วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ละครสะท้อนวัฒนธรรม


เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา  ผมได้มีโอกาสไปแวะชมเทศกาลหนังนานาชาติ ที่หอศิลปวัฒนธรรม เรื่องที่ดูมีชื่อว่า  YOUTH  จากเนื้อเรื่องโดยรวม 

ได้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศจีน จากยุคสงครามมาจนถึงยุคปัจจุบัน  เหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ  ได้สะท้อนเรื่องราวที่น่าสนใจในหลากหลายแง่มุม  ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่ใช้  (เขาใช้คนๆเดียวแต่เล่นตั้งแต่วัยรุ่นจนเป็นวัยผู้ใหญ่)
 
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศจีนในยุคสงครามที่น้อยนักจะมีโอกาสได้เห็น  หากไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากทางรัฐบาลจีน  สังคมจีนเป็นสังคมที่ข้อมูลบางอย่างเราไม่สามารถเข้าถึงเขาได้จริง  หากเพื่อนสนใจลองไปหาดูได้  รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

พูดถึงประเทศจีนยิ่งถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวรสนิยมทางเพศ  (เพศที่สาม) ยิ่งเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับจีนเลย  วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของแต่ละเทศ  ไม่มีผิดถุก  มันคือเสน่ห์ของแต่ละสถานที่  ที่สะท้อนออกมาในรูปของธรรมเนียมปฎิบัติต่อๆกันมา  จนกลายเป็นวัฒนธรรม   ซึ่งหากเราย้อนไปดูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  ไทย กับ จีนแล้ว  เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน  จากข้อมูลที่พบหลักฐาน  ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น  เราก็ติดต่อค้าขายกับจีนเรื่อยมา  คนไทยกับคนจีนแทบจะมีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องเลย

สังเกตุได้จากคนไทยให้ความสำคัญกับ เทศกาลตรุษจีน  มากกว่า คริศมาส ซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญในทางฝั่งยุโรป และอเมริกา  นั้นเพราะเราผูกพันกันมาอย่างยาวนาน  แม้กระทั่งวิธีคิดบางอย่าง  อาหารการกิน  เรามีอะไรที่คล้ายคลึงกับจีนมาก  นั่นเพราะการค้า  คือส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆต่อๆกันมา แล้วนำมาปฎิบัติจนเกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่ผสมผสานระหว่างกัน

สาเหตุที่ผมยกหนังเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็ต้องการจะสื่อให้เห็นว่า  สังคมจีนถึงแม้ว่าจะปกครองด้วยระบบทหารแบบเต็มตัว  แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการคบค้าสมาคมกับไทยเรา ที่นับถือแบบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเลยแม้แต่น้อย  และยิ่งในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากที่เข้ามาเที่ยว  และซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศ  นั่นเพราะเขาเห็นอะไรบางอย่างนั่นเอง  บางอย่างที่จะเกิดเปลี่ยนแปลงในอนาคตของสังคมไทยเรา

ส่วนตัวผมอยากให้รัฐบาลสนับสนุน  ในเรื่องการทำหนังแนวรักชาติแบบนี้มาก (มากกว่าหนังพวกตลกที่คล้ายเครียดไปแต่หาสาระไม่ค่อยได้)  คนไทยถ้ารักชาติ สามัคคีกัน ผมมั่นใจได้เลยว่า ประเทศเราจะโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน นั่นเพราะพื้นฐานคนไทยชอบที่จะเป็นผู้ให้ก่อน  และก็รู้จักเป็นผู้รับที่ดี  รู้จักการตอบแทนบุญคุณคน  เราถูกสอนในเรื่องความซื่อสัตย์  ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ  และไม่เลือกปฎิบัติต่อชนชั้น  ถ้าหากภาครัฐสนับสนุนเรื่องเหล่านี้มากๆ และภาคธุรกิจและประชาชนต่างก็ให้ความร่วมมือ  ต่อให้เปลี่ยนรัฐบาลกี่ชุดก็ไม่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งที่ไม่ลงรอยกันอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...