ชีวิตคนเรานะครับ บางทีเรารู้สึกหนักเกินไป รู้สึกว่าต้องแบกอะไรไว้มากมาย มันถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่เราต้องรีเซ็ตตัวเองบ้าง อะไรที่ไม่จำเป็นกับชีวิตก็ตัด ๆ ออกไปบ้าง เช่น
- ลบเพื่อนที่ไม่รู้จักจริงออกจาก Facebook,Line,Twitter,Instagram และอื่น ๆ
- พยายามลดการติดตามผู้คนจะโลกออนไลน์ให้น้อยลง โดยเฉพาะคนที่ชอบดราม่า มีทัศนคติในทางลบ เพราะมันทำให้เสียสุขภาพจิตและเสียเวลาในชีวิต
- ติดตามผู้คนใหม่ ๆ ที่จะชักพาเราไปในทางที่ดีและสร้างสรรค์
- ฝึกการออกไปเรียนรู้โลกการเดินทาง ศึกษาความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมบ้าง อยู่กับโลกของความเป็นจริงให้มาก เข้าใจตัวเอง เรียนรู้กับสิ่งรอบตัว อย่าหมกมุ่นกับโลกอินเน็ตให้มาก
แรก ๆ อาจดูขัดแย้งนะครับ ผมลองทำดูแล้ว รู้สึกว่ามันดีขึ้นเรามีเวลาทำอะไรมากขึ้น และว่างมากขึ้น ชีวิตมันต้องหาความพอดี และลงตัวให้ได้นะครับ ก่อนที่คิดจะทำอะไรใหม่ ๆ สิ่งที่เราควรเริ่มก่อนเลยก็คือ การรีเซ็ตการปรับทัศนคติของตัวเองให้ได้ก่อน
คนที่มีทัศนคติที่ดีไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน คุณอยู่ได้และอยู่เป็นแน่นอน ความลำบากก็จะสร้างคนให้เป็นคนที่เหนือคน มีความมุ่งมั่น มุมานะมากกว่าเดิม และสามารถประสบความสำเร็จได้แน่นอน มนุษย์เราก็แปลกนะครับ กว่าจะมารู้จักตัวเอง ก็ใช้ชีวิตไปแล้วกว่าครึ่งชีวิตไปแล้ว มันจะเป็นการดีกว่าไหมที่คุณได้เรียนรู้ และเข้าใจตัวเองได้เร็วขึ้น มันจะทำให้คุณได้เสียเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็นของชีวิตได้
สามารถที่จะโฟกัสกับบางสิ่ง หรือเป้าหมายที่คุณได้ตั้งใจเอาไว้ เพราะบางทีชีวิตมันไม่ได้เป็นไปตามรูปแบบที่เราได้คาดหวังเอาไว้ มันอาจจะมีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เข้ามารบกวนเรา ให้เราหันเหความสนใจและห่างออกจากเป้าหมายไปมากขึ้นทุกที ดังนั้นข้อสำคัญคือ ควรเลือกใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง แล้วมองหาประโยชน์จากสิ่งรอบตัว จิตใจที่ปล่อยวางและสงบ มักจะทำอะไรได้ดีกว่า จิตใจที่ว้าวุ่นไม่เป็นสุข
มองเป้าหมายควรมองจากระยะยาว อย่ามองอะไรที่สั้น ๆ แล้วรีบด่วนตัดสินใจกับชีวิตไปนะครับ บางทีสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้น รสชาติมันอาจหอมหวานกว่าเป้าหมายที่เราตั้งใจเอาไว้ แต่ระยะยาวมันก็ไม่มีอะไรมาการันตีความสำเร็จในชีวิตของเราได้เลย มากเสียยิ่งกว่าการได้เห็นพัฒนาการในความสำเร็จของเป้าหมายที่แท้จริงของเรา ได้รับการต่อยอดและสามารถทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ พิสูจน์ให้โลกเห็นครับว่าคุณแตกต่าง และทำได้ดี ยิ่งมีใครดูถูกยิ่งต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า คุณไม่ได้ไก่กาอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด มันใช่อยู่ครับว่าบางทีคำพูดของคนอื่น มันจะมีอิทธิพลหรือก็อยู่ที่คุณใส่ใจมันหรือไม่ แต่ธรรมดาของมนุษย์ยังตัดกิเลสไม่ได้ ร้อยทั้งร้อยมักจะใส่ใจคำพูดเหล่านั้น ข้อสำคัญคือ คุณต้องมีสติและตั้งสติให้ดี ในกับรับมือกับทุกสถานการณ์ให้ได้
ผมนะรู้สึกคนใจไม่น้อยชื่นชอบในความเป็นญี่ปุ่น แต่แปลกว่าทำไมไม่เอาพฤติกรรมบางอย่างของคนญี่ปุ่นมาใช้บ้าง เช่นเรื่องความตรงต่อเวลา และเรื่องภาพลักษณ์และการระมัดระวังในคำพูดคำจา ถ้าเป็นแบบนี้นะ ประเทศไทยเราน่าอยู่อีกเยอะเลยครับ ใครพูดจาไม่ดีไม่เหมาะก็โดนแบนจากสังคมไปเลย คงไม่มีพวกปากดีและค่อยว่าร้ายคนอื่นไปทั่วหรอกครับ แต่ยังไงก็ช่างเถอะทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราครับ คิดดี ทำดี พูดดีเข้าไว้นะครับ แล้วสิ่งดีๆจะเข้ามาสู่ตัวคุณเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น