ณ หมู่บ้านไกลโพ้นแห่งหนึ่งมีชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่ง ชุมชนแห่งนี้เคยอยู่อย่างสงบเสมอมา แต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดภัยขึ้น จากหมู่บ้านที่เคยสงบก็เกิดโจรผู้ร้ายชุกชุม ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับความลำบาก ผุ้คนในหมู่บ้านก็ขาดความสามามัคคีกัน ไม่รักไม่ปรองดองกัน ปัญหานี้ร้อนไปถึุงผู้เฒ่าที่คอยดูแลหมู่บ้าน ท่านผู้เฒ่าพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่สำเร็จสักที จนในที่สุดจึงตัดสินใจมอบไม้กายสิทธิ์ให้กับคนในหมู่บ้าน
ไม้กายสิทธิ์นี้มีอำนาจมหาศาล สามารถที่จะปราบโจรผู้ร้ายได้ และนำความผาสุขได้ ทว่าผู้ที่ถือไม้กายสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ นั่นคือประกอบไปด้วยปุริสธรรม 7 และอิทธิบาท 4 จึงจะสามารถนำพาความสงบสุขมาให้กับหมู่บ้าน แต่หากไม้กายสิทธิ์นี้ไปตกอยู่ในอำนาจมืด ก็จะถูกอำนาจมืดครอบงำทุกอย่างเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ขึ้นมา ทว่าเขาผู้นั้นขาดคุณสมบัติบางประการนั่นคือ คุณธรรมประจำใจ เมื่อเขาได้รับอำนาจ เขาได้ใช้อำนาจที่มีทำร้าย ข่มขู่คนในหมู่บ้านไปทั่ว ทำให้คนในหมู่บ้านได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านจึงได้นำเรื่องนี้ขึ้นแจ้งแก่ผู้เฒ่าว่าควรจะทำอย่างไรดี เมื่อท่านผู้เฒ่าได้ทราบเรื่องดังนั้น จึงได้มีการเรียกประชุมคนในหมู่บ้านขึ้นเพื่อขอความเห็นของทุกคน และก็ได้ข้อสรุป ดังนี้
1.ทุกคนต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
2.ให้ทุกคนมีน้ำใจต่อกัน รักและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและให้
3.สร้างความสามัคคีในชุมชุน ไม่แบ่งชนชั้นและให้ทุกคนอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง
4.ความจริงใจและเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน
เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมกัน ในที่สุดหมู่บ้านก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีผู้ร้ายชุกชุมบุคคลผู้ซึ่งใช้อำนาจที่ผิด ก็มิอาจใช้อำนาจในทางที่มิชอบได้ แท้จริงแล้วไม้กายสิทธิ์ที่ดีที่สุดก็คือ ความมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์สิ่งนี้คือสิ่งที่วิเศษกว่าไม้กายสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าใช้อำนาจในทางที่มิชอบ มิฉะนั้นแล้วอำนาจที่มีอาจไม่ศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น