ตามหลักพุทธศาสนาเราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า การให้ทานและการทำบุญรักษาศีล รวมไปถึงการภาวนาสิ่งเหล่านี้จะต้องทำควบคู่กันไป ถึงจะได้อานิสงค์อย่างแรงกล้า แล้วการภาวนามีผลสูงสุดอย่างไร เราจะทราบได้อย่างไร
คำตอบนี้เป็นปัจตังจริง ๆ ครับ ตามที่พระท่านพูดว่า รู้ได้เฉพาะตน ถ้าถามตัวผมจิตที่ตื่นรู้เป็นอย่างไร ผมก็จะตบว่า การมีสติ และรู้ถึงปัจจุบันขณะตลอดเวลา จิตของเราจะรู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่เราตื่นหรือขณะที่เรานอนหลับ บางทีอาจมีเหตุการณ์ที่เรารู้ล่วงหน้าได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เหมือนจิตมันบอกล่วงหน้า ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนที่ฝึกสมาธิบ่อย ๆ
การฝึกจิตตามหลักอานาปานสติถือเป็นเรื่องที่ดี จะทำให้จิตเรานิ่งและอยู่กับปัจจุบันตลอดเวลา โลกใบนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย นั้นเพราะเราไม่รู้จักความพอดี และมองเห็นแต่ข้อเสียของคนอื่น รวมทั้งความรัก โลภ โกรธ หลงในตัวเราเองด้วย จิตที่ไม่มีการฝึกก็จะไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ นั่นเป็นธรรมดาของโลก การรักษาสภาวะจิตนั่นดีอย่างไร สภาวะจิตตอนใกล้ตายยังไงละครับ จิตเราจะปั่นปวนรุ่นแรง เนื่องจากอากาศธาตุกำลังจะแตกดับ จากภพภูมิหนึ่งไปยังอีกภพภูมิหนึ่ง การฝึกสมาธิจึงช่วยให้ สามารถทำให้เราควบคุมอารมณ์ไม่ให้หลงตาย
แล้วเป็นให้ปัจจัยที่ทำให้คุณไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ มันอาจฟังดูแปลกแต่สำหรับนักปฎิบัติ สิ่งเหล่านี้เรารู้และเข้าใจกันดี การที่คนหนึ่งมีบารมีมาก มีทรัพย์สินเงินทองมาก นั่นก็เพราะเหตุและปัจจัยที่เขาเคยทำไว้ในอดีตและการสั่งสมในชาติปัจจุบัน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีเหตุและผลของการกระทำด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจงตั้งตัวเองให้อยู่ในความไม่ประมาท
สรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราต้องทำตัวเองให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง และอยู่กับปัจจุบัน จงเป็นผู้ตื่นรู้ และมองเห็นสภาพทุกอย่างตามความเป็นจริง ลด ละ เลิก อบายมุขต่าง ๆ หรือที่ที่จะพาให้เราตกต่ำได้ การคบค้ากับสมาคมกับนักปราชญ์ ก็ทำให้เราได้รับอานิสงค์อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการต่อบุญบารมี ในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป ดึงตัวเองให้ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ๆ แล้วชีวิตคุณก็จะมีแต่เจริญขึ้น และพบเจอแต่สิ่งที่ดีไปทั้งชีวิต วันนี้ก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับ ขอให้ทุกท่านลองฝึกสมาธิดูนะครับ มันช่วยได้จริง ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น