การเรียนรู้ไม่มีข้อจำกัด โลกไม่มีขอบเขต ในอนาคตผู้คนจะเรียนรู้และทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก ธโฉมหน้าธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆขึ้น มนุษย์เราถึงเวลาที่ต้องปรับตัวเข้ากับโลกยุคใหม่ ทุกส่ิ่งอยู่อย่างในโลกถูกพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเสมอ เทคโนโลยีจะนำพามนุษยชาติก้าวสู่ยุคใหม่อย่างไม่มีวันหวนกลับ
การมีความเชื่อมั่น มีเป้าหมายที่ชัดเจนจึงเป็นเรื่องการสร้างความสำเร็จของคนในยุคใหม่ ยุคที่มนุษย์ต่างต้องการอิสรภาพที่แท้จริง หมดยุคอุตสาหกรรมที่มนุษย์ต้องไปนั่งทำงานหลังแข็งกันอีกแล้ว พื้นที่ว่างบนโลก ธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้พลิกโฉมหน้าโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปอย่างไรสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ยังมีอยู่ในใจนั้นก็คือ ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็อยากได้อีกสิ่งหนึ่งไปเรื่อยๆ
การพัฒนาทางจิตวิญญานและการพัฒนาสมองด้วยกลไกใหม่ๆ จึงเกิดขึ้นมนุษย์ในโลกอนาคตฉลาดขึ้น และต่างต้องการเป็นอมตะ ทั้งการเปลี่ยนถ่ายยีนส์ พันธุ์กรรมต่างๆ ใช่ครับเราอาจปลูกถ่ายสิ่งใหม่ๆขึ้นแต่เราไม่สามารถลากจิตวิญญานออกจากร่างๆ หนึ่งไปอีกร่างๆได้ นั่นคือมันฝืนกฎธรรมชาติ แต่มนุษย์ก็ยังคงจะมุ่งหน้าทำกันต่อไป
ไม่ใช่ทุกอย่างจะประสบความล้มเหลวหมด การทดลองใหม่ๆก็ทำให้มนุษย์เกิดวิธีการใหม่ๆในการรักษาโรคต่างๆ ที่ตามมากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นเดียวกัน โลกเก่าๆอาจหายไปหรือมนุษย์ในยุคนั้นไม่รู้จัก แต่กลับรู้จักโรคใหม่ๆที่เกิดขึ้นในยุคหลัง อากาศบริสุทธิ์จะเป็นที่ต้องการมากที่สุด พื้นที่สีเขียวจะได้รับความนิยมอย่างมากในอนาคต โลกที่ร้อนขึ้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่สามารถให้มนุษย์สามารถดำรงอยู่ภายใต้ภาวะโลกร้อนก็จะเกิดขึ้น
และนอกจากนั้นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบไหนก็ตามแต่ ซึ่งมนุษย์เราในยุคปัจจุบันย่อมไม่ทราบได้ แต่มันได้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เผ่าพันธ์จะค่อยๆถูกล้างเผ่าพันธุ์ไปในท้ายที่สุดจะเหลือเผ่าพันธ์ุมนุษย์ที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ไม่กี่เผ่าพันธุ์ นั่นเพราะโลกต้องการสร้างสมดุลใหม่ให้กับโลกใบนี้ ในท้ายที่สุดทุกอย่างจะหันหาธรรมชาติ ธรรมจะให้บทเรียนกับมนุษย์และสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับโลกใบนี้ โลกที่สวยงามกว่าเดิม โลกที่มนุษยฺ์ยุคนั้นมีความสุขและเข้าถึงจิตวิญญานอันสูงสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น