การเดินทางก็เหมือนการที่เราเรียนรู้โลกให้มากขึ้นทำให้เราได้เห็นอะไรมากมายในการเดินทาง หรือที่เราเรียกมันว่าเสน่ห์ชุมชน ผมออกเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงคาน การเดินทางใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ผมไปถึงที่เชียงคานประมาณเที่ยงวันรู้สึกชอบบรรยากาศที่นี้มากตั้งแต่ได้ไปสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของชุมชน และประเพณีพื้นบ้านที่เห็นแล้วประทับใจมากๆ
เมื่อถึงที่พักสถานที่แรกที่ไป ก็คือ แก่งคุดคู เป็นเรื่องเล่าตำนานพื้นบ้านของที่นี้นะครับ มีชื่อว่าจึ่งขึ้งดังแดง เป็นนายพรานเขาตามควายเผือกมาแล้วถูกกลลวงจากพระฤาษีแล้วมาตายเอาที่แก่งแห่งนี้ บริเวณที่นี้ก็จะมีของขายมากมายเลยครับ อาทิเช่น มะพร้าวแก้ว กุ้งฝอยทอด ผ้าพื้นบ้าน และตระกร้าสานเป็นต้น
ไม่ไกลจากที่พักก็จะมีพระพุทธรูปปางห้ามญาติที่ใหญ่ที่สุด ทางขึ้นเขาขอบอกว่าชันมากครับ แต่ก็ดีใจมากแค่เห็นวิวตรงแม่น้ำก็หายเหนื่อยไปเลย
บรรยากาศตอนเย็นใกล้พระอาทิตย์ตกดิน หากมีเวลาลองไปปั่นจักรยานชมวิวดูครับ ได้บรรยากาศสุดๆไปเลย ตกเย็นก็เที่ยวถนนคนเดินต่อ อากาศที่นี้กำลังเย็นสบายสองข้างทางเต็มไปด้วยของขายและกลิ่นอายของความเป็นชุมชนได้อย่างน่าลงตัว เมนูสุดยอดของที่นี้เลยก็คือ ปลาท่องโก๋ยัดไส้ เมนูนี้จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ ไส้กล้วย ไส้หมู ขอบอกว่าอร่อยมาก สินค้าขายดีของที่นี้น่าจะเป็นเสื้อยืดครับ เห็นขายแทบทุกร้านเลย บรรยากาศเหมาะกับการจิบเบียร์ชิวๆมากเลย แต่ที่นี้โอเคนะครับ ไม่มีเซเว่น ไม่มีผับมีแต่ร้านอาหารนั่งกินทั่วไป
ตอนเช้าก็จะมีตักบาตรข้าวเหนียว ผมนึกถึงบรรยากาศนี้เหมือนตอนที่ผมเป็นเด็กที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อ
ช่วยยายเตรียมของเพื่อไปฟังเทศน์ที่วัด เห็นแล้วก็แสนจะอบอุ่นจังเลย หลังจากที่ตักบาตร เดินไปข้างหลังก็จะเห็นแม่น้ำโขง บรรยากาศนึกว่าตัวเองอยู่เมืองนอก แม่น้ำโขงเต็มไปด้วยทะเลหมอกบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกมากครับ อากาศตอนเช้าสดชื่นมาก หายใจโล่งโปร่งสบาย เหมาะกับการวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า
ชมบรรยากาศริมน้ำโขงเสร็จ ก็ต่อด้วยเมนูยอดฮิตของที่นี้เลยครับ ได้แก่ ไข่กระทะ กับ ข้าวต้ม ขอบอกว่าอร่อยมากครับ
จากนั้นก็เดินทางต่อครับสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกของวันนี้เราได้ที่ ฟูจิเมืองเลย บรรยากาศลูกทุ่งมาก เหมือนตอนเด็กๆที่วิ่งตามรถไถ่นา แต่นี้เท่ห์กว่าคือ เรานั่งมันเพื่อขึ้นไปชมวิว ปลายทางเป็นยังไงผมอยากให้เพื่อนลองไปชมกันดูครับ แต่ระหว่างทางที่ขึ้นเขาและลงเขาบอกได้เลยว่ามีความสุขมากๆ
จากนั้นก็เดินทางไปต่อที่คุณหมิงเมืองไทย บรรยากาศที่นี้เหมือนที่คุณหมิงเมืองจีนเลยอยากให้ทุกท่านลองไปสัมผัสดูครับ การเดินทางไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนก็ตามแต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มิตรแท้ที่ร่วมเดินทาง และเสน่ห์ของชุมชนที่ทำให้เราประทับใจไม่มีลืมเลย ใครว่างๆก็ไปเที่ยวเชียงคานกันดูนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น