วันนี้ผมขอพูดในหัวข้อนี้แล้วกันครับ เพื่อนบ้านในอาเซียน มักจะมีคำถามมาตลอดว่า ทำไมคนไทยจึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับประเทศญี่ปุ่นมากกว่าประเทศในแถบอาเซียนด้วยกัน
เหตุผลส่วนตัวของผมนะครับก็เริ่มจากคำว่า ประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันดีกับเรามาอย่างยาวนานมาก หากย้อนไปตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ทหารนำพลขึ้นบกที่ไทย ในเวลานั้นผมคิดว่า คนไทยก็คงกลัวมากกับเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก แต่ทหารญี่ปุ่นก็ให้ความเชื่อมั่นกับไทยกับเราว่า ต้องการเป็นพันธมิตร และจะไม่ทำร้ายประชาชนของเรา
เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็ได้ปิดประเทศไปนานทีเดียว เมื่อได้มีการเปิดประเทศ ประเทศแรก ๆ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็คือ ญี่ปุ่น (จากประเทศไทยที่ยังไม่ได้พัฒนาอะไรมากมายแต่เขาก็ให้ความเชื่อมั่นกับไทยเรา) เหตุการณ์ความประทับใจในหลาย ๆ อย่างและความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นตลอดหลายร้อยปี ประกาศแรก ๆ ก็คือ 1.ศาสนา 2. สถาบันกษัตริย์ 3.วัฒนธรรมที่มีอย่างยาวนาน นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมคนไทยถึงชอบญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
และนอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมาย ที่เมื่อประเทศไทยประสบปัญหา ญี่ปุ่นจะเป็นชาติแรกที่กระโดดเข้ามาช่วยเหลือไทยเรา จากความสัมพันธ์ก็กลายมาเป็นความผูกพัน ทุกวันนี้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นคนไทยแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ในขณะเดียวกันกระแสประเทศไทยที่ญี่ปุ่น ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน วัฒนธรรมธรรม การท่องเที่ยว ไม่แตกต่างอะไรจากที่เราก็นิยมชมชอบญี่ปุ่นเลยครับ
ในโตเกี่ยว มีโรงเรียนสอนภาษาไทยเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ผมได้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นประเทศไทยเราโชคดีนะครับ เรามีภูมิประเทศที่สวยงาม มีภาษาที่สวยงาม มีวัฒนธรรมที่สวยงาม แบบนี้คนไทยเราทำไมถึงได้ดูถูกประเทศตัวเองครับ เราควรช่วยกันอนุรักษ์และสืบทอดสิ่งเหล่านี้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปของเรา (ต้องขอขอบคุณพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมาก ๆ เลยครับ ที่มีภาษาไทยให้เราใช้ถึงทุกวันนี้)
อย่างที่เราทราบ เราไม่ใช่ชาติที่อนุรักษ์นิยมอะไรมากมาย เเต่เราก็ไม่เคยลืมรากเหง้าของความเป็นไทยเราจริง ๆ ถึงแม้จะได้รับอิทธิพลจากตะวันตกเยอะมาก แต่เราก็สามารถผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว นี่แหละคือเสน่ห์ของไทย คนไทยเป็นคนที่เปิดรับ และเปิดใจกับคนหลากหลายเชื้อชาติมาก นับว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับ ที่เราถูกสอนไม่ให้เหยียดเชื้อชาติ ในแง่ของภาษาไทยแล้ว สำหรับผมภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก แต่ก็เต็มไปด้วยถอยคำที่สุภาพมากมาย เช่น ขอบคุณครับ ขอบคุณค่ะ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ มันฟังดูมีหางเสียง และน่าเอ็นดูมาก
เราเติบโตมากับสังคมพุทธศาสนา ศาสนาหล่อหลอมให้คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ และรู้จักเสียสละ รู้จักให้อภัยผู้อื่น เราถูกสอนว่าการเอาเปรียบผู้อื่นเป็นเรื่องที่น่าละอาย และอีกหลากหลายอย่าง ข้อที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ นับเป็นอะไรที่วิเศษมากเลยครับ โลกเราเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากพอแล้วครับ สำหรับต่างชาติบางคนบอกว่าประเทศไทยอากาศร้อน ใช่ครับบ้านเราอากาศร้อน แต่คนไทยมีน้ำใจ มีรอยยิ้ม สิ่งที่นี้แหละมันเป็นยาวิเศษที่คลายร้อนได้เป็นอย่างดี ในมุมของคนต่างชาติการได้เห็นรอยยิ้ม เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากสำหรับพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมอีสาน เป็นสังคมที่ผมว่า..มีเสน่ห์มากนะครับ มันสะท้อนอะไรได้ดีมากมายเลยทีเดียว ผมไม่ได้อวยนะครับ ตัวผมเป็นเป็นคนเหนือครับ แต่ชอบฟังเพลงอีสานมาก ผมว่ามันมีเอกลักษณ์และสนุกมากกว่าเพลงเกาหลีซะอีก ความชัดเจนในภาษา สะท้อนความเป็นพื้นบ้านของท้องถิ่นออกมาได้อย่างลงตัว นี่แหละครับคุณค่าแก่การอนุรักษ์ไว้มาก ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปยังไง คุณค่าทางวัฒนธรรมก็ยังสะท้อนได้เป็นอย่างดี ไม่เคยหลุดจาก Trend ของโลกไปได้ ขอบคุณจากใจจริงครับ
การพัฒนาที่ยั่งยืนที่สุดในมุมมองของผม ก็คือ การอนุรักษ์ในเรื่องศิลปะวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ได้นานที่สุด ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถสร้างมูลค่าและเพิ่มคุณค่าไปได้ในตัว คุณอาจสามารถสร้างตึกสูงเสียดฟ้าได้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ในความเป็นชาติได้ ในที่สุดก็จะถูกทอดทิ้งได้ ตั้งสติก่อนจะคิดและทำอะไรให้รอบคอบก่อนนะครับ ว่า..เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ? ผมฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น