วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

นิทานเรื่อง ไม้กายสิทธิ์



ณ หมู่บ้านไกลโพ้นแห่งหนึ่งมีชุมชนเล็กๆ ชุมชนหนึ่ง  ชุมชนแห่งนี้เคยอยู่อย่างสงบเสมอมา  แต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดภัยขึ้น  จากหมู่บ้านที่เคยสงบก็เกิดโจรผู้ร้ายชุกชุม  ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับความลำบาก ผุ้คนในหมู่บ้านก็ขาดความสามามัคคีกัน ไม่รักไม่ปรองดองกัน  ปัญหานี้ร้อนไปถึุงผู้เฒ่าที่คอยดูแลหมู่บ้าน  ท่านผู้เฒ่าพยายามคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่สำเร็จสักที จนในที่สุดจึงตัดสินใจมอบไม้กายสิทธิ์ให้กับคนในหมู่บ้าน

ไม้กายสิทธิ์นี้มีอำนาจมหาศาล  สามารถที่จะปราบโจรผู้ร้ายได้  และนำความผาสุขได้  ทว่าผู้ที่ถือไม้กายสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้  นั่นคือประกอบไปด้วยปุริสธรรม 7 และอิทธิบาท 4 จึงจะสามารถนำพาความสงบสุขมาให้กับหมู่บ้าน  แต่หากไม้กายสิทธิ์นี้ไปตกอยู่ในอำนาจมืด  ก็จะถูกอำนาจมืดครอบงำทุกอย่างเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ขึ้นมา ทว่าเขาผู้นั้นขาดคุณสมบัติบางประการนั่นคือ  คุณธรรมประจำใจ  เมื่อเขาได้รับอำนาจ  เขาได้ใช้อำนาจที่มีทำร้าย ข่มขู่คนในหมู่บ้านไปทั่ว  ทำให้คนในหมู่บ้านได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก  ชาวบ้านจึงได้นำเรื่องนี้ขึ้นแจ้งแก่ผู้เฒ่าว่าควรจะทำอย่างไรดี  เมื่อท่านผู้เฒ่าได้ทราบเรื่องดังนั้น  จึงได้มีการเรียกประชุมคนในหมู่บ้านขึ้นเพื่อขอความเห็นของทุกคน  และก็ได้ข้อสรุป ดังนี้

1.ทุกคนต้องรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา
2.ให้ทุกคนมีน้ำใจต่อกัน  รักและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและให้
3.สร้างความสามัคคีในชุมชุน  ไม่แบ่งชนชั้นและให้ทุกคนอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง
4.ความจริงใจและเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน

เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมกัน ในที่สุดหมู่บ้านก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ  ไม่มีผู้ร้ายชุกชุมบุคคลผู้ซึ่งใช้อำนาจที่ผิด  ก็มิอาจใช้อำนาจในทางที่มิชอบได้  แท้จริงแล้วไม้กายสิทธิ์ที่ดีที่สุดก็คือ ความมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์สิ่งนี้คือสิ่งที่วิเศษกว่าไม้กายสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  อย่าใช้อำนาจในทางที่มิชอบ  มิฉะนั้นแล้วอำนาจที่มีอาจไม่ศักดิ์สิทธิ์

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...