อันธรรมดาว่ามนุษย์เรานั้น ย่อมพบเจอกับเรื่องที่ถูกใจเรา และไม่ถูกใจเราด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าบัณฑิตนั้นย่อมรู้ข้อนี้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจงอย่าเอานิสัยผูกโกรธมาเป็นอารมณ์เลยครับ
ความโกรธก็เหมือนกับไฟ มันร้อนและพร้อมที่จะเผาทำลายทุกอย่างให้สูญสิ้น
การรู้จักอดทน อดกลั้น ระงับความโกรธก็คือหลักที่มนุษย์พึงกระทำ (เหตุเพราะมันยากนั้นเอง ปัญหาเลยเกิดขึ้นตลอดเวลาจากความโกรธ)
เราจะทำอย่างไรที่เมื่อจิตใจเราอยู่ในความโกรธ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การอยู่กับปัจจุบัน มีสติรู้ตัวตลอดเวลาว่าขณะนี้นะเรากำลังโกรธ จงอย่ารีบพูดหรือตัดสินอะไรไป หากเราเรียนรู้และเข้าใจความเป็นไปของมนุษย์แล้วนั้น เราย่อมทราบดีว่ามนุษย์นั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องความคิดและจิตใจ เราจึงไม่สามารถที่จะไปบังคับใจใครได้ทั้งหมด เหตุเพราะมันคือธรรมชาติของมนุษย์
ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ไม่ว่าเราจะพอใจ ไม่พอใจเขานั้น ล้วนแล้วแต่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวเราทั้งนั้น หากเรานำอคติออกจากใจของเราได้ ชีวิตเราย่อมเป็นสุข และสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างผาสุกเช่นกัน หลายท่านอาจจะมีแอบคิดไปว่าก็ทำเป็นคนทำกับเราก่อน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องแก้แค้นให้สาสม นั้นหาใช่บัณฑิต คนโง่เขลาเบาปัญญา เราควรหลีกห่าง และทำตัวเราให้ก้าวหน้าไปอีกระดับ ให้เขารู้เลยว่าเรานะมันเหนือกว่าเขามาก ไม่ต้องเอาเวลาไปผูกใจเจ็บเลย มันเสียเวลาและเสียสุขภาพจิตของเรามาก
วิธีฝึกฝนตนเองที่ดีที่สุดก็คือ หางานอดิเรกทำเพื่อให้จิตใจไม่ต้องไปหมกหมุ่นหรือหลงติดอยู่ในความผูกโกรธ อาจจะเป็นกิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ตามแต่ความสนใจของเรา และที่อันตรายอีกอย่างหนึ่งก็คือ บุคคลที่มีนิสัยผูกโกรธเป็นประจำนั้น จะมีโรคภัยรุ้มเร้า ที่เห็นได้เลยก็คือ "โรคซึมเศร้า" อาการย้ำคิด ย้ำทำ จนเป็นนิสัย จนในที่สุดก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อยากจะฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ มีความสุขวันละนิด กับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆที่เราทำ ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง เพียงแค่นี้ก็เป็นยาชูกำลังใจเราได้อย่างดีแล้ว เพราะในท้ายที่สุดแล้ว มนุษย์นั้นย่อมละจากโลกนี้ไป อย่าเอาอะไรติดตัวเราไปเลยครับ ทำความดีๆ ให้มาก ๆ คิดดี พูดดี ทำดี แล้วความดีจะส่งผลให้เราในภพภูมิที่ดีต่อไป....