มีนิทานเรื่องหนึ่งผมไม่แน่ใจนะครับว่าที่มาไม่แน่ชัด เรื่องมีว่า... ในบ้านที่มีครอบครัวหนึ่ง มีลูกชายอยู่ 2 คน
คนหนึ่งเป็นคนที่ลบเอามาก ๆ
ส่วนอีกคนหนึ่งก็เป็นคนที่คิดบวกมาก ๆ
พ่อแม่ของเด็กทั้งสองจึงมีความกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่น้อย จึงได้ไปปรึกษาจิตแพทย์ดูว่า ควรทำอย่างไรดีกับเด็กทั้งสองคนนี้ จิตแพทย์ก็เลยนะนำพวกเขาว่า ให้ลองให้ของขวัญสักชิ้นหนึ่งให้กับเด็กทั้งสองคน โดยที่เด็กที่คิดลบมาก ๆ ก็ให้สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด ส่วนเด็กที่คิดบวกก็ให้สิ่งที่แย่ที่สุด
พ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนจึงได้ลองทำตามวิธีของจิตแพทย์ดู โดยคนที่คิดลบก็ได้ซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้ เป็นจักรยานราคาแพงรุ่นใหม่ แต่ผลปรากฎว่า
-เด็กก็ยังมีความคิดลบอยู่ เขามองว่ารถแบบนี้ถ้าเกิดขับบนถนน จะเกิดอุบัติเหตุกับเขาไหม และอะไรต่าง ๆ อีกมายมายที่สามารถทำให้เขาคิดลบได้
-เด็กที่คิดบวกพ่อแม่ได้เอาขี้ม้าใส่ในกล่องของขวัญ พอเปิดออกมาพบว่าเป็นขึ้ม้า เด็กคนนี้ก็มองว่านี่ขนาดขี้ม้า ยังมากมายขนาดนี้ที่พ่อแม่ให้กับเรา ถ้าเป็นตัวม้าคงใหญ่ขนาดนี้แน่นอน เขาพยายามมองแง่ดีต่าง ๆ และจินตการถึงความเป็นไปได้ของม้าตัวนี้ เท่าที่จะเป็นไปได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ถ้าเขาไม่ยอมเปลี่ยน คนที่คิดลบก็จะคิดลบ คนที่คิดบวกเขาก็จะคิดบวก เพราะฉะนั้นในโลกของการทำงานก็เช่นเดียวกัน การที่เราจะพูดคุยอะไรกับใครนั่น เราต้องดูด้วยว่า คนนั่นนิสัยใจคอเป็นคนยังไง ความมีความคิดเห็นยังไง และมีทัศนคติยังไงต่อเรื่องราวและผู้คนในเหตุการณ์นั้น ๆ
การฟังอย่างมีสติ และระมัดระวังคำพูดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ เราไม่รู้หรอกว่าเขานั้นเป็นคนยังไง และจริงใจต่อเรามากน้อยขนาดไหน การวางตัวเป็นกลาง ใครจะคิดพูดอะไรก็อย่าได้สนใจไป เราต้องมีสติให้มาก ๆ การที่เรารักษาภาวะอารมณ์ให้สมดุลอยู่เสมอนั่น ย่อมทำให้เราเป็นที่น่าเกรงข้าม และเคารพของคนทั่วไป ใครจะคิดดีหรือไม่ดีก็อย่าได้สนใจไป ตัวเรารู้ตัวเองมากที่สุด
ผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้เอามาก ๆ ว่าถ้าเราทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง เราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีกลับมาเสมอ เลือกอยู่ในที่มีคนเห็นคุณค่าในตัวของเรา ไม่ใช่เลือกอยู่ในจุดที่ต้องลำบากใจและไม่มีความสุข ให้เขามากดดันให้ตัวเราต้องรู้สึกว่า เราด้อยกว่าหรือคุณค่าลดลง เพราะชีวิตของเรานั่น มีคุณค่ามากมายเกินกว่าที่เราจะพูดออกมาได้ อดีตเป็นอะไรอย่างไรนั่นไม่อาจพูดได้ ปัจจุบันนั่นสำคัญที่สุดครับ เพราะฉะนั้นมาทำปัจจุบันของคุณให้มันดีที่สุด มองชีวิตเป็นให้มันมีความสุขกับมันในทุก ๆ วัน มีเป้าหมายกับสิ่งที่ทำและชัดเจนกับมัน เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณมีความสุขที่สุดแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น