เมื่อก่อนตอนผมทำงานอยู่ในกรุงเทพ ตัวผมยอมรับเลยครับว่าเป็นคนที่คิดลบในหลายเรื่องเลย บางทีเราก็ว่าเราคิดบวกแล้วนะ แต่เอาเข้าจริงเราบนได้กับทุกเรื่องเลย แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย เช่น ผมมองว่าคนในเมืองหลวงไม่มีน้ำใจเอาซะเลย แท้ที่จริงไม่ได้เป็นทุกคนซะหน่อย บางคนก็เป็นคนดีมีน้ำใจ เช่นคนที่มาจากต่างจังหวัดแล้วมาสู้ชีวิตในเมืองหลวง หรือในทางกลับกันคนต่างจังหวัดก็ใช่ว่าจะเป็นคนมีน้ำใจทุกคนเสมอไป
เราเห็นคนนั้น คนนี่ ไม่ถูกใจเราไปซะหมดเลย เราเอาแต่โทษคนนั่น คนโน้นไม่ดีบ้างละ จนลืมนึกไปว่าตัวเรามีข้อบกพร่องอะไรตรงไหนหรือเปล่า หรือเรานั่นแหละที่ต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเองกันแน่ (ตอนนั้นยังนึกไม่ออกหรอกครับ)
จนพอเรามาใช้ชีวิตแบบช้าๆ ในต่างแดนเลยทำให้เรามองชีวิตได้ชัดเจนขึ้น มองย้อนไปถึงเวลาที่มันผ่านไปก่อนหน้า และสิ่งที่ต้องทำในปัจจุบัน แท้จริงแล้วคนที่จะต้องปรับปรุงทุกอย่างไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือ ตัวผมเองนี่แหละครับ
ผมชอบคิดภาพลบๆในหัว มองโลกในแง่ร้าย ไม่ไว้ใจคนอื่น ก่อนหน้าผมเป็นแบบนี้จริงๆ พอมีใครทำไม่ดีกับเรา เราก็จะมีภาพลบกับเขาทันที แท้จริงผมลืมมองไปว่าเขาอาจประสบปัญหาบางอย่างก็ได้เลยทำให้เขาเป็นแบบนั้น เช่นเดียวกับที่เราเป็น
อยากให้คนอื่น คิด พุด ทำ กับเราอย่างไรเราต้องคิดพูดทำกับคนอื่นแบบนั้นก่อนนะครับ มีสิ่งหนึ่งที่ทำยากมากในชีวิตก็คือการควบคุมจิตใจของเราเองนั่นแหละ เมื่อเจอความทุกข์จะอยู่อย่างไรให้ไม่ทุกข์ เป็นเรื่องที่ทำยากครับ แต่ถ้าทำได้ใจคุณก็สบาย ไม่ต้องมานั่งทุกข์กังวลกับทุกเรื่องในชีวิต ไม่ว่าปัญหาที่เข้ามาจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนคุณก็ผ่านมันไปได้เสมอ จงมองชีวิตแบบไม่ใช่ปัญหาของเรา มองแบบปล่อยวาง อาศัยว่าให้เราเป็นผู้ดู ผู้รู้เท่านั้น อย่าเอาใจไปยึดติดหรือผูกโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งก็แค่เรื่องธรรมดาเท่านั้นเอง จงทำตัวเองให้กลมนอกแต่เหลี่ยมใน เพราะชีวิตเราต้องเจอผู้คนมากมาย มีถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง เป็นเรื่องของจริตและกรรม ทุกอย่างให้ปล่อยไปตามกรรมของเขา เราก็อโหสิกรรมให้เขาเท่านั้นเอง แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้นแบบทันตาเห็นอย่างแน่นอนน้ำนิ่ง ไหลลึก จงทำตัวเป็นน้ำนิ่ง อย่าได้สะทกสะท้านกับสิ่งใด หนักแน่น มั่นคง และยึดมั่นในเป้าหมายที่ได้ตั้งใจเอาไว้ มีความสุขกับทุกวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น