สิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์นั่นก็คือ การต้องทนทำอะไรบางอย่างในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้มีความชอบ และความรักในสิ่งนั้น ยิ่งเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่มันหนัก ยิ่งทำให้อยากจะถอดใจไปกับชีวิตกันเลยทีเดียว รู้สึกไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าในงาน นับวันก็ยิ่งจมอยู่กับความทุกข์มากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าโดยเฉพาะในสังคมใหญ่เป็นกันมากทีเดียว อยากทำงานในสิ่งที่รัก แต่งานที่รักก็ไม่ตอบโจทย์ในเรื่องของค่าตอบแทน หรือแม้กระทั่งบางคนไม่มีประสบการณ์หรือไม่ได้จบในสายที่เรียนมา
ช่างน่าเสียดายมากครับ ที่สังคมไทยวัดกันแค่กระดาษใบเดียว แท้ที่จริงโลกใบนี้ยังมีอีกหลากหลายอาชีพ ทุกคนมีความสามารถอีกมากมาย แต่ก็ถูกตราหน้าด้วยเพราะการศึกษา หรือหลักสูตรที่จบมาแล้วไม่ได้ตรงกับที่ทำงาน ผมว่าอยากให้เราได้ลองเปิดใจมองอะไรกันใหม่ครับ อย่าไปจำกัดความสามารถของคนแค่ใบปริญญา หรือแค่การศึกษาแต่ให้มองถึงความมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ และความรักที่จะทำ องค์กรในอนาคตจะเป็นแบบนี้ ซึ่งก็ไม่แปลกที่ในปัจจุบันคนเปลี่ยนงานกันบ่อยขึ้น ไม่ใช่ไม่รักองค์กร แต่เพราะงานมันไม่ท้าทายไงละครับ
ลองเปลี่ยนกฎความคิดใหม่เป็นต้นว่า
-ไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลา วัดผลงานที่ตัวผลงานจริง
- ปล่อยโอกาสให้ทำงานโดยใช้ความคิดสร้างสรรค์
-ลบเส้นความว่านายจ้าง ลูกจ้าง หัวหน้า ลูกน้อง แล้วใช้คำว่า "ทีมงาน" ดีกว่าครับ
-เปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาตัวเองในสิ่งที่เขาชอบและอยากทำสนับสนุนเขาให้เต็มที่
-คำว่าออฟฟิต ไม่จำเป็นต้องเป็นสถานที่เฉพาะเราทำงานที่ไหนก็ได้
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่จะตอบโจทย์ของคนทำงานในยุคนี้มาก ซึ่งก็ฟังดูแล้วเป็นไปได้ยากนะครับ แต่ถ้าหากบริษัทหรือผู้ประกอบการไม่ปรับตัวในเรื่องนี้ คุณก็ต้องเจอแต่ฝีมือธรรมดาๆ เพราะคนไม่ธรรมดาเขาไม่ทำงานสไตส์แบบยุคเก่ากันแล้วที่ต้องมาทำงาน เช้า-เย็น โดยไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ใครที่เข้าใจและปรับตัวได้ทัน ต่อไปในอนาคตคุณจะก้าวกระโดดนำหน้าผู้อื่นหลายเท่าอย่างแน่นอน เพราะโอกาสที่คุณจะเจอคนเก่ง มืออาชีพนั้นมีเยอะมาก และมีโอกาสได้เรียนรู้จากเขา ก็จะทำให้คุณเก่งขึ้นและพัฒนาองค์กรของคุณไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น