วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

ศีลเสมอแล้วเจอกัน

         

            ผมได้อ่านบทความของพี่บอย  พิสูจน์  แล้วเจอประโยคนี้  รู้สึกชอบมากๆครับ   ตรงตามหลักของพระพุทธเจ้าที่เคยกล่าวไว้ว่า  บุคคลที่จะมาเจอกันหรือร่วมบุญร่วมชาติกัน  หรือจะเป็นเนื้อคู่กัน  ต่างต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน  นั้นก็คือ ศีล  สมาธิ ปัญญา  เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งสิ้น

       หลายครั้งเราบ่นโทษสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราไม่ดี
       โดยลืมคิดไปว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ก็คือ ภาพสะท้อนในใจเรา
       เราพยายามจะเปลี่ยนโลกภายนอก
       โดยหารู้ไม่ว่าโลกภายนอก  ก็คือกระจกสะท้อนโลกภายในของเรา
       
       ถ้าคุณเปลี่ยนโลกข้างในของคุณ  โลกข้างนอกของคุณก็จะเปลี่ยนตาม
       ถ้าคุณอยากให้โลกยิ้ม  คุณก็ต้องยิ้มให้กับโลก

       นี่เป็นเรื่องจริงถ้าคนที่โลกมือจะแย้งขาดใจว่าไม่จริง
       ฉันยิ้มให้เขาเเล้ว  เขาไม่เห็นยิ้มหรือดีกับฉันเลย
  
      ขอบอกเลยครับว่า ถ้าคุณยังยิ้มต่อไป ดีต่อไป
      เปลี่ยนโลกข้างในของคุณต่อไป  โดยไม่ต้องสนใจคนอื่น
      ที่คุณควบคุมเขาไม่ได้   

ประโยคต่อไปนี้สำคัญมาก
       
      สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ  ถ้าเขาคนนั้นยังไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดี
      เขาคนนั้นก็จะค่อยๆ  หลุดออกจากวงโคจรชีวิตของคุณไปเอง
      นี่เป็นเรื่องของระดับพลังงานที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะอธิบาย
      แต่เอาเป็นเป็นว่า  "ศีลเสมอแล้วเจอกัน"


              โลกใบนี้คือกระจกที่สะท้อนตัวเราข้างใน  อย่าพยายามเปลี่ยนโลก  เปลี่ยนคน ให้เรา 
เปลี่ยนข้างในตัวเราง่ายกว่า  ได้ผลกว่า ต้องลองทำดูครับ  การที่เราเปลี่ยนความคิดของตัวเอง
 21 วันแล้วทำต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น  จักรวาลจะสรรจัดบางสิ่ง  บางอย่างที่เหมาะกับตัวเรา  ให้เราได้รับสิ่งที่คู่ควรที่เราสมควรจะได้รับ  และมองพลังอำนาจบางอย่างที่สามารถให้เรามีความสุข   และแบ่งปันไปสู่โลก  สังคม และบุคคลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด   
     

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...