วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ตีแผ่สังคม


ในปีที่ผ่านประเทศไทยมีเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย  และในทุก ๆ เหตุการณ์ก็มีทั้งคนที่เจ็บปวด เป็นทุกข์ แต่เราก็ผ่านมันไปได้ดี  วันนี้ผมขอมาพูดถึงเกี่ยวกับประเด็นสังคมเรื่อง ทุนนิยม  ที่กำลังแพร่ขยายไปทั่วประเทศไทย

โดยเฉพาะข่าวฮอตในช่วงนี้  "ซีพีกำลังเตรียมจะเปิดร้านอาหารตามสั่ง 24 ชั่วโมง"  พอข่าวนี้ออกมานะครับ  มีแต่คนมาคอมเมนท์ในทางลบเยอะมาก  จากพวกนักเลงคีย์บอร์ด  จะว่ากันไปแล้วสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันก็ถูกนะครับ  แต่มันแค่ส่วนเดียวเท่านั้น   แล้วอะไรคือส่วนที่เหลือ

เอาเป็นว่าในมุมของผม  ผมขอมองแบบนักเศรษฐศาสตร์นะครับ  ประเด็นเกี่ยวกับการที่ซีพีจะมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง  ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ  (ยิ่งถ้าเขามีมาตรการเกี่ยวเรื่องเหล่านี้แบบชัดเจนและไม่เป็นการเอาเปรียบพ่อค้าแม่ค้าจนเกินไป) ในแง่ไหน

1.การควบคุมราคาสินค้าทางอ้อม  พ่อค้า แม่ค้า ส่วนใหญ่พอน้ำมันขึ้น ราคาแก๊สหุ้งต้มขึ้น  ก็จะใช้เหตุผลนี้ในการขึ้นราคาสินค้า  เวลาขึ้นทีไม่ได้ขึ้นทีละ 1-2 บาท แต่ขึ้นทีละ 5-10 บาท มองแล้วก็ไม่ต่างจากผู้บริโภคคือคนที่เสียเปรียบนะครับ  และพอราคาน้ำมันหรือเเก๊สมันลดลง  ราคาอาหารตามสั่งก็ไม่ได้ลดลงตาม

2.เกิดการจ้างงานเพิ่ม  ในการทำร้านอาหารจำเป็นต้องมี พนักงานเสริฟ์  คนล้างจาน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ คนทำอาหาร

3.ทางเลือกสำหรับใหม่สำหรับผู้บริโภค  โดยปกติถ้าหลังจากเย็นไปแล้ว เราแทบจะหาซื้ออาหารกินไม่ได้เลย  แบบที่เป็นตามสั่งนะครับ  ที่ซีพีเห็นช่องว่างตรงนี้  ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีเลยครับ ยิ่งในสังคมเมืองปัจจุบัน  ทำงานกันแทบ 24 ชั่วโมง นับว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว

จริง ๆ ก็มีอีกหลายเหตุผลนะครับ  เหตุผลที่ผมคิดแบบนี้ผมมองว่า  สังคมไทยโดยส่วนใหญ่เราจะเป็นพวกมนุษย์เดือน  กับพวกชนชั้นแรงงานที่มีการจ้างแบบรายวัน ถ้าหากผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ได้รับความสะดวกสบาย  และเป็นธรรม ย่อมไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรมาก  อีกประการหนึ่งในมุมของพ่อค้าแม่ค้า  ที่ขายอาหารตามสั่ง ต่อให้ราคาสินค้าขึ้นจริง  ก็ไม่ได้ทำให้คุณขาดทุน เพียงแค่ได้กำไรน้อยลงเท่านั้นเอง  (ถ้าหากว่าร้านคุณยัังมีคนเข้าแบบสม่ำเสมอ)  อีกอย่างรายได้ของอาหารตามสั่ง ผมว่ามันผันแปรกับปริมาณที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า ว่าคุณจะได้กำไรมากหรือน้อย  ไม่ได้เกี่ยวกับราคาสินค้าที่แพงขึ้นสิ่งนี้มันเป็นผลกระทบทางอ้อมไปมากกว่า

ที่ผมเขียนหัวข้อนี้ผมไม่ได้มีส่วนได้อะไรกับซีพีเขานะครับ  เพียงแต่ว่ามองอีกมุมที่คนไทยหลายคนอาจมองข้ามไป  เป็นเรื่องที่แปลกมากกับสังคมไทยเรา  นับวันเราเป็นคนคิดลบกันมากขึ้น  เราเชื่อใจคนอื่นน้อย สนใจเรื่องของคนอื่นมากขึ้น จนแทบไม่มีเวลาไปจัดการกับปัญหาของตัวเอง  ในที่สุดก็กลายเป็นปัญหาสังคมไป  

บางทีนะครับผมเห็นในโลกโซเซียล  มีการด่าประเทศของตัวเอง  ผมมีความรู้สึกเสียใจแทนประเทศชาติเลยครับ  ที่คนไทยไม่รักประเทศของตัวเอง  ผมอยากจะบอกคุณนะครับว่า  ถ้าคุณได้ลองไปทำงานไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ  ไม่ใช่การไปเที่ยวนะครับ  คุณจะรู้ว่าประเทศไทยของเรานี้โชคดีที่สุดแล้ว  ส่วนตัวผม  ผมไม่เคยสนใจเลยครับว่าคนในชาติอื่นเขาจะมองมาที่ประเทศเราอย่างไร  แต่ผมรู้สึกภูมิใจในชาติของตัวเอง ในรากเหง้าของความเป็นไทยเรา  มีธรรมชาติสวยงาม  มีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์  มีฝนตกตลอดทั้งปี มันคือเมืองสวรรค์จริง ๆ ครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...