ชีวิตนั้นหากไม่มีแผนการที่แน่นอนเราย่อมทำอะไรไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ก็จะทำให้ชีวิตเราวนอยู่กับที่มีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า ถ้าเรายืนผิดแม้แต่องศาเดียวนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปีทุกอย่างจะวนกลับมาที่เดิม ผมว่าเรื่องนี้มีส่วนจริงนะครับ บางทีการที่เราปล่อยชีวิตให้ไม่มีแก่นสาร หรือไม่รู้คุณค่าของการใช้ชีวิต ไม่กล้าตัดสินใจอะไรให้มันแน่นอน นั้นย่อมส่งผลต่ออนาคตของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง บนพื้นฐานของความเสี่ยงนั้น คุณรับมันได้มากน้อยขนาดไหน การไม่เสี่ยงนั้นแหละจึงเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวที่สุดแผนการสำคัญอย่างไร ? สำคัญมากครับ มันก็เหมือนกับการที่เราได้วางแผนการเดินทาง เพื่อที่จะเดินทางไปที่ไหนสักแห่งเราจำเป็นต้องมีการวางแผน และกำหนดแผนการไว้อย่างชัดเจน ศึกษาเส้นทางและเลือกเส้นทางให้เหมาะสม เพื่อง่ายและกำหนดแผนการเดินทางที่จะไปอย่างชัดเจน
ถ้าหากคุณไม่มีแผนละจะเป็นอย่างไร ? คุณก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะไปไหน และต้องใช้เวลากับมันนานแค่ไหน บางทีคุณอาจหลงทางและเสียเวลาไปกับมัน เห็นหรือยังครับว่าการวางแผนนั้นสำคัญอย่างไร
ในการวางแผนชีวิตก็ไม่แตกต่างกัน คุณคุณจะมีแผนที่ 1 2 3 เพื่อรองรับและหาลู่ทางใหม่ ๆ สำหรับตัวคุณเองด้วย มีคำกล่าวหนึ่งของ Jemie Dimon พูดไว้ว่า ถ้าความฝันแรกของคุณยังไม่เป็นจริง ให้หาอีกความฝันหนึ่งและไล่ล่าตามความฝันด้วยความมุ่งมั่นเหมือนกัน ไม่สำคัญหรอกครับว่าตอนนี้คุณเป็นอะไรและทำอะไรอยู่ สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือคุณมองเห็นตัวเองเป็นใคร และอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต ทุ่มเทกับมันให้หนัก อย่าลดละ อย่าทิ้งความฝันของตัวเอง วันนี้อาจมองไม่เห็นทางแต่ถ้าคุณมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ มันจะค่อย ๆ มองหาหนทางของชีวิตคุณออกมาให้เอง ลองวิเคราะห์ง่าย ๆ ดูครับว่า อะไรที่เป็นขีดจำกัดของตัวคุณเอง อะไรที่คุณกำลังรู้สึกกลัวและไม่กล้าตัดสินใจไปกับมัน วิเคราะห์มันออกมาแล้วศึกษาความเป็นไปได้ แล้วมุ่งหน้าอย่างไม่ลดละ ก้าวแรกยากเสมอ แต่ถ้าคุณก้าวข้ามมันไปได้ ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้ ย่อมทำให้คุณเติบโตอย่างมั่นคง และประสบความเร็จตามที่คุณต้องการ มองตัวเองให้ออก บอกตัวเองให้ได้ อะไรคือสิ่งที่เรียกร้องอยู่ในหัวใจ ฟังเสียงตัวเองให้ดี ทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง การฟังคนอื่นมากไปก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครับ เพราะฉะนั้นจงเริ่มที่ตัวเราเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น