วันนี้ผมขอเล่าเรื่องขำ ๆ แล้วกันนะครับ เพื่อนฝรั่งคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ด้วยความสงสัยผมเลยถามเขาว่า
ทำไมฝรั่งถึงชอบคนผิวสีแทน ? แทนที่จะชอบคนขาว (ในที่นี้ขาวบ้านเราคือผิวเหลืองของฝรั่ง)
- เรื่องนี้เขาได้ตอบผมว่า สีผิวสีน้ำตาลคือสีผิวที่เป็นธรรมชาติ และดูมีสุขภาพผิวที่ดี
ทำไมฝรั่งไม่ชอบอาบน้ำแต่ชอบใส่น้ำหอมแทน?
- เขาตอบผมว่าการน้ำบ่อยและทำตัวให้สะอาดเกินไปก็ไม่ดีต่อสุขภาพผิว ส่วนเรื่องน้ำหอมมันแล้วแต่บุคคลส่วนตัวเขาแล้วไม่ได้ชอบใส่มัน
จากนั้นผมก็เล่าเรื่องประเทศไทยให้เขาฟังว่า คุณรู้ไหมเวลาคุณนัดคนไทย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามคุณต้องเผื่อเวลาไปอีก 1 ชั่วโมงนะ
-เขาฟังแล้วตกใจบอกว่า เขาไม่ชอบเลยมันแสดงถึงความเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ (ผมฟังแล้วก็เข้าใจจุดนี้) แต่ก็อธิบายเขาว่าประเทศยังมีมุมดีๆ อีกหลายอย่างที่คุณจะไม่เห็นที่ใดในโลกเลย
และนอกจากนั้นคนไทยมองว่าฝรั่งกลิ่นตัวจะแรงมาก สาเหตุอาจเพราะไม่ชอบอาบน้ำ เขาก็พูดกับผมว่ามันก็เหมือนคนต่างชาติไม่ค่อยชอบกลิ่นตัวคนผิวเหลือง และคนผิวดำที่เป็นนิโกร เพราะอยู่ใกล้แล้วพวกเขาก็รู้สึกว่ากลิ่นตัวเราเหม็นเหมือนกัน
พอมาฟังอย่างนี้ผมก็รู้สึกว่า ความแตกต่างนั้นมันมีอยู่ทุกที่เป็นเรื่องปกติของมนุษย์นะครับ การยอมรับความแตกต่างจึงเป็นเรื่องที่มนุษย์เราควรให้ความสำคัญที่สุด คนเรามาจากต่างชาติ ต่างศาสนา แต่สำหรับคนไทยผมมั่นใจครับว่า คนไทยรับรู้และเข้าใจในความแตกต่างในเรื่องนี้เป็นอย่างดี นี่อาจเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในเมืองไทย ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นทุกที เพราะการเข้าใจและยอมรับในข้อนี้ได้
การมีเพื่อนต่างชาติผมว่ามันก็ดีนะครับ ทำให้เราได้เข้าใจและรับรู้ถึงความแตกต่าง ในหลายๆด้าน แล้วนำกลับมาทบทวน ปรับปรุงแก้ไขให้มันดีขึ้น เรามองจากมุมของเราฝ่ายเดียวก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เราเข้าข้างตัวเองไปหน่อย โลกก็แบบนี้แหละครับ คุณต้องการสร้างอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องหัดเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง ไม่ใช่แต่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่อย่างเดียว อาจเพราะวัฒนธรรมต่างชาติ ปลูกฝังในเรื่องการสร้างความมั่นใจในตัวเอง และเชื่อมั่นในตัวเอง มีความรับผิดชอบสูงและตรงต่อเวลา (ถือว่าสำคัญกับเขามาก)
คนไทยเราสิ่งที่ควรปลูกฝังให้มากก็คือ เรื่องความรับผิดชอบ และตรงต่อเวลา อาจเพราะเราติดนิสัยเคยชิน คนไทยเป็นคนง่าย ๆ มันใช้ได้กับบ้านเรานะครับ แต่นานาชาติไม่มีที่ไหนยอมรับ คุณอยากแตกต่างคุณต้องทำตัวเองใหม่ การเปลี่ยนตัวเองไปสู่สิ่งใหม่แรกๆ ผมเข้าใจนะครับว่ามันยาก แต่พอทุกอย่างมันเริ่มปรับตัวได้แล้ว คุณจะเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแบบไร้ขีดจำกัด ข้อสำคัญควรมีแบบอย่างที่ดี โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในยุคนี้ควรเป็นต้นแบบที่ดีให้เด็กรุ่นใหม่ ถ้ามีต้นแบบที่ประเทศชาติก็จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเป็นที่ 1 ในภูมิภาคแค่ชนะใจตัวเราเองได้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วครับ