มนุษย์เป็นสิ่งที่ถูกปลูกฝังมาจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่และทัศนคติที่ปลูกฝังไว้ตั้งแต่เด็กนั้นล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อในอนาคตเมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ไม่ว่าจะเรื่องศาสนา การศึกษา วัฒนธรรม และภาษาท้องถิ่น ที่ผมกล่าวถึงสิ่งเหล่านั้น นั่นเพราะมันแสดงถึงบุคคลคนนั้นได้เป็นอย่างดีในลักษณะนิสัยในแบบต่างๆ ในที่นี้เรากล่าวถึงความใจกว้าง คุณสังเกตได้ไม่ยากจากพื้นฐานทางครอบครัวและสังคมของคนผู้นั้นเราก็พอจะทราบแล้วว่าเขาเป็นคนใจกว้างขนาด
สังเกตุได้ว่าในหลายประเทศพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และอีกในหลายๆประเทศก็เริ่มถดถอยลง นั่นเพราะ การปลูกฝังในวัยเด็ก ที่ได้รับอิทธิพลสูงสุดมาจาก
1.ผู้นำของประเทศ เป็นตัวผลักดันที่สำคัญหากผู้นำประกอบด้วยคุณธรรม และคุณงามความดีต่างๆไว้มากมาย คนในประเทศก็จะยึดถือเอาเป็นแบบอย่างที่ดี ในทางตรงกันข้ามหากผู้นำทุจริต คดโกง โกงกินบ้านเมือง อย่าได้หวังว่าความสงบสุขจะมาสู่แผ่นดินได้
2.สื่อ ภาพที่สะท้อนความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตในสังคมของประเทศนั้นๆ สื่อเป็นอิทธิพลที่รุนแรงมาก เราต้องรู้จักใช้สื่อให้เป็น แยกแยะข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะออกจากกันให้ได้และวิเคราะห์ด้วยเหตุผลตามความเป็นจริง
3.ระบบการศึกษา พื้นฐานการศึกษาที่ดีย่อมนำพาคนในประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้ ทั้งทางวัตถุและทางธรรม สิ่งที่รัฐบาลส่งเสริมหรือสนับสนุนล้วนส่งผลต่อเด็กที่จะเป็นอนาคตของชาติ
4.ศาสนา ช่วยขัดเกลาจิตใจให้คนเป็นคนดี มีความรัก ความสามัคคีและมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ยอมรับซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง รัฐบาลควรปลูกฝังในเรื่องนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระบบการศึกษาหาไม่แล้วประเทศชาติในภายภาคหน้าย่อมมีแต่คนโกง คนเก่ง แต่หาความดีมีคุณธรรมไม่ได้เลย
ความแตกต่างย่อมเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดาครับ สิ่งที่สำคัญคุณต้องไม่สร้างความแตกแยก หัดเข้าใจผู้คนในแบบต่างๆ ในแบบที่เขาเป็นมองโลกตามที่มันเป็น และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านี้ความสำเร็จที่คุณหวังทกอย่างย่อมมาถึงตัวคุณเอง
จำไว้นะครับว่า "ตราบใดที่คุณยังไม่ใจกว้างพอจักรวาลย่อมไม่ส่งสิ่งดีๆให้คุณอย่างแน่นอน หว่านพืชอย่างไรก็จะได้ผลอย่างนั้นครับ"
ไม่ว่าจะเรื่องศาสนา การศึกษา วัฒนธรรม และภาษาท้องถิ่น ที่ผมกล่าวถึงสิ่งเหล่านั้น นั่นเพราะมันแสดงถึงบุคคลคนนั้นได้เป็นอย่างดีในลักษณะนิสัยในแบบต่างๆ ในที่นี้เรากล่าวถึงความใจกว้าง คุณสังเกตได้ไม่ยากจากพื้นฐานทางครอบครัวและสังคมของคนผู้นั้นเราก็พอจะทราบแล้วว่าเขาเป็นคนใจกว้างขนาด
สังเกตุได้ว่าในหลายประเทศพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และอีกในหลายๆประเทศก็เริ่มถดถอยลง นั่นเพราะ การปลูกฝังในวัยเด็ก ที่ได้รับอิทธิพลสูงสุดมาจาก
1.ผู้นำของประเทศ เป็นตัวผลักดันที่สำคัญหากผู้นำประกอบด้วยคุณธรรม และคุณงามความดีต่างๆไว้มากมาย คนในประเทศก็จะยึดถือเอาเป็นแบบอย่างที่ดี ในทางตรงกันข้ามหากผู้นำทุจริต คดโกง โกงกินบ้านเมือง อย่าได้หวังว่าความสงบสุขจะมาสู่แผ่นดินได้
2.สื่อ ภาพที่สะท้อนความเป็นอยู่และการดำรงชีวิตในสังคมของประเทศนั้นๆ สื่อเป็นอิทธิพลที่รุนแรงมาก เราต้องรู้จักใช้สื่อให้เป็น แยกแยะข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะออกจากกันให้ได้และวิเคราะห์ด้วยเหตุผลตามความเป็นจริง
3.ระบบการศึกษา พื้นฐานการศึกษาที่ดีย่อมนำพาคนในประเทศชาติไปสู่ความเจริญได้ ทั้งทางวัตถุและทางธรรม สิ่งที่รัฐบาลส่งเสริมหรือสนับสนุนล้วนส่งผลต่อเด็กที่จะเป็นอนาคตของชาติ
4.ศาสนา ช่วยขัดเกลาจิตใจให้คนเป็นคนดี มีความรัก ความสามัคคีและมีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ยอมรับซึ่งกันและกันในทุกเรื่อง รัฐบาลควรปลูกฝังในเรื่องนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าระบบการศึกษาหาไม่แล้วประเทศชาติในภายภาคหน้าย่อมมีแต่คนโกง คนเก่ง แต่หาความดีมีคุณธรรมไม่ได้เลย
ความแตกต่างย่อมเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องธรรมดาครับ สิ่งที่สำคัญคุณต้องไม่สร้างความแตกแยก หัดเข้าใจผู้คนในแบบต่างๆ ในแบบที่เขาเป็นมองโลกตามที่มันเป็น และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านี้ความสำเร็จที่คุณหวังทกอย่างย่อมมาถึงตัวคุณเอง
จำไว้นะครับว่า "ตราบใดที่คุณยังไม่ใจกว้างพอจักรวาลย่อมไม่ส่งสิ่งดีๆให้คุณอย่างแน่นอน หว่านพืชอย่างไรก็จะได้ผลอย่างนั้นครับ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น