วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ให้เวลากับตัวเอง


ช่วงที่จิตใจคุณว้าวุ่นกับอะไรบางอย่าง กำลังสับสน  มีความไม่มั่นคงทางด้านจิตใจเท่าที่ควร  นั่นกำลังแสดงให้เห็นว่า  มีบางอย่างที่เราต้องเริ่มชัดเจนกับตัวเอง  เราต้องให้เวลากับตัวเองแล้วละครับ  คนเราบางทีการวิ่งเร็วจนเกินไป  ก็อาจทำให้เราหกล้มไม่เป็นท่าได้  ค่อย ๆ ไปเดี๋ยวก็ถึงได้เช่นกัน

ผมมานั่งทบทวนตลอดเวลาที่ผ่านมานะครับ  ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามการบริโภคข่าวสาร  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรานั่นแหละ  โลกก็ยังเหมือนเดิม  แต่ความคิดเรานั่นแหละที่เปลี่ยนแปลงไปตามการรับรู้  เราไม่อาจปฎิเสธได้จริง ๆ  โดยเฉพาะบางที  ยิ่งถ้าเป็นเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง อาจต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ  หาไม่มันอาจส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน  เมื่อก่อนผมก็เคยคิดแบบโลกสวย  แบบคนหน้าบางว่า  มนุษย์เราต้องเป็นคนดี  ทั้งฉากหน้าและฉากหลัง  แต่ในวงการธุรกิจมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปซะหมด 

กฎไกลบางอย่างที่ซับซ้อน  เราไม่สามารถอ่านจิตใจของมนุษย์ยุคนี้ได้  เพราะมันเต็มไปด้วยความต้องการที่ไม่สิ้นสุด  เราไม่อาจคาดเดาว่าคนที่เราเชื่อใจ  จะอยู่ข้างเราได้เสมอไป  เพราะไม่แน่ว่าเมื่อผลประโยชน์เขามาเกี่ยวข้อง  เขาอาจจะเปลี่ยนใจจากเราได้เสมอ  ทุกคนต่างก็ต้องการได้รับสิ่งที่สุดที่สุด  เพราะนั่นแหละคือ มนุษย์  ฟังดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องความเห็นแก่ตัวอะไรหรอกครับ  แต่คนไทยเราถูกสอนมาแบบนี้  เลยทำให้เรากลายเป็นคนขี้เกรงใจ  และมองว่าหากตัวเองถูกกระทำแบบนี้  คือ โดนรังแก และถูกเอาเปรียบ 

แท้ที่จริงมันคือ ความเป็นจริงของโลก  ใครที่มีอำนาจต่อรองมากกว่า  ผู้นั้นก็คือคนที่อยู่เหนือกว่าเท่านั้นเอง  สิ่งที่มนุษย์ทำได้ก็คือ  เราต้องรู้จักการปรับตัวในการดำรงชีวิตอยู่  แบบชาญฉลาด  รู้ทันเหตุการณ์ และทันผู้คน  เพื่อที่จะได้ไม่ถูกเอาเปรียบ  หรือหากต้องตกเป็นรองเราก็จะได้เสียเปรียบได้น้อยที่สุด  นี่แหละโลกของความเป็นจริง 

คนไทยเป็นคนที่อ่อนไหวกับบางเรื่องค่อนข้างมาก  และจะกลัวการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งใหม่  พอจะทำอะไรก็ตามแต่  สิ่งแรกที่มองออกมาก่อนว่า  "จะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่"  เรามองอะไรที่เป็นระยะสั้นจนเกินไป  เราถูกฝึกสอนแค่ให้คิดถึงแค่ "กำไรและขาดทุน" แท้ที่จริงนะครับ ผมอยากให้คนไทยเราคิดให้ลึกกว่านั้น  มองข้ามเรื่องตัวเลขเหล่านี้ไปก่อน  แต่ให้ไปโฟกัสในระยะยาวที่เราจะได้  และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  เพราะบางทีการที่เราไปตัดสินอะไรจากระยะสั้น  มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น  มีแต่จะทะเลาะกันและจบไม่สวย

