วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ความคิดกำหนดดวงชะตาชีวิต


ผู้คนรอบตัวมีผลต่อความสำเร็จขอเราเป็นอย่างมาก  อยู่กับคนแบบไหน  เราก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น  แล้วถ้าเราต้องอยู่ในองค์กรที่เหล่าผู้คนเต็มไปด้วยคนหมดไฟ  คิดแต่เรื่องที่่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง  ถ้าชีวิตแบบนี้ไม่เกิน 5 ปี รับรองว่าชีวิตเราคงถอยหลังลงคลองกันแน่

การหมดไฟ ไม่ใช่เรื่องที่ดี  เพราะนั้นหมายถึงคุณเริ่มหมดพลังงานในร่างกาย  และยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต  วิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยวางครับ  แต่ในความปล่อยวางคุณก็ต้องติดต่อกับพวกเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น  ติดต่อเท่าที่จำเป็น  ถ้าไม่ก็เลือกที่จะนิ่ง ๆ ดีกว่า


เทคนิคที่ดีที่สุดคือ

1.ชัดเจนกับเป้าหมายของเรา  พยายามค้นหาผู้คนที่มีความคิดเห็นที่ตรงกับคุณ  ทำตัวเองให้มีไฟ  มีพลังงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อขับเคลื่อนเราไปสู่เป้าหมาย

2.พัฒนาทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ การเรียนรู้ทักษะใหม่ก็เป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ศึกษาแบบจริงจังและทุ่มเท ทำจนตัวเองเป็นคนประเภท Expert geralists ลงลึกไปในทุกศาสตร์  เเล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างเป็นศาสตร์ใหม่ 

3.ลองคิดแบบเด็กแล้วทำแบบผู้ใหญ่ดูครับ  ความคิดเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมและคำพูดต่าง ๆ  การยึดติดย่อมทำให้เราไปไม่ถึงทางที่ฝันไว้  เพราะฉะนั้นทลายกำแพงที่อยู่ตรงหน้า  ลองคิดในมุมที่ต่างออกไป จินตการจะพาคุณไปได้ทุกที่ครับ  ลองคิดนอกกรอบดูนะครับ

4.เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่มีความคิดในเชิงบวก  แล้วมีความคิดในเรื่องของการพัฒนาตัวเองและการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อยู่เสมอ ถ้าหากยังไม่เจอก็หาหนังสือดี ๆ มาอ่าน  การอ่านคือการเปิดโลกทัศน์  ทำให้คุณมีความรู้ที่หลากหลาย และก้าวหน้าอยูตลอดเวลา อย่าคิดว่าจมอยู่แค่นี้  แค่เปลี่ยนความคิด  ชีวิตก็เปลี่ยนได้ครับ

5.ฝึกทักษะการเป็นผู้ฟังทีดีบ้าง  การเป็นผู้ฟังที่ดีย่อมจะทำให้เราได้ความรู้มากมายจากการฟัง  ที่สำคัญคือต้องฟังเรื่องที่มีประโยชน์แล้วสามารถนำไปคิดต่อยอด หรือเชื่อมโยงได้  หากไม่สามารถเชื่อมโยงได้ ก็ต้องหาเส้นทางใหม่  ฝึกคิดที่จะต่อยอดและพัฒนาสิ่งใหม่  ไม่ใช่การย้อนหลัง

6.ถอยห่างจากคนที่หมดไฟ คนที่ไม่สนับสนุนคุณ หรือคนที่ขี้อิจฉา  การจะเล่าความฝันอะไรให้ใครฟังคุณต้องดูก่อนนะครับว่า นิสัยใจคอของคน ๆ นั้นเป็นแบบไหน  คบกับคนแบบไหนเราจะกลายเป็นแบบนั้น  การรู้จักวางตัวเองให้ดี  มีสัมมาคารวะ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และที่สำคัญคือ ต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วย

โลกที่พร้อมจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  จนเราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าอีก 5 ปี 10 ปี  โลกจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน  แต่ยังผู้คนก็ยังต้องใช้ชีวิตแล้วดำเนินต่อไปให้ได้  ถ้าถามตัวผมเอง  ผมในฐานะคนที่นับถือพุทธศานาก็คงจะตอบว่า  ทุกอย่างเป็นสิ่งไม่จีรังยั่งยืน  มีได้ก็เสื่อมได้  บนพื้นฐานของอนัตตา ความไม่เที่ยงทั้งหลายแม้กระทั่งตัวเราเอง การไม่ยึดมั่นเพื่อทำให้ตัวเองเป็นทุกข์  จึงดีที่สุด  อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และเป็นไปตามเหตุและปัจจัยอย่างนั้น  อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด  การเห็นและเข้าใจตัวเองนั่นแหละคือสิ่งที่มนุษย์พึ่งมีและกระทำ  อย่าไปวิ่งตามทุกอย่างจนเราหาทางให้กับชีวิตของเราไม่เจอ ท้ายที่สุดเราอาจกลายเป็นคนหลงทางได้  ฝากไว้เป็นข้อคิดเตือนใจนะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

กล้าที่จะแตกต่างและเป็นตัวเอง

เรียกว่าห่างหายกันไปนานมากเลยครับ  ช่วงที่ไปพักกายพักจิตใจ  ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่า  อะไรที่จำเป็นและสำคัญกับชีวิตของเรากันแน่   คนบางคนผ...