วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563

คนคิดบวก กับ คนคิดลบ


มีนิทานเรื่องหนึ่งผมไม่แน่ใจนะครับว่าที่มาไม่แน่ชัด  เรื่องมีว่า...  ในบ้านที่มีครอบครัวหนึ่ง  มีลูกชายอยู่ 2 คน 

คนหนึ่งเป็นคนที่ลบเอามาก ๆ 

ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นคนที่คิดบวกมาก ๆ

พ่อแม่ของเด็กทั้งสองจึงมีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่น้อย  จึงได้ไปปรึกษาจิตแพทย์ดูว่า  ควรทำอย่างไรดีกับเด็กทั้งสองคนนี้  จิตแพทย์ก็เลยนะนำพวกเขาว่า  ให้ลองให้ของขวัญสักชิ้นหนึ่งให้กับเด็กทั้งสองคน  โดยที่เด็กที่คิดลบมาก ๆ ก็ให้สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด  ส่วนเด็กที่คิดบวกก็ให้สิ่งที่แย่ที่สุด 

พ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนจึงได้ลองทำตามวิธีของจิตแพทย์ดู  โดยคนที่คิดลบก็ได้ซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้ เป็นจักรยานราคาแพงรุ่นใหม่  แต่ผลปรากฎว่า

-เด็กก็ยังมีความคิดลบอยู่ เขามองว่ารถแบบนี้ถ้าเกิดขับบนถนน  จะเกิดอุบัติเหตุกับเขาไหม และอะไรต่าง ๆ อีกมายมายที่สามารถทำให้เขาคิดลบได้

-เด็กที่คิดบวกพ่อแม่ได้เอาขี้ม้าใส่ในกล่องของขวัญ  พอเปิดออกมาพบว่าเป็นขึ้ม้า  เด็กคนนี้ก็มองว่านี่ขนาดขี้ม้า ยังมากมายขนาดนี้ที่พ่อแม่ให้กับเรา  ถ้าเป็นตัวม้าคงใหญ่ขนาดนี้แน่นอน  เขาพยายามมองแง่ดีต่าง ๆ และจินตการถึงความเป็นไปได้ของม้าตัวนี้ เท่าที่จะเป็นไปได้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้  ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยน  คนที่คิดลบก็จะคิดลบ  คนที่คิดบวกเขาก็จะคิดบวก  เพราะฉะนั้นในโลกของการทำงานก็เช่นเดียวกัน  การที่เราจะพูดคุยอะไรกับใครนั่น  เราต้องดูด้วยว่า  คนนั่นนิสัยใจคอเป็นคนยังไง  ความมีความคิดเห็นยังไง  และมีทัศนคติยังไงต่อเรื่องราวและผู้คนในเหตุการณ์นั้น ๆ

การฟังอย่างมีสติ  และระมัดระวังคำพูดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ เราไม่รู้หรอกว่าเขานั้นเป็นคนยังไง  และจริงใจต่อเรามากน้อยขนาดไหน   การวางตัวเป็นกลาง  ใครจะคิดพูดอะไรก็อย่าได้สนใจไป  เราต้องมีสติให้มาก ๆ  การที่เรารักษาภาวะอารมณ์ให้สมดุลอยู่เสมอนั่น  ย่อมทำให้เราเป็นที่น่าเกรงข้าม  และเคารพของคนทั่วไป  ใครจะคิดดีหรือไม่ดีก็อย่าได้สนใจไป  ตัวเรารู้ตัวเองมากที่สุด 

ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้เอามาก ๆ  ว่าถ้าเราทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง  เราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีกลับมาเสมอ  เลือกอยู่ในที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวของเรา  ไม่ใช่เลือกอยู่ในจุดที่ต้องลำบากใจและไม่มีความสุข  ให้เขามากดดันให้ตัวเราต้องรู้สึกว่า  เราด้อยกว่าหรือคุณค่าลดลง  เพราะชีวิตของเรานั่น มีคุณค่ามากมายเกินกว่าที่เราจะพูดออกมาได้  อดีตเป็นอะไรอย่างไรนั่นไม่อาจพูดได้  ปัจจุบันนั่นสำคัญที่สุดครับ   เพราะฉะนั้นมาทำปัจจุบันของคุณให้มันดีที่สุด  มองชีวิตเป็นให้มันมีความสุขกับมันในทุก ๆ วัน  มีเป้าหมายกับสิ่งที่ทำและชัดเจนกับมัน  เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณมีความสุขที่สุดแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...