ความหวังกับความคาดหวัง บางทีสองสิ่งนี้เราแทบจะแยกมันไม่ออกเลยครับ ว่าสิ่งไหนกันแน่ที่กำลังทำให้จิตใจเราสับสน และวุ่นวายอยู่
ความหวัง ในคำนิยามของผมมันเหมือนตัวแปรหนึ่ง ที่กำลังขับเคลื่อนให้เป็นไปตามที่เราหวัง โดยที่เราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้
ความคาดหวัง ในคำนิยามของผมมันคือตัวแปรที่เราคือผู้สร้าง สถานการณ์ขึ้นมา และในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้อีกว่า มันจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้หรือไม่ 50/50
มนุษย์เราอยู่บนโลกของความเป็นจริง บางทีเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ฟังดูไร้สาระ ที่จะเอามานั่งถกเถียงกัน แต่ถ้าเราแยกไม่ออกจริงๆ นั่นเท่ากับเป็นการหลอกตัวเราเอง การหลอกตัวเองก็ไม่ต่างจากการหวังลมๆ แล้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่า มันจะเป็นจริงเมื่อไหร่ ไม่สามารถจะคาดเดาทิศทางของชีวิตตัวเองได้
การใช้ชีวิตแบบไร้แบบแผน ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากนะครับ โดยเฉพาะกับคนโสดไม่มีครอบครัว คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้เป็นที่สุด มันอาจจริงนะครับว่า โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แต่บนความไม่แน่นอน ยังมีเรื่องให้เราต้องต่อสู้ ดิ้นร้นไปกับชีวิตอีกนาน
คนบางคนกว่าจะเจอตัวเอง ก็แก่เกินกว่าจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ก็ได้แค่เสียดายและมานั่งทบทวนกับสิ่งที่เหลืออยู่ แล้วจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้น บางทีการยึดติดกับอะไรมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็น ความคิด วัตถุ สิ่งของ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้จิตใจคุณว้าวุ้น เหมือนกำลังติดอยู่กับอะไรบางอย่าง จะไปข้างหน้าก็ไม่ได้ จะถอยหลังก็มาไกลเกินกว่าจะถอยกลับ
วิธีแก้สำหรับปัญหานี้คือ คุณต้องเขียนและเริ่มจดรายละเอียด ทุกอย่างในชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นรายรับ-รายจ่าย กิจกรรมต่างๆ ที่ทำหรือแม้กระทั่งความสนใจ กับเรื่องทีผ่านเข้ามาในชีวิต แล้วกลับมาทบทวนจัดประเภทใหม่ คุณจะมองเห็นตัวเองได้ชัดขึ้น พอมันชัดขึ้นคุณก็จะได้กำหนดทิศทาง ว่าคุณจะเอายังไงต่อกับชีวิตที่เหลือของคุณ
มันอาจไม่มีสูตรที่ตายตัว เหมือนกับหนังสือหลายๆเล่มที่ท่านเคยได้อ่านมาหรอกครับ นั่นมันก็แค่แนวทาง เอาเข้าจริงชีวิตอย่างที่ทุกท่านทราบ มันยังมีปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามาผกผันให้ชีวิตเราต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในท้ายที่สุดการใช้ชีวิตในแบบธรรมดา ที่เรียบง่ายนั่นแหละคือทางที่ดีที่สุด เพราะความเรียบง่ายคือเส้นทางแห่งธรรมนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น