การฝึกจิตใจในยุคปัจจุบันจึงถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เราเอาแต่หลงและปล่อยให้ชีวิตของเรา วนอยู่กับวงจรชีวิตแบบโลกทุนนิยม โดยไปกำหนดค่าของทุกสิ่งด้วย "เงิน" เราให้คุณค่ามันมาก มากเสียจนมันกลับมาทำลายทุกอย่างได้ เป็นต้นว่าการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต หลายท่านมองว่าเป็นเรื่องน่ากลัว สำหรับคนไม่รู้จัก แต่ถ้าเราใช้อย่างมีสติ ประมาณตนเองผลดีมันก็มีมากกว่าผลเสียนะครับ แค่ต้องรู้จักการวางแผนทางการเงินที่ดี
ผมไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนทางการเงิน คนไทยเรามีความสนใจในเรื่องเหล่านี้น้อยมาก ถ้าเทียบกับประเทศอื่นในฝั่งตะวันตก ผมก็มานั่งคิดนะครับว่ามันไม่สำคัญจริงๆ หรือ คนไทยถึงไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ผมก็พบเหตุผลว่า
1.คนไทยยังห่วงเรื่องปากท้องที่กินอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องอนาคต
2.ขาดความรู้ทางด้านการเงิน พอไม่มีความรู้ก็ทำให้มองเห็นแบบที่คนอื่นทั่วไปเห็นนั่นก็คือ การสร้างหนี้จากการผ่อนบ้าน ผ่อนรถ และซื้อของหรูหราฟุ่มเฟื่อย คือสิ่งที่สร้างความมั่งคั่งและฐานะหน้าตาในทางสังคมให้กับตัวเองได้
3.ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางด้านภูมิศาสตร์ ต่อให้คนไทยที่ยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัยพวกเขาก็สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ ไม่ลำบากมากด้วยอาหารการกิน และทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ตลอดทั้งปี
4.หลักพุทธศาสนาที่สอนให้คนเราไม่ยึดติดกับวัตถุและกังวลกับอนาคตมากจนเกินไป ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องไปคาดหวังหรือกังวลกับอนาคตให้มาก ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือหลักนี้ โดยลืมนำมาปรับใช้กับยุคสมัยและความจริงในชีวิตของโลกทุนนิยม
5.ความเหลื่อมล้ำในสังคม เป็นเรื่องจริงของทุกประเทศที่มีเรื่องนี้ จึงมีคนพูดว่า "คนจนจ่ายแพงกว่าคนรวย" นั่นเป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต และการจับจ่ายใช้สอยที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
พอเรามาศึกษาลึกเข้าไปถึงแก่น ก็ทำให้เราเข้าใจวิถึชีวิตของคนในชาติเราได้มากขึ้น ไม่ผิดหรอกที่เขาคิดแบบนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมแย้งว่าคนไทยเป็นคนขี้เกียจไม่เอาไหน ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหลาย ๆชาติ ที่จริงมันก็ส่วนน้อยครับ คนขยันก็มีเยอะมากแต่ไม่เอามาพูดเอง บางทีนะครับการไปตัดสินคนอื่นก่อนรู้จักเขาให้ดีพอ มันก็สร้างความสัมพันธ์ในทางลบได้นะ
ส่วนตัวผมแล้วระหว่างคนขยันแต่ขี้โกง กับคนขยันปานกลางแต่ทำงานแบบสม่ำเสมอมีความซื่อสัตย์สุจริต ผมขอเลือกแบบที่สองครับ คนขี้โกงต่อให้เก่ง ต่อให้ขยันมากแค่ไหน ก็ไม่ต่างจากคุณเอามีดไว้ข้างกาย มันจะแทงคุณได้ เอาที่ปลอดภัยและสบายใจดีกว่าครับ เพราะฉะนั้นหยุดคาดหวังจากคนอื่นได้แล้วครับ ยอมรับและเคารพในสิ่งที่เขาเป็น มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องการการยอมรับด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม
มันก็เช่นเดียวกับการเดินทางของชีวิตเรานั่นแหละครับ บางทีเราก็รู้สึกเสียดาย กับการตัดสินใจที่ผิดพลาดอะไรบางอย่างของตัวเอง แต่พอเวลามันผ่านไปแล้วเรากลับรู้สึกขอบคุณมันด้วยซ้ำ ที่เราผ่านเรื่องร้าย ๆ แบบนั้นมาได้ มันทำให้เรามีภูมิคุ้มกันที่ดี และไม่หวั่นไหวกับเรื่องเหล่านี้มากนัก เราได้เห็นและเข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น ประสบการณ์ชีวิตของคนเราแต่ละคน ทำให้เรามีความเห็นต่าง หรือแม้กระทั่งการวางตัวในสังคมก็ตามแต่ คุณเคยสังเกตไหมว่า คนสองคนพูดประโยคเดียวกัน แต่ทำไมอีกคนสามารถโน้มน้าวใจผู้อื่นได้ดีกว่า (นั่นแหละครับก็คือประสบการณ์ชีวิต ที่เขาเหล่านั้นได้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาด้วยประสบการณ์จริง เลยทำให้เข้าใจได้ดี และถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟังได้อย่างน่าประทับใจ)
ความฝันและจินตนาการ คือรากฐานที่จะนำเราไปสู่ชีวิตที่เราต้องการ อย่าทิ้งความฝันของเรา และอย่าไปดูถูกความฝันของใคร ทุกคนต่างมีเส้นทางที่ตัวเองต้องการ อาจมากน้อยต่างกัน คนที่มีความฝันใหญ่ก็ย่อมคิดใหญ่กว่าเป็นของธรรมดา นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มนุษย์แตกต่างกัน แต่เราก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขได้ ภายใต้ความแตกต่างด้วยการยอมรับในความแตกต่าง โลกต้องการสันติสุขครับ เพราะฉะนั้นอย่างได้ทะเลาะกันเลยพี่น้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น