โลกนี้มีคนอยู่หลายประเภท แต่ประเภทที่เป็นสุดยอดจริงจะเเบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ได้แก่ พวก Specialist (พวกที่มีความสามารถในด้านนั้น ๆ แบบโดดเด่น) กับประเภท Expert geralists วันนี้ผมของพูดถึงคนประเภทที่ 2 นี้นะครับ
Expert geralists จะเป็นพวกที่เรียนรู้ในหลาย ๆ ด้านให้ลึกถึงแก่นของหลาย ๆ เรื่อง เพื่อหาแก่นแท้ที่สามารถเชื่อมโยงให้ด้วยกัน หรือที่เรียกว่า Connecting the dots สาเหตุที่พวก Expert geralists มีเหนือกว่าคนอื่น ๆ เพราะเขาได้ศึกษาลึกลงไปในหลาย ๆ เรื่องที่จะทำให้ตัวเขามีข้อมูลที่มากและนำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่
ยกตัวอย่างบุคคลที่เห็นได้ชัด ได้แก่ Elon Musk เขาเป็นบุคคลต้นแบบที่หาคนเปรียบเทียบได้ยากเลยในยุคปัจจุบัน ถ้าหากเราไปแกะรอยความสำเร็จของเขาตั้งแต่เริ่มต้น ปัจจัยหลัก ๆ มาจากหนังสือที่เขาอ่านครับ
เขาใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 2 เล่มต่อวัน
ในช่วงเริ่มต้น เขาศึกษาเกี่ยวกับหนังสือวิทยาศาสตร์,ศาสนา,ปรัชญา,Programming
ในช่วงตอนโตขึ้น ฟิสิกส์ ,วิศวกรรม,โปรดักส์ดีไซน์,ธุรกิจ,พลังงาน, เทคโนโลยี
เมื่อเขาศึกษาจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของเรื่องนั้น ๆ แล้ว Elon musk ก็ได้นำศาสตร์เหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ จากธุรกิจหนึ่งไปสู่ธุรกิจหนึ่ง (Learning transfer) ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ดังนี้
1.การศึกษาเข้าไปให้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ หรือเรารู้จักในงานวิจัยในชื่อ Contrasting cases คือการศึกษาแบบเปรียบเทียบ ได้แก่การศึกษาโครงสร้างของสิ่งนั้น ๆ เพื่อให้เรารู้ว่าอะไรคือ แก่น อะไรคือ โครงสร้างที่สำคัญ ของแต่ละเรื่อง จากนั้นมาดูว่าสามารถปรับใช้กับชีวิตกับเราได้หรือไม่
ข้อสำคัญ อย่าไปศึกษาวิธีที่ดีที่สุด แต่ควรศึกษาหลาย ๆ วิธีแล้วนำมาเปรียบเทียบแต่ละวิธี เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจเนื้อหาแก่นแท้ในเรื่องน้้น ๆ
2.การประกอบ Fundamental principles นั้นขึ้นมาใหม่ เช่น การศึกษาเรื่องเทคโนโลยี นาโนเทคโนโลยี วิศวกรรมการเงิน เพื่อสร้างศาสตร์ใหม่ ๆ ขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งองค์ความรู้ที่เราได้สร้างขึ้นด้วยตัวเราเอง
จะเห็นได้ว่าโลกใบนี้ความรู้ไม่ได้อยู่ที่ตำราเรียนอย่างเดียวนะครับ โลกปัจจุบันทุกอย่างสามารถเรียนรู้ได้ จากทุกที่และทุกเวลา หากเราศึกษาความหลากหลายในด้านต่าง ๆ เราอาจจะพบแก่นแท้ของเรื่องนั้น ๆ ในแบบฉบับของตัวเราเองก็ได้ เพราะความสำเร็จนั้นไม่ใช่การลอกเลียนแบบ แต่มันคือการทุ่มเท และลงมือทำครับ
การเข้าใจในศาสตร์นั้น ๆ อย่างแท้จริง การศึกษาเรื่อง First principle จะทำให้เรารู้ว่าอะไรสำคัญกับเราจริง ๆ เราอาจสร้างเส้นทางใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อวัดคุณภาพมาตรฐานในแบบฉบับของเราเอง แทนที่จะไปทำตามตำราเรียนในแบบที่เหมือน ๆ กัน ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญไปกว่ากระบวนการเรียนรู้ นี่แหละครับคือเคล็ดลับความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น