ในหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อสังหาริมทรัพย์คือพระเอก ที่บ่งบอกถึงการก้าวข้ามพัฒนาประเทศให้ไปอยู่ในระดับสากลได้ ทุกประเทสต่างแข่งขันกันในด้านต่างๆ อาทิเช่น
เทคโนโลยี
การค้า
อสังหาริมทรัพย์
ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ การเมืองคือสิ่งที่สร้างผลกระทบที่หนักใจไม่น้อยกับพวกนักธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในแต่ละประเทศ ความผันผวนทางการเมือง และการรักษาเสถียรภาพจึงเป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยากทีเดียว แต่ไม่ว่าจะยังไงในปัจจัยที่เสี่ยงและอันตรายผลประโยชน์ต่างก็สวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ "ธุรกิจเกี่ยวกับพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ"
ปัจจุบันมีนักธุรกิจหน้าใหม่สนใจในผลิตภัณฑ์ตัวนี้เยอะมากเนื่องจากเอเชียกำลังจะก้าวเข้าสู่ประเทศมหาอำนาจในอีกไม่กี่ปีข้าง ทุกประเทศล้วนต่างต้องพัฒนาตัวเองให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่จะถึง เงินและผลประโยชน์อันมากก็ไหลเข้าสู่เอเชียจนน่าตกใจ เอาละครับวันนี้ผมขอมาพูดเกี่ยวเรื่องการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจนี้แล้วกัน
ความเสี่ยงเรื่องการตัดสินใจลงทุน
หลายท่านคงเคยได้ยินประโยคนี้นะครับ เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน ใช่ครับการลงทุนในธุรกิจสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับโครงการที่จะลงทุน เริ่มจากขั้นการเลือกโครงการลงทุน
สิ่งที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรกำหนดไว้ก็คือ แผนพัฒนาโครงการ ทีมงานของเราควรมีแผนนี้เก็บไว้พร้อมกับทีมงานด้านการลงทุน ทีมงานบริหารต้นทุนโครงการ เพื่อร่วมกันปรึกษาในเรื่องความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เมื่อหาข้อสรุปเป็นที่ลงตัวแล้ว (ผมมั่นได้ว่าความเสี่ยงลดลงไปเยอะทีเดียว) จากนั้นเราก็ต้องมาจัดทำรายงานการวิเคราะห์การลงทุน(ฉบับร่าง) ขึ้นมาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เพิ่มเติม โดยเลือกเปรียบเทียบกับโครงการลงทุนอื่นๆ ที่เราได้วางแผนเอาไว้
สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ การวางแบบแผนการลงทุนหรือข้อกำหนดต่างๆ ให้ชัดเจนเพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าโครงการที่เราลงทุนจะคุ้มค่ากับผลตอบแทนการลงทุน และลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ (โดยอาศัยรูปแบบแผนการลงทุนก่อนหน้าที่เคยประสบความสำเร็จและสามารถนำมาปฎิบัติใช้เป็นมาตรฐานการทำงานได้จริง)
ความเสี่ยงเรื่องการบริหารจัดการ
ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงเรื่องการบริหารบุคคล ทรัพยากร และการบริหารงานเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ ทุกอย่างต้องมีความชัดเจนและมีการกำหนดแผนแยกย่อยอย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็น แผนรายปี รายเดือน รายสัปดาห์แบบชัดเจน พร้อมทั้งรายงานการปฎิบัติงานแบบเรียลไทม์
แผนที่จำเป็นหลักมีดังนี้
- แผนกำลังคน (โครงสร้างของทีมในการปฎิบัติงาน)
- แผนจัดซื้อ
- แผนการเงินและจัดการกระแสเงินสดในโครงการ
- แผนเกี่ยวกับเครื่องจักรและอุปกรณ์
- แผนเรื่องการบริหารสินค้าคงคลัง
- แผนงานหลัก (แผนงานโครงการทั้งหมด)
- แผนงานรอง (แผนงานตามขั้นความสำเร็จของงาน)
ความเสี่ยงทางด้านการเงิน
เรื่องการบริหารการเงินเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากในวงการอสังหาริมทรัพย์ การบริหารจัดการทางการเงินและบริหารต้นทุนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรละเลย หากบริหารจัดการได้ดีโครงการพัฒนาอสังหาก็จะสร้างกำไรให้กับนักพัฒนาอย่างมาก แต่หากบริหารจัดการไม่ดีปัญหาที่ตามมาและชื่อเสียงของบริษัทก็เสียหายตามไปด้วย
ควรนำระบบ IT สารสนเทศเข้ามาจัดการเรื่องการอนุมัติทุกขั้นตอน และมีอำนาจการอนุมัติทุกครั้งก่อนการสั่งจ่าย (โดยให้ผู้มีอำนาจสูงสุด สำนักงานใหญ่เป็นผู้จัดการเรื่องนี้)
ความเสี่ยงด้้านการบริหารสินค้าคงคลัง
สินค้าคงคลังกับการก่อสร้างในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องที่ละกันไม่ได้ การบริหารสินค้าคงคลังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการก่อสร้างล้วนส่งผลต่อคุณภาพและต้นทุนในการพัฒนาอย่างยิ่ง
สิ่งที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรให้ความสำคัญและไม่ควรละเลย ทั้งเรื่องคุณภาพของงานก่อสร้างและประสิทธิภาพของวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง อย่ามองแต่ของถูกแต่คุณภาพต่ำ ควรให้ความใส่ใจกับผู้บริโภค เพราะนี่คือกลยุทธที่สำคัญที่จะทำให้คุณยืนอยู่ในวงการนี้ได้อย่างยั่งยืนและยาวนาน
สร้างโมเดลธุรกิจของตัวเอง
แน่นอนครับว่าโมเดลธุรกิจของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นี้ ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายทางการเมืองในแต่ละประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โมเดลตัวที่สำคัญไม่แพ้กันนั้นก็คือ
โมเดลด้านผลิตภัณฑ์ คือ ต้องมีความแตกต่างและเราเท่านั้นที่ทำได้ หรือถ้าคนอื่นจะเรียนแบบก็ทำได้ไม่ดีเท่ากันเรา (วงการนี้ต้องการความโดดเด่น แตกต่างถึงจะอยู่รอด) เพราะสิ่งนี้แหละครับที่จะทำให้ลูกค้าเข้าหาคุณ แทนที่คุณจะเป็นคนวิ่งเข้าหาลูกค้า
** (ทำสัญญาผูกขาดกับบางรายไว้จะดีมาก) สร้างเป้าหมายในชีวิตไว้เลยว่า "เราจะสร้างองค์การที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก"
การแบ่งสัดส่วนการทำงาน แบ่งได้ 3 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 รองประธาน รับผิดชอบในกลุ่มงานย่อย
ระดับที่ 2 บริหารโครงการ รับผิดชอบในกลุ่มงานย่อย
ระดับที่ 3 พัฒนาระบบ Soft ware การบริหารโมเดลให้เป็นไปตามระเบียบแบบที่วางไว้
ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ทุกอย่างล้วนอาศัยเครื่องมือนำทางที่จะให้เราไปสู่ความสำเร็จด้วยกันทั้งใน ในทุกแวดวงธุรกิจ สิ่งที่ทำให้ธุรกิจนี้ประสบความสำเร็จและมีชัยเหนือคนอื่นได้แก่
1.สภาพแวดล้อม
2.การทำงานหนัก
3.คนเก่งและการบริหารทีมให้เก่ง
4.กล้าได้ กล้าเสีย
5.กล้าบุกเบิก กล้าทำในสิ่งใหม่ๆ และทดลอง IDEA ใหม่ๆอยู่เสมอ
นวัฒกรรมเท่านั้นที่จะสร้างความสำเร็จและความสามารถในการแข็งขันในธุรกิจนี้ได้ เพราะคือหัวใจที่ทำให้เราเหนือคู่แข่งแบบก้าวกระโดด
เห็นแล้วใช่ไหมละครับว่าการควบคุมความเสี่ยงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดใหนการบริหารงาน ไม่ว่าจะทุกที่ในโลกใบนี้ ทุกอาชีิพในโลกล้วนมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในแต่ละระดับอยู่แล้ว สิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นก็คือการทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แล้วบริหารความเสี่ยงเพราะเมื่อเกิดปัญหาใดๆแล้ว เชื่อมั่นได้เลยครับว่าปัญหาทุกอย่างจะเป็นเเค่เรื่องเล็กๆ สำหรับคุณอย่างแน่นอน