร้อนให้ใคร จึงเป็นส่ิงที่ดี  พลังงานเหล่านี้เมื่อสสารหรือมวลของสสาร มารวมตัวกันมากๆ จะทำให้สิ่งที่ท่านคิดสามารถปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าได้  มันไม่ใช่เหตุบังเอิญแต่มันเกิดจากส่ิงที่ท่านสร้างมันขึ้นมาในจิตใต้สำนึก  เมื่อจิตใต้สำนึกท่านคิดถึงสิ่งนั้นบ่อยๆ  พลังงานของโลกจะดึงสิ่งนั่นเข้ามาหาคุณเอง

แปลกแต่จริงแหละครับ  ไม่เชื่อลองทำดู ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้  ข้อสำคัญข้อแรกคือ จงทำตัวเองให้ไปอยู่ในสังคมของความเป็นไปได้  เมื่อพบเจอกับคนเหล่านี้บ่อยๆ  พลังงานบางอย่างจะส่งถึงตัวคุณเอง  อย่าได้ท้อไป ท้อได้แต่ต้องไม่ถอยทุกอย่างเริ่มใหม่ได้เสมอ อย่าไปแบกโลกไว้ครับ  ในท้ายที่สุดเราก็ต้องเราก็ไม่ได้เอาอะไรไปอยู่ดี  วันนี้ผมอยากฝากให้ทุกคนจงทำความฝันของตัวเอง รับผิดชอบความฝันของตัวเอง และทำมันให้เป็นจริงให้ได้ครับ ขอฝากไว้ครับ

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

ให้โอกาสผู้คนก็เหมือนให้โอกาสตัวเอง



มีหลายครั้งเราสับสนในตัวเอง  ในหลายครั้งก็รู้สึกไม่แน่ใจ  แท้จริงสิ่งที่คุณคิดต่างหากกำลังบั่นทอนจิตใจของคุณอยู่  คุณอาจร้องไห้ สับสน ในบางเวลาได้ครับ  แต่ไม่ใช่ททุกเวลา

มนุษย์เรายังไงก็ต้องเดินไปข้างหน้า  ตอนเด็กๆ เราจะเห็นทุกอย่างหมุนรอบตัวเราอะไรก็ดีก็สวยไปหมด  พอโตขึ้นโลกก็สอนบทเรียนให้เรามากขึ้น  แท้จริงโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเราอย่างที่เราคิดไว้  เราก็แค่  จุดเล็กๆ จุดหนึ่งบนโลกใบนี้  ทุกอย่างเป็นไปในแบบที่เราคิดต่างหากครับ

จงเลือกตัวเองให้อยู่ในพลังงานของการคิดบวกเข้าไว้  พลังงานของผู้คนรอบข้างจะดูงดึดเราไปเอง  ปัญหาอุปสรรค์ทุกที่มีอยู่แล้ว  ความฝันมีไว้ให้คุณเดินทางไปหามัน  จงบ้าพลัง และกล้าท้าทายในสิ่งใหม่ๆ การนิ่งอยู่กับที่ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปหรอกครับ  เปิดโอกาสตัวเอง พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
บางทีการที่เราเอาแต่จมอยู่กับปัญหาก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  แค่โฟกัสในสิ่งที่ถูกต้องรู้จักวิธีเปลี่ยนปัญหา  แล้วปัญญาจะเกิด  การเอาแต่โทษนั่น โน่น นี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไรเลย

เวลาที่เหนื่อยท้อก็ให้บอกตัวเองว่าเราทำดีที่สุดแล้ว  ต่อไปมันต้องมีเรื่่องดีๆเกิดขึ้นกับเราอย่างแน่นอน ท้องฟ้ายังมีวันพรุ่งนี้  ยังมีวันใหม่ๆ ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเราเสมอ  บางทีถ้าเรามานั่งนึกเรื่องดีๆบางอย่าง  สิ่งดีๆรอบตัวมีอยู่มากเลยทีเดียว  การละวางบางสิ่งเพื่อให้ชีวิตเราเดินข้างหน้าต่อไปได้  ยึดไปก็ทุกข์ใจเปล่า  ปัญหาที่แก้ยากที่สุดก็คือ เรื่องคนนี่แหละครับ  มนุษย์เป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด  และเรียนรู้ได้ยากที่สุด  การเอาชนะใจผู้คนจึงเป็นเรื่องที่ยากมาก  ต้องใช้ความพยายามและความอดทนอย่างยิ่งยวด  เวลาใจร้อน โกรธ ต้องอย่าได้ตกใจไปค่อยๆพูดกับเขาดีๆ อย่าทำลายน้ำใจเขา

ไม่มีใครดี หรือเก่งไปทุกอย่าง  ทุกคนล้วนเคยผิดพลาดเราต้องเข้าใจเขา  เพราะเขาก็เป็นเขาเราก็เป็นเราในแบบนี้  การอยู่ตรงกลางระหว่างความพอดีจึงจะทำให้ใจเรานิ่ง และเป็นสุขมากที่สุด  ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนก็ต้องการเรียนรู้และพัฒนาไปเรื่อยๆ ใครก็อยากจะเป็นคนดี คนเก่งทั้งนั้น ฉะนั้น จงให้โอกาสเขา  เพราะอาจเป็นความหวังเดียวในชีวิตของเขาก็เป็นได้  เข้าใจเขาในแบบที่เขาเป็น แล้วทุกอย่างจะแฮปปี้เองครับ

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทิ้งอดีตแล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน


บางทีชีวิตเราก็ต้องยอมทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เพื่อเดินไปข้างหน้า  การยึดติดกับเรื่องบางเรื่อง

เหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้เราทุกข์เหตูการณ์บางเหตุการณ์ที่ทำให้เราเศร้า เจ็บปวด ท้อแท้
คนเราเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตครับที่ในสักครั้งที่เราต้องเจอกับเรื่องเหล่านี้  มันไม่ผิดหรอกครับที่ชีวิตที่คุณเจอแบบนั้น สาเหตุก็เพราะว่า

โลกต้องการให้เราเรียนรู้อะไรบางอย่างเพื่อก้าวไปในวันข้างหน้าได้อย่างมั่นคง และไม่ต้องมาลังเลใจกับอะไรอีก  คนที่เคยทำร้ายเราให้เราเจ็บ  ผิดหวัง หรือทำร้ายชีวิตเรา ก็ให้ถือซะว่าต่อไปเราจะได้ไม่ต้องพาชีวิตของเราต้องพบเจอกับคนแบบนี้อีก

การที่เขาทำให้เราเจ็บปวด นั่นเพราะตัวเขากำลังรู้สึกว่าตัวเขาเองถูกคุกคาม อาจจะเป็นในทางความคิด ความรู้สึก  หรืออะไรก็ตามแต่  เราอย่าไปเล่นกับอารมณ์ของเขา  ให้มองเขาเป็นแค่สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป  สักวันคนเราก็ต้องจากกันไปอยู่ดี  ไม่จากเป็นก็ต้องตายจาก

