ผมได้อ่านเรื่องราวของมหาเศรษฐีฮ่องกงคนหนึ่งชื่อ ลี กา ซิง เขาได้มีการแบ่งปันภูมิปัญญาทางด้านการเงินของเขา เขาได้สรุปแผนที่ใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับแผน 5 ปีที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนมาฝากครับ
สมมติว่าเรามีรายได้ต่อเดือนๆละ 20,000 บาท เราสามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ โดยการที่เราแบ่งเงินออกเป็น 5 ส่วน
ส่วนแรก 6,000 บาท ส่วนที่สอง 4,000 บาท ส่วนที่สาม 3,000 บาท ส่วนที่สี่ 2,000 บาท ส่วนที่ห้า 5,000 บาท ไว้ดังนี้
1.เงินส่วนแรก กันเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิต ในแต่ละวันต้องใช้จ่ายไม่เกินวันละ 200 บาทต่อวัน
-มื้อเช้าของทุกวันกินวุ้นเส้นกับไข่ 1 ฟอง และนม 1 แก้ว
-มื้อกลางวันกินอาหารเบาๆ ผักผลไม้
-มื้อเย็น ผักผลไม้และดื่มนมก่อนนอน
2.เงินส่วนที่สอง กันไว้สำหรับกินข้าวกับเพื่อนๆ 2 มื้อ ต่อเดือน มื้อหนึ่ง 1,500 บาท จากนั้นก็ตั้งคำถามว่าใครคือคนที่คุณสมควรจะกินข้าวด้วย จำไว้ว่าคุณจะต้องกินข้าวกับคนที่มีความรู้มากกว่าคุณและรวยกว่าคุณ หรือคนที่จะสนับสนุนคุณในเรื่องการงานได้ คุณต้องทำติดต่อกัน 1 ปี เชื่อได้ว่าคุณจะสร้างคุณค่ามากมายมหาศาล ชื่อเสียงและอิทธิพลของคุณจะมากมายมหาศาล
3.ส่วนที่สาม ใช้ในการเรียนรู้ คุณควรจะจ่ายประมาณ 500-1,000 บาท ในการซื้อหนังสือ เพราะคุณมีเงินไม่มาก คุณควรเอาใจใส่ไปกับการเรียนรู้เมื่อคุณซื้อหนังสือและอ่านมันอย่างระมัดระวัง จงเรียนรู้บทเรียนและกลยุทธต่างๆที่สอนไว้ในหนังสือ หลังจากอ่านหนังสือในแต่ละเล่มจบให้เล่าเรื่องราวเป็นภาษาของคุณ เพราะว่าการเเบ่งปันความรู้ให้คนอื่นจะช่วยให้คุณน่าเชื่อถือและเป็นคนที่น่าสนใจ และประหยัดเงินเดือนละ 2,000 บาทเพื่อเข้าคอร์สอบรมต่างๆ
เมื่อคุณมีรายได้เพิ่ม ให้กันเงินส่วนนี้เพิ่มขึ้นและเข้าร่วมคอร์สอบรมในระดับที่สูงขึ้น เมื่อคุณเข้าอบรมสัมมนาที่ดีมันจะช่วยให้คุณมีความรู้ที่ดี และยังช่วยให้คุณเจอเพื่อนที่มีความคิดเหมือนกันซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ
4.เงินส่วนที่สี่ เก็บเงินเดินทางไปต่างประเทศในวันหยุด ให้รางวัลกับตัวเองในการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อเติบโตประสบการณ์ในชีวิตอย่างต่อเนื่อง พักในโรงแรมราคาประหยัด ในเวลาเพียงไม่กี่ปีผ่านไปคุณจะเดินทางไปหลายประเทศและจะมีประสบการณ์หลากหลาย ใช้ประสบการณ์เหล่านี้เป็นการเพิ่มพลังใหม่ให้ตัวเองมีแรงขับดันในการทำงานต่อไป
5.เงินส่วนที่ห้า ลงทุน ประหยัด 5000 บาท เก็บไว้ในธนาคารเพื่อเป็นทุนในการเริ่มต้นทำธุรกิจเล็กๆ การเริ่มจากธุรกิจเล็กๆมักจะปลอดภัย เมื่อมีรายไ้ด้มากพอคุณก็เริ่มจากการลงทุนระยะยาว และลงทุนในหลักทรัพย์ระยะยาวด้วยเงินของคุณและครอบครัวของคุณ ดั้งนั้นคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะเงินจำนวนนี้ของคุณไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตคุณตกต่ำลง
เมื่อรายได้คุณเพิ่มขึ้น คุณต้องหางานเสริมจะเป็นการดีถ้าเป็นงานขาย การขายเป็นเรื่องที่ท้าทาย เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่คุณจะได้เรียนรู้ศิลปะในการขายและความรู้อย่างลึกซึ่งสามารถนำไปใช้กับอาชีพของคุณได้ เจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เป็นนักขายที่ดี พวกเขามีความสามารถในการขายและมีวิสัยทัศน์ คุณจะพบผู้คนมากมายหลากหลายอาชีพของคุณในภายหลัง เมื่อเริ่มขายคุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรขายได้และอะไรขายไม่ได้ ใช้ไหวพริบในการตรวจสอบตลาดเป็นวิธีในการดำเนินธุรกิจของคุณและหาผลิตภัณฑ์ที่จะเป็นผู้ชนะในอนาคต
ซื้อเสื้อผ้าและรองเท้าให้น้อยที่สุด คุณสามารถซื้อได้ทั้งหมดเมื่อคุณรวย ประหยัดเงินของคุณและซื้อของขวัญให้คนที่คุณรักและบอกพวกเขาถึงแผนการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ บอกพวกเขาไปว่าทำไมคุณถึงต้องประหยัดอดออมบอกเค้าถึงความพยายาม ทิศทางที่คุณกำลังจะไปและความฝันต่างๆ ของคุณ
นักธุรกิจทุกคนต้องการความช่วยเหลือ ให้คุณเสนอตัวเองต่อพวกเขาในการทำงานนอกเวลาในโอกาสต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาความสามารถของคุณ และคุณจะได้พัฒนาทักษะในการเจรจาของคุณในไม่ช้าคุณจะใกล้เป้าหมายทางการเงิน ฉะนั้นจงจำไว้ว่าไม่ว่ารายได้คุณจะเพิ่มขึ้นมากเท่าไร จำไว้เสมอว่าแบ่งเงินเป็นห้าส่วน จงทำตัวให้เป็นประโยชน์อยู่เสมอ จงใช้เงินลงทุนเพื่อสร้างเครือข่าย เมื่อคุณรู้จักผู้คนมากขึ้น เครือข่ายของคุณก็จะขยายมากขึ้น คุณก็จะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จงใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นไปกับการเรียนรู้เพื่อสร้างความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น จงใช้เงินท่องเที่ยวในวันหยุดที่คุณยังไม่เคยไป จงเพิ่มการลงทุนในอนาคตของคุณซึ่งมันจะสร้างรายได้ให้คุณอย่างมหาศาล
คุณควรเริ่มแผนตั้งแต่ตอนนี้
-เมื่อคุณจนให้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านให้น้อยกว่าใช้เวลาอยู่ข้างนอกเมื่อคุณรวยอยู่ที่บ้านมากขึ้นอยู่ข้างนอกให้น้อยลง นี่คือศิลปะการใช้ชีวิต
-เมื่อคุณจนให้ใช้จ่ายเงินไปกับผู้อื่น แต่เมื่อคุณรวยใหัใช้เงินไปกับตัวคุณเอง
-เมื่อคุณจนจงทำดีกับผู้อื่นอย่ามัวแต่คิดเรื่องผลประโยชน์ เมื่อคุณรวยคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะทำให้ผู้อื่นดีต่อคุณคุณต้องเรียนรู้ที่จะทำตัวเองให้ดีกว่าเป็นคนที่ดีกว่าที่เป็น
-เมื่อคุณจนคุณต้องผลักดันตัวเองออกมาในที่คนอื่นสามารถจะมองเห็นคุณได้เพื่อให้คนอื่นใช้งานและทักษะที่คุณมี เมื่อคุณรวยคุณจะต้องรู้จักปกป้องตัวเองอย่าปล่อยให้ใครมาหลอกใช้คุณได้ง่ายๆ
-เมื่อคุณจนให้คุณใช้เงินเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้จักคุณแต่เมื่อคุณรวยจะอย่าโอ้อวดว่าคุณรวยใช้จ่ายเงินในการซื้อของอย่างเงียบๆ
-เมื่อคุณจนคุณจะต้องเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเมื่อคุณรวยคุณต้องไม่ถูกมองว่าเป็นคนฟุ่มเฟือยชีวิตคุณจะวนกลับมาสู่สามัญคุณควรจะอยู่อย่างเรียบง่ายเมื่อคุณมาถึงจุดนี้
ไม่มีสิ่งใดผิดเมื่อคุณยังหนุ่มสาย คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจน คุณต้องรู้จักวิธีลงทุนในตัวคุณเองที่จะเพิ่มปัญญาและระดับความสำเร็จ คุณต้องรู้ว่าอะไรจำเป็นและไม่จำเป็นต่อชีวิต คุณต้องรู้ว่าอะไรควรหลีกเลี่ยงและไม่จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับมัน นี่คือวินัยที่จำเป็นอย่างยิ่ง พยายามหลีกเลี่ยงในการใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อเสื้อหลายๆชุด แต่รู้จักเลือกซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีเพียงไม่กี่ชุด พยายามกินข้าวนอกบ้านให้น้อยที่สุด ถ้าคุณกินข้าวนอกบ้านคุณต้องแน่ใจว่าคุณซื้อมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่คุณจ่าย คุณจ่ายเพื่อกินกับผู้คนที่มีความฝันใหญ่กว่าทำงานหนักกว่าคุณ เมื่อการทำมาหากินของคุณไม่เป็นเรื่องที่ต้องกังวัลอีกต่อไปใช้เงินที่เหลือไล่ตามความฝันของคุณ สยายปีกของคุณและกล้าที่จะฝันทำให้คุณแน่ใจว่าชีวิตของคุณเป็นสิ่งวิเศษ
ทฤษฎีที่มีชื่อเสียงจากฮาร์วาร์ด ความแตกต่างของโชคชะตาของแต่ละคนถูกตัดสินจากสิ่งที่เขาจ่ายในเวลาว่างระหว่าง 20.00 น. ถึง 22.00น. ใช้เวลา 2 ชัวโมงนี้ในการเรียนรู้ คิดและเข้าร่วมการบรรยายหรือการสัมมนาที่มีความหมาย ถ้าคุณทำแบบนี้สักปีสองปี ความสำเร็จจะเข้ามาหาคุณ
ไม่สำคัญว่าคุณหาเงินได้เท่าไร จำไว้ว่าเเบ่งเงินเป็นห้าส่วน ดูแลตัวเองรักษารูปร่างให้ดีอยู่เสมอ ลงทุนในการเข้าสังคมพบผู้คนใหม่อย่างต่อเนื่องและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากคนเหล่านี้ การขยายเครือข่ายทางสังคมจะทำให้รายได้คุณเพิ่มขึ้น เดินทางทุกปีในที่ที่แตกต่างกันออกไปและคอยติดตามการพัฒนาการของโลกอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีด้วย ถ้าคุณทำตามแผนนี้อย่างขยันขันแข็งคุณจะมีเงินทุนเหลือมากมาย
อะไรที่ผ่านไปแล้วในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไป อย่ามัวจมอยู่กับความผิดพลาด ไม่จำเป็นที่จะมัวมานั่งเสียใจกับสิ่งที่สูญเสียไปแล้วทุกคนเคยทำผิดพลาด และคุณจะได้เรียนรู้จากมัน และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่พลาดซ้ำอีก เมื่อคุณพลาดโอกสาสอย่ามัวเศร้าเสียใจ มีโอกาสใหม่รออยู่ข้างหน้าเสมอ
คุณสามารถที่จะยิ้มรับเมื่อถูกเข้าใจผิดเล็กๆ น้อยๆ เมือ่คุณทำผิดคุณยิ้มรับอย่างสงบนั้นคือความใจกว้าง เมื่อคุณถูกเอาเปรียบแต่คุณยังยิ้มได้คุณคือคนใจกว้าง เมื่อคุณทำอะไรไม่ถูกให้คุณค่อยๆยิ้มอย่างใจเย็นมันจะทำให้คุณอยู่ในสภาวะที่สงบนิ่ง เมื่อคุณเจ็บปวดคุณสามารถที่จะหัวเราะออกมาดังๆ ได้คุณคือคนใจกว้าง เมื่อคุณถูกดูหมิ่นเหยียดหยามและยิ้มได้อย่างสงบ คุณคือคนที่มีความมั่นใจ เมื่อคุณถูกปฎิเสธในความสัมพันธ์และคุณสามารถยิ้มได้ คุณคือคนที่อ่อนโยน
ยังมีคนอีกจำนวนมากที่จะดิ้นร้นเพื่อที่จะมีเงินเพียงพอต่อการใช้การดำเนินชีวิตประจำวัน แน่นอนมันไม่สำคัญว่าคุณจะรวยหรือจนนี่คือบทเรียนที่ได้เรียนรู้จาก ลี กา ซิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น