ในสภาพสังคมที่เปลี่ยนไประบบทุนนิยมที่เข้ามามีบทบาทล้วนส่งผลให้โครงสร้างทางสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ก็ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กแต่จิตใจพวกเขายิ่งใหญ่มาก เขาพยายามศีกษาเกษตรอินทรีย์แนวใหม่เป็นเกษตรเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เพื่อสร้างเสริมระบบนิเวศน์ให้สมดุล วันที่ผมไปนั่งปฎิบัติธรรมได้มีโอกาสรู้จักพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง (เจ้าของเพสบ้านช่างคิดช่างทำ) พี่เขาเป็นคนราชบุรี พี่เขาน่ารักมากและผมเชื่อว่าในอนาคตกลุ่มคนเหล่านี้จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับสังคมได้
ธรรมชาติมักจะสร้างความสมดุลให้กับชีวิตเสมอ เมื่อเรารักและเข้าใจธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะส่งมอบสิ่งดีดีให้กับเรา ทุกสิ่งทุกอย่างคือบทเรียน บางสิ่งบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ล้วนแต่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเรา มนุษย์เรามีทางเดินของตัวเอง เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง จงทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้สำเร็จ
เข้าเรื่องดีกว่าครับ ตอนที่คุยกับพี่เขาผมก็เข้าใจความคิดของเขาเลยว่า การที่จะปลูกพืชอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ล้วนต้องอาศัยการศึกษาทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ตัวอย่างเช่น
1.สภาพดิน คือส่วนที่สำคัญการศึกษาทำความเข้าใจสภาพดินจะทำให้เรารู้ว่าควรจะกำหนดอะไรต่อไป
2.อากาศ และน้ำ สภาพเหล่านี้ย่อมเหมาะกับการปลูกพืชและจำเป็นอย่างยิ่ง
3.พืชที่จะปลูก
4.การรักษาระบบนิเวศน์
5.การปรับปรุงพื้นที่ดินให้อยู่ในสภาพดี
นี้เป็นตัวอย่างที่จำเป็น หากมีความต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรแนวใหม่ ก็ลองเข้าไปศึกษาดูได้ครับ เมื่อประเทศเจริญไปถึงจุดที่สูงที่สุด สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ต้องหันกลับมาพึ่งพาธรรมชาติอยู่ดี ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น