วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ภาษาไทยในญี่ปุ่น


วันนี้ผมขอพูดในหัวข้อนี้แล้วกันครับ  เพื่อนบ้านในอาเซียน มักจะมีคำถามมาตลอดว่า  ทำไมคนไทยจึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับประเทศญี่ปุ่นมากกว่าประเทศในแถบอาเซียนด้วยกัน

เหตุผลส่วนตัวของผมนะครับก็เริ่มจากคำว่า  ประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันดีกับเรามาอย่างยาวนานมาก  หากย้อนไปตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ทหารนำพลขึ้นบกที่ไทย  ในเวลานั้นผมคิดว่า คนไทยก็คงกลัวมากกับเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบก  แต่ทหารญี่ปุ่นก็ให้ความเชื่อมั่นกับไทยกับเราว่า  ต้องการเป็นพันธมิตร  และจะไม่ทำร้ายประชาชนของเรา

เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็ได้ปิดประเทศไปนานทีเดียว  เมื่อได้มีการเปิดประเทศ  ประเทศแรก ๆ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยก็คือ ญี่ปุ่น  (จากประเทศไทยที่ยังไม่ได้พัฒนาอะไรมากมายแต่เขาก็ให้ความเชื่อมั่นกับไทยเรา)  เหตุการณ์ความประทับใจในหลาย ๆ อย่างและความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นตลอดหลายร้อยปี  ประกาศแรก ๆ ก็คือ 1.ศาสนา  2. สถาบันกษัตริย์ 3.วัฒนธรรมที่มีอย่างยาวนาน นี่คงเป็นเหตุผลที่ทำไมคนไทยถึงชอบญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

และนอกจากนั้นยังมีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมาย  ที่เมื่อประเทศไทยประสบปัญหา  ญี่ปุ่นจะเป็นชาติแรกที่กระโดดเข้ามาช่วยเหลือไทยเรา  จากความสัมพันธ์ก็กลายมาเป็นความผูกพัน  ทุกวันนี้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นคนไทยแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก  ในขณะเดียวกันกระแสประเทศไทยที่ญี่ปุ่น ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน  ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน  วัฒนธรรมธรรม การท่องเที่ยว  ไม่แตกต่างอะไรจากที่เราก็นิยมชมชอบญี่ปุ่นเลยครับ

ในโตเกี่ยว  มีโรงเรียนสอนภาษาไทยเกิดขึ้นมากมาย  ทำให้ผมได้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นประเทศไทยเราโชคดีนะครับ  เรามีภูมิประเทศที่สวยงาม  มีภาษาที่สวยงาม มีวัฒนธรรมที่สวยงาม แบบนี้คนไทยเราทำไมถึงได้ดูถูกประเทศตัวเองครับ  เราควรช่วยกันอนุรักษ์และสืบทอดสิ่งเหล่านี้ให้ลูกหลานรุ่นต่อๆไปของเรา  (ต้องขอขอบคุณพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมาก ๆ เลยครับ  ที่มีภาษาไทยให้เราใช้ถึงทุกวันนี้)

อย่างที่เราทราบ  เราไม่ใช่ชาติที่อนุรักษ์นิยมอะไรมากมาย  เเต่เราก็ไม่เคยลืมรากเหง้าของความเป็นไทยเราจริง ๆ  ถึงแม้จะได้รับอิทธิพลจากตะวันตกเยอะมาก  แต่เราก็สามารถผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว  นี่แหละคือเสน่ห์ของไทย  คนไทยเป็นคนที่เปิดรับ และเปิดใจกับคนหลากหลายเชื้อชาติมาก  นับว่าเป็นสิ่งที่ดีนะครับ  ที่เราถูกสอนไม่ให้เหยียดเชื้อชาติ  ในแง่ของภาษาไทยแล้ว  สำหรับผมภาษาไทยเป็นภาษาที่ยาก  แต่ก็เต็มไปด้วยถอยคำที่สุภาพมากมาย เช่น  ขอบคุณครับ  ขอบคุณค่ะ  สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ มันฟังดูมีหางเสียง  และน่าเอ็นดูมาก

เราเติบโตมากับสังคมพุทธศาสนา  ศาสนาหล่อหลอมให้คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ  และรู้จักเสียสละ รู้จักให้อภัยผู้อื่น  เราถูกสอนว่าการเอาเปรียบผู้อื่นเป็นเรื่องที่น่าละอาย  และอีกหลากหลายอย่าง  ข้อที่สำคัญที่สุดคือ  ความจริงใจที่มีต่อเพื่อนมนุษย์  นับเป็นอะไรที่วิเศษมากเลยครับ  โลกเราเต็มไปด้วยความวุ่นวายมากพอแล้วครับ  สำหรับต่างชาติบางคนบอกว่าประเทศไทยอากาศร้อน  ใช่ครับบ้านเราอากาศร้อน  แต่คนไทยมีน้ำใจ  มีรอยยิ้ม  สิ่งที่นี้แหละมันเป็นยาวิเศษที่คลายร้อนได้เป็นอย่างดี  ในมุมของคนต่างชาติการได้เห็นรอยยิ้ม  เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากสำหรับพวกเขา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมอีสาน  เป็นสังคมที่ผมว่า..มีเสน่ห์มากนะครับ  มันสะท้อนอะไรได้ดีมากมายเลยทีเดียว ผมไม่ได้อวยนะครับ  ตัวผมเป็นเป็นคนเหนือครับ  แต่ชอบฟังเพลงอีสานมาก  ผมว่ามันมีเอกลักษณ์และสนุกมากกว่าเพลงเกาหลีซะอีก  ความชัดเจนในภาษา สะท้อนความเป็นพื้นบ้านของท้องถิ่นออกมาได้อย่างลงตัว  นี่แหละครับคุณค่าแก่การอนุรักษ์ไว้มาก  ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปยังไง  คุณค่าทางวัฒนธรรมก็ยังสะท้อนได้เป็นอย่างดี  ไม่เคยหลุดจาก Trend ของโลกไปได้ ขอบคุณจากใจจริงครับ

การพัฒนาที่ยั่งยืนที่สุดในมุมมองของผม  ก็คือ  การอนุรักษ์ในเรื่องศิลปะวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่ได้นานที่สุด  ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่สามารถสร้างมูลค่าและเพิ่มคุณค่าไปได้ในตัว  คุณอาจสามารถสร้างตึกสูงเสียดฟ้าได้  แต่ก็ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ในความเป็นชาติได้  ในที่สุดก็จะถูกทอดทิ้งได้  ตั้งสติก่อนจะคิดและทำอะไรให้รอบคอบก่อนนะครับ  ว่า..เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ ?  ผมฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...