พอเราโตขึ้นเราเรียนรู้กฎไกลบางอย่างที่มันซับซ้อนขึ้นทุกที  จนเราห่างไกลกับความเป็นธรรมดาไปมาก  เรากลับดูทนงตัวเองมากขึ้น  แต่กลับกัน  นับวันเรายิ่งห่างไกลจากความเป็นตัวตนของเราไปมากขึ้น  เราลืมเป้าหมายที่สำคัญในชีวิตเรา  เราลืมไปว่าเรามาจุดนี้เพื่ออะไร  อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำ และจะไปให้ถึงจุดหมายที่เราต้องการได้อย่างไร  การให้เวลากับตัวเองจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

 เริ่มยังไงเหรอครับ  เริ่มจาก...กลับมาที่จุดที่คุณเริ่มต้นแรก  ๆ  ผมไม่ได้ให้คุณถอยไปจุดเริ่มต้นแบบนั้น  หมายถึงการทบทวนว่าเรามาที่นี้ตั้งแต่แรกเพราะอะไร  เราต้องการอะไรจากที่ที่เราเป็นอยู่  ใช้เวลาทบทวนและอยู่กับตัวเราเองให้มาก ๆ  เลิกติดตามข่าวสารบ้างก็ได้  ให้ใจเรามันได้พักจริง ๆ จากเรื่องวุ่นวายที่เข้ามาในชีวิตของเรา  ตัดเรื่องกังวลและเรื่องที่เข้ามารบกวนจิตใจเราออกไปให้หมด 

จิตคนเรานะครับ  พอมันเริ่มนิ่งมันก็จะเหมือนน้ำที่ใสสะอาด  เราจะเห็นความจริงบางอย่าง  เราจะเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำนั้น มันคือความต้องการที่แท้จริงของเรา มนุษย์เราไม่สามารถปฎิเสธความต้องการที่มันอยู่ลึกๆ ในจิตใจของเราได้หรอก  เพราะในท้ายที่สุด มันจะกลับมารบกวนจิตใจเราอยู่นั่นแหละ  ถ้าหากว่าเรายังทำมันไม่สำเร็จ  เพราะมันคือ "จิตใต้สำนึก" ของเรานั่นเอง  ก่อนอื่นเราต้องยอมรับในความต้องการนั่น แบบตรงไปตรงมา  พอเราเริ่มเข้าใจมัน  และปรับตัวกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นกับเราได้  ก็จะมีพลังงานบางอย่างส่งมาที่เรา  พลังงานนี้มีอยู่ในตัวมนุษย์เราทุกคน  มันซ่อนอยู่และจะผลักดันให้เราทำอะไรบางอย่าง  และคอยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับตัวเราเอง  ผมเรียกมันว่า "สติ" มันอยู่กับเรามาทั้งชีวิต เพียงแต่เราไม่เคยที่จะศึกษาและทำความเข้าใจกับมันต่างหาก  

ในท้ายที่สุดของชีวิตมนุษย์  ต่อให้เราจะร่ำรวย สูงส่งขนาดไหน  หรือว่าเราจะกลายเป็นผู้มีอำนาจบารมีมากมายแค่ไหน  ถ้าหากเราไม่เขาใจในพลังงานตัวนี้  ก็ยากที่เราจะควบคุมตัวเราเองได้  ผลเสียของการควบคุมมันไม่ได้  เราก็จะกลายเป็นปีศาจที่ฆ่าตัวเราไปทีละน้อย  รอความตายเพื่อให้ยมฑูตมาพรากวิญญานอันไม่บริสุทธิ์ของเราไปเอง  ชีวิตมันอยู่ที่เราเลือก เราจะเป็นผู้ควบคุมมันหรือให้มันมาควบคุมเรา  เพราะฉะนั้นจงใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีสติครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...