วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

นิทานเรื่องความรู้คือขุมทรัพย์


ชายผู้หนึ่งเปิดบริษัทซอฟแวร์  เขาสามารถหาเงินจำนวนมากได้  แต่ลูกชายของเขากลับทำตัวเหมือนพวกลูกเศรษฐีทั่วไป  ไม่ยอมเรียนรู้รหัสและขั้นตอนที่น่าเบื่อหน่ายเหล่านั้นกับพ่อ  เอาแต่เที่ยวเสเพลและใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายกับเหล่าเพื่อนฝูงทุกวี่ทุกวัน

ต่อมาพ่อของเขาได้เสียชีวิตลง  ก่อนเสียชีวิตเขาได้บอกกับลูกชายว่า  "พ่อได้นำทรัพย์สมบัติทั้งหมดล็อคไว้ในตู้เซฟ  ส่วนรหัสของตู้เซฟก็อยู่ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์  หากลูกใช้กำลังเปิดตู้เซฟทนายความส่วนตัวของพ่อจะนำทรัพย์สมบัติที่อยู่ในตู้เซฟไปบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด

หลังจากที่ลูกชายประกอบพิธีฝังศพของพ่อเรียบร้อยแล้ว จึงเปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความตื่นเต้น  ต้องการหาเลขรหัสของตู้เซฟ แต่กลับพบว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ได้ตั้งรหัสไว้เช่นกัน  เขาเดารหัสอยู่นานก็ไม่สามารถเดาได้ถูก  ครั้งแล้วจึงหาผู้ที่เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆมากมายเพื่อมาไขรหัสผ่าน  แต่คนเหล่านี้ก็ต้องล้มเลิกและกล่าวลาไปในที่สุด

ภายหลังลูกชายตัดสินใจลงมือไขรหัสผ่านด้วยตนเอง  เขากล่าวลาเพื่อที่เอาแต่เที่ยวเล่นในอดีต  และเริ่มลงมือศึกษาตั้งแต่ความรู้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน  หลังจากนั้นได้เข้าไปเรียนหลักสูตรคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน  หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปเรียนคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  พร้อมทั้งทำการผูกมิตรกับผู้เชี่ยวชาญและศาสตร์จารย์ด้านคอมพิวเตอร์ต่างๆ  อีกมากมาย  หลังจากผ่านความมานะพยายามหลายปี  ในที่สุดเขาก็สามารถไขรหัสลับของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จ

เมื่อลูกชายเปิดตู้เซฟออกมา  กลับพบว่าในนั้นไม่มีเงินแม้แต่สตางค์แดงเดียว  มีเพียงกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่ง  ในกระดาษแผ่นนั้นเขียนว่า "ลูกชาย  เมื่อเห็นกระดาษแผ่นนี้เเล้วลูกอย่าได้ตกใจ  เนื่องจากพ่อได้บริจาคทรัพย์สมบัติให้องค์กรการกุศลไปหมดแล้ว  แต่ลูกก็ได้รับทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของพ่อไปแล้วเช่นกัน  นั่นก็คือ ความรู้"  ในสังคมแห่งนี้เงินเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น  ในยุคของความรู้เชิงเศรษฐศาสตร์มันไม่สามารถเป็นตัวเเทนของทรัพย์สมบัติในชีวิตของมนุษย์ได้  มีเพียงความรู้เท่านั้นที่จะเป็นสมบัติที่ใช้ไม่มีวันหมด  

ถึงตอนนี้ลูกชายได้เข้าใจในสิ่งที่พ่อคิดเผื่ออนาคต  ไม่นานเมื่อเขามีอายุมากขึ้นความสามารถของเขาก็ยกระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ในที่สุดก็เก่งกาจยิ่งกว่าพ่อ  และสร้างบริษัทซอฟแวร์ใหญ่ขึ้นมาแห่งหนึ่ง  ความรู้นำมาซึ่งสติปัญญาและความสำเร็จของพวกเรา  ในการเผชิญหน้ากับสภาพเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในสังคมปัจจุบัน  คุณจะต้องไม่หยุดที่จะเรียนรู้  ไม่หยุดสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง  มีเพียงเช่นนี้จึงจะสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้  จึงจะสามารถเอาชนะและควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความรู้เป็นขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่  ก่อนที่คุณจะวิ่งหาเงินทองความร่ำรวยคุณต้องรู้และเข้าใจในตัวเองซะก่อนว่าเราก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น  จากนั้นก็พัฒนาตัวเองไปเป็นอะไรก็ตามแต่ที่ใจเราปรารถนา "ในชีวิตของทุกคนล้วนมีบทบาทการแสดงที่แตกต่างกันไป  บางทีวิถีแห่งความสำเร็จที่สำคัญก็คือการพบเข็มทิศนำทางชีวิต  ผู้ที่ไม่มีหลักการจะลอยไปลอยมาไม่มีทิศทาง  หากมีเข็มทิศที่ถูกต้องไม่ว่าเราจะแสดงบทบาทใดก็ยังสามารถรักษาตัวตนที่แท้จริงไว้ได้   ทำได้อย่างชำนาญคล่องแคล่ว มีระดับผลงานที่ต่างกันไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและยอดเยี่ยม "

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...