เมื่อก่อนเวลามีใครเข้ามาทำให้เราเจ็บปวด ไม่มีความสุข  (ตัวเราก็เครียดไปด้วย)  อยากคิดแต่จะแก้แค้นเขา  เอาคืนเขาได้ทุกโอกาส  แต่พอเวลาผ่านไปตัวผมกับรู้สึกขอบคุณเขามากกว่าที่เขามาทำร้ายเรา  มันทำให้เรามีภูมิคุ้มกัน  เมื่อชีวิตเราเจอเหตุการณ์ต่างๆเลยทำให้เรารู้สึกว่าเราผ่านมันไปได้อย่างสบาย  เก็บคำดูถูกเขาแล้วเดินหน้าต่อไป  พอเราปล่อยวางกับคนเหล่านี้ผมว่าชีวิตเรามันเบามากเลยครับ  เรามีเวลาคิดเรื่องตัวเองมากขึ้น  สามารถพัฒนาทักษะต่างๆที่เราต้องการให้เรามีเยอะขึ้น  นั่นเพราะใจที่ปล่อยวาง  ก็ทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสิ่งใหม่  การเอาผูกใจเจ็บมีแต่สุขภาพเราแย่ลง  และคนอื่นก็มองเราไม่ดีไปด้วย  สู้เราเดินตามเป้าหมายของเราใครจะว่าเราบ้า ก็อย่าไปสนใจ เพราะเรารู้จักตัวเราดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

ใช้เวลาอยู่กับตัวเองสักพักครับ  ก่อนจะตัดสินใจทำอะไร อย่าเพิ่งไปรีบร้อน การขอคำปรึกษาคนนั่่น คนโน้น ไม่ช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ถูกหรอกครับ (ควรปรึกษาในเวลาที่เหมาะสม และกับคนที่เขาให้คำปรึกษากับเราได้จริงๆ)  อยากเป็นคนแบบไหนจงพาตัวเองให้ไปหาคนแบบนั้น  ชีวิตเรามีทางเดินให้เราเลือกเดินมากมาย  ไม่ถูก ไม่ผิดเพราะมันคือสิ่งที่คุณได้เลือกแล้ว  ขอให้เชื่อมั่นนะครับว่าคุณต้องโชคดี  และโอกาสดีๆจะเข้ามาหาคุณเอง เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง  โอกาสมีสำหรับคนที่พร้อมก่อนเสมอ  ไม่ต้องใจร้อนค่อยๆเป็น ค่อยๆ ไป สักวันเส้นชัยก็ต้องมาถึงคุณอย่างแน่นอน

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2560

ทุกนาทีมีคุณค่า


คนเราถ้าคิดจะลงมือทำอะไรต้องศึกษา  อย่างเอาจริงเอาจัง อย่าทำเหมือนกับแทงหวย หรือโทษดวงชะตาฟ้าดิน  หรือโทษรัฐบาล เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ตัวกำหนดความสำเร็จในชีวิตของคุณ
ถ้าผมถามคุณกลับนะครับว่า  โชคชะตาฟ้าดินไม่เป็นใจแล้วไงละก็ฉันรักที่จะทำมันอะรัฐบาลชุดนี้บริหารงานไม่ดี แล้วไงละต่อให้เปลี่ยนรัฐบาลอีกอีกชุดก็ไม่ได้ทำให้ผมประสบความสำเร็จในชีวิตขึ้นมาได้นิ
คนเราอย่ามีข้ออ้างให้กับตัวเองเลยครับถึงแม้ตอนนี้คุณจะเจออะไรที่แย่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เหล่านี้เป็นแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นแหละสำคัญที่สุดคือใจของเราเอง รักตัวเองให้มากๆ
รู้ในสิ่งที่ต้องรู้ แล้วมุ่งหน้าทำไปเรื่อยๆครับแล้วความฝันของคุณจะเป็นจริง

บทความข้างต้นนี้ผมเขียนไว้เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว  บางการบันทึกอะไรไว้แล้วกลับไปนั่งอ่าน  ดูความเปลี่ยนแปลงอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเอง  ผมว่ามันมีส่วนดีนะครับ ทำให้เรามองเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน เราโตขึ้นในขณะเดียวกันเราก็เรียนรู้อะไรมากขึ้นเช่นกัน  บางทีในหลายๆครั้งของช่วงเวลาที่ผ่านมา  เราโทษนั่นโทษนี่  โชคชะตาช่างไม่เข้าข้างเราซะเลย จริงๆเเล้วเราได้ทุกอย่างต่างหาก  จะมองให้ก็คือ เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายยิ่งขึ้น  รู้จักการเสียสละ  เเละการเอาตัวรอดในการใช้ชีวิต  ทำให้เราเติบโตและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  หลายครั้งเราอาจมองว่าไม่ยุติธรรมกับเราในห้วงเวลานั้น  แต่มันกลับส่งผลกำไรต่อยอดในอนาคตของเรามากมายเลยทีเดียว

ทางข้างหน้าไม่รู้จะเจออะไรอีกบ้าง แต่ในทุกขณะที่เดินผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ามันดีที่สุดแล้ว  เราแค่ทำตรงหน้าของเราให้ดีที่สุด  ชัดเจนในเป้าหมายและหาทางทำมันเป็นจริงให้ได้  ดูที่ดูทางให้เยอะๆ   โอกาสมักจะเจอตอนที่เรามีอุปสรรค์มากๆนั่นเองแหละครับ  ทุกครั้งที่รู้สึกว่าหมดหวังขอให้นึกว่าเราเดินมาไกลแล้วอดทนต่ออีกสักนิดนะ  ในทุกครั้งที่หนทางหนึ่งปิดเชื่อเถอะครับว่าจะมีอีกแปดเก้าสิบหนทางให้คุณเลือก  ตั้งสติให้ดี โอกาสทองอยู่ในทุกที่ สักวันต้องเป็นของคุณครับ

วันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560

ดีที่สุดคือเป็นตัวของคุณเอง


คุณจะสังเกตเห็นได้ว่ายิ่งสังคมมีความเจริญมากเท่าไหร ความวุ่นวายก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว  ตอนแรกผมสงสัยเรื่องนี้เป็นอย่างมากแต่ตอนนี้ไม่ละครับ

การที่สังคมเจริญขึ้นก็เพราะเกิดจากความหลากหลายของมนุษย์ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกัน มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันบ้าง แตกต่างกันบ้างแต่ทั้งนี้ทั้งน้ั้นในภาพใหญ่ก็ยังสามารถผลักดันสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าได้

"ผู้นำ"  จึงเป็นบุคคลที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง  คุณสังเกตได้จากประเทศไหนที่ผู้นำเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ยอมสละ ทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ประเทศนั้นจะเกิดความมั่งคั่งยั่งยืน  นั่นเป็นเพราะ เมื่อประชาชนในประเทศมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก็ส่งผลให้ผู้นำมั่งคั่ง ร่ำรวยตามไปด้วย  ระบบเศรษฐกิจไม่ว่าจะในรูปแบบไหน บนโลกใบนี้ต่างต้องการพาตัวเองไปสู่จุดที่ดีที่สุดเสมอ  มันขึ้นอยู่กับว่าผลประโยชน์ส่วนรวมไปตกอยู่ในมือใคร ในส่วนนี้แหละครับที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนนั่นเอง

ที่ผมกล่าวมานี้ไม่ได้จะบอกว่าระบบไหนดีกว่าระบบไหนนะครับ บางประเทศเขาอาจเหมาะกับการปกครองในแบบนั้นก็เป็นไปได้

"คนที่ใส่รองเท้าเท่านั้นถึงรู้ดีว่ารองเท้าแบบไหนที่เหมาะกับคุณ"

เป็นจริงดังข้อความข้างบนแหระครับทุกคนจะรู้ดีอยู่แล้ว  ว่าอะไรเหมาะกับคุณคุณอยู่ที่ไหนแล้วรู้สึกว่าตัวตนของคุณได้รับการยกย่อง  และมีคนเห็นคุณค่าในตัวตนของคุณ  คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อใคร  การเป็นตัวตนของเรามันดีที่สุดแล้ว

การวิ่งตามสังคมมากเกินไป  อาจทำให้ชีวิตคุณวุ่นวายไม่รู้จบ  จงเลือกในแบบที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับคุณ  ผมไม่ได้หมายถึงว่าให้คุณต้องหลีกหนีจากสังคม  แต่ต้องการให้คุณเข้าใจสังคมมากขึ้นในแบบที่มันเป็นต่างหาก  เมื่อคุณมองภาพที่มันใหญ่ขึ้น และมองเห็นโฟกัสในจุดมุ่งหมายเดียว  ในท้ายที่สุดชีวิตคุณก็จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปเบียดเบียนใครทั้งนั้น

การฝึกทำสิ่งเล็กน้อยให้คนอื่น และฝึกเป็นผู้ให้จนเป็นนิสัย  ควรเป็นพื้นฐานที่ควรฝึกปฎิบัติเพราะในระยะยาวจะมีคนกล่าวถึงคุณเอง  ไม่ต้องไปหวังผลตอบแทนแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ  ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วทุกอย่างมันมาเอง  หว่านพืชอย่างไรย่อมได้ผลอย่างนั้น  ก่อนจะไปถึงจุดนั้่นจะมีคนดูถูก และสบประมาทคุณมากมายขออย่าได้กลัวไป  ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นจงเดินหน้าต่อไป คุณย่อมรู้ดีที่สุด  มันอาจจะไม่ใช่บทความที่ดีเด่นมากมายแต่เขียนมาจากความรู้สึก มาจากใจที่แท้จริง  ทุกอย่างจะพาเราไปในสิ่งที่ดีที่สุดเอง ขอให้เชื่อนะครับว่ามันต้องเป็นจริง


ที่สุดในใจคุณ


กาลเวลาเปลี่ยนแปลงไป  คนเรายิ่งเติบโตขึ้น เราเรียนรู้อะไรมากมายขึ้นก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และเรื่องราวมากมายในชีวิต  บางครั้งเรื่องราวเหล่านี้ถึงกับทำให้ตัวเราถึงกับท้อแท้หมดหวังไปบางเวลา  ทุกอย่างก็เพื่อต้องการให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆนั่นเอง

จงเรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้นครับถึงแม้ว่าคุณยังไม่รู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรยังไงบ้าง  แต่เชื่อมั่นได้เลยครับว่าสักวันคุณต้องได้ใช้มันอย่างแน่นอน

" จงตั้งโจทย์ในชีวิตว่าจะทำอย่างไรจะให้ผู้คนยอมรรับแทนที่จะเป็นผู้ที่เก่งในงานและหวังแค่ตำแหน่งหน้าที่งานที่สูงขึ้น  จงทำตัวเองให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆเลยครับแล้วผู้คนจะเข้าหาคุณเอง"

พยายามทำตัวเองให้เป็นคนชั้นบนสุดให้ได้  แท้จริงโลกไม่ได้กลมโลกก็คือโลกในความเป็นจริงของกรอบสี่เหลี่ยมที่ีไม่เท่ากันในระบบทุนนิยม คนรวยจะยิ่งรวย คนจนและคนชนชั้นกลางก็จะยิ่งมีหนี้สินมากยิ่งขึ้น  บางทีการที่หลายๆคนเปลี่ยนงานบ่อยๆ ทำไปได้สักพักก็รู้สึกไม่แน่ใจและท้อใจ  ไม่ใช่เพราะคุณไม่เก่งแต่เพราะ  คุณยังเป็นคนชนชั้นล่างสุดนั่นแหละครับ  ดันตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่างครับ

แล้วจะรู้ว่าบนที่สูงมันมีอะไรสนุกให้น่าทำมากกว่าเยอะเลยทีเดียว  จงมองหาโอกาสในทุกวิกฤตการแก้ปัญหาให้ผู้คน ให้กับโลกใบนี้  เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้มันดีขึ้น คุณก็จะคือสุดยอดผู้เบิกทางไปสู่ความสำเร็จมนุษย์ต้องการผู้กล้าที่ต้องการที่จะแก้ปัญหาให้และพวกเขาจะยอมรับในตัวตนของคุณเอง

จงเป็นแสงสว่างนำทางให้กับตัวเอง  และสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับมวลมนุษย์  คุณไม่ต้องยิ่งใหญ่ที่สุดขอแค่คุณได้ใจทุกคนบนโลกใบนี้มันก็สุดยอดของที่สุดแล้วครับ

วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

ลด ละ เลิก


การ ลด ละ เลิก ในสิ่งที่ไม่จำเป็นจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  คนเราจะเติบโตได้ก็ต้องรู้จักเรียนรู้และฝึกฝนในการแก้ไขปัญหา ยึ่งเรามีวินัยฝึกฝนตัวเองอยู่เรื่อยๆ จากที่เราไม่เก่งในที่สุดเราก็จะกลายเป็นคนเก่งในที่สุด

การลด ละ เลิก ในพฤติกรรมบางอย่างที่จะพาตัวเราไปสู่สิ่งที่ทำให้เราไม่ก้าวไปข้างหน้าได้  ถ้าละได้ควรฝึกละไปเลยครับ  ยิ่งเราสะสมสิ่งไหนไว้มากๆ มันจะเรื้อรังและไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แยกให้ออกว่าอันไหนสำคัญและควรทำต่อ  อันไหนควรเลิกพฤติกรรมไปเสีย

ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด เสียใจ ผิดหวัง  ทุกคนเกิดมาล้วนต้องเจอเรื่องเหล่านี้เป็นธรรมดา  ความผิดพลาดก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้นได้  แต่หากกับบางคนที่รู้ทั้งรู้ว่าผิดพลาดแต่ก็ไม่คิดจะเเก้ไขความผิดพลาด คนแบบนี้มีไม่น้อยในสังคม แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาจะถอยหลังลงคลองไปเอง

เลือกคบคนที่ทำให้เราสูงเขา  ไม่ได้ดึงเราให้ชีวิตเราต้องตกต่ำ  หากเลี่ยงได้ควรเลี่ยงนะครับเพราะคนพาลในท้ายที่สุดก็จะนำความเดือนร้อนมาให้เราในที่สุด  คิดจะคบคนพาลก็ควรระวังตัวให้ดี  เพราะชีวิตเราเลือกได้เสมอ  ไม่จำเป็นต้องไปคบคนพาล

ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความถูกต้อง ปัญหาและอุปสรรค์ หรือข้อจำกัดต่างๆ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย ทุกอย่างอยู่ที่ใจของเรา  ถ้าเราทำใจใหญ่ความสำเร็จก็ยิ่งใหญ่  นักสู้ไม่เคยมานั่งกังวลในสนามรบ  หน้าที่ของเขาคือเต็มที่กับทุกๆวัน  และทำตรงหน้าให้มันดีที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง  เราต้องควบคุมอารมณ์ของเราให้ได้  ถ้าเราควบคุมอารมณ์ได้เราก็ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้

เส้นทางชีวิตมันยาวไกล  การวางแผนชีวิตจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น ถึงแม้ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง  แต่มันก็ต้องออกมาในแบบที่ดีที่สุด  เพราะเราป้องกันความเสี่ยงไว้บางส่วนแล้ว  เราจึงมั่นใจได้ว่า ชีวิตของเราต้องไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน คุณเชื่อว่าคุณทำได้  คุณก็ทำได้ 

วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

ปล่อยวาง



ความเครียดทำให้เราเป็นทุกข์และเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมากมาย  ดังนั้นการปล่อยวางกับชีวิตจึงเป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรุ้และกำหนดให้ได้มากที่สุด  บางทีชีวิตเราก็เลือกไม่ได้ในทันทีเราพยายามวิ่งตามหาบางสิ่งบางอย่าง  บางอย่างที่หาไม่เจอ ยิ่งค้นหาก็ยิ่งไม่เจอ อยากรู้ไหมครับว่าเพราะอะไร

ก็เพราะเรายึดติดกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป  เราไม่รู้จักปล่อยวางในบางเรื่องเวลาที่คนเราอยู่ในช่วงของความทุกข์ใจ หมดหวังหรืออะไรก็ตามแต่ มักทำให้ใจเราไม่นิ่ง เมื่อใจไม่นิ่งก็คิดอะไรไม่ออกมักจะวนไป วนมา คิดซ้ำอยู่กับเรื่องเดิมๆ  คำถามเหล่านี้ผมว่ามันวนอยุ่กับทุกคนครับขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

วิธีแก้ก็ง่ายๆ เลยครับ อะไรที่เราทุกข์ใจก็อย่าไปแบกมันไว้ ให้ปล่อยวาง ลองออกไปหาเส้นทางใหม่หรือทำอะไรที่เราไม่เคยทำดู เผื่อจะเจออะไรใหม่ๆ และคิดหาหนทางใหม่ๆในการแก้ปัญหาให้กับชีวิตได้  เพราะชีวิตมีทางเลือกใหม่ๆเสมอ  เชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเองและทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์กับผู้คนให้มากๆ  เลือกที่จะแก้ปัญหาให้กับสังคม โลกใบนี้ เพราะทุกคนล้วนมาจากพื้นฐานใกล้เคียงกันปัญหาที่เกิดขึ้นย่อมมีความคล้ายคลึงกัน  การแก้ปัญหาก็ย่อมคล้ายคลึงกัน

เวลาเลือกเข้าหาคนจงเลือกคนที่เขาต้องการจะเปลี่ยนโลก เพราะคนแบบนี้คิดใหญ่และนำเราไปในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้  ชีวิตมันสั้นจงเลือกทำสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่  ทำทุกวันให้เป็นวันที่สนุกทุกปัญหามีทางออกของมันเสมอ  ฝึกฝนและพัฒนาต่อยอดตัวเองไปเรื่อยๆ จนในที่สุดคุณจะกลายเป็นสุดยอดนักพัฒนา  ไม่ว่าจะในด้านไหนๆ  นักสร้างและนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ก็จะนำความยิ่งใหญ่มาสู่โลกใบนี้  ความสุขของคนทั้งโลกก็คือ ความสุขของเราเช่นกัน นี่คือเป้าหมายที่เราควรตั้งไว้  อย่าน้อยใจในโชควาสนา ทุกอย่างเป็นไปได้หมด  ถ้าคุณต้องการจะเปลี่ยนโลก  ก็ต้องเริ่มจากภายในก่อน  เมื่อภายในสงบภายนอกก็จะหนักแน่นมั่นคง  ไม่ว่าอะไรผ่านเข้ามาในชีวิตคุณก็จะผ่านมันไปได้ทั้งหมดครับ  ยึดมั่น หนักแน่น ภูมิใจกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอบคุณมันเพราะมันคือบทเรียนที่สำคัญและให้คุณก้าวเป็นผู้นำยุคใหม่ที่เหนือระดับกว่าคนอื่นอย่างแน่นอน

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับการจัดการความเสี่ยง



ในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อสังหาริมทรัพย์คือพระเอก ที่บ่งบอกถึงการก้าวข้ามพัฒนาประเทศให้ไปอยู่ในระดับสากลได้  ทุกประเทสต่างแข่งขันกันในด้านต่างๆ  อาทิเช่น

เทคโนโลยี  
การค้า
อสังหาริมทรัพย์

ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ การเมืองคือสิ่งที่สร้างผลกระทบที่หนักใจไม่น้อยกับพวกนักธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศ  ความผันผวนทางการเมือง และการรักษาเสถียรภาพจึงเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากทีเดียว  แต่ไม่ว่าจะยังไงในปัจจัยที่เสี่ยงและอันตรายผลประโยชน์ต่างก็สวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ "ธุรกิจเกี่ยวกับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ"

ปัจจุบันมีนักธุรกิจหน้าใหม่สนใจในผลิตภัณฑ์ตัวนี้เยอะมากเนื่องจากเอเชียกำลังจะก้าวเข้าสู่ประเทศมหาอำนาจในอีกไม่กี่ปีข้าง ทุกประเทศล้วนต่างต้องพัฒนาตัวเองให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน  เพื่อนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่จะถึง เงินและผลประโยชน์อันมากก็ไหลเข้าสู่เอเชียจนน่าตกใจ  เอาละครับวันนี้ผมขอมาพูดเกี่ยวเรื่องการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจนี้แล้วกัน

ความเสี่ยงเรื่องการตัดสินใจลงทุน

หลายท่านคงเคยได้ยินประโยคนี้นะครับ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน  ใช่ครับการลงทุนในธุรกิจสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับโครงการที่จะลงทุน  เริ่มจากขั้นการเลือกโครงการลงทุน

สิ่งที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรกำหนดไว้ก็คือ  แผนพัฒนาโครงการ  ทีมงานของเราควรมีแผนนี้เก็บไว้พร้อมกับทีมงานด้านการลงทุน ทีมงานบริหารต้นทุนโครงการ  เพื่อร่วมกันปรึกษาในเรื่องความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

เมื่อหาข้อสรุปเป็นที่ลงตัวแล้ว (ผมมั่นได้ว่าความเสี่ยงลดลงไปเยอะทีเดียว)  จากนั้นเราก็ต้องมาจัดทำรายงานการวิเคราะห์การลงทุน(ฉบับร่าง) ขึ้นมาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติม  โดยเลือกเปรียบเทียบกับโครงการลงทุนอื่นๆ  ที่เราได้วางแผนเอาไว้

สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ  การวางแบบแผนการลงทุนหรือข้อกำหนดต่างๆ ให้ชัดเจนเพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าโครงการที่เราลงทุนจะคุ้มค่ากับผลตอบแทนการลงทุน และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้  (โดยอาศัยรูปแบบแผนการลงทุนก่อนหน้าที่เคยประสบความสำเร็จและสามารถนำมาปฎิบัติใช้เป็นมาตรฐานการทำงานได้จริง)

ความเสี่ยงเรื่องการบริหารจัดการ

ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเรื่องการบริหารบุคคล ทรัพยากร และการบริหารงานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้  ทุกอย่างต้องมีความชัดเจนและมีการกำหนดแผนแยกย่อยอย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น  แผนรายปี  รายเดือน  รายสัปดาห์แบบชัดเจน  พร้อมทั้งรายงานการปฎิบัติงานแบบเรียลไทม์

แผนที่จำเป็นหลักมีดังนี้

- แผนกำลังคน (โครงสร้างของทีมในการปฎิบัติงาน)
- แผนจัดซื้อ
- แผนการเงินและจัดการกระแสเงินสดในโครงการ
- แผนเกี่ยวกับเครื่องจักรและอุปกรณ์
- แผนเรื่องการบริหารสินค้าคงคลัง
- แผนงานหลัก (แผนงานโครงการทั้งหมด)
- แผนงานรอง  (แผนงานตามขั้นความสำเร็จของงาน)

ความเสี่ยงทางด้านการเงิน

เรื่องการบริหารการเงินเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากในวงการอสังหาริมทรัพย์  การบริหารจัดการทางการเงินและบริหารต้นทุนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรละเลย  หากบริหารจัดการได้ดีโครงการพัฒนาอสังหาก็จะสร้างกำไรให้กับนักพัฒนาอย่างมาก  แต่หากบริหารจัดการไม่ดีปัญหาที่ตามมาและชื่อเสียงของบริษัทก็เสียหายตามไปด้วย

ควรนำระบบ IT สารสนเทศเข้ามาจัดการเรื่องการอนุมัติทุกขั้นตอน  และมีอำนาจการอนุมัติทุกครั้งก่อนการสั่งจ่าย  (โดยให้ผู้มีอำนาจสูงสุด สำนักงานใหญ่เป็นผู้จัดการเรื่องนี้)

ความเสี่ยงด้้านการบริหารสินค้าคงคลัง

สินค้าคงคลังกับการก่อสร้างในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่ละกันไม่ได้  การบริหารสินค้าคงคลังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด  ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการก่อสร้างล้วนส่งผลต่อคุณภาพและต้นทุนในการพัฒนาอย่างยิ่ง

สิ่งที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสำคัญและไม่ควรละเลย  ทั้งเรื่องคุณภาพของงานก่อสร้างและประสิทธิภาพของวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง  อย่ามองแต่ของถูกแต่คุณภาพต่ำ  ควรให้ความใส่ใจกับผู้บริโภค เพราะนี่คือกลยุทธที่สำคัญที่จะทำให้คุณยืนอยู่ในวงการนี้ได้อย่างยั่งยืนและยาวนาน

สร้างโมเดลธุรกิจของตัวเอง

แน่นอนครับว่าโมเดลธุรกิจของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นี้  ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายทางการเมืองในแต่ละประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โมเดลตัวที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คือ

โมเดลด้านผลิตภัณฑ์ คือ ต้องมีความแตกต่างและเราเท่านั้นที่ทำได้ หรือถ้าคนอื่นจะเรียนแบบก็ทำได้ไม่ดีเท่ากันเรา  (วงการนี้ต้องการความโดดเด่น แตกต่างถึงจะอยู่รอด)  เพราะสิ่งนี้แหละครับที่จะทำให้ลูกค้าเข้าหาคุณ แทนที่คุณจะเป็นคนวิ่งเข้าหาลูกค้า

** (ทำสัญญาผูกขาดกับบางรายไว้จะดีมาก)  สร้างเป้าหมายในชีวิตไว้เลยว่า "เราจะสร้างองค์การที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"

การแบ่งสัดส่วนการทำงาน แบ่งได้ 3 ระดับ ดังนี้

ระดับที่ 1  รองประธาน รับผิดชอบในกลุ่มงานย่อย

ระดับที่ 2  บริหารโครงการ รับผิดชอบในกลุ่มงานย่อย

ระดับที่ 3  พัฒนาระบบ Soft ware การบริหารโมเดลให้เป็นไปตามระเบียบแบบที่วางไว้

ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ทุกอย่างล้วนอาศัยเครื่องมือนำทางที่จะให้เราไปสู่ความสำเร็จด้วยกันทั้งใน ในทุกแวดวงธุรกิจ สิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จและมีชัยเหนือคนอื่นได้แก่

1.สภาพแวดล้อม
2.การทำงานหนัก
3.คนเก่งและการบริหารทีมให้เก่ง
4.กล้าได้ กล้าเสีย
5.กล้าบุกเบิก กล้าทำในสิ่งใหม่ๆ และทดลอง IDEA ใหม่ๆอยู่เสมอ

นวัฒกรรมเท่านั้นที่จะสร้างความสำเร็จและความสามารถในการแข็งขันในธุรกิจนี้ได้  เพราะคือหัวใจที่ทำให้เราเหนือคู่แข่งแบบก้าวกระโดด  

เห็นแล้วใช่ไหมละครับว่าการควบคุมความเสี่ยงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดใหนการบริหารงาน  ไม่ว่าจะทุกที่ในโลกใบนี้  ทุกอาชีิพในโลกล้วนมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับอยู่แล้ว  สิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นก็คือการทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย  แล้วบริหารความเสี่ยงเพราะเมื่อเกิดปัญหาใดๆแล้ว เชื่อมั่นได้เลยครับว่าปัญหาทุกอย่างจะเป็นเเค่เรื่องเล็กๆ สำหรับคุณอย่างแน่นอน




การบริหารงานให้สำเร็จ




ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับประวัติคุณหวัง เจี้ยนหลิน (นักธุรกิจของจีนท่านหนึ่ง)  เขาเล่าเกี่ยวกับหลักการบริหารงานให้สำเร็จโดยมีโมเดลที่เขาสร้างขึ้นมา ลองไปดูกันครับ

โมเดลนี้มีชื่อว่า (โมเดลการบริหารจัดการ)  
1.อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่สำนักงานใหญ่

ประกอบไปด้วยหัวหน้าใหญ่  และผู้จัดการแต่ละโครงการแบ่งแยกกันออกไปโดยให้ทุกคนทำงานขึ้นตรงกับนายใหญ่คนเดียว โดยมีเงื่อนไขว่าผู้จัดการทุกคนต้องสลับหมุนเวียนกันทำงานไปเรื่อยๆ

2.การบริหารจัดการแบบแนวตั้ง

หมายถึง การควบคุมแผนกต่างๆ ไม่อนุญาตให้บริษัทในท้องถิ่นเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องบุคคลากร การเงิน หรือวัตถุดิบในระบบแนวตั้ง  โดยจะให้สำนักงานใหญ่เป็นคนจัดการเอง  พอทำงานครบ 3 ปีพนักงานบริษัทในท้องถิ่นจะต้องย้ายไปที่อื่น เพื่อป้องกันการสร้างอิทธิพล  เราสร้างกลไกลนี้เพื่อถ่วงดุลกันได้ในเวลาเดียวกัน

3.การควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด

"เราต้องอาศัยระบบ ไม่ใชความภัคดี"  เพราะความภักดีเป็นเรื่องไม่แน่นอน  ปีนี้มี แต่ปีหน้าอาจหายไปเวลามีเงินมาล่อใจ คนเราอาจไม่โกง แต่กลับยอมจำนนกับเรื่องบางเรื่องได้นะ

และที่สำคัญต้องมีฝ่ายตรวจสอบภายในมี 3 แบบ

1.รายงานข้อเสนอแนะของผู้สอบบัญชี
2.จดหมายแจ้งให้บริษัทแก้ไขข้อผิดพลาด
3.จดหมายแจ้งรายการแจ้งผลสอบ ถ้าแบบที่ 1 แสดงว่าไม่มีบทลงโทษ ถ้าแบบที่ 2 ต้องปรับปรุงตามที่แจ้งไว้

อาศัยเทคโนโลยีมาขับเคลือนการลงมือทำงานให้สำเร็จ

1.วางระบบโดยใช้ IT ระดับสูง
2.วางแผนเป็นโมดูล (หน่วยย่อย)  ได้แก่

2.1 จัดตั้งแผนกวางแผนมารับผิดชอบด้านการวางแผนงานที่หลากหลาย เช่น แผนตอนเริ่มก่อสร้าง  แผนต้นทุน  แผนกำไร แผนกระแสเงินสด แผนรายได้  แผนการคัดเลือกพนักงาน แผนการใช้เครื่องจักร เป็นต้น

แล้วแบ่งแผนเป็น รายปี   รายเดือน  รายสัปดาห์  (ใช้เวลา 3 เดือนในการวางแผน ตั้งแต่กันยายน-ธันวาคม)  แล้วพิจารณาแผนในวันที 5 ธันวาคม ของทุกปี

ผู้บริหาร          (รับผิดชอบแผนทีสำคัญที่สุด)
รองประธาน    (รับผิดชอบแผนที่สำคัญรองลงมา)
ผู้จัดการทั่วไป (รับผิดชอบแผนที่สำคัญน้อยที่สุด)

ซึ่งหน้าที่รับผิดชอบแผนอาจบันทึกเข้าไปในระบบ IT แล้วทำสัญลักษณ์เพื่อให้ทราบผลการทำงานในแต่ละช่วง  เช่น แดงไม่ผ่าน  เหลืองปรับปรุงแก้ไข  เขียวผ่าน

แผนการคัดเลือกพนักงาน

แผนการคัดเลือกคนเก่งจะเอาคนเก่าเข้ามากี่คน  กลุ่มงานไหนบ้างที่จำเป็นต้องคัดคนเก่งเข้ามาคิดเป็นกี่ %

เช่น  ผู้จัดการทั่วไป  100 คน  ในสำนักงานใหญ่ต้องมีผู้จัดการทั่วไปที่เก่งสัก 5 คน เพื่อสามารถไปปฎิบัติงานแทนได้

สร้างระบบอัจฉริยะ

1.ระบบตรวจจับคน จะใช้กับระบบโรงแรมกล่าวคือถ้าที่ไหนมีคนน้อยหรือพนักงานน้อยระบบเซนเซอร์แอร์จะปรับอุณหภูมิแอร์โดยอัตโนมัติ

2.ระบบแจ้งการเปลี่ยนกะพนักงาน

เปิดโรงเรียนสอนด้านการบริหารงาน

เป็นเรื่องที่ในรั้วมหาวิทยาลัยไม่มีสอน อันได้แก่
ด้านการบริหาร
ด้านการค้าปลีก
commerce
ด้านการบริหารธุรกิจ

ในการบริหารงานให้สำเร็จอาจมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย  ทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้  ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา  วิธีการแบบเก่าๆอาจเอามาใช้ในปัจจุบันไม่ได้แล้วก็ได้

ผู้บริหาร (เจ้าของ)  อาจพาบริษัทล่มจ่ได้เช่นกัน  ในขณะเดียวกัน  ผู้บริหารมืออาชีพ ก็ไม่ได้ใส่ใจผลประโยชน์ระยะยาวของบริษัท 5-8 ปี

จึงมีคำกล่าวเปรียบเที่ยบไว้ว่า
"เท้าคุณเท่านั้นที่รู้ว่ารองเท้าใส่สบายแค่ไหน"  ลองศึกษาผังธุรกิจค้าปลีกสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้วเพราะทุกอย่างจะถูกพัฒนาในทิศทางเดียวกัน




เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดไปกับทุกเรื่อง



นิสัยข้อหนึ่งนะครับที่คนไทยมีจนติดเป็นนิสัยก็คือ ขึ้สงสาร ขี้เกรงใจ พอทำอะไรที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นการเสียสละกับเรื่องบางเรื่องก็จะรู้สึกผิดเต็มๆ  ผมจะบอกอะไรให้นะครับ  มันไม่มีถูกหรือผิดหรอกครับเรื่องบางเรื่องเราทบทวนและคิดไว้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด  การรู้สึกผิดไม่ได้ทำให้อะไรให้ดีขึ้น ทุกอย่างมันขึ้นอยู่ที่ความสบายใจของคนเรามากกว่า

ถ้าหากคุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันเป็นประโยชน์ต่อคุณและคนอื่นคุณก็ทำไป  แต่สำหรับผมมองว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญก่อน  หากที่ทำไม่ได้สำคัญอะไรมากก็ไม่จำเป็นต้องทำ  เลือกโฟกัสแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วชีวิตคุณมันก็จะง่ายไปทุกอย่าง

เราไม่จำเป็นให้ใครต้องมาบ่งการชีวิตเรา  เรากำหนดชีิวิตของเราได้ใครเขาจะคิดอะไรนั่นมันเป็นเรื่องของเขา  เรารู้ตัวเราเองดีทุกการกระทำและทุกความคิด  ไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์ใดๆ สติจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ขอให้อดทนและกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์  ดีงาม

บางทีการที่เราเอาตัวเองจ่มอยู่กับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เราลืมไปว่ายังมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เราต้องทำอีกมากมาย  เราโตขึ้นความคิดเราก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลาและประสบการณ์ชีวิตของเรา  จำไว้นะครับว่าชีวิตเรามันสั้นเกินกว่าจะมีคิด หรือรู้สึกผิดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆเกินไป  มองทุกอย่างในภาพรวมแบบกว้างๆ  แล้วคุณจะเห็นปัญหาทั้งหมด  จากนั้นค่อยๆแก้ปัญหาทีละจุด  จุดไหนแก้ยังไม่ได้ก็ต้องปล่อย  เลือกหลีกหนีจากคนคิดลบ และมองโลกในแง่บวกเสมอ แล้วชีวิตคุณจะก้าวกระโดดแบบทันตาเห็นครับ

ใครจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขา  นั่นมันคือบทเรียนชีวิตของเรา  เราทำของเราตัวเราก็ได้รับบทเรียนของเราเช่นเดียวกัน  เลือกแต่บทเรียนชีวิตในทางที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น  โลกสวยงเสมอหากเราเลือกแต่มุมที่สวยงามมันก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่าเป็นคนคิดลบพลังงานลบๆจะกลับมาทำร้ายตัวเราในที่สุด  (ไม่ว่าตอนนี้คุณจะท้อแท้ เจอเรื่องที่เจ็บปวดมากมายแค่ไหนขอให้บอกกับตัวเองว่ามันต้องดีกว่านี้ และคุณคือคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ประกาศมันไปทุกวันให้โลกมันรู้ไปเลยว่าคุณคือที่สุดจริง ๆ)

วันอังคารที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560

ความสมบูรณ์ของชีวิต


เราอาจจะมองหาความสมบูรณ์แบบไปทุกที่ ความคิดของเราพาเราให้หลงทาง. หรือแม้บางทีก็มองคนอื่นในแง่ร้าย. แต่ก็อย่างว่าแหละครับความอยุติธรรมมันเกิดขึ้นได้เสมออยู่ละครับ. สิ่งสำคัญเราอย่าเอาเวลามาน้อยใจในโชคชะตาชีวิตเลยครับ. หน้าที่ของเราคือสร้างมันขึ้นมาเองดีกว่า. เรามีทางเดินของตัวเอง.

แต่การจะไปยังจุดนั้น ทัศนคติคือเรื่องจำเป็นที่เราต้องกำหนดให้ได้ก่อน. ความคิดที่ถูกต้องก็จะนำมาซึ่งการกระทำและผลลัพธ์ที่ถูกต้องเช่นกัน. มนุษย์เราหว่านพืชอะไรเข้าไปในจิตใจ ผลดอกของมันก็เป็นแบบนั้น. แท้จริงแล้วผมว่าเรื่องเหล่านี้ฟังดูเหมือนง่ายนะ. แต่ก็โครตยากที่จะทำเลย มันก็อาจจริงและไม่จริงสำหรับบางคนครับ. พื้นฐานทางครอบครัว สภาพล้อมความเป็นอยู่ล้วนแล้วแต่หล่อหลอมให้มนุษย์เป็นไปในแบบฉบับของตัวเอง และพื้นฐานสังคมที่เป็นอยู่. การที่เราคิดนอกกรอบอาจดูเหมือนว่าเราแตกต่างจากสังคมนั้นๆ. แต่ก็อย่างที่รู้แหละครับมนุษย์เราหากไม่มีผู้ที่จะสร้างความแตกต่าง. สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้ยเเกิดขึ้นบนโลกใบนี้. ย่อมเป็นเรื่องที่ยังเหลือเชื่ออยู่แน่นอน

แตกต่างไม่ได้หมายความว่าเราต้องแตกแยกครับ. มนุษย์เรามีสิทธิ์ที่จะคิดเเละเป็นตัวของตัวเอง. ไม่ใช่ปล่อยให้สิ่งแวดล้อมภายนอกมากำหนดตัวเราไปซะทุกอย่าง. เพราะในท้ายที่สุดเราจะหาตัวเองไม่เจอ. และวนอยู่ในอ่างแบบนี้ไปเรื่อยๆ. หากรู้ว่าจุดที่คุณอยู่ไม่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้คุณได้ก็แค่ถอยออกจากมันมาซะ. อย่าเอาแต่บ่นโทษอะไรไปทุกอย่าง

วางแผนชีวิตให้ตัวเองเรื่องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต. อะไรที่มนุษย์เราให้ความสำคัญมันจะยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน. กล้าคิด กล้าตัดสินใจทำ ในสิ่งที่ถูกต้องและปล่อยพลังงานบางอย่างที่มันซ่อนอยู่ภายในออกมาใช้ให้เต็มที่. จากนั้นก็แค่รอคอยเวลา และจังหวะ เห็นไหมครับว่าเคล็ดลับมันง่ายแค่นี้เอง

วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

ความโกรธ


ความโกรธ เป็นเหมือนไฟที่เผาจิตใจของเราให้มอดไหม้ได้  เวลาที่เราโกรธหรือไม่สบายใจอะไรสิ่งแรกที่เราทำได้ก็คือ ต้องควบคุมความคิดของเรา  ตั้งสติยิ้มรับกับปัญหาไว้ก่อน  ทุกอย่างมันมีทางออกของมันอยู่แล้วเพียงแค่เราต้องใจเย็นสักนิด

ความโกธรทำลายทุกอย่าง แม้กระทั่งความสัมพันธ์ดีดีที่เคยมีให้กันมันหายไปหมด  ไม่พองานใหญ่ก็เสียด้วย แต่ก็อย่างว่านะครับ เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงคนที่เราไม่ชอบได้  แต่เราเลือกที่จะคิด พูด ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ได้ เช่น

เมื่อเวลาโกธร  ก็ให้คิดถึงสิ่งที่เรามีความสุขแล้วยิ้มกับมันเข้าไว้เปลี่ยนเรื่องไปคุยซะใหม่ให้มันสนุกสนานน่าตื่นเต้น  พลังงานบางอย่างมันส่งผ่านถึงกันได้เราเลือกที่จะรับแต่สิ่งดีๆได้เช่นกัน  สิ่งไหนที่เราไม่ชอบให้เขามาทำกับเรา  เราก็อย่าไปทำกับเขามันก็เท่านั้นเอง

เวลาไม่ชอบเขาก็แค่นิ่งไว้ซะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปตอบโต้เขา เพราะยิ่งเราไปตอบโต้หรือพูดในทางลบ พลังงานลบๆ ก็จะวิ่งเข้าหาเรา  มองหาแต่สิ่งดีๆ ส่งความปรารถนาดีให้กับเขาซะ  เราก็สุขใจแล้ว มนุษย์เรามีใจเป็นใหญ่  เมื่อคุณควบคุมจิตใจ อารมณ์ของคุณได้  ก็เสมือนมีขุมทรัพย์ภายในตัวเอง

เลือกคบคนที่มีพลังงานทีดี พลังงานที่ต้องการจะเปลี่ยนโลก ช่วยเหลือผู้คนเพราะคนเหล่านี้คือคนรวย ในโลกทุนนิยม  มนุษย์มีปัญหาและเขาไม่รู้ว่าต้องแก้ปัญหายังไง  หากเราสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้เราก็จะรวยแบบไม่รู้ตัว  ความโกธรจึงเป็นปัญหาใหญ่ที่มนุษย์โลกต้องแก้  หากเราสามารถสร้างความสุข และส่งมอบความสุขไปให้ผู้คนมากมาย  สิ่งตอบแทนที่ได้รับมันมีค่ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

ทุกครั้งที่ผมโกธร  สิ่งที่ผมชอบทำคือหาเรื่องสนุกๆทำเพื่อลืมมันไปซะ  การออกหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิต ลองทำอะไรแปลก ปล่อยวางกับความโกธรมองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา  ทุกอย่างมีเกิดดับเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต

เลือกทางที่ถูกต้อง นึกถึงสิ่งที่ดีงามแล้วความดีงามและสิ่งดีๆจะเกิดขึ้นกับคุณเอง  ตรวจสอบเป้าหมายของเราให้ชัดเจน ว่าเราเป็นใคร ต้องการอะไรและจะทำอะไรต่อไปชีวิตเราจะได้ไม่หลงทางหรือหลงเชื่อตามคำของใครได้  วันนี้ขอให้คุณหนักแน่นอดทน อย่างสม่ำเสมอ แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไปเอง ผมของให้ทุกคนโชคดี



วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560

เงินต้องวางแผนเพราะคุณไม่สามารถทำงานไปได้ตลอด



การวางแผนการเงิน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งโลกถูกพัฒนาเข้าไปอยู่ในทิศทางเดียวกัน ระบบการเงินของทุกประเทศถูกจัดวางให้ไปในแนวทางเดียวกันหมด  ต่อไปในอนาคตคนที่รวยก็จะยิ่งรวย คนจนก็จะยิ่งจนลง  ความเหลื่อมล้ำทางสังคมจากระบบทุนนิยมในระยะยาวสร้างปัญหาให้กับประชากรโลกมากขึ้นทุกที  เราไม่สามารถยับยั้งปัญหาเหล่านี้ได้  สิ่งที่เราทำได้คือ เราต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ  จึงเป็นเรื่องใหม่ที่ควรศึกษาเพราะความรู้เท่านั้นที่ทำให้เราสามารถอยู่รอดได้ในระบบทุนนิยมแบบนี้

ประชากรโลกที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกที แต่ในขณะเดียวกันทรัพย์สินบางอย่างไม่สามารถเพิ่มมูลค่า หรือสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ ได้อาทิ เช่น ทองคำ ที่ดิน เพรช พลอย ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น  นายทุนจึงพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อหวังต้องการเป็นผู้ครองโลก  แต่ก็อย่างว่านะครับ ตามหลักธรรมมะแล้ว มีเกิดขึ้น และก็ดับไป  ผมมั่นใจว่าในวันข้างหน้าระบบทุนนิยมจะหายไปจากโลกใบนี้อย่างแน่นอน  เมื่อทุกอย่างถึงเวลาของมัน

เอาเป็นเราเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ยังต้องอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมที่ยังอาศัยเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่  ตราบนั้น ทางเลือกทางการเงินและการวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง  เพราะเราไม่สามารถทำงานไปจนแก่ได้  เราเลยต้องหาเครื่องทุ่นแรงต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระของเราในอนาคต  การนำเงินไปลงทุนในช่องทางต่างๆ เพื่อให้งอกเลย และการหาความรู้เพ่ิมเติมทางการเงินที่ทุกคนควรศึกอย่างยิ่ง  หากปล่อยปละละเลยไปทุกคนต้องเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว  (ระบบทุนนิยมสอนให้คนสร้างหนี้อยู่แล้วครับ) การจะให้ตัวเองออกจะวงจรนี้คุณก็ต้องเข้าใจระบบของวงจรหนี้ก่อน รู้กฎกติกาทุกอย่าง วิธีเล่นอย่างละเอียด  จากนั้นก็หาทางออกจากสนามนี้ให้เร็วที่สุด (ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนสักห้าปี เก็บเงินหาช่องทางต่างๆ ในการสร้างรายได้ อดเปรี้ยวไว้กินหวานอย่าไปวิ่งตามคนอื่นเท่านี้เองครับคุณต้องหลุดพ้นจากวงจรนี้อย่างแน่นอน)

การเป็นนายตัวเอง ปล่อยให้เงินเป็นทาสของคุณ  แล้วชีวิตคุณจะไม่ต้องทำงานและมีอิสรภาพในการที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ  ให้สัญญากับตัวเองทุกวัน  มีวินัยกับทุกเรื่องของชีวิตสิ่งไหนที่คุณให้ความสำคัญกับมัน  มันก็จะทวีผลให้คุณมากเท่านั้น  อยากทำเงิน (เงินก็จะเพิ่ม) อยากได้ความรู้ (ความรู้คุณก็เพิ่ม)  ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมออย่าเอาเวลาไปโฟกัสที่คนอื่น ต้องมองที่ตัวเรา พัฒนา ฝึกฝน ศึกษาหาความรู้ทางการเงินให้มากๆ และที่สำคัญคือการมีวินัยประหยัดอดออมกับทุกเรื่อง  แค่นี้คุณก็เป็นนายของเงินได้อย่างสบายเลยครับ

การวางใจให้อยู่กับปัญหาให้ได้




บางทีการปล่อยวางกับอะไรบางอย่างสักพักมันก็คงจะดีมากเลยครับ

หลายครั้งเราเอาแต่โฟกัสแต่ปัญหาจนหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้  ลองเปลี่ยนวิธีคิดคุณใหม่ซิครับแทนที่จะโฟกัสที่ปัญหาลองหาโฟกัสไปที่วิธีการในการหาทางออกให้กับปัญหาดีกว่า

ความคิดทัศนคติในการแก้ปัญหาจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง  ยิ่งปัญหาใหญ่เท่าไรก็ทำให้คุณได้เรียนรู้และเติบโตมากขึ้นเท่านั้น ข้อที่สำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ก็คือ อยู่ที่ตัวปัญหาที่คุณแก้ว่า

คุณแก้ปัญหาให้กับองค์กรหรือบริษัทของคุณ  สิ่งที่คุณได้ก็คือ คุณได้ความรู้และทักษะใหม่ๆเพิ่มขึ้น และเงินเดือนอาจได้เพิ่มขึ้นตามความสามารถ

คุณแก้ปัญหาให้กับผู้คน ประเทศชาติ โลก  สิ่งที่คุณได้ก็คือ คุณจะได้เป็นอภิมหาเศรษฐี นั้นเพราะสิ่งที่คุณแก้มันยิ่งใหญ่นั่นเอง

ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา  เราต้องยอมรับมันให้ได้ทำปัจจุบันของเราให้มันดีที่สุด ตัวเราเองนั่นแหละครับ เป็นได้ทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย  เราสามารถสร้างให้ชีวิตเราดีขึ้นได้และเป็นไปในแบบที่เราต้องการ  ในขณะเดียวกันเราก็สามารถทำลายชีวิตของเราได้เช่นกันถ้าเราเอาแต่จมอยู่กับอดีตกับปัญหาที่บางอย่างเราไม่สามารถแก้มันได้

การปล่อยวาง มีใจเป็นกลางจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ปล่อยให้เวลามันผ่านไปเองระยะเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่างได้  มีสติทุกขณะกับชีวิตแล้วคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับมัน  ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ คุณไม่จำเป็นต้องนับหนึี่งตลอด  ล้มตรงไหนก็เริ่มจากตรงนั้นได้  ใช้ชีวิตในแบบที่เราเลือกเองมันมันและสนุกมากกว่ากันเยอะ

นึกถึงที่สำคัญและเลือกทำแต่สิ่งนั้น  เพราะสิ่งที่สำคัญก็ทำให้ชีวิตคุณไม่หลงทางและสามารถเดินไปในทางที่คุณต้องการได้  และเราก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำของเราด้วย เพราะเราได้ตัดสินใจเลือกมันแล้ว  อยากจะฝากข้อคิดให้กับคนที่กำลังวนอยู่กับปัญหาเดิมๆ หาทางออกให้กับชีวิตคุณไม่เจอ ไปต่อไม่ได้  แท้จริงคุณก็แค่หาทางเลือกใหม่ให้ตัว ทำในสิ่งที่ตัวเองเรียกร้องจริงเท่านั้นเองครับ  ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน เพราะถ้าทำเต็มที่แล้วและเป็นสิ่งที่เรารัก  ยังไงมันต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปอย่างแน่นอน  ผมเป็นกำลังใจให้คุณครับ

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...