ผมได้อ่านบทความของพี่บอย พิสูจน์ แล้วเจอประโยคนี้ รู้สึกชอบมากๆครับ ตรงตามหลักของพระพุทธเจ้าที่เคยกล่าวไว้ว่า บุคคลที่จะมาเจอกันหรือร่วมบุญร่วมชาติกัน หรือจะเป็นเนื้อคู่กัน ต่างต้องมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน นั้นก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบในการดำรงชีวิตของมนุษย์ทั้งสิ้น
หลายครั้งเราบ่นโทษสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราไม่ดี
โดยลืมคิดไปว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา ก็คือ ภาพสะท้อนในใจเรา
เราพยายามจะเปลี่ยนโลกภายนอก
โดยหารู้ไม่ว่าโลกภายนอก ก็คือกระจกสะท้อนโลกภายในของเรา
ถ้าคุณเปลี่ยนโลกข้างในของคุณ โลกข้างนอกของคุณก็จะเปลี่ยนตาม
ถ้าคุณอยากให้โลกยิ้ม คุณก็ต้องยิ้มให้กับโลก
นี่เป็นเรื่องจริงถ้าคนที่โลกมือจะแย้งขาดใจว่าไม่จริง
ฉันยิ้มให้เขาเเล้ว เขาไม่เห็นยิ้มหรือดีกับฉันเลย
ขอบอกเลยครับว่า ถ้าคุณยังยิ้มต่อไป ดีต่อไป
เปลี่ยนโลกข้างในของคุณต่อไป โดยไม่ต้องสนใจคนอื่น
ที่คุณควบคุมเขาไม่ได้
ประโยคต่อไปนี้สำคัญมาก
สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ถ้าเขาคนนั้นยังไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดี
เขาคนนั้นก็จะค่อยๆ หลุดออกจากวงโคจรชีวิตของคุณไปเอง
นี่เป็นเรื่องของระดับพลังงานที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่จะอธิบาย
แต่เอาเป็นเป็นว่า "ศีลเสมอแล้วเจอกัน"
โลกใบนี้คือกระจกที่สะท้อนตัวเราข้างใน อย่าพยายามเปลี่ยนโลก เปลี่ยนคน ให้เรา
เปลี่ยนข้างในตัวเราง่ายกว่า ได้ผลกว่า ต้องลองทำดูครับ การที่เราเปลี่ยนความคิดของตัวเอง
21 วันแล้วทำต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน คุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น จักรวาลจะสรรจัดบางสิ่ง บางอย่างที่เหมาะกับตัวเรา ให้เราได้รับสิ่งที่คู่ควรที่เราสมควรจะได้รับ และมองพลังอำนาจบางอย่างที่สามารถให้เรามีความสุข และแบ่งปันไปสู่โลก สังคม และบุคคลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น