นิสัยเลิกดูถูก (ต้องรีบแก้)

คนที่ดูถูกอะไรไว้  ก็จะมีปมด้อยเรื่องนั้นอยู่ในใจ   ผมอยากจะฝากไว้นะครับคุณต้องเลิกพฤติกรรมนี้  ยิ่งเราเกลียดอะไรเรามักจะได้สิ่งนั้น

คนบางคนชอบดูถูกคนอื่น  นั้นก็เพราะเขามีปมด้อยเรื่องของตัวเอง  เขาไม่ชอบตัวเองนั่นเอง  เลยทำให้เขาไปตำหนิคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น


คนบางคนชอบดูถูกเงิน  ไม่เห็นคุณค่าของเงิน  มองว่าทำนั่น ทำนี่ แล้วได้น้อย  นั่นก็เพราะเขามีปมด้วยเรื่องเงิน เลยทำให้มีความต้องการอยากได้เงินเยอะ ๆ  เวลาเห็นคนอื่นมีเยอะกว่าก็จะเกิดความอิจฉา  เรียกได้ว่าเป็นเดือดเป็นร้อนเลย


และนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ผมได้หยิบยกมาพูดที่นี้  ก็เพราะว่าสิ่งเหล่านี้คือสาเหตุ หรือปมที่อยู่ในใจมนุษย์  ตราบใดที่คุณยังแก้ไม่ได้  ก็ยากที่คุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต  มันอาจเป็นเรื่องยากหน่อยที่จะแก้ไขบางอย่างได้  แต่ถ้าคุณมีใจที่เต็มเปี่ยม  ค่อย ๆ ปรับและแก้ไขพยายามอย่างไม่ลดละ  ผมมั่นใจว่าคุณก็สามารถก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้แน่นอน

บางทีการทำอะไรใหม่ ๆ  ผมเข้าใจนะครับว่ามันเป็นเรื่องยาก  เส้นทางใหม่ ๆ มักจะเกิดขึ้นเสมอ  เส้นทางใหม่นี่แหละครับ  บางทีอาจเปลี่ยนชีวิตเรา  ไม่มีอะไรที่แย่หรอกครับ  มีแต่ตัวคุณนั่นแหละมองให้มันแย่  ในสถานการณ์ที่แย่ หรือเลวร้าย  แต่คุณมีจิตใจที่เข้มแข็ง  มีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต  คุณก็จะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน  อย่าเอาแต่เรียกร้องจากคนอื่น  คนต้องรู้จักการสร้างโอกาสให้กับตัวเอง  เมื่อโอกาสมาถึง ก็ต้องรีบคว้าเอาไว้  ขอเพียงแค่คุณมีจุดยืนที่ชัดเจนกับตัวเอง  และมุ่งหน้าเดินตามความต้องการของตัวเอง  ที่มันเรียกร้องอยู่ภายในจิตใจ 

ความสุขที่แท้จริงก็คือ  คุณต้องปลดปล่อยพันธนาการทางจิตใจของคุณให้เป็นอิสระ  อย่าไปสร้างรอยแผลหรือปมให้กับตัวเองเลย  ชีวิตที่มีอิสระย่อมนำพาหลายสิ่งหลายอย่างมาให้คุณแบบไม่ต้องกังวลใจ  ความฝัน ความปรารถนาที่ยังไม่เป็นจริง แต่ถ้าคุณสร้างพลังงานในทางบวก  และนำคุณไปสู่จุดหมาย ไม่วันใดก็วันหนึ่งคุณย่อมประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจอย่างแน่นอน

สร้างวินัยแล้วคุณจะสำเร็จ

ว่าด้วยเรื่องของการรักษาระเบียบวินัย  และความตรงต่อเวลา สิ่งเหล่านี้สำคัญอย่างไร  สำคัญมากครับนั่นมันคือพื้นฐานของนิสัยของบุคคลที่ประสบความสำเร็จเขาทำกัน

การรักษาเวลา  เวลาเป็นสิ่งที่ทุกท่าน ทุกคนมีเท่า ๆ กัน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนรวย คนจน แต่สิ่งที่ทำให้คนเราแตกต่างกันก็คือ  การบริหารจัดการเวลานั่นเองทำให้บุคคล  ประสบความสำเร็จได้แตกต่างกันไป

การรักษาคำพุด  วาจาศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย  หากพูดคำไหนแล้ว หรือรับปากกับใครควรทำให้ได้  หากไม่สามารถทำได้ก็อย่าไปรับปากใครไว้เลย  วาจาที่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนยาดีที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต  เปรียบเหมือนเครดิตชั้นดี  ที่ไม่ต้องใช้เงิน

การรักษาระเบียบวินัย  บุคคลที่ฝึกวินัยตัวเองและตรงต่อเวลา  ทำให้เป็นคนศรัทธาน่าเลื่อมใส  และเป็นที่เคารพรักต่อผู้พบเห็น  บุคคลที่มีวินัยและเป็นแบบอย่างที่ดี ก็จะส่งผลให้ชีวิตคุณเจริญก้าวหน้า  ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน และชีวิตครอบครัว

นี่ก็คือพื้นฐานเบื้องต้นที่เกิดเป็นมนุษย์ควรจะทำและรักษาไว้  เพื่อตัวเราเอง  เกิดเป็นมนุษย์คุณต้องรู้จักรักตัวเองแล้ว  ก็ต้องรู้จักเป็นผู้ให้ผู้อื่นด้วย  โลกจะน่าอยู่ถ้าเราค้ำจุ่นซึ่งกันและกัน  บางทีชีวิตมนุษย์ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า  การมีลมหายใจ  มีชีวิตทีดี สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์  และมีปัจจัย 4 เพื่อดำรงชีวิต  เพียงเท่านี้ชีวิตก็สุขแล้ว

แต่ที่มันวุ่นวายเพราะในปัจจุบัน  กลับมีตำราหรือหนังสือหลายเล่ม  มักจะพูดว่านอกจากปัจจัย 4 แล้ว  ปัจจัย 5 ยังสำคัญมากในปัจจุบัน  มนุษย์ในยุคใหม่เลยไปให้คุณค่ากับปัจจัยที่ 5 กันมากขึ้น  จนกลายเป็นว่าขาดมันไม่ได้  หลายคนถึงขึ้นฆ่าตัวตายในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี  เพราะได้สร้างหนี้สินไว้มากจนเกินตัว  พอหมุนเงินไม่ทันก็เลือกที่จะจบชีวิตลง  ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้ามากครับ  เหตุหลักก็มาจากการไม่ประมาณตัวเอง  และไม่มีวินัยทางการเงิน

พฤติกรรมคนไทยยุคใหม่  เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก  ทุกคนให้ความสำคัญกับปัจจัยที่ 5 เพื่อต้องการมีหน้าตา  ชื่อเสียงในสังคม เพียงพอดูหรูหรา โก้ แพง  แต่เบื้องหลังกลับแบกภาระหนี้สินมากมาย  จนเกินจะเยี่ยวยาได้  รอแค่วันหมดลมหายใจ  หรืออยู่แบบตายทั้งเป็น  เพียงหวังว่าจะได้สบายในวันข้างหน้า  เราไปคาดหวังกับอนาคตจนลืมไปว่า  เรานำอนาคตมาผูกไว้กับปัจจุบันมากเกินไป พอมารู้ตัวจะกลับมาแก้ไขก็สายไปเสียแล้ว  ยิ่งแก้ก็ยิ่งเป็นปม  ปมนั้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือ ต้องอุดรูรั่วทุกอย่าง  ตัดชิ้นส่วนรักษาอวัยวะไว้ครับ  อย่าสร้างหนี้ใหม่  ใช้เงินแบบประมาณตัวเอง  ศึกษาหาความรู้เรื่องความรู้ทางการเงินให้มากขึ้น  เพื่อให้คุณสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในยุคนี้  ผมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ

การวางตัวที่ดี

การพูดจาดูถูกคนอื่น  หรือนินทาคนอื่นนั้น  หาเป็นเรื่องที่ควรทำไม่  เพราะมันส่อถึงพฤติกรรมที่เราได้รับการอบรมมาไม่ดี  และบ่งบอกถึงชาติตระกูลและความเป็นมาของเราด้วย  อดีตเป็นอะไรนั่นยังไม่สำคัญเท่ากับการวางตัวในปัจจุบัน

หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไมผมถึงมาเล่าถึงเรื่องนี้  ก็เพราะว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ส่วนใหญ่ชอบทำกัน  ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว...คนที่เอาปัญหามาเล่าให้เราฟัง  ก็คือคนที่เขาไว้วางใจเรา  และต้องการหาที่พูดคุยที่ระบาย  แต่ถ้าเราเอาเรื่องของเขาไปพูดต่อ  คนแบบนี้ไม่น่านับถือนะครับ  เราควรสำเนียกตัวเองว่า  ตัวเราก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาเพราะฉะนั้น  ก็อย่าได้ไปตำหนิผู้อื่นเลย 

การวางตัวที่ดี  เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนอื่น เขาจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา  หน้าที่ของเราคือทำหน้าที่ของตัวเราเองให้ดีที่สุด  โลกใบนี้บางทีเรามาหาความยุติธรรม  บางทีอาจไม่มีอยู่บนโลกใบนี้  เราต้องรู้จักมองโลกตามความเป็นจริง  และปล่อยวางกับชีวิต  ใช้ชีวิตให้มันพอดี  แล้วชีวิตคุณจะมีความสุข   หลาย ๆ ท่านที่เป็นทุกข์ใจ  นั้นเพราะเป็นคนไม่รู้จักปล่อยวาง  แพ้ไม่เป็น  คิดแต่อยากจะได้ อยากจะเอาชนะ  เลยทำให้มีความคิดไปอิจฉาคนอื่น  เวลาเห็นคนอื่นได้ดีกว่า ก็จะเป็นทุกข์เป็นร้อนอยู่ไม่สุข 

บางทีก็อดขำกับบุคคลทั้งหลายเหล่านี้นะครับ  เราเหมือนคนดูละคร  แล้วต้องกลับมานั่งทบทวนตัวเองให้ดีว่า  อะไรควรไม่ควร  อย่าปล่อยให้ความอยากที่เกินพอดี  มาทำลายชีวิตเราได้  คนที่รู้จักประมาณตนเอง  เป็นคนที่น่าเคารพยกย่อง  ไปที่ไหนผู้คนก็จะรัก และศรัทธาได้รับความนิยมชมชอบ 

บัณฑิตผู้มีธรรมคือ บุคคลที่ควรสรรเสริญและคบค้าสมาคม  ให้การสนับสนุนและดูแลพวกเขา  พวกเขาเป็นกำลังสำคัญให้กับศาสนา  และจะช่วยค้ำจุ้นศาสนาให้คงอยู่ไปอีกนาน  โลกทุนนิยมทำให้คนใจบาปหยาบช้า  เข้ามามีอิทธิพลและทำลายบุคคลเหล่านี้ไปเยอะมาก  เป็นเรื่องน่าเศร้าแต่อย่าได้เสียใจไปครับ  ธรรมมะจะชนะอรรถธรรมในที่สุด  เมื่อกรรมมาให้ผลกับพวกเขา

จะว่าไปตัวผมก็มิอาจไปตัดสินใครได้ว่าเขาดีหรือเลว  ทุกคนล้วนมีเหตุผลในการทำบางสิ่งบางอย่าง  ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป  ยังไงก็ขอให้ยึดมั่นในความดี  และไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครนะครับ  ผมขอให้ทุกคนประสบแต่โชคดีกันทั่วหน้า  คิดทำอะไรก็ขอให้ได้ตามความตั้งใจนะครับ สำหรับคนมีธรรมและสัตบุรษทั้งหลาย

ความทรงจำที่ลืมเลือน

ความทรงจำในวัยเด็ก  เป็นสิ่งที่เราไม่อาจลบเลือนไปจากชีวิตเราได้จริง ๆ ครับ  ต่อให้เราโตขึ้น  เรามีชีวิตที่ดีขึ้น  ประสบความสำเร็จแต่เราก็ไม่สามารถทิ้งความทรงจำนี้ออกไปจากใจเราได้

เป็นต้นว่า

คนเรามักจะฝันเห็นเหตุการณ์เก่า ๆ ในอดีตตอนที่เรายังเป็นเด็ก  
- ฝันเห็นบ้านสมัยที่ยังเป็นเด็ก
- ฝันเห็นเพื่อนสมัยเรียน
- ฝันเห็นตัวเองสอบหรือนั่งทำการบ้าน (ไม่เสร็จ)

หรือแม้กระทั่งตัวเองกำลังทำอะไรบ้างอย่าง  หรือถูกเพื่อนแกล้ง  ความฝันเหล่านี้คือจิตใต้สำนึกของคุณนั่นเอง  ซึ่งผมก็พยายามศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้  แต่ก็ไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้ว่าเพราะอะไร  ไม่มีสิ่งไหนมารองรับได้ชัดเจน  ตามหลักวิทยาศาสตร์  เป็นเพียงการตั้งสมมติฐานเท่านั้น 

ยิ่งพยายามหาคำตอบก็ยิ่งทำให้สับสนเข้าไปอีก  แต่มีหลักการที่ผมสนใจอยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับความฝัน  ในทางพระพุทธศาสนา  ก็คือสภาวะจิตที่อยู่ในช่วงที่อ่อนแอ  หรือสับสน แสดงให้เห็นว่าคุณต้องฝึกสมาธิให้มากขึ้น  เพื่อให้ดวงจิตของคุณนิ่ง  พอดวงจิตนิ่งก็ทำให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์และจิตใจได้  จิตใจก็เหมือนเด็ก  พอฝึกมันบ่อย ๆ  เราก็สามารถควบคุมมันได้อย่างมีสติ  และเราก็จะไม่ฝันแบบนั้นอีก 

เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้  แต่ปัจจุบันคือสิ่งที่เรากำหนดให้มันเป็นไปตามที่ใจเราปรารถนาได้  เมื่อเราทำปัจจุบันดี  อนาคตก็ต้องส่งผลดีตามไปด้วย  โดยไม่ต้องพึ่งพาหมอดู  สิ่งไหนที่คุณรู้สึกว่ามันไม่เหมาะไม่ควร  ก็ควรถอยห่างมันออกไป  ชีวิตนี้มันสั้นนัก  อย่าปล่อยให้ตัวเองไปเสียเวลากับเรื่องที่มันไม่จำเป็น  ถ้าคุณไม่อยากให้ชีวิตคุณลำบากในตอนแก่  ก็ต้องวางแผนตั้งแต่ยังหนุ่ม

การวางแผนชีวิตหลายคนอาจมองว่าจำเป็นด้วยหรือ  จำเป็นมากครับ  การวางแผนในความหมายของผมไม่ใช่การไปสร้างหนี้สินเพื่อให้มีทรัพย์สินนะครับ  แต่เป็นการเก็บหอมรอบริบ  แล้วหาลู่ทางเพิ่มช่องทางการหาเงินให้มากขึ้น   หากมีความจำเป็นต้องสร้างหนี้สิน  ต้องเป็นหนี้สินที่สามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่ม  (สร้างมูลค่า)  เพียงเท่านี้ชีวิตคุณก็ไม่ต้องลำบาก  แล้วไปหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยหรอกครับ  เพราะตนเป็นที่พึ่งของตน

การบริหารจัดการที่ดี  ก็คือการที่เรารู้จักตัวเอง  และบริหารจัดการให้ถูกต้องตามที่เห็นสมควร  เหตุการณ์บางอย่างในอดีต  ที่มันผิดพลาดหรือตามมาหลอกหลอนเราก็ขอให้มันผ่านไป อย่าได้เก็บมาใส่ใจ  อดีตก็คืออดีต  มันผ่านไปแล้ว ทำปัจจุบันของเราให้มันดีที่สุดครับ  การวางตัวดีและทำตัวเองให้เป็นคนที่สม่ำเสมอกับทุกเรื่อง  นี้คือพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิตของคุณ  ใครบางคนอาจบอกเหตุผลร้อยแปดในการที่ทำให้เราไม่สามารถไปยังสิ่งที่เราฝันไว้ได้  ใครจะไปรู้  อะไรในโลกก็ไม่แน่นอน  คนที่จะรู้ดีที่สุดก็คือ  ตัวคุณเอง  เชื่อมั่นว่าตัวคุณคือผู้นำทาง  เชื่อมั่นว่ามีสิ่งที่ดีกว่ารอเราอยู่  แล้วเราก็จะได้พบเจอกับสิ่งที่เราเชื่อ  ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ  ไม่มีอะไรในโลกเป็นไปไม่ได้  สำหรับคนที่พยายามและไม่ล้มเลิกความตั้งใจของตัวเอง  บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งใจเอาไว้  แต่ทุก ๆ หนทางที่เกิดขึ้น  ล้วนนำพาความสำเร็จให้เราได้เช่นกัน  "ไม่มีความสำเร็จใด ถ้าขาดซึ่งอุปสรรค"

สิ่งใหม่

เวลาที่เราเดินทางไปในที่ใหม่ ๆ  ในสถานที่ที่เราไม่เคยไปพบเห็น  เหมือนมีบางสิ่งดึงดูดเราต่อความสนใจนั้น ๆ  แท้ที่จริง สิ่งนั้นก็คือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั่นเอง  แล้วอะไรละที่ทำให้มนุษย์ในแต่ละพื้นที่เขามีวิธีคิดและทำในรูปแบบที่แตกต่างกันได้  ถ้าถามจากประสบการณ์ของผม  ผมมองว่าสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่นั่นเอง  ที่กำหนดให้มนุษย์สามารถสร้างบางสิ่งขึ้นมาได้

เปรียบเทียบกันกับเรา  ถ้าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ  เราก็มักจะคิดอะไรไม่มอง  ความคิดก็จะวนอยู่แบบนั้น  ไม่รู้ว่าคำตอบที่แท้จริงคืออะไร  แต่พอได้ลองปล่อยให้ตัวเองได้ไปพบเจอสิ่งใหม่ ๆ  ได้เห็นอะไรที่แปลกตา  เรากลับพบว่าแท้ที่จริง  โลกใบนี้ยังมีอะไรให้เราต้องเรียนรู้อีกมากมาย  และยังมีอาชีพแปลก ๆ ที่อยู่นอกความสนใจเราอีกเยอะ  การสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่จำเป็นต้องมีแรงผลักดัน  ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะทำอะไรผมว่า....ลองออกเดินทางดูครับ  อย่าไปคิดว่าเสียดายเงินทอง  เพราะคุณค่าของการเดินทางมันให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดแน่นอน

ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่คุณได้พบเจอจากการเดินทาง  ทำให้คุณได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง  และที่สำคัญคุณอาจพบไอเดียใหม่ ๆ ในการสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม  บางทีผมก็กลับมานั่งคิดทบทวนตัวเอง  ชีวิตมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้  แต่เราก็จะพบเส้นทางใหม่เสมอ  ขอเพียงแค่คุณไม่หยุดเดิน  คุณก็จะพบเส้นทางใหม่  เส้นทางที่อาจเปลี่ยนคุณไปตลอดชีวิต  เราท่านอาจได้ยินได้ฟังเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จมาก็มาก  แต่น้อยท่านจะรู้ว่ากว่าที่เขาจะมาถึงจุดนั้น  พวกเขาก็ต่างผ่านเรื่องราวที่ผิดหวัง ผิดพลาดมานักต่อนัก  สิ่งเหล่านี้ที่หล่อหลอมให้พวกเขาเหล่านั้น  เป็นพวกเขาในวันนี้

คุณอาจยิ่งใหญ่ในพื้นที่ของคุณได้  ไม่ต้องเป็นเจ้าโลก  ขอแค่ได้รับความภาคภูมิใจในตัวเอง  ไม่ว่าชีวิตของคุณบนโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร  ถ้าคุณมีความภาคภูมิใจทุกอย่างมันก็ดีที่สุดแล้วครับ  ความสุขมันอยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่แหละครับ  

พรแห่งความสำเร็จ

หลังจากห่างหายจากการเขียนบทความไปหลายสัปดาห์ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเดินทางของชีวิตผมจริง ๆ ครับ  ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มากขึ้น  การเดินทางบางทีก็ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น  บางครั้งมีบางมุมที่เราอาจเป็นเด็ก  บางมุมเราอาจเป็นผู้ใหญ่หลากหลายเเง่มุมที่เราได้พบเจอ  ไม่แม้กระทั่งบางคนที่เราคิด  อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้  อย่าไปคาดหวังอะไรให้มาก  เพราะยังไงตนก็ยังเป็นที่พึ่งของตนเองอยู่ดี

มาพูดถึงความสุขของการไม่คาดหวัง  มันทำให้ชีวิตเราดียังไง  สิ่งที่ผมได้รับคือการที่เราไม่เอาใจไปฝากไว้กับใคร  มันทำให้จิตใจเราเป็นอิสระ  พอจิตใจเราเป็นอิสระก็สามารถตัดสินใจอะไรต่าง ๆ ได้ดี  โดยไม่ต้องกดดัน  ภายใต้สภาวะการณ์ใด ๆ ก็ตาม  ถ้าใจเราเป็นอิสระเราจะเห็นทางออกเสมอ เมื่อจิตใจเราอยู่ในสภาวะที่ว่างเปล่า

การตั้งความมุ่งหวังกับอะไรไว้ก็ควรอย่าลดความตั้งใจของเราเอง  ควรมีความยุติธรรมและซื่อสัตย์ต่อตัวเองให้มาก ๆ  การรักษาความสม่ำเสมอหรือวินัยต่อเวลา  นั่นเป็นพื้นฐานของความสำเร็จในชีวิต  มันทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง  และฝึกฝนตัวเอง เพราะในอนาคตข้างหน้าคุณจะประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหน  ก็ต้องเริ่มฝึกฝนวินัยตั้งแต่วันนี้  และอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ  การรับปากกับใคร  การรักษาคำพูดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  สิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นและสร้างเครดิตให้คุณเป็นอย่างดี  มันสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด  มีเครดิตก็เสมือนคุณมีทางเลือกอยู่ในมือ  มีความเชื่อถือในตัวคุณเอง  เพราะฉะนั้นจงรักษามันให้ดี ๆ

ยิ่งเราใช้ชีวิตตามเวลาที่ผ่านไปมากขึ้น  เราจะพบว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป  สิ่งใหม่ที่เราไม่เคยก็อาจทำให้เราแปลกใจอยู่บ้าง  แต่การที่เราปิดใจไม่ยอมเรียนรู้  สิ่งนี้น่ากลัวมากกว่าอีกครับ  จงเรียนรู้สิ่งใหม่  เพื่อเปิดโอกาสใหม่ให้กับตัวเอง  บางทีการรู้จักอยู่นิ่ง ๆ ให้ตัวเองได้ทบทวนบ้าง  เพื่อให้ตัวเองได้เข้าใจตัวเราเองมากขึ้น  แท้ที่จริงแล้วอะไรกันแน่  ที่บงการเราอยู่เบื้องหลัง  อะไรกันแน่ที่ดึงดูดเราให้วิ่งเข้าไปหามันอยู่ตลอดเวลา  ไฟในใจของเราลุกโชนเมื่อพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา  คนบางคนตั้งความฝันเอาไว้  และก็ทำตามความฝันของตัวเอง  ความฝันไม่ได้หมายความว่าจะใหญ่หรือเล็ก  แต่มันอยู่ที่ว่าคุณรู้สึกดีกับมันไหม  ถ้ามันดีและใช่สำหรับคุณ  นั่นแหละครับ  คุณประสบความสำเร็จตามที่คุณได้ตั้งความหวังเอาไว้แล้ว

บางทีการไม่เอาตัวเองหรือเอาอะไรมาเปรียบเทียบกับตัวเราเอง  นั่นเป็นเรื่องที่ดีที่สุด  เพราะคุณจะไม่มีความทุกข์เลย  คุณเป็นตัวของตัวเอง  และมีความรู้ ความสามารถในแบบที่คุณเป็น  เพียงเท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตของคุณแล้ว  เมื่อเวลาและโอกาสมาถึง  คุณจะไม่กังวลอะไรอีกแล้วถึงแม้ว่าจะพร้อมหรือไม่พร้อม เพราะนั่นคือคุณรู้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร  ผมว่าคุณโตพอที่จะรับรู้สิ่งเหล่านี้ได้

เอาละครับมาถึงตอนท้ายละครับ  ช่วงนาทีที่วุ่นวายนี้ผมก็อยากจะแบ่งปันสิ่งดีๆ นี้ให้มันจบ  ทิ้งท้ายกันไว้นะครับว่า  ไม่ว่าคุณจะเจอกับสถานการณ์แบบไหนก็ตามแต่  ขอให้คุณอดทน อดทนจนถึงที่สุด  ฟ้าหลังฝนมักจะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ  อย่าไปมองอะไรแบบที่คนทั่วไปมองกัน  บางทีความสำเร็จมันอาจมาพร้อมกับความล้มเหลวก็ได้ ล้มแล้วลุก  จากนั้นก็เกิดการเรียนรู้ นี่คือหลักในการใช้ชีวิตจริง  ไม่มีคนไม่สำเร็จมีแต่คนที่จะล้มเลิกไปก่อนเท่านั้นครับ  ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านจะได้รับแต่พรแห่งความสำเร็จครับ