1.เราติดกรอบ ใช่เลยครับมนุษย์เราเวลาทำอะไรไปได้สักพักหนึ่ง นานพอจนตัวเองเกิดความไม่มั่นใจ แล้วก็เกิดความกลัวขึ้นมาซะงั้น ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรใหม่ ด้วยข้อจำกัดพื้นฐานที่ตัวมนุษย์เราเองสร้างขึ้นมาเป็นกำแพงกั้นตัวเราไว้ เช่น หนี้สิน อายุ ความสามารถ (ถ้าหากเราจะย้อนกันไปจริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้มันก็เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งนั้นนะครับ ผมว่าเราสามารถควบคุม และพัฒนา เรียนรู้กับทุกสิ่งได้)
2.เราชอบทำอะไรตาม ๆ กัน เรื่องนี้แน่นอนเลย ผมไม่รู้ต่างชาติเป็นอย่างไรนะครับ แต่พี่ไทยเราแน่นอนที่สุด คนไทยชอบทำอะไรตามๆกันมาก อย่างล่าสุดวันเสาร์ที่ผ่านผมก็ได้ไปเดินดูของลดราคา เป็นยี่ห้อสินค้าแบรนด์ดัง ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทยมาก เขานำมาขายลดราคา แต่คุณเชื่อไหมว่า โอ้โหคนจะเยอะอะไรเบอร์นั้น (ทั้งที่ในความเป็นของมันก็ไม่ได้ถูกขนาดนั้นผมว่า อีกอย่างลองไม่ได้ เปลี่ยนก็ไม่ได้) จิตวิทยาของมนุษย์อย่างหนึ่งก็คือ เวลาเห็นป้ายราคาสูง ๆ เเล้วตัวเองสามารถซื้อในราคาที่มันถูกลงจากป้ายเอามากๆ มันมีความรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก บางทีผมมองผู้คนที่กำลังยื้อแย่งกันแล้วก็แอบขำไม่หายนะครับ
3.เรากังวลไปก่อน เรื่องนี้เรื่องจริงทีเดียวครับ เวลามนุษย์เราพอทราบว่าต้องทำอะไรใหม่ๆ หรือเรื่องที่เสี่ยง ๆ จะมีความรู้สึกกังวลและกลัวไปก่อน ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรไปเลย ข้อนี้ผมอยากให้คุณลองคิดกลับกันใหม่นะครับ สิ่งต่างๆ บนโลกนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน จีรัง ยั้งยืน หน้าที่ของเราก็แค่ทำวันนี้ของเราให้มันดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว
คนเราก็ช่างแสนแปลกนะครับ แท้ที่จริงความหมายของการใช้ชีวิตผมว่า มันมีอะไรมากกว่าการทำงาน หาเงิน ชีวิตยังต้องมีอีกหลายมุมที่เราจะเป็นต้องทำให้มันลงตัว ส่วนตัวผมแล้ว ความสุขและความหมายของชีวิตนั่นก็คือ การอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ทุกวันนี้อะไรที่มันยุ่งยาก หรืออะไรที่พยายามดึงผมให้หลุดโฟกัสไป ผมจะหนีห่างให้ไว้ที่สุดเลยครับ ยาดีที่สุดของผมก็คือ การทำจิตใจเราให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน อยู่กับลมหายใจ-เข้าออก ตามหลักพุทธศาสนา คุณไม่จำเป็นต้องทฤษฎีอะไรมากมายเกี่ยวกับข้อปฎิบัติทางธรรม เราก็แค่ปถุชน หน้าที่ของเราคือ ต้องทำตัวเองเป็นพลเมืองที่ดี เคารพกฎกติกาบ้านเมือง เคารพกฎหมาย เพียงแค่นี้สังคมก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
มีบางคนอาจแย้งได้นะครับว่า แล้วคนไม่ดี นักการเมืองไม่ดี ทำไมเอาเปรียบเราด้วยข้อกฎหมาย นั่นเป็นปัญหาของเขาครับ สิ่งที่เราควรพัฒนาคือข้างในของเรา การทำใจยอมรับอะไรที่เรารู้ไม่โอเคร มันยากสักหน่อย แต่ถ้าคุณหมั่นฝึกใจของตัวเอง แล้วปล่อยวางได้ ชีวิตคุณจะดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีก ตามหลักธรรมก็เคยสอนไว้เลย "คนเราทำกรรมมาไม่เหมือนกัน ใครทำดีก็ย่อมได้ผลดี ใครทำชั่วก็ได้ผลชั่วเท่านั้นเอง" ที่เราเป็นทุกข์ใจกันก็เพราะ จิตใจเราไม่ปกติเราเอาใจไปจดจ่อกับบางเรื่องมากเกินไป ทั้งที่เรื่องเหล่านั้น บางเรื่องก็ไม่ได้จำเป็นและมีประโยชน์กับชีวิตของเราเลยด้วยซ้ำ เลิกทำตามและวิ่งตามคนอื่นได้แล้วครับ จงตื่นมากับความเป็นจริงแล้วใช้ชีวิตตามแบบที่เราเลือกเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น