ผมไม่ทราบนะครับว่าระบบการศึกษาในแต่ละประเทศ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันมากน้อยเพียงไหน แต่สำหรับระบบการศึกษาในประเทศไทย สาขาวิชา “วิศกรรมการเงิน” กำลังเป็นที่สนใจของผู้คนเป็นจำนวนมากในตอนนี้ ดูได้จากสถิติการเข้าชมใน Google
สาขานี้มีอะไรดี ตรงนี้ไม่ค่อยแน่ใจมากนัก ทราบแต่ว่าสาขาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการวางแผน ในเรื่องต้นทุน ทั้งในส่วนของงานก่อสร้าง และการจัดหาแหล่งเงินลงทุนในโครงการ สาขานี้จำเป็นไหม…. ส่วนตัวผมแล้วมองว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ว่าด้วยเรื่องของการพัฒนาโครงการในระดับกลาง ไปจนถึงระดับใหญ่ เงินลงทุนและการวางแผนทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ภายใต้สถานการณ์ของความเป็นจริง มันก็ยังมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้
ประสบการณ์ทำงานจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าในวงการนี้ ถ้าถามผมว่าใครควรไปเรียน หลักสูตรนี้เหมาะกับคนที่ต้องการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีประการณ์น่าจะเหมาะกว่าครับ ผมพูดในฐานะที่ทำงานอยู่ในแวดวงนี้นะครับ เพราะบางเรื่องมันก็ซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายในตำราเรียนได้
ส่วนตัวผมอยากให้ประเทศไทย เปิดสอนในหลักสูตรเกี่ยวกับนวัฒนกรรมและเทคโนโลยีมากกว่า ผมเคยได้ยินวิชาหนึ่งไม่รู้คุณเคยได้ยินหรือเปล่า “วิชาประสาทเทคโนโลยี” นับเป็นสิ่งที่น่าเรียนที่สุดเลย เพราะเซลล์ที่หนัก 1.4 กิโลกรัมที่อยู่ในกะโหลกศรีษะของมนุษย์เรา และเซลล์ประสาทกว่า 80,000 ล้านเซลล์ ที่เชื่อมต่อกันในลักษณะต่างๆ มากกว่า 100 ล้านล้านแบบ
ปัจจุบันมีวิชาที่เจาะลึกลงไปคือ ประสาทวิทยาศาสตร์ที่เชื่อมระหว่างสมองและคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ปีที่แล้วคนที่อัมพาตทั้งแขนและขา สามารถลงแข่งในสนาม Formula 1 ได้แล้ว โดยใช้วิธีบังคับรถด้วยสมองที่เชื่อมกับคอมพิวเตอร์
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์จะสามารถเชื่อมกับสมอง มนุษย์เราอาจจะได้หลาย ๆ ภาษาจากทั่วโลก คนที่ไม่เคยทำกับข้าวมาก่อนเลย อาจจะเชื่อมกับคอมพิวเตอร์และเป็นกุ๊กชั้นยอดของโลก ก็อาจเป็นไปได้
วิชานี้น่าสนใจมากครับ ไม่เสี่ยงตกงาน แต่พวกที่เรียนแพทย์ เรียนวิศวกรรมศาสตร์ ในอนาคตเสี่ยงต่อการตกงาน เพราะ AI ทำแทนได้ทั้งหมด ในอนาคตเราจะสามารถสื่อสารกับสัตว์ทุกประเภทในโลกใบนี้ด้วยประสาทเทคโนโลยี นี่ก็เป็นเรื่องใหม่ที่ทุกคนควรศึกษาและรับมือไว้นะครับ
โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก หากเราปรับตัวและเข้าใจรอบรู้ และทันต่อสถานการณ์ อย่าทำเป็นว่าตัวเองเก่งและรู้ไปหมดซะทุกอย่าง ปริญญาสมัยนี้ก็แค่กระดาษแผ่นเดียว ที่ไม่สามารถการันตีความสำเร็จบนโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนทางด้านเทคโนโลยีได้อีกแล้ว ยังไงผมก็ฝากให้ทุกท่านได้ลอง เอาไปพิจารณาและปรับวิถีชีวิตของคุณใหม่นะครับ บางทีสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันอาจไม่มีคุณค่า หรือใครไม่เห็นค่า แต่มันอาจสร้างประโยชน์ให้คุณในระยะยาวแบบมหาศาลก็ได้ ข้อสำคัญคือ จงอย่าหยุดพัฒนาตